{{รวมพลังโชว์พระแท้สากลนิยม}}@@แนวทางสำหรับผู้เริ่มสะสมพระ@@สมเด็จ พระกรุ พระเกจิ

พระกรุ สุพรรณหลังผาน กรุวัดพระศรีฯ สุพรรณ

กรุพระเดียวกับพระผงสุพรรณ และมเหศวร องค์นี้ใครเจออาจสวดเก๊ก่อน เพราะมันสวยเกินไป สภาพสมบูรณ์ที่สุดด้านหน้าปรอทยังครบ ด้านหลังแสดงผิวระเบิดของเนื้อชินเงิน ได้มาจากเซียนพระสุพรรณสมัยก่อน ได้มา40-50ปีแล้ว สมัยก่อนถือเป็นพระของเล่นราคา100-200 พ่อผมโดนโง่ขอช่วยให้เช่า 700สมัยนั้น แถมต้องเลี้ยงเหล้าเฮนเนสซี่ขวดเขียวอีก500 สมัยพ่อผมละอ่อนเข้าวงการใหม่ๆ

ตอนเอาไปอวดนึกว่าพระไม่มีราคา ที่ไหนได้เพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้แพง
<a href="http://www.uppic.org/share-6A5B_5356AB02.html"><img src="http://www.uppic.org/image-6A5B_5356AB02.jpg" border="0"></a>

 

ต่อไปก็ให้ดูชินเงินอีก คราวนี้อาจเถียงกันไม่เลิก อันนี้ผมเอามาเอง
สันดานผมก็ชอบเก็บของหายากเหมือนกัน ไม่ชอบเก็บพระตลาด

พระร่วงนั่งหลังตัน กรุช้างล้อมตัวจริงๆ
พระร่วงนั่งกรุช้างล้อมที่เรารู้จักและเล่นกันแพงคือ พระร่วงนั่งหลังลิ่ม
ส่วนหลังตันที่เจอจะเป็นของที่สร้างเลียนแบบ เจอกรุใกล้ๆเช่นกรุเขาพนมเพลิง กรุพญาดำ กรุแก่งสาระจิต พวกนั้นจะมีผิวปรอท ไม่ก็สนิมดำอีกแบบ อันนี้คือเนื้อแบบช้างล้อม ชินเงินสีดำ บางคนเรียกผิวแบบสนิมตีนกา และกรุช้างล้อมตัวเป็นๆจะขนาดใหญ่กว่ากรุที่กล่าวมา ขนาดกรุช้างล้อมประมาณ 2ข้อนิ้วก้อย ของกรุอื่นจะเล็กกว่าประมาณข้อนิ้วก้อยนิดหน่อย ถ้าเจออย่าพลาดนะครับ และระวังเช่าผิด ของช้างล้อมเล่นหลักหมื่นต้นถึงกลาง แต่ของกรุอื่นเล่นหลักร้ย-พัน

เนื่องจากประวัติ ที่เจอจากวัดช้างล้อมเป็นๆ สำหรับพระร่วงหลังตันเจอน้อยมากๆหลักร้อย(ส่วนใหญ่เจอแต่หลังลิ่ม) และที่สมบูรณ์จริงๆมีแค่หลักสิบ องค์นี้ผมไปกระทุ้งจากรังใหญ่ระดับประเทศครับ ราคาไม่แพงคนรู้จักน้อยแต่ใส่แล้วหรอย

[/URL][/IMG]

 

อ้อ ลืมได้ไง อันนี้พอสมัครแฟนพันธุ์แท้พอไหว

กว่าจะได้องค์นี้มา อธิฐานต่อหน้าหนังสือพระว่าอยากได้สวยๆ อยากได้ตั้งแต่เด็กๆ
พอโตมาพอมีเงินเช่า หาข้อมูลเต็มๆอยู่ 3-4เดือน จากหนังสือพระ จากเว็บต่างๆหลักๆได้ข้อมูลจากของร้านพินประภา องค์นี้เจ้าของเปิดโชว์อยู่นาน นั่งสวดมนต์ขอนิมนต์ท่านจากหน้ารูปในเว็ปไซด์ประมาณว่ามีอะไรดลใจว่าท่านเรียกเราแล้ว ว่าถ้าเรามีวาสนาต่อกันขอให้ท่านย้ายมา และให้เจ้าของขายราคาที่เราสู้ไหวก่อนหน้านี้ไปดูไปถามหลายเจ้าราคามันแพงส้นตรีนเกินไปเช่าไม่ไหว

กริ่งคลองตะเคียน หน้าใหญ่ไหล่ยก จารเต็มสูตร
ประวัติการสร้างปัจจุบันยังคลุมเครือ ใครสร้างไม่รู้
พระกริ่งคลองตะเคียนยุคเก่าที่เล่นๆกัน เขาว่ามี 3วัด
สมัยก่อนบางคนเขาก็ว่าสร้าง 3ยุค อยุธยาตอนกลาง,ปลาย,ต้นรัตนโกสินทร์

แต่ยังไงก็ช่าง การดูกริ่งคลองตะเคียนแบบฉบับของผมเองมีหลักการดูแบบนี้
-พิมพ์ แยกให้ออก หน้าเล็ก-ใหญ่บางทีเจอหน้ากลางก็มี,ไหล่ยก-ไหล่ไม่ยก, พิมพ์หน้าเดียวปลายแหลม-ไม่แหลม,หรือ2หน้าหรือไม่ ตำหนิพิมพ์หาเอาเองถ้าใคร่ถามถามมา และไหนจะพวกแปลกๆเช่นพิมพ์ปิดตา พิมพ์ชินราช พิมพ์วัดตระไกร
-เนื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นผงใบลานสีดำ หรือเนื้อดินสีน้ำตาลก็มีแต่หายากกว่า
-รอยจารอันนี้สำคัญ ดูลายมือการจารให้ออก รอยจารหลักที่ต้องระวังในพระแท้ที่อาจโดนย้อมแมวเช่าผิดราคา คือ รอยจารของวัดช้าง หลักกริ่งคลองตะเคียนที่เล่นกันแพงจะเป็นของวัดโคกจินดา รอยจารแหลมคม จารเป็นระเบียบสวยงามผมเดาเองว่าน่าจะเป็นพระเถระการศึกษาสูงๆสร้าง ส่วนของวัดช้างลายมือจารหนาๆหยาบๆแบบชาวบ้าน ซึ่งกริ่งคลองตะเคียนวัดโคกจินดา สภาพพอไหว หน้าใหญ่ไหล่ยกราคาแสนขึ้นหมด แต่วัดช้างแบบเดียวกันอาจเจอเหลือหลักพัน-หมื่นต้นไม่ก็โดนตีเก๊

สาเหตุที่กริ่งคลองตะเคียนราคาไม่ไปไกล เนื่องจากคนมีพอได้ใช้เองจะหวงมากถามหลายคนที่ได้ใช้เองจริงๆแล้ว(ไม่ลองไม่รู้ อย่างองค์นี้ต่อให้เสนอ1ล้านก็อย่าหวังว่าผมจะขาย) ทำให้หมุนเวียนได้น้อย หาสวยยาก และไหนจะความสับสนเจอเก่าแท้ตีวัดช้างราคาลดฮวบ พิมพ์เล็กวัดช้างวันก่อนเจอราคาแค่ 1500 และสำหรับคนที่ไม่ได้ศึกษาจะเจอของวัดประดู่ทรงธรรมอีก และไหนจะเกจิบางองค์ที่สร้างเลียนแบบอีก หนังสือที่ออกมาก็พูดไม่หมด อันนี้ผมก็ศึกษาเองแบบจับแพะชนแกะมาหลายๆตำราและหลายๆข้อมูลมา anlysis เองอีก

อันนี้ของรูปในเว็ปที่ผมเจอตอนแรกแล้วประทับใจมากๆ
[/url][/IMG]

ส่วนอันนี้คือรูปที่ผมถ่ายเองให้เจอทุกมุม อาจกากไปหน่อยทำให้พระดูไม่สวย
[/url][/IMG]

 

เหรียญหนุมานออกศึก พ.ศ. 2524
หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
(จาร 3 แห่ง) สภาพสวยแชมป์
ปกติที่มีจารส่วนใหญ่ จะจารเพียงตัวเดียว
นับเป็นของดี ราคาเบาหวิวครับ





เหรียญหนุมานออกศึก พ.ศ.2524
หลวงพ่อพรหมวัดขนอนเหนีอเป็นเหรียญรุ่นแรกในรูปแบบหนุมาน
ตามตำราที่เรียนมาจาก ล.พ.อ่ำ วัดวงฆ้อง และ ล.พ.ขัน วัดนกกระจาบ
ลักษณะเป็นเหรียญเสมาใหญ่ ด้านหน้าเป็นรูป ล.พ.พรหม เต็มองค์
ล้อมด้วยอักขระยันต์ ด้านหลังเป็นรูปหนุมานแผลงฤทธิ์ มี 10 กร
ทรงอาวุธ ล้อมด้วยเชือกพิรอด 9 หัว

ในยุคที่ตามแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา มีการปะทะกันเป็นประจำ
ทหารชาวบ้านกรดรายหนึ่งได้เข้ากราบขอวัตถุมงคลติดตัวไปปฏิบัติหน้าที่
ล.พ.พรหม หยิบเหรียญหนุมานออกศึกพร้อมเชือกคล้องคอให้
วันหนึ่ง ระหว่างออกลาดตระเวนเกิดการปะทะกับทหารกัมพูชา
ทหารอาสาถูกกระสุนปืน M16 สาดเข้าใส่ร่างต่อหน้าเพื่อนทหาร
แต่หลังเหตุการณ์สงบลง กลับไม่มีร่องรอยของกระสุนปืนบนร่างทหารนายนั้นสักนิด
สร้างความประหลาดใจแก่เพื่อนทหารเป็นอย่างมาก
ขณะนั้น มีเหรียญหนุมานออกศึกติดตัวเพียงเหรียญเดียว
ทำให้ทหารหลายร้อยนายพากันเข้ากราบ ล.พ. พรหม
ท่านก็แจกเหรียญหนุมานออกศึกให้แก่ทหารทุกคน
เมื่อกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ทุกครั้งที่เกิดการปะทะกัน
ฝ่ายที่ได้รับความเสียหายมักจะเป็นฝ่ายตรงข้ามเสมอ
ส่วนฝ่ายเรากับไม่พบแม้แต่รอยฟกซ้ำ

ลพ. พรหม ท่านเป็นผู้สืบสายวิชาวัดประดู่ทรงธรรม
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกเคยกล่าวชมว่า
ในอยุธยา เรื่องเหนียวต้องยกให้ ลพ. พรหมครับ
เมื่อท่านมรณภาพ สังขารไมเน่าเปื่อย
เป็นพระเกจิอาจารย์ประเภทที่ผมเลื่อมใสมากครับ

 

งดงามมากๆ ครับ พี่ toeykeng
พระแท้ สวยดูง่าย
ต่อให้ดูไม่เป็น ก็ต้องบอกว่า
แท้แบบไม่มีข้อกังขาเลย
ธรรมชาติของพระสวยเดิมดูดีมากๆครับ

 

ตอนนี้ ขนาดเวปพลังจิตมีปัญหาโพสต์รูปไม่ได้เลย
ยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ กรุณาหาทางนำภาพพระ
ทั้งสวย ทั้งแท้ และหายากมาลงให้ได้ศึกษา
เห็นภาพแต่ละองค์แล้ว ต้องบอกว่าแต่ละท่านไม่ธรรมดาจริงๆ
เชื่อว่าพี่ๆ อีกหลายท่านที่แวะเข้ามาทักทายกันแล้ว
ทั้งพี่เค พี่ธนต พี่น้ำข้าว พี่ oad006 พี่สุเชฐ
พี่นัฐวงศ์ พี่ครูชายแดน พี่ tony24 พี่หมูทะเล ฯลฯ
รอว่าเมื่อไหร่เวปจะพร้อมให้เรานำรูปที่ฝากไว้มาลงได้
คาดหมายว่าจะมีพระแท้ สากลนิยม มาให้ศึกษาอีกมาก
ขออนุโมทนากับทุกท่าน ที่สละเวลามาร่วมให้แนวทางศึกษาพระเครื่องครับ
ยังรอพี่เอ๋ อยุธยา และพี่ๆ ที่เคารพอีกหลายท่านอยู่ครับ
เดี๋ยวผมจะรับหน้าที่ส่ง pm ไปถึงท่านเหล่านั้นต่อไปครับ

 

ยังยุ่งๆกับการฝึกถักตะกรุดลายจระเข้ขบฟันอยู่ เสร็จเมื่อไหร่ จัดไปครับพี่หนุ่ม

^_^

 

คนที่เพึ่งสะสมพระเครื่อง แนะนำหา 25 ศตวรรษมาหัดดูหัดส่องก่อน

อย่าใจร้อนไปเล่นพระราคาแพง พระดีๆ ราคาถูกๆมีอีกแยะไปครับ

 

เปลี่ยนมือไปแล้ว

 

ขอโชว์บ้าง หลวงพ่อเนียม วัดน้อยครับ พิมพ์พระประธานเล็ก ให้ใครดูก็บอกว่าแท้ครับ แต่สภาพไม่สวยเท่าไร่

 

กรรมการรับพระบอกแท้ดูง่ายครับ

พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ ปี ๒๕๑๕ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก จ. พิษณุโลก


พระกริ่งจอมสุรินทร์ 2513

 

หลวงปู่จันทร์วัดโฉลกหลำพิมพ์ 3 ชั้น แข้งขีด พระอาจติดไม่เต็มแต่ตำหนิครบ เนื้อพระยังสมบูรณ์ผิวยังไม่เปิดครับ ร่องรอยเป็นมาแต่ตอนนำพระออกจากแม่พิมพ์ พึ่งนิมนต์ท่านมาครับ
Thanks: เกมส์ ฟังวิทยุออนไลน์
Thanks: เกมส์ ฟังวิทยุออนไลน์
Thanks: เกมส์ ฟังวิทยุออนไลน์
เนื้อพระยุคนี้จะออกเปราะๆ ซักหน่อยครับ

 

ต่อด้วยพระกรุ ปรกพะงั่ว
ในสมัยเก่าก่อนที่ผ่านมา บรรดาหัวเมืองต่างๆ มีการสร้างพระเครื่องเพื่อเป็นพุทธบูชามาตลอด โดยเฉพาะเมืองกรุงศรีอยุธยา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น เมืองพระ มีการสร้างพระพิมพ์ต่างๆ มากมาย บรรจุกรุไว้หลายๆ สถานที่ อาทิ วัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นวัดหนึ่งที่มีการขุดพบพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นพระเนื้อชินถึง ๘๐%
นอกจากนี้ ยังมีพระเนื้อดินที่มีศิลปะของอยุธยาแท้ๆ จัดได้ว่าเป็น พระร่วมสมัย เพราะได้รับอิทธิพลของพระหลายยุคมาผสมผสานกัน พระเหล่านี้วงการเรียกว่า พระย้อนศิลป์
คำว่า ย้อนศิลป์ คือ นายช่างที่สร้างพระในสมัยนั้นได้สร้างแม่พิมพ์ขึ้นใหม่เอง โดยเลียนแบบพระยุคเก่าก่อน เป็นต้นแบบ ทางด้านศิลปะและจินตนาการ ไม่ได้นำองค์จริงของเดิมมาถอดพิมพ์แต่ประการใด
พระย้อนศิลป์บางพิมพ์จึงมีความสวยงามโดดเด่น ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่เหมือนกับองค์เดิมก็มี เช่น พระนาคปรก กรุวัดราชบูรณะ สร้างล้อศิลปะลพบุรี พระพักตร์ลดความเคร่งขรึมลง สัดส่วนลำตัวองค์พระไม่บึกบึนทะมึน มีความขึงขังน้อยกว่า แต่มีพระบางพิมพ์ที่ขุดพบได้ที่เมืองกรุงศรีอยุธยา แต่กลับมี เนื้อพระ ในการสร้างและพุทธศิลป์ต้นแบบที่มีอายุเก่าแก่มากกว่ายุคของเมืองอยุธยาที่ขุดพบได้ ถึงหลายร้อยปี ชี้ชัดเจนได้ว่า เป็นพระที่สร้างขึ้นในยุคลพบุรี สมัยต้นๆ เป็นพระพิมพ์ปางนาคปรก เช่นเดียวกันคือ พระนาคปรก พะงั่ว กรุวัดมหาธาตุ
พระนาคปรก พะงั่ว เมื่อพิจารณาจากพุทธศิลป์แล้ว จะพบว่าเป็นพระศิลปะลพบุรีโดยแท้ ผู้สันทัดกรณีให้ข้อสันนิษฐานว่า เป็น พระฝากกรุ โดย ขุนหลวงพะงั่ว ได้นำเอาพระที่สร้างในสมัยลพบุรี ซึ่งสร้างโดยช่างสกุลขอมโบราณ มาบรรจุกรุไว้ที่วัดมหาธาตุ
พระที่ขุดพบได้พิมพ์นี้ จึงมีศิลปะของขอมโดยตรง โดยเฉพาะ พระนาคปรก พะงั่ว ที่มี ซุ้มเรือนแก้ว ครอบคลุมอยู่ ถือเป็นพิมพ์พิเศษ ที่หาได้ยากยิ่ง ลักษณะของซุ้มเรือนแก้วที่อยู่ล้อมองค์พระ มีศิลปะงดงามมาก
ซุ้มลักษณะนี้ เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นการสร้างโดยฝีมือช่างผู้มีจินตนาการของศิลปะขอมโบราณโดยตรง อีกทั้งพระพิมพ์นี้มีลักษณะผุกร่อนระเบิดมาก จะเก่ากว่าพระทั้งหลายที่ขุดพบได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นพระที่มีผิวปรอทขาวจับตามองค์พระ แทบทั้งสิ้น
แต่ พระนาคปรก พะงั่ว กลับไม่มีผิวคราบปรอทเลยทั้งกรุ มีแต่สนิมเกล็ดกระดี่เป็นส่วนใหญ่ และผิวเนื้อพระออกทางสีดำปนเทา แบบสนิมตีนกาทั่วทั้งองค์
พระนาคปรก กรุพะงั่ว เป็นพระนาคปรกที่ถือว่า เป็นจักรพรรดิแห่งพระนาคปรกที่มีพุทธศิลป์งดงามอลังการที่สุด โดยเฉพาะตัวพญานาค ดูดุจดั่งมีชีวิต แผ่รังสีแห่งความมีอำนาจน่าเกรงขาม ซึ่งไม่มีพระนาคปรกจากกรุอื่นใดที่จะมีพลังดึงดูดให้ชวนชมมากเท่ากับ พระนาคปรก กรุพะงั่ว นี้เลย
พระพิมพ์นี้ขุดพบจากกรุในบริเวณวัดมหาธาตุ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ เป็นพระเนื้อชินเงิน ที่มีอายุความเก่าถึง ๖๐๐-๗๐๐ ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้
พระกรุนี้เกือบทั้งหมด เนื้อพระจะผุกร่อน และระเบิดเสียมาก เพราะเป็นกรุที่น้ำท่วมถึง ส่วนมากเป็นผิวสนิมเกล็ดกระดี่สีดำตีนกา เนื้อพระออกแบบสีดำปนเทา ปรากฏอยู่ทั่วตามบริเวณผิวองค์พระ

พระนาคปรกกรุพะงั่ว เป็นพระพิมพ์ปางสมาธิ มีพญานาคแผ่พังพาน 7 เศียร ปรกอยู่เบื้องบนพระเศียร ฐานทำเป็นตัวพญานาค มี 3 ชั้นบ้าง 7 ชั้นบ้าง และชั้นเดียวบ้าง ด้านหลังมักปรากฏลายผ้า พุทธศิลป์ที่ปรากฏในองค์พระนั้น เป็นแบบศิลปะลพบุรีผสมอู่ทอง พบเห็นด้วยกัน 3 พิมพ์ทรง คือ
1. พิมพ์ใหญ่ เป็นพระนาคปรกฐาน 3 ชั้น ขนาดโดยประมาณ กว้าง 4 เซนติเมตร สูง 7 เซนติเมตร รูปทรงมีลักษณะองค์พระต้อ ประทับนั่งปางสมาธิราบ เป็นพระเครื่องแบบศิลปะลพบุรีด้วยฝีมือช่างอู่ทอง
2. พิมพ์กลาง 2 ชั้น เป็นพระนาคปรกที่มีทรวดทรงชะลูด องค์พระนั่งยกพระอังสกุฏ (ไหล่) ทั้งสองขึ้นเล็กน้อย เค้าพระพักตร์ดุเครียด พระหนุ (คาง) เป็นเหลี่ยมลบมุม พระเศียรสวมอุณหิศ (มงกุฎ) กรอบกระบังหน้าเป็นเส้นคู่ พระกรรณส่วนมากไม่ติดพิมพ์ ทรงฉลองพระศอ (สร้อยสังวาลย์) ปรากฏรัดประคดเหนือพระหัตถ์ที่วางซ้อนกัน พระชงฆ์ที่ซ้อนกันเว้าเข้าข้างใน การประทับนั่งในลักษณะยกพระที่นั่ง (ก้น) ขึ้นเล็กน้อย ขนาดองค์พระเครื่อง กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร สูง 6 เซนติเมตร ในพิมพ์กลางนั้นยังมีอีกพิมพ์ทรงหนึ่ง คือ
พิมพ์กลางต้อ ลักษณะขององค์พระในพิมพ์ทรงนี้ มีลักษณะที่ดูต้อ
3. พิมพ์เล็ก พระนาคปรกในพิมพ์ทรงนี้ ในรายละเอียดของความชัดเจนแล้ว สู้ทั้งสองพิมพ์ที่กล่าวมาแล้วไม่ได้เลย เค้าพระพักตร์มีลักษณะเครียดดุ ลักษณะการประทับนั่งแบบยกพระอังสกุฏ (ไหล่) ทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย การวางพระกรประสานกันในลักษณะกอดรัดองค์พระเล็กน้อย พระบาทและพระชงฆ์เว้าเข้าด้านใน ฐานมีเพียงชั้นเดียว ขนาดองค์พระเครื่องกว้างประมาณ 2.7 เซนติเมตร สูงประมาณ 5 เซนติเมตร
นอกจากนั้นยังมีพิมพ์พิเศษฐาน 4 ชั้น ด้วย
ที่มา:คมชัดลึก, palungjit.org

 

เหรียญหลวงพ่อปานวัดคีรีธรรมาราม จ.ลพบุรีหลวงพ่อ สรเดช (สอ)พระเกจิอาจารย์ ผู้ที่ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลรูปตัวท่านเอง พระเครื่องที่ท่านสร้างส่วนใหญ่เป็น ครูบาอาจารย์ของท่านและพระพุทธพิมพ์ต่างๆ ส่วนเหรียญไก่นั้น หลวงพ่อ ท่านได้บอกว่า "ทำไว้ให้ลูกศิษย์ใช้ทำมาหากิน" มีประสบการณ์มากมายทั้้งแคล้วคลาด คงกระพัน และโชคลาภ ทำมาหากินคล่อง หลวงพ่อสรเดช วัดคีรีธรรมาราม เป็นครูบาอาจารย์ที่กราบได้สนิทใจ ท่านอุปสมบทที่วัดบวร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันเป็นพระอุปัชฌาย์ ด้วยเป็นสายธรรมยุติ จึงไม่จับต้องเงิน ฉันท์มังสวิรัติ ไม่เคยแจกซองเรี่ยไรทำบุญ เมื่อไรที่ท่านดำริจะจัดสร้างถาวรวัตถุในวัด บรรดาศิษย์เมื่อทราบข่าวก็จะมาร่วมกันทำบุญกันเอง สร้างวัตถุมงคลออกมา ไม่เคยจำหน่าย มีแต่แจกอย่างเดียว บางรุ่นมีคนต้องการมากท่านก็ให้จองและจ่ายตามราคาทุนเอาเอง อย่างเช่นเหรียญไก่เป็นต้น ส่วนล็อคเก็ตรูปท่าน บรรดาลูกศิษย์ทำกันขึ้นไว้ใช้เอง แล้วเอาไปเข้าพิธีเวลาที่ท่านทำพิธี ท่านมรณภาพ ปี 2547 ท่านเป็นลูกศิษย์สายหลวงปู่ปาน โสนันโท วัดบางนมโค ทางสมาธิจิต ศิษย์หลวงพ่อสาย กาญจนะจูฑะ วัดขี้เหล็ก เล่าต่อกันมาว่าท่านแสดงอิทธิฤทธิ์ได้มากมายหลายอย่าง มรณภาพแล้วร่างไม่เน่า สรีระท่านบรรจุในโลงแก้ว ที่วัดคีรีธรรมาราม จนทุกวันนี้
Thanks: เกมส์ ฟังวิทยุออนไลน์
Thanks: เกมส์ ฟังวิทยุออนไลน์

 

เหรียญหล่อรุ่นแรก พ.ศ. 2440 เนื้อสำริด
หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก
หนึ่งในเบญจภาคีเหรียญหล่อแดนสยาม
ถือเป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ทันหลวงพ่อแน่นอน
จำนวนสร้างหลักร้อยไม่ถึงพันเหรียญ

เหรียญรุ่นแรกนี้ออกในงานฝังลูกนิมิต วัดบางหลวง
ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของวัดที่หลวงพ่อทาท่านสร้างขึ้น
และในขณะนั้น เจ้าอาวาสวัดนี้เป็นลูกศิษย์ของท่าน
หลวงพ่อทาจึงมาเป็นประธานในงานด้วยตนเอง
ด้านหน้า เป็นพิมพ์พระพุทธนั่งขัดสมาธิ
ในซุ้มเรือนแก้วและมีต้นโพธิ์ปรกเหนือซุ้ม
ด้านหลังมี ยันต์ อุ มะ
เป็นเหรียญหล่อโบราณที่สวยงามที่สุดในยุคนั้น
สันนิษฐานว่าแกะแม่พิมพ์โดยช่างหลวง





เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์สูง
มีคุณวิเศษทางด้านคงกระพันชาตรี มหาอุดเป็นเลิศ
ในอดีตเคยเป็นที่นิยมมากกว่า
เหรียญจอบหลวงพ่อเงิน บางคลาน


ส่วนรุ่นสอง มีข้อมูล 2 แนวทางครับ
แนวแรก ได้ฟังคำบอกเล่าจากรุ่นพี่ อายุเจ็ดสิบกว่าปี
กล่าวว่ายุคที่ท่านเล่นพระใหม่ๆ 30 กว่าปีก่อน
ไม่ได้รับการยอมรับว่าทันหลวงพ่อทา
เหมือนกับสมเด็จวัดปากน้ำรุ่นสามที่ในยุคนั้นไม่มีราคาเลย
ท่านผู้นี้มีพระหลักยอดนิยมจำนวนมาก
และเป็นผู้หนึ่งที่คอยชี้แนะแนวทางการสะสมพระของผม

แนวที่สอง ได้ข้อมูลจากเซียนท่าพระจันทร์ยุคเก่า
กล่าวกันว่าเหรียญรุ่นสอง
เป็นเหรียญรุ่นแรกที่ออกวัดเพนียงแตก
สร้างขึ้น 2 ครั้ง พิมพ์เดียวกัน
มีทั้งสร้างก่อนและหลังท่านมรณภาพ

ถ้าเอาแนวพาณิชย์รุ่นใหม่เลย
คือรุ่นสองทันทั้งหมด
กลุ่มที่แสบกว่านั้น ตอนนี้บอกว่ารุ่น 3
พิมพ์หยดน้ำก็ทันหลวงพ่อทาด้วยครับ

 

ภาพถ่ายหลวงพ่อทา วัดเพนียงแตก
เท่าที่สืบค้นได้มีเพียงภาพเดียว ถ่ายเมื่อ ร.ศ. 127
พัดด้านขวาคือพัดยศ พัดด้านซ้ายคือพัดในงานพระศพ
สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมพระยาปวเรศน์
ร.ศ.127 (พ.ศ. 2435)



ในงานวัดมักจะมีการเล่นดอกไม้ไฟ
มีอยู่ปีหนึ่งท่านได้เอามือไปปิดพลุ
ทำให้พลุพุ่งออกมาจากกระบอกไม่ได้
ถึงกับระเบิด แต่ท่านไม่เป็นไรเลย
ทำให้พวกนักเลงหัวไม้เกรงกลัวไม่กล้ามาก่อเรื่อง

ท่านพระยุคเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
สมัยที่มีชีวิตอยู่ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
เห็นได้จากที่ท่านได้รับนิมนต์ร่วมราชพิธีสำคัญเสมอ
เช่นพระราชพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งปวเรศ
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจังหวัดนครปฐม
ตั้งแต่ช่วง พ.ศ.2400-2459

เมื่อคราวบูรณปฏิสังขรณ์พระปฐมเจดีย์
รัชกาลที่ 5 แต่งตั้งพระเถราจารย์ 4 รูป
เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์พระปฐมเจดีย์ ทั้ง 4 ทิศ
ได้แต่งตั้งหลวงพ่อทาเป็น พระครูอุตรการบดี
ประจำทิศเหนือเป็นองค์แรก หลังท่านมรณะ
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จึงขึ้นแทน

 

พี่ๆมีแต่ของแพงๆ อิจฉาครับ อยากได้

อดีตพระหลักร้อยครับ

 

ผมว่าราคาไม่สำคัญหรอกครับ ขอให้เป็นของแท้ของดีก็พอแล้วครับ