กรรมกลิ่นตัวแรง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย bushido14, 16 ตุลาคม 2014.

  1. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    คือกลิ่นตัวแรงคับ เวลาอยู่ไกล้ใครเค้าก็ ไอ จาม เหมือนว่าเราไม่ได้อาบน้ำ ทั้งที่เป็นคนอาบน้ำสระผมทั้งเช้าเย็น เป็นคนผอมด้วย เป็นอุปสรรคมากในการทำงานร่วมกับคนอื่นเขา บางครั้งก็น้อยใจตัวเองอยากจะหายไปจากโลกนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็นึกสงสารครอบครัวและการฆ่าตัวตายก็เป็นบาปมาก อยากให้พี่ช่วยแนะนำแนวทางการแก้ไขให้หน่อยครับ
     
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เรา ชอบนะ กลิ่นตัวเอง555+
    น้ำหอม ทำเราเกือบตาย
    อาบน้ำก็ สารส้มละลายน้ำ
    แนะนี้เลย
    สบู่เบนเนท ใน 7- อีเลฟเว่น ที่มีภาพบุ่มนะ ชงัด ขาวอีกต่างหาก ของแถม
    อาบมันวันละ 2 รอบ 3 รอบ เป็นไร
    อาหารรสจัด มีกลิ่นฉุน เนื้อสัตว์ ทำให้เรามีกลิ่นตัวนะ
    พ่อใช้สบู่อิงอร ที่มีรูปมะขาม ก็ ใช้ได้นะลองดู
    สู้สู้
     
  3. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณมากคับ เดี๋ยวจะลองทดสอบดูครับ
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ไม่น่าจะทำให้ไอหรือจามนะ กลิ่นตัวแรงๆ คนได้กลิ่นก็แค่เหม็น ถ้าจามไอน่าจะฉุนน้ำหอมมากกว่า
    ลดปริมาณของน้ำหอมลว สเปรที่ใช้แบบฉีดก็เพลาๆลง หันมาใช้ลูกกลิ้งก็น่าจะดี
    กรรมเหตุมันคือการเลือกหรือไม่เลือกใช้ของพวกนี้แหละ
     
  5. da2496

    da2496 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +106
    ฉ้นก็มีกลิ่นเหงื่อแรงเป็นมา30กว่าปี แก้สาระพัดวิธีทั้งน้ำยาเดทตอลแช่ผัา อาบตัว น้ำอีเอม สารส้ม น้ำส้มสายชู น้ำร้อนๆทั้งต้มเสื้อผ้าที่นอนหมอนมุ้ง สบู่ยาทุกยี่ห้อ จนเมื่อ4ปีที่ผ่านมา เพื่อนอยู่ต่างอำเภออยากอวดน้ำหมัก สูตรป้าเช่งว่าเขาทำได้ดี เวลานั้นฉันเป็นสะบักไหล่จม รักษายา ร.พ ยังไม่หายปวดมาก ไปหาเขาเพื่อดูน้ำหมัก เขาเห็นฉันปวดมากเลยให้ลองราดน้ำหม้ก ที่ยังไม่เจือจางปรากฎว่าเผื่อนขึ้นเพราะน้ำหมักแรง แต่กลิ่นเหงื่อหายเหม็น เลยขอเพื่อนหนึ่งขวด อาบน้ำสะอาดแล้วผสมน้ำหมักกับน้ำเปล่า ราดตั้งแต่หัวจรดเท้าทิ้งไว้ 5 นาที ล้างน้ำเปล่าอีกที แรกๆอาบทุกว้น ปีหลังๆเว้นบ้าง ดมผิวตัวว่ามีกลิ่นผสมอาบก็จะที และซักผ้าน้ำสองหลังผงซักฟอกก็แช่น้ำหมักหนึ่งครั้ง แลัวซ้กปกติ กลิ่นจางลงมาก
     
  6. มันไม่แน่

    มันไม่แน่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,956
    สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม

    ชาตินี้ เราสร้างแต่กรรมดี...ชาติที่ผ่านมาให้ผ่านไป

    แนะนำ : ลองงดทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ดูนะครับ...
     
  7. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ เดี๋ยวจะนำไปปรับใช้ดูนะครับ _/\_
     
  8. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กินกุหลาบดู จะได้มีกลิ่นกุหลาบ เคยได้ยินมา


    แนะนำว่า

    1.ถ่ายทุกวัน กลิ่นตัวมาจากของในลำไส้ที่ค้าง

    2.งดกินเนื้อสัตว์ กระเทียม เครื่องต่างๆ หัวหอม อะไรพวกนี้

    3.กินพวกยาคู้ โยเกิต

    4.สำรวจดูว่ากลิ่นมาจากภายนอกร่างกาย หรือ ภายในร่างกาย

    ถ้าเกิดจากการที่เราใช้พวก สบู่ พวกที่ผสมสารเติมเต็ม อาบน้ำจริง แต่มันไปเกาะผิวหนัง รูขุมขน ปิดในร่างกาย พอนานๆไป ก็ทำให้เกิดกลิ่นได้ครับ
    ดังนั้นแนะนำว่า ลองเปลี่ยนดูครับ


    อย่างของผมนี่ ผมเคยลองนะ งดกินเนื้อสัตว์ไป ระยะหนึ่ง แบบลองเล่นๆ บอกตรงๆ แค่เดินผ่านคนบางคน นี่ แทบจะได้กลิ่น หมู กลิ่นวัว กลิ่นสาปสัตว์พวกนั้นจากคนที่เดินผ่านเลยครับ 555+
    ทำให้รู้ว่า เวลากินเนื้อสัตว์พวกนี้ กลิ่นสาปศพสัตว์พวกนี้ จะติดตัวไปเลยครับ ได้กลิ่นรู้สึกเหม็นสาบกลิ่นพวกเนื้อสัตว์จากคนนั้นเลยครับ พอตัวเองงดกินเนื้อสัตว์นี่ จมูกดีเลย 55+

    .
    .
    กุหลาบกินได้ ลองกดอ่านดู 55+

    https://www.google.co.th/search?q=ก...&channel=rcs&gbv=2&sei=Kn0_VMP3N4TDmwWQ8oDQCg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2014
  9. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณมากครับ
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ๑. เนื้อมนุษย์
    ๒. เนื้อช้าง
    ๓. เนื้อม้า
    ๔. เนื้อหมา
    ๕. เนื้อหมี
    ๖. เนื้องู
    ๗. เนื้อเสือโคร่ง
    ๘. เนื้อเสือเหลือง
    ๙. เนื้อเสือดาว
    ๑๐. เนื้อราชสีห์
    ๑๐ อย่างนี้ห้ามเด็ดขาด

    อย่างศีลของพระนี่ ห้ามเนื้อพวกนี้ ก็เพราะว่า ชาวบ้านติ และก็อีกเรื่องคือ เวลาเรากินเข้าไปแล้ว มันจะมีกลิ่นสาปติดตัว ทีนี้ ถ้าอยู่ในป่า พวกสัตว์ต่างๆ มันก็จะได้กลิ่น สัตว์มันมีญาติพี่น้อง พอได้กลิ่นสาบจากตัวเรา เค้าก็อาฆาต จะมาทำร้ายได้

    เคยฟังเทศน์มาเหมือนกัน เรื่องพวกนี้ละ ไว้หาเจอจะเอามาลงให้อ่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2014
  11. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2014
  12. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อีกอย่างก็คือ คงจะกินน้ำน้อย และไม่ค่อยกินผลไม้

    ปรกติคนเรา เวลากินอะไรเข้าไป ก็จะขับถ่ายออกมา

    อย่างคนกิน สะตอ เวลาฉี่ ก็จะมีกลิ่น สะตอ ออกมา

    ทีนี้คนเรา มีระบบในร่างกายที่จะขับของเสีย

    พอเราไม่ฉี่ กินน้ำน้อย มันจะไปออกทางไหน ก็ออกทางเหงื่อ ทางผิวหนัง มันก็เลยมีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวได้ครับ

    ยิ่งในชีวิตประจำวัน เรากินอะไรต่างๆนาๆ ทำให้เกิดกลิ่นเข้าร่างกายนี่ ก็เลยหนักเข้าไปอีก


    แนะนำว่า กินผลไม้ น้ำผลไม้เยอะๆ กินน้ำเยอะๆ ครับ ถ้าเป็นคนกินน้ำน้อย จะช่วยได้ครับ

    และก็ดูแลเรื่องลำไส้ ครับ เพราะมันดูดซิมกรดต่างๆเข้าร่างกาย ไปตามกระแสเลือด ครับ

    ดูแลอาหารการกิน จะช่วยได้ครับ

    .
     
  13. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ละสุดท้าย ก็ต้องบอกว่า โรคบางโรค เป็นเรื่องของ โรคกรรม ครับ

    ปากมีกลิ่น ตัวมีกลิ่น ก็เพราะ กรรม


    ถ้าเป็นโรคนี้ แนะนำว่า

    ทาน ศีล ภาวนา ว่างๆ ก็ไปรักษาศีล อยู่ปฏิบัติธรรม ที่วัด อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ทุกวัน ครับ


    เรื่องปลาทองปากเหม็น

    ครั้งพุทธกาล ยังมีชาวประมงกลุ่มหนึ่งได้ไปออก หาปลาที่แม่น้ำอจิรวดี วันหนึ่งพวกเขาจับปลาที่มีสีดุจดังทองคำได้ตัวหนึ่ง จึงปรึกษากันว่าจะนำไปถวาย พระราชา และพระราชาจักพระราชทานทรัพย์ให้ เมื่อคิดเห็นตกลงกันได้ดังนั้น จึงนำปลาใส่เรือไปถวายให้พระราชา

    เมื่อพระราชาทอดพระเนตรเห็นปลาทองคำ ก็คิดว่า พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่า เหตุใดปลาจึงเป็นทองคำ จึงรับสั่งให้คนนำปลาไปยังวิหารเชตวัน ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่

    เมื่อมาถึงเชตวัน ปลาก็อ้าปากขึ้น เกิดกลิ่นเหม็นเน่า ฟุ้งไปทั่วทั้งวิหาร!!

    พระราชาจึงทูลถามพระศาสดาว่า เพราะเหตุใด ปลาจึงมีสีเหมือนทองคำ และเพราะเหตุใดกลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปากของมัน

    พระพุทธเจ้าได้ตรัสเล่าว่า ปลานี้เคยเป็นภิกษุชื่อกปิละ เป็นพหูสูตร มีบริวารมาก ในสมัยพระผู้มีพระภาคเจ้าทรง พระนามว่ากัสสปะ แต่ถูกความทะยานอยากในลาภครอบงำแล้วด่าบริภาษพวกภิกษุผู้ที่ไม่เชื่อคำของตน ทำให้พระศาสนาเสื่อมลง จึงไปเกิดในอเวจีนรก แล้วก็มาเกิดเป็นปลา แต่ด้วยเหตุที่ภิกษุกปิละได้บอกพระพุทธวจนะกล่าวสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า สิ้นกาลนาน จึงได้อัตตภาพ มีสีเหลือง เหมือนทองคำ แต่ด้วยกรรมที่ได้ด่าบริภาษภิกษุ ผู้มีศีลทั้งหลายทั้งหลาย ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นฟุ้งออกจากปาก

    จากนั้นพระพุทธองค์จึงได้ตรัสถามปลาสีทองตัวนั้นว่า
    “เจ้าชื่อกปิละหรือ?”
    ปลาทองตอบว่า “พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ชื่อกปิละ”
    “เจ้ามาจากไหน”
    ปลาตอบว่า “มาจากอเวจีมหานรก..พระเจ้าข้า”
    พระศาสดาจึงตรัสถามต่อไปว่า “พระโสธนะพี่ชายใหญ่ ของเจ้าไปไหน”
    “พี่ชายใหญ่ปรินิพพานแล้วพระเจ้าข้า”
    “แล้วนางสาธนีมารดาของเจ้าเล่า ไปไหน?”
    “เกิดในนรกพระเจ้าข้า”
    “นางตาปนาน้องสาวของเจ้าไปไหน?”
    “เกิดในมหานรก..พระเจ้าข้า”
    พระพุทธเจ้าตรัสถามครั้งสุดท้ายว่า “บัดนี้เจ้าจักไปไหน”
    “จักไปสู่อเวจีมหานรกดังเดิม..พระเจ้าข้า” ปลาทองกราบทูล แล้วจึงเอาหัวฟาดเรือฆ่าตัวตายในที่นั้นเอง พวกมหาชนในที่นั้นต่างก็สลดใจ และเกิดอาการขนลุกขนชัน!!

    จากนั้นพระพุทธองค์จึงได้ตรัสถึงอดีตชาติของปลา กปิละว่า

    ในอดีตกาลแห่งพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่า กัสสปะ ซึ่งปรินิพพานแล้ว มีกุลบุตรสองคนพี่น้องออกบวชในสำนักของสาวกทั้งหลาย

    คนพี่ชื่อว่า โสธนะ ส่วนคนน้องชื่อว่า กปิละ มารดาชื่อว่าสาธนี และน้องสาวชื่อว่า ตาปนา ซึ่งทั้งแม่และลูกสาว ก็บวชในสำนักภิกษุณี สองพี่น้องได้ทำวัตรและปฏิบัติแก่พระอาจารย์และพระอุปัชฌาย์ วันหนึ่งจึงได้ถามพระอาจารย์ว่า ธุระในศาสนานี้มีอยู่เท่าไหร่ พระอาจารย์ตอบว่า มี ๒ อย่าง คือ ๑.คันถธุระ ๒.วิปัสสนาธุระ

    พระโสธนะผู้พี่จึงคิดว่า เราจักบำเพ็ญวิปัสสนาธุระ เพราะเราอยู่ในสำนักพระอาจารย์และพระอุปัชฌาย์มาแล้ว ๕ พรรษา เรียนกัมมัฏฐานจนเข้าถึงอรหัตผล เข้าไปสู่ป่าเพื่อบำเพ็ญให้บรรลุอรหัตผล เพราะเรามีอายุมากแล้ว

    ส่วนพระกปิละ ก็คิดว่าเรายังหนุ่ม เราจะเรียนคันถธุระ ปล่อยให้พี่ผู้มีอายุมาก เรียนกัมมัฏฐานไปเถิด

    พระโสธนะได้ลาพระอุปัชฌาย์แล้วเข้าไปสู่ป่าบำเพ็ญเพียรอยู่ไม่นานก็บรรลุ อรหัตผล ดำรงชีวิตอยู่ในป่า ส่วนพระกปิละก็ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรมจนมีความชำนาญ ในหลักธรรม แล้วก็ได้สอนผู้อื่น โดยลำดับ เมื่อสอน พระภิกษุมากขึ้น ลาภสักการะก็มากขึ้น จนเกิดความทะยานอยากในลาภสักการะ และยังบอกด้วยว่าสิ่งที่ไม่สมควรแก่ สมณะ เป็นเรื่องที่สมควรแก่สมณะ และสิ่งที่สมควรแก่สมณะ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรแก่สมณะ รวมทั้งกล่าวถึงสิ่ง ที่มีโทษ ว่าไม่มีโทษ และสิ่งที่ไม่มีโทษ ว่ามีโทษ

    แม้ภิกษุอื่นๆจะพร่ำบอกว่าอย่าได้กล่าวเช่นนี้ แล้วแสดงพระธรรมวินัยกล่าวสอน แต่กปิละก็หาฟังไม่ กลับตวาดภิกษุเหล่านั้นว่าไม่รู้เรื่องอะไร

    ภิกษุทั้งหลายจึงไปแจ้งแก่พระโสธนเถระผู้พี่ พระโสธน เถระ จึงไปหาพระกปิละ แล้วเตือนว่าภิกษุผู้ปฏิบัติชอบทั้งหลายนั้นก็เป็นผู้สืบอายุพระศาสนา เพราะฉะนั้นจงอย่ากล่าว คัดค้านในสิ่งที่ควร ทราบมาว่าพระเถระตักเตือนเธอสองสาม ครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่ฟัง ถ้าเช่นนั้นเธอก็จงรับกรรมที่ทำไว้เถิด

    ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีภิกษุผู้ปฏิบัติชอบรูปใดตักเตือนและ ข้องเกี่ยวกับพระกปิละอีก มีแต่พวกประพฤติชั่วเท่านั้นที่คอยห้อมล้อม

    วันหนึ่งพระกปิละคิดว่าจะสวดปาฏิโมกข์ จึงถือพัดไป ที่โบสถ์ นั่งบนธรรมาสน์แล้วถามขึ้นว่า

    “ผู้มีอายุ ปาฏิโมกข์ย่อมเป็นไปเพื่อภิกษุทั้งหลายผู้ประชุมกันแล้วในที่นี้หรือ?”
    ภิกษุทั้งหลายนิ่งเสีย เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปโต้ตอบด้วย พระกปิละเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า

    “ผู้มีอายุ ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ไม่มีประโยชน์อะไรด้วยปาฏิโมกข์ที่พวกท่านจะฟังหรือไม่ฟัง” พูดจบก็ลุกจากอาสนะ

    การกระทำดังกล่าวของพระกปิละนั้น เป็นการทำให้ศาสนา คือปริยัติของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปะเสื่อมลง

    ในขณะที่พระโสธนเถระผู้พี่ก็ได้ปรินิพพานในวันนั้นเอง
    หลังจากที่พระกปิละสิ้นอายุขัยแล้วก็ไปเกิดในอเวจีมหานรก ส่วนมารดาและน้องสาวที่บวชเป็นภิกษุณี ก็ไปเกิดในอเวจีมหานรกเช่นกัน เพราะทำตามแบบพระกปิละ โดยการด่าว่าภิกษุอื่นๆ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

    พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนว่า นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวการประพฤติธรรม ๑ การประพฤติพรหมจรรย์ ๑ ว่าเป็นแก้วอันสูงสุด
    และได้ตรัสพระคาถาต่อไปอีกว่า

    ตัณหาดุจเถาย่านทราย ย่อมเจริญแก่คนผู้มีปกติประพฤติประมาท เขาย่อมเร่ร่อนไปสู่ภพน้อยใหญ่ ดังวานร ปรารถนาผลไม้ เร่ร่อนไปในป่าฉะนั้น ตัณหานี้เป็นธรรมชาติลามก มักแผ่ซ่านไปในอารมณ์ต่างๆในโลก ย่อม ครอบงำบุคคลใด ความโศกทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น ดุจหญ้าคมบางอันฝนตกรดแล้วงอกงามอยู่ฉะนั้น แต่ผู้ใด ย่อมย่ำยีตัณหานั้นซึ่งเป็นธรรมชาติลามก ยากที่ใครในโลก จะล่วงไปได้ ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกไปจากใบบัวฉะนั้น เพราะฉะนั้น เราบอกกับท่านทั้งหลายว่า ความเจริญจงมีแก่ท่านทั้งหลายบรรดาที่ประชุมกันแล้ว ณ ที่นี้ ท่านทั้งหลายจงขุดรากตัณหาเสียเถิด ประหนึ่งผู้ต้องการแฝก ขุดหญ้าคมบางเสียฉะนั้น มาร อย่าระรานท่านทั้งหลายบ่อยๆ ดุจกระแสน้ำระรานไม้อ้อฉะนั้น

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 82 ก.ย. 50 โดยพระมหา ดร.ณรงค์ศักดิ์ ฐิติยาโณ วัดใหม่ยายแป้น)
    http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9500000103725
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2014
  14. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    คือผมเพิ่งบวชทดแทนคุณ บิดา มารดา ไปเมื่อช่วง ต้นปีที่ผ่านมาอ่ะครับ บางวันก็สวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ปล.ยังไงก็ขอบคุณมากครับที่ให้คำแนะนำดีๆเป็นประโยชน์มากครับ ผมคงมีกรรมเยอะจริงๆ :'(
     
  15. newpin

    newpin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +112
    ่น่าเห็นใจค่ะ เรื่องแบบนี้มันก็พูดยาก มีหลายคนถามหาวิธีแก้ไขตาม Internet ก็ใช่ว่าจะแก้ได้ทุกคน พอเหงื่อออกกลิ่นก็เกิดขึ้นทันที มันก็ทำให้เกิดอุปสรรคในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นจริงๆ ทำให้ตัวคุณไม่มั่นใจด้วย
    โดยปกติคนที่เหงื่อมีกลิ่นแรงๆ มักจะใช้ พวกสบู่สมุนไพรนะ ส่วนพวกครีมน้ำอาบ หรือสบู่ทั่วๆ ไป ไม่ค่อยจะได้ผลนะค่ะ ลองสังเกตุดูว่าคุณใช้ผลิตภัณฑ์จำพวกไหนอยู่ ต้องเปลี่ยนแล้วละมั้ง เพราะมันไม่ดีขึ้น พ่อเราใช้ยี่ห้อนี้มาตลอดนะ ตั้งแต่จำความได้เห็นมาตลอดชีวิต 555 "สบู่สมุนไพรกลั่นรอว์ร่า ตราคนใส่แว่นตา" ใช้หัวจรดเท้าเลย เห็นในบิ๊กซีก็มีขายนะค่ะ ลองดูค่ะ 30 บาทละมั้ง ไม่แพงหรอก ใช้ได้นานด้วย ก้อนเบ้อเริ่มเลย

    ส่วนเรื่องกรรมที่ถามหรือทางแก้ในแนวทางธรรมต้องรอผู้รุ้มาตอบเนอะ ก็อยากรู้เหมือนกันค่ะ ไปทำอะไรมาหนอ...
     
  16. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะลองหาซื้อมาใช้บ้างครับ
     
  17. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ปรึกษาหมอต้น


    [​IMG]
     
  18. bushido14

    bushido14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณมากครับผม:cool:
     
  19. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    สบู่มาดามเฮง /แป้งตราเต่าเหยียบโลก /เสื้อผ้าทิ้งบ้าง/ ก่อนซักแช่น้ำใส่เกลือถุงละ 1 บาท หลายๆถุง (แช่ทิ้งไว้ 1 ชม.) อาบน้ำหลายทีแล้ว ส่วนใหญ่จะมาจากกลิ่นที่ฝังอยู่ในเสื้อ งดอาหารที่ทำให้มีกลิ่น /ขัดตัวด้วยฟองน้ำหรือบวบ (จะเป็นกับคนที่มีน้ำมันเคลือบนะค่ะ)
    ในห้องโต๊ะเครื่องแป้งมีเยอะเลยค่ะ ถ้าถึงกับจะฆ่าตัวตายสงสัยหมดห้องเครื่องแป้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2014
  20. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    สมัยวัยรุ่นกลิ่นตัวแรงสิวเพียบ ตอบแบบวิทยาศาสตร์ก่อน โรลออนใช้อยู่สองยี่ห้อ แอมเวย์กับของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ สบู่ยี่ห้อ ไอนิว lknew
    ของสหพัฒน์หาซื้อยากมาก บางครั้งของดีมันไม่โฆษณาคนไม่ใช้มันเลิกขายหรือยังไม่รู้ ปกติขาดโรลออนไม่ได้กลิ่นมา ตอนนั้นใช้สบู่นี้แล้วลืมโรลออน มีเหงื่อกลิ่นไม่มาเลย ช่วงหน้าร้อนปีนั้นอยู่พิษณุโลกร้อนสุดๆ น้องลองใช้น้ำหมักดูอาจได้ผล เพราะเป็นเอเอชเอ
    ต่อไปตอบแบบทางธรรมะในหนังสือหลวงพ่อจรัญเคยยกตัวอย่าง ญ คนหนึ่งมีกลิ่นตัวแรงเพราะวจีกรรม โดยระวังเรื่องคำพูดให้มาก ศึกษาเรื่องวจีสุจริตดูสิ จากนั้นก็ฝึกกรรมฐานเพราะเวลาพูดจะได้มีสติจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...