ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

<CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ปัญหาที่ ๒ [/COLOR]</CENTER><CENTER>[COLOR=darkgold,direction=-35);]ถามพรรษา [/COLOR]</CENTER>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><FONT face="Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial" color=black size=3>




ครั้งนั้น พระเจ้ามิลินท์ได้เสด็จไปหาพระนาคเสนแล้ว ทรงปราศรัยพอให้เกิดความร่าเริงยินดีแล้วก็ประทับนั่ง ฝ่ายพระนาคเสนก็แสดงความชื่นชมยินดี ทำให้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้ามิลินท์

ครั้งนั้นพระเจ้ามิลินท์ได้ตรัสถามอรรถปัญหาสืบไปว่า​

 

​

<CENTER> </CENTER>

ปัญหาที่ 3
ถามลองปัญหา​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0>[FONT=Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial]
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามขึ้นอีกว่า​

 

โมทนากับทุกท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิเพื่อช่วยสงฆ์อาพาธและยินดีกับผู้ที่ได้รับพระพิมพ์ที่แจกฟรีชุดนี้ด้วยครับ ทำไมผมจึงบอกว่ายินดีกับผู้ที่ได้รับพระชุดนี้ ไว้จะมาบอกหลังจากหยุดแจกหรือพระหมดแล้ว เพราะพี่ใหญ่อนุญาติให้บอกได้ ไว้คอยติดตามคำเฉลยครับ

 

วันที่ 03/01/08 เวลา 18.33.59 น. (โอนเงิน ทาง ธ. กรุงศรีอยุธยา สาขา เซ็นทัรลทาวน์) สุชาดา พร้อมด้วย บิดา และ มารดา ร่วมทำบุญ สงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์ อาพาธ เป็นจำนวนเงิน 1500 บาทค่ะ

อนุโมทนา สาธุค่ะ

 

เมื่อคืนวาน( 3 ม.ค.)ได้มีโอกาสโทรคุยกับพี่ใหญ่หลายเรื่องมีเรื่องที่พี่ใหญ่ฝากมาบอกกล่าวให้รับทราบกันสัก 2 เรื่องดังนี้

1. เรื่องพระที่แจกกันในกระทู้นี้ พี่ใหญ่บอกว่า "ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับพระชุดนี้ไปบูชาหรือครอบครอง เพราะพระชุดนี้เป็นพระที่ไม่ธรรมดา แต่จะเป็นอย่างไรให้ย้อนกลับไปอ่านกระทุ้ย้อนหลังหรือรอเฉลยจากคุณโสระละกัน แต่บอกใบ้ให้นิดว่า เมตตาสุดยอดแต่มีสิ่งที่พี่ใหญ่ย้ำไว้สำหรับเรื่องพระที่แจกให้คือให้ห้อยหรือบูชาพระ
เพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อเตือนตนเองไม่ให้สร้าง,กระทำสิ่งที่ไม่ดีหรือบาปกรรมหรืออกุศลกรรม ให้สร้างแต่สิ่งที่เป็นคุณงามความดีหรือกุศลกรรมให้มากไว้ และเป็นเครื่องเตือนหรือไว้ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราเจริญรอยตามเบื้องบาทและทำตามพุทธโอวาทที่ได้ทรงสั่งสอนไว้ และพี่ใหญ่ให้ทุกท่านหมั่นรักษาศีลและภาวนาเจริญสติกำหนดลมหายใจ(กำหนดลมที่ปลายจมูก)ทำให้มากๆเข้าไว้นะดีแก่ตัวเอง

2. เรื่องการทำบุญให้สม่ำเสมอและเป็นนิจ ซึ่งพี่ใหญ่แนะนำให้ผู้ที่ไม่มีเวลาไปทำบุญหรือใส่บาตรด้วยตนเอง
ให้ทำดังนี้

ให้อธิษฐานเลยว่าเดือนนี้คาดว่าจะทำกี่บาท ตั้งเป็นสัจจะเอาไว้
เลย แลกเหรียญ 5 บาท หรือ 10 บาท เอาไว้ตามนั้นเช้าขึ้นมาก่อนไปทำงาน นำเหรียญ 5 หรือ เหรียญ 10 ยกขึ้นมาอธิษฐาน ว่าข้าพเจ้าขอนำเงินที่ได้มาเหนื่อยยากนี้ เพื่อซื้อข้าวปลาอาหาร ถวายพระ พร้อมทั้งบริจาครักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์ แล้วสวดต่อด้วย

 

ได้รับพระแล้ว
ขอบคุณมาก

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ...









เชิญบูชาวัตถุพลังแสงทิพย์
http://palungjit.org/showthread.php?t=105421
เชิญร่วมสร้างองค์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา
http://palungjit.org/showthread.php?t=105420
อัตตนา โจทยัตตานัง
จงกล่าวโทษโจษความผิดตนเองเสมอ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ในสัปดาห์หน้าผมจะเดินทางไป อินเดีย ทางคณะกรรมการ ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาครจึงได้นำผ้าห้มองค์พระไปถวายพระพุทธปรินิพพาน ณ เมืองกุสินารา รวมถึงแผ่นทองคำแท้เพื่อไปปิดบูชา ณ สถานที่สำคัญต่างๆ โดยใช้ปัจจัยส่วนตัวของคณะกรรมการ จึงเรียนมาให้ท่านที่มีจิตอันเป็นกุศลทำการโมทนาบุญใหญ่กันครับ พี่ใหญ่กล่าวว่า คนพุทธในประเทศไทยมีหลายสิบล้านคน จะมีซักกี่คนได้ไปกราบสถานที่จริงๆที่อินเดีย...จึงเป็นบุญใหญ่ที่บัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก
​

 

ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณมากๆ

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

ผมได้รับพระแล้วครับสภาพสมบูรณ์ครับ ขอบคุณครับ
โมทนาสาธุครับ

 

ยอดธรรมของอัจฉริยอรหันต์ผู้ยิ่งด้วยปัญญาแห่งยุค

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล หรือ พระราชวุฒาจารย์ เป็นปรมาจารย์ทางวิปัสสนาที่เด่นที่สุดองค์หนึ่งในยุคนี้ ท่านเป็นศิษย์สำคัญรุ่นแรกของหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านคืออดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ และอดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ฝ่ายธรรมยุต ประเทศไทย

แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 แต่ท่านได้ฝากคำสอนที่ล้ำค่าไว้ จึงนับเป็นบุญกุศลสูงสุดแก่ผู้ได้ยินได้ฟังหรือได้อ่านคำสอนของท่าน เพราะสิ่งที่ท่านเทศน์สอน กล่าวได้ว่าเป็นสัจธรรมสูงสุด ที่ท่านได้รู้แจ้งประจักษ์จริง และนำมาเปิดเผยตีแผ่สอนเหล่าสานุศิษย์ให้มีโอกาสได้เข้าใจในธรรม

ลักษณะที่เด่นที่สุดในคำสอนของท่านคือ ผู้ฟังหรือผู้อ่านจะทราบได้ทันที่ว่า ท่านเทศน์สอนไม่เหมือนใคร ท่านจะพูดแต่เรื่องจิตล้วนๆ คำสอนของท่านสั้นแต่กินความลึกซึ้ง บางครั้งอาจต้องกลับมาอ่านหรือฟังทบทวนอีกเพื่อทำความเข้าใจกับข้อความนั้นๆ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน และเป็นการอธิบายปรากฏการณ์ทางจิต ซึ่งอยู่เหนือสมมติบัญญัติ ความคิดหรือความรู้สามัญทั่วไป

ธรรมชาติของจิตนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เข้าใจได้ยาก เพราะจิตไม่มีรูปร่าง แต่ชอบท่องเที่ยวไปไกล ดังพระพุทธพจน์ที่กล่าวถึงจิต ไว้ว่า
ทูรงฺคมํ เอกจรํ
อสรีรํ คูหาสยํ
เย จิตฺตํ สญฺญเมสฺสนฺติ
โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา
จิตท่องเที่ยวไปไกล
เที่ยวไปดวงเดียว
ไม่มีรูปร่าง อาศัยอยู่ในร่างกายนี้
ใครควบคุมจิตนี้ได้ ย่อมพ้นจากบ่วงมาร

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากในการอธิบายถึงจิต ซึ่งปราศจากรูปร่างหน้าตา หลวงปู่ดูลย์ท่านได้กรุณาอธิบายถึงจิตไว้อย่างละเอียดลออว่า

 

<CENTER>มิลินทปัญหา</CENTER><CENTER> </CENTER>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0>[FONT=Ms Sans Serif, Geneva, Helvetica, Arial]
ปัญหาที่ 4
ปัญหาของอันตกายอำมาตย์

เช้าวันหนึ่ง พระนาคเสนก็นุ่งสบงทรงจีวรมือสะพายพาตร แล้วเข้าไปสู่สาคลนครกับพระภิกษุ ๘ หมื่นองค์ เวลาเดินมาตามทางนั้น อันตกายอำมาตย์ถามขึ้นว่า

​

 

ได้รับพระแล้ว ขอบคุณมาก

 

โมทนากับทุกท่านที่ร่วมทำบุญกับทุนนิธิฯ ครับ

 

จาก"วันนั้น"ถึง"วันนี้" ของ
"หลวงพ่อพระพุทธโสธร" ฉะเชิงเทรา




หลวงพ่อพระพุทธโสธร
เมื่อวันวาน (ก่อนบูรณะ)....
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff><!-- --></TD></TR></TBODY></TABLE>



"หลวงพ่อพระพุทธโสธร" วันนี้ (หลังบูรณะ) <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


นี่คือ"พระพักตร์" ของหลวงพ่อโสธร "หลังบูรณะ" ที่มีการเปลี่ยนพระพักตร์จากแบบกึ่ง"ขอม"เป็นแบบ "ไทย" ปน "จีน" แทน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


เพื่อเป็นการ"บันทึกประวัติศาสตร์"ให้คนรุ่นหลังได้จดจำไปจนชั่วลูกสืบหลาน เกี่ยวกับพุทธลักษณะดั้งเดิมของหลวงพ่อพระพุทธโสธรที่น่าเรียนรู้ ที่ผมได้เคยสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้กับคุณลุงบุญเรือน หงษ์มณี แห่ง"บ้านช่างหล่อ" บางกอกน้อย กทม. นายช่างอาวุโสคู่บารมีของวัดระฆัง ที่ผมได้รู้จักมักคุ้น เมื่อคราวไปหล่อพระประธานน้อย คู่บารมีถวายวัดพระพุทธบาทสี่รอยเมื่อหลายปีก่อน ทำให้ได้"ความรู้พิเศษ"กว่าธรรมดาอย่างยิ่ง เมื่อคุณลุงบุญเรือนถามผมในวันหนึ่งว่า

"เรื่องของหลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้น คุณคิดว่า ท่านเป็นพระศิลปะอะไร??"
"เห็นว่า ท่านเป็นพระแบบลาวมั๊งครับ เห็นเขาว่ากันมาอย่างนี้...???"
"ใครว่า.." คุณลุงบุญเรือนแย้ง "ก็คุณเคยเห็นพระลาวมีพุทธลักษณะแบบหลวงพ่อโสธรที่ไหนบ้างล่ะ???"
"อือ..เออ.."ผมใช้ความคิดอย่างหนักก่อนตอบว่า "ไม่เคยเลยนะครับ"
"ก็นั่นนะสิ.!!!" คุณลุงบุญเรือนว่า " หลวงพ่อโสธรจึงไม่ใช่พระลาวสักหน่อย แต่จริงๆแล้ว ท่านเป็นพระเขมรต่างหากเล่า...!!!!!?????!!!!!!"
"ห๋า.....????!!!????"

"เรื่องของหลวงพ่อโสธรนั้น พวกช่างเก่าๆของบ้านช่างหล่อ เขารู้ดีกว่าใคร และเล่าสืบๆกันมาเป็นร้อยๆปี ตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว.." คุณลุงบุญเรือน หงษ์มณีเล่าแบบละเอียดยิบ"หลวงพ่อโสธรองค์จริงที่อยู่ข้างในน่ะ เท่าที่รู้มา เป็นพระพุทธรูปองค์เล็ก หน้าตักประมาณ 7-10 นิ้ว ศิลปะอะไรไม่ทราบแน่ชัด..."
หมายเหตุ...แต่ข้อมูลตรงนี้ ครูบาเทือง นาถสีโล ได้เล่าให้ฟังภายหลังว่า มีศิษย์ท่านซึ่งอยู่ในกรมศิลปากร มาเล่าให้ท่านฟังอีกทีหนึ่งว่า ตอนบูรณะองค์หลวงพ่อโสธรนั้น มีการเจาะเข้าไปดู"องค์ใน"ของหลวงพ่อโสธร พบเป็น พระพุทธรูปแบบเชียงแสนยุคต้น ผสมศิลปะแบบอินเดีย ประดิษฐานอยู่ภายใน!!!!!!

"ต่อมา..." คุณลุงบุญเรือน เล่าต่อ" เมื่อหลวงพ่อโสธรได้ลอยน้ำมาถึงเมืองแปดริ้ว และได้ขึ้นมาประดิษฐานที่วัดโสธรนี้แล้ว เพื่อจะรักษาองค์พระมิให้สูญหาย พระที่วัดในสมัยนั้น จึงได้ให้ช่างเขมรคนหนึ่งมาปั้นปูนหุ้มหลวงพ่อโสธรองค์จริงไว้อีกทีหนึ่ง ด้วยศิลปะแบบไทย...."
"ตรงนี้แหละ แม้จะปั้นพระแบบ "ไทย" แต่เพราะปั้นโดยนายช่างชาวเขมร ช่างเขมรนั้นก็อดที่จะใส่อารมณ์ศิลปินและรสนิยมแบบ"ขอม"หรือ"เขมร"ลงไปไม่ได้ ซึ่งคุณรู้หรือไม่ล่ะว่า อะไรคือ"สัญลักษณ์"ของพุทธศิลปะเขมรที่นายช่างคนนี้ ฝากทิ้งไว้บนองค์หลวงพ่อโสธร???????"
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


"กำไล"ข้อมือข้างขวาของหลวงพ่อโสธรนั่นไง!!!!!!"

เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ อันรสนิยม"ช่างเขมร"นั้น ชอบแกะชอบปั้นพระพุทธรูปทรงเครื่องมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แม้ต้องมาปั้นพระแบบไทยแบบ"เรียบๆ" ก็อดที่จะใส่"เครื่องอลงกรณ์"ถวายองค์พระให้มิได้ ท้ายสุด ก็เลยใส่"เครื่องประดับ"ถวายหลวงพ่อโสธรชิ้นหนึ่งจนได้ นั่นก็คือ"ข้อพระกร"(กำไล) ที่ข้อมือข้างขวาของหลวงพ่อท่านดังที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้นั่นแล..." <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>


นอกจากนี้ คุณลุงบุญเรือนยังได้เล่าถึงการพยายาม"เปลี่ยนหน้า"หลวงพ่อโสธร จาก"ขอม"เป็น"ไทยปนจีน"หรือ"จีน"แท้ๆ ใน"พระบูชา" หลวงพ่อโสธร"มานานหลายสิบปีแล้วอีกด้วย ว่ามี"สาเหตุ"มาจากอะไร????????? หากมีโอกาส ผมจะได้เล่าให้ฟังวันหลังก็แล้วกันนะครับ....

ปล. เรื่องนี้ คุณลุงบุญเรือนได้เล่าให้ผมฟังตั้งแต่ปีพ.ศ.2542 โน่นแล้ว ได้แต่เก็บไว้ในใจมาตลอด จนกระทั่งได้ไปกราบหลวงพ่อโสธรองค์จริงวันออกพรรษานี้ และเห็นหลวงพ่อท่าน"เปลี่ยนไป" (โดยเฉพาะพระพักตร์)จนแทบจำไม่ได้ แม้ท่านจะ"งามขึ้น"มาก แต่ก็อดให้เสียดายกับ"ความหลัง" และ"ภาพลักษณ์"อันเข้มขลังสุดๆเมื่อครั้งเก่าๆซึ่งมีที่มาที่ไปอันลึกซึ้งอย่างยิ่ง อันไม่อาจจะแลเห็นได้อีกแล้วเสียมิได้ หากปล่อยไป ไม่ช้า ก็คงจะถูกลืมเลือนไปจนสิ้นเป็นแน่ เลยเห็นควรบันทึกไว้เป็น"จดหมายเหตุ" ให้ปรากฏสืบไป <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff></TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอขอบคุณเว็บพุทธวงศ์ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล
http://www.phuttawong.net

 

บทสวด "พระคาถาชินบัญชร" พร้อมคำแปล

เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วระลึกถึงและตั้งคำอธิษฐานว่า
ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

จากนั้นจึงเริ่มสวดพระคาถา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=1><TBODY><TR><TD>

บทสวด​

</TD><TD>

คำแปล​

</TD></TR><TR><TD>๑.ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เยปิวิงสุ นะราสะภา
</TD><TD>พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์
ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์
</TD></TR><TR><TD>๒.ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก มุนิสสะรา
</TD><TD>มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นอาทิ พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น
</TD></TR><TR><TD>๓.สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร
</TD><TD>ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะพระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก
</TD></TR><TR><TD>๔.หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก
</TD><TD>พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจ พระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง
</TD></TR><TR><TD>๕.ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุโล กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเล
</TD><TD>พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย
</TD></TR><TR><TD>๖.เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว
</TD><TD>มุนีผู้ประเสริฐคือ พระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสงอยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง
</TD></TR><TR><TD>๗.กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก โส มัยหัง วะทะเนนิจจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร
</TD><TD>พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ
มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ
</TD></TR><TR><TD>๘.ปุณโณ อังคุลิมาโลจะ อุปาลี นันทะสีวะลี เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ตีละกา มะมะ
</TD><TD>พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี
พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก
</TD></TR><TR><TD>๙.เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา
</TD><TD>ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่
</TD></TR><TR><TD>๑๐.ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะ ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
</TD><TD>พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้า พระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง
</TD></TR><TR><TD>๑๑.ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
</TD><TD>พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร
เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ
</TD></TR><TR><TD>๑๒.ชินนานา วะระสังยุตตา สัตตะปาการะลังกะตา วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา
</TD><TD>ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ
อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น
</TD></TR><TR><TD>๑๓.อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา วะสะ โต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร
</TD><TD>ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ
เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ
</TD></TR><TR><TD>๑๔.ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮีตะเล สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพเต มะหาปุริสาสะภา
</TD><TD>ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร
ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล
</TD></TR><TR><TD>๑๕.อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติ
</TD><TD>ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม
จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระคาถาชินบัญชร ฉบับไทย
คำแปลเป็นกาพย์ยานี โดยพระคุณเจ้า พระธรรมโกศาจารย์ วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี

ข้าฯ ขอเชิญเสด็จ พระสรรเพชญ พุทธองค์
นราสภาทรง พิชิตมาร และเสนา
ยี่สิบแปดพระองค์ นายกสงฆ์ทรงสมญา
ตัณหังกรเป็นต้นมา ทรงดื่มแล้ว ซึ่งรสธรรม
จตุสัจอันประเสริฐ ทรงคุณ<?xml:namespace prefix = st1 /><st1ersonName w:st="on" ProductID="เลิศ ดิลกล้ำ">เลิศ ดิลกล้ำ</st1ersonName>
ยอดบุญ พระคุณนำ ยิ่งเทพไท ไตรวิชชา
โปรดรับ ประทับทรง ณ ที่ตรง กระหม่อมข้า
พระพุทธเจ้าสา- ธุประฌม บังคมเชิญ
ขอให้พระพุทธะ สักกยะ พระจำเริญ
ประทับบนเศียรเทอญ ปราชญ์สรรเสริฐพระบารมี
ขอให้พระธรรมะ อริยะวิสุทธิ์ศรี
ประทับจักขุนทรีย์ ให้ข้ามีปัญญาญาณ
ขอให้พระสังฆะ วิสุทธะคุณาจารย์
สถิตประดิษฐาน อุระข้า อย่ารู้ไกล
ให้พระอนุรุทธิ์ บริสุทธิ์ อยู่หทัย
พระสารีบุตรไพ- โรจนัย ณ เบื้องขวา
เบื้องหลังพระโกณทัญ- ญะสถิต จิตตสา
เบื้องซ้ายพระโมคคัลลา- นะสถิต สถาพร
หูขวา พระอานนท์ ประชุมชน ประณมกร
พระราหุล อุดมพร สถิตร่วม จรัญญา
หูซ้ายพระกัสสป นิราศภพ กิตติมา
คู่กับพระมหา- นามสถิตย์ ประดิษฐาน
พระพุทธะโสภิต ผู้เรืองฤทธิ์ อุดมญาณ
จอมมุนี วีระหาญ ไตรวิชชา ประภากร
ดุจดวง พระอาทิตย์ แร่งร้อยฤทธิ์ พันแสงศร
สถิตเกศ อุดมกร ปัญฉิมภาค พิบูลพรรณ
พระกุมาระกัสสป ผู้เจนจบ วจีสัณห์
บ่อคุณ<st1ersonName w:st="on" ProductID="คุณานันท์ สถิตโอษฐ์">คุณานันท์ สถิตโอษฐ์</st1ersonName> อลังการ
ขอให้พระปุณณะ เถระพระอังคุลิมาล
พระอุบาลีศานต์ พระนันทะ พระสีวลี
บรรจบเป็นเบญจะ พระเถระ ผู้เรืองศรี
สถิตอยู่นลาตมี เสน่ห์ดี ไมตรีตาม
แปดสิบ พระสาวก มนต์สาธก ผู้เรืองนาม
เรืองเดช ทุกโมงยาม ด้วยลีลา ธิคุณคง
สถิตทั่วทุกส่วนกาย ทั้งน้อยใหญ่ประทับทรง
เป็นคุณ<st1ersonName w:st="on" ProductID="จำเริญมง คลเลิศประเสริฐศรี">จำเริญมง คลเลิศประเสริฐศรี</st1ersonName>
ขอเชิญพระปริตร อันศักดิ์สิทธิ์ในแดนตรี่
เมตตาและปรานี บริรักษ์ นิราศภัย
เบื้องหน้ารัตนสูตร ธรรมาวุธ อันเกรียงไกร
ทักษิณ อันฤาชัย เมตตสูตร พระพุทธมนต์
ปัจฉิม ธชัคคสูตร พุทธาวุธ วิเศษล้น
บุดรมหามนต์ อังคุลิมา ละสูตรเสริม
ขันธโมพระปริตร ดังจักรกฤช ประสิทธิ์เฉลิม
อาฏานาฎสูตรเติม พระขรรค์เพ็ชรเผด็จมาร
เพดารกั้นมารอากาศ ให้ปลาส เกษมศาสตร์
อีกให้เป็นปราการ กำแพงแก้วกำขัตภัย
กำแพงแก้วเจ็ดชั้น ดำรงมั่น เดโชชัย
พระชินราช ประสาทให้ เป็นเกาะใหญ่ คุ้มครองตน
ด้วยเดช พระชินศรี เรืองฤทธิ์ มากเหลือล้น
กำจัดภัย ทุกแห่งหน ทั้งวิบัติ อุปัททวา
ทั้งภายนอกและภายใน เกิดเป็นภัย ไม่นำพา
เพียงลมร้าย พัดไปมา ไม่บีฑา อย่าอาวรณ์
เมื่อข้า สวดพระสูตร พระสัมพุทธบัญชร
สูงสุด พุทธพร ในพื้นเมธนีดล
กลางชินนะบัญชร คุณากร กิตติพล
หวังใดให้เป็นผล จากกุศลสาธยาย
ขอมวลมหาบุรุษ หน่อพระพุทธฤาสาย
รักษา ข้าอย่าคลาย ตลอดกาล นิรันดร
อีกเวทมนต์ ดลคาถา ที่มวลข้า ประฌมกร
เล่าเรียน เพียรว่าวอน อนุสรณ์ ตลอดมา
เป็นคุณ คุ้มครองดี อย่าให้มี ซึ่งโรคา
เป็นคุณ ช่วยรักษา สรรพภัย ไม่แผ้วพาน
อานุภาพ พระชินะ อุปัทวะ อย่ารู้หาญ
ห่างไกร ไม่ระราน ประสบงาน สวัสดี
อานุภาพ พระธรรมมะ ให้ชำนะ ความอัปรีย์
ห่างไกล คนใจผี กาลกิณี ไม่กล้ำกราย
อานุภาพ พระสังฆะ ให้ชำนะ อันตราย
ไม่เห็น คนใจร้าย ไม่มั่นหมาย มาราวี
อานุภาพ พระสัทธรรม ทุกเช้าค่ำ รักษาศรี
จำรัส จำเริญดี ร่มพระศรี ชินบัญชรฯ

พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขัน ตุ สัพ พะ ทา
ภาวนา 10 จบ

ขอขอบคุณเว็บพุทธวงศ์ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล
http://www.phuttawong.net

 

มิลินทปัญหา

ปัญหาที่ 5
ถามเรื่องบรรพชา

ครั้งนั้น พระนาคเสนเถระก็ได้เข้าไปสู่พระราชนิเวศน์ของพระเจ้ามิลินท์ ขึ้นสู่ปราสาทแล้วนั่งลงบนอาสนะที่ เขาจัดไว้ พระเจ้ามิลินท์ก็ทรงเลี้ยงดูพระภิกษุสงฆ์ด้วยพระองค์เอง เสร็จแล้วจึงถวายผ้าไตรจีวร

ครั้นพระนาคเสนครองไตรจีวรแล้ว พระเจ้ามิลินท์จึงตรัสขึ้นว่า

 

มิลินทปัญหา

ปัญหาที่ 6
ถามเรื่องปฏิสนธิ(เกิด)


พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า

 

1.เรื่องพระที่แจกกันในกระทู้นี้ พี่ใหญ่บอกว่า "ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับพระชุดนี้ไปบูชาหรือครอบครอง เพราะพระชุดนี้เป็นพระที่ไม่ธรรมดา แต่จะเป็นอย่างไรให้ย้อนกลับไปอ่านกระทุ้ย้อนหลังหรือรอเฉลยจากคุณโสระละกัน แต่บอกใบ้ให้นิดว่า เมตตาสุดยอดแต่มีสิ่งที่พี่ใหญ่ย้ำไว้สำหรับเรื่องพระที่แจกให้คือให้ห้อยหรือบูชาพระ
เพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อเตือนตนเองไม่ให้สร้าง,กระทำสิ่งที่ไม่ดีหรือบาปกรรมหรืออกุศลกรรม ให้สร้างแต่สิ่งที่เป็นคุณงามความดีหรือกุศลกรรมให้มากไว้ และเป็นเครื่องเตือนหรือไว้ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เราเจริญรอยตามเบื้องบาทและทำตามพุทธโอวาทที่ได้ทรงสั่งสอนไว้ และพี่ใหญ่ให้ทุกท่านหมั่นรักษาศีลและภาวนาเจริญสติกำหนดลมหายใจ(กำหนดลมที่ปลายจมูก)ทำให้มากๆเข้าไว้นะดีแก่ตัวเอง

2. เรื่องการทำบุญให้สม่ำเสมอและเป็นนิจ ซึ่งพี่ใหญ่แนะนำให้ผู้ที่ไม่มีเวลาไปทำบุญหรือใส่บาตรด้วยตนเอง
ให้ทำดังนี้

ให้อธิษฐานเลยว่าเดือนนี้คาดว่าจะทำกี่บาท ตั้งเป็นสัจจะเอาไว้
เลย แลกเหรียญ 5 บาท หรือ 10 บาท เอาไว้ตามนั้นเช้าขึ้นมาก่อนไปทำงาน นำเหรียญ 5 หรือ เหรียญ 10 ยกขึ้นมาอธิษฐาน ว่าข้าพเจ้าขอนำเงินที่ได้มาเหนื่อยยากนี้ เพื่อซื้อข้าวปลาอาหาร ถวายพระ พร้อมทั้งบริจาครักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์ แล้วสวดต่อด้วย

 

ยินดีที่ไดูุ้้็้ข่าวว่าพี่พันวฤทธิ์อาการดีขึ้นมากขอให้หายเร็วๆนะคะ
จะมาบอกว่าได้รับพระแล้ว
และขอบคุณและอนุโมทนากับคุณโสระและคุณนายสติมากๆค่ะ