ติดตามสถานะการณ์

Jeerachart Jongsomchai

... “สก๊อตแลนด์อยากแยกตัวจากอังกฤษเพราะน้ำมัน ... สหภาพยุโรปอาจจะพัง”


.
https://www.facebook.com/photo.php?...34424510396.2081333.1530201845&type=1&theater

... “สก๊อตแลนด์อยากแยกตัวจากอังกฤษเพราะน้ำมัน ... สหภาพยุโรปอาจจะพัง”

... ก่อนนั้นมีสงครามระหว่างกันมาตลอดหลายร้อยปี แต่ตั้งแต่ปี 1604 ก็รวมเป็นหนึ่งภายใต้กษัตรย์เจมส์ที่ 6 แห่งสก๊อตก็สืบอำนาจต่อจากพระนางอลิซาเบธที่ 1 ปกครองทั้งสองอาณาจักรสืบมา แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ก็มีความพยายามจะแยกตัวออกมาโดยตลอด

... ครั้งนี้ก็เช่นกัน และถ้าสก๊อตแลนด์แยกจากอังกฤษได้ในรอบ 307 ปี จะกระทบกับยุโรปในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เพราะตั้งแต่มีข่าวการจะโหวตแยกตัว “ค่าเงินปอนด์” ของอังกฤษตกต่ำลงเรื่อยๆตลอดเวลาสิบเดือนที่ออกข่าวมา เพราะมีความไม่แน่นอนว่า ”ค่าเงินสกุลอะไร" ที่สก๊อตแลนด์จะใช้ในอนาคต และแน่นอนจะกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะกับอังกฤษ

... กลุ่มที่ต้องการรณรงค์แยกตัวเป็นเอกราชบอกว่ายังต้องการที่จะใช้เงินปอนด์ต่อไป แต่นักกฎหมายหลายคนของสหราชอาณาจักรบอกว่าพวกเขาไม่พร้อมที่จะร่วมใช้ด้วยแต่ถ้าหากต้องใช้ร่วมด้วยจริงๆ ธนาคารกลางของอังกฤษก็จะยืนยันในกฎเกณท์ที่ควบคุมงบประมาณที่จำกัด ที่อาจจะกระทบกับนโยบายรัดเข็มขัดที่ยากลำบากของสก๊อตแลนด์ได้

... Alex Salmond ผู้นำชาตินิยมสก๊อตแลนด์ปฎิเสธที่จะบอกว่าเขามี ”แผนสอง” อย่างไรในการแก้ปัญหานี้ จะดื้อดึงใช้เงินปอนด์ต่อไปโดยไม่ได้รับอนุญาติจากอังกฤษหรืออาจจะลองใช้เงินสกุลใหม่เลย โดยไม่ต้องทดสอบก่อน และน่าจะไม่ใช่ยูโร

... ส่วนเรื่องหนี้สิน ถ้าสก๊อตแลด์แยกออกมาจะเป็นหนี้ทันที 130,000 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 10% ของหนี้สาธารณะทั้งหมดของสหราชอาณาจักรแต่อังกฤษ(ในที่นี้คือ สหราชอาณาจักร UK ) บอกหนี้ส่วนนี้จะดูแลค้ำประกันให้ ทางผู้ต้องการแยกตัวก็บอกว่าสก๊อตแลนด์จะบริหารได้ดีขึ้นเรื่อยๆและรับปัญหาไหวแน่นอน, Standard & Poorบอกว่าเศรษฐกิจสก๊อตแลนด์จะมีขนาดเท่าโปรตุเกศและจะไม่ค่อยแข็งแรงนักเพราะต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมอย่างหลักแค่ “น้ำมันและแก๊ส” อาจจะผันผวนได้ง่าย ไม่มั่นคง

... เรื่องทั้งหมด “เกี่ยวข้องกับน้ำมัน” อังกฤษเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของสหภาพยุโรป ( EU) ซึ่งดูเหมือนว่า 90% นั้นมาจากดินแดนที่สก๊อตกำลังจะขออ้างเป็นเอกราชอยู่ อังกฤษเองก็เหมือนว่าต้องการจะแบ่งปันการผลิตและน้ำมันสำรองร่วมกับสก๊อต แต่นักวิเคราะห์คาดว่าการตกลงจะจบลงที่การแบ่งส่วนทรัพย์สินอย่างชัดเจนมากกว่า

... ปัญหาคือ "น้ำมันและแก๊ส" แท้จริงแล้ว เหลือเท่าไหร่ ทางสก๊อตบอกว่าเหลือมูลค่ามากถึง 1.5 ล้านล้านปอนด์ แต่อังกฤษเองบอกว่าไม่มากขนาดนั้นแค่เพียง 1 ใน 10 ของจำนวนที่สก๊อตอ้างแค่นั้นเอง

... สถาบันการเงินของอังกฤษในสก๊อตเช่น Royal Bank of Scotland (RBS) และ Lloyds (LYG),อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกระแสการแยกตัว และสถาบันการเงินและสถาบันทางเงินของสก๊อตเองก็จะใหญ่ถึง 12 เท่า กว่าขนาดเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจะยากต่อการรับมือถ้าเกิดเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินขึ้นมา ( คล้ายๆกับไซปรัส ) ธนาคารและบริษัทประกันใหญ่มีแนวโน้มว่าจะย้ายออกจากสก๊อตแลนด์ บางแห่งเก่าแก่มากถึง 190 ปี

... “จะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อหรือไม่?” กลุ่มผู้ต้องการแบ่งเอกราชยังต้องการให้สก๊อตอยู่ใน EU ซึ่งตามขั้นตอนต้องมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่และให้สมาชิกเก่าทั้ง 28 ประเทศรับรอง ซึ่งขั้นตอนบางอย่างอาจจะยังลังเลอยู่เพราะกลัวว่าไปหนุนการแยกตัวของสก๊อตแลนด์ เพราะการแยกไปอาจจะกระทบและทำลายสถานะของสหราชอาณษจักรได้

... เดวิด คาเมรอน สัญญาว่าถ้าเขาชนะการเลือกตั้งสมัยหน้าจะโหวตให้สิทธิในการรักษาไว้ซึ่งความเป็นสมาชิกใน EU ของสหราชอาณาจักรในปี 2017 ต่อไปอย่างแน่นอน เพราะมีบางกระแสที่อยากให้ สหราชอาณาจักรถอนตัวจากการเป็นสมาชิก EU และเกรงว่าการที่สก๊อตแยกตัวออกมา อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้ฝ่ายที่ต้องการให้ออกจาก EU ชนะ และถ้าการที่ UK ออกจริงๆอาจจะกระทบต่อโครงสร้างทั้งทางการเงินการค้าการเมืองของสหภาพยุโรปได้มากแน่นอน

... นาย Robert Wood, หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ธนาคาร Berenberg ของ UK ได้กล่าวเตือน ( เหมือนขู่ไว้ บอกว่าไม่อยากให้ EU รับสก๊อตเป็นสมาชิก ) "ส่วนที่เหลือของอังกฤษนั้น ถ้ามีการเสียสก๊อตที่นิยม EU ไปจริง อาจจะเป็นการเสี่ยงที่ทำให้ UK ออกจาก EU ได้เช่นกัน “ ( เหมือนบอกว่าให้เลือกเอาระหว่าง อังกฤษที่เหลือกับสก๊อต, EU จะเลือกเอาใคร

... [ เหมือนเป็นกรรมเวรของอังกฤษที่ครั้งหนึ่งไปแบ่งแยกย่อยซอยหั่นประเทศคนอื่นชาวบ้านมาทั่วโลกทั้งอิรัก คูเวต บรูไน เพราะเรื่องน้ำมัน แต่มาวันนี้เรื่องน้ำมันกำลังจะทำให้สก๊อตตีตัวออกห่างตัวเองเข้าให้แล้ว ...]

.
5 reasons to worry about Scottish independence - Sep. 9, 2014
Timeline - A history of Anglo-Scottish relations | Reuters

 

ภาพงูเหลือมบนกรมหลวงชุมพร ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพ



เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 57 คุณ Salawut Chimpan ออกมาโพสต์ภาพเหตุการณ์สุดลึกลับเกี่ยวกับ ภาพงูเหลือมบนกรมหลวงชุมพร ที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปี และโพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังนี้

"พี่น้องครับเคยได้ยินแต่เรื่องเล่า...งูเหลือม ขึ้นกรมหลวงชุมพร 20กว่าปี ก่อนบ้างป่ะครับ เป็นเรื่องจิงนะครับ เพิ่งจะได้เห็นภาพก้อวันนี้แหละครับ เห็นแล้วขนลุก สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเห็นภาพดังกล่าว กับสิ่งที่หน้าแปลกและหน้าอัศจรรย์มากๆ #ผู้ใดไลค์ #ผู้ใดแชร์ ขอให้พบเจอแต่ เรื่องดีๆ รวยๆๆ เฮงๆๆ ให้เคดิสรูปภาพด้วยนะครับ กว่าจะได้เห็นรูปภาพ หายากมากๆๆ

ทั้งนี้ หลังภาพงูเหลือมบนกรมหลวงชุมพร ถูกแชร์ออกไปทั่วโลกออนไลน์ บรรดาชาวเน็ตไทยต่างออกมาไลค์และแชร์ภาพดังกล่าวเพื่อความสิริมงคลในชีวิตตัวเอง







ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

Salawut Chimpan

เรียบเรียงข้อมูลโดย

Boxza.com

ภาพงูเหลือมบนกรมหลวงชุมพร ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพ - ข่าว ภาพงูเหลือมบนกรมหลวงชุมพร งูเหลือม งู

 

"โอบาม่า" เตรียมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มนักรบ IS
เรื่องโดย Nation TV
วันที่ 11 กันยายน 2557 08:27 น.1,603 views
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ แถลงเมื่อคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า พร้อมที่จะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มนักรบ IS ในซีเรีย อันเป็นการขยายแผนการต่อสู้กับกลุ่มนักรบญีฮัดที่ดำเนินอยู่แล้วในอิรัก โดยบอกว่าจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการกับกลุ่ม ISIL ในซีเรีย เช่นเดียวกับในอิรัก
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ แถลงเมื่อคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาพร้อมที่จะใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มนักรบ IS ในซีเรีย อันเป็นการขยายแผนการต่อสู้กับกลุ่มนักรบญีฮัดที่ดำเนินอยู่แล้วในอิรัก โดยบอกว่า เขาจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการกับกลุ่ม ISIL ในซีเรีย เช่นเดียวกับในอิรัก

ถ้อยแถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของประธานาธิบดีโอบาม่า มีขึ้นเพื่อเรียกร้องให้สภาคองเกรสส์ ไฟเขียวให้กับเขาในเรื่องของการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และทรัพยากรในการฝึกและติดอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านในซีเรีย

ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า จะขยายการใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่ม IS ในอิรัก และส่งทหารอีก 475 นาย ไปฝึกให้กับกองกำลังในท้องถิ่น เขาบอกว่า กำลังทำงานร่วมกันบรัฐบาลอิรักและจะขยายความพยายามที่นอกเหนือจากการปกป้องประชาชนสหรัฐ และภารกิจด้านมนุษยธรรมซึ่งก็คือการช่วยโจมตีเป้าหมายกลุ่ม IS ขณะที่กองกำลังของอิรักเข้าโจมตีด้วย

 

เข้ามาติดตามทุกวันนะคับ เป็นกำลังใจให้คับ...

 

เป็นกำลังใจแสดงออกด้วยกดlike งุงิงุงิ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

ภูเขาไฟ Slamet ของอินโด เกิดระเบิดรุนแรงพ่นลาวาไหลท่วมและควันลอยสูง 1,500 เมตร



ภูเขาไฟ Slamet ซึ่งตั้งอยู่ใน จ. ชวากลาง ของประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดปะทุขึ้นอย่างรุนแรงเป็นรอบที่ 2 ส่งผลทำให้มีลาวาไหลท่วมภูเขาและควันเถ้าถ่านลอยสูงถึง 1,500 เมตร ทั้งนี้ทางการรายงานว่า มีประชาชนราว 20,000 กว่าราย ที่อาศัยอยู่ในรัศมีห่างจากภูเขาไฟเพียง 5-6 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งส่งผลทำให้ทางการต้องสั่งเตรียมสแตนด์บายรถบรรทุกพร้อมที่จะอพยพโดยด่วนหากสถานการณ์เริ่มไม่ดีขึ้น และได้มีการแจกหน้ากากกันควันฝุ่นให้กับประชาชนอีกอีกด้วย



ส่วนทางด้านภูเขาไฟ Lokon ในเมืองโทโลฮอน อยู่ทางเหนือเกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซีย ได้ส่งสัญญาณอาการปะทุควันเถ้าถ่านขึ้นเล็กน้อย ลอยออกไป 100-150 เมตร



ภูเขาไฟ Slamet ของอินโด เกิดระเบิดรุนแรงพ่นลาวาไหลท่วมและควันลอยสูง 1,500 เมตร | สถานการณ์ภัยพิบ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ลิงก์

สภาพอากาศหนาวจัดและหิมะตกผิดฤดูกาลที่สหรัฐฯ



วันที่ 14 ก.ย.57 หลายพื้นที่ทั่วทางตอนเหนือของสหรัฐฯ ยังคงเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -1 ถึง 10 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่เช่น รัฐเซาธ์ดาโกตา มีหิมะตกอีกด้วย โดยตามปกติฤดูหนาวของสหรัฐฯจะต้องเริ่มตั้งแต่เดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์



รายงานระบุว่า สหรัฐอเมริกา มีการบันทึกเรื่องการตกของหิมะครั้งแรกในเมืองแรพิด ซิตี้ รัฐเซาธ์ดาโกตา เมื่อปี 1888 โดยปรากฏการณ์หิมะตกหนักนอกฤดูกาลก่อนหน้านี้มีบันทึกไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 กันยายน 1970 ส่วนครั้งนี้เกิดขึ้นวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งห่างกัน 2 วัน จึงกลายเป็นสถิติใหม่ของการเกิดหิมะก่อนฤดูกาลที่เร็วที่สุดในแถบนี้





สภาพอากาศหนาวจัดและหิมะตกผิดฤดูกาลที่สหรัฐฯ | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



เหตุการณ์พายุสุริยะหรือ CME ระดับ X1.6 ในวันที่ 13 กย. ส่งผลทำให้เกิดพายุแม่เหล็กชั้นบรรยากาศโลกระดับ G3(Kp = 7) จนปรากฏแสงออโรร่าขึ้นที่ขั้วโลกเหนือ ส่วนพายุรังสีอนุภาคสูง ตอนนี้กำลังลดระดับลงจนไม่มีรังสีเหลืออยู่ในชั้น แถบรังสี แวน แอลเลน(Van Allen Belts) อีกแล้ว เป็นเพราะว่า CME X1.6 พาพัดเอาโปรตอนพลังงานสูงในสนามแม่เหล็กโลกออกไปจนหมด



(อัพเดทเพิ่มเติม) ส่วนแนวการปะทะของพายุสุริยะลูกนี้นั้น มีทิศทางเบี่ยงเบนขึ้นเหนือ หรือก็คือ แกน Bz เป็น + ซึ่งถือว่าเป็นการส่งผลที่ดีต่อสนามแม่เหล็กโลกเพราะมันวิ่งไปทางเดียวกัน ทำให้ช่วยลดความรุนแรงของพายุสุริยะลูกนี้ลงได้มากเลยทีเดียว



ช่วงนี้คอยจับตาดูกลุ่มเมฆฝนร่องมรสุมพาดผ่าน ซึ่งจะมีการก่อตัวขึ้น หรือหย่อมความกดอากาศต่ำและพายุหมุนอาจพัฒนาตัวเองให้มีกำลังแรงงงงงง โดยเฉพาะจากรังสี X-ray ที่ตรวจพบนอกโลกมีมากกว่าปกติในช่วงนี้นั้น จะช่วยให้โมเลกุลของน้ำ และธาตุอื่นๆในอากาศแตกตัวเป็นประจุไฟฟ้าได้มากเป็นพิเศษ เริ่งปฏิกิริยาการก่อตัวของน้ำในชั้นบรรยากาศโลก และลมพายุ โดยเฉพาะในบริเวณใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ตามทฤษฏีไฟฟ้าครับ



เหตุการณ์พายุสุริยะหรือ CME ระดับ X1.6 ในวันที่ 13 ก.ย.57 | สถานการณ์ภัยพิบัติ

 

"ไข่ยางมะตูม" แสนอร่อยสุดน่ากิน
วันที่ 12 กันยายน 2557 เวลา 15:52 น.



เป็นที่ฮือฮาเมื่อชาวเน็ตต่างพากันแชร์ทวิตเตอร์ของคุณ @Boylovemusic ที่ได้เผยแพร่รูปภาพและใช้ชื่อรูปภาพว่า "ไข่ต้มร้านนี้ Is The Best" โดยในภาพเป็นไข่ต้มยางมะตูมที่ไข่แดงพ้นออกมาข้างนอก ยิ่งเห็นยิ่งดูน่ากิน วันนี้เราจึงนำวิธีทำไข่ต้มยางมะตูมมาฝากกันค่ะ จะทำยังไง ไปดูกันเลย



วัตถุดิบที่ต้องใช้

1. ไข่เป็ดเก่าหรือไข่เป็ดสดนำไปตากแดด 1 แดด
2. เกลือ

วิธีทำ
1.นำไข่ใส่หม้อ เติมน้ำลงไปในหม้อระดับน้ำไม่ท่วมไข่ จากนั้นใส่เกลือเพื่อไม่ให้เปลือกไข่แตก
2.แล้วตั้งไฟระดับปานกลาง ห้ามคนเด็ดขาดไม่อย่างนั้นไข่จะสุกทั่วใบจะออกมาไม่เหมือนในรูป
3.ใช้เวลา 2 นาทีครึ่ง ให้นับจากน้ำเริ่มเดือด พอถึงเวลาที่กำหนดให้ปิดไฟ ตักไข่ใส่น้ำเย็นทันที แค่นี้จะได้ ไข่ต้ม แบบในรูปแล้วล่ะจ้ะ

ซึ่งทางเจ้าของต้นตำรับได้ระบุว่าไข่เป็ดเก่าคือกุญแจสำคัญ เนื่องจากไข่แดงจะลอยขึ้นมาเกาะตัวข้างบน ทำให้เมื่อต้มเฉพาะไข่ขาวสุกก็ทำให้มีไข่แดงโผล่พ้นออกมา

ขอบคุณภาพจาก Twitter @BoyloveMusic และวิธีทำจาก Catdumb

เรียบเรียงข้อมูลโดย Smart SME

ที่มา : Smart SME

"ไข่ยางมะตูม" แสนอร่อยสุดน่ากิน

 

วิธีการตรวจสอบ "ถูกแอบมองอยู่หรือไม่่"
by Nation TV | วันที่ 9 กันยายน 2557 18:28 น.


แนะตรวจสอบกระจกก่อนถูกแอบมอง


ใครที่ใช้บริการห้องน้ำสาธารณะหรือห้องแต่งตัว ทั้งในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรม อาจจะวิตกเรื่องการถุก"แอบมอง" หรืออาจจะถูกแอบถ่ายภาพไปเผยแพร่

วันนี้ ขอแนะนำวิธีการตรวจสอบว่าปลอดภัยหรือไม่

วิธีการตรวจสอบ เริ่มด้วยการนำนิ้วไปจิ้มที่กระจก ซึ่งหากนิ้วคุณกับกระจกชนกัน (แบบภาพซ้าย) แสดงว่าเป็นกระจกสองด้าน ซึ่งหมายถึงถ้ามีคนแอบดูอยู่ เขาก็จะเห็นและถ่ายภาพคุณได้ ถ้าเจอแบบนี้ให้ระวัง

แต่ถ้าใช้วธีการเดียวกัน แล้วมีช่องว่างระหว่างนิ้ว (แบบภาพขวา) แสดงว่าเป็นกระจกปกติที่มองจากข้างนอกไม่เห็นอะไร
เป็นวิธีการตรวจสอบง่าย ๆ ที่ใช้ได้ดี

วิธีการตรวจสอบ "ถูกแอบมองอยู่หรือไม่่" - Nation TV

 

'แกว่งแขน' ท่าไม่ยาก ได้ประโยชน์มากหลาย
11 กันยายน 2557 เวลา 09:31 น.



คนส่วนใหญ่เมื่อได้ยินคำว่า "ออกกำลังกาย" มักนึกถึงการเล่นกีฬาหนักๆให้เหงื่อออก หรือต้องไปฟิตเนสเป็นชั่วโมงๆ และให้เหตุผลในการไม่ออกกำลังกายด้วยคำว่าไม่มีเวลา วันนี้จึงขอแนะนำวิธีง่ายๆ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก นั่นก็คือ "การแกว่งแขน"


การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยให้ร่างกายห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่ด้วยลักษณะการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยขยับเปลี่ยนท่า หรือเรียกได้ว่าสิงสถิตอยู่หน้าคอมฯไม่ไปไหน ซึ่งหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้ ฉะนั้น จึงควรขยับตัว เปลี่ยนอิริยาบทเป็นระยะๆ เช่น การลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย บิดขี้เกียจ หรือเดินไปเดินมา รวมถึงการแกว่งแขนไปมาก็ช่วยได้ แต่ใครหลายคนก็ยังสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไรที่การแกว่งแขนจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น


"การแกว่งแขน" เป็นศาสตร์ของแพทย์แผนจีนที่สืบทอดต่อกันมานานหลายพันปีแล้ว การแกว่งแขนเป็นวิธีกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่บริเวณรักแร้ให้ทำงาน เมื่อระบบต่อมน้ำเหลืองของเราหมุนเวียนได้อย่างสะดวก ก็จะช่วยให้อาการเจ็บป่วยของเราดีขึ้นได้ แต่ในทางกลับกัน หากระบบต่อมน้ำเหลืองติดขัด ก็จะเกิดการอักเสบ บวมตามจุดที่น้ำเหลืองไหลเวียน เช่น ลำคอ หลังใบหู ท้ายทอย หน้าอก รักแร้ ท้องแขน หน้าท้องกึ่งกลางระหว่างหน้าอกกับสะดือ บริเวณขาหนีบ นั่นเพราะน้ำเหลืองไม่มีการสูบฉีดเหมือนระบบเลือด ดังนั้น ต้องอาศัยการออกกำลังกายเท่านั้นจึงจะช่วยให้น้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้น


การแกว่งแขน ช่วยอะไรได้บ้าง?

- ช่วยลดการสะสมของไขมัน หากใช้การควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะการแกว่งแขนจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ช่วยลดความเครียด
- ช่วยลดอาการปวดบ่า คอ ไหล่ จากการทำงาน
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด (มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่นำผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 มาฝึกออกกำลังกายด้วยการแกว่งแขน นาน 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน รวม 8 สัปดาห์ ภายหลังพบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้)
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคออฟฟิศซินโดรม ไม่ว่าจะเป็นนิ้วล็อก มือชา ไหล่ติด จากการนั่งทำงานงก ๆ อยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์ หากลุกขึ้นมาแกว่งแขนให้เลือดลมได้ไหลเวียนเสียหน่อย
- ช่วยชะลอการเสื่อมของเข่า เพราะการแกว่งแขนนั้นไม่มีการกระแทกน้ำหนักลงที่ส่วนขาเหมือนกับการวิ่ง หรือการขี่จักรยาน จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า หรือขาด้วย
- ช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า


แกว่งแขนท่าไหนจึงจะเห็นผล?

ออกกำลังกายทั้งที ถ้าไม่เห็นผลจะทำไปทำไม ฉะนั้น มาดูเทคนิคแกว่งแขนให้ได้ผลของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แนะนำไว้กันดีกว่า

ท่าแรก ยืนตัวตรง เข่าไม่งอ แยกเท้าทั้งสองข้างออกจากกัน โดยมีระยะห่างประมาณความกว้างหัวไหล่

ท่าที่ 2 ปล่อยมือทั้งสองข้างลงตามธรรมชาติ อย่าเกร็ง ให้นิ้วมือชิดกัน หันอุ้งมือไปข้างหลัง

ท่าที่ 3 หดท้องน้อยเข้า เอวตั้งตรง เหยียดหลัง ผ่อนคลาย กระดูกลำคอ ศีรษะ และปาก ผ่อนคลายตามธรรมชาติ


ท่าที่ 4 จิกปลายนิ้วเท้ายึดเกาะพื้น ส้นเท้าออกแรงเหยียบลงบนพื้นให้แน่น ให้แรงจนกล้ามเนื้อโคนเท้า โคนขา และท้องตึงเป็นใช้ได้


ท่าที่ 5 ควรงอบั้นท้ายขึ้นเล็กน้อย ระหว่างบริหารต้องหดก้น หรือขมิบทวารหนัก คล้ายยกสูงให้หดเข้าไปในลำไส้


ท่าที่ 6 ตามองตรงไปจุดใดจุดหนึ่ง สลัดความคิดฟุ้งซ่าน กังวลออกให้หมด ทำสมาธิให้รู้สึกอยู่ที่เท้า


ท่าที่ 7 แกว่งแขนไปข้างหน้า(เบาหน่อย) ทำมุม 30 องศากับลำตัว หายใจเข้า แล้วแกว่งไปข้างหลัง(แรงหน่อย) ทำมุม 60 องศากับลำตัว จะทำให้เกิดแรงเหวี่ยง หายใจออกขณะแกว่งไปข้างหลัง (นับเป็น1ครั้ง) โดยปล่อยน้ำหนักมือให้เหมือนลูกตุ้ม และต้องสะบัดมือทุกครั้ง เพื่อให้เลือดหมุนเวียนไปถึงปลายนิ้ว


***** ควรทำต่อเนื่องกันอย่างน้อยครั้งละ 10 นาที และใน 1 วัน ควรทำรวมกันให้ได้อย่างน้อย 30 นาที ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง หากทำติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือนครึ่งก็น่าจะเห็นผลลัพธ์ตามต้องการแล้ว


เมื่อได้รู้วิธีออกกำลังกายที่ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว หยุดหาข้ออ้างให้ตัวเองแล้วหันมาโบกมือลาโรคภัยและไขมันกันเถอะ

ที่มา: เว็บไซต์แนวหน้า

แกว่งแขน ท่าไม่ยาก ได้ประโยชน์มากหลาย - Voice TV

 

Smart SME



หากในแต่ละวันเราใช้ร่างกายไปกับการทำงานหนัก ยิ่งเฉพาะคนที่ทำงานตลอดเวลาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราลืมการใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งธาตุเหล็กก็เป็นสิ่งสำคัญกับคนเรามากๆ แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าระดับธาตุเหล็กของเราอยู่ในระดับปกติ หรือเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังขาดธาตุเหล็ก เรามาดูสัญญาณเตือนกันว่ามีอะไรบ้าง

รู้สึกเมื่อยล้าง่าย - ธาตุเหล็กช่วยในการสร้างฮีโมลโกลบิน ช่วยนำพาออกซิเจนในเม็ดเลือดแดง แต่เมื่อร่างกายขาดธาตุเหล็ก เซลล์เม็ดเลือดแดงไม่แข็งแรง จึงทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียง่าย และรู้สึกง่วงบ่อย

เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก - เมื่อเราออกกำลังกายหรือเดินธรรมดา แต่เรารู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมแค่นี้ถึงเหนื่อยแล้ว หากแค่การเดินธรรมดาทำให้คุณเหนื่อยง่าย นั่นหมายความว่าร่างกายคุณขาดธาตุเหล็ก ซึ่งทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน

ขาดสมาธิ - การขาดธาตุเหล็กทำให้ระบบการสื่อประสาทช้าลง ส่งผลให้สมาธิในการทำสิ่งต่างๆ น้อยลง

ไม่สนใจคนรอบข้าง - การขาดธาตุเหล็กส่งผลให้เราไม่สนใจในสิ่งที่ทำอยู่ และไม่สนใจกับเรื่องสำคัญๆ และคนรอบข้างเลยก็ได้

ผิวซีดผิดปกติ - หากเราสังเกตดูผิวของตัวเองแล้ว ผิวดูซีดผิดปกติ แต่ไม่ใช่ผิวขาวขึ้น เนื่องจากการเกิดไหลเวียนของโลหิตไม่ดีพอ และจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงก็ลดลงด้วย

ปัสสาวะมีสีแดงหรือสีชมพู - เมื่อขาดธาตุเหล็กร่างกายจะดูดซึมสีต่างๆ ในลำไส้มากขึ้น ซึ่งหากเราทานบีทแล้วปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงหรือชมพู นั่นก็แสดงว่าร่างกายของเรากำลังธาตุเหล็ก

เล็บเปราะ หักง่าย - ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่เห็นได้ชัด

ซึ่งหากใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่ลองหาอาหารเหล่านี้ มาทานกันให้ไวเลยจ้า

ไข่แดง ผักคะน้า ผักโขม เนื้อสัตว์สีแดง ลูกพรุน ลูกเกด ธัญพืชต่างๆ ถั่วต่างๆ เครื่องใน ตับ หอยนางรม หอยเชลล์

ที่มา : smart sme

 

Smart SME



สูตรอาหาร ล้างอุจจาระตกค้างในลำไส้ !!!

 

อนดล แซ่เล้า

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/CELt6r3YokQ?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

วันที่ 14 ก.ย.57 ฝนถล่มเมืองบุรีรัมย์หนักถนนจมหลายสาย-ตลาดเซราะกราว 200 ร้านอ่วม น้ำท่วมสูงถึง 30-50 ซม. ด้านเทศบาลฯ เร่งสูบน้ำ เผยท่วมหนักในรอบ 10 ปี



ขณะที่ทางกรมอุตุฯ เตือนพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 คัลแมกี ทำพิษส่งผลมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นเกือบทั่วไทยร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทะเลจีนใต้ตอนกลางในวันที่ 15 กันยายน และคาดว่าในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน พายุนี้จะมีอิทธิพลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ในช่วงเวลาเดียวกันของวันที่ 14 กย. ได้เกิดเหตุเรือล่มกลางพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 คัลแมกีในฟิลิปปินส์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 3 ราย และสูญหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่มีผู้รอดชีวิตราว 100 คน

จ.บุรีรัมย์น้ำท่วมสูงในรอบ 10 ปี ทางกรมอุตุฯ เตือน ไต้ฝุ่นคัลแมกี ทำพิษไทยมีในเพิ่มขึ้น | ส

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

ข้อมูลเกี่ยวกับ สโตนเฮนจ์(Stone Henge) ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
Stone Henge



ชาว มายา (มายัน) เป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่ง ที่สืบเชื้อสาย และมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการเผยแพร่อารยธรรมแอตแลนติสสู่สายตาชาวโลก เป็นหลักฐานที่มีชีวิต บ่งบอกยืนยันว่า “แอต แลนติส” มีอยู่จริง มิใช่เป็นเพียงตำนานเล่าขาน ชาวมายาจึงได้สร้างปฏิทินดาราศาสตร์ขึ้นด้วยเสาหิน แท่งหินขนาดใหญ่จำนวนหลายร้อยแท่ง จัดวางเป็นวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง และวิธีการสร้างเป็นวิธีเดียวกับการสร้างสฟิงซ์ คือเป็นผลงานของมนุษย์ผู้มีพลังจิตสูง ร่วมมือกับชาวดาวอังคารในการเปลี่ยน หินแท่งใหญ่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน ให้เป็นพลังงานแสงก่อนแล้วเคลื่อนย้ายนำไปจัดวางในที่ที่ต้องการ และใช้พลังจิต เปลี่ยนพลังงานแสงคืนเป็นแท่งหินแท่งใหญ่อีกครั้ง
สโตนเฮนจ์ เป็นสัญลักษณ์ที่มีอายุประมาณ 5,000-6,000 ปี ใกล้เคียงกับยุคมหาพีระมิดของประเทศอียิปต์ ศาสตร์พีระมิดของชาวอียิปต์ เป็นตัวแทนของชาวแอตแลนติส ในการถ่ายทอดพลังของพีระมิดในศาสตร์การทำมัมมี่ ทำสถานที่เก็บศพ เคล็ดลับการมีอายุยืน ยารักษาโรค ฯลฯ ตลอดจนปลูกฝังความเชื่อ เรื่องชีวิตหลังความตายที่แสนงดงาม ในขณะที่ สโตนเฮนจ์ของชาวมายาสร้างขึ้น เพื่อเตือนภัยแก่ชาวโลก เมื่อถึงวาระการเปลี่ยนแปลงแรงดึงดูดของแต่ละกาแลคซี่ ในรอบ 13,000 ปี
ชาวมายันแบ่งยุคต่างๆของโลกเป็น 5 ยุค คือ
ยุคคุณธรรม ยุคการใช้พลังงานของจิตและพลังงานเส้นแสงมากเกินไป(การเปลี่ยนแปลงผิวโลก การล่มสลายของทวีปแอตเลนติส)
ยุควัตถุเจริญกว่าคุณธรรม การทำลายสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ (การเปลี่ยนแปลงผิวโลก การกลับคืนมาของทวีปแอตเลนติส) และยุคสมดุลของธรรมชาติ

 

Ammy Chumnankit shared her อัพเดตสถานะ.

ช่วงนี้ภาคใต้และภาคตะวันออก เฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม

 

Ammy Chumnankit

มหันตภัยใต้สมุทรภูเขาไฟใกล้'ระนอง' :



-- ภูเขาไฟบนเกาะบาเรน มีในการเตือนภัยภูเขาไฟมานานแล้วค่ะ ดูภาพสุดท้าย ภูเขาไฟทั่วโลก ---แอมมี่
(ข่าวจากคมชัดลึก เม.ย.2555)
แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.6 ริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยซ้ำรอยเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 แต่คนไทยทั้งประเทศคงไม่สามารถวางใจได้ หลังผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดอาจไปกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน ห่างจาก จ.ระนอง เพียง 200 กิโลเมตร ซึ่งหากเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่า 7.9 ริกเตอร์ บริเวณนี้ อาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่พัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย สร้างความเสียหายร้ายแรงกว่าปี 2547 เสียอีก



รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เมษายน มีความรุนแรงระดับ 8.8 ริกเตอร์ และซ้ำด้วย 8.9 ริกเตอร์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากนั้นยังมีอาฟเตอร์ช็อกระดับความรุนแรงขนาดมากกว่า 5 ริกเตอร์ ตามมาอีก 26 ครั้ง ในจุด เดียวกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.2 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา เมื่อปี 2547 ได้เกิดแผ่นดินไหวลามขึ้นมาทางตอนเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพื้นที่การไหวเป็นแนวซิกแซ็ก ระดับความลึกอยู่ในชั้นเมนทอล ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดินประมาณ 22 กิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าชั้นเปลือกโลก
"ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เกิดแผ่นดินไหวซ้ำลามทั่วบริเวณบันดาอาเจะห์ จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า บริเวณนี้แผ่นดินไหวใหญ่แต่ละครั้งจะมีวงรอบห่างกัน 200-600 ปี แต่ระยะหลังเกิดแผ่นดินไหวบริเวณนี้ซ้ำหลายครั้งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดลึกกว่าเมื่อปี 2547 ซึ่งอยู่ในระดับเปลือกโลก น่าติดตามว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจกระตุ้นให้เกิดซ้ำอย่างรุนแรงได้อีก โดยจุดความเสี่ยงแผ่นดินไหวน่าจะอยู่ในแถบหมู่เกาะนิโคบาร์ ซึ่งเยื้องกับ จ.ระนอง ของประเทศไทย" รศ.ดร.ธนวัฒน์ วิเคราะห์



รศ.ดร.ธนวัฒน์ ขยายความว่า บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์รวมถึงหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันต่อเนื่องมาจากตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อยู่ในความปกครองของอินเดีย และอยู่ในแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ห่างจาก จ.ระนอง เพียง 200 กิโลเมตร แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่ผ่านมาอาจไปกระตุ้นให้แผ่นเปลือกโลกบริเวณนี้เกิดการขยับตัวเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ได้ อีกทั้งบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟใต้ทะเลบาร์เรน (Barren) ซึ่งยังคุกรุ่นอยู่ ภูเขาไฟอาจปะทุทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน และหากแผ่นดินไหวทำให้เกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลก็จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่ง ซึ่งจะพัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยแถบ จ.ระนอง จ.พังงา ได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ซึ่งความรุนแรงจะมากกว่าปี 2547 มาก
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ ดร.ภาสกร ปนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว จากภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ มีการสะสมหรือปลดปล่อยพลังงาน ซึ่งจะเลื่อนขึ้นไปตามแนวรอยเลื่อน ขณะที่น่าจับตาคือบริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ เพราะเป็นแนวที่ติดกับบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด อาจเกิดการกระตุ้นให้เปลือกโลกบริเวณนี้ขยับตัวจนเกิดแผ่นดินไหว หากเป็นการไหวในแนวดิ่งไม่ว่าเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลงอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ไล่ตั้งแต่ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ อย่างรุนแรง และในเวลาอันรวดเร็ว เพราะจุดดังกล่าวอยู่ใกล้กับจังหวัดเหล่านี้มากกว่าทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรามาก
ดร.ภาสกร บอกด้วยว่า นอกจากภูเขาไฟใต้ทะเลบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์แล้ว ไล่ลงมาทางตอนล่างไม่มากนัก บริเวณแถบไหล่ทวีปมะริด หรือที่เรียกกันว่า สะดือทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางประเทศอินเดียประมาณ 200 กิโลเมตร ยังพบมีแนวโคลนร้อน หรือมัดโวคาโน ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี 2549 โดยคณะนักวิจัยชาวไทยคือ รศ.ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ในขณะนั้นเชื่อว่าเป็นภูเขาไฟใต้น้ำจำนวน 4 ลูก มีฐานกว้างประมาณ 500 เมตร สูง 60-70 เมตร ก่อนจะได้รับการยืนยันว่าเป็นเพียงแนวโคลนร้อน ซึ่งในบริเวณนี้ก็ต้องศึกษาเช่นกันว่าจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมา จนนำมาสู่การสะสมพลังงานหรือปล่อยพลังงานออกมาจนอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้หรือไม่
"นอกจากแนวรอยเลื่อน ภูเขาไฟและแนวโคลนร้อนในทะเลอันดามันแล้ว บนฝั่งของภาคใต้แถบ จ.ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และตรัง ยังมีรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลังงาน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวทั้งที่ จ.ตรัง และที่ จ.พังงา แต่ขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 3 ริกเตอร์ ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลบริเวณนี้สามารถเกิดแผ่นดินไหวในระดับรุนแรงได้ไม่เกิน 7 ริกเตอร์ โดยระดับ 5 ริกเตอร์ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ หากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในแหล่งชุมชนสามารถสร้างความเสียหายได้มากเช่นกัน" ดร.ภาสกร ขยายความ
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2547 มีความผิดปกติเกิดขึ้นในจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในปี 2553 และ 2554 ทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน จ.ตรัง และ จ.พังงา ที่สร้างความแตกตื่นเป็นพิเศษคือในเดือนพฤษภาคม 2554 เกิดดินแยกและมีโคลนร้อนปะทุขึ้นมาจากใต้ดินเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ในสวนปาล์มของนายอุทิศ ชูมี ภายในหมู่บ้านตะเคียนงาน หมู่ 3 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อปี 2548 ที่บริเวณปากคลองช้างแหก อ่าวแหลมสน หมู่ 8 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง โดยครั้งนั้นชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นฟองผุดขึ้นมาจากท้องทะเลเหมือนน้ำเดือดเป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบใต้ทะเล ซึ่งมีความลึกประมาณ 7 เมตร มีรอยแยกของพื้นดินกว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาวนับกิโลเมตร
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนใน จ.ระนอง และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินแยก และโคลนร้อนที่ปะทุขึ้นจากพื้นดินเกิดจากสาเหตุอะไร

 

Govy Goyly

นี้คือสิ่งที่เขาพูดมาโดยตลอด
(อีโบล่าสิ่งที่ไม่ได้รับการบอก)
อีโบลาสามารถแพร่กระจายโดยผ่านหยดน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศ

นักวิจัยหวั่นอีโบลากลายพันธุ์ติดได้แค่ไอ-จาม

นักวิจัย หวั่นอีโบลากลายพันธุ์ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อทางอากาศ ที่เพียงแค่ผู้ปล่อยเชื้อไอหรือจามก็อาจทำให้แพร่ระบาดได้แล้ว

นักวิจัยจากสหรัฐฯออกมาแสดงความกังวล ถึงการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในปัจจุบัน ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ซ้ำร้าย ไวรัสดังกล่าวยังมีความเสี่ยงที่จะกลายพันธุ์ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อทางอากาศ ที่เพียงแค่ผู้ปล่อยเชื้อไอหรือจามก็อาจทำให้แพร่ระบาดได้แล้ว

นายแพทย์ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนโยบายด้านโรคติดต่อ มหาวิทยาลัยมินเนโซตา ในสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ตลอดระยะเวลาของการทำงานด้านการสาธารณสุขมาตลอด 40 ปี ในช่วงชีวิตของเขา ไม่มีโรคระบาดชนิดใดที่จะน่ากลัวเท่ากับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาอีกแล้ว

ซึ่งในตอนนี้ สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือ ไวรัสชนิดนี้อาจจะกลายพันธุ์ และทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่การติดเชื้อจะเกิดจากการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ป่วย เช่น เหงื่อหรือเลือด แต่หากเกิดการกลายพันธุ์ เชื้อชนิดนี้ อาจแพร่กระจายในอากาศ เพียงแค่ผู้ติดเชื้อไอหรือจาม ก็มีโอกาสที่จะกระจายไวรัสนี้ไปสู่ผู้อื่นได้แล้ว

นายแพทย์ออสเตอร์โฮล์มระบุว่า ไวรัสอีโบลาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ตอนนี้ เป็นไวรัสที่ไม่ก่อให้เกิดการแพร่เชื้อในอากาศ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การกลายพันธุ์จะไม่เกิดขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไวรัสชนิดนี้ก็จะอาศัยโอกาสในการพัฒนาสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ อีกทั้ง ไวรัสอีโบลา เป็นไวรัสที่มีสารพันธุกรรมเป็นชนิด RNA (อาร์เอ็นเอ) ซึ่งเท่ากับว่า ทุกครั้งที่มีการแพร่ระบาดไปยังผู้ติดเชื้อรายใหม่ ไวรัสชนิดนี้ก็จะกลายพันธุ์ไปทีละน้อย

โดยสิ่งที่น่าเป็นกังวลที่สุดในตอนนี้ก็คือ การแพร่บาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดนี้ ไม่มีใครสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลของการแพร่ระบาดได้อย่างแน่ชัด จึงทำให้ไม่สามารถติดตามได้ว่า ในขณะนี้ ไวรัสดังกล่าวมีการกลายพันธุ์ไปถึงไหนแล้ว

ขณะที่ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ก็เปิดเผยข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่ง ที่ลงพื้นที่ในประเทศเซียร์รา ลีโอน เพื่อเก็บข้อมูลของการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา ในช่วงเวลาที่การระบาดยังไม่รุนแรงมากนัก พวกเขาพบว่า ไวรัสดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมมากกว่า 300 ครั้ง แต่หลังจากนั้นการเก็บข้อมูลดังกล่าวก็ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากการแพร่ระบาดที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ไม่ว่าไวรัสอีโบลาจะกลายพันธุ์จนอาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อทางอากาศหรือไม่ก็ตาม แต่ที่ทุกคนทราบกันดีในตอนนี้ก็คือ ไม่มีใครสามารถควบคุมการระบาดในครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจต้องใช้เวลานานอีกหลายเดือน จนกว่าจะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้

จากรายงานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลามากถึง 4,784 คน เสียชีวิตแล้ว 2,400 ราย ขณะที่ หน่วยแพทย์ไร้พรมแดน ก็ได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมมายังกรุงมอนโรเวีย เมืองหลวงของไลบีเรีย ที่ขณะนี้ประสบปัญหาขาดแคลนเตียงผู้ป่วยอย่างหนัก โดยมีคนไข้มารอรับการรักษาจำนวนมาก แต่กลับมีเตียงผู้ป่วยรองรับได้แค่ 240 เตียงเท่านั้น

<iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=117496" ></iframe>

13 กันยายน 2557 เวลา 12:38 น.


Ebola - What You're Not Being Told [UPDATED August 13th] | SCG News
(แม้แต่อากาศก็ไม่ปลอดภัย)

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

สงครามอวกาศระหว่างอเมริกากับรัสเซีย



ดาวเทียมคอสโมส - 2495 ของรัสเซีย ที่ใช้ด้านลาดตระเวนทางทหาร หรือสอดแนมได้ทำลายยานลำหนึ่งของสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่าเป็นยานสมัยยุคนาซี คล้ายๆยูเอฟโอ NESARA- REPUBLIC NOW - GALACTIC NEWS: Russian Satellite Destroys “Nazi” UFO Over Colorado

หลายคนอาจจะสงสัยว่ายานในยุคนาซี มาโผล่ในสหรัฐได้อย่างไร? อย่าลืมนะครับว่า เทคโนโลยีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บางส่วนสหรัฐอเมริกาเอามาพัฒนาต่อ โดยอาศัยนักวิทยาศาสตร์เยอรมันในยุคนั้น และเกี่ยวข้องกับ NSA ที่เคยตกเป็นข่าวสอดแนม ดักฟังผู้นำทั่วโลก และอุตสาหกรรมทางทหาร(industrial military complex) ตลอดจน องค์การนาซ่า และครอบงำรัฐบาลสหรัฐ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
Iranian news agency says the U.S. is secretly run by Nazi space aliens. Really. - The Washington Post
.
.
หลังจากที่ดาวเทียมของรัสเซีย ได้โคจรมาอยู่เหนือประเทศสหรัฐอเมริกา บริเวณมลรัฐโคโรราโด และลดระดับลงมาในชั้นบรรยากาศเหนือพื้นโลก 500 กิโลเมตร
Kosmos 2495 Re-Entry - SPACEFLIGHT101

ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดของการลดระดับลงมาเหนือประเทศสหรัฐ จู่ๆก็มียานลึกลับดังกล่าว พุ่งเข้ามาหาดาวเทียมของรัสเซียอย่างรวดเร็ว ซึ่งดาวเทียมของรัสเซียยังใช้กล้องถ่ายภาพที่เป็นฟิล์ม ไม่ได้มีทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยานลึกลับดังกล่าวของอเมริกาจึงไม่สามารถรบกวนการทำงานของกล้องได้ และดาวเทียมติดตั้งระบบป้องกันตัวเอง "Polyus Skif" ซึ่งเป็นเลเซอร์ความเข้มแสงสูงหรือที่เรียกว่า "countermeasures" ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติ ในการทำลายวัตถุที่อาจจะเป็นอันตรายกับดาวเทียม Polyus (Skif-DM, 17F19DM)

ผลปรากฎว่ายานลำดังกล่าวที่มีลักษณะคล้าย UFO สมัยนาซีได้เสียหายและเกิดลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศลักษณะคล้ายกับลูกไฟ (Fire ball) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีชาวอเมริกันในหลายรัฐพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและเข้าใจว่าเป็นสะเก็ดดาวตก Fireball Streak Reported Over Colorado; Break-Up Of Actual Meteor - International Business Times

ต่อมาทางกองทัพอากาศสหรัฐได้ออกมารายงานเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยความมั่นใจว่า ดาวเทียม คอสโมส-2495 ที่เป็นดาวเทียมสอดแนมทางทหารของรัสเซีย ซึ่งลดระดับวงโคจรลงมาเหนือประเทศสหรัฐได้เกิดการลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศ และทางสหรัฐก็ได้ตัดดาวเทียมดังกล่าวออกจากระบบเฝ้าระวังไปเรียบร้อยแล้ว http://www.wareye.com/us-military-c...95-advanced-spy-satellite-exploded-in-beauty/

ทาง รมต.กลาโหมของรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง เพราะภายหลังดาวเทียมดวงดังกล่าว ก็ได้กลับเข้าสู่วงโคจรตามปกติและยังอยู่ภายใต้การควบคุมของ กลาโหมรัสเซีย
ITAR-TASS: World - Air and Space Defense troops deny spacecraft Cosmos-2495 exploded over US territory

ดาวเทียมคอสโมส -2495 ของรัสเซียเป็น ดาวเทียมลาดตระเวน และสอดแนมทางทหาร ถูกส่งขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 57 ที่ผ่านมา และผมคาดว่าน่าจะ ลดระดับลงมาเพื่อถ่ายภาพเหนือสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะเดียวกันนั้นได้มีวัตถุหรือยานลึกลับดังกล่าวพุ่งเข้าหา จริง และคาดว่าจะไปรบกวนการถ่ายภาพ หรือทำลายดาวเทียมสอดแนมของรัสเซีย แต่ว่าไม่เป็นสำเร็จ เพราะรัสเซียใช้กล้องถ่ายภาพที่ใช้ฟิล์ม และยานลึกลับดังกล่าวได้ถูกทำลายด้วยดาวเทียมสอดแนมของรัสเซีย ซึ่งทั้งสหรัฐและ รัสเซียได้ออกมาให้ข้อมูลที่ตรงข้ามกัน อย่างสิ้นเชิง แต่เท่าที่ดูหลักฐานภาพถ่ายและพยานแล้ว รัสเซียมีหลักฐานชัดเจน ที่ยืนยันได้ครับว่า ดาวเทียมคอมโมส-2495 ไม่ได้ถูกทำลาย จนร่วงลงสู่พื้นโลก ตามที่กองทัพสหรัฐออกมากล่าวอ้าง และได้กลับเข้าสู่วงโคจรตามเดิม(re-entry) ภายหลังลดระดับลงเหนือ ประเทศสหรัฐ Kosmos 2495 Re-Entry - SPACEFLIGHT101

ทางรัสเซียได้เผยแพร่คลิปดังกล่าวออกมายืนยัน จะเห็นว่ามีวัตถุที่กำลังพุ่งเข้าหาดาวเทียมของรัสเซียที่กำลังโคจรเหนือพื้นดิน ต่อมาวัตถุดังกล่าวได้ถูกแสงเลเซอร์ทำลายกลายเสียหายเกิดเพลิงใหม้กลายเป็นลูกไฟปรากฏบนท้องฟ้าเหนือสหรัฐซึ่งชาวอเมริกันเข้าใจว่าเป็นปรากฎดาวตกเข้าไปดูตามลิงค์นี้
Kosmos 2495 Re-Entry - SPACEFLIGHT101

ชมคลิป
Падение кометы г.Атырау - YouTube
Над Атырау пролетело метеорит - YouTube
Метеорит ракета что то такое в Атырау)) - YouTube
.
by.Chalee Na Roied