สูญตา คือ นิพพานชั่วคราว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย khajonsak9999, 8 กันยายน 2014.

  1. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ไช่แล้วครับ ความคิดเห็นนี้ เห็นถูกต้องเป็นกลางแล้วครับผม :cool:

    ทีนี้ผมจะบอกต่อไปว่า นิพพานคือปัจจัตตัง เพราะมันเป็นนามธรรมที่ยกเอารูปธรรม มาแสดงอ้างอิง แทนนามธรรมไม่ได้ ไช่้มั้ย ที่ทุกคนเข้าใจ

    แต่ผมไม่ได้เข้าใจแบบนั้น ผมเข้าในนิพพานจริงๆแล้วซึ่ง เข้าใจถึงวิมุติได้ก็เพราะพระธรรมหรือสมมุติ นั่นเองเป็นเครื่องมือ ดังนั้น ผมจึงคิดจำสร้าง รูปธรรมที่เป็นนิพพาน ขึ้นมา เพื่อที่ ทุกคนจะได้ สัมผัสรับรู้เข้าใจนิพพานทางนามธรรมได้ง่่ายกว่าเดิม คุณพอเข้าใจแล้วไช่มั้ยครับ

    ดังพระพุทธเจ้าที่ท่าน นำเอานามธรรมที่ท่านรู้ท่านเข้าใจมาแสดงออกทางรูปธรรมที่เป็นตัวของท่าน อันได้แก่ ....(.หลังจากที่ท่านตรัสรู้แล้ว นั่นแหล่ะครับ)

     
  2. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ใช่ครับผมก็เข้าใจตามนี้ที่ท่านกล่าวมาครับ
     
  3. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    พระพุทธเจ้า ท่านแสดงนามธรรมออกมาทางรูปธรรมของท่าน แต่คนทั้งหลายไม่เห็นส่วนที่เป็นนามธรรมที่แสดงออกมาทางรูปธรรม แต่ คนกลับไปยึดที่รูปธรรม(นามธรรมที่เรียกว่า ความเป็นพระพุทธเจ้าแทนซะได้) คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ยครับ

    แปลว่า คนทั้งหลาย มองไม่เห็นนิพพานหรือวิมุติ ในตัวพระพุทธเจ้า และก็มองไม่เห็นนามธรรมที่แสดงออกโดยรูปธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงให้เห็นไม่ได้ (ที่แสดงก็คือ ไม่มีทรัพย์ใดใดเป็นของของตน ผ้าห่มสามผืนก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของ อาหารก็ได้จากการที่คนอื่นให้ทานคือสละแล้ว จึงรับเอาไว้ อยู่แบบอิสระเสรี นี่ต่างหากคือนามธรรมที่แสดงออกมาทางรูปธรรม แต่คนไม่มอง คนกลับมองไปที่ความเท่ ความสง่าราศรี ความมีชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้า ซะงั้น

    ดังนั้น ผมจึง จะสร้างนามธรรมขึ้นมาเป็นรูปธรรม ในแบบที่เป็นของมนุษย์คนหนึ่งจริงๆ ที่ไม่ต้องอ้างตนอ้างตัวเอง ว่า ตนเองเป็นพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้าหรือศาสดาใดใด ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ จะแสดงนามธรรมให้เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ โดยคนทั้งหลาย จับต้องสัมผัสรับรู้ได้เหมือนกัน เห็นเหมือนกัน คิดเหมือนกันตามที่เห็น นั่นเอง เช่น อาหารฟรี ความรักความเมตตาความเข้าใจ กัลยาณมิตรฟรี ความเอื้อเฟื้อหวังดีต่อกันฟรีๆ และแนะนำนำพาจิตใจให้เขาเข้าถึงอนัตตาธรรมและความเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐแบบฟรี ๆ นั่นเองครับ

    ตอนนี้ก็รอความพร้อมความร่วมมือจาก คนที่เขาเข้าใจ ผมน่ะครับ ตราบใดที่ยังไม่มีคนเข้าใจผมก็ยังทำไม่ได้หรอกครับ เพราะผมทำคนเดียวไม่ได้หรอกครับ เพราะนี่เป็นการทำเพื่อคนอื่นๆครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2014
  4. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ต้องมีที่ดินที่เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ถึงจะเป็นทุนที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ต้องมีเพื่อนร่วมงานที่ ทำเพื่อผู้อื่นจริงๆไม่ได้ทำเพื่อตนเองเลย
    ต้องมีทรัพย์ที่ได้รับบริจาคแบบฟรีๆไร้เงื่อนไขจริงๆ แบบผ้าห่อศพสามผืนนั่นแหล่ะครับ เพราะ ทรัพย์ที่ไม่เจือปนความอยากของใครๆ เวลาเอามาสร้างรูปธรรม มันจึงเป็นการสร้างจาก ธรรมชาติที่ไม่เจือปน อย่างแท้จริงครับ
    และต้องมีโรงทานโรงธรรม ช่วยเหลือคนที่หมดโอกาส หรือคนยากคนจนให้เขาได้เรียนรู้ ว่าการไม่มี เป็นเช่นไร เวลามีจะต้องทำเช่นไรจะไม่เกิดทุกข์ได้น่ะครับ
     
  5. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    หรือก็คือ ตั้ง มูลนิธิหรือกลุ่ม โดยได้รับพระราชทานอนุญาติจากพระเจ้าแผ่นดินนั่นเอง เพราะพระองค์คือเจ้าเหนือหัวสูงสุดของแผ่นดินนี้ ในทางรูปธรรม

    และได้รับความร่วมมือจากพระสังฆราช เพราะถือเป็นตัวแทนสูงสุดทางนามธรรม ของแผ่นดิน แล้ว กระทำเพื่อปลดทุกข์ประชาชนทั้งผองนี่คือ มรรค ครับ แลกระทำโดย ผมและคนอื่นๆ ที่ ดับอวิชชาได้แล้ว น่ะครับ(มนุษย์ผู้ประเสริฐ) เรารู้กันด้วยใจ นั่นเองครับ

    นี่คือโครงการ อันเลิศ ที่ผม อยากทำ(ทำเพื่อผู้อื่นโดยแท้โดยธรรม)

    การขยายก็คือ ใครที่มีที่ดินที่ไร้ประโยชน์ไม่เกิดประโยชน์ก็สละทานบริจากเข้ามูลนิธิของแผ่นดิน เพื่อให้ผืนดินผินนั้นกลับคืนสู่แผ่นดิน กลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติไป มู,นิธิเราดก็จะจัดการให้มันกลับมาอุดมสมบํรณ์อีกครั้ง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกทุกคน ครับ :cool: คนทุกคนเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ และต้องได้รับการพัศนาชี้แนะพัฒนาจตใจกันทุกคนเพื่อความเข้าถึงอนัตตาธรรมหรือนิพพาน ได้ไงครับ

    เราก็ยังมีวัดมีพระเหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนวัดเหมือนพระที่เป็นกันอยู่ในปัจจุบันนะครับ
     
  6. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ดีครับที่ท่านกล่าวมาถ้าบรรลุมรรผลนิพพานแล้ว การทำตัวให้เกิดประโยชน์ต่อโลก นับว่าเป็นสิ่งที่พุทธสาวกควรกระทำยิ่งแล้วครับ
     
  7. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    เหตุปัจจัยทุกอย่าง ต้องได้มาแบบไร้เงื่อนไข พ้นจากการเจือปน ต้องเป็นการสละจาคะ ให้ทานที่แท้จริง นั่นเองครับ ถึงจะเอาเหตุปัจจัยนั้นมาสร้างรูปธรรม ที่บริสุทธิ์ขึ้นมาได้จริงๆ ครับ มันก็เป็นเช่นนี้เอง ครับผม:cool:

    ไร้เงื่อนไขนั้น ไร้การเจือปนนั้น ใครรู้ ผมรู้ครับ

    ถ้าทำได้ เงินจะไม่จำเป็นอีกแล้ว เพราะผมจะให้ทุกคนฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายเงินเลย เอาใจดีดีมาแลกก็พอครับ
     
  8. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    เช่นโรงทานนี้ สร้างขึ้นจากการบริจาค(ไม่มีชื่อใครเป็นเจ้าของ) สร้างขึ้นเพื่อบริจาคทานแก่ทุกคน ที่สมควรที่จะได้รับทาน (สมควรที่จะได้รับทาน) เพราะการรับทาน คนที่รับทานถ้าเป็นคนไม่ดี เขาก็จะต้องทำตัวเองให้ดีให้เหมาะเพื่อ สมควรแก่การรับทาน นี่คือการเรียนรู้ จริงๆ ครับ ไม่ไช่ ทานให้ดะ แบกไส่ถุงกลับไปกินที่บ้านหรือกินอาหารที่ท่านแล้ว ทิ้งสกปรกไปทั่ว พวกนี้ ต้องเรียนรู้ทำตัวให้ดีกว่าเดิมเพื่อ เป็นผู้ที่เหมาะสมกับการที่คนอื่นจะให้ทาน ไม่ไช่เหมือนพระสมมุติสงฆ์ ทุกวันนี้ ที่ทำกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2014
  9. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    สอนการใช้ชีวิต ทุกเรื่องตั้งแต่เด็ก ไปจนวัยไกล้ตาย เพื่อจะได้ทำตนให้เป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐกันได้ทุกคน อิอิ เพราะผมรู้มันทุกเรื่องไงครับ :cool:
     
  10. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    เริ่มสอนกันเลยดีไหมครับหลักเป็นอย่างไร
     
  11. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    ขอออกความเห็นนิดนึงนะคับ ทุกวันนี้วัดมีมากมาย วัดร้างยังมีเลย ไอ้ที่ทำไหม่ก็เยอะ แล้วทุกที่ก็เป็นสมบัติของศาสนา ของสงฆ์ สามารถนำของเดิมที่มีอยู่แล้วทำให้กลับมาดีและเกิดประโยชน์ไม่ดีกว่าเหรอครับ กับการที่มาสร้างใหม่อยู่ตลอดและปล่อยทิ้งร้าง

    ผมว่า เสียเวลากับการสร้างใหม่นะคับ ไปทำต่อจากของเดิมผมว่าเข้าท่ากว่าแป๊บๆเดี๋ยวก็ตายกันแล้ว กว่าจะสร้างใหม่ให้เสร็จนี่ เสียเวลาในการเผยแพร่แนวความคิดของท่านนะ..
     
  12. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    ส่วนเรื่อง สูญตา นี่ผมขอแสดงความเห็นจากการอ่านพุทธพจน์นะคับ
    ที่ท่านได้แสดงมา

    สูญตา ในพุทธพจน์ในความเข้าใจของผม อาจจะถูกหรือผิดก็ได้มันเป็นการแสดงความเห็น
    ยกมา
    ดูกรอานนท์ เราย่อมไม่พิจารณาเห็นแม้รูปอย่างหนึ่งซึ่งเป็นที่ไม่เกิด
    โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เพราะความแปรปรวนและความเป็น
    อย่างอื่นของรูป ตามที่เขากำหนัดกันอย่างยิ่งซึ่งบุคคลกำหนัดแล้ว ฯ
    [๓๔๖] ดูกรอานนท์ ก็วิหารธรรมอันตถาคตตรัสรู้ในที่นั้นๆ นี้แล คือ
    ตถาคตบรรลุสุญญตสมาบัติภายใน เพราะไม่ใส่ใจนิมิตทั้งปวงอยู่

    ในความเห็นของผมนั้นท่านได้ชี้นำไปถึงความไม่มีตัวตนในสังขาร ที่ประกอบอยู่ในขันธ์5 ซึ่งเป็นลำดับที่ 2 นับจากวิญญาณ

    สังขาร คือตัวนึกตัวคิด จะเรียกมโน จะเรียกห้วงความคิด การตรึก และนิมิตก็เกิดขึ้นที่นั่นเช่นกัน

    กระบวนการใน ตาเห็นรูปของอายตนะ อาจไปจุดติดให้กระบวนการของสังขารทำงานโดยการนำข้อมูลของสัญญามาใช้ ซึ่งบางทีเกิดขึ้นแต่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เข้าไปสนใจ นั่นก็หมายความว่าปล่อยวาง ไม่สนใจไม่ใส่ใจก็จะดับไป แต่ท่านสนใจในความดับไปคือการว่างจากนิมิต ว่างจากสังขาร ว่างจากการนึกคิดปรุงแต่งฟุ้งซ่าน แต่ถ้ามีก็ควรอยู่ในฝ่ายกุศล ชักนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อนการหลุดพ้น

    อะไรทำนองนี้ ผมคิดว่าอย่างนี้แหละ

    การไปมัวเมา จับกลุ่มคุยสนใจความเป็นไปของโลกที่ไม่เป็นไปเพื่อการคลายกำหนัดการละวาง การสำเร็จธรรมก็ไม่ใช่ฐานะสำหรับผู้นั้น นั่นเอง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2014
  13. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    ใช่ครับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถ้าตนบรรลุธรรมได้มรรคผลนิพพานแล้ว ค่อยออกมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จึงจะถูก ในทางกลับกันถ้าตนยังไม่ได้มรรคผลนิพพานอะไรเลยก็ควรทำให้ตนพ้นทุกข์เสียก่อนแล้วค่อยมาช่วยเหลือคนอื่น ตามนี้ครับ
     
  14. peacedev

    peacedev Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +49
    เหมือนเกมจะจบไปแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้ความชัดเจนครับ
    สุญญตาจะเป็นนิพพานได้อย่างไรครับ เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้ครับ

    สุญญตาเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้วครับ อย่างในจีนก็เป็นหลักของเต๋าที่มีอยู่เดิมแล้ว
    ปรมจารย์ตั๊กม้อท่านเข้าไปเผยแพร่พุทธศาสนา เห็นว่าของเดิมมันใกล้เคียงเอามา applied ได้ก็เอามารวมกับพุทธศาสนา กลายเป็นนิกายเซ็น
    แต่ถ้าจะบอกว่า สุญญตา เป็นนิพพาน หรือ นิพพานชั่วคราว ก็เท่ากับในจีนมีคนตรัสรู้มาแล้วอีกคนสิครับ
    ตรงนี้ขัดกับพระวจนะครับ
     
  15. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    นิพพานชั่วคราว ก็ไม่เรียกว่า นิพพานถาวรไงครับ

    นิพพานถาวรคือนิพพานแท้ ไม่ไช่นิพพานชั่วคราว

    ดังนั้นจึงถือว่านิพพานชั่วคราวไม่ไช่นิพพานจริง ไม่ไช่นิพพานแท้ ไงครับ
     
  16. peacedev

    peacedev Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +49
    ผมว่าแบบนี้มันเหมือนการเล่นคำครับ
    เอาคำว่า "นิพพาน" มาหากิน ทั้งที่มันไม่ใช่นิพพาน
     
  17. ใจของกาย

    ใจของกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2014
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +213
    ก็มีคนเชื่อ ลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทำไงได้ล่ะครับ
    เพราะ เราแค่เอาคำว่า สุญตา ที่สาวกกล่าว มาถกกัน เท่านั้นเองครับ
     
  18. peacedev

    peacedev Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +49
    ถ้ายังรู้ตัวว่าบาปก็อย่าทำเลยครับ
    แต่ถ้าไม่รู้ก็ขอให้ตั้งสติ พิจารณาเอาเถิดครับ

    ผมขอเข้ามากล่าวไว้แค่นี้แหละครับ บาย
     
  19. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    นิพพานชั่วคราวก็ดี
    นิพพานที่ไปเที่ยวก่อนได้ก็ดี
    นิพพานสูญบ้าง
    นิพพานบ้านเมืองบ้าง
    นิพพานที่ไปเกิดได้ แต่ไม่ตายบ้าง

    ก็เป็นคำจากพระสาวกบ้าง
    จากลูกศิษลูกหาของพระสาวกอีกทอดนึงบ้าง
    จากมิจฉาชีพบ้าง

    อันไหนจริง อันไหนลวง ก็ใช้ปัญญาพิจารณาเอาเถิดครับ
     
  20. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เหมือนว่าเรื่องมันจะจบ แต่มันก้อยังไม่จบ..

    ต้องถึงที่สุด หายข้องใจ ??!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...