ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    รอติดตามตอนต่อไปครับอา

    กำลังสนุกทั้ง 2 เรื่องเลย

    ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มอบให้ครับอา
     
  2. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    มานั่งอ่านย้อนหลัง ไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมาครับ
     
  3. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,150
    สวัดดีครับ ....

    จากที่คุณคุณลุงเล่ามา น้ำหนักของเกาะแข็งและแกาะอ่อนรวมกันน้ำหนักน่าจะเกือบร้อยโล

    ทำให้เวลาขึ้นม้าต้องใช้คนถึงสองคนช่วยขึ้น นับว่าม้าต้องรับน้ำหนักมาพอดูเลย
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......................................
    ..หวัดดี....เด็กบ่อผุด..porpek..orkarรุ่น๑..หลานเขม..และ..ธรรมจักร
    ........................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ..........................

    .............แต่สำหรับ..นักรบ..แล้ว..มันก็คงยุ่งยาก..หน่อย...ชีวิต..อยู่กับการรบพุ่ง
    เป็นหลัก..เดินทัพ..ไปรบ..นอนกับดินกินกับทราย..อาจไม่ได้อาบน้ำเป็นเดือนๆ
    เพราะ..แค่เดินทัพไป..ก็ต้องกินเวลาเป็นเดือนแล้ว....
    .....อย่างนี้...เอาไอ้ที่มันติดตัวถาวร..ดีที่สุด....เครื่องรางของขลัง
    ..แบบติดตัวถาวร..ที่เกิดขึ้นแบบแรก..ก็ไม่น่าพ้น...
    .......การสักยันต์..............
    ......วัฒนธรรมการ”สัก”..นั้นมีกันทั่วโลก.....ในแหลมทองนั้น..หลักฐานชัดเจน..
    ..สำหรับค่านิยม..ก็น่าจะเป็น..ล้านนา..และ..ล้านช้าง...ที่คน..ภาคกลาง..เรียกว่า
    ..”ลาว”...บางกลุ่มชน..ก็มีสักแต่..น้อยหน่อย..ก็เรียก..”ลาวพุงขาว”...กลุ่มที่นิยม
    กันมากนั้น..สักกัน..ครึ่งตัวด้านล่าง..ลามมาถึงเอว..ก็เรียกกันว่า..”ลาวพุงดำ”....
    อย่างพวก..แถบน่าน..นี่..เห็นได้จากรูปเลยว่า..ตั้งแต่น่อง..ไปจนถึง..เอว..นี่พรืด
    ไปหมด....แต่ที่สักนี่..ส่วนใหญ่ดั้งเดืมนั้น..เป็นแบบลวดลาย..เช่นลายพญานาค
    ..อะไรทำนองนี้....ผมคาดว่า..วัฒนธรรมนี้..น่าจะมาก่อน..การเริ่มมี..การสักยันต์
    ด้วยซ้ำ...พระจึงอาจจะคิดว่า..เอายันต์ไปสัก..ลงแทนลวดลาย..ในส่วนที่เหลือ
    ของร่างกาย..เช่น..หลัง..หน้าอก..แทน..การใช้ผ้ายันต์..น่าจะเหมาะ....
    ....เพราะ..พวกนี้คุ้นกับการสักอยู่แล้ว...
    ..แล้ววัฒนธรรมนี้..ก็ค่อยๆ..แพร่..เข้ามาในส่วนของภาคกลาง....
    ..ซึ่งตามหลักฐาน..จะเห็นได้ว่า..ในภาคกลางดั้งเดิม..ไม่ได้นิยม..การสัก..ใดๆ..
    ...ส่วนที่ว่า..การสักยันต์..นั้นน่าจะมา..จากทางขอม..นั้น..ก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไร
    ชัดเจน..และอีกอย่างคือ..ขอมนั้นเมื่อมานับถือ..พุทธก็เป็น..แบบพุทธมหายาน..
    ..ผมเห็นว่า..การสักยันต์นั้น..น่าจะมาจากทางหินยาน..แพร่เข้าไปในเขมร..
    ..หลักจากขอมเสื่อมอำนาจแล้ว..มากกว่า..เพราะพุทธหินยานในเขมร..นั้น..เริ่ม
    มาจากทางไทย..เมื่อเราแผ่อำนาจ..เข้าไป..ในเขมร......
    .....ส่วนของ..หมึกสัก..นั้นบ้านเรา..ก็เริ่มจาก..ผงถ่านนี่แหละ..ผสมน้ำ..จนเข้มข้น
    ..ส่วนจะเป็น..ถ่านไม้อะไร..นั้นก็อาจจะแตกต่างกันตามภูมิภาค....
    ......เหล็กสักนั้น..ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่..แต่ดูจากชาติอื่นๆ..หลายชาติ..
    ..เขาก็นิยม..ใช้..กระดูกสัตว์..มาเหลาให้ปลายแหลม..เนื่องจากกระดูกนั้น..ข้างใน
    กลวง..เมื่อจุ่มหมึกแล้ว..ทำให้มันเก็บน้ำหมึกได้เยอะ..เขียนต่อเนื่องได้นาน...
    ..(..เขาจะผ่า..กึ่งกลางส่วนปลายที่แหลม..ลึกเข้ามาเชื่อมกับส่วนที่เป็นโพรง..
    ..คล้ายๆ..หัวปากกาหมึกซึม..หรือ..หัวปากกาคอแร้งสมัยก่อน..)...
    ....แต่...มีบางคนเคยพบว่า..มีการใช้..ขนเม่น..โดยตัดปลายเป็นปากฉลาม..ให้..
    ทะลุ..โพรงด้านในของขน..นิดเดียวเป็นจุดเล็กๆ..ตัดโคนขนให้ทะลุ..อากาศเข้าได้
    หมึกจะถูกเก็บอยู่ในโพรง..
    ....ก็คงหลากหลายครับ..ก่อนจะมาเป็น..เหล้กสักในปัจจุบัน....
    ......แต่ที่สำคัญคือ..ยันต์..หรือ..คาถา..ในสมัยก่อนที่มีการสักนั้น..ต้องมีการคัดเลือก
    ..ไม่เหมือน..ผ้าประเจียด..หรือ..ผ้ายันต์..เพราะ..ยันต์ประเภท..คงกะพัน..มหาอุตม์
    ..นั้น..จะมีข้อห้ามเยอะ..ตั้งแต่ห้ามผู้หญิงจับ(..จริงๆที่ห้ามนี่คือ..กันไว้ก่อนเพราะ..
    องค์ประกอป..ที่ผู้คิดคาถาหรือ..ยันต์..กลัวนักกลัวหนาคือ..เลือดประจำเดือน..ที่ถือ
    ว่า..เป็น..ปฏิกูล..เป็นของเสีย..หรือ..ส่วนที่ร่างกายทิ้ง..และ..ขับออกมา..หรือ..คัดออกมา
    นั่นเอง..พอพูดถึง..คำว่า”คัด”..หลายคนคงจะถึง..บางอ้อว่า..ทำไมถึงห้าม..คือ..
    ..มันคัดความขลังออกไป..หรือ..ทำให้”เสื่อม”นั่นเอง.....
    ผู้หญิงที่มาจับ..อาจจะเป็นช่วงมีประจำเดือน..มือโดนประจำเดือน..แล้วมาจับ..ยันต์)........
    ....ห้ามร่วมประเวณี...เป็นต้น...ดังนั้น..ซึ่งเมื่ออยู่กับตัวแล้ว..มันห้ามไม่ให้เกิดแบบนั้น
    ไม่ได้............

    .........ต่อตอนหน้า......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2014
  5. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    รอติดตามตอนต่อไปครับผม
    เกราะทั้งสองสวยมากเลยครับ
     
  6. เด็กบ่อผุด

    เด็กบ่อผุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2014
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +12,659
    ตามมาติดๆครับครู. อ่านไปมีคำถามตาม. ขนเม่นใช้ได้รึเปล่า. บรรดทัดถัดมาขนเม่นก็มาอธิบายความสงสัย. 5555 ขอบคุณครับสำหรับความรู้วันนี้ :cool:
     
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................
    ต่อจากเมื่อวาน(เรื่องของมองโกล)
    ...................

    .......................พอผมเข้าไปใกล้ๆ..ก็เห็นร่องรอยการสร้างชัดเจน..คือ..มันรอบบุบ
    รอยโป่ง..เกิดจากการใช้ฆ้อนทุบตีให้มันเข้ารูป..(สมัยก่อนยังไม่มีการรีดโลหะ..ทำให้
    เป็นแผ่น)...และตกใจตอนที่ไปจับแล้วแง้มดู..ไอ้แผ่นเกราะ..นี่มัน..หนานะครับ...
    ..ไม่ใช่..บางแบบกระป๋องนม..ผมว่าไม่ต่ำกว่า..๑ มม...ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น...เพราะ
    อาวุธโบราณ..ทั้งใหญ่และหนัก..ถ้าบางเป็นกระป๋องนม..แค่โดนเฉี่ยวๆ..ก็เข้า..แล้ว
    จะไปใส่เกราะ..ทำพระแสงหอกอะไร..แล้วเกราะตัวนี้ที่ผมเข้าไปจับดู..นะลองเทียบๆ
    เคร่าๆแล้ว..จากหัวจรดตีนนี่..ก็..หกฟุตขึ้น..ลองคิดดูว่า..มันจะหนักขนาดไหน..
    ..ดังนั้น..มันจะมีความคล่องตัวยังไง..เมื่อฝรั่งมัน..รบกันเองนั้น..เริ่มต้น..ก็คือ...
    ..อัศวินปะทะ..อัศวิน..ทหารเลวปะทะทหารเทหารเลว..ยุคที่มองโกลบุกยุโรป..นั้นเป็น..
    ยุคกลางตอนกลาง..ระเบียบการรบ..ชัดเจน..ไม่ใช่ในยุคปลายๆอย่างที่..พระเจ้าริชาร์ด
    ที่๓..ของอังกฤษ..โดนทหารเลวรุมฆ่า..แล้วเกราะยุคปลายนั้น..ผมค้นคว้ามาแล้ว...ว่าบาง
    กว่า..ยุคก่อน..เพราะพยายามแก้ไขเรื่องความคล่องต้ว.....
    .......ดังนั้น..ที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะ..ต้องการให้ผู้อ่านทราบว่า..ผมไม่ใช่เอาข้อมูล
    จากการอ่านมาเล่าให้ท่านฟัง..อย่างเดียว..ผมก็มีประสพการณ์เจอของจริงมาแล้ว...
    ...เพื่อจะบอกว่า..มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ..ที่อัศวิน..มาเจอทหารม้าหนักของมองโกล..
    ..มันเลยไม่มีทางสู้..เพราะการเคลื่อนไหวช้า..แถมพอตกม้า..แล้ว..คงมีน้อยคนมากๆ
    ที่ลุกขึ้นยืนได้ด้วยตัวเอง..เพราะความหนักของเกราะ..ก็เลยกลายเป็นเป้าของหอก
    มองโกล..ถึงยืนได้..ก็เดินได้แบบช้าๆ..สรุปคือ..ตายอยู่ดี...
    .........ทหารม้าหนักมองโกล..จึงมีหน้าที่..เก็บตกที่เหลือ..ไอ้พวกคราง..ดิ้นกระแด่ว
    อยู่กับพื้น..เขาไม่ใช้ธนูยิงให้เปลือง..แล้วอยู่บนม้า..นั้นการใช้ดาบฟันคนที่นอนอยู่..
    มันก็ไม่ถนัด..เท่ากับใช้หอก....
    .....ส่วนม้าฝรั่ง..ที่ตายๆ...ก็ไม่เสียประโยชน์..เพราะมองโกล..ก็แล่เอาเนื้อ..เก็บเป็น
    เสบียงไว้กินต่อภายหลัง....

    ........ต่อพรุ่งนี้.........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2014
  8. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ซำบายดีวันเสาร์แห่งชาติครับผม
    ตามต่อเรื่อย ๆ ครับอ้ายมด
    รายงานตัวครับผม
     
  9. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    มารอติดตามอ่านเหมือนเช่นเคยครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่
     
  10. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามอ่านบทความดีๆทั้งสองเรื่องครับผม
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............................
    ..หวัดดี...Oikarรุ่น๑..พลศิริน้องรัก..เด็กบ่อผุด..กำธรน้องรัก..และ..เฉียวฟงหลานรัก
    ..........................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ...........................
    .............ผมว่า..ตอนหลังจากเริ่มมีการสักยันต์กันมากขึ้น..ผู้คิดประดิษฐ์ยันต์สัก...
    เพื่อความคงกะพัน..มหาอุตม์จึงเริ่มแก้ไขรูปแบบ..หรือ..ออกแบบคาถากำกับยันต์..
    เพื่อแก้ปัญหา..ดังกล่าวมากขึ้น..เพื่อให้ความศักดิ์สิทธิ์ได้อยู่คู่กายตลอด..ไม่เสื่อม
    ..จากเรื่องพวกนี้...คุณจะเห็นได้จาก..ตะกรุดโทน..หรือ..ตะกรุดชุด..ที่ใช้คาดเอว..
    นั้น..สมัยก่อน..ร้อยทั้งร้อย..ตอนไปรับจากอาจารย์..ข้อห้ามข้อแรกเลย..คือ..ห้าม
    คาด..ระหว่างร่วมประเวณี..และเป็นข้อที่พอเอาเข้าจริง..โดนละเมิดมากที่สุด..
    ..เพราะ..ถ้าเหล้าเข้าปากจนได้ที่..หลายคนจะเริ่มมีอารมณ์ทางเพศ..แล้วก็ไป..
    จบ..ที่ซ่อง..แล้วด้วยความเมา..และ..ตัณหาหน้ามืดในตอนนั้น..ก็ลืมถอด..ก็เรียก
    ว่าเอามันทั้งอย่างั้นเลย...ตะกรุดหลายอาจารย์..ที่แตกร้าวเลย..หลังกิจกรรมเสร็จ
    บางอาจารย์..ตะกั่วหนา..ไม่แตก..แต่มันกลายคุณค่าเป็นแค่..ปลอกตะกั่วธรรมดา
    ....ทุกคนคงรู้จัก..ตะกรุดโสฬสมหามงคล..ของหลวงปู่เอี่ยม......
    ......ซึ่งท่านจารไว้ด้วย..ยันต์โสฬสมหามงคล..แล้วข้อห้ามก็อย่างที่บอกไว้..
    เหมือนกัน..เพราะอยู่ในจำพวกตะกรุดโทน..ไว้คาดเอว.......
    ....นายพยัพ..เนื่องจากแก..เก็บสะสมไว้ตั้งแต่รุ่นหนุ่ม..แกมีหลายดอก..แกก็เลย
    เลือกมาดอก ๑ เพื่อแกะดูรอยจารของหลวงปู่เอี่ยม..ก็เป็นยันต์นี้จริงๆ...
    ..แล้วแกก็ให้พระหรือ..ใครไม่ทราบ..ลอกรูปแบบแล้วสักไว้ที่หลังแก...
    ....ผมเชื่อว่า..ยังไง..ก็คงไม่ขลังหรอก..ก็อยู่ในตะกรุด..หลวงปู่ยังห้ามใส่..ระหว่าง
    ร่วมประเวณี..แล้วมาอยู่ที่หลังแก..ตั้งแต่แกเริ่มมีชื่อเสียง..ยังไม่ได้เป็น..นายก..
    นาแย็ก..อะไรนี่..ยังไม่แก่ขนาดนี้..ผ่านการ make love..มากี่พันครั้งแล้ว....
    ...แต่อย่าง..หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวงนั้น..ท่านสัก..ยันต์ครู..(ยันต์หลัง
    เหรียญ..แบบเดียวกัน)..ให้ลูกศิษย์..เหนือราวนม..ข้างขวา..ตะกรุดดอกเล็ก..
    มีคนเคย..แกะ..ท่านก็ลงยันต์ครู..แบบเดียวกัน..แต่นั่นไม่ใช่ตะกรุดโทน...
    ...ผมก็ไม่เคยแกะ..ตะกรุดโทนของท่าน..ดูว่า..ท่านลง..ยันต์ครูเหมือนกันรึเปล่า
    ...แต่ถ้าเป็น..ยันต์ครู..เหมือนกันนั้น..แสดงว่า..ที่ท่านลง..ยันต์ครู..สักเหนือราว
    นมนั้น..ต้องมีคาถากำกับ..พิเศษที่แตกต่าง..หรือ..เพิ่มเติมไป..เพื่อป้องกันการ
    เสื่อม..จากเลือดประจำเดือน..และ..การร่วมประเวณี.....
    ....หรือ..ไม่งั้น..คิดไปอีกทีว่า..ถ้าเป็นแบบเดียวกัน..แสดงว่า..ยันต์ครูของท่าน
    ต้องมีความพิเศษ..ป้องกัน..ความเสื่อม..เนื่องจากสาเหตุ..ดังกล่าวไว้ด้วยในตัว
    .....ที่ผมเอามา..เล่าให้ฟัง..ก็เพื่อให้ทราบว่า..โดยทั่วไปแล้ว..ยันต์ที่ใช้สัก..
    ..ถ้าทรงประสิทธิภาพจริงนั้น..ก็จะมีความพิเศษ..แตกต่างจาก..ยันต์ที่ลงใน
    ผ้าประเจียด..หรือ..แม้กระทั่งใน..ตะกรุดคาดเอว..แบบต่างๆ..โดยเน้นด้าน..
    คงกระพัน..มหาอุตม์...
    ....แต่การสักยันต์..มันก็มีข้อห้ามอื่นด้วย..อย่างด่าบุพการี..เป็นต้น..ดังนั้น..
    เดี๋ยวนี้..ไอ้พวกที่สักยันต์..กัน..ต้องคอยไปชาร์จใหม่กันทุกปี..อย่างวัดบางพระ
    เป็นต้น..จึงแสดงให้เห็นว่า..มันเสื่อมง่าย..
    .....สู้..เครื่องรางของขลัง..แบบที่ถอดออก..ใส่ง่าย..ไม่ได้.....
    ..........จึง..มาถึง..เครื่องลางของขลัง..ที่ทุกคน..รู้จักกันดี..ที่ผมจะว่าต่อไป
    ..ในครั้งหน้า...ที่เรียกว่า...
    ...........ตะกรุด...หรือ...กะตุด(ไม่ใช่..กะตุ๊ด)..

    .........ต่อตอนหน้า.........
     
  12. เด็กบ่อผุด

    เด็กบ่อผุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2014
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +12,659
    สวัสดีครับครู. :cool:
     
  13. split

    split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    รอติดตามตอนต่อไปครับ
     
  14. คนบ้านสะแก

    คนบ้านสะแก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +432
    สุดยอดจริงๆครับพี่ อ่านแล้วก็คิดตาม ผมเชื่อเรื่องพุทธาคม เชื่อในศาสตร์นี้ แต่ก็ต้องจับหลักยึดถือให้ได้ เพราะก็มีการเปลี่ยนแปลง ผิดเพี้ยนไปตามยุค แต่รากแท้ดั้งเดิมนั้นของจริง ขอบคุณพี่นี่นำมาถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจ ในแก่นรากฐานดั้งเดิม ติดตามตลอดครับ ขอบคุณมากๆครับ
     
  15. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    แล้วการสักน้ำมัน มีช่วงไหนครับ...
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................................
    ..ขอบใจมากน้อง..ที่เข้าใจเจตนาของพี่..เพราะพี่เห็นว่า..คนรุ่นใหม่..มันไม่คุ้นชิน..และ..ตั้งคำถามตัวเอง
    เสมอ..เมื่อเข้ามาสนใจในวงการนี้ใหม่ๆ..ไม่เข้าใจในรากฐาน..มันก็เลยโยง..ขึ้นไปข้างบนด้วย...คือ..ถ้าอธิบายสั้นๆ..มันก็ต้องถามต่อเสมอ..(นี่รวมพวกรุ่นกลางเก่ากลางใหม่ด้วยนะ..เพราะเจอกับตัวเอง..)..
    ..ก็เลย..ต้องเขียนอธิบายกันตั้งแต่รากเลย..
    ......น้องบ้านสะแกนี่เป็นคนแรก..ที่postมา..แบบนี้
    ..เพราะที่ผ่านมา..ยังคิดว่า..ไอ้พวกที่อ่านกันไปนี่..
    มันจะสำนึกกันบ้าง..รึเปล่า..ถึงเจตนาจริงๆ....
    ....ขอบใจจริงๆ..
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............................
    ...เข้าใจว่า..จะเกิดขึ้นเมื่อการสักยันต์เข้ามาสู่ภาคกลาง..เต็มตัวแล้ว..เพราะ..คนภาคกลางไม่คุ้นกับ..
    ..การมีร่องรอยบนร่างกาย..ส่วนใหญ่..ก็คงไม่ว่า..เพราะ..เพื่อผลที่ได้..ไม่คิดอะไร..แต่บางคนอยากก็อยาก..แต่ใจรับไม่ได้..ก็น่าจะมีมาตั้งแต่..อยุธยาแล้ว
    ..และ..เป็นส่วนน้อย..แต่สะดวกกว่า..เพราะใช้..น้ำมันจันทน์..ซึ่งมีใช้กันทั่วไป..ในยุคนั้น
    ..คือไม่ต้องเสียเวลาฝนแท่งหมึก..แล้วเอามาทำเป็นน้ำหมึกอีกที..เสกน้ำมันก่อน(ก็..เช่นเดียวกัน..ที่ต้องปลุกเสกหมึกก่อน)..ต่างกันหน่อยตรง..พระอาจารย์บางท่าน...
    ถ้ายันต์..หรือ..คาถาไม่ซับซ้อน..ขนาดไม่ใหญ่..
    ..และ..อยู่ในตำแหน่งที่..น้ำมันจะไม่เทไหลหกไป..
    ...ท่านจะ..เอาน้ำมันเทไปกว้างๆ..แล้วสักเลย..
    ไม่ใช้วิธีจุ่ม..เพราะมีผลเหมือนกัน..พอเหล็กแทง..
    เนื้อเริ่มบุ๋ม..น้ำมันก็จะมากองตรงนั้น..เหล็กเข้าเนื้อ
    ..มันก็ลากน้ำมันเข้าไปด้วย..แล้วแต่อาจารย์แต่ละองค์
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ต่อจากเมื่อวาน(เรื่องของมองโกล)
    .............................

    ...........๕. การข่าว....
    .....โรงเรียนการทหารของฝรั่ง..นั้น...เริ่มมีการศึกษาอย่างจริงจัง..
    ....เมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๑ ไม่นาน..โดยเฉพาะ..ความสำเร็จ..ของมองโกล
    ..ว่าทำไม..พวกเขาถึงแพ้แบบ..ย่อยยับ..ทุกสมรภูมิ..เรียกว่า..แพ้แบบไม่มีลุ้น
    (ภาษาแบบไทยๆ)..ทั้งๆที่..ตัวเองเป็นเจ้าของพื้นที่..ไม่ว่าจะตั้งรับอยู่..หรือ..
    บุกออกไป..เผจิญหน้ากัน...เขาเอา..ข้อมูลด้านลึก..เอกสารประวัติสาสตร์ของ..
    ผู้ที่มีการจดบันทึกไว้..ของแต่ละชาติ..หลังจากพ่ายแพ้แล้ว....
    ซึ่งเมื่อรวบรวม..และเอามาประเมินแล้ว....ซึ่งมันมีอื้อซ่า..เลยที่..เป็นสาเหตุ..
    ..แต่..๑. ในนั้น..ที่คาดไม่ถึงคือ...
    ....การข่าว....
    ...สมัยก่อนที่ฝรั่ง..รบกันเองนั้น..ก็มีอยู่..แต่มันเป็นการเฉพาะหน้า...ส่งสายสืบ
    ..เข้าไปหลังแนว...เพื่อบันทึกข้อมูล...และจะทำเมื่ออยู่ระหว่างการรบ..หรือ..
    เมื่อเริ่ม..รู้ว่า..จะต้องมีการรบ....ซึ่งเสี่ยงมาก..และ..ข้อมูลที่ได้จะไม่ละเอียด..
    ..เพราะต้องคอยระวังตัว..และ..ต้องรีบ..ส่งต่อข้อมูลไปให้..ฝ่ายตน...
    ......ซึ่งแตกต่างแบบ..ฟ้า..กับ..เหว...
    ..สำหรับ..มองโกล...เพราะ..มองโกล..ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้..เป็นอันดับ๑
    ...มีการจัดวางระบบ..ชัดเจน..มีการเตรียมการเป็นอย่างดี..ข้อมูลที่ได้..เป็น
    ข้อมูลที่ละเอียด..ค่อยๆเก็บไปแบบ..ไม่เร่งรีบ..ทะยอยส่งกลับไปฝ่ายตน..
    เรื่อยๆ..เพื่อจัดการทำแผนรบ..ข้อมูลเปลี่ยนแปลง..ปรับแผน..
    ....ผมจะไม่เล่ารายละเอียดในเรื่องนี้....เพราะจะไปอยู่รวมในอีกข้อ..
    เพราะผู้ที่..พัฒนาการข่าวทหารของ..มองโกลให้เหนือใครในโลก..
    ..และทำให้..เกิดการปฎิวัติด้านการข่าว..ในการรบของทหารยุคใหม่...
    ..ต้องมีการตั้ง..กรมข่าว..เป็นหน่วยใหญ่..มาตั้งแต่สงครามโลกครั้ง..ที่๑..
    ....โดยมีการวิเคราะห์แล้ว..ได้ข้อสรุปว่า....ผู้พัฒนานั้น..ก็คือ...

    ............พญาเหยี่ยวตาเดียว..SNOW WARRIOR…หรือ..ก็คือ..
    ............ยอดคน......สุโบไต บาฮาเดอร์...นั่นเอง........
    ..ทราบมั้ยว่า..วิธีและ..ระบบการข่าว..แบบที่สุโบไตใช้..เอามาใช้แบบเนียนมาก
    ..เกิดขึ้นในไทย...ผู้ที่ใช้คือ..ญี่ปุ่น..นั่นเอง..(ความจริง..ญี่ปุ่น..ก็ใช้ที่..
    เพิลร์ฮาเบอร์..ที่ฮาวายด้วย..รวมถึง..ที่มาเลย์..และ..สิงคโปร์)

    ..........ต่อพรุ่งนี้..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2014
  19. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    รอติดตามทั้งสองเรื่องครับคุณอา..เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นเลยครับ
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........................
    ....หวัดดี..เด็กบ่อผุด..April..porpek..น้องเด็กบ้านสะแก..และ..เฉียวฟงหลานรัก
    ..........................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว..
    ..................................

    ........................ผมว่า..มันเกิดขึ้น..จากตระกรุดประเภท..คาดเอว..แน่นอน
    แนวก็ต้อง..คงกะพัน..มหาอุตม์..เน้นด้านเอาไว้เพื่อกันอาวุธ..และ..อาจจะเกิด
    ขึ้น..เพื่อ..ทำให้ลูกหลาน..ชาวบ้านที่ต้องถูกเกณฑ์..ไปรบทัพจับศึก....
    ..แต่ขณะเดียวกัน..ที่ผมว่า..น่าจะเกิดขึ้นมา..ไล่ๆกัน..คือ..ไม่รู้ว่าอันไหน...
    ..มาก่อนสันิษฐานยาก..ก็คือ..พิศมร..หรือ..ตะกรุดที่ทำจากใบลาน..นั่นเอง
    ..พิศมร..ในครั้งแรกๆ..ผมเชื่อว่า..ไม่มีการถักหุ้มอะไร..
    ......เพียงแค่..ม้วนและ..มัด..ด้วยเชือก..การนำเอาไปติดตัว..นั้น..
    ...ง่ายมาก..เพราะเมื่อ..มีผ้าประเจียดนั้น..เราสามารถเอา..เครื่องรางขนาดเล็ก
    ..เช่น..ลูกอม(จะกล่าวถึงในภายหลัง)..พิศมร..ใส่รวมกันไปได้..ถ้ามีมาก..
    ก็เอาไปใส่อีกข้าง....
    ....เอาผ้าประเจียด(ที่ใช้มัดไว้ต้นแขน)..กางออกแล้วก็เอา..เอาเครื่องลางวาง
    บนผ้า..แล้วม้วนให้เป็น..เส้นกลม..แล้ว..ก็มัดผูกเงื่อนตายไว้ที่แขน..ซึ่งทำกัน
    มาจนถึง..ต้นรัตนโกสินทร์เลย...เวลาออกไปรบ..ไม่ว่า..ผ้าประเจียดที่ผูกคอ..
    หรือ..ผ้าประเจียดมัดต้นแขน..เขาจะไม่ถอดอีกเลย..จนกว่า..จะเสร็จศึกกลับบ้าน
    .....สำหรับพิศมรนี่..เนื่องจากทำด้วยใบลาน..ดังนั้น..ยันตร์..อักขระ..จะใส่ลง
    ไปได้ไม่มาก..(ตามที่เคยเล่าไปแล้ว)..ยันตร์ที่ใช้ก็เลย..เป็น..ยันตร์เฉพาะตัว..
    ..ที่ตกทอดมาถึง..ปัจจุบัน..
    .....สาเหตุที่ใช้ใบลานนั้น..ก็เพราะมันง่ายต่อการเขียนอักขระ..และ..บ้านเราเดิม
    ที..มันก็กระจายขึ้นอยู่ทั่วไป..บางโอกาศก็ต้องมีการนำเอา..เม็ดลาน..ไปเพาะ..
    แล้วเอามาปลูก..เพิ่มเติม..เพราะ..ยุคก่อน..ตำหรับ..ตำรา..พระไตรปิฎก..บทสวด
    ..ฯลฯ...นั้นก็ใช้ใบลาน..กันทั้งนั้น(กระดาษที่ทำจากต้นข่อย..นั้นเกิดขึ้นมาภายหลัง)
    ..และใบลานนั้น..ยังมีข้อดี..คือ..สามารถม้วนแล้ว..ใบจะไม่แตก..เพราะเหนียว..
    ......มายุคหลังนี่แหละ..ที่แทบจะหมดค่า..เลยถูกตัด..ไปเยอะ..หาดูไม่ง่าย..
    .......แต่ข้อเสียสำคัญ..ของมันก็คือ...ถ้าโดนชื้นๆ..สลับ..แห้ง..ไปเรื่อยๆ..มันจะแตก
    ..และ..เปื่อยได้...ทำให้..มีปัญหาด้านความทนทาน...วิวัฒนาการ..ที่ต้องการใช้..
    วัสดุแบบเดิมไม่เปลี่ยน..ก็พัฒนา..โดยหาอะไรมาหุ้มซะ..ให้มันกันน้ำได้...มันจะได้
    ทนทาน..
    ...........ดังนั้นคติ..การถักหุ้ม..แล้วทารักหุ้มอีกที..ผมว่า..น่าจะเริ่มมาจาก...
    ............พิศมร..นี่แหละ....
    ...สำหรับ...อาจารย์บางท่าน..ต้องการให้มันทนทานกว่า..นั้น..และ..ไม่ยุ่งยาก...
    ..ก็เลย..ต้องพัฒนาตัววัสดุแทน...ก็อาจจะเปลี่ยนใจไปใช้ตาม..พวกตะกรุด..คาดเอว
    ..ตระกูล..ตะกรุดโทน..หรือ..ตระกรุดมหารูด...ก็คือ..การใช้..โลหะที่ตีเป็นแผ่นแทน..

    ...........ต่อตอนหน้า..............
     

แชร์หน้านี้

Loading...