เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 30 มิถุนายน 2010.

  1. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    นิทาน พลังอธิษฐานของกะทิ ตอน พลังออร่ามนุษย์ (ตอนต่อ ตอนนี้ต้องขออนุญาตพี่ดาวฯ และน้องขนุนนะคะ)




    คราวนี้มาถึงออร่าใกล้ตัวของคนแถวนี้บ้างนะคะ กะทิขออนุญาตพี่ดาวทะเลทรายค่ะ พี่ดาวฯ เป็นบุคคลหนึ่งที่มองเห็นออร่าของผู้อื่นได้ โดยไม่ต้องอาศัยความพยายามมากอย่างที่กะทิเป็นนะคะ ครั้งนี้เราจะไม่พูดเรื่องออร่าของพี่ดาว หรือออร่าของกะทิ แต่เราจะพูดถึงออร่าของคนใกล้ตัวพี่ดาวฯค่ะ



    หลายๆ คนที่กะทิเคยพบ มักไม่ต้องใช้พลังมากมายในการดูพลังออร่าของคนอื่น แต่เพราะกะทิฝึกยังไม่พอ หรือเพราะความตกใจที่เคยเห็นออร่าคนอื่นแบบไม่เคยตั้งตัวตั้งแต่สมัยเรียน ทำให้ปิดกั้นตัวเอง ไม่เคยมีความมั่นใจในตัวเอง หรือยังไงไม่ทราบนะคะ ทำให้เกิดเป็นข้อจำกัดมากมาย จนต้องใช้พลังมากๆ ในการดูออร่าของผู้คน ในขณะที่คนที่กะทิเคยพบ เหมือนจะแทบไม่ค่อยได้ใช้พลังอะไรมากมายก็รู้แล้วอะค่ะ ว่าออร่าของใครเป็นอย่างไร เพียงแค่มามายืนมองแค่นี้ก็รู้แล้วอะนะคะ (หรือว่าเขาใช้กันจนชำนาญแล้วก็ไม่รู้ เพราะปรกติกะทิเธอไม่ชอบไปดูของใครเขา)




    เมื่อครั้งที่กะทิไปเยี่ยมพี่ดาวทะเลทรายที่บ้าน ในครั้งนั้นหมอสุวิก็ไปด้วยนะคะ หมอมักจะพูดว่า อยากให้กะทิได้เจอขนุนลูกชายของพี่ดาวฯ ผู้ที่มีมโน(ไม่ยึดติดกับรูปธรรม) ให้มาสอนวิธีคิดในการจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในมิติได้อย่างรวดเร็ว และผีกลัวเกรง หมอพูดไว้อย่างนี้ในครั้งแรกที่กะทิไปบ้านพี่ดาวฯ


    จนกระทั่งครั้งที่สองนะคะ กระทิถึงได้เจอขนุนค่ะ วิธีปราบผีของขนุนหมอเคยบอกว่าไม่ต่างกับการมโนในการเล่นเกม ซึ่งพี่ดาวฯ ก็เล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่ดาวฯ หมั่นไส้ลูก ก็เลยส่งจิตไปเขกกะโหลกลูก(เขกกะโหลกระยะไกล)ในขณะที่ลูกขนุนเล่นเกมอยู่ ขนุนยังหันมาดุพี่ดาวฯเลยว่า ไปเขกหัวเขา


    ในวันนั้น(ที่ไปบ้านพี่ดาวฯ ครั้งที่สอง) กะทิก็เจอตัวเป็นๆ ของขนุนสักที ในวันนั้นขนุนก็เล่าวิธีการขู่ผีและจัดการกับผีด้วยวิธีการบอกกล่าวกับผีก่อน ถ้าไม่เชื่อ หรือไม่ยอมหยุด ก็จะเรียกก้อนหินขนาดใหญ่ หรือยิปซั่มหนักกี่กิโลก็ว่าไป ให้หล่นมาทับผีค่ะ


    พอได้ฟังความคิดของขนุนแล้ว หมอสุวิก็หัวเราะชอบใจ ให้กะทิฟังและจำไว้เป็นตัวอย่าง หมอสุวิอธิบายเพิ่มเติมว่า เหตุที่ผีกลัวเพราะว่า ผีนั้นยังติดความเป็นมนุษย์อยู่ แม้ตัวเองจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังยึดติดกับสิ่งเดิมๆ ในความเป็นมนุษย์ ทำให้กลัวอะไรๆ ไม่ต่างจากมนุษย์สักเท่าไหร่นั่นเองค่ะ


    ก่อนที่พวกเราจะกลับ จำไม่ได้แล้วว่าคุยอะไรยังไงกันอยู่ พี่ดาวฯ ก็บอกให้ขนุนแสดงพลังให้กะทิเธอดูหน่อยว่าสามารถส่งได้ไปไกลขนาดไหน กะทิไม่ทราบวัตถุประสงค์นะคะว่าเพื่อให้กะทิเห็นพลังของขนุน หรือต้องการบอกขนุนว่ากะทิมองเห็นได้จริง หรือ ฯลฯ แต่เอาเป็นว่า กะทิเธอไม่พร้อมก็ต้องพร้อมล่ะค่ะ เพราะน้องขนุนเขาส่งพลังไปที่มือของเธอ และพุ่งออกไปด้านนอกแล้วนะคะ กะทิก็ต้องรีบส่งตามองไปค่ะ โน่นน้องเขาจะส่งออกไปทะลุจะถึงเขตบ้านเพื่อนบ้านโน้นแล้ว ถ้าน้องเขาไม่ยั้งๆ เอาไว้บ้างนะคะ กะทิก็คิดว่าคงส่งไปถึงเขตบ้านของเพื่อนบ้านแล้วอะ กะทิก็พูดให้ทุกคนฟังนะคะ


    ในขณะที่กะทิมองพลังออร่าของน้องขนุนนั้น กะทิก็พบกับสิ่งที่กะทิไม่เคยเห็นมาก่อน ปรากฏที่น้องขนุนนี้ด้วยค่ะ


    คือปรกติเวลาที่กะทิมองเห็นออร่าของคนจะเห็นเป็นชั้นสีชิมิคะ? แต่สำหรับน้องขนุน มันจะเป็นเหมือนมีวิ๊งๆ สีขาว ดาวกระจายอยู่ทั่วไปภายใน แทนที่จะเป็นชั้นสีค่ะ กะทิยังจำภาพนั้นติดตาได้ดี และรู้สึกสะกิตใจอยู่เสมอ ไม่อาจลืมความแปลกนั้น


    หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 ปี กระทิก็ได้อ่านบทความบทหนึ่งเกี่ยวกับออร่า และพบว่ามีบางคนที่มีออร่าพิเศษแบบนี้ โดยข้อความที่กะทิอ่านพบมีดังนี้ค่ะ

    ๑. ท่านที่มีอารมณ์วิปัสสนาญาณเล็กน้อย เรียกว่าได้เจริญวิปัสสนาญาณพอมีผลบ้าง จะเห็นจิตเริ่มมีประกาย ออกเล็กน้อย เป็นลักษณะบอกชัดว่า ท่านผู้นั้นได้เจริญวิปัสสนาญาณได้ผลบ้างแล้ว

    ๒. พระโสดาบัน กระแสจิตจะเกิดเป็นประกายคลุมจิตเข้ามา ประมาณหนึ่งในสี่

    ๓. พระสกิทาคามี กระแสจิตจะมีประกายออกประมาณครึ่งหนึ่ง

    ๔. พระอนาคามี กระแสจิตจะเป็นประกายเกือบหมดดวง จะเหลือส่วนที่ไม่เป็นประกายนิดหน่อย

    ๕. ท่านได้บรรลุอรหันต์กระแสจิตจะเป็นประกายหมดทั้งดวง คล้ายดาวประกายพรึกลอยอยู่ในอก กระแสจิต ที่เป็นประกายทั้งดวงนี้ ควรเป็นกระแสจิตที่นักปฏิบัติสนใจและพยายามแสวงหามาให้ได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเสียชีวิต เพราะได้มาซึ่งกระแสจิตผ่องใสเป็นประกายแล้ว ก็ควรเอาชีวิตเข้าแลกประกายจิตไว้ เพราะถ้าได้จิตเป็นประกาย ก็จะหมดทุกข์สิ้นกรรมกันเสียที มีพระนิพพานเป็นที่ไป จะพบแต่สุขอย่างประเสริฐ ไม่มีทุกข์ภัยเจือปนเลย


    กะทิเลยส่งข้อความนี้ไปให้พี่ดาวฯ อ่าน และได้เล่าให้พี่เขาฟังด้วยว่า ได้เห็นพลังของน้องขนุนมีลักษณะแปลกดังกล่าว

    พี่ดาวฯ ถึงได้เฉลยว่า เพราะตอนเด็กๆ พี่ดาวฯ สอนให้น้องขนุนนั่งสมาธินับพระในใจก็อาจเป็นได้ ได้ยินแบบนี้กะทิก็สิ้นความสงสัยล่ะค่ะ

    ที่กะทิจับเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เพราะอยากให้เห็นว่า ออร่าของมนุษย์มัน มีความแปลกกว่าที่บางทีหนังสือที่เขียนเล่าเรื่องออร่ามนุษย์ หรือเว็บไซต์บางเว็บที่เขียนอธิบายเอาไว้ ไม่ได้มีสิ่งเหล่านี้

    เพราะจากที่เคยได้ยินคุณวิษณุพูด บอกเล่าให้กะทิฟังว่า หนังสือหลายๆ เล่มที่ขายกันอยู่ในตลาด ผู้เขียนเองไม่ได้ประสบมากับตัวจริง คุณวิษณุเดินไปจับหนังสือแต่ละเล่ม (ใช้พลังสัมผัส และอ่านใจผู้เขียน) พวกเขาล้วนแต่ไปจับเอามาจากที่ผู้อื่นเขียนกันมาเป็นทอดๆ พวกเขาไม่ได้ประสบพบเอง การเขียนเช่นนี้มันจะทำให้การตีความจากการอ่านที่เขาจับใจความมา มีการบิดเบือนออกไป ทั้งนี้แล้วแต่ผู้อ่านนำมาเขียนต่อ เพราะต่างคนก็ต่างมุมมอง ต่างความคิด คุณวิษณุเข้าไปร้านหนังสือ เพื่อจะหาหนังสือมาต่อยอดความคิดของเขา แต่ปรากฎว่า คุณวิษณุต้องออกมาจากร้านหนังสือมือเปล่า เพราะแทบทุกเล่มล้วนแต่ลอกต่อๆ มากันแทบทั้งสิ้น


    ดังนี้กะทิก็เลยอยากจะเขียนเล่า เพราะเท่าที่อ่านมาจากเว็บอื่นในเรื่องออร่า น้อยมากที่ใครจะเขียนว่า นอกจากได้เห็นออร่าปรกติเป็นสีๆ อย่างที่มีในหนังสือบอกเล่ากันมาแล้ว สิ่งกะทิเห็นยังมีที่แตกต่างไปจากอื่นๆ อยู่อีกด้วย ทั้งนี้ต้องขอบคุณพี่ดาวฯ และน้องขนุนค่ะ


    ความแปลกในการมองเห็นของกะทิมีที่แปลกอยู่อีกหลายประการนะคะ เอาเป็นว่าขอจบนิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอนออร่าของมนุษย์เพียงเท่านี้ก่อน เพื่อจะขอขึ้นตอนใหม่ ในเรื่องอดีต(ชาติ)ของมนุษย์ ผลในปัจจุบันค่ะ


    ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจาก การเขียนข้อความให้ความรู้ ในการช่วยให้บุคคลผู้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้นี้ทั้งหลาย ได้มีความรู้เพิ่มเติมเสริมตัว หรือมีพัฒนาการในการฝึกปฏิบัติสมาธิสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ในพระพุทธศาสนา ที่ดีขึ้นไม่ว่าด้วยประการใดประการหนึ่ง ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญนี้สรรเสริญและบูชาแด่องค์พระปฐมในพระพุทธศาสนา แด่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ในพระพุทธศาสนา และแด่พระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ในทุกๆ จักรวาล และขอบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายนี้ จงเป็นพลังบุญส่งเสริมให้ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญในชีวิต อันประกอบด้วย กายธาตุ ทั้งกายหยาบและกายละเอียด มโนธาตุ กายทิพย์ และดวงจิต และขอบุญนี้จงคุ้มครองป้องกันข้าพเจ้าให้ปลอดภัยจากการเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งปวง ตลอดสิ้นกาลนานเทอญ ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2014
  2. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    กระดาษยันต์ ของหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
    [​IMG]

    อันที่จริง ก็ อยู่ใกล้บ้าน ผม เอง แต่ กลับ ไม่ค่อยได้มี ของดี ของท่าน สะสมไว้สักเท่าไหร่

    บังเอิญ ไป เจอ คนใจดี คนนี้ ท่านเป็น ลูกศิษย์ หลวงพ่อโอภาสี จึง มี ของดี ของท่าน เก็บไว้ มากมาย

    แต่ ที่ แก หวง มากที่สุด ก็ คือ กระดาษยันต์ นี่ แหละ
    ลุงแก เล่าให้ ฟัง ว่า พระเครื่อง หลวงพ่อ ราคาดี แพง ก็ ขายไป บ้าง แต่ มี อยู่ อย่างเดียว ที่ไม่ขาย ก็ กระดาษยันต์ นี่แหละ
    ไม่ เคยขาย ใคร ถ้าถูกใจ กัน ก็ แจก กันไป ให้กัน เปล่าๆ ด้วยน้ำใจ


    กระดาษยันต์ นี้ สมัย ที่ แก ได้รับมาจาก หลวงพ่อโอภาสี
    หลวงพ่อ ยัง กำชับไว้ " อย่าไปคิดว่า เป็นเศษกระดาษ นะ นี่แหละของดี จริงๆ"

    ลุง แก จึง เก็บ เอาไว้ เป็นหอบ กำมือ เลย
    ตอนนี้ แก อาญุมากแล้ว ก็ ไว้ แจก ลูก แจกหลาน ไว้ป้องกันตัว

    ผม เอง ก็ ได้ อานิสงฆ์ กับเค้า มานิดหน่อย......55
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ถ้าเอารูปภาพ กระดาษยันต์ ของหลวงพ่อโอภาสี ที่พี่ดาวฯ ลงเอาไว้นี้ ไปพริ้นท์ออกมาจากเครื่อง จะได้อานุภาพเท่าเดิมไหมคะ พี่ดาวฯ
     
  4. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    คิดเหมือนกันเลย..ฮ่าๆๆ
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ถ้าอีหนูอยากได้จริงๆนี่ อีหนูก็พิมพ์ออกมาเลย ตามใจชอบนะ
    แล้วเอาวางไว้บนพาน ถวายบุญ สองดวง(ก้อน) เพื่อบูชาพระ สององค์
    ก้อนแรก บูชาหลวงพ่อโอภาสี
    ก้อนที่สอง บูชาพระภิกษุอริยะท่านหนึ่ง หมอเข้าใจว่าเป็น พระอาจารย์ของหลวงพ่อโอภาสี(ในมิตินะ)อำนาจและพลังท่านมหาศาล

    เมื่อเตรียมตัวเสร็จ อีหนูก็เชิญ "แก้วสุริยะกาญจน์" ออกมาแล้วตั้งความปรารถนา ให้พี่สุริยะกาญน์ เจ้าขา พาข้าเจ้าไปพบท่านเจ้าของ "กระดาษยันต์" นี้
    ไปถึงแล้ว อีหนูก็ ถวายพานบูชาท่านทั้งสอง
    และกล่าวว่า ข้าเจ้า ถูกอสูรและมาร เบียดเบียนเป็นเนืองนิจ แก้ได้บ้าง แก้ไม่ได้บ้าง ทำให้เกิดความทุกข์อยู่
    บัดนี้ได้พบเห็นกระดาษยันต์แผ่นนี้ มีอำนาจที่ซ้อนอยู่เบื้องหลัง สูงมาก อันอาจช่วยคุ้มครองตัวข้าเจ้าได้
    จึงมาขอพระเมตาจากท่านทั้งสอง(หลวงพ่อ หลวงปู่ ฯ ว่าไป)
    ท่านถามอะไรก็ตอบไปด้วยความจริงใจนะ


    หากท่านเมตตานะ ยันต์ที่อยู่ในพาน อาจมีอำนาจล้นฟ้า(สูงกว่า ของเดิมมาก)
    และอาจ เหนือกว่า สุริยะรัตตะมณีและแก้วประกายพฤกษ์ซะอีก ดีไม่ดีอาจเหนือกว่า แก้วสุริยักาญจน์ซะด้วย
    หรืออาจได้ของดีมาเป็นสมบัติประจำตัวเพิ่มอีกก็ได้
    อวยพรล่วงหน้า "โชคดีนะ"

    และหมอฝากบุญจำนวนหนึ่ง ของหมอฝากไปกราบท่านทั้งสองด้วย
     
  6. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    หมอสุวิเล่นตอบให้กะทิเธอเข้าใจคนเดียวเลยนะเจ้าคะ แล้วผู้อ่านท่านอื่นๆ จะทำเยี่ยงใดละ อย่างคุณ wawana ที่เขียนต่อจากกะทิเธอมาเนี่ย ก็คงอยากได้กระดาษยันต์ ของหลวงพ่อโอภาสีบ้างล่ะค่ะ (รวมถึงท่านอื่นๆ) ยิ่งหมอเขียนถึงพลังสรรพคุณฝุดๆ ไว้ด้วย อะนะคะ


    จำกะทิเธอต้องเข้ามาเขียนอธิบายเลยอะว่า ที่หมอเขียนทั้งหมดไว้ข้างต้น กะทิเธอมีจากการที่ทำบุญมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 ทุกวัน โดยทำเป็นกระป๋องจำนวนตามกำลังของวันเกิด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณผู้อ่านเกิดวันศุกร์ก็จะเท่ากับ ยี่สิบเอ็ดกำลัง หรือก็คือ ยี่สิบเอ็ดกระป๋อง แล้วใส่เหรียญบาทลงไปทุกวัน โดยข้างกระป๋องจะมีการเขียนกำกับชือและวันเกิด(ชะตา) และบูญนี้เพื่อ...(อะไร)... เช่น สร้างถนนเข้าวัด...นำ้มันตะเกียงวัด...สังฆฑานถวายพระแสนรูป..ฯลฯ ก็ว่ากันไป จะมียกเว้นก็ตอนไป ตจว. + ตปท. หรือไม่ก็ลืมใส่ ก็เคยมีอยู่ค่ะ แต่หลังๆ โดนดุ(หลายครั้ง) จากผู้ใหญ่ที่บ้าน หาว่าเราบ้าทำบุญเกินไป ก็เลยลดจำนวนลงมา และไม่ได้ใส่ทุกวันเหมือนที่เคยอะนะคะ เสร็จแล้วพอได้จำนวนสตางค์มากๆ เต็มกระป๋อง ก็เอาไปแจกหมอสุวิให้เอาไปทำบุญต่อ หรือเอาไปให้มูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิรามาธิบดี ไม่จำเป็นต้องไปทำตามข้างกระป๋องแล้ว เพราะขณะที่จิตเราหย่อนสตางค์ลงไป จะได้อานิสงฆ์ตามนั้นทันทีที่หย่อนเหรียญลงไป (แนะนำว่าไม่ควรต่ำกว่าหนึ่งบาท)



    พอเราหย่อนสตางค์ลงไปเสร็จก็น้อมถวายบูชาบุญค่ะ ซึ่งตอนปีแรกๆ กะทิเธอยังไม่เคยน้อมถวายแด่หลวงพ่อปู่อุปคุตในพระพุทธศาสนาเลย จนกระทั่งได้อ่านพบข้อความจากคุณดนัย จันทร์เจ้าฉายเป็นครั้งแรกในปีนี้ว่า หลวงพ่อปู่อุปคุตจะออกจากสมาธิในคืนวันเพ็ญพุธ และกะทิเธอได้สมาธิเข้าไปกราบท่าน พอรุ่งเช้าก็เอามาเล่าให้หมอสุวิฟัง และทำให้เธอเกิดอาการโยเยว่า "ทำมายไม่บอกฉานนนด้วยยยยย" (TT TT)


    ครั้งที่สองของวันเพ็ญพุธที่ผ่านมากะทิเธอเลยต้องประกาศบอกหมอสุวิ และผู้อ่านทุกท่าน ดังที่เคยกล่าวไป


    ย้อนกลับไปในการกราบหลวงพ่อปู่อุปคุตในพระพุทธศาสนาครั้งแรกนั้น พอกะทิเล่าให้หมอสุวิฟังแล้ว และได้ทราบว่าคุณดนัย จันทร์เจ้าฉายได้ทำบุญสร้างเจดีย์เล็กๆ (เรียกเจดีย์รึเปล่าหว่า?) ถวายหลวงพ่อปู่ ซึ่งรอบบริเวณนั้น และยังได้สร้างลูกแก้วกลมๆ โดยลูกแก้วมีสีต่างๆ ฝังประดับอยู่เป็นวงรอบเจดีย์ด้วย



    [​IMG]

    (ข่าวอ้างอิง : http://www.dcconsultants.co.th/site/news/2012-10-30.html)



    กะทิเธอเห็นภาพที่ถ่ายรูปได้ภาพลูกแก้วทำเป็นสีต่างๆ นั้นไว้ จากข่าวที่คุณดนัยได้เล่าไว้ด้วย (กะทิเธอพยายามกลับไปค้นภาพดังกล่าวมาประกอบไว้ ณ ที่นี้ด้วย พยายามแล้ว แต่หาไม่เจอนะคะ) ก็เลยส่งภาพข่าวนั้นไปถามจากหมอสุวิว่าสิ่งนั้น(ลูกแก้วสีๆ) คืออะไร และยังได้ตามเข้าไปดูในสมาธิของกะทิเธอเองจากการที่หมอสุวิ "ให้ลองสมาธิเข้าไปถามหลวงพ่อปู่ดูสิ"


    กะทิเธอก็เห็นล่ะค่ะ ว่าลูกแก้วลูกนี้(ลูกแก้วลูกเดียวที่เห็นในสมาธิของกะทิ) วิ่งวนพระรูปหนึ่ง ท่านสำรวมกายสมาธิมากๆ ซึ่งในตอนแรกกะทิเธอเข้าใจว่าเป็นหลวงพ่อปู่ฯ และพอในอีกคืนต่อมา เมื่อกะทิเธอนำมานั่งคิดพิจารณาใหม่อีกรอบแล้ว พบว่าพระรูปนั้นน่าจะเป็นกายภายในของคุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย (ซึ่งคิดว่าคุณดนัยคงไม่ทราบเรื่องที่กะทิเขียนถึงนี้นะคะ หรือเขาอาจจะทราบแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวของคุณดนัยเอง) ลูกแก้วลูกนั้นวิ่งเป็นวงวนเป็นวงกลม วงรี และกระจายออกเป็นสีต่างๆ


    กะทิเธอก็เลยเขียนไปเล่าให้คุณดนัยฟังนะคะ (เล่าเฉพาะเรื่องลูกแก้วให้เธอฟัง) เธอก็ตอบกลับมาว่า มิน่าล่ะ สองสามวันมานี้เธอรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ สดใสมากๆ และเธอมีอาการนอนไม่หลับ แต่ก็รู้สึกอิ่มใจมากๆ เลย (ก็เป็นอย่างทีกะทิเธอเคยเขียนเล่าให้ฟังนะคะ ว่าอาการแบบนี้เรียกว่าแบตฯ เต็มหนะค่ะ)


    กะทิเธอได้รับคำตอบจากคุณดนัยแบบนี้มา ก็เอามาเล่าให้หมอสุวิฟังอีก และหมอก็บอกว่า หลวงพ่อปู่เองก็ฝากลูกแก้วมาให้กะทิผ่านหมอสุวิด้วย ซึ่งก็คือลูกแก้วสุริยะรัตนมณี ซึ่งเหตุหนึ่งเพราะผู้ดูแลวิชาของกะทิเธอ และหลวงพ่อปู่ฯ มีพื้นมาจากสายเดียวกัน


    พอกะทิเธอเห็นลูกแก้วในมือแล้ว(ในนิมิต) หมอสุวิก็ให้กะทิเธอน้อมถวายบุญบูชาหลวงพ่อปู่ด้วย ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พอกะทิทำบุญ กะทิเธอก็เลยน้อมถวายบูชาบุญถึงพระปฐม พระพุทธเจ้า หลวงพ่อปู่ฯ ในพระพุทธศาสนา ฯลฯ มากมาย เป็นต้น (รวมถึงสายวิชาที่ดูแลกะทิเธออยู่)


    ดังนี้พอครั้งที่สองในปีนี้ ที่กะทิเธอทราบว่าหลวงพ่อปู่ฯ จะออกจากสมาธิในคืนเพ็ญพุทธครั้งที่สองจากคุณดนัย อีกครั้ง (ท่านจะออกจาสมาธิปีละสองครั้งเท่านั้น) กะทิเธอก็รีบไปกราบท่านเลยในสมาธิคืนนั้นทันที ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงคืนเพ็ญพุธอะนะคะ เพราะเธอชอบเบลอค่ะ และมักเป็นกระต่ายตื่นตูม 55555555


    อย่างที่กะทิเธอเคยเขียนเล่าไปในตอนก่อนหน้านี้แล้วว่า หลวงพ่อท่านนั้นนั่งรอกะทิเธอไปกราบท่านอยู่แล้ว (บังเอิญคงเป็นช่วงที่ท่านพักจากสมาธิพอดี รึยังไงไม่ทราบได้) ท่านได้ให้ลูกไม้แห่งปัญญามา 1 ลูกไม้


    และพอกะทิเธอไปรอ นิมนต์ กราบท่านในสมาธิในคืนวันเพ็ญพุธตรงวันพอดี โดยนำบุญที่กะทิเธอได้หยิบบุญจากมหาสมุทรแห่งบุญของเธอ มาใช้รักษาอาการป่วยของคุณน้าสาวที่เคยช่วยดูแลกะทิเธอตอนเด็ก นอนป่วยอยู่ในห้อง ICU และบุญอีกหนึ่งก่อนที่กะทิเธอได้อุทิศแด่เจ้าหน้าที่กฎแห่งกรรมของน้าสาว (รวมสองก้อนบวกกับพลังยาของพระเสมาจากองค์พระปฐม และพระมหาจักรพรรดิ์ทุกพระองค์ในพระพุทธศาสนาที่ดูแลพระเสมาอยู่)


    พอนำบุญสองก้อนนั้นใส่บาตรท่านหลวงพ่อปู่ฯ เสร็จ ท่านก็เลยมอบลูกแก้วประกายพฤกษ์มาให้ลูกหนึ่ง พอกะทิเธอออกจากสมาธิ ในรุ่งเช้าก็ได้นำเล่าให้หมอสุวิฟัง หมอก็ได้บอกสรรพคุณกับกะทิว่าป้องกันคุณไสย์ได้ ไว้ป้องกันมากกว่ารักษา กะทิเธอก็เลยเอามาป้องกันมารและอสูรที่ชอบเข้ามากระดี้กระด้า เกาะ ที่กลางอกของกะทิเธอ ทำให้เธอป่วยไม่หายสักที เดิมเคยใช้ลูกแก้วสุริยะรัตนมณีก่อนหน้านี้ก็ไม่ดีขึ้น พอเปลี่ยนมาใช้ลูกแก้วประกายพฤกษ์ ก็ยังไม่ค่อยดี


    คราวนี้เลยเดินพลังใช้ลูกแก้วมันทั้งสองลูกเลย จนเกิดลูกแก้วลูกที่สามชื่อ สุริยะกาญจน์ ที่กลางอกซึ่งเกิดจากการเดินพลังให้แล่นผ่านกลางอกของลูกแก้วสุริยะรัตนมณี + ลูกแก้วประกายพฤกษ์ ถึงกระนั้นก็ยังเกิดอาการผีเข้าผีออกจากมารและอสูรคอยมาเกาะเสมอ และกะทิเธอก็จะป่วย งอกแงก และบ่นๆๆๆๆ "ข้าเจ้า...ม่าย..ซา..บายยยยย" เดือดร้อนหมอสุวิส่งพลังจิต ต้องมาคอยช่วยไล่ให้ไปอยู่ดี


    ดังนี้พอกะทิถามถึงพลังของกระดาษยันต์ ของหลวงพ่อโอภาสี ข้างต้น หมอก็เลยเข้าไปอ่านพลัง และบอกวิชาการตอบกลับมายังกะทิเธอดังกล่าวค่ะ


    แต่รู้สึกว่าหมอจะลำเอียงตอบให้ใช้ได้กับกะทิเธอเพียงผู้เดียวที่เริ่มต้นถามวิธีการว่า ก๊อปปี้พริ้นท์เตอร์ออกมา แล้วก็จะมีพลังดุจเดิมได้ด้วยรึเปล่า? แต่สำหรับผู้อ่านท่านอื่นละเจ้าคะ จะทำเยี่ยงใด? มีหรือไม่มีวิธีการเลยรึเจ้าคะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2014
  7. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356

    รอคำตอบจากท่านอาจารย์หมอค่ะ...กะทิน่ารักมั๊กมากกก:cool:
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อีหนูเอ้ย....

    ปั้มออกมาสักรีบสองรีมนะ (สงสัยถูกด่าหรือเปล่าหว่า-เอาไปแต่พอควรนะ-)
    แล้วเอามาแจกให้ทั่วๆนะ (ห้ามขาย)
    อย่าให้ใครเขาน้อยใจได้ ว่าไปขอพระเมตตาเองไม่ได้
    อีหนูก็แผ่เมตตา แจกแยะๆนะ
     
  9. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ว้าวๆ คุณพี่กะทิงานเข้า... จะปั๊มแจกละเผื่อถึงน้องด้วยนะคะ
    แต่จะให้ตั้งใจส่งมา ตจว.ก็เกรงใจ เดี๋ยวน้องจะช่วยสนับสนุน
    ค่ากระดาษ ค่าจัดส่ง ฯลฯ ซักส่วนนึงจะได้หรือไม่(ดูจะดี๊ด๊าเกินเหตุ)

    ว่าแต่จะเอามาใช้ยังงัยได้คะคุณอา สำหรับคนไร้พลังจิต
    กำลังสมาธิน้อยนิดอย่างเรา
     
  10. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    เรายังไม่ได้ทำการขอแก่ผู้แจ้งข่าวเลยนะคะ ท่านผู้อ่านคงจะลืมกันไปแล้ว นั่นก็คือคุณดาวทะเลทรายที่มียันต์ของจริงในมืออยู่ค่ะ


    อยากให้ผู้อ่านไปสอบถามจากคุณดาวฯ เธอก่อนว่า มีจำหน่ายรึไม่? ถ้ามีก็ควรอุดหนุนเธอผู้นำข่าวมาบอกดีกว่านะคะ


    ส่วนกะทิเธอก็เป็นแค่อุปกรณ์เสริม


    เท่าที่วันนี้กะทิเธอลองไปกราบหลวงพ่อโอภาสีมา ก็ได้ทราบวิธีใช้มาแล้วหนะค่ะ


    เอาเป็นว่าสำหรับผู้สนใจ รบกวนสอบถามจากพี่ดาวทะเลทรายละกันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2014
  11. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    555 งานเข้ากะทิจริงด้วย อย่าลืมเราน๊าาา
    เรื่องรายจ่ายหลังไมค์กะได้นะ...อิอิ
    น่ารักจริงๆ เล้ย
     
  12. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166
    [​IMG]

    กระดาษยันต์ หลวงพ่อโอภาสี

    ของแท้ๆ ท่านทำไว้ นานแล้ว (ท่านมรณะ 31 ต.ค. 2498 )
    อันที่จริง มีทั้ง ที่เป็นกระดาษยันต์ และ แผ่นพลาสติก ยันต์ ที่เป็นพลาสติก ก็ ทนทาน มากหน่อย

    แต่ก็ ด้วยกาลเวลา ที่ล่วงเลยมา ของดี ดี เหล่า นี้ ก็ ชำรุด สูญหาย ไปบ้าง คงเหลือตกค้าง ก็มักอยู่ในมือ ผุ้ที่ เคารพ หรือ สะสมเก็บไว้ เท่านั้น

    ที่ผมได้มา ก็ เป็นเพราะ เพื่อน นำมาให้
    เพื่อนผม ที่ได้มา ก็ เพราะบังเอิญ บ้าน อยู่ใกล้ๆ เพื่อนบ้านคนหนึ่ง ที่เขา เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโอภาสี เค้าจึงมี กระดาษยันต์ เก็บไว้ หลายแผ่น
    พวกเรา จึง ได้ ขอแบ่ง มาบูชา คนละแผ่นสองแผ่น เท่านั้น

    เป็นของดี ที่ ไม่มีจำหน่าย ครับ หรือ จะเรียกให้ ฟังดูดี ก็ ต้องว่า

    เป็นของดี ที่ หาค่าไม่ได้......

    แต่ สำหรับคนที่ อยากได้ ของแท้ๆ ก็ ให้ จับตา มอง ไว้
    เท่าที่สังเกต ผม เอง นานๆ ก็ จะได้ มาสัก แผ่น สองแผ่น
    แปลว่า จนถึงวันนี้ ยังมีจำนวน อยู่ พอสมควร
     
  13. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    เอ่อออ... ขออภัยนะคะ หากความอยากได้จะทำให้ท่านๆลำบากใจ
    ไม่เป็นไรไม่ซีเรียสค่ะ แต่ที่อยากได้เพราะเหตุที่คุณกล่าวตามข้างบนน่ะค่ะ
    อยากได้อันที่โมดิฟายแล้ว อิอิ... แต่ไม่ซีเรียสนะคะ ไม่ต้องลำบากใจ
     
  14. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    สรุปเป็นอันว่าเท่าที่อ่าน พี่ดาวฯ ไฟเขียวแล้วนะคะ

    งั้นจะได้เล่านิทานว่าได้ไปถวายบูชาบุญหลวงพ่อโอภาสี กับพระอาจารย์ของท่านมา และได้ทราบวิธีใช้ยันต์มาเรียบร้อย

    แต่ประเด็นคือ กะทิเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่า?

    แต่กระนั้นก็เห็นหมอสุวิเชียร์ให้ลองทำดู และในสมาธิที่ไปกราบหลวงพ่อ ท่านก็ได้พูดถึงการดูแลรักษาผู้อื่นด้วยยันต์นี้ด้วย

    ซึ่งตอนที่สมาธิไปกราบท่าน กะทิเธอก้ได้พริ้นท์กระดาษออกมา ได้สี่ใบ(สองคู่) คือ สีส้มกับสีขาว

    กะทิเธอกเกิดความสงสัยว่าทำไมต้องมียันต์สองสี เมื่อคืนเลยสมาธิเข้าไปกราบถามมาเรียบร้อย

    เอาเป็นว่าถ้าผู้ใดสนใจก็แจ้งมาละกันนะคะ โดยมีกติกาดังนี้

    1.ค่าพริ้นท์กระดาษและค่าส่งไปรษณีย์ท่านทั้งหลายต้องรับผิดชอบเอาเอง กะทิจะไม่เข้าไปจัดกา%E
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014
  15. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ความลับนั้นไม่มีในโลก เพราะถึงเราจะรู้แต่ผู้เดียว แต่จริงๆ แล้วในทางมิติ เทวดาฟ้าดิน นายเวรทั้งหลาย ท่านก็รู้กับเราด้วย

    สิ่งที่กะทิเธอกำลังจะบอกก็คือความกังวลใจในการทำงานรับใช้ท่านหลวงพ่อโอภาสีครั้งนี้ ท่านได้กล่าวถึงการอุทิศบุญให้ท่านด้วย เพราะการพบท่านในสมาธิ กะทิเธอได้ใช้บุญของเธอนิมิตจัดเป็นพานดอกไม้ธูปเทียนและใส่บุญของเธอลงไป เพื่อกราบไว้ท่านหลวงพ่อ และพระอาจารย์ของท่าน

    หากไม่ใช่เป็นเพราะในสมาธิที่กราบท่านนั้น ท่านได้กล่าวถึงการนำไปรักษาผู้อื่นด้วย กะทิเธอก้ไม่คิดว่าจะทำไรทั้งสิ้น เพราะหากบิดเบือนขึ้นมา ผลกรรมย่อมตกแก่กะทิเธอแหงมๆ กลายเป็นกรรมจากการที่ผู้อื่นที่เราได้ติดต่อ ทำให้เกิดขึ้นกับตัวเราซะงั้น (TT TT)


    สิ่งนี้จึงทำให้กะทิเธอกังวลมากๆๆๆๆๆ และเขียนและลบๆ อยู่หลายครั้ง แต่เมื่อกี้นี้เข้าไปอ่านหลังไมค์จากหมอสุวิมาค่ะ หมอได้เขียนถึงกะทิเธอเอาไว้ด้วยนะคะ กะทิขออนุญาตหมอสุวินำมาเฉพาะบางช่วงบางตอน แปะไว้ให้ผู้อ่านๆ ค่ะ


    --------------------------



    การทำมาค้าขาย สิ่งศักสิทธิ์ ทำเป็นอาชีพ แม้จะเป็นอาชีพเสริมก็ตาม ล้วนมีความผิดบาปเกิดขึ้นกับตัวเสมอ มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับความตั้งใจกระทำ ยกเว้นในบางคนเท่านั้น ที่เขาได้รับอนุญาติเฉพาะราย


    การแลกเปลี่ยนพระ ที่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง นี่ก็มีบาปเกิดขึ้น จะมากน้อยหรือไม่มีเลย ซึงขึ้นอยู่กับเจตนาในการกระทำ........................



    ................อย่าที่หลวงพ่อ โอภาสีบอก ช่วยเขาแล้ว ให้เขา ไปทำบุญอุทิศให้ท่าน แต่พวกนี้มักขี้ลืม ตอนเดือดร้อนมันรับปากหมดแหละ พอสิ้นทุกข์ก็กระดี้กระด้า ลืมไปสิ้น กลายเป็นเราติดหนี้บุญท่าน ก็ให้เก็บตังเป็นค่าบูชาครู ส่วนหนึ่งก็ไปทำบุญให้ท่าน อีกส่วนก็เป็นทุนใช้จ่ายของเรา(ถ้าขออนุญาตท่านเป็นเรื่องเป็นราวเลยก็ดีนะ)


    ในวิชาการทำนายทายทักด้วยตัวเลขภาคพิศดาร ที่หนูได้รับจากพระเทวดา ก็เช่นกัน
    ท่านอนุญาตให้หนู ใช้ทำมาหากินได้ แต่ก็ต้องแบ่งส่วนหนึ่งทำบุญให้ท่าน

    เรื่่องกระดาษยันต์ของหลวงพ่อโอภาษี มีอำนาจ ซ้อนอยู่สองชั้น
    ชั้นแรกเป็นของหลวงพ่อโอภาษีเอง อีกชั้นเป็นของพระองค์ที่อยู่กับหลวงพ่อโอภาษี (เข้าใจว่าเป็นพระอาจารย์ของท่าน)

    ถ้าดูเคร่าๆนะ หนูจะได้อำนาจแผ่นยันต์ที่ฝ่ามือ มาเพียงชั้นเดียวคือของหลวงพ่อโอภาษี

    แต่หลวงพ่อที่อยู่ข้างๆท่านประทานก้อนบุญคืนมาให้หนู และคืนให้หมอด้วย
    สิ่งที่ท่านประทานคืนมาคือพรวิเศษให้สำเร็จสมดังความปรารถนา
    มันคือดวงแก้วสารพัดนึกทีเดียว
    หนูกก็อธิษฐานดวงแก้วดวงนี้ ไปที่ฝ่ามือและยันต์นั้นพร้อมคาถา ให้สิ่งที่ทำ...จงสำเร็จ


    แต่อย่าลืมนะ ทุกการกระทำล้วนมีค่าใช้จ่าย ก็คือบุญของเราในมหาสมุทรแห่งบุญที่เชื่อมอยู่กับใจเรานั่นเอง

    เพราะ สิ่งที่เราใช้อยู่คือ "บุญฤทธิ์"

    ------------------------

    ตอบ เป็นความจริงค่ะ ที่กะทิเธอกังวลกับสิ่งที่หมอกล่าวมาทั้งหมดนี้ นั่งคิดนอนคิด เมื่อมีเวลาเสมอ

    มีเหตุการณ์หนึ่งระหว่างที่ทำสมาธิอยู่กับหลวงพ่อโอภาสี ท่านเหมือจจะบอกเป็นนัยๆ ถึงค่าใช้จ่ายในการบูชาครูอยู่ด้วย แต่กะทิก็ไม่กล้าคิดถึงมัน เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นสิ่งผิดถูก

    และเป็นความจริงที่หมอสุวิได้พูดถึงค่าใช้จ่ายที่ย่อมมีเกิดขึ้นกับตัวกะทิเอง อย่างเช่นบุญที่กะทิต้องมี และในทางโลกก็ยังต้องมีค่าใช้จ่าย อย่างการต่อเชื่อมเน็ตเป็นต้น แค่นี้อะไรๆ ก็ดูเหมือนมนุษย์โลกได้มีค่าใช้จ่ายไปหมด จนมันกลายเป็นความเครียดไปซะงั้นนะคะ (คิดอยู่ตลอดเวลาถึงความควรไม่ควร ทำให้เขียนแล้วลบทิ้งๆ หลายรอบ 55555)


    แต่อาจจะไม่มีไรก็ได้ค่ะ ขอจบข่าวเพียงเท่านี้ กะทิเธออาจกังวลใจมากไปเอง 5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2014
  16. itou

    itou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,196
    วันนี้ผมได้ไปที่ วัดโคกนาว นิมนต์พระ 5 รูป
    ทำสังฆทานชุดใหญ่มี พระพุทธรูป พระไตรครบชุด 7 ชิ้น หนังสือธรรมะ บทสวดมนต์ ฯลฯ
    ตอนอุทิศก็ใช้ของหมอสุวิเป็นหลัก รวมกับของคุณ วรรณนันท์ กับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ซึ่งผมก็ได้ปริ้นท์ออกมาแจกญาติๆที่ไป ซึ่งก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เพราะไม่เคยเห็นใครใช้มาก่อน
    ตอนจะอุทิศกัน หลวงพ่อท่านหนึ่งก็มาถามว่า โพยอะไรกัน แล้วก็ขอของผมไปอ่าน
    อ่านจบท่านก็มาขอไปถ่ายเอกสาร บอกว่าแต่งได้ดี จะเอาไปเปลี่ยนชื่อ
    แต่ผมก็ถูกไหมก็ไม่รู้ ที่ให้อุทิศในใจกัน เพราะกลัวว่าญาติจะสนใจแต่พูดให้พร้อมกัน
    จะเสียสมาธิไป

    ก็เอาเป็นว่าขออนุญาต หมอสุวิ คุณวรรณนันท์ ในการเผยแพร่ย้อนหลังไปแล้วกัน
    แล้วเอกสารที่พระท่านขอไป ก็ตามลิงค์ข้างล่าง
    https://drive.google.com/file/d/0BzNRho6d5CHoclU3Mm9VNzNKd0k/view?usp=sharing
     
  17. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    เอ่อ...ยันต์นี่ต้องปริ๊นสีตามนั้นเลยเหรอค่ะ
    เอากระดาษขาว ตัวหนังสือดำ แล้วก็..
    กระดาษชมพูตัวหนังสือดำได้มั้ยคะ
    ขนาดนี่ มีกำหนดมั้ยคะ
    ถ้าปริ๊นแล้วก็เอาไปถ่ายเอกสารได้มั้ย
    รับลองสีไม่ตก ถ้าทำได้ ก็ไม่ยากนะคะ
    คุณพี่กะทิไม่ต้องกังวล เด๋วจัดให้
    แต่ถ้าต้องมีพิธีรีตองในการปรินต์ล่ะก็ หมดปัญญานะคะ

    เอ่อ..พยามจะเสนอทางสะดวกให้น่ะค่ะ
    เพราะได้เอ่ยวาจาแล้วว่าจะสนับสนุน
    แต่ถ้าคุณพี่กะทิขัดข้องประการใด กรุณาบอกกล่าวเลยนะคะ
    เพราะกลัวจะไปสร้างความกังวลให้โดยไม่รู้ตัว

    จริงๆไม่ได้รู้เรื่องและไม่ได้สนใจเรื่องเครื่องลางของขลังเลยนะคะ
    เอามาก็คงไม่มีปัญญาใช้... แต่เห็นคุณอาบอกพี่กะทิว่า "แจกแยะๆนะ"
    เออ... ก็เลยกะตือลืนล้น อยากช่วยแจกซะงั้น...
     
  18. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    ขอบคุณคุณ Lazaza มากค่ะ ที่กรุณา


    การพริ้นท์ไม่มีไรค่ะ นอกจากแค่พริ้นท์ออกมาเฉยๆ จริงๆ ควรย่อขนาดลงให้เล็กกว่านี้หน่อยก็ดี จะได้พกพากันสะดวก หากจะพกพา เพราะกะทิเธอลองพริ้นท์ออกมาแล้ว มันใหญ่พอดูนะคะ ถ้าจะนำมาพกพา มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่


    จากนั้นแล้วยังต้องตัดเป็นชิ้นๆ คือ สีขาวเทาหน้าหลัง เท่ากับหนึ่งชิ้น สีส้มหน้าหลังเท่ากับหนึ่งชิ้นหนะค่ะ เริ่มยุ่งยากไหมล่ะคะ เพราะถ้าทำจำนวนมากๆ เราต้องมานั่งเล็งกระดาษตัดกันอยู่ล่ะ เพราะไปนั่งเล็งตัดมาแล้ว ยิ่งถ้าทำจำนวนมากๆ เนี่ย และเครื่องที่กะทิเธอพริ้นท์มาได้สี่ชิ้น(สองคู่) ตัวหนังสือมันเบลอๆ นิดหน่อย เพราะน่าจะเกิดจากกระดาษอิ่มสีหมึกหนะค่ะ 55555


    ประเด็นสำหรับกะทิเธอก็จะจำต้องกำหนดใส่คาถาลงไปในกระดาษหนะค่ะ ซึ่งจะต้องเชิญพลังของตัวเองในการเข้าไปขออำนาจจากหลวงพ่อท่าน ซึ่งต้องใช้บุญในการขอบพระคุณท่านหลวงพ่อด้วยในตอนจบทุกครั้งอะนะคะ


    พอเสร็จขั้นตอนนี้แล้ว ยันต์กระดาษทุกใบจะให้ผลเหมือนกันเปี๊ยบ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณจะเอาไปทำอะไร มีจุดประสงค์ชัดเจน กะทิก็จะเริ่มแบ่งภาคการใช้ยันต์ไปตามวัตถุปรสงค์ค่ะ ดังข้อที่3 3.1 และ3.2 โดยจะอธิษฐานกำกับลงไปให้มีผลต่างกัน ซึ่งต้องเข้าไปกราบขอจากท่านหลวงพ่อให้มีวัตถุประสงค์ต่างๆ และอุทิศบุญให้ท่านในตอนท้าย


    เรียกว่าทำทุกครั้ง อุทิศถวายบุญกะทิเธอตอนจบทุกครั้งร่ำไปล่ะค่ะ นี่เป็นข้อที่ท่านได้บอกกล่าวกับกะทิเธอเอาไว้



    เท่านี้เมื่อคุณผู้ที่สนใจ และรับยันต์กระดาษไปใช้ จะมีวิธีการใช้ที่หลวงพ่อบอกกับกะทิเธอเอาไว้ด้วย (ตรงนี้หมอสุวิแนะให้กะทิเก็บค่าบริการ ไหว้ครู เพื่อจะเอาไปทำบุญ ไม่ติดหนี้หลวงพ่อและพระอาจารย์ของท่าน ที่ได้เขียนอธิบายไว้ดังกล่าวข้างต้นนะคะ (แต่ถ้าผู้อ่านแค่ต้องการจะพกไว้เฉยๆ เล่นๆ ไม่มีจุดประสงค์ อยากจะรับไปฟรีก็ได้ค่ะ เพียงแค่พริ้นท์ออกมาเฉยๆ พกไว้ได้ค่ะ)) แต่ก็อย่างที่บอกผู้อ่านนะคะ ว่าเป็นการป้องกัน หรือไม่ก็รักษาอาการโรคทั่วไป หากเป็นอะไรที่เกินเยียวยาอย่างนี้ จำต้องคุยกับนายเวร ก็ให้บอกหมอสุวิเถอะค่ะ คงใช้ยันต์กระดาษนี้ไม่ได้แล้ว


    และเมื่อคุณนำไปใช้ ตามที่กะทิจะบอกเมื่อคุณรับยันต์ไปแล้ว คุณจำต้องอุทิศบุญต่อหลวงพ่อเอาเอง และพระอาจารย์ของหลวงพ่อ เรียกว่ากตัญญู เวทีตา ต่อครูอาจารย์ นี่เป็นเงื่อนไขข้อตกลงที่กะทิเธอรับทราบมาจากท่านหลวงพ่ออะนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2014
  19. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    กะทิเข้าไปอ่านเอกสารแนบของคุณ itou แล้วนะคะ https://drive.google.com/file/d/0BzNRho6d5CHoclU3Mm9VNzNKd0k/view?pli=1

    เรียกว่าใช้ได้ทีเดียว


    และในส่วนสำคัญที่กะทิเธออยากจะปรับแก้มากๆ คือคำว่า เจ้ากรรมนายเวรค่ะ เวลาผู้อ่านจะพูดคำนี้ กะทิจะแนะนำทุกครั้งสำหรับผู้ที่เคยคุยกับกะทิ ในเรืองของการนำเบอร์โทรศัพท์ที่กะทิแนะนำหลังไมค์ไปใช้ โดยจำต้องไปทำบุญอุทิศ ในการปิดเบอร์เก่า และเปิดเบอร์ใหม่แต่นายเวรว่า เวลาพูดอุุทิศ ขอให้อุทิศแด่นายเวร ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรนะคะ แต่เป็นนายเวรเฉยๆ ค่ะ


    แต่หากเป็นการอุทิศบุญรวมๆ อย่างในเอกสารของคุณ itou ตรงที่เราจพต้องพูดคำว่าเจ้ากรรมนายเวรนี้ กะทิขอแนะนำเพิิ่มเติมว่า ให้ใส่คำว่า "และ" ลงไปนะคะ เป็นเจ้ากรรมและนายเวรค่ะ เพราะเขาเป็นคนละคนกันนะคะ


    อันนี้กะทิเธอแนะนำหลายๆ ครั้งแล้ว ผู้อ่านช่วยกรุณาแนะนำต่อๆ ไปยังคนที่ท่านรู้จักนะคะ ว่าเวลากล่าวอุทิศบุญ ขอให้แยกกลุ่มท่านทั้งสองออกจากกันค่ะ เป็นเจ้ากรรมและนายเวรนะคะ


    กะทิเธอสาธุกับคุณ itou ด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2014
  20. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    มีจดหมายหลังไมค์ถึงกะทิเธอ ได้เล่าถึงเหตุและความจำเป็นในการที่อยากจะได้ยันต์กระดาษหลวงพ่อโอภาสีไปใช้ ทั้งนี้โดยได้ผ่านการคัดกรองจากหมอสุวิแล้วว่า ยันต์ของหลวงพ่อน่าจะได้ผลกับเธอผู้นี้

    พออ่านๆ ไปก็นำไปคิด กะทิก็เห็็นว่าเป็นความคิดดีไม่น้อยที่จะให้หมอสุวิเป็นผู้ช่วยกรองอาการของผู้ป่วย และเห็นความเหมาะสมว่า ยันต์กระดาษของหลวงพ่อโอภาสีนี้จะใช้ได้กับผู้นั้นหรือไม่?

    เพราะอาการที่น่าจะใช้ได้ อย่างเช่น อาการของกะทิเธอ ที่เล่าให้ฟังไปแล้ว ก็คือ ชอบมีมารและอสูรมาเกาะ ไล่ไปแล้วก็มาใหม่ ทำให้เดี๋ยวดีเดี๋ยวป่วย

    กรณีผู้ป่วยที่มาเล่าให้กะทิฟังหลังไมค์ซึ่งหมอสุวิได้คัดกรองแล้ว และผู้ป่วยได้ติดต่อมายังกะทิ ก็มีกรณีคล้ายกัน แต่เธอผู้นี้เกิดจากการต้องธรณีสารมาก่อน

    ดังนี้แล้วกะทิเห็นว่า ผู้ใดหากจะอยากได้ยันต์กระดาษของหลวงพ่อโอภาสี กะทิคิดว่าขอให้ผ่านการสกรีนจากหมอสุวิก่อนน่าจะดีกว่า

    อนึ่งมีคุณ Lazaza อาสาจะพริ้นท์ขาวดำมาให้อะนะคะ กะทิขอบคุณมากๆ ค่ะ เพียงแต่สียันต์พื้นขาวเทา และสีส้มนั้น มีการใช้ต่างกันอยู่นะคะ

    แต่ทว่าในความคิดของกะทิแล้ว สีขาวดำที่คุณ Lazaza มีใจอยากช่วย ก็ยังมีประโยชฯือยู่ไม่น่า คือ ในความคิดของกะทิ น่าจะเอามาแปะที่ตั่งเตียงได้ค่ะ อย่างในกรณีของกะทิที่เคยโดนคือ มีสิ่งประหลาดติดมากับเตียงที่นอน ดังนี้ หากมียันต์มาติดเอาไว้ ก็น่าจะพอทำให้การนอนน่าจะปรกติสุขขึ้น

    หรือในกรณีผู้ป่วยในโรงพยาบาล อาจถูกรบกวนจากผู้ใดไม่ทราบได้ อย่างเช่น พี่สาวพี่ดอกแก้วในอดีตชาติของกะทิ เธอเคยป่วยนอน รพ. แล้วมีชายผู้หนึ่งเคยบ้ายบายบนเตียงนี้ และเขาไม่ได้ไปไหน ดังนี้พอพี่สาวมานอนทับ ก็มานั่งบนอกให้หายใจไม่ออก จนหมอต้องกู้ชีพ แต่พี่บอกว่ารู้ตัวตลอดเวลา แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องเจรจากับผีไปเรื่อยๆ จนยอมความกัน หมอก็กู้ชีพี่สำเร็จ ทั้งๆ ที่จริงพี่บอกว่า มันไม่ได้เกี่ยวกับหมอเลยอะนะคะ

    ดังนี้ ถ้าคุณมีอาการใด จำต้องการยันต์ของหลวงพ่อโอภาสี กะทิเธอขอให้ผ่านหมอสุวิมาก่อนเขียนถึงกะทิค่ะ ว่าอาการแบบของคุณจะใช้ได้รึไม่?


    และหากเป็นกรณีทั่วไป เอาไปติดตั้งเตียง ใช้สีดำขาวได้ไหม? เดี๋ยวคืนนี้กะทิจะลองถามหลวงพ่อโอภาสีดูก่อนนะคะ แล้วจะมาเขียนต่อค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...