สูญตา คือ นิพพานชั่วคราว

ตอบไม่ได้แสดงว่าไม่เคยบวช หรือครับ

 

นั่นไงครับ

 

หลวงพ่อท่านกล่าว เป็นภาษาบาลีน่ะครับ แปลไม่ออกครับ

 

นั่นไงอะไร คนนะนั่น ไม่ไช่มนุษย์ อย่าเป็นศรีธนนชัยนะครับ
ถ้าคุณ เป็นคนไม่ยอมรับความจริง กรรมนี้จะเป็นตัวชี้วัด ความเป็นมนุษย์ในตัวคุณ ถ้าคุณไม่ยอมรับความจริงในสิ่งที่ตนรู้และเข้าใจ คุณจะปิดทางบรรลุธรรม ไปเลยนะครับ

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม งั้นผมหยุดเสวนากับคุณเพียงแค่นี้นะครับ เพราะคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลย

 

เลิกๆเน้อ!! คุณใจของกาย เนื้อธรรมไม่มีแล้ว ไปต่อกระทู้โน้นดีกว่าครับ ซัดกระทิงแดงไปนี่ ได้ผลจริงๆ

 

ผม ราโอ อิอิ

 

โอเคครับ ราโอ .... แต่จริงๆผมหายูเรียนะ ยังไม่เจอซะที 555

 

ร้านขายปุ๋ย มีเยอะแยะ หายังไง ไม่เจอฟะ

 

555+ ปุ๋ยยูเรีย สงสัยต้องซื้อซักกระสอบแล้วครับ

 

ง่วงละ วันนี้ คุยอย่างหนัก
ไม่ได้พัก ไม่ได้กิน สิ้นเรี่ยงแรง ลงแดงเหมือนคนผิดหวัง
เนื้อไม่ได้กิน กระดูกไม่ได้แทะ หนังไม่ได้เอามารองนั่ง
น่าชิงชัง นายเคนชิโร่ เอาเปรียบเรา

 

เป็นธรรมดา ของโลก มีให้รู้
เป็นคู่อยู่ เกือบทุกสิ่ง สมมุติหมาย
สมมุติกับวิมุติ รูปกับอรูป เหมือนใจกาย
คนไม่ตาย มีผู้รู้ กับผู้ที่ไม่รู้ อยู่สองคน

 

รูปกับนาม แม้นรู้แจ้ง จริงเชิงลึก
ไม่ต้องนึก ไม่ต้องคิด หาคำถาม
เป็นธรรมชาติ เกิดร่วม ประกอบกาม
ภพลือนาม ว่าวัฏะ ทุกข์ทะเล

แม้นใครรู้ เห็นจริง ตามสติปัฏฐานสี่
เป็นยาดี เพิ่มปัญญา อวิชชาหาย
เหลือรูปนาม แค่สอง ใจของกาย
เลิกมั่นหมาย ว่าตัวตน ผลนิพพาน

 

เขาอ้างว่า เขาเป็นเด็ก ผมเป็นผู้ใหญ่
ต้องกว้างไง ใจแน่นหนัก กว่าขุนเขา
รวมทะเล มหาสมุทร กว้างที่เรา
เขายังเยาว์ เราแก่แล้ว ต้องเข้าใจ

เขาทำผิด เขาทำได้ เพราะเป็นเด็ก
ถือว่าเล็ก เราใหญ่กว่า อย่าเบียดเขา
เขาชนเรา เราผิด โทษที่เรา
เพราะเราใหญ่ กว่าพวกเขา ต้องระวังตัว

มีคนอ้าง เป็นคนดี ตีไม่ได้นะ
ถ้าคิดจะ เป็นคนดี ตีใครไม่ได้
เพราะดีแล้ว ห้ามกระทำ ร้ายกับใคร
ส่วนคนอื่น ทำเราได้ เราคนดี

นี่แหล่ะหนอ ความคิด คนเรานี้
ว่าคนดี ห้ามสวนกลับ ห้ามขยับหนี
ว่าของแท้ ไม่แพ้ไฟ คือทองดี
คนแบบนี้ มีมากมาย ในโลกเรา

ไม่เคยคิด ว่าเป็นคน เท่าเทียมหรือ
คนดีคือ คนเหมือนกัน ไช่ไม่บุบสลาย
เลยไม่คิด เป็นคนดี ไม่สนใง
เลยจนใจ ที่จะดี เพราะกลัวเกรง

กลัวตนเอง จะถูกทุบ จะถูกเผา
กลัวถูกเขา ทดลองใจ ไล่ข่มเหง
เพราะเคยทำ กับคนอื่น เลยกลัวเกรง
เป็นนักเลง กลัวตนเอง ถูกกระทำ

เขาบอกว่า ผมผู้ใหญ่ ต้องเสียสละ
แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร ชอบเย้ยหยัน
ผมเป็นมาร ชนะอยู่ ชนะทุกวัน
ส่วนเขานั้น เป็นพระ ที่แพ้เป็น

ส่วนตัวผม แพ้ไม่เป็น มารมาเกิด
ถูกมารเชิด มารชักจูง ฝีมือระดับอรหันต์
ส่วนเขาทั้งหลาย เป็นคนดี ร่วมด้วยช่วยกัน
ผมคนเดียวนั้น รุมพวกเขา ยังผิดเลย

แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร ใครกำหนด
หรือประชด ที่ตัวเอง ถูกเย้ยหยัน
แพ้เพราะผิด แพ้เพราะไม่ถูก ไม่คิดกัน
ว่าแต่ว่า ผู้ชนะนั้น มารตัวจริง

แต่ความจริง มีสิ่ง ที่บอกอยู่
บอกให้รู้ ว่าสองฝ่าย สู้กันนั่น
ถ้าคนดี จะมาสู้ ทำไมกัน
แพ้ชนะนั้น เรื่องคนพาล ใช้กำลัง

เป็นผู้แพ้ แพ้เพราะสู้ ร่วมสู้อยู่
เป็นผู้ขนะนั้น ก็สู้อยู่ อย่างแข็งขัน
สู่กันเอง กัดกันเอง ตะลุมบอลพันละวัน
พอแพ้นั้น บอกเป็นพระ น่าอนาถใจ

 

ไม่ใช่ว่า บวชแล้วจะไม่ใช่มนุษย์ไปเป็นสมมติสงฆ์ครับ
พิธีการบวช พุทธองค์กำหนดำว้เฉพาะมนุษย์
ก็อันว่าเรื่องเล่าที่คนหมู่มากเชื่อถือกันเรื่องพยานาค แอบมาขอบวชบ้าง ยักษ์มาขอบวชบ้าง
พุทธองค์ทรงเห็นว่า มนุษย์เท่านั้นที่ได้ประสบกับอุปาทานขันธ์ มีทุกข์มากพอที่จะทำให้คิดได้ และบรรลุได้
พวกเทวดา ยักษ์ นาค มีแต่ความสุขความสบาย กายภาพก็แตกต่าง บวชไปก็ยากที่จะบรรลุ เพราะทุกข์น้อย
สรุป ที่ถามว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ ก็ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่ให้บวช
จริงๆแล้วตุ๊กแต๋ว ก็ไม่ให้บวชนะ เพราะไม่แมน
ขันธีไม่มีเม็ด ก็บวชไม่ได้เหมือนกัน เงื่อนไขเขาว่างั้น

ไม่เกี่ยวเลยว่า เป๋นมนุษย์ บวชแล้ว ไปเป็นอย่างอื่น
สมมติสงฆ์ , อริยสงฆ์ ก็มนุษย์ทั้งนั้นครับ

 

ถ้าคุณไม่เห็นความต่าง งั้นให้คุณดูว่า เพราะอะไร

ฆราวาสมีศีลแค่ 5 แต่พระทำไม มีศีลถึง 227 ล่ะครับ

และศีล 227 เขาให้พระทำตัวเหมือนฆราวาสหรือครับ นั่นสมมุติบัญญัติ มีของเขาอยู่
ทำไมคุณไม่ทำความเข้าใจให้มันง่ายๆ ล่ะครับ

 

แหม๊!!! กลอนเพราะเน๊อะ อันนี้ชมจริงๆนะครับ


คณ ใจของกายครับ อายุเท่าไหร่ครับ อยากรู้จัง
ผมบอกก่อนนะ 2x ขวบอ่ะ ส่วนคุณใจของกาย น่าจะอาวุโสกว่าผมนะผมเดา ยังไงผมก็ให้ความเคารพ
ในฐานะที่อาวุธโสกว่านะครับ


ส่วนกระทู้นี้ ผมก็มาช่วยอธิบายให้ไงครับว่าท่านพุทธทาส ไม่ได้กล่าวผิด มันเป็นธรรมะชั้นลึก
ที่คนอ่านไม่เข้าใจ ก็ไปปรามาสท่าน ในนี้ไม่เท่าไหร่นะครับ ถ้าในพันทิปล่ะก็ นั่นเป็นมหากาฬเลย
เห็นแล้วก็ให้ชวนสงสาร ผมน่ะเคยอ่านของท่านพุทธทาสเล่มเดียวนะ "คู่มือมนุษย์" แค่นี้ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ก็เลยจะมาบอกคุณ ใจของกาย ว่าอะไรเราไม่รู้ ไม่ถึง ไม่เข้าใจ ก็เว้นไว้เน๊อะ อย่าพาตัวไปเฉียดขอบอบายภูมิเลย
ยิ่งนิมิตรอะไรนั่นแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลยนะครับ...

 

ไปเป็นพระ รูปเป็นพระ หรือนามเป็นพระ
รูปเป็นพระ ก็คือความ โกนห่มเหลือง
นามเป็นพระ ก็มี227ข้อ บอกเนืองเนือง
ห่มผ้าเหลือง อยู่แบบมนุษย์ หรืออย่างไร

 

ถ้าคุณอ่านตามที่ผมชี้แจงนะ ผมไม่ได้ว่า ท่านพุทธทาส เป็นคนไม่ดีหรอกนะ
ท่านผิดแค่ อวดอุตริมนุษย์ธรรมในเรื่องการเอาสุญตามากล่าวว่า อันเดียวกันกับนิพพาน เท่านั้นเอง

คู่มือมนุษย์นั้นดีมาก ถ้าไม่ไช่พระเป็นผู้เขียน เพราะเวลาที่ท่านพุทธทาสเขียน ท่านเอาความเป็นมนุษย์ในตัวท่านมาเขียน เพราะถ้าท่านไม่ได้เอาความเป็นมนุษย์มาเขียน ท่านจะเข้าใจได้มากขนาดนั้นได้อย่างไร

มันผิดก็ตรง ท่านพุทธทาสเอาความมนุษย์ในตน มาเขียนคู่มือมนุษย์ นั่นแหล่ะ

คุณลองคิดสิ ว่า หนังสือคู่มือมนุษย์ จะเอาความเป็นพระมาเขียนไม่ได้หรอก แสดงว่า เวลาเขียนหนังสือเล่มนี้ ท่านพุทธทาสเอาใจออกจากความเป็นพระแล้ว ถึงมาเขียนได้

ถ้าจะเปรียบก็เหมือน ให้พระรูปหนึ่ง มาบอกมาสอนมาแสดงการใช้ชีวิตให้แก่ฆราวาสว่า จะต้องทำตัวเป็นมนุษย์อย่างไรบ้าง นั่นเอง พอเห็นภาพมั้ย ที่ผมพูดมาเนี่ย คุณเห็นภาพพระมาถือคันไถทำไร่ทำนา สอนมนุษย์ให้รู้จักการแต่งงานการเป็นผัวเมียกัน อิอิ

ผิดมั้ย ทีนี้

 

====================

อันนิพพาน รสเลิศ กว่ารสใด
กายของใจ ทิ้งไป หาไหนหนอ
คงเหลือใจ ของกาย รู้ทันพอ
รู้แล้วหนอ ก็แค่ ปล่อยวางไป

นี่นะหรือ ที่เรียก ใจของกาย
แยกส่วนได้ ไม่ยึด กายให้หมอง
ใจแท้จริง ก็ไม่มี ในครรลอง

ใจหรือจิต ประภัสสร ว่างเปล่า
มองหา ย่อม หาไม่มี

ในสมมุติ ย่อมมี คือสมมุติ
ในวิมุติ ปราศแล้ว สมมุติใด
ในวิมุติ วิมุติไซร้ หลุดพ้นจริง

หากยังมี สมมุติ เกิดปรากฏ
จะไปหา วิมุติ ไม่เกิดเห็น
ก็วิมุติ ของแท้ ปล่อยวางเป็น
ปล่อยวางคนสัตว์สิ่งของว่าไม่มี

ปล่อยวางรูป ปล่อยวาง นามหมดสิ้น
ปล่อยวางดิน น้ำลมไฟ ว่าไม่มี
ปล่อยวางแม้ พระธรรม นำวิถี
ปล่อยวาง อันความมี ว่าไม่มี
หมดสิ้นเอย