จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ขออนุโมทนาในธรรมทานของท่านด้วยค่ะ ขอให้ท่านจงเจริญในธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปค่ะ สาธุ
     
  2. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ** คุยกันตามประสา ศิษย์กับอาจารย์ **

    ลูกช้าง.." นมัสการครูอาจารย์ สาธุ "

    พระอาจารย์.." ว่างัย...."

    ลูกช้าง.." มานมัสการเฉยๆ ครับ ไม่กล้าว่าอะไร "

    พระอาจารย์.." คิดถึงละซี.....5555555 "

    ลูกช้าง.." 55 "

    พระอาจารย์.." เป็นพระ ก็ คิดถึงพระ เนอะ "

    ลูกช้าง.." 555 สาธุ นั่นนะสิ ไม่รู้จะคิดถึงอะไร ได้ดีไปกว่าคิดถึงพระ ชมตัวเองผิดไหมนี่ครับ 55 "

    พระอาจารย์.." ชมกิเลส ยังชมกัน ทั่วโลกดินแดน ชมตัวเองที่ทำดีบ้างจะเป็นไร 555555 "

    ลูกช้าง.." สาธุ 555 "

    พระอาจารย์.. " ผ่องใส เศร้าหมอง สุข ทุกข์ มืด แจ้ง ล้วน อนัตตา "

    ลูกช้าง.." สุดยอดธรรมเลย นะนี่ สาธุ "

    พระอาจารย์.." จำเขามาอ่ะ คริๆ
    ของจริง....อยู่ที่หัวใจ คูหาสะยัง หัททะยัง สว่าง ว่าง เย็น ที่ ท่ามกลางอก แต่งขึ้น ปรุงขึ้น ไม่ได้ 5555555 "

    ลูกช้าง.." ยังไม่สว่าง ทำงัยดีอาจารย์ "

    พระอาจารย์.." ครูบา อาจารย์ มาไม่ขาดสาย ไม่สว่างได้งัย 5555555 "

    ลูกช้าง.." สาธุกราบลา ไปตัดหญ้าก่อนนะครับ สาธุ 555 คุยกับอาจารย์แล้ว ฮาดี มี
    ความสุข สาธุ "

    พระอาจารย์.." โชคดี "

    .........................................................................

    ... ช่วยชาติให้พ้นภัย ทำใจให้พ้นทุกข์ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    วันนี้วันพระ..ขออนุญาตฝากสาระธรรมหน่อยนะคะ.

    พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า."การเข้าสู่ความดีนั้น เราต้องให้ทาน รักษาศีล และภาวนา"

    คุณคิดดูสิ.. คนที่ประพฤติปฎิบัติธรรมส่วนใหญ่เขาไม่ได้ทำตามขั้นตอนแบบนี้ เขามาถึง เขาก็เข้าวัด เขาก็ใส่บาตร หรือเขาไปบวช หรือไปเป็นชีพราหมณ์ ทาน ศีล สมาธิ เดินจงกรม นั่งสมาธิ สลับกันไป ไหว้พระ สวดมนต์ ทาน ศีล ที่ตัวเองทำอยู่จริงๆแล้วที่คิดว่า ตัวเองดี แต่มันไม่ใช่เลย..

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เห็นอยู่บ่อยๆว่า คนที่ไปวัด แย่งที่กันบ้าง คนปฎิบัติธรรมที่ไปอยู่ในวัด ขัดแย้งกันเก่ง ทะเลาะกันเยอะมากค่ะ เพราะไม่เข้าใจหลักนี้.

    ความดีมันจึงถูกตัดทอนขาดไป ละชั่วทำดี ต้องเชื่อมกัน ต้องเป็นเวลาเดียวกัน มันจึงจะเข้าสู่ความดี ความบริสุทธิ์ได้แท้จริง..

    นี่เขาไม่ละชั่ว เพระเขาไม่มอง มาถึงก็กระโดดเข้าวัดออกวัด ที่ไหนมีบวชเนกขัม วัดนี้เขาบอก มีการบวชเนกขัมสนใจ ขอไปด้วย ญาติพามา ก็ใส่ชุดขาว วันนี้ได้บุญ วันนี้เจอพระพุทธรูป เข้าไปยกมือพนม ยกมือไหว้ วันนี้ได้บุญโข..พระพุทธรูป2ตัน วันนี้ได้บุญ2ตัน..

    ลองใช้ปัญญาพิจารณาดู เขาจะได้บุญไหม?({)
     
  4. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ช่วงนี้ไม่ค่อยจะเห็นอจ.ภูทยานฌาน2เลยนะคะ ไม่ทราบว่าท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ?
     
  5. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    คุณแม่ฝันว่า...

    โลกที่เราอยู่นี่ !! บ้านเรือนที่เราอาศัยกันนี้ ถูกพายุใหญ่มีคลื่นยักษ์พัดพาน้ำมหึมา เข้ามาถล่มจมบ้านเรือน ตึกราบ้านช่องพังทลายหายไปกับสายน้ำ ผู้คนถูกกระแสน้ำพัดหายไปกับสายน้ำเช่นกัน

    ได้มีเสียงลึกลับเปล่งมา บอกว่า " ให้พากันอุ้มลูกหนีน้ำ ขึ้นไปฝั่งข้างหน้าโน้น.."

    คุณพ่อได้เก็บเงินทองที่มีอยู่มัดติดตัวไปด้วย เผื่อนำไปใช้ได้ แม่อุ้มน้องพ่อจับมือลูกๆ เดินลุยน้ำ พากันเดินตามเสียงนั้นไปเรื่อยๆ

    จนมาถึงบ้านเมืองใหม่ หรือจะเรียกว่า เป็นเหมือนแผ่นดินใหม่ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ก่อนแล้วไม่มากนัก แต่ทุกคนหน้าตาแจ่มใสเบิกบาน มีเมตตาต่อกันทุกคน

    พ่อได้นำเงินที่ติดตัวมาด้วย ไปซื้อของใช้ แม่บอกว่า "นี่เรามาอยู่เมืองใหม่แล้ว จะเอาเงินเก่ามาใช้ได้อย่างไร?"

    พ่อไม่เชื่อแม่ที่บอกห้าม พ่อนำไปซื้อของใช้ได้ด้วย เรียกว่าเงินทองที่นำติดตัวมาไม่เสียเปล่า ใช้ประโยชน์ได้ด้วย คุณแม่บอกว่า ครอบครัวเราจึงเป็นเศรษฐีใหญ่ในเมืองนี้เลย..

    อธิบายความฝัน...พอเป็นคติเตือนใจ

    คนเราเกิดมาต้องเจอมรสุมชีวิต เรียกว่าเจอภัยร้ายรอบตัวเสมอ ภัยร้ายจากดิน น้ำ ลม ไฟ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นธรรมดา

    ผู้รู้ทั้งหลายจึงไม่ประมาทในบุญกุศลทั้งหลาย อันมีทาน ศีล ภาวนา ที่เราได้หมั่นสร้างหมั่นเจริญไว้นี่แหละ จักเป็นอริยทรัพย์ภายในที่สามารถนำติดตามไปใช้ได้ในภายหน้า ภพต่อไป ตราบเท่าเข้าพระนิพพาน..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2014
  6. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ** คุยกับคุณป้า **

    ไม่ศรัทธาแบบนี้ ค่ะ

    อือ...ก็แล้วแต่คนเน้อ พ่อขาวแม่ชีที่ท่านมีธรรมะเป็นพระอรหันต์ ท่านยังไหว้พระใหม่ สามเณรน้อยเลย
    เรียกว่าไม่ยกตนเกิน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี่ผู้เลื่อมใสในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง ..

    แล้วแต่จะพิจารณาเน้อจ๊า

    เขาก้อต้องมีบุญบารมี ญาณพิเศษ จึงทำให้บางคนศรัทธาได้
    เค้าว่าสมัยก่อน ที่อินเดีย พระบวชใหม่ที่ยังไม่ได้มรรคผล ท่านจึงไม่ให้เดินทางรูปเดียว
    เพราะเดียรถีย์นิครนถ์ ชนชาติศาสนาต่างๆ ที่มีคุณวิเศษแบบโลกีย์ อาจหลอกชักจูงให้หลงทางธรรมได้
    ชนเหล่านี้มีพระอริยเจ้า เท่านั้นแหละที่เอาอยู่ แต่บางทีท่านก็วางเฉย

    พระอาจารย์ท่านบอกว่า
    ทำอาชีพอะไรก็ดี ขอให้ไม่ผิดศีลธรรม นำปัจจัยไปสร้างบุญกุศลได้
    เคารพเชื่อมั่นศรัทธาในพระรัตนตรัย ... ใจก็ไม่ตกไปในทางที่ชั่ว ... สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. newwave1959

    newwave1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +2,681
    [​IMG]



    พระสมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสสอนไว้

    อยากไปพระนิพพาน ต้องไม่ติดอะไรทั้งนั้น เช่นติดดี เลว ถูก ผิด ติดรูป รส กลิ่น เสียง
    สัมผัส ธรรมารมณ์ ติดสถานที่ ติดร่างกายผู้อื่น ร่างกายตนเอง ติดครู อาจารย์ ซึ่งล้วน
    ไม่เที่ยงทั้งสิ้น อะไรที่มากระทบทางทวารทั้ง ๖ ต้องวางให้ได้ตามจริตที่เกิดด้วย
    กรรมฐานแก้จริตนั้นๆ ให้คล่องจริงๆ จึงจะชนะอารมณ์ตามจริตได้.


    จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑๘ หน้าที่ ๘



    Cr.Fb น้องเล้ง ลูกหลวงปู่ฤาษีลิงดำ

    ****************************************


    มองให้รู้ ดูให้เห็น วางให้เป็น แล้วถึงจะว่าง และเข้านิพพานได้ในที่สุด แต่ในขณะที่เรา
    ยังต้องทรงขันธ์ห้าอยู่นี้ เมื่อทำความดี ทำบุญ ยินดีในบุญ มีปิติในสิ่งดีๆ ยึดมั่นในครูบา
    อาจารย์ ที่สอนสิ่งดีๆให้เราเราก็ต้องมีปิติ ยินดี และสำนึกในพระคุณ และสิ่งดีๆทั้งหลายนั้น
    ทุกคนย่อมต้องมีอารมณืนั้นอยู่ อันเป็นคุณสมบัติหนึ่งของ"คนดี"
    เพื่อสร้างกำลังใจ หรือบารมีให้เต็ม


    แต่เมื่อปฏิบัติถึงขั้นจิตละเอียดแล้ว ปฏิบัติจนชินเป็นวสีแล้ว ความปิติ ความยินดี
    ในบุญความดีทั้งหลายนั้น ก็จะเกิดการละวางลงไปได้เอง เพราะสติจะเป็นตัวบอกให้รู้
    รู้ว่านั่นปิติ นั่นบุญ นั่นคือบารมี นั่นคือกำลังใจ เมื่อบารมีเต็มแล้ว ก็จะไม่มีการยึดติด
    ในสิ่งเหล่านั้นอีกเลย ปิติก็รู้ ยินดีก็รู้ ดีใจก็รู้ เสียใจก็รู้ โกรธก็รู้ รักก็รู้ อัตตาตัวตนก็รู้
    รู้เขารู้เรา รู้ทุกอย่าง รู้อย่างรู้เท่าทันมัน

    แต่...แต่ไม่ยึดติด ไม่หลงไหลได้ปลื้มไปกับมัน
    วางอารมณ์ทั้งหลายนั้นลงเสียให้หมด ให้เห็นเป็นธรรมดา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    แล้วจะถึงซึ่งความ"ว่าง" อย่างแท้จริง นั่นแหละ ท่านถึงจะไปนิพพาน
    หรือสัมผัสพระนิพพานได้....ขอเจริญในธรรม...สาธุ


    ด้วยจิตคารวะ

    newwave1959

    ปาราเมศ จบ.๑๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2014
  8. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ทำบุญ ได้ใจดี
    ทำบาป ได้ใจเสีย

    กาย วาจา เป็นสมบัติภายนอก
    ใจ เป็นสมบัติภายใน สั่งให้กายวาจา ทำหน้าที่ ดี ชั่ว ล้วนออกมาจากใจ

    เมื่อกายสลาย วาจาก็สลาย มีแต่ใจนี่แหละ จะเป็นผู้รับวิบาก คือ ผลกรรม
    ที่เราได้ทำไว้ ดี หรือ ชั่ว สุข หรือ ทุกข์ ..นะโม ขอนอบน้อม ต่อพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ต่อคุณธรรมความดี มะโน ใจ นี้ สำคัญที่สุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2014
  9. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ใจห่างธรรมก็จะทำความชั่ว
    ใจห่างตัวก็จะหลงลืมตน
    ใจห่างพระก็จะวุ่นวายสับสน
    ใจห่างมรรคผลก็จะไม่พ้นบ่วงมาร
    กราบนมัสการ สาธุ ครูบาอาจารย์ด้วยหัวใจ
     
  10. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ธรรมะสอนคนให้ใจดี ถ้าเรายังทำใจไม่ดี แสดงว่ายังไม่มีธรรมะ
    เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปถามพระก็ได้ ว่าตัวเองมีธรรมะขั้นไหน
    หมั่นพิจารณาตัวเอง ถามตัวเอง ตอบตัวเองได้เลย ..

    จึงว่า ธรรมะเป็น "ปัจจัตตัง" บอกกันได้ สอนกันได้ แต่ต้องปฏิบัติเอง "รู้เฉพาะตน"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976

    สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ขออนุโมทนาในธรรมทานของท่านด้วยค่ะ เพราะธรรมะดีขนาดไหนถ้าเราไม่สนใจหรือไม่ทําตามก็ไม่มีวันเห็นได้..แต่ถ้าเราเห็นธรรม กับได้ธรรมนั้นมันต่างกัน คือความแตกต่างจากการเห็นธรรม ที่พระพุทธเจ้า ได้ตรัสไว้ แล้วพระสงฆ์สาวกอย่างหลวงปู่หลวงตา ท่านได้รู้เห็นตามท่านก็ประกาศธรรมตาม พระพุทธเจ้าเพราะท่านหมดกิเลส หรือท่านได้ฆ่ากิเลสของท่านแล้ว... แต่เราผู้เห็นธรรมท่าน แต่ยังไม่รู้ตามก็ได้แต่ชื่นชมยินดีตาม เหมือนเราไปเจอบ้านที่เศรษฐีได้สร้างไว้ใหญโต แต่เรายังไม่บ้านแบบนั้น ก็ได้แต่เฝ้ามองและชื่นชมในบ้านที่เขาได้ทําไว้เสร็จแล้ว ผู้ต้องการบ้านจึงต้องลงมือสร้างเอง.. และต้องรู้วิธีสร้างบ้านของตน แต่จะได้บ้านแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับทุนของตนเอง ว่ามีมากน้อยเพียงใดนั้นเอง..สาธุค่ะ
     
  12. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    มีเวลาก็หัดดูแลตัวเองให้ดี ไม่โกรธ
    อย่ามัวแต่ไปเพ่งโทษคนอื่น ไม่ดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    สาธุค่ะ.(สงสัยนี่จัดอยู่ในเพ่งโทษไหมคะ?)
     
  14. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ต้องถามตัวเอง ตอบตัวเอง เพราะตัวเองเป็นคนสงสัย ได้คำตอบแล้ว พอใจ ไม่พอใจ ใจดี ใจขุ่นแค่ไหน ก็ดูตัวเองแหละ คงไม่มีใครทำให้ใจเราขุ่นได้ ดีได้เท่าตัวเราเอง จ๊า
     
  15. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ในศาสนาพุทธ.....สูงที่สุด คือ ผู้หมดจาก กิเลส เครื่องเศร้าหมอง เมื่อมี ผู้เช่นนี้ เรา กราบไหว้ บูชา ได้ทำบุญด้วยย่อมได้ ปีติ ตื่น และเบิกบานใจ

    นอก จากคนหลงเท่านั้น ซึ่งเป็นคน สูญเปล่า ใครทำดี พูดดี คิดดี ก็ อิจฉา ริษยา อาฆาต มุ่งร้าย ย่อมถึง ทุคติ


    คำสอนท่านอาจารย์ .. สาธุ
     
  16. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ขออนุญาตนำการบ้านของจิตบำเพ็ญท่านหนึ่ง ลงกระทู้เพื่อเป็นธรรมทานค่ะ หลังจากที่ห่างหายไปนาน

    ขอเชิญชาวเกาะขอบกระทู้ทุกท่านได้โปรดร่วมอนุโมทนาบุญกับความก้าวหน้าในการปฏิบัติกรรมฐานจิตเกาะพระของน้องไกด์ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    สวัสดีครับครูเกษที่เคารพครับ

    วันนี้ก็ 1 เดือนกับอีก 10 วันละครับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติมาครับ ครูครับตอนแรกที่ผมได้อ่านกระทู้ในเวปพลังจิตก็ลองปฏิบัติเองคนเดียว ภาพพระเป็นท่านสมเด็จโต วัดระฆังอะครับ แต่ช่วงตอนที่ฝึกปฏิบัติเองคนเดียวภาพจะไม่ค่อยติดต่อเนื่องอะครับ หลังจากได้พบครูผมก็เปลีี่ยนภาพมาเป็น พระพุทธชินราช ท่านพ่อองค์พระปฐม หลวงพ่อฤาษี บ้าง แต่ก็เหมือนจะจับภาพติดไม่ค่อยสม่ำเสมอครับ จนวันนี้ภาพพระในจิตกลับไปหาสมเด็จโตอีกครั้งครับ ขนจะลุกบ่อยมากเลยครับเวลาคิดถึงท่าน มีภาพขึ้นมา ว่าผมกะลังเดินตามพระรูปหนึ่งอยู่ในป่ารกๆ กว้างๆ ทางเดินค่อนข้างลำบากมากครับ ในความรู้สึกคือสมเด็จโตอะครับ แต่ท่านเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวไม่ได้หันมาผมก็เดินตามไปเรื่อยๆ ครับ ภาพนี้ขึ้นมาตั้งแต่ฝึกหัดเองใหม่ๆแล้วอะครับ จนวันนี้ก็กลับมาขึ้นอีก แล้วก็ขึ้นบ่อยครับ แต่ผมรู้สึกว่าไม่ได้คิดให้มันขึ้นมานะครับ มันขึ้นมาเองอะครับ

    วันนี้งานที่ทำงานหนักสุดๆเลยครับ งานมีปัญหาเยอะมากต้องตามแก้ ตามดูตลอดเสื้อเปียกตั้งแต่เข้างานยันเลิกงานเลยครับ เหนื่อยและร้อนสุดๆเลยครับ แต่ไม่มีความรู้สึกหงุดหงิดเพื่อนร่วมงานครับ แต่เป็นความรู้สึกร้อน เหนื่อย ที่ตัวเองครับ พอเหนื่อยหนักๆร้อนหนักๆเข้า ข้อความที่ครูบอกก็ขึ้นมาอยู่ตลอดครับ ลูกท่านพ่อต้องใจเด็ด ต้องสู้ ชาติสุดท้ายงานต้องหนักกว่าคนอื่น นี่แค่พึ่งเริ่มเองด้วย ความคิดว่าถ้าจะเหนื่อยจนถึงขาดใจตาย ก็ขอตายกับความรู้สึกคิดถึงท่านพ่อนี่แหละครับ มันก็มีพลังเหมือนลูกบ้าเกิดขึ้นครับ ท่านพ่อ ครูบาอาจารย์เรายังเจอหนักกว่าเราเราต้องสู้ครับ คิดแบบนี้อยู่ตลอดครับ แต่ก็รู้สึกเหนื่อยและร้อนมากอยู่ครับ

    วันนี้ปวดหัวอีกครับ ก็พยายามคิดว่าร่างกายไม่ไช่เรา ถ้ามันใช่เราเราต้องสั่งให้มันหายได้สิ อย่างที่ครูบอกครับ แต่ก็ยังคงต้องฝึกหนักต่อไปครับ วันนี้ก็ตามดูร่างกายอย่างที่ครูได้บอกให้ปฏิบัติครับ แต่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ครับครู มันจะเป็นความรู้สึกอารมณ์ประมาณไหนครับ ครูช่วยอธิบายแบบละเอียดได้ไหมครับ เพราะตอนนี้มันเป็นยังงี้อะครับ อย่างเช่น ผมยืนดูดบุหรี่อยู่ เหมือนสติมันพูดดังอะครับ เฮ้ย เราดูดบุหรี่อยู่นะ เขี่ยบุหรี่นะ คีบบุหรี่นะ ยังงี้อะครับ เวลาเดินจะเข้าห้องเปิดประตู พอมือสัมผัสประตูก็ให้รู้สึกว่าเรากะลังเปิดประตู ยังงี้หรอครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ครับ แต่ก็ตามดูได้ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนนั้นมากครับ

    ตอนนี้ผู้จัดการจะให้ย้ายกะแล้วครับรู้สึกสดชื่นมากเลยครับ มีการปรามาสพระเกิดขึ้นบ่อยอีกละครับครูตอนนี้ หลังจากห่างหายไปนานครับ ... หลังจากปฏิบัติมานี่เวลานอนไม่ค่อยฝันเลยครับครูนานๆทีจะฝันไม่เหมือนแต่ก่อนฝันแทบทุกวัน แล้วเดี๋ยวนี้ถ้าได้ฝันแม่นเหลือเกินครับครู หวยออกตามที่ฝันตรงๆ 2 งวดละครับ เห็นเปนเลข2ตัวชัดๆสีแดงเลยรอบแรก รอบสองเห็นเป็นรถของผมหวยก็ออกทะเบียนรถผม หรือว่ามันบังเอิญก็ไม่รู้ครับ แต่ก่อนไม่เคยฝันตรงๆแบบนี้เลยนะครับ แต่ผมตั้งใจว่าจะเลิกซื้อหวยละครับ ...

    1เดือนผ่านไป รู้สึกได้ว่าผมเปลี่ยนไปเยอะเลยครับครู ไม่เคยรู้ว่าจิตเป็นยังไง สติคืออะไร ตอนนี้ก็ได้รู้แยกออกแล้วครับ รู้สึกสดชื่น แจ่มใสขึ้นมากครับ จากแต่ก่อนที่จิตเศร้าหมอง คิดมาก เจ้าอารมณ์ ฟุ้งซ่าน เบื่อโลกเหลือเกินครับ อารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจยังมีอยู่บ้างแต่น้อยลงเยอะมากกครับ อารมณ์โกรธโมโห ยังมีอยู่ครับ แต่ดับไวมากแล้วก็ไม่เก็บไปคิดเหมือนแต่ก่อนครับ จากที่เคยกลัวผี ตอนนี้ก็ไม่กลัวแล้วครับ เรื่องโชคลาง ดวง ฮวงจุ้ยจากที่เคยงมงายเชื่อถือมากตอนนี้หมดไปเลยครับ เชื่อในพระรัตนตรัยอย่างเดียวครับ ตอนนี้ชีวิตมีความสุขมากเลยครับครู ผมจะตั้งใจปฏิบัติต่อไปครับ ...

    วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับครูเกษที่เคารพครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กรกฎาคม 2014
  17. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขออนุโมทนาด้วยครับ เด็กฝากใครหนอ อิอิอิ

    ไกด์เค้าจะมารับกะต่อจากกะผมก่อนรับกะส่งกะกันเราก็ได้คุยกันถึงการปฏิบัติ

    บางอย่างแนะนำได้ก็แนะนำแต่ถ้าเกินวิสัยก็จะบอกให้ปรึกษาครูเกษสิ

    บางทีเราคุยกัน2คนมีคนมายืนฟังผมก็จะโบ้ยไปเรื่องอื่นพอเลโปร่งก็จะมาคุย

    กันเรื่องการปฏิบัติกันต่อวันที่2เดือนสิงหาคมผมนัดกับน้องไกด์ไปทำบุญบ้านหลวงพ่อรอบหัวค่ำ

    กันที่ซอยสายลม ไกด์นี่ไม่ธรรมดาจริงๆๆๆ
     
  18. NRK

    NRK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +98
    ขอขอบคุณพี่เทิดที่ทำให้ผมได้พบกับจิตเกาะพระและเป็นที่ปรึกษาสำหรับหลายๆเรื่องครับ ครูเกษที่คอยสั่งสอนดูแลผมมาตลอด ธรรมมะของอาจารย์ภูและพี่ๆทุกคนที่ผมได้อ่านทั้งตามเฟสบุ๊คและเพจจิตเกาะพระครับ ตั้งแต่ได้เริ่มปฏิบัติพบความเปลี่ยนแปลงของตัวเองและเกิดกำลังใจขึ้นมากมายจริงๆครับ ผมยังอ่อนหัดอยู่มากครับ แต่ผมก็จะตั้งใจปฏิบัติให้ถึงที่สุดต่อไปครับ /\
     
  19. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีครับน้องไกด์
    พี่ภูขออนุโมทนาบุญกรรมฐานของเธอด้วยนะ
    และขอขอบใจครูเกษมากๆนะครับ กายหยาบยุ่งมากๆก็ยังอุตส่าห์แบ่งเวลาสอนได้..สาธุ
    ยกไวๆนะ ยกก่อนที่กลับเมืองไทยนะ เด่วมีรางวัลให้ น้องเทอญด้วย
    นึกถึงพระลูกเดียว หากคิดถึงพระมากกว่าแฟน แสดงว่าใช้ได้แล้ว

    ขอโทษทุกท่านด้วยที่เพิ่งจะเข้าได้ เข้าเฟซได้ ยกเว้นกระทู้นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กรกฎาคม 2014
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ลูกหลวงพ่อฤาษีฯเคยอ่านธรรมะเรื่องนี้รึยัง
    เรียกน้ำย่อยลูกพ่อก่อน
    ย้ายมาให้ธรรมะที่นี่บ้าง เปลี่ยนบรรยากาศ


    พ ร ะ อ ง ค์ ที่ ๑ ๐

    เล่าโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    (หลวงพ่อเล่าว่า วันหนึ่ง เจอพระองค์หนึ่งมานั่งอยู่ข้างหน้า รูปร่างหน้าตาสวย แล้วท่านก็บอกต่อไปดังนี้)

    รูปร่างหน้าตาสวย มีผิวพรรณสวยมาก อายุประมาณสัก ๓๐ แต่สวยจริง ๆ แล้วดูนี่
    เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ นั่ง ก็ตามปกติเจ้าคณะจังหวัดจะนั่งต้น แล้วก็ฉันนั่งรอง
    แต่ว่าองค์นั้นมาก่อน เขาไม่ได้นิมนต์องค์ที่ ๑๐ นี่
    พอถึงนั่งต้นเลย (หัวเราะ) นั่งหน้าแถว ติดพระพุทธรูป
    ผลที่สุดเจ้าของบ้านก็ต้องเอาหมอนมาต่ออีกลูกหนึ่ง ตรงองค์ที่ ๑๐ น่ะ ใช่ไหม
    ทำยังไง มาถึงก็นั่ง ท่านก็นั่งเฉย เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ ก็ไม่ถาม เราก็ไม่ถาม
    เวลาตอนเย็นตอนสวดมนต์ขึ้นสวดมนต์นี่ เพราะจริงๆ เสียง
    แหม..กังวานพราว เสียงก้องกังวานแหลมก็ไม่แหลม เล็กก็ไม่เล็ก ใหญ่ก็ไม่ใหญ่
    เพราะจริงๆ เสียงนี่กลบเสียงพวกเราหมดเลย
    อย่านึกว่าดังกลบ ไม่นะ เพราะเสียงพวกเราเหมือนเสียงเป็ดน่ะ จ๊อกแจ๊กๆ
    ของท่านนี่ แหม..กังวาน เพราะว่าหนังสือ
    ฑีฆะรัสสะ ครุ ลหุ ถูกต้องหมด จังหวะจะโคนไม่เหลือ สังโยคตรงเป๊ง
    ถ้าเรียนบาลีแล้วรู้ ทั้งนี้อักขระไม่มีวิบัติเลย เสียงชัด เสร็จแล้ว ท่านก็เดินกลับ
    ตอนเช้ามา ตอนเช้าจะไปฉัน ก็เลยถาม เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ บอก
    “ นี่เจ้าคุณ รู้จักไหมพระองค์นั้นน่ะ ?”
    ท่านบอก “ เราเป็นเจ้าคณะจังหวัดไม่เคยเห็นเลย.. ?”
    ถาม “ อายุเท่าไหร่ล่ะ ?”
    บอก “ หน้าตาไม่ถึง ๓๐ นะ ”
    ถาม “ ทำไมนั่งหน้าเจ้าคุณ ?”
    บอก “ ไม่รู้ ข้าก็ขี้เกียจถาม นั่งไหนก็ช่าง ”

    ความจริงไอ้พระแก่น่ะ มันขี้เกียจนั่งหน้าอยู่แล้ว
    ตามปกติถ้าไปก่อนมักจะนั่งโน่น ท้ายแถว
    เพราะนั่งท้ายมันสบายกว่า ว่ามั่ง ไม่ว่ามั่ง (หัวเราะ) ใช่ไหม กินเท่ากัน
    ดี เราเหนื่อยน้อยฉะมากกว่าไอ้พวกว่ามากมันกินไม่ได้หรอก ใช่ไหม เหนื่อย
    ทีนี้ทำยังไง ตอนเช้าไปท่านก็นั่งอยู่
    พอฉันเสร็จ เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ ก็ถาม ก็ยกมือพนม เพราะเขานั่งหน้านี่

    “ ขอประทานอภัยครับ ท่านอายุเท่าไหร่แล้ว ?”
    นับไป เอ๊ะ ! เท่าไร จำไม่ได้ งัดใบสุทธิมาให้ดู
    ดู เอ๊ะ! ลองเอา พ.ศ. ลบตายห่าแล้วหว่า..นี่ ๓๐๐ ปีกว่าแล้ว (หัวเราะ) ฮึ !
    ใบสุทธิยังใหม่ ลองดูอายุ ๓๐๐ ปีเศษ เราก็นั่ง งง ! มึงก็งง ! กูก็งง ! (หัวเราะ)
    เอ๊ะ ! มันยังไงกันแน่ ! ...จะว่าสติไม่ดีก็ไม่ได้ ทุกอย่างเรียบร้อยถูกจังหวะจะโคนหมด
    นี่ความจริงเขียนไว้ใน “ หนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน ” นี่ไม่ละเอียดหรอก
    ถ้าเขียนละเอียดมากเกินไป บางทีคนเขาก็สงสัยใช่ไหม คนเขาสงสัยอาจจะไม่จริง
    โม้เกินไปเมื่อก่อน นี่เราคุยกันได้
    ท่านบอก “ สงสัยหรือ... ?”
    บอก “ สงสัย ? มันตั้ง ๓๐๐ ปี ”
    ท่านบอก “ นี่ความจริงนี่ไอ้ใบสุทธิเนี่ย เขาเขียนใหม่นะ ถ้าใบเก่าน่ะมากกว่านี้อีก ” (หัวเราะ)
    ถาม “ ใบเก่าเท่าไหร่ ?”
    เลขขึ้นมา ๒,๐๐๐ กว่า ๒,๔๐๐ ปีกว่า เอ.ชักไม่เป็นเรื่องเสียแล้ว
    นี่ไม่เป็นเรื่องเสียแล้วซิ ! ไอ้เลขนั่นมันขยายได้ นี่มันใบใหม่
    “ ใบเก่าเอามาให้ดูหรือเปล่าคะ ?”
    ไม่ได้เอามา ถามใบเก่าเท่าไหร่ มันก็เลยขึ้นใบใหม่นี่น่ะ ๒,๔๐๐ ปีกว่า
    เราเอ๊ะ! ก็ชักยุ่งล่ะซิ !
    พอชักยุ่ง พอจะดูว่า เอ๊ะ! ท่านเป็นอะไรแน่ มันดำมืด จิตดำมืด
    เสร็จ ! เลยบอก เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ ว่า
    “ เราถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้าดีกว่า ”
    (หัวเราะ) ท่านหันมาหัวเราะ
    ถามว่า “ แกจะไปที่ไหนล่ะ ?”
    บอก “ ที่นี่แหละครับ ”
    ก็เลยลุกกราบๆ ท่าน
    ไอ้สองเสือข้างหลังเขาหัวเราะฮิๆๆ มานานแล้ว
    บอก “ ไอ้ห่า เอ๊ย..ไม่น่าจะโง่เลย กูนี่รู้มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ” (หัวเราะ)
    ไอ้ผีนั่นมันไม่ได้อยู่ใกล้ มันอยู่ห่างไปก็ใช้กำลังใจได้สบาย
    ไอ้เราก็ไปนั่งสงสัยดูผิวพรรณ แล้วก็ดูเสียง ฟังเสียง ลีลา ด้วยประการทั้งปวง
    ไม่ใช่พระอรหันต์ธรรมดาเลย
    พระอรหันต์ธรรมดานี่ ทำไม่ได้ แม้จะเป็นปฏิสัมภิทาญาณก็ไม่ได้ ขนาดนั้นไม่ได้
    เราก็เลยกราบกัน ต่างคนต่างกราบ
    ก่อนกลับก็ให้โอวาทว่า

    “ พวกคุณนี่ตั้งใจดีแล้ว แต่การตั้งใจของพวกคุณ ถ้าไม่ตัดขันธ์๕ ได้เพียงใด
    การตั้งใจของคุณก็ไม่สัมฤทธิ์ผล ฉะนั้นขอทุกคนนะ พยายามอย่าสนใจขันธ์๕ของเรา
    อย่าสนใจขันธ์๕ของคนอื่น อย่าสนใจวัตถุธาตุทั้งหมดเท่านี้พอ ”

    ท่านบอกเท่านี้พอ...ก็เลยกราบเรียนถามว่า
    “ แล้วพวกเกล้ากระผมจะสามารถตัดได้ไหม ?”
    ท่านบอก “ มันไม่ยากหรอก..เรื่องเล็ก ๆ กำลังใจก็เข้มอยู่แล้ว แต่วันเวลาเท่านั้นนะ
    นี่มันจะเร่งรัดเกินไปไม่ได้ ถ้าวันเวลายังไม่ถึง ก็ทำไปเพื่อถึงเวลานั้น
    ถ้าวันเวลาถึงเมื่อไรก็สิ้นสุดกันวันนั้นแหละ

    แล้วท่านก็ลา เมื่อลาเราก็ต้องกลับบ้าง แหม..พูดเพราะจริง ๆ พูดเพราะมาก
    เดินลงบันไดไปหาย! คนข้างบนเห็นลง คนข้างล่างไม่เห็น
    “ พวกนั้นเขาไม่มีบุญ ”
    เขามีบุญหรือไม่มีก็ไม่รู้ เราต้องมีแน่ใช่ไหม เจ้าคุณธรรมเสนานีย์
    นี่พอไปแล้ว เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ ทำยังไง ลุกกราบที่ตรงนั้นอีก บอก
    “ แหม..นึกไม่ถึง ๆ คนอายุ ๒,๔๐๐ ปีเศษ ”
    ก็พระพุทธเจ้าน่ะซิ !

    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน แหม..สวยจริง ๆ บอกไม่ถูกเลย
    เล่นเอาไอ้คนบ้านนั้นนอนไม่หลับไปหลายวันเลย อีบ้านนั้นจะพังให้ได้เลย
    มึงก็ขึ้นมาไหว้ กูก็มากราบ ปิดทองกระดานตรงนั้น เสื่อรื้อไม่ได้
    ไอ้เสื่อวัดผืนนั้นต้องซื้อ เสื่อยาวของที่วัดยืมมานะ เขาซื้อเสื่อไว้เลย
    นี่นะเรียกว่าของดีมีอยู่ ความจริงน่ะ มีอยู่อย่างเดียว ให้ใจเรารัก
    ถ้าใจเรารักดีมันไม่ต้องห่วงหรอก ดีถึงเราแน่
    ถ้าใจเราไม่รักดี ใจเรารักชั่ว ชั่วมันก็มาถึงเรา

    ทีนี้ความจริงท่านมาทำไมนะ
    ความจริงท่านตั้งใจมาโปรด เจ้าคุณธรรมเสนานีย์
    เพราะไอ้เบื๊อกนั่นมันดื้อแพ่ง พูดถึงเรื่องนิพพานมันก็บอกไปไม่ไหว
    เทศน์กันมา ๓ วัน มันก็ไม่เลิกอยู่นั้นแหละ
    ก็เลยเทศน์กันไปเทศน์กันมาก็บอก
    “ ไอ้นักเทศน์หมาๆ โยมนิมนต์มาทำไมก็ไม่รู้ ” (หัวเราะ) โยมฮาครืน..
    ตอนกลางคืนลงท้ายเรียกไอ้หนู แกแก่กว่าเราหลายปีในครั้งนั้นเองกลับไปบอก
    “ คราวนี้อั๊วะจ้วงหนักล่ะโว้ย ”
    ถาม “ ทำไม ?”
    บอก “ แหม..ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้พบพระพุทธเจ้า ”
    ทุกคนก็มีความเข้าใจ ทุกองค์มีความเข้าใจหมด อย่างนี้ทำไม่ได้ คือลีลาอย่างนี้
    อรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ถ้าขืนไปทำลีลาอย่างนั้นท่านไม่ทำ
    เพราะทุกส่วนสัดท่านสวยหมดไม่มีตำหนิ

    มาดูใน “ มหาปุริสลักษณะ ” ลักษณะของพระพุทธเจ้า อาการ ๓๒
    และก็อนุพยัญชนะ ๘๐ ไม่ได้พลาดเลย
    แล้วก็ที่บาลีกล่าวไว้บอก มีพระโอษฐ์แดงระเรื่อพองาม ส่วนที่จะดำก็ดำสนิท
    ส่วนที่จะขาวก็ขาว แขนนี้กลมบ๊อง ริ้วรอยนี่ไม่มีเลย เรียบ หนังเป็นริ้วไม่มี
    นี่เป็น “ พุทธลักษณะ ” จริงๆ ใช่ไหม

    เป็นอันว่าฉันก็เลยนั่งฝันเห็นพระพุทธเจ้าท่าน แต่ว่าอีตอนเย็นฝันผิด
    ตอนเย็นไปสนใจแต่เพียงว่า เอ๊ะ! ทำไมอายุอ่อนกว่า เจ้าคุณธรรมเสนานีย์ จึงนั่งหน้า
    แต่ก็ด้วยมารยาทแล้วเลยไม่ถาม เสียงก็ไพเราะ
    พอเวลาว่านี่ก็ว่าเสียงไพเราะจับใจมาก เราก็อิ่มไปด้วย พอดีตอนเช้าซิ ! ชักสงสัยขึ้นมา
    พอถึงท่านก็มาอีกล่ะ มาอีกตอนนี้ชักยุ่ง ก็ชักสงสัย ก็ถามพ่อส่งใบสุทธิให้ ๓๐๐ ปี
    มันไม่ไหวแล้ว กระดูกก็ไม่เหลือ
    พอถึงถามว่า “ ทำไมอายุมากนักครับ ?”
    ท่านบอก “ คนละใบนี่ใบใหม่ ใบเก่ามากกว่านี้อีก ”
    (หัวเราะ) ถาม “ ใบเก่าเท่าไรครับ ?”
    เลขขึ้นมาเลย ๒,๔๐๐ ปีเศษ โอ้โฮ้ ! พอเท่านี้แหละ ท่านก็ยิ้มนิดหนึ่ง
    ทีแรกท่านไม่ยิ้ม พูดเรื่อยๆ หน้าเฉยๆ พอยิ้มนิด ตกใจ นึกถึงบาลีเลย
    นึก เอ๊ะ ! พระองค์นี้ยังไงแน่ สงสัย ? จะดูจิต พอจะดูจิตปั๊บ!
    เราก็จับภาพจิตเราก่อนเลย เราต้องจับของเราก่อนนะ
    จับภาพมันไม่ยากนี่ พอจับปั๊บๆ สว่างโพลง
    พอเราจะจับจิตท่าน หนาปึ้ก ! จิตดำปื้อ...ดำปื้อ..เราเสร็จล่ะ
    ถ้าปฏิสัมภิทาญาณก็หนีไม่พ้น ยังไงเราก็เอาได้ เราก็ล้วงพระพุทธเจ้ามาช่วย
    ทีนี้เราจะหาพระพุทธเจ้าไม่เจอเสียแล้วซิ! พอนึกปั๊บดำปื้อ ....
    ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าไม่มี หาไม่ได้ พระพุทธเจ้าหาย (หัวเราะ)
    ตาไม่ดี รูปพระพุทธเจ้าหาย ชักเอาแล้ว
    อีตอนนี้ชักสงสัย ถ้าพระพุทธเจ้าหายนะ ถ้าอย่างนั้นต้ององค์นี้แน่ พอดูไปอีกทีปั๊บ!
    แหม..แพรวสวยแต่ว่าคล้ายๆ จะเปล่งฉัพพรรณรังสี แต่เปล่งไม่ชัด บางๆ นิดๆ
    แต่สวยมาก ตามธรรมดานี่เปล่งชัดเหมือนกับ พระอาทิตย์ทรงกลด ใช่ไหม
    สวยบอกไม่ถูกชัดเจน
    ไอ้นี่ให้พวกเราเห็นน้อยๆ นิดๆ เป็นละอองๆ ก็เลยมั่นใจ

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    ฉันก็บ้า “ พุทธานุสสติ ” เรื่อย
    ใครจะไปยังไง ก็ไปเหอะ ฉันเล่น “ พุทธานุสสติ ”
    เดี๋ยวนี้ก็ยัง “ พุทธานุสสติ ” อยู่นั่นแหละ ใช่ไหม
    เอ้า! ว่าแล้วก็กลับกันดีกว่า นี่มันจะดึกเดี๋ยวได้ ๕ ทุ่มอีกหรอก

    จากหนังสือ หลวงพ่อเล่าให้ฟัง เล่ม ๒
    โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    (พิมพ์ สุวิภา กลิ่นสุวรรณ์)
     

แชร์หน้านี้

Loading...