ตามรอยหลวงปู่โต ขอโชว์วัดกลางคลองข่อย วัดประหลาดที่ต้องแก้บนด้วยหนังอินเดีย

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 23 พฤษภาคม 2012.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    วันนี้จะนำท่านมาวัดกลางคลองข่อยนะครับ ประวัติวัดมีดังนี้
    วัด กลางคลองข่อย ตั้งอยู่เลขที่ ๘๒ หมู่ ๔ ตำบลคลองข่อย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๑ ไร่ อาณาเขต ทิศเหนือ ทิศใต้และทางทิศตะวันออก จดทางสาธารณประโยชน์ ทิศตะวันตกจดแม่น้ำแม่กลอง อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ กว้าง ๑๑.๙๐ เมตร ยาว ๒๖.๓๐ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๒๘ เมตร เป็นอาคารคอนกรีต กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑ หลัง เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ วิหารกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๒.๔๐ เมตร เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑ หลัง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูชนียวัตถุ มีพระประธานประจำอุโบสถ และพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร โดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๓๙๐
    [​IMG]
    ณ วัดแห่งนี้สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ท่านได้สร้างพระพุทธรูปยืน บางอุ้มบาตร ซึ่งมีปรากฏไว้ในบันทึกสมัยรัตนโกสินทร์ว่า ในช่วง พ.ศ. ๒๓๗๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตอนปลาย สมเด็จฯ ท่านได้เสด็จโดยเรือมาทางน้ำจนถึงบริเวณบางแขยงอันเป็นที่ตั้งของวัดกลาง ซึ่งสมัยนั้นมีอธิการอวนดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส สมเด็จฯท่านได้เสด็จจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้และได้สร้างพระพุทธรูปขึ้น โดยหันหน้าสู่แม่น้ำให้เหล่าเทพเทวาและมนุษย์สักการะประจำทางด้านทิศตะวัน ตก การก่อสร้างพระพุทธรูปครั้งนี้ท่านได้อธิฐานจิตนั่งทำสมาธิพิจารณาสถานที่ ก่อสร้างพระประจำทิศ ณ ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ (ปัจจุบันต้นโพธิ์ยังอยู่และเล่าลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก) ในขั้นตอนการสร้างพระพุทธรูปสันนิษฐานว่าท่านคงสร้างเป็นปางไสยาสน์ (พระนอน) มากกว่าเพราะ ในวิหารหลังพระพุทธรูปยืนซึ่งปัจจุบันรื้อทิ้งไปหมดแล้ว และกำลังบูรณะก่อสร้างใหม่ ภายในวิหารมีภาพพระพุทธรูปนอนเป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากบริเวณเนื้อที่ก่อสร้างไม่เพียงพอ จึงเปลี่ยนมาเป็นการสร้างพระยืนแทน เพราะมีรอยแนวการเรียงอิฐอยู่ ประกอบสมัยนั้นวัดเป็นป่ารกชัฏ ไม่มีคนช่วยถากถาง ท่านจึงได้เอาเงินโปรยหว่านไปทั่วบริเวณป่า พอชาวบ้านรู้ว่ามีพระเอาเงินมาหว่านในป่าก็เลยพากันมาถางป่าเพื่อหาเงิน จึงทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นที่โล่งเตียนจนได้สร้างพระพุทธรูปยืนสำเร็จ ว่ากันว่าเป็นเงินตราเก่าๆด้วย และในตอนที่จะสร้างพระนี้ ท่านต้องการไม้ไผ่ เผอิญมีผู้ล่องแพไม้ไผ่มาทางนั้น ท่านไม่มีเงิน จึงไปที่ต้นโพธิ์บริเวณนั้น ก็ได้เงินมาซื้อไม้ไผ่ตามประสงค์ ส่วนต้นโพธิ์นั้นในปัจจุบันนี้ยังมีปรากฏอยู่
    [​IMG]
    ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สมเด็จโต ท่านเข้าไปเอาเงินมาให้พวกขายไม่ไผ่
    [​IMG]
    [​IMG]
    รูปหล่อของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) มีอยู่ด้วยกัน ๓ องค์ องค์ใหญ่หล่อด้วยเนื้อทองเหลืองหน้าตักกว้างประมาณ ๑ เมตร และรูปหล่อองค์เล็กอีกสององค์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ หล่อจากดินเจ็ดป่าช้า หน้าตักกว้างประมาณ ๕๐ ซ.ม. รูปหล่อทั้งสององค์หล่อที่วัด แต่องค์เล็กหล่อก่อนแล้วจึงหล่อองค์ใหญ่ตามมา เป็นรูปหล่อโบราณ
    [​IMG]
    พระ สังกัจจายน์ยืนบิณฑบาต เป็นปางที่สมบูรร์ที่สุดของพระสังกัจจายน์ ใครมีปางนี้หรือไหว้ปางนี้มีแต่รวยกับรวย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต สร้าง
    มีเกร็ดเรื่องการบนด้วย
    จาก คำบอกเล่าของครูสังฆรักษ์สุเทพ สุเทโว เจ้าอาวาสวัดกลางคลองข่อย ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่สมเด็จโตท่านได้สร้าง ไว้ ไว้ดังนี เมื่อสมัยก่อนแม่น้ำแม่กลองที่อยู่ด้านหน้าวัดเป็นเส้นทางสัญจรที่สำคัญ โดยเฉพาะเป็นเส้นทางเดินเรือสำเภาของชาวจีน ใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ มีอยู่ครั้งหนึ่งเรือสำเภาของชาวจีนล่องมาถึงที่หน้าวัด เกิดติดอะไรก็หาได้ทราบไม่ จะเป็นทรายหรือสันดรก็หาได้ทราบไม่ เอาเรือมาฉุดลากก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ออกไปได้ ในขณะนั้นตรงหน้าวัดมีกอไผ่ขึ้นอยู่หนามาก ประกอบกับช่วงนั้นมีลมพัดผ่านมา ทำให้กอไผ่เอนไปมาจนกระทั่งเห็นใบหน้าของพระพุทธรูปยืนอย่างชัดเจน เจ้าของเรือจึงยกมือไหว้กราบขอบารมีท่านให้เรือสามารถแล่นออกไปได้ แล้วจะจุดประทัดถวาย หลังจากนั้นเรือก็สามารถเลื่อนออกไปได้เองราวกับปาฏิหาริย์ โดยไม่มีการใช้เรือฉุดลากทั้งสิ้น พ่อค้าชาวจีนคนนั้นจึงได้จุดประทัดถวายท่าน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเรือทุกลำที่แล่นผ่านมายังหน้าวัดกลางคลองข่อยแห่ง นี้จึงต้องจุดประทัดถวายทุกลำ ดังนั้นเสียงประทัดที่จุดถวายพระพุทธรูปยืนจึงได้ ยินเกือบทั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีพวกพ่อค้ามาบนขอลูก ซึ่งเมื่อกลับไปแล้วก็ได้ลูกดังประสงค์ มีอยู่ครอบครัวหนึ่งมาบนขอลูกกับองค์หลวงพ่อ ได้ลูกสาว ๔-๕ คน แล้วครอบครัวนั้นก็มาทำการอาบน้ำให้กับองค์หลวงพ่อพระยืนองค์นี้ จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ ครอบครัวนี้ก็ยังมาทำบุญกับทางวัดและกับหลวงพ่อโตอย่างไม่ขาดสาย แต่ให้ลูกสาวมาแทน เนื่องจากว่ามารดามีอายุมากเดินทางมาไม่สะดวก และมีครอบครัวหนึ่งเป็นชาวซิกข์เป็นความในพระนคร ได้ผ่านมาจึงแวะบนหลวงพ่อนี้ ด้วยภาพยนตร์อินเดีย ปรากฏว่าชนะคดีความ ก็เลยเอาภาพยนตร์อินเดียมาถวาย ต่อมาก็มีคนบนแบบนี้ก้สำเร็จอีกจึงเอาภาพยนตร์มาแก้บนตามๆๆก ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้คนให้ความเคารพเดินทางมาสักการบูชา เนื่องจากในความศักดิ์สิทธิ์ในองค์หลวงพ่อ เวลาจะมาบนอะไรท่านก็มักจะจุดประทัดถวาย หรือ หากครอบครัวใดมีฐานะก็จะบนเป็นภาพยนตร์โดยเฉพาะ ภาพยนตร์อินเดียจะได้ตามความตั้งใจปรารถนาดีนักแล
     
  2. bundarika32

    bundarika32 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +92
    อยากให้ลงภาพพระเครื่องสมเด็๗ฑฺฒฑืต่างๆครับ
     
  3. mesus

    mesus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35
    เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากทีเดียว ขอขอบคุณที่ได้นำเรื่องราวมาเล่าให้อ่านกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...