จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ 145 ณ วันที่ 1 กันยายน 2557


    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ 145
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ


    [​IMG]
     
  2. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สะวีดัด...สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน...จากที่ห่างหายบรรยากาศนี้ไปพอสมควร...และแล้ว...
    วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง...จนได้...ด้วยความเพียรที่ไม่หยุดยั้ง...ตลอดเส้นทางการเดินมรรคที่กว่าจะมาถึงวันนี้ของท่าน(แต่ยังไม่สุดซอยนะจ๊ะ) ก็ล้มลุกคลุกคลานมาได้หลายแผลค่ะ (ก็สมควรแล้ว เหอะๆๆ)

    ก็แหม๋น่ะ....มีเหตุที่ต้องทำให้ได้มาประกาศวันนี้จริงๆ ตอนแรกว่าจะประกาศให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ก็ต้องให้มีเหตุมาประกาศยกจิตในวันดี วันนี้ เป็นวันพระค่ะ สาธุ

    _/l\_ขออนุโมทนาสาธุๆๆ กับน้องหนึ่ง หรือ ที่พวกเรารู้จักกันโดยทั่วไปในนามของน้องเทิด ลูกศิษย์สุดที่love ของข้าพเจ้าเอง เพราะเรียนนานที่สุดเล๊ย (ไม่ต้องมารักครูมากขนาดนี้ก็ได้น่ะ 555) ด้วยสัก 145 ล้านครั้งเลยจร้า พร้อมทั้งครูผู้ฝึกสอนทุกท่าน แรกๆ ก็มีอยู่หลายท่านค่ะ จนที่สุดก็เหลือครูเกษ กับ ครูหนุ่มบ้างประปราย อิๆๆ จนท้ายๆ ก็มีครูมาเสริมเพิ่มตามความศรัทธาของท่านเอง จะมีใครบ้างนั้น ก็ต้องให้ท่านมากล่าวขอบคุณกันเองนะจ๊ะ (สงสัยจะยาวเป็นห่างว่าวรึเปล่าไม่รู้ คริๆๆ) จากการบ้านที่รายงานเข้ามา บารมี10 และสังโยชน์10 ที่รายงานอารมณ์จิตเข้ามาล่าสุดนั้น ยืนยันได้แล้วค่ะว่า จิตท่านได้ยกขึ้นสู่ปากทางพระนิพพานเรียบร้อยแล้วค่ะ คือ จิตยกขึ้นสู่ความว่างในเบื้องต้นได้แล้ว ความว่างนี้ยังไม่เสถียรนัก เราจักต้องยังคงฝึกให้จิตดวงนี้เดินทางเข้าสู่ความว่างยิ่งๆ ขึ้นไปอีก ยังคงต้องต่อสู้กับวาระกรรมที่จะมาตัดรอนหรือทดสอบเราเป็นระยะๆอีกเยอะค่ะ และบททดสอบก็จะแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ตามจิตที่กำลังเลื่อนขั้นสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพียงขอให้ท่านรักษาอารมณ์ที่จิตยกนี้ให้ได้ตลอด มีพลังพุทธะคลอบกายคลอบจิตตลอดแล้ว จะช่วยหนักให้เป็นเบาได้เยอะค่ะ สาธุ

    ครูไม่อยากจะขาย เอ๊ย เขียนอะไรถึงเรามากนัก (เพราะหมดแรง) แต่จะให้น้องเทิดมาเขียนบรรยายประสบการณ์การฝึกจิตเกาะพระตั้งแต่ต้น จนยกจิตให้พวกเราฟัง หรืออ่านกันดีกว่า ให้เก็บทุกเม็ดเลยน่ะ อย่าให้เหลือ คงจะสนุกกว่ากันเยอะเลยค่ะ จะรอตรวจ เอ๊ย อ่านนะจ๊ะ คริๆๆ

    รวมระยะเวลาการฝึกจิตเกาะพระของน้องเทิดทั้งสิ้นก็ตั้งแต่ 14/10/56 ถึง 1/9/57 รวม 10 เดือน 18 วัน

    รบกวนครูทุกท่าน ที่มีส่วนช่วยเหลือยกดวงจิตดวงนี้ขึ้นถวายแด่ท่านพ่อ หลวงพ่อ และพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกๆ พระองค์ ได้ช่วยออกมาเล่าแชร์ การฝึกจิตเกาะพระเพื่อเป็นธรรมทาน และให้โอวาทจิตบุญดวงใหม่นี้ด้วยน่ะค่ะ ขอกราบขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี้ค่ะ

    เฮ้อ....โล่งอก ไปอีกหนึ่งดวงจิตแล้ววววว สาธุ สาธุ สาธุ

    โมทนาสาธุ

    ธรรมมณี จบ.52

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2014
  3. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ขออนุโมทนาสาธุ กับจิตบุญดวงใหม่ของกลุ่มจิตเกาะพระ... จิตบุญดวงที่๑๔๕
    ((น้องเทิด Therd 2499)) และครูผู้ฝึกสอนทุกท่าน มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2014
  4. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    โมทนาสาธุการ กับ จิตบุญ น้องใหม่ จบ.๑๔๕

    Nat Natcha ขออนุโมทนาสาธุกับ จิตบุญน้องใหม่ จบ.๑๔๕ ..
    ((.น้องเทิด สุด love ของครูเกษ และ ครูพี่ภู ...)) ครูพี่แนท ขอขโมย ซีน ...
    เขียนอวยพร เป็นคนแรก นะคะ อนุโมทนาสาธุ กับ ครูเกษ และ ครูทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
    ในการปั้น จิตบุญที่๑๔๕ ...ที่ได้ช่วยกันประคับประคอง ขัดเกลาดวงจิต ดวงนี้
    นำพายกจิตขึ้นสู่ปากประตูพระนิพพาน ...ให้ดวงจิตดวงนี้ ได้สัมผัสอารมณ์พระนิพพาน
    สัมผัสกระแสพระนิพพาน สัมผัสความรักความเมตตา จากสมเด็จพ่อองค์ปฐม และ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทุกท่านบนแดนพระนิพพาน ...

    ๐ อีกหนึ่งความสำเร็จ ของ ครูเกษ ผู้มีความสามารถ ความอดทนเป็นเลิศ ครูที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาเป็นที่ตั้ง ...ครูผู้ทรง อิทธิบาท4 พรหมวิหาร4 เต็มเปี่ยม ...ได้ติดตามดูการปฏิบัติธรรม ของน้องเทิดมาบ้างในช่วงสุดท้ายของาการเดินมรรค เห็นการพัฒนาของจิตดวงนี้แบบรวดเร็วในโค้งสุดท้าย ต้้งแต่วันสัมมนาย่อย ที่หัวหิน ปลายเดือนกรกฏาคม ...

    จนมีวันนี้ วันแห่งความสำเร็จ ที่ยกจิตเป็นจิตบุญที่ ๑๔๕ ของกลุ่มจิตเกาะพระ จนได้...

    ๐ น้องเทิด ทำให้ ครูพี่แนท นึกถึงภาพ นักวิ่งมาราธอน ที่กำลังวิ่งเข้าเส้นชัย ...ในระหว่างทางวิ่ง ...ก็จะมี กองเชียร์ อยู่ข้างทาง คอยส่งน้ำให้ดื่ม เป็นระยะๆ ส่งเสียงเชียร์ ให้ สู้ สู้ ไปตลอดทาง ...เวลาใกล้จะหมดแรง ก็มี น้ำดื่มชนิดพิเศษเสริมพลังให้ นั่นคือ พระรัตนตรัย ให้ดวงจิตดวงนี้เกาะ ทำให้มีพลังพิเศษ วิ่งเข้าเส้นชัยอย่างสวยงาม ...

    Welldone :cool:!! You are the Champion ..Therdtoon ...


    Phu Bodin โมทนาสาธุ ทั้งครู ทั้งศิษย์ด้วย
    ในที่สุดก็มาถึงจนได้ มีหลายคนแอบลุ้นตัวโก่ง พวกเราที่นี่ จะยกจิต^ชั่วคราว^
    ฟังให้ดีๆนะ ^ชั่วคราวๆๆ^ เพราะห้องนี้ เข้าตลาดหลักทรัพย์(ธรรมะ)แล้ว
    จะพูดอะไรก็ต้องอธิบายกันยาวหน่อย แต่ผู้ที่จะมารับรองดวงจิตจริงๆของเหล่าผู้เจริญทั้งหลาย อาทิเช่น จิตบุญหรือนักภาวนาทั้งหลาย นั่นก็คือ พระพุทธเจ้า หรือพระอรหันต์ที่ท่านละสังขารไปแล้ว ท่านจะมาในฌาน นิมิตหรือในฝัน โดยเฉพาะคนที่ฝันตนเองลอยได้ และจะฝันลอยแบบนี้เป็นแรมเดือนเลย แสดงว่า จิตเคลื่อนไปทิศทางที่ดีขึ้น หรือพระมาปรากฎที่สมาธิจิตหรือฌาน
    มาสอนธรรมในจิตด้วย ประสบการณ์ของตนมีเยอะ แต่พูดเกินปัจจัตตังมากไปก็ไม่ดี คนด่าไม่กลัว แต่กลัวไปเพิ่มกรรมคนอื่นเขา ตนเองไม่ห่วง แต่ห่วงจิตคนอื่น โดยเฉพาะตามสิ่งกระทบจิตไม่ทัน หรือตามตัวสังขารขันธ์(คิดปรุงแต่ง)ตนเองไม่ทัน...
    ๐ พี่ภูขออภิมหาโมทนาบุญกับจิตน้องเทอดสัก ๑๔๕ ครั้งด้วยนะ ...โมทนาสาธุ ทั้งครูทั้งศิษย์ด้วย สาธุ จิตยกแล้ว ก็รีบๆนำจิตไปเกาะคุณแห่งพระรัตนตรัยให้ติดไวๆ ดูสิ จะทำได้ไหม จะเข้าถึงไหม มีพี่ๆหลายท่านทำได้แล้ว จิตจะได้ละเอียด อ่อนนุ่มและกำลังใจจะมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวนัก ..สาธุ และครูแนท ครูเป้ ครูอุ๋ย จิตบุญหรือท่านอื่นๆด้วย ที่ช่วยกันลุ้น ..สาธุ
    เพราะที่นี่ พยายามละชั่ว ทำดีโดยพากันทำภาวนา(สร้างสติปัญญา) และทำจิตให้ผ่องใส

    ขอให้ทุกท่านจงมองกลุ่มคนพวกนี้ด้วยเจตนาอันกุศลจิตกันด้วยนะครับ..
    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุๆๆ

    Wannapa Pugsley อนุโมทนา สาธุกับจิตบุญ 145 น้องเทิดด้วยค่ะ...
    และขออนุโมทนา สาธุกับคุณครูผู้สอนทุกท่าน พร้อมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    Lady Lamb โมทนา สาธุกับดวงจิตดวงใหม่ของคุณน้องเทิดทูน ดวงจิตที่พร้อมจะเปิดประตูแห่งปัญญาเพื่อเข้าใจได้ถึงความจริงของชีวิตที่แท้จริงอย่างท่องแท้
    ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอจิตดวงนี้ได้พัฒนาเดินขึ้นไปเรื่อยๆตามทางแห่งมรรคผลนิพพานจนไปพบบัานแห่งพระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ
    ๐ โมทนา สาธุค่ะครูเกษ ขอโมทนากับวิริยบารมีที่แน่วแน่ ตั้งมั่นในการที่จะทำให้สำเร็จในการสร้างความดีด้วยเพียรพยายามขัดเกลาดวงจิตที่หม่นหมอง มืดมนนเป็นดวงจิตที่มีความใส สว่าง แวววาวขึ้นมาได้ กอรปกับความเพียรในการปฏิบัติของคุณเทิด จึงได้เกิดมีวันนี้ที่รอคอย
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    ๐ ครูพี่แนท บรรยายซะจนผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพตาม อ่านแล้วน้ำตาซึมเพราะความปลื้มปิติในความสำเร็จของทุกฝ่ายที่ได้ร่วมด้วยช่วยกัน เป็นต้นว่าท่านพี่ภู ครูเกษ ครูพี่แนท ครูน้องเป้ และอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามมา แต่ก็ได้นั่งอยู่ ณ ข้างขอบสนามเชียร์ด้วยกัน

    Watta Chan โมทนาสาธุ กับจิตบุญดวงใหม่ด้วยครับ และขออย่าได้หยุดเพียงเท่านี้นะครับ บำเพ็ญต่อไปเรื่อย ๆ แล้วจะเห็นธรรมที่ลึกล้าขึ้นไปอีก เช่น เข้าถึงความเป็นพุทธะ
    ( ที่พี่ภูเคยบอกว่า เราคือพระ พระคือเรา )

    Linda Sjjt ยินดีด้วยเป็นอย่างยิ่งจ้า หนูเทิดทูน อนุโมทนากับครูผู้ฝึกสอนและทุกท่านค่ะ
    เล่นเอาพี่ตัวโก่งไปพักนึง(ลุ้นน่ะลุ้น)

    Nooboonsawan Siriharksopon โมทนาสาธุ กับ คุณครูทุกท่าน และ น้องเทิด ค่ะ .
    ดอกบัวใหญ่มาก สมกับการรอคอย สาธุๆๆ

    01.09.14
    Cr. Fb/ Group จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2014
  5. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขอบคุณครับ ก่อนอื่นต้องขอบคุณครูเกษมากครับที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชคอยกระซวกจิตผมตลอด และ

    ที่ขาดไม่ได้ครูแนทและครูพี่เป้ขอบคุณมากๆครับหากไม่ได้ครูทั้ง2เข้าประกบตอนช่วงกลางๆของ

    การเดินมรรคผมคงไม่มีวันนี้คงจะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว

    ระยะเวลาฝึก10เดือนครึ่งสำหรับผมแล้วถือว่าไม่นานเลยสำหรับผมจิตยกขั้นต้นเพราะว่าก่อนที่จะ

    เข้ามาฝึกจิตเกาะพระนี้ได้ผ่านการสร้างบารมีเพื่อที่จะไปอเวจีมหานรกและไล่ขึ้นไปทุกขุมไม่เว้นแม้

    กระทั่งนรกบริวารอยู่หลายปีก็จะมีงานเขียนชีวิตก่อนและหลังปฏิบัติธรรมซึ่งเป็นโปรเจคที่ครูแนทให้

    เขียนเป็นธรรมทานก็จะตั้งใจเขียนวันหยุดคงไม่เกิน3-4วันเพราะชีวิตผมได้ทำเรื่องชั่วๆมามากเลย

    นานหน่อย

    พอมาตอนนี้มองดูตัวเองจริตนี่มีครบทุกจริตบางทีก็ฉลาด บางทีก็โง่มาก บางทีก็เอาดีอะไรไม่ได้

    อยากมั่งอยากมี ทะเยอทะยาน ย้ำคิดย้ำทำ ไม่มั่นใจ ระแวง สงสัย บางทีก็มั่นใจสูง มั่นใจมากเกินไป

    บางทีก็ขี้เกียจบ้างมีความ พยายามสุงบ้าง ประมาทบ้าง วีนแตกบ้าง อารมณ์เย็นบ้าง มานะอัตตา

    เต็มกบาล ต้องขลัดเกลานานหน่อยครับ คริคริ ศูนย์รวมจริต ทุกอย่าง
     
  6. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ก็ต้องสลัดสิ่งที่ไม่ดีทิ้งไปให้หมด เหลือไว้แต่สิ่งดีๆเช่น ความเพียร ความพยายาม ความอดทน

    ประมาณบารมี10 ที่เหลือไว้

    จิตยกแล้วมีความรู้สึกว่ามันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ยังต้องเพียรให้มากขึ้น ยังเลวอยู่มากครับ
     
  7. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    โมทนากับจิตบุญน้องเทอดค่ะ โมทนากับครูบาอาจารย์ทุกท่านที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการปั้นดาวสายบุญ พี่อ้อปิติกับน้องเทอดผู้นำบุญของหลายๆคนสู่บ้านจิตเกาะพระค่ะ
     
  8. zaza911

    zaza911 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +54
    ยินดีกับคุณเทอด(therd2499)ด้วยค่ะ อนูโมทนา สาธุค่ะ
     
  9. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]

    ต า ม ห า ค ว า ม สุ ข

    มีรักก็ทุกข์ ไม่มีรักก็ทุกข์
    มีกายใจก็ทุกข์ โดยเฉพาะคนคิดมากก็ทุกข์
    การไม่ได้ดั่งใจก็ทุกข์
    หากผู้เจริญทั้งหลาย หยุดเรียนรู้เรื่องกายสังขาร(ขันธ์๕)ตนสักนิด
    ก็จะได้สติปัญญาและธรรมเป็นของตนเอง
    เพราะความไม่รู้จริง(อวิชชา)ในขันธ์๕ หรือร่างกายเราทั้งหมด
    ความสุข ความสงบ ความสงัด ไม่ต้องตามหาที่ไหนเลย
    แม้นกระทั่งคำว่า นิพพาน ก็อยู่ที่ภายในกายใจของตนเอง นี่แหล่ะ
    ถ้าใครค้นหาธรรมชาติแห่งจิตตนพบเจอแล้ว
    นั่นแหล่ะ ความสงบสุข นั่นแหล่ะ สติปัญญาและธรรมทั้งปวง
    แม้นกระทั่ง พระตถาคตเอง ก็พบพระธรรม คือธรรมอันตรัสรู้
    คือนิพพานัง ก็ตรงกายใจของเรานี้

    ว่าแต่ว่า จะหากันเจอหรือไม่ พบเจอตอนไหน อย่างไร
    ขอให้ทุกๆท่าน พบเจอกระแสจิต กระแสธรรมแห่งตน ไวๆ
    โดยการฝึกตายก่อน ตายจริงมาถึง หมายถึง แยกจิตออกมาจากกายหยาบก่อน
    ก่อนที่กายจะมาแยกจิตในภายหลัง นั่นก็หมายถึง ความตายของตน

    ความสงบสุขแห่งจิตมวลมนุษย์นั้น ตอนนี้พบเห็นแต่เฉพาะกรรมฐาน๔๐ กอง เท่านั้น
    นอกนั้น ไม่มี ...
    กรรมฐานเป็นแค่อุบายที่ทำให้จิตใจคนเราสงบหรือนิ่งเป็นเสียก่อน
    เพียงขอแค่จิตตนนิ่งเป็น เราจึงรู้ จึงสุขใจ เมื่อนั้น
    ก็เป็นไปตามที่ครูบาอาจารย์เคยกล่าวมาแล้ว จริงๆ
    แม้นพระตถาคตก็เคยตรัสสอนผู้ที่มาถามเรื่องพระอรหันต์ในสำนักอื่น
    ศาสนาใด สำนักใดหรือคนใด ไม่มีหรือไม่เดินตามมรรคมีองค์๘นี้ฯ
    ก็ไม่พบความสงบสุขภายในไปได้ หรือศาสนานั้น ไม่มีพระอรหันต์ เป็นต้น
    ศาสนาพุทธ อย่าคิดนึกเอากันเอง ไม่ได้ แต่ต้องพิสูจน์เอากันเอง
    จึงจะพบคำว่า ปัจจัตตัง มันคืออะไร ความสงบ ความสุขข้างใน มีจริง?
    ถ้าผู้ใดพบแล้ว หาเจอแล้ว สิ่งต่างๆที่พวกเราเคยตามหากันมาทั้งชีวิตก็จะหยุดลงในทันทีทันใด
    เพราะสิ่งที่ตนตามหากันตลอดชีวิตอยู่นั้นก็คือ ความสุขที่แท้จริงหรือความสุขอันถาวร นั่นเอง

    คนส่วนใหญ่ เสียเวลาไปกับการเรียนรู้เรื่องนอกจิตตนเอง ทั้งนั้น
    พบไหม ของจริงๆ ของแท้ๆ เห็นพบแต่ของไม่จริง! ของสมมุติ!
    รู้นะ คิดไรอยู่ รู้นะว่าของสมมุติ แต่ทำไม๊ ยังจะเอากันอยู่ได้
    รู้นะว่าเป็นของไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน รู้นะทุกข์น่ะ รู้นะอนัตตา
    สรุปแล้ว รู้หมดเลย รู้ทุกอย่าง ยกเว้น (จิต)ตนเอง
    จริงแล้ว จิตคือเรานะ แต่พอปฎิบัติไปได้สักระยะ จิตเราก็ไม่ใช่ๆอีก ตกลง เราคืออะไร? เป็นอะไร? เห็นมีคนถามแบบนี้ ปฎิบัติเพื่ออะไร ละหรือหลุดพ้น มิใช่หรือ แล้วจะปฎิบัติกันเพื่อเอาอะไรอีก สรุปแล้ว ปฎิบัติเพื่ือไปสู่ความดับทุกข์ ดับกิเลส ดับทุกอย่างที่จิตไปรู้ แม้นกระทั่ง ตัวจิตเองก็ต้องดับเป็นตัวสุดท้ายสุด เพราะถือว่าเป็นเมล็ดถั่วที่จะนำไปเกิด คือจิตดวงเดียวนี้แร๊ะ ที่จะไปผุดไปเกิดยังภพภูมิต่างๆ

    นักภาวนา คือนักปฎิบัติ อย่าลืมนะว่า ปฎิบัติเพื่ออะไร? (ถามตอบตนเอง)
    นักภาวนาที่พอตามทันเรื่อง จิตสังขาร หรือคิดปรุงแต่งจิตตนเองแล้ว ให้เจริญคำว่าปัญญาเยอะๆหน่อย ทำให้ต่อเนื่อง ไม่งั้นมันจะตามดูไม่เลิกไม่ลา เด๊วตามจนได้เรื่องนะ เลิกตามเมื่อไหร่ ธรรมใดที่เกิดขึ้นแล้วนั้นก็จะดับลงทันที อีตอนที่เราเลิกตามดู ใหม่ๆที่ต้องตามดูกัน ใช่ ถูกต้อง พอรู้ว่าขี้แล้วใช่ไหม เรายังจะถามต่อไปอีกไหมว่า ขี้อะไร ขี้ใคร หรือมากไปกว่านั้นก็คือ ลองเอานิ้วไปจิ้มดูไหม คงไม่ต้องถึงขนาดนั้น มั้ง สำหรับผู้มีสติปัญญาดี อย่าไปเสียเวลาปฎิบัติธรรมนานนัก มุ่งเน้นเฉพาะ การเดินมรรคให้คล่อง ผู้ที่คล่องแล้วหมายถึง สติปัญญาหมุนเกิดดวงธรรม(จากจิตปัญญาเป็นจิตธรรม)

    สำหรับผู้ปฎิบัติใหม่ๆ ให้ไปเดินบันไดขั้นแรก(หลับตาเดิน)ให้คล่องๆ คือพยายามสร้างสติอัตโนมัติให้จงได้ ไม่งั้นจะหาดีไม่ได้ จมปักอยู่กับกองทุกข์ คือวังวนคือหลงตกหลุ่มกายใจตนเอง เป็นต้น
    แต่ถ้าหากผู้ปฎิบัติที่มีสติปัญญาแล้วก็ให้ทรงสมาธิจิตให้นานๆ (ได้ไหม) เพราะนักภาวนาส่วนใหญ่ จะตกหมด คือทรงไม่ได้อย่างต่อเนื่อง หากจิตเราเหมือนหลอดไฟที่ยังติดๆดับอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่ ปัญญาญาณจะเกิดซะที หรือความรู้แจ้งในธรรมในใจตนจะเกิดซะที

    การศึกษาไทย น่าจะให้วิชาพระตถาคต เป็นวิชาเอก เป็นวิชาหลักก่อน นอกนั้น เป็นวิชารองๆลงไป เพราะการแก้ปัญหาสังคมได้ดีที่สุดก็คือ แต่ละคนแก้ภายใน(จิต)ก่อน ไม่งั้นนะ ก็จะตามแก้ปัญหาไม่รู้จบ เพราะแก้ไม่ถูกจุด คือแก้ปัญหานอกจิต

    ธรรมะสวัสดี ขอความสงบสุขเกิดกับจิต ทุกๆท่าน..สาธุๆๆ

    ภูทยานฌาน

    03.09.14

    Cr...Fb/Group จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2014
  10. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]

    ติดๆ ดับ ๆ...

    อาการติดๆดับ ๆ หรือสติปัญญา ไม่ต่อเนื่องตลอดสาย เนื่องจาก ขาดการสำรวมจิต
    หรือ สติไม่รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับจิต นั้นเอง สภาวะที่ สติรวมตัวกับจิต ตั้งมั่น เป็นหนึ่งเดี่ยว
    เป็นการเปิดประตูแห่ง ปัญญาภายใน การสำรวมจิตนี้ ยิ่งกระทำให้มากเท่าไหร่
    ปัญญาจะเกิดมากเป็นเงาตามตัว
    นักปฏิบัติที่ดี จะต้องมีความสงบสงัด ของจิตอยู่เสมอ สำรวมจิตอยู่เป็นนิจ ดั่งห้องสมุด
    ต้องมีความเงียบสงัด ผู้เข้าไปอ่านหนังสือ จึงจะได้ประโยชน์ ฉันท์ใด ก็ฉันท์นั้น
    สภาวะ จิตที่ตั้งมั่น ย่อมไม่พลาด โอกาสที่จะเห็นสภาวะธรรม ที่ปรากฎอยู่ต่อหน้าต่อตา
    ทางไปพระนิพพานก็อยู่ต่อหน้าแต่ไม่เห็น เอง

    ไม่มีพระอริยะเจ้าองค์ใด บรรลุธรรม ในขณะที่จิต วุ่นวาย สับสน เราก็ทราบกันดีอยู่
    แต่ทำไม่ได้ เพราะ คำว่า ทรงสมาธิจิต ให้ได้ตลอดต่อเนื่องนั้น ไม่รุ้วิธีทำใช่หรือไม่? ..
    จึงต้องถูก อารมณ์จิต ลากไปลากมา อยู่เช่นนี้ ...หากเราทรง สมาธิจิต ได้ต่อเนื่อง
    ในเบื้องต้น จะเห็นสภาวะที่แยกกันทำงาน ของ กาย กับ จิต อย่างชัดเจน ปัญญาจึงจะเกิด
    และชี้ชัดว่า กายส่วนกาย จิตส่วนจิต ทำงานคนละหน้าที่ จิตมีหน้าที่ในการปฎิบัติ
    เพื่อรู้เห็นความเป็นจริง ของรูป นาม กายหยาบ มีหน้าที่ทำงานทางโลก
    แต่อยู่ร่วมกันและทำงานไปพร้อมๆ กัน

    ทรงสมาธิจิต ต่อไปจะเห็นว่า จิตกับอารมณ์ นั้นเป็นคนละสิ่ง แยกจากกันได้ อารมณ์เกิดจาก เหตุปัจจัยเมื่อมีการประทบ จิตเป็นผู้เข้าไปรับเอาอารมณ์ นั้นมาเป็นของจิต
    ต่อเมื่อสามารถแยก อารมณ์ ต่าง ๆ ออกจากจิตได้จะเกิดสภาววะจิตผู้รู้ แยกออกจากสิ่งที่ถูกรู้
    หรืออารมณ์จิต การรู้นี้จะต้องกระทำให้มาก ด้วยการทรงสมาธิจิต ต่อเนื่อง
    กระทั่ง จิตถอนตัว จากสภาวะ จิตผู้รู้ หรือปล่อยวาง ผู้รู้
    นอกจากไม่คลุกคลี กับอามณ์ แล้ว ก็ ไม่คลุกคลีกับ ผู้รู้ด้วย เพราะเห็นลึกเข้าไปอีก ว่า ผู้รู้
    ก็ไม่เที่ยง เกิดดับ ตามเหตุปัจจัย สุดท้ายก็จะกลาย ผู้ดู
    ทั้งหมดทั้งมวลนี้เอง ต้องอยู่ภายใต้การทรงสมาธิจิต ตลอดต่อเนื่องในระหว่างวัน และคืน
    จุดนี้ใช่หรือไม่ที่ ยังทำกันไม่ได้ ผล คือ การปล่อยวางจึงยังไม่เกิด

    Nooboonsawan
    03.09.14

    Cr...Fb/Group จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2014
  11. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]

    ~๐ ภัยพิบัติ ๐~

    พูดถึงภัยของคนเรา ก็มีภัยนอกจิตกับในจิต
    ภัยนอกจิตไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดขึ้นมากก็เสียหายมากได้เช่นกัน
    แต่ภัยในจิตของคนเรา นี่สิ เกิดขึ้นบ่อยมากๆ

    เพราะวันนึงๆ เกิดขึ้นไม่รู้กี่ครั้งต่อวัน
    ภัยนอกจิต หรือภัยธรรมชาติ นานๆ จะมาสักที เช่น
    อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย ธรณีพิบัติภัย ฯลฯ
    ภัยในจิตคนเรานี่ เอาแค่เรื่องความคิดปรุงแต่ง เรื่องเดียวก็หนักพออยู่แล้ว

    ที่พูดมาทั้งหมดนี้ มิใช่ ไม่ต้องทำอะไรเลย คืออุเบกขา หรือเฉยแบบ..ค ว า ย
    สิ่งใดพอจะป้องกันก็ทำไป พูดถึงทางโลก
    แต่สิ่งที่ควรป้องกันก่อนเลยนั่นก็คือ จิตตน

    เมื่อภัยธรรมชาติเกิดขึ้น เช่น
    ๑.ภัยนอกจิต(อุทกภัยฯ) ป้องกันกันได้ไหม อย่างมากก็แค่บรรเทา
    คือทำอย่างไรก็ได้ หนักให้เป็นเบา
    ๒.ภัยในจิต อาทิเช่น ความทุกข์ทั้งหลายแหล่
    ซึ่งเกิดมาจากสิ่งกระทบภายนอก บวกกับความคิดนึกหรือปรุงแต่งจิตของตนเอง
    คือกิเลสมันล้นหรือท่วมจิตใจคนเรา ก็ยากจะแก้ไข
    ต้องรอจนกว่ากิเลสตัวนั้นมันดับลงไปเสียก่อน
    เหมือนความโกรธกำลังตั้งอยู่ เราทำอะไรไม่ได้ ต้องรอความโกรธดับลงก่อน
    เหมือนน้ำท่วมไหม ทำอะไรมากไม่ได้ ได้แต่บรรเทา คือจากหนักให้เป็นเบาเท่านั้น
    นักภาวนาก็เช่นกัน ถ้าสอบกิเลสไม่ผ่าน เช่น ความโกรธ เป็นต้น หมายถึง
    ถ้าเราสอบกิเลส(ความโกรธ)ไม่ผ่าน อาการน๊อตหลุด ก็จะเกิดขึ้นกับคนๆนั้น
    หมายถึงอารมณ์ของเรามันหลุด จิตมันไหลไปกับกิเลสความโกรธ
    จิตเรากลายเป็นกิเลส กลายเป็นความโกรธนั้นๆ ไปเรียบร้อยแล้ว

    สรุป เราสอบตก สอบไม่ผ่าน
    การสอบไม่ผ่านของนักภาวนา ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ
    แต่สอบผ่านนี่สิ น่าเซอร์ไพร์!

    เพราะฉะนั้น วันนี้..เดี๋ยวนี้..จิตของเรา พร้อมรับภัยทุกอย่างกันไหม๊
    โดยเฉพาะ ภัยในจิตของตนที่กำลังจะเกิดขึ้น

    คนที่นี่! นอกจากจะปรารถนาพระนิพพานแล้ว
    ยังปรารถนาเห็นผู้คนหลุดพ้น โดยเฉพาะ พ้นทุกข์
    แม้นแต่พระตถาคต ก็ยังทรงปรารถนาให้ชาวพุทธทั้งหลาย เข้าถึงคำว่า
    ๐ธ ร ร ม ป ฎิ บั ติ๐ เพราะธรรมปฎิบัติ ถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าสูงสุด
    แต่ก็อย่างว่า..เข้าใจบนความไม่เข้าใจของผู้อื่น..
    เพราะหลักใหญ่ก็อยู่ที่ กำลังใจของคนๆนั้น หรือบุญบารมีของคนๆนั้น
    ไม่ใช่ ใครอยากจะคิดนึกหรือปฎิบัติตามคนอื่นเขาได้ ไม่ใช่ๆ ไม่ง่ายอย่างที่คิด
    เพราะถ้ากำลังใจไม่ถึง หมายถึงใจไม่อยาก คำว่า ธ ร ร ม ป ฎิ บั ติ
    เมื่อใจมันไม่อยากทำ คำว่า ล้ม+เลิก ก็จะตามมาภายหลัง
    เพราะฉะนั้น คำว่า พ้นทุกข์ คำว่า มรรคผล คงไม่ต้องพูดถึงกันเวลานี้
    จบกัน นู้นเลย ไปเริ่มต้นเดินบันไดบุญกันใหม่ เช่น
    บุญชั้นทาน หรือบุญสูงกว่านี้ก็คือ การรักษาศีล หรือสวดมนต์ฯ เป็นต้น
    หากวันใด บุญเราใกล้จะเต็ม วัดกันที่กำลังใจ คือ
    กำลังใจที่อยากปฎิบัติธรรมเหมือนกับคนอื่นๆเขา

    ภู ท ย า น ฌ า น
    ภาพ: สุโขทัย ระทม ! ขอบพระคุณเจ้าของภาพ นสพ.ไทยรัฐ
    (แต่อย่าให้จิตตนมันทุกข์ระทมก็แล้วกัน)
     
  12. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ๐๐ จิตบำเพ็ญ กับ การวิปัสสนา...

    อีกหนึ่งผลงาน ของ บ้านจิตเกาะพระ ที่ภูมิใจนำเสนอ

    น้องไกด์ ลูกศิษย์ ครูเกษ

    ~.~.~.~.~.~.~.~

    ดวงจิตดวงนี้ ได้ผ่านการบ่มเพาะ เดินมรรคอย่างถูกต้อง
    ศีล สมาธิ ปัญญา ตรงตามความรู้ที่พระพุทธเจ้าสอนทุกประการ...

    ภาวนามยปัญญา ...คือ สิ่งที่นักปฏิบัติธรรทุกคนตามหา
    จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมือ จิตทรงสมถภาวนา หรือ
    ทรงสมาธิจิต(ฌาน) อย่างต่อเนือง ...
    จิตจะเข้าสู่ การวิปัสสนา คือการเรียนรู้ความจริง
    ที่ตรงตามความจริงของธรรมชาติ ...ปัญญาจะผุดเกิดขึ้นมา
    ..ปัญญานี้แหละ ที่จะทำให้ จิตฉลาด ถึงขั้น ละ ปล่อย วาง ใน รูป นาม
    ได้หมดสิ้น ... ((สมถะ + วิปัสสนา ต้องเดินไปคู่กัน))

    จิตดวงนี้ กำลังบำเพ็ญ ...
    ขอพวกเรา โมทนาสาธุธรรมที่เกิดขึ้นในจิต ของผู้ปฏิบัติรายนี้ ด้วยเถิด ...
    ดวงตาเห็นธรรม กำลังบังเกิดขึ้น อีกหนึ่งดวงจิตที่น่าจับตามอง
    คงจะมี ดอกบัวบาน เร็วๆ นี้ ..สาธุ สาธุ สาธุ
    และขอโมทนาสาธุกับ ครูเกษ ครูผู้สอน ผู้เสียสละความสุขส่วนตัว...
    เพื่อช่วยลูกหลาน ของ ท่านพ่อ หลวงพ่อ ตลอดมา

    โมทนาสาธุครับ

    ภู ท ย า น ฌ า น

    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    ๐๐ ขอเชิญติดตามอ่าน เรื่องราวของจิตบำเพ็ญท่านนี้ ต่อ ๐๐

    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพครับ

    ก่อนนอนก็ดูลมหายใจ แล้วก็คิดถึงท่านพระพุทธเจ้า จนหลับไปครับ
    ตื่นมาจิตก็ไปหาภาพพระเช่นเคยครับ ตอนนี้ตื่นแล้วก็เข้าสมถะก่อนซักแปปนึง
    ค่อยลุกไปทำภารกิจส่วนตัวครับ

    วันนี้เป็นวันหยุดครับ ตื่นเช้าไปรับแฟนพากันไปปล่อยปลาไหล
    จิตเบาสบายมากครับ เวลาจะไปทำบุญจิตจะเป็นสุขมากครับ
    ต่างจากแต่ก่อนจะพะวงกลัวการปรามาสพระจะเกิดขึ้นในจิตแต่ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ

    ตื่นมาก็สติก็เริ่มติดตั้งแต่ลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำเลยครับ
    อาบน้ามก็พิจารณาทุกข์ พิจารณาร่างกายเหมือนทุกวันครับ
    จิตยังมีอารมณ์เบื่ออยู่ครับวันนี้ไปนั่งกินข้าวที่ร้านแถว ม.เกษตร
    เด็กนักเรียนมหาลัยเต็มร้านคุยกันเสียงดังลั่นร้านเลยครับ
    มองดูทั่วร้านเห็นคนเยอะๆแล้วจิตรู้สึกเบื่อครับ รู้สึกว่าวุ่นวายจริงๆเนาะโลกนี้
    แต่ไม่มีความรู้สึกรำคาญเสียงที่ดังมากครับ จิตยังนิ่งเฉย
    ตามดูการกินอยู่ตลอดครับ จิตเบื่อไม่อยากกินครับ
    กินแล้วไม่รู้สึกอร่อยเหมือนที่เคยมากินครับ ทั้งๆที่เมื่อก่อน ร้านนี้ผมจะชอบกินมาก
    มาทีไรกินกระจายตลอด แต่ก็กินไปเรื่อยๆ เพราะแฟนอยากกินครับ
    วันนี้ นั่งมองแฟน แล้วจิตเกิดความคิดพิจารณาอสุภะขึ้นมาครับ
    จิตเริ่มพิจารณาขึ้นเองแล้วครับ พิจารณาถึงความสกปรกของร่างกายเรา
    และคนที่เรารัก ตอนนี้กับแฟนเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเมตตาสงสาร
    อยากให้เธอพ้นทุกข์ไปด้วยกัน ไม่ได้ผูกมัดหึงหวงอยากครอบครองเหมือน
    แต่ก่อนครับ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดครับ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ครับ
    เพราะยังไม่มีเหตุการณ์ใด มาทดสอบว่าจิต วางจริงหรือป่าว คงต้องรอดูไปครับ

    จิตเริ่มพิจารณาขึ้นเองแล้วครับ มองอะไรจิตมักจะพิจารณาถึงไตรลักษณ์บ่อยๆครับ เช่นเห็นตนไม้ที่ปลูกดอกมันร่วงต้นเหี่ยวไม่สวย จิตพิจารณาถึงความไ่ม่เที่ยงครับ
    แต่ก่อนต้นไม้ออกดอกสวยงามมองแล้วมีความสุข วันนี้ดอกมันร่วงลงหมด
    ใบก็ร่วงแห้งๆอยู่ที่โคนต้น ชีวิตเราก็คงเป็นเช่นนี้แหละครับ
    วัยรุ่นก็เหมือนดอกกะลังออกสวยงาม พอแก่ก็แห้งเหี่ยงร่วงหล่นเป็นธรรมดา
    จิตเฉยๆไม่รู้สึกอาลัยอาวรต้นไม้ที่ปลูกเหมือนแต่ก่อนครับ
    แต่ก็ทำหน้าที่รดน้ำต้นไม้อยู่ทุกวันครับ บางทีก็คิดถึงความตายอยู่บ่อยๆครับ
    แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกเฉยๆแล้วครับ

    วันนี้ จิตค่อนข้างทรงตัวครับ แจ่มใส อารมณ์ปรุงแต่งแทบไม่มี
    สิ่งใดคำพูดใครกระทบจิตเริ่มวางเฉยเอง โดยไม่ต้องพิจารณาธรรมต่างๆแล้วครับ
    แต่อารมณ์เบื่อ ยังมีอยู่ตลอดครับ มองอะไรก็เบื่อ แต่ก็ตามรู้ตามดูอยู่เสมอครับ

    ตอนนี้ภาพพระเป็นพระพุทธรูปสีทอง หลังจากอาราธนาบารมี 30 ทัศ
    จิตคิดถึงท่านพ่อองค์พระปฐมครับ ขอบรรลุมรรคผลนิพพานในชาตินี้ครับ
    ทำเต็มกำลังครับ ขอให้ได้ถวายงานช่วยท่านพ่อในชาตินี้ไปเลยครับ
    จะตั้งใจปฏิบัติเต็มที่ครับครู

    วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับ

    สวัสดีครับ /\

    ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    ๐๐ นี่เป็นอีกหนึ่งรายงาน เป็นตัวอย่างที่ดี จิตเกาะพระใหม่ ควรรู้ไว้


    Cr: Fb /Group จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
     
  13. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    แจ้งเพื่อทราบค่ะ...สำหรับท่านผู้สนใจติดตาม กระทู้จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ !!


    ทางเราได้ทำการเปิดบ้านใหม่ เพื่อให้สามารถรองรับกลุ่มผู้คนที่สนใจการปฏิบัติธรรม
    ในแนวทาง "จิตเกาะพระ" ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น
    และเพื่อความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นในการติดต่อสื่อสาร
    สำหรับท่านผู้สนใจอ่านธรรมะสดๆทุกวัน
    จากท่าน อ.ภูทยานฌาน (เจ้าของกระทู้)

    สามารถติดตามอ่านได้ ที่ลิ้งค์นี้นะค่ะ

    https://www.facebook.com/groups/596157757171015/

    ด้วยรักและปรารถนาดี

    จาก สมาชิกกลุ่มบ้านจิตเกาะพระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2014
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    นโม ธัมโม สังโฆ
    น้องดาว Pugsley เธอเป็นนักประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ เนี๊ย
    โมทนาสาธุ
     
  15. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตนำเสนอการรายงานการบ้านโค้งสุดท้าย
    ของจิตบำเพ็ญน้องไกด์
    ก่อนที่จิตท่านจะยกในวันนี้อย่างเป็นทางการค่ะ ขอทุกท่านได้โปรดโมทนาในมหาบุญกุศลนี้กับดวงจิตของท่านด้วยเถิด สาธุ


    *********************************************​

    17 กันยายน 2557

    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพครับ

    ก่อนนอนนึกถึงท่านพ่อแล้วหลับไปครับ ตื่นมาจิตก็ไปหาท่านพ่อก่อนเลยครับ

    เมื่อคืนเข้างานกะดึกครับ ไปทำงานด้วยจิตแจ่มใสครับ เมื่อคืนจิตย้อนนึกถึงเรื่องราวชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ครับ เห็นว่าเรานี้มันเคยเลวสุดๆจริงๆครับ ไม่เคยมีสติ ปล่อยจิตปล่อยใจมาตลอด จิตนึกถึงบารมีและบุญคุญของท่านพ่อที่ท่านทรงบำเบ็ญเพียรจนพบเจอทางแห่งการพ้นทุกข์ให้กับเรา เกิดปิติขึ้นภายในอย่างมหาศาลเลยครับ ถึงวันนี้จิตของผมเปลี่ยนไปมากครับ จากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ ชีวิตดีขึ้นมากทุกๆด้าน ทุกข์ที่เคยเกิดกับจิตใจก็หายไปอย่างไม่น่าเชื่อครับ มันได้ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ แต่เราคงไม่ยึดเอามาเป็นเราเหมือนแต่ก่อน วันนี้จิตเบาสบาย พยายามอธิฐานจิตให้ท่านพ่อ หลวงพ่อ มารับรองดวงจิตอย่างที่อาจารย์ภูได้บอกให้ปฏิบัติครับ จิตเป็นสุขสบาย อย่างบอกไม่ถูกครับ สติตอนนี้เรียกได้ว่าติดตลอดแล้วครับ แม้แต่จะพูดอะไรออกไปซักคำยังต้องคิดทบทวนก่อนเสมอครับ แต่จิตไม่พิจารณาอสุภะเลยครับครูวันนี้ ตามดูร่างกาย ดูความคิด ดูทุกข์ อยู่ตลอดครับ บางทีจิตก็มาดูลมหายใจเองอ่ะครับครู ความฟุ้งซ่านไม่เกิดขึ้นเลยครับวันนี้ นี่ก็ 3 เดือนเต็มพอดีแล้วครับ ลองเอาแบบทดสอบที่ครูเคยให้ทดสอบก่อนปฏิบัติมาเทียบดูกับจิตตอนนี้รู้สึกว่าทำสำเร็จไปเกือบจะหมดแล้วครับ ตอนนี้อารมณ์นิ่งมากเลยครับ วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับครู สวัสดีครับ



    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพ

    21 กันยายน 2557

    ก่อนนอนคิดถึงท่านพ่อ และตื่นนอนจิตไปหาท่านพ่อก่อนทุกวันครับ

    ยังตามดูร่างกาย พิจารณาสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดครับ สติแทบจะอยู่กับทุกอิริยาบทของร่างกายแล้วครับ แต่ยังมีช่วงหลุดอยู่บ้างครับ บางทีจิตก็เข้าอานาปานสติเองโดยที่ไม่ต้องคอนโทรลเลยครับ แต่จะเข้าอานาปานสติ ได้แปปนึง ก็จะกลับไปตามอิริยาบทของร่างกายต่อ สลับคิดถึงภาพพระแว๊ปๆ อยู่เสมอครับ ภาพพระเป็นภาพท่านพ่อที่ประดิษสถานที่วัดท่าซุงครับ บางทีก็เป็นภาพท่านพ่อฤาษีครับ ช่วงนี้จิตสงบครับ พยายามอธิฐานจิตถึงท่านพ่อตามที่อาจารย์ภูได้แนะนำมาอยู่เสมอครับ แต่ก็ยังไม่ได้พบท่านแบบจะจะครับ ไปพักผ่อนที่แพกาญ มา 2 วัน 1 คืนครับ อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม จิตเข้าพิจารณาร่างกาย และ ความตาย บ่อยมากครับ เห็นความเปลี่ยนแปลงของจิตที่เปลี่ยนไปเยอะมากครับ

    เมื่อก่อนกลัวผีแบบขึ้นสมองครับ เจอความมืดไม่ได้ ฟุ้งซ่านลุกลี้ลุกลนตลอดครับ แต่กลางคืนของวันที่ไปเที่ยวนั้น พวกพี่ๆเจ้าของแพก็ชวนนั่งเรือออกไปเที่ยวครับเค้าขับเรือออกไปยิงปลากันครับ แต่จิตไม่ได้อยากไปยิงปลานะครับแต่อยากออกไปนั่งเรือเล่นๆ ก็เลยขึ้นเรือไปกะเค้าด้วย ก็ไปจอดริมแม่น้ำซึ่งมืดมากมีแต่เสียงของนกในป่า ไฟซักดวงก็ไม่มี ข้างๆเป็นป่ามืดไปหมด จิตไม่รู้สึกกลัวผีซักนิดเลยครับ เรื่องผีหายไปเป็นปลิดทิ้งครับ ตอนนี้กล้าพูดแล้วว่าไม่กลัวผีซักนิดเลยครับ คิดว่าพวกเค้าคือเพื่อนร่วมสังสารวัฏของเราครับ คิดถึงภาพท่านพ่อตลอดเลยครับ

    นั่งเรือออกจากแพไปได้ประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่เค้าจะลงไปยิงปลากันครับ เราก็นั่งรอบนเรือครับ พวกพี่ๆเจ้าของแพก็ลงไปยิงปลากัน ลงไปกัน2 คน มันคือการถือหอก + ไฟฉาย ดำลงไปในน้ำแล้วยิงใส่ปลาอ่ะครับ ตอนนี้จิตยังนิ่งสงบอยู่ครับ แต่หลังจากปลาตัวแรกที่พวกเค้ายิงได้ เค้าก็ว่ายเอามาไว้บนเรือ จิตเกิดความสงสารขึ้นครับ รีบอุทิศบุญกุศลให้เจ้าดวงวิญญาณของปลาตัวนั้นทันที ซักพักนึงตัวที่ 2 ก็ตามมาครับ จิตยิ่งรู้สึกไม่ดีครับ ก็อุทิศบุญให้ดวงวิญญาณของปลาที่ถูกยิง และปลาทุกตัวที่เคยถูกชาวบ้านแถวนี้พิฆาตในแม่น้ำนี้ทั้งหมดครับขอให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีและโปรดอโหสิกรรมต่อข้าพเจ้าด้วยครับ ซักพักจิตก็เริ่มเฉยครับ จิตก็พิจารณาว่านี่คงเป็นกรรมของปลาพวกนี้ครับ ที่ต้องถูกฆ่าแบบนี้ เราคงมาช่วยได้แค่อุทิศส่วนบุญให้่ได้เท่านี้แหละ เราไม่ได้มีเจตนามาไล่ล่าพวกเจ้านะ ก้อธิฐานจิตว่าขอให้ปลาทั้งหลายบริเวณนี้จงหลีกหนีอย่าได้เข้ามาใกล้บริเวณนี้เลยเทอญ

    พี่คนนึงก็ได้ปลามาประมาณ 6 ตัวมั่งครับ แต่อีกคนนึงดำยังไงก็ไม่เจอปลาเลยครับ เค้าก็บอกวันนี้แปลกๆ กลับกันเถอะ ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็กลับเข้าแพครับ แต่ก่อนเวลาไปเที่ยวทริปต่างจังหวัด จะรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข แต่ครั้งนี้จิตกลับเฉยๆครับ มองเห็นคนรอบข้างทั้งแฟน เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันจิตก็พิจารณาถึงความตาย พิจารณาอสุภะขึ้นมาเองเลยครับ รู้สึกสงสารพวกเค้าจิงๆครับ หลังความตายของพวกเค้าคงน่ากลัวน่าดูครับ ก็มีการกินเหล้า ปาร์ตี้กัน

    แต่ผมก็ปลีกตัวมานั่งคนเดียว ชมวิว พิจารณาอะไรไปเรื่อยๆครับ มองวิวภูเขาก้อนเมฆแล้ว คิดถึงท่านพ่อมากๆครับ อยากกลับบ้านเหลือเกินครับ รู้สึกถึงความว่างเปล่าของจิตลึกๆ ได้ชัดเจนมากครับ จิตเบาสบาย โล่งสุดๆเลยครับ แต่ยังทรงอารมณ์นี้ไว้ได้ไม่นานครับ จิตก็คิดถึงเรื่องราวต่างๆตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันอีกแล้วครับ รู้สึกว่า แต่ก่อนเคยคิดว่าการที่ผมต้องอาศัยด้วยตัวคนเดียวมาตั้งแต่อายุ 15 นี่ชีวิตเรามันช่างรันทดแท้ๆ แต่ตอนนี้จิตกับรู้สึกดีซะอีกที่เราไม่ต้องมีห่วงอะไรครับ แม่ก้จากไปแล้ว ตอนนี้คงเหลือแค่พ่อ กับ แฟน ที่ขันธ์ 5 นี้ยังต้องดูแลเค้าต่อไป และยังมีแรงปรารถนาที่จะช่วยเหลือดวงจิตอื่นๆให้พ้นจากสังสารวัฏนี้อยู่เหมือนเดิมครับ ตอนนี้คิดถึงท่านพ่อ คิดถึงหลวงพ่อ คิดถึงบ้านมากครับ

    วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับครู ... แบบฝึกที่ครูให้มาจะรีบตอบกลับในวันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อนครับ ราตรีสวัสดิ์ครับครู

    สวัสดีครับ/\
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2014
  16. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    22 กันยายน 2557

    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพครับ

    วันนี้ทำงานกะเช้าหลังจากพักผ่อนต่างจังหวัดชาจแบตอยู่กับธรรมชาติมาเต็มๆครับ ขับรถออกจากบ้านเห็นความวุ่นวายของเมืองกรุงแล้ว จิตก็เบื่อความวุ่นวายเหลือเกินครับ คิดถึงอารมณ์ความรู้สึกตอนที่อยู่กับธรรมชาติมันโล่งสบายมากเลยครับ ตามดูตามรู้ไปครับ ไปถึงจอดรถเจอพี่เทิดพอดีเลยแวะกินข้าวด้วยกันแลกเปลี่ยนธรรมมะกันนิดหน่อยครับ

    ถึงที่ทำงานเห็นผู้คนเยอะแยะ มองเห็นความวุ่นวายของการทำงานของแต่ละคน จิตก็เบื่อเข้าไปอีก พิจารณาขึ้นมาว่า เฮ้ออ นี่และหนอชีวิตของมนุษย์ ทำงานหนักเป็นทุกข์ ยอมเหนื่อย ก็เพื่อดูแลไอขันธ์ 5 ที่มันเอาแต่ใจมันเอง เดี๋ยวอยากนู้น อยากนี่ เป็นนั้น เป็นนี่ นี่เรายังจะมาเกิดอยู่อีกทำไมกันเนี่ย ไม่เอาแล้วไม่เกิดแล้วนะ วันนี้หลังจากช่วงเช้าที่จิตมีอารมณ์เบื่ออย่างหนัก ไม่อยากพูดจากับใคร ไม่มีอารมณ์ร่วมกับใคร สักแต่ว่าคุย คุยผ่านๆไปยังงั้น ก็จะแวปมาสนทนาธรรมกะพี่เทิดอยู่บ่อยๆครับ

    จนเข้าช่วงบ่าย จิตเริ่มเฉย เฉยอย่างเดียว ไม่มีอารมณ์ใดๆเลย ก็พยายามสื่อกับท่านพ่อตามที่ครูได้บอกให้ปฏิบัติแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ ภาพพระวันนี้เปลี่ยนเป็นภาพพระพุทธเจ้ารู้สึกว่ามีชีวิตครับ ยืนก้ม ลงมาเหมือนจะมอบอะไรให้เราครับ เป็นภาพนี้ตั้งแต่เช้าแล้วครับ ภาพชัดเจนแจ่มใสดีครับ สติ ยังทำงานติดตลอดเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน จิตเบื่อตอนเช้า ตอนบ่ายนิ่งเฉยครับ วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับครู สวัสดีครับ /\



    23 กันยายน 2557

    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพครับ

    ก่อนนอนหลับไปพร้อมกับภาพพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นรูปโปรไฟล์ของครูครับ ตื่นมาจิตก็ไปหาภาพพระเหมือนเดิมครับ

    ขอขมาพระรัตนตรัย อาราธนาบารมี30ทัศ อุทิศเปิดบุญจิตเกาะพระตลอดวัน แล้วก็อุทิศเบิกบุญเจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ทั้ง3 โลก ให้พ่อแม่แล้วก็แฟน เจ้ากรรมนายเวรของทุกท่านก่อนออกไปทำงานเหมือนเดิมทุกวันครับ วันนี้ไปทำงานด้วยอารมณ์จิตที่เฉยๆเหมือนเดิมครับ ความเบื่อเริ่มหายไปครับ มองเห็นร่างกายผู้ร่วมงาน จิตก็พิจารณาอสุภะเองทันทีครับ พิจารณาบ่อยมากครับวันนี้ เห็นคนวุ่นวายกับการทำงาน จิตก็พิจารณาว่าทุกคนนี่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ ของเรา ชีวิตเรายังมีแต่ทุกข์ ชีวิตพวกเค้าก็คงมีทุกข์ไม่น้อยไปกว่าเราหรอกครับ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ จิตพวกเค้าหากหมดจากขันธ์5 ไป พวกเค้าทั้งหลายจะไปไหน สุดท้ายก็คือกรรมใครกรรมมัน ต่างคนต่างมีกรรมเป็นของตัวเอง ก็ขอภาวนาให้ทุกคนมีดวงตาเห็นธรรมเพื่อจะไม่เป็นทุกข์หลังจากที่ขันธ์5 นี้หมดสิ้นไปครับ ตามดูตามรู้ไปเรื่อยๆ วันนี้จิตสงบ นิ่งเฉย ครับครู ภาพพระตั้งแต่เช้าเป็นภาพพระพุทธเจ้าก้มมือยื่นดอกบัวครับ หลังจากช่วงก่อนจะเป็นพระพุทธรูปตลอดครับ

    วันนี้รู้สึกได้ถึงเมตตาบารมีของท่านอย่างมหาศาลครับ ความอ่อนโยน ของท่านที่มีต่อเรา เย็นเข้าไปข้างในจิตครับ แต่จิตก็ทรงอยู่ที่อารมณ์เฉย แต่กำลังใจมันเกิดขึ้นข้างในแบบสุดๆเลยครับครู
    ...

    วันนนี้มีเพียงเท่านี้ครับ

    สวัสดีครับครู /\
     
  17. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    กับคำถามไม้ตายสุดท้าย...


    ไกด์เอ๊ยลูก...มาถึงตอนนี้แล้ว ในชาตินี้เจ้าอยากทำอะไรที่เจ้ายังไม่ได้ทำบ้างมั้ย ในชีวิตนี้ คือประมาณว่าเสียดาย ก่อนตายที่ไม่ได้ทำ?

    ชีวิตผมผ่านมาหมดแล้วครับ ชีวิตเด็ก วัยรุ่น เต็มที่กับมันไปสุดๆแล้วครับ เลวเละเทะมาสุดแล้วครับ ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่มีอดีตที่ต้องเสียดาย แล้วไม่มีอนาคตที่ต้องคาดหวัง มีที่พึ่งคือพระรัตนตรัย ที่ประเสริฐที่สุด ชีวิตผมพบเจอสิ่งที่ต้องการแล้วและได้เข้ามาเดินอยู่ในเส้นทางที่ท่านพ่อสร้างเอาไว้ ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรแล้วครับ

    ตัวทิฐฐิ อัตตา มานะ เป็นของเจ้ามั้ย? หรือเป็นของใคร?

    เมื่อก่อนที่กิเลสทั้งหลายปกคลุมดวงจิตของผมมันเคยเป็นของผมครับ แต่ตอนนี้เมื่อได้ทำความสะอาดจิตดวงนี้แล้ว เข้าใจแล้วว่าพวกเราทั้งหลายต่างมาด้วยความเป็นผู้ที่ไม่มีอะไร และก็จะต้องกลับไปโดยที่ไม่มีอะไรเช่นกันครับ


    แล้วถ้าเผื่อเกิดธาตุลมเจ้าดับ แล้วตายไปในตอนนี้ เจ้าเสียดายมั้ย? เพราะอะไร? แล้วเจ้ามั่นใจมั้ยว่าจิตเจ้ามีที่ไปที่ดี แล้วไปไหน?

    ยินดีและพร้อมที่จะไปจากสิ่งรวมทุกข์เหล่านี้เสมอครับ การเกิดเป็นทุกข์ที่สุดครับ มั่นใจว่าจิตผมมีที่ไปที่ดีแน่และจะเข้าจอดในที่สิ้นสุดคือพระนิพพานครับ

    โมทนาสาธุ

    ครูเกษ
     
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    เทียบกับบารมี 10 ประการ

    1.ทานบารมี (การให้โดยไม่หวังผล) มีจิตปรารถนาจะสละด้วยการให้ทานอยู่เสมอ

    ตอบ. ก่อนปฏิบัติชอบทำทานกับคนที่ไม่มีช่วยเหลือเอื้อเฟื้อต่อผู้ที่ต้องการ ทำบุญต่างๆ เพื่อหวังว่าเกิดมาชาติหน้าบุญทานที่ทำจะช่วยให้เกิดมาพร้อมในทุกๆด้าน แต่ตอนนี้ทำทานเพื่อชดใช้สิ่งที่เคยล่วงเกินผู้อื่น เวรกรรมเก่าๆ ที่เคยเบียดเบียนผู้อื่น เพื่อความสุขของผู้อื่น จิตใจมีความเต็มใจในการให้ทาน มีความอยากให้อยู่ตลอด โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ หยอดเหรียญที่เหลือใช้ในแต่ละวันเพื่อนำเงินจำนวนนี้ทำบุญในสิ้นเดือน เพื่อมุ่งตรงสู่พระนิพพาน

    2.ศีลบารมี(รักษาศีล 5 เป็นปกติ) มีความรักในศีลห้า มีความตั้งใจทรงศีลห้าให้บริสุทธิ์ครบถ้วนอยู่เสมอ

    ตอบ. ก่อนปฏิบัติประพฤติตนผิดศีลอยู่เป็นประจำ ทั้งวาจา กาม และ สุรา ตอนนี้ตั้งใจรักษาศีลอย่างเคร่งครัด ศีลเป็นกำลังของสมาธิเพื่อเป็นพื้นฐานในการเจริญภาวนายิ่งๆขึ้นไป

    3.เนกขัมมะบารมี(การถือบวช) บวชด้วยใจ คือสำรวมกาย วาจา ใจ อยู่เสมอ

    ตอบ. เมื่อก่อนทำอะไรตามใจตนเองอยู่เสมอแทบไม่เคยคิดก่อนที่จะทำอะไร หลงติดในความสุขต่างๆที่ได้สัมผัสนิวรณ์ทั้งหลายจึงเกาะกินในจิตใจมาตลอด ปัจจุบัน ใช้กำลังของสมาธิ และการภาวนา เพื่อกำจัดเหล่านิวรณ์ต่างๆที่เข้ามา

    4.ปัญญาบารมี(ความรู้) ทรงปัญญาพิจารณาอยู่เสมอ ยอมรับว่าโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัว ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง

    ตอบ เข้าใจแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่เที่ยงครับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในที่สุด เหตุใดเราต้องยึดมันไว้ให้เป็นทุกข์ ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงได้ครับใช้ปัญญาพิจารณาสิ่งต่างๆเสมอครับ

    5.วิริยะบารมี(ความเพียร) มีความพากเพียร ไม่ย่อท้อ ต่อสู้อุปสรรคด้วยประการทั้งปวง

    ตอบ. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราล้วนเกิดจากกรรมที่เราเคยสร้างไว้และเป็นเหมือนครูเป็นบททดสอบการปฏิบัติของเรา ตั้งใจและต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆเพื่อความหลุดพ้นครับ

    6.ขันติบารมี(ความอดทนอดกลั้น) มีความอดทนอดกลั้น ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ต่าง ๆ

    ตอบ. จิตใจที่มืดบอดเคยคบหากับกิเลสหนา อุปทานนานับ การเข้ามาสร้างบุญเจริญภาวนาเพื่อหลีกหนีพวกมัน จิตจะโดนยั่วยุจากกิเลส อุปทาน เพื่อนสนิทที่เคยคบหากันมานานอยู่ตลอดครับ ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมากในช่วงแรกๆครับ ต้องคอยพิจารณาสิ่งที่เข้ามาต่างๆด้วยปัญญาตอนนี้เบาลงเกือบหมดแล้วครับ

    7.สัจจะบารมี(ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ) มีความจริงใจ ตั้งใจไว้อย่างไรจะทรงไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

    ตอบ. มีความตั้งใจจะตัดกิเลสทั้งหมดลงให้ได้ครับ ตั้งใจปฏิบัติเพื่อพระนิพพานจนวาระสุดท้ายของลมหายใจนี้ครับ หากปฏิบัติสำเร็จขอถวายร่างกายนี้แด่ท่านพ่อเพื่อช่วยเหลือเหล่าดวงจิตทั้งหลายให้พ้นจากสังสารวัฏให้ได้ครับ

    8.อธิษฐานบารมี(ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง) ตั้งกำลังใจไว้ว่า เราปฏิบัติความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน

    ตอบ เมื่อก่อนไม่รู้ว่าปฏิบัติไปเพื่ออะไรครับแค่เพียงอยากให้จิตสงบแต่หลังจากได้พบเจอได้รู้เข้าใจถึงขันธ์ 5 การเกิดที่เป็นทุกข์ที่สุด จึงเกิดความเข้าใจ และมีความตั้งใจปฏิบัติเพื่อพระนิพพานเป็นที่สุดครับครับ

    9.เมตตาบารมี(ความรักด้วยความปรานี) คิดว่าเรารักคนและสัตว์ทั้งหมด ไม่ถือว่าใครเป็นศัตรูกับเรา

    ตอบ. ทุกสิ่งในโลกล้วนมีทุกข์ในตัวเองอยู่แล้วทั้งสินครับ ทุกชีวิตเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม และมี ความตายเป็นที่สุด ทุกชีวิตคือเพื่อนแก่ เพื่อนตายของเราครับ

    10.อุเบกขาบารมี(ความวางเฉย) วางเฉยต่ออารมณ์ทุกอย่าง

    ตอบ. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราคือกรรมและความไม่เที่ยงของขันธ์5ครับ ตามดูตามรู้มันให้ทัน อะไรจะเกิดกับเราก็ดูมันเฉยๆ ยอมรับกฏธรรมดา การเปลี่ยนไปของร่างกาย และสิ่งต่างๆบนโลกครับ ที่สุดของสรพพสิ่งทั้งหลายคือไตรลักษณ์


    เทียบกับรัก โลภ โกรธ หลง

    1.รัก
    ตอบ. รักด้วยความเมตตา ปราณี ไม่หวังครอบครองหรือเป็นเจ้าของครับ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องดับไปในที่สุดครับผม

    2.โลภ
    ตอบ. ไม่มีความทะเยอทะยานอยากได้อยากมีเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ทำงานหาเงินก็เพื่อดูแลรักษาขันธ์ 5 เพื่อการปฏิบัติต่อไปจนถึงที่สุดครับ

    3.โกรธ
    ตอบ. มีความรู้สึกขึ้นมาเมื่อมีสิ่งมากระทบกับขันธ์ 5 ของเรา แต่จิตไม่ปรุงแต่งต่อให้เกิดเป็นอารมณ์ครับ เกิดแลัดับไปอย่างไวครับ

    4.หลง (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส)
    ตอบ. ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติครับ ไม่มีความเที่ยงแท้ ส่วนสัมผัสไม่ยึดมันเป็นอารมณ์ครับ แต่ทำเพราะหน้าที่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2014
  19. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สังโยชน์ 10 .ประการ

    1.สักกายทิษฐิ ... การคิดว่าร่างกายเป็นเราเป็นของเรา

    หลังจากตามดูอิริยาบทของร่างกาย ดูทุกข์ ดูความคิด ต่างๆทั้งหลาย พิจารณาอสุภะ ก็รู้ว่าร่างกายเป็นเพียงแหล่งรวมธาตุทั้ง4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ครับ เวลาป่วย เวลาไม่สบาย ก็สั่งให้มันหายไม่ได้ ถ้ามันเป็นของเรา เราต้องสั่งให้มันหยุดป่วยได้สิ ร่างกายเป็นแหล่งรวมทุกข์และไม่ใช่ของเราครับ

    2.วิจิกิจฉา ... ความลังเลสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย

    หมดความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย ความเพียรพยายามเพื่อการพ้นทุกข์และหนทางแห่งการพ้นทุกข์ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ กำลังใจของท่านหาที่เปรียบไม่ได้ครับ คำสอนต่างๆของท่าน และพระอริยสงฆ์ที่สืบทอดคำสอนของท่าน เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ท่านทรงสอนได้อย่างน่าอัศจรรย์และรู้ได้ด้วยการลงมือปฏิบัติเองครับ

    3.สีลพตปรามาส ... การไม่รักษาศีลจริงจัง

    ศีลช่วยควบคุม กาย วาจา ใจ เมื่อเรารักษาศีลได้สม่ำเสมอแล้ว ศีลจะคุ้มครองรักษาเราเอง ทำให้ผมละอายและไม่กล้าทำบาปครับ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สติผมติดตลอด เป็นต้นทางนำเราไปสู่สมาธิ เพื่อเจริญปัญญาครับ

    4. กามฉันทะ .. ความพอใจ ในเรื่อง รูป สวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย และสัมผัสระหว่างเพศ

    เมื่อจิตเกิดปัญญาพิจารณาเห็นสิ่งต่างๆ เป็นไตรลักษณ์ แล้ว สิ่งที่เข้ามาสัมผัสขันธ์ 5 ของเราล้วนเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้นครับ ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นรูปสวยที่ซักวันก็ต้องแก่ลง ข้างในเต็มไปด้วยของเสียที่เราแบกเดินกันไปวันๆ เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศก็เช่นกันครับ นี่คือเพื่อนซี้ของผมมาตั้งไม่รู้กี่ชาติแล้วครับเป็นแหล่งรวมนิวรณ์ที่ขัดขวางการปฏิบัติของเรานี่เอง และเป็นต้นตอแห่งการต่อภพต่อชาติที่ไม่รู้จบครับ แต่ตอนนี้ขอเลิกคบมันแล้วครับ

    5. ปฏิฆะ ... ความโกรธ ความไม่พอใจ

    เมื่อก่อนเจ้าอารมณ์ที่สุดครับเอาแต่ใจตัวเอง ขี้โมโห เพราะปล่อยจิตลงสนามเล่นกับมันทุกครั้งครับ ความโกรธนี่แหละนี่ผูกเรากับเค้าไว้ เหมือนจุดไฟเผาตัวเองครับ ทุกชีวิตต่างต้องตายต้องแยกจากกันแน่นอนอยู่แล้วครับ ทุกคนคือเพื่อนร่วมแก่ ร่วมตาย ร่วมทุกข์ ไปกับเราครับ จะไปโกรธเกลียดกันทำไม ทุกข์ของตัวเองก็เยอะพออยู่แล้ว ยังจะไปทุกข์กับคนอื่นอีก พอตามดูความคิด ดูอารมณ์ โกรธที่เกิดขึ้นบ่อยๆเข้าแล้ว ก็เห็นมันเกิดดับเป็นธรรมดาครับ ทุกวันนี้ปฏิฆะยังเกิดในความรู้สึกนึกคิดอยู่ แต่จิตไม่เอาแล้วครับ จิตรู้แล้ววางทันทีครับ

    6. รูปฌาณ .. ความพอใจในความสุขจากฌาน ติดสุขในฌาน
    7 .อรูปฌาณ... ความพอใจในความสุขจาก อรูปฌาน

    ช่วงแรกเคยสงสัยมากว่าเราทรงฌาณได้หรือยังว้า ทรงฌาณเป็นยังไง จนการปฏิบัติไม่ก้าวหน้าไปไหน จนครูบอกว่าเจ้าน่ะ ทรงฌาณอยู่ แต่ไม่ต้องรู้หรอกว่ามันเป็นยังไง ขั้นไหน หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอยากรู้เรื่องฌาณอีกเลยครับ จึงไม่ยึดติดในอารมณ์สุขจากฌาน รู้แค่ว่าจิตเราสงบ เป็นสมาธิ มีไว้เพื่อใช้เป็นอาวุธต่อสู้กับกิเลสต่างๆที่เข้ามารบกวนจิตใจ ในเส้นทางสู่พระนิพพาน ความสุขในฌาณไม่ใช่หนทางที่แท้จริงแห่งการหลุดพ้นแน่นอนครับ

    8. มานะทิษฐิ ... ความถึอตัวถือตน

    เมื่อก่อนมีความทะเยอทะยาน อยากได้อยากมี อยากเหนือกว่าคนอื่น อยากเด่นอยากดัง หลงคิดว่าตัวเองมีดีมาตลอดครับ ตอนนี้พิจารณาแล้วรู้ว่า เราทุกคนมีขยะในร่างกาย มีความแก่ ความตายเป็นที่สุด เหมือนกันทุกๆคน เราจะไปคิดว่าคนอื่นดีกว่าเรา เราดีกว่าคนอื่นไปเพื่ออะไรครับ เพราะสุดท้ายเราก็แบกเอาอะไรไปจากโลกนี้ไม่ได้ซักอย่างเลย

    9. อุทธัจจะ ... ความฟุ้งซ่าน

    ความฟุ้งซ่านเป็นความคิดที่เกิดจากความเปลี่ยนไปของขันธ์ 5 อยู่เรื่อยๆครับ เมื่อก่อนไม่รู้อันไหนจิตอันไหนสติ จิตก็ละเลงไปเรื่อยเปื่อยเลยครับ บางเรื่องละเลงได้เป็นชั่วโมงๆ เมื่อแยกกาย แยกจิต มีสติติดตลอด ตามดูตามรู้ ก็ได้รู้ว่า ความฟุ้งซ่านมันเกิดตามธรรมดาของความเคลื่อนไปของขันธ์ 5 เราเป็นคนดู ดูเฉยๆไม่เล่นกับมัน มันก็เกิดแล้วดับเองเป็นปกติ มันไม่มีอำนาจที่จะขัดขวางในการบรรลุธรรมของเราได้หรอกครับ

    10. อวิชชา ..ความโง่

    เมื่อก่อนคิดว่าเราต้องสร้างหาความสุขให้ตัวเองจึงจะไม่มีความทุกข์ เห็นร่างกายเป็นของดี มัวเมาอยู่กับกิเลสตัณหาสารพัดครับ เหล้า ผู้หญิง การพนัน เงิน ชื่อเสียง เห็นว่าอยู่กับมันแล้วสนุกมีความสุข แต่ไม่เคยรู้เลยว่านั้นมันปูพรมแดงพาเราไปนรก หลังจากกรรมเก่าซาไป จนได้เข้ามาปฏิบัติจิตเกาะพระ จนเกิด '' สติ '' ติดตัวขึ้นมา ได้พบคำสอนของท่านพระพุทธเจ้าครับจึงได้รู้ว่า ความสุขนั้นไม่มีจริง เราสร้างเราสมมุติมันขึ้นมาทั้งนั้นครับ ร่างกายขันธ์5 ของเรารวมไว้แต่ความทุกข์ ถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียนรู้และอยู่กับทุกข์นั้นโดยยอมรับและเข้าใจมัน และพาจิตดวงนี้ไปสู่ทางแห่งการดับทุกข์ครับ
     
  20. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ 146 ณ วันที่ 23 กันยายน 2557


    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ 146
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ



    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...