********เปิดสั่งซื้อหนังสือประวัติและแจกผงพุทธคุณ พระอาจารย์ชาญณรงค์ ด่วน จำนวนจำกัด********

รบกวนส่งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และรายละเอียดการโอนเงินมาด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

 

ตอน ๒ .

พบหลวงปู่พลอย

หากกล่าวย้อนไปเมื่อราว ๗๐ – ๘๐ ปี ก่อน บ้านเมืองยังไม่เจริญอย่างเช่นปัจจุบัน การคมนาคมก็ไม่สะดวกสบายดังเช่นปัจจุบัน การเดินทางสัญจรส่วนใหญ่ใช้เดินทางทางน้ำ เดินทางด้วยเรือทั้งการขนส่งต่างๆ ใช้เรือเป็นหลัก สมัยก่อนฝั่งธนบุรีถือเป็นพื้นที่เกษตร ชาวบ้านพื้นถิ่นทำมาหากินด้วยการทำสวนผัก สวนผลไม้เป็นหลัก ทำให้ฝั่งธนบุรีในสมัยอดีตพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกขุดเป็นท้องร่องสำหรับปลูกพืชชนิดต่างๆ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้านานาชนิด คนในสมัยนั้นหากใครเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา โดยมากจะพึ่งพาการรักษาด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน หากหวังพึ่งพาหมอฝรั่งหรือไปโรงพยาบาลเป็นเรื่องลำบากพอควร ด้วยการสัญจรไปมาค่อนข้างลำบาก สมัยนั้นคนฝั่งธนบุรีหากใครเจ็บไข้ได้ป่วยโดยมาก เขาจะพากันมาที่วัดเงิน คลองบางพรม ด้วยหลวงปู่พลอย สมภารในสมัยนั้นท่านขึ้นชื่อทางเป็นพระหมอ ไม่ว่าจะโดนงูกัด (ฝั่งธนบุรีสมัยนั้นงูชุมมาก) เป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเรื่องกระดูกแตก กระดูกหัก ท่านรักษาได้ฉมังนักรักษาหายมามากราย ชนิดที่ว่าแม้นแต่หมอฝรั่งตาน้ำข้าวยังต้องมาขอดูวิธีการรักษาของท่านถึงที่วัดเลยทีเดียว

หลวงปู่พลอย พรหมโชโต รูปนี้ว่าไปแล้วท่านถือเป็นศิษย์น้องของ หลวงปู่ทอง อายะนะ เทพเจ้าแห่งทุ่งมีนบุรี อดีตเจ้าอาวาส วัดลาดบัวขาว ด้วยว่าท่านทั้งสองต่างเป็นศิษย์ของ พระวินัยกิจการีเถร (ภู่) วัดเงิน คลองบางพรม โดยหลวงปู่พลอย พรหมโชโต อ่อนอาวุโสกว่า หลวงปู่ทอง อายะนะ ซึ่งท่านทั้งสองต่างเคยไปมาหาสู่กันอยู่เนืองๆ และด้วยความที่ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ไปเยี่ยม หลวงปู่ทอง อายะนะ บ่อยครั้งนี้เอง ทำให้หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ท่านได้พบกับยอดพระเกจิอาจารย์หลายรูป ที่ต่างมาพบปะขอต่อวิชาบ้างแวะเวียนมาขอคำชี้แนะจาก หลวงปู่ทอง อายะนะ ซึ่งท่านเหล่านี้ต่างจัดเป็นยอดปรมาจารย์ผู้เจนจบไสยเวทย์วิทยาคุณของเมืองไทยทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า – หลวงพ่อเงิน บางคลาน – หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม – หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว –หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง – หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เป็นต้น เหตุนี้ทำให้หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ท่านได้รู้จักมักคุ้นได้แลกเปลี่ยนวิชาจากยอดเกจิอาจารย์ไปด้วย

หลวงปู่พลอย พรหมโชโต รูปนี้นอกจากมีความเก่งกล้าทางการแพทย์สมุนไพรใบยา ท่านยังมีพลังจิตที่กล้าแข็งมาก ด้วยท่านมุ่งมั่นฝึกฝนบำเพ็ญสมาธิอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่เคยขาด สมัยท่านยังแข็งแรงยามออกพรรษารับผ้ากฐินเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ท่านจะธุดงค์เดี่ยวเที่ยวท่องไปตามป่าเขาลำเนาไพร จากเหนือจรดใต้ จากตะวันตกสู่ตะวันออก ท่านเดินเดี่ยวท่องเที่ยวไปทั่ว จนคราวหนึ่งท่านได้ไปพบพระสงฆ์ลึกลับรูปหนึ่ง ในป่าลึกเขต จ.ลพบุรี พระสงฆ์รูปนี้ไม่ใช้พระธุดงค์ธรรมดาทั่วไป หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ท่านเคยเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังถึงพระสงฆ์ลึกลับรูปนี้ว่า “พระอาจารย์ที่ได้ไปพบในป่ารูปนี้ต่างจากพระสงฆ์ที่เคยพบมา ประการแรกท่านมีรูปร่างสูงใหญ่ผิดไปจากคนธรรมดา มือ - เท้า ของท่านก็ใหญ่โต จมูกโด่งยาวงุ้ม มีผมขาวเล็กน้อย ผิวกายดำคล้ำ ร่างผอมแต่ดูแข็งแรง ดูไปคล้ายคนแขกลังกา เมื่อคะเนดูจากรูปร่างลักษณะอายุไม่เกิน ๖๐ ปี” พระสงฆ์ลึกลับรูปนี้เมื่อ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ได้สนทนาเกิดศรัทธาท่านอย่างมาก จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ขอติดตามเรียนรู้วิชาจากท่าน ด้วยเห็นประจักษ์ถึงฤทธิ์ของพระสงฆ์ลึกลับรูปนี้ว่า ท่านเหนือกว่าพระอาจารย์ต่างๆ ที่ท่านได้เคยพบมาอย่างสิ้นเชิง

เป็นศิษย์พระสงฆ์ลึกลับ

เมื่อหลวงปู่พลอย พรหมโชโต ขอฝากตัวเป็นศิษย์พระสงฆ์ลึกลับ ท่านได้เอ่ยถามนามของพระสงฆ์ลึกลับผู้เป็นอาจารย์ แต่ท่านกลับ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ตอบว่า

พระสงฆ์ลึกลับ .. “อยากเรียกขานนามฉันอย่างไรก็ย่อมได้ รูป และ นาม สำหรับท่านไม่มีสิ่งใดสำคัญ ฉันอยู่มานานใครต่อใครเขาอยากเรียกอย่างไรก็ตามใจเขา ไม่มีนาม หรือ รูปใดจีรังยั่งยืนสำคัญสำหรับฉัน”

หลวงปู่พลอย พรหมโชโต .. “แล้วอย่างนั้นกระผมจะเรียกขานท่านอย่างไรได้เล่าท่านอาจารย์ ถ้าเช่นนั้นกระผมอยากทราบว่าผู้คนส่วนใหญ่ หรือที่เขาเรียกขานนามท่านอาจารย์ว่าอย่างไร ? ศิษย์ใคร่ขออนุญาตเรียกขามนามท่านอาจารย์ อย่างที่เขาเรียกขานด้วยเช่นกันเถิดว่าเขาเรียกนามท่านว่าอย่างไร ?” เมื่อสิ้นคำถามของ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต พระสงฆ์ลึกลับท่านนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวตอบกลับมาว่า

พระสงฆ์ลึกลับ .. “พระธุดงค์ กับ ญาติโยมชาวบ้านป่า ที่เขาได้พบฉันส่วนใหญ่เขาเรียกขานนามฉันว่า “หลวงตาดำ เจ้าแห่งสงฆ์ดงพญาไฟ” หากใคร่จะเรียกขานตามเขาก็ได้ฉันไม่หวงห้ามแต่อย่างใด”

ตั้งแต่นั้น หลวงปู่พลอย พรหมโชโต จึงรู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าเรื่องราวของพระสงฆ์ลึกลับที่เคยเล่าขานกันในหมู่พระธุดงค์ ตลอดจนชาวบ้านป่าตลอดจนนายพราน ที่เล่าขานสืบต่อกันมาถึงพระสงฆ์ลึกลับที่ไปมาไร้ร่องรอย หากผู้ใดเกิดเหตุเภทภัยในป่าลึก หากสำรวมจิตเป็นกุศลอาจได้พบพระสงฆ์ลึกลับ มาปรากฏกายช่วยให้รอดพ้นภัยได้อย่างอัศจรรย์ ซึ่งผู้ที่เคยพบต่างรู้ว่าท่านมีฤทธิ์เหนือกว่าพระสงฆ์ใดๆ จึงขนานนามท่านขึ้นมาเพื่ออาศัยเรียกแทนนามแท้จริงที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่า “หลวงตาดำ เจ้าแห่งสงฆ์ดงพญาไฟ” เหตุนี้เมื่อหลวงปู่พลอย พรหมโชโต ได้ทราบว่าพระสงฆ์ลึกลับที่อยู่เบื้องหน้าของท่านนี้ที่แท้จริงก็ คือ “หลวงตาดำ เจ้าแห่งสงฆ์ดงพญาไฟ” ที่ตัวท่านเองก็เคยได้ฟังเรื่องราวนี้ต่อมาจากพระธุดงค์อาวุโสอีกทอดหนึ่ง เมื่อวันนี้ตัวท่านเองได้มาพบจอด้วยตนเองจึงถือเป็นบุญวาสนายิ่งนัก

สำหรับรายละเอียดว่าหลวงปู่พลอย พรหมโชโต ได้เรียนวิชาใดมาจาก “หลวงตาดำ” มาบ้างนั้นไม่มีผู้ใดรู้แน่ชัด แต่ภายหลังจากที่ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต เรียนวิชาสำเร็จแล้วภายหลังท่านยังได้สร้างรูปเคารพของ “หลวงตาดำ” ซึ่งถือเป็นพระอาจารย์ใหญ่ที่ท่านเคารพนับถืออย่างสูง โดยท่านทำพิธีหล่อรูปเคารพจำลองของ “หลวงตาดำ” ขึ้นมาในรูปพระสาวกแบบโบราณ เดิมทีในมือท่านมีถือตาลปัตรแต่ต่อมาสูญหายไป หลวงปู่พลอย พรหมโชโต ท่านบอกกับเหล่าศิษย์ว่ารูปเคารพนี้ คือ รูปอาจารย์ผู้วิเศษที่ท่านได้พบในป่านามว่า “หลวงตาดำ เจ้าแห่งสงฆ์ดงพญาไฟ” ซึ่งในเวลาต่อมาเมื่อพระพุทธเจ้าหลวง (ร.๕)ท่านให้เปลี่ยนคำเรียกขานผืนป่าอาถรรพ์นามว่า “ป่าดงพญาไฟ” ให้เรียกขานเสียใหม่ “ดงพญาเย็น” ด้วยเหตุนี้ภายหลังจึงเปลี่ยนคำเรียกขานเป็น “หลวงตาดำ เจ้าแห่งสงฆ์ดงพญาเย็น” แต่สำหรับผู้คนยุคหลังตลอดจนบรรดาลูกศิษย์ของ หลวงปู่พลอย พรหมโชโต มักเรียกขานนามท่านสั้นๆ ว่า “หลวงตาดำ” ทั้งให้ความนับถือ ยามใดเจ็บป่วยหรือเกิดทุกข์ร้อนมักนำไข่ต้ม กับเงินเหรียญสลึง ตลอดจนดอกไม้ธูปเทียนใส่พาน มากราบไหว้บนบานขอให้ท่านช่วยเหลือซึ่งก็ได้เห็นประจักษ์ในความศักดิ์สิทธิ์ของรูปบูชา “หลวงตาดำ” โดยเฉพาะเรื่องของความเจ็บไข้ได้ป่วยจะเห็นผลชัดเจน จนในภายหลังบ้างเรียกขานรูปบูชาท่านจนติดปาก “พระหมอ” ด้วยความศักดิ์สิทธิ์นั้นเอง

 

เช้านี้ผมได้โอนค่าหนังสือพร้อมค่าจัดส่งไปให้แล้วครับเวลา 08:34:24น.ยอดโอน1,750บาท ที่อยู่จัดส่งแจ้งทางPMแล้วครับ

 

พยายามส่งหลายรอบแล้วไม่ได้ผล

ลองใหม่นะครับ

 

พรุ่งนี้ส่งใบจองให้ครับ
ขอบคุณครับ

 

พรุ่งนี้จัดส่งใบจองให้ครับ
ขอบคุณครับ

 

จัดส่งใบจองให้ทุกท่านเรียบร้อยครับ
ขอบคุณครับ

 

ท่านที่โอนแล้วรบกวนแจ้งรายละเอียดด้วยนะครับ
จัดส่งใบจองวันนี้เรียบร้อยแล้วครับ

 

แจ้งโอน 1750.36 บาท 25/4/57 เวลา 18.07น. แล้วครับ

 

วันนี้ (25/04/57) เวลา 21:14 น. ผมได้โอนเงินค่าหนังสือจำนวน 1750.99 บาทเข้าบัญชีให้แล้วครับ รายละเอียดแจ้งใน pm นะครับ

 

ท่านที่โอนแล้วอย่าลืมส่งรายละเอียดการโอน พร้อมรายละเอียดการจัดส่งมาด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

 

ขอจอง 1 เล่มครับ
โอนเงินให้แล้วครับ วันนี้(30/04/57)เวลา07.14 น. จำนวนเงิน 2750.08 บาท ครับ
คุณธี
แล้วจะสแกนสลิป มาให้ทราบอีกครั้งครับ

 

ผมโอนเงินค่าจองหนังสือให้แล้ววันนี้ 29เมย.57 เวลา 11.56น.ผ่าน ธ.กสิกรสาขา รพ.รามาธิบดี, บัญชีเลขที่ 382-2-34251-4 จำนวนเงิน 1,751.99 บาท
Br.0879 PB38754026 Ref.061357
ขือที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง PMนะครับ
มรรคเวทย์

 

พรุ่งนี้จัดส่งใบจองให้ครับ
ขอบคุณครับ

 

ผมขอจองหนังสือประวัติหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต 1 เล่มนะครับ โอนแล้วจะแจ้งให้ทราบในกระทู้นี้ ขอบคุณมากนะครับ

 

ผมได้รับใบจองเรียบร้อยครับ
ขอบคุณครับ

 

ครับ ขอบคุณครับ

 

จอง 1เล่มครับ

 

ขอจอง 1 เล่มครับ

 

ขอจอง 1 เล่มครับ