หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

(ข้อมูลคัดลอกจากเว้ปพลังจิต)

 

(ข้อมูลจากคุณทุเรียนทอด)
เหรียญชุดนี้เป็นเหรียญพระไภสัชยคุรุพุทธะ คณะของพี่เมืองสมุทรเป็นผู้สร้างครับ สร้างด้วยชนวนต่างๆมากมาย และนำไปขอเมตตาจากครูบาอาจารย์ต่างๆช่วยอธิษฐานจิตให้ และเข้าพิธีอีกมากมาย... เจตนาการสร้างดีสุดๆเลยครับ และพี่เมืองสมุทรได้นำเหรียญชุดนี้มาให้ผมช่วยแจกประมาณ 100 เหรียญ ผมจึงได้นำเหรียญจำนวน 100 เหรียญนี้ไปฝากให้องค์หลวงปู่พิศดูเมตตาอธิษฐานจิตให้ โดยวางไว้อยู่ที่เตียงของหลวงปู่นานนับเดือน จึงได้นำมาตอกโค๊ดของทางวัดเพื่อให้ทราบกันว่า เหรียญชุดนี้หลวงปู่ท่านได้แผ่เมตตาจิตให้ครับ เหรียญชุดนี้ที่มีการตอกโค๊ดของทางวัด จึงเป็นเหรียญที่หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตให้ครับ

 

http://palungjit.org/threads/ใครบูช...พุทธเจ้า-พระพุทธเจ้าหมอยา-กันบ้างครับ.525615/

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=1NclIzR1yQ0]พระไภษัชยคุรุตถาคต 藥師如來 - YouTube[/ame]

 

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xvvYPTEddSlAIuTr" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/265/EauEAI.jpg" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xvvYT5slM8oGQaIV" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/485/0qXcMj.jpg" /></a>

ขอโชว์สักองค์นะครับ เค้าบอกว่าหายากมีแค่ 19 องค์ครับ
ขอให้รวยๆเป็นเศรษฐีทุกท่านนะครับ

 

สาธุ.. ขอโมทนากับพี่ทั้งสองด้วยครับ

ท่านใดมีโอกาสก็ไปกันนะครับ งานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยธาตุ เกศาธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนครูบาอาจารย์ต่างๆ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต จัดแสดงให้ประชาชนเข้าชมและกราบนมัสการที่วัดเทพธารทอง ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นครั้งแรก
ท่านสามารถเดินทางไปที่วัดเทพธารทองที่เดียว แต่ว่าจะได้กราบมหามงคลธาตุอันบริสุทธิ์ซึ่งมีแสดงอยู่หลายสิบองค์ด้วยกันครับ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเสาะแสวงหาไปในที่ห่างไกลเลย มากราบที่วัดเทพธารทองที่เดียวได้กำไรชีวิตหลายต่อ ซึ่งนอกจากจะมีนิทรรศการพระธาตุ และรูปเหมือนครูบาอาจารย์ดังกล่าวแล้ว ทางวัดยังได้อัญเชิญรูปหล่อองค์หลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง และพระอัฐิธาตุ พระธาตุ ขององค์หลวงปู่พิศดูออกมาให้ทุกท่านได้ชมบารมี ซึ่งนานทีจะอัญเชิญออกมาสักครั้งหนึ่ง เพราะถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ครั้งนี้นับเป็นโอกาสพิเศษจริงๆครับ งานนี้จัดขึ้นถึงวันที่ 14 เมษายน 2557 เท่านั้นนะครับ...

และในวันที่ 13 เมษายน (วันมหาสงกรานต์) ของทุกปีก็เป็นวันคล้ายวันครบวันมรณภาพขององค์หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี พระอริยเพชรน้ำหนึ่งของชาวเมืองจันท์ และเป็นวันมหาสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทยนั่นเอง เนื่องในโอกาสวันดังกล่าวนี้ ทางวัดเทพธารทองก็ได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำรูปเหมือนองค์หลวงปู่พิศดูอีกด้วย ท่านที่ไม่สะดวกมาในช่วงวันสงกรานต์ ก็สามารถมาสรงน้ำได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 14 เมษายน 2557 นะครับ ส่วนกำหนดการรายละเอียดพิธีการต่างๆในวันครบรอบวันมรณภาพขององค์หลวงปู่พิศดูดังกล่าว ผมจะมาแจ้งรายละเอียดให้ทุกท่านทราบอีกครั้งหนึ่งครับ.. สาธุ ขอโมทนาในบุญกุศลที่ทุกๆท่านได้สร้างสมด้วยนะครับ.. ขอบารมีท่านพ่อพระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี และองค์หลวงปู่พิศดู ได้โปรดคุ้มครองทุกท่านให้อยู่เย็นเป็นสุข สนุกสนานรื่นเริง ร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัยกันถ้วนหน้านะครับ.. สาธุ

 

ยินดีด้วยนะครับพี่ประพัฒน์ เหรียญพระไภษัชยคุรุ ที่ตอกโค๊ดของหลวงปู่พิศดู มีแค่ไม่เกิน 99 เหรียญเท่านั้นครับ

ข้อมูลการจัดสร้างเหรียญพระไภษัชยคุรุ ของคณะพี่เมืองสมุทรนี้ แน่นปึ้ก..!!! เจตนาบริสุทธิมากๆครับ คณะนี้สร้างของออกมาแต่ละอย่าง คุณภาพเต็มเปี่ยมจริงๆครับ..

 

สุดยอดอีกแล้วครับ.. พระกริ่งมหาเศรษฐี ผมเองยังไม่เคยเห็นของจริงเลย เคยได้ยินแต่ชื่อครับ.. อิอิ
พระกริ่งชุดนี้ คิดว่าน่าจะเป็นต้นแบบในการสร้างพระกริ่งทศพลญาณของท่านครูบาด้วยนะครับ..

 

จริงๆคอมผมยังซ่อมไม่เสร็จครับ ตอนนี้ก็ใช้คอมของญาติกันเล่นไปก่อนครับ..

 

กลับกันนะท่านXเป็นองค์นี้สะอีกที่ถอดพิมพ์กริ่งทศพลญาณมา แล้วได้แต่งให้องค์พระใหญ่ขึ้นล่ำขึ้น หล่อพร้อมกับพุทธกว้กพญานาคครับ

 

ขอรบกวนสอบถามทุกๆท่านครับ เรื่องคือตั้งแต่ผมได้รูปหล่อพระธรรมธาตุมา ผมไม่เคยส่องพระเลยเพราะผมดูพระไม่เป็น ก็แขวนมาเรื่อยๆ จนเมื่อวันก่อนมีน้องคนนึงมาเยี่ยมเยียนถึงถิ่นก็เลยของชมรูปหล่อพระธรรมธาตุ แล้วพบว่าที่บริเวณอก แถวๆริ้วจีวร จะมีเม็ดสีขาวๆฝังอยู่ในเนื้อพระ อยากรู้ว่าคืออะไรครับ ผมเองก็พึ่งจะได้ส่องดู พยายามขยายให้ใหญ่และชัดที่สุดแล้วครับ

​

 

หากผมเข้าใจไม่ผิด ผมเชื่อว่าน่าจะใช่พระธาตุเสด็จนะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องเฝ้าสังเกตกันต่อไปครับ

 

พระหินหยก​

เนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกได้ Inbox มาเสนอความต้องการอยากจะทราบข้อมูลเรื่องพระหินหยกขององค์หลวงปู่ฟัก รวมถึงประสบการณ์ และวิธีการบูชาพระหินหยก ซึ่งหากจะค้นคว้าข้อมูลในเว็บไซด์ผมเชื่อว่าคงค้นหาได้ไม่ยาก แต่หากอยากจะให้ผมเล่า ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ


หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม เจ้าอาวาสวัดพิชัยพัฒนาราม (วัดเขาน้อยสามผาน) จ.จันทบุรี อดีตนั้นหลวงปู่เป็นศิษย์บ้านตาดยุคแรกร่วมกับหลวงปู่เจี๊ยะ จุณโฑ และเป็นที่รัก ที่ไว้วางใจขององค์หลวงตาพระมหาบัวอย่างมาก หลวงปู่ได้อุปปัฎฐากรับใช้หลวงตาพระมหาบัว อย่างใกล้ชิด เช่น ดูแลวัดแทนหลวงตา ยามที่หลวงตาไม่อยู่ หรือเตรียมบาตรให้หลวงตาเดินบิณฑบาตรทุกเช้า เรื่องราวของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตนั้น เป็นสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เนื่องจากบารมีธรรมที่สั่งสมกันมาในอดีตชาติ หลวงปู่ฟักมักจะกล่าวถึงคุณงามความดีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายท่านอยู่บ่อยๆ หนึ่งในนั้นต้องมี ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดป่าคลองกุ้ง จันทบุรี และหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด



เมื่อหมดท่านพ่อลีไป หลวงปู่ฟักจึงมาอยู่กับหลวงตาพระมหาบัว อบรมจิตใจที่วัดป่าบ้านตาดอยู่นานหลายปี เมื่อข่าวว่าโยมพ่อโยมแม่เกิดล้มป่วย ด้วยความกตัญญู หลวงปู่ฟักจึงขออนุญาตหลวงตากลับมาดูแลโยมพ่อโยมแม่ที่จันทบุรี หลวงปู่เดินทางไปมาระหว่างจันทบุรี - อุดรธานี อยู่บ่อยครั้ง จนในที่สุดจึงตัดสินใจอยู่จันทบุรียาว หลวงตาก็อนุญาต โดยหลวงตาได้กล่าวว่า "ท่านฟักพอจะตั้งไข่ได้แล้ว แต่ทางจันทบุรียังไม่มีใคร ให้ท่านฟักไปอยู่ที่นั่นก็แล้วกัน" หลังจากนั้นหลวงตาก็ได้เมตตาช่วยเหลือหลวงปู่ฟักจนได้เกิดเป็นวัดเขาน้อยสามผานที่สมบูรณ์ขึ้นมาเรื่อยๆ



สมบัติล้ำค่าของหลวงปู่ฟักที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่แสวงหาของบรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็คือ พระหินหยก คาถาท่านพ่อลี และการเป่ารักษาโรคของหลวงปู่ หากท่านใดเคยไปที่วัด คงได้มีโอกาสเห็นหลวงปู่เมตตาเป่ารักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆอยู่บนศาลาทุกๆวัน หลวงปู่ยังเมตตาเดินทางไปเป่าที่ต่างจังหวัด รวมถึง กทม.ด้วย หลวงปู่ท่านโปรดมากในการเมตตาเทศนาเรื่องการบำเพ็ญเพียรทางจิต การรักษาศีล โดยหลวงปู่มักจะสอนให้บรรดาลุกศิษย์รักษาศีล นั่งสมาธิ และไม่ใช้ผงชูรส สารกำจัดศัตรูพืช โดยเห็นว่าเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้และผู้รับ ทั้งคนและสัตว์ และเป็นเวรเป็นกรรมที่จะตามสนอง


ขอเข้าประเด็นของการขอพระหินหยกจากมือหลวงปู่ฟัก เลยแล้วกันนะครับ!


ณ กุฏิของหลวงปู่ ท่ามกลางลูกศิษย์ลูกหาจากหลายจังหวัด เป็นช่วงเวลา 6 โมงเย็น - 5 ทุ่ม ของวันวิสาขบูชา ปี 2552 เรื่องมีอยู่ว่า

หลวงปู่ : มาจากไหน

ปัทมินทร์ : เนินสูงครับ

หลวงปู่ : มีธุระอะไร

ปัทมินทร์ : ผมพาก๋งมาให้หลวงปู่เป่าอาการอัมพฤกษ์ครับ และอยากได้พระหินหยกไปติดตัว เพราะผมต้องไปรับราชการต่างจังหวัด

หลวงปู่ : รู้มาจากไหนว่าเราให้พระ

ปัทมินทร์ : อ่านเจอในเว็บไซด์ครับ ผมมาทำบุญที่วัดบ่อยแต่ไม่เคยสนใจเรื่องพระครับ จึงไม่รู้ว่าหลวงปู่มี พออ่านเจอในเว็บไซด์ ผมจึงอยากจะมาขอครับ

หลวงปู่ : พูดเสียงดัง เราไม่ชอบจริงๆพวกจะเอาพระไปขาย! (ทุกคนเงียบหมด มีกำนันหมู่บ้านสามผานคนนึงหันมายิ้มให้กำลังใจผม)

ปัทมินทร์ : ผมไม่ได้เอาไปขายครับ ผมมาทำบุญกับหลวงปู่ทุกครั้ง ฟังเทศน์หลวงปู่ทุกพระครับ รถผมหลวงปู่ยังเมตตาเจิมให้เลยครับ (รถคันเก่า)

***จากนั้นหลวงปู่ก็ไม่ได้พูดกับผมอีก หลวงปู่ก็สนทนาธรรมเรื่องยาฆ่าแมลง การนั่งสมาธิ ผงชูรส การทำน้ำมนต์จากพระหินหยก และปัญหากรรมของญาติโยมต่างๆที่เดือดร้อนมาพึ่งหลวงปู่ ฯลฯ ผมก็นั่งพับเพียบฟัง ได้ธรรมะและความรู้เรื่องเวรกรรมไปเยอะเลยทีเดียว ได้พบเจอเห็นหน้าผู้ที่โดนกรรมชั่วเล่นงาน ทำให้รู้สึกกลัวบาปไปเลยทีเดียว ใกล้ๆกับหลวงปู่มีลุงกำนันสามผานท่านนึงนั่งบีบนวดเข่าให้หลวงปู่ พร้อมทั้งบอกกับผมว่า "รอเดี๋ยว หลวงปู่ท่านใจดี รอก่อนๆ" ผมก็นั่งรอด้วยท่าพับเพียบไม่ขยับเลย เป็นครั้งแรกตั้งแต่ 3 ทุ่ม-4 ทุ่มกว่าใกล้จะ 5 ทุ่มเพียงอึดใจ นั่งตั้งจิตทำสมาธิ ฟังท่านสนทนาธรรมกับศิษย์จากทั่วสารทิศ กำนันก็บอกผมว่า "วันนี้หลวงปู่คงไม่ให้แล้วล่ะ สงสัยพระจะแจกหมดแล้ว น้องกลับเถอะ ไว้ค่อยมาใหม่" ผมก็ยังดื้อนั่งต่อ จนภรรยาผมมองตาปริบๆส่งซิกว่า กลับบ้านกันเถอะ.. ผมจึงลุกขึ้นนั่งคุกเข่ากราบลาท่าน 3 ครั้ง แล้วคลานผ่านหน้าท่านไป

หลวงปู่ : จะไปไหน!

ปัทมินทร์ : กลับบ้านก่อนครับ ก๋งกับแฟนผมง่วงแล้วครับ ไว้จะมาใหม่ครับ

หลวงปู่ : เดี๋ยว! อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวให้ (ผมรีบนั่งพับเพียบเลย อมยิ้มหน้าบาน)

หลวงปู่ : โทษที นึกว่าพวกจะเอาพระไปขายหากิน..

ปัทมินทร์ : ไม่ใช่ครับหลวงปู่

หลวงปู่ : ดึงถุงก๊อปแก๊ปจากเอวออกมา เป็นถุงพระหยกจำนวนหนึ่ง แล้วยื่นให้ผมกับภรรยา พร้อมกันนั้นก็สนทนากับผมและภรรยาเรื่องการบูชาพระหินหยกและพุทธคุณของพระหินหยกยาวเหยียดเลย หลังจากจบการสนทนา ผมและครอบครัวจึงกราบลากลับบ้าน

ระหว่างขับรถเดินทางกลับบ้านผมและภรรยาคุยกันในรถว่า "ดีใจจริงๆ เป็นของที่ต้องอดทนรอ ถ้ามีบุญมีกรรมร่วมกับหลวงปู่และพระหินหยกแล้ว ยังไงก็ต้องได้แน่ๆ และก็เป็นจริง พระหินหยกนี้ขอให้เป็นสมบัติประจำตระกูลเราแล้วกันนะ ต้องคล้องตลอดจนกว่าจะตาย"

ที่พยายามนั่งพิมพ์บอกเล่าประสบการณ์อยู่นี้ ผมยังหวนคิดถึงความทรงจำนี้ได้ชัดเจนเลยครับ ผมต้องการจะบอกว่า การขายพระกิน ต้องไม่ดีแน่ๆ เพราะหลวงปู่ยังไม่ชอบ ต้องมีเหตุผล อาจเป็นเจตนาของผุ้ขายไม่บริสุทธิ์ ไม่ใช่การให้ซึ่งเป็นบารมีธรรม



พระหินหยกของหลวงปู่ฟักนั้น มีหลายลักษณะ ยากที่จะสันนิษฐานได้ว่าผ่านการอธิษฐานจิตจากหลวงปู่มาแล้วหรือยัง โดยพระหินหยกเหล่านี้ หลวงปู่ได้นิมิตว่ามีพญานาคได้นำมาถวายแก่หลวงปู่ โดยกล่าวว่า เป็นสมบัติในอดีตชาติของหลวงปู่ ให้หลวงปู่เดินทางไปรับที่แม่น้ำโขง หลังจากได้มาหลวงปู่ก็ได้สั่งให้ช่างแกะสลักเป็นรูปพระพุทธรูปและพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวัดป่า หลวงปู่เคยบอกกับผู้เขียนว่า "พระนี้เป็นของดี พกติดตัวไว้ อย่าวางไว้ที่บ้านเฉยๆ เป็นของหนุนดวงชะตาชีวิตไม่ให้ตกต่ำ คุ้มครองเราให้แคล้วคลาดปลอดภัย หลวงปู่ก็เล่าว่า เณรที่วัดนั่งรถเดินทางไปต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ เณรกระเด็นออกจากตัวรถ ไม่มีบาดแผลใดๆ อีกทั้งยัง ดลบันดาลให้เกิดเมตตา เกิดโภคทรัพย์ โดยหลวงปู่ยังย้ำต่ออีกว่าต้องไม่ประกอบอาชีพที่ผิดศีล เช่น ขายสุรา เปิดร้านคาราโอเกะ ร้านยาฆ่าแมลง เป็นต้น นอกจากนี้พระหินหยกยังสามารถรักษาโรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย (หลวงปู่ได้แสดงวิธีการใช้ โดยกล่าวว่า ยามที่เราปวดหัว ก็เอาพระหินหยกมาวางไว้ตรงหน้าผากแล้วก็กำหนดจิตเป็นสมาธิใช้คาถาท่านพ่อลีภาวนาไปเรื่อยๆ อาการมันก็ดีขึ้น ลองดูๆ) หลังจากนั้นหลวงปู่ก็สอนผู้เขียนต่อว่า "เอ้า..เอาพระหินหยกวางไว้ใจกลางฝ่ามือ แล้วพนมมือตั้งนะโม 3 จบ สวดไตรสรณคมน์



ขึ้นต้นว่าพุทธังสรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ..



ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ....



ตติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ



ข้าพเจ้าขอพลังแห่งพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ ท่านพ่อลี หลวงปู่ฟัก พระหินหยก เทวดา พญานาค ที่ปกปักรักษาพระหินหยก ขอได้โปรดเมตตาช่วยดลบันดาลให้ลูก...



เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของพระหินหยกนี้ ผู้เขียนได้สัมผัสและพบเจอกับตนเอง ยากที่จะอธิบายให้ผู้อ่านเชื่อได้ โดยจะขอเล่าเรื่องราวความอัศจรรย์ใจของผู้เขียน บอกเล่าเก้าสิบสู่กันฟังบ้างเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ไม่ได้หวังโฆษณาชวนเชื่อใดๆ แต่เป็นเพราะความเลื่อมใสในพระพุทธคุณของพระหินหยกจริงๆ สำหรับผู้เขียนเมื่อได้อาราธนาพระหินหยกติดตัว ทำให้ใจเย็นขึ้นมาก เปลี่ยนจากคนอารมณ์ร้อนเป็นเย็น ชอบให้ทาน รักษาศีลและฝึกภาวนา ชอบเข้าวัด เป็นคนมีสติละอายความชั่วขึ้น ปาฏิหาริย์อื่นๆ เรื่องแคล้วคลาดในการเดินทางบนถนนหนทางเจอแล้ว เผลอหลับใน ก็พลันได้สติทำให้หักหลบป้ายเตือนการซ่อมถนน , มีครั้งนึง ผู้เขียนลืมกุญแจไขลิ้นชักเก็บเงินไว้ที่อื่น ผู้เขียนก็ขอบารมีพระหินหยกให้ช่วย โดยผู้เขียนได้นำลุกกุญแจดอกอื่นๆที่ไม่ใช่ของลิ้นชักตัวนี้มาไข ไม่ถึงนาทีก็สามารถไขนำเงินออกมาได้ เป็นต้น การรักษาโรค ก็ช่วยบรรเทาได้แต่ต้องทำสมาธิด้วย ด้านเมตตาโภคทรัพย์นี่ยิ่งเด่นมาก เพราะผู้เขียนรับราชการครู ได้เห็นผลเป็นที่ประหลาดใจอยู่หลายครั้งเช่นกัน ประสบการณ์เหล่านี้ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่าไม่เห็นจะโลดโผนโจนทะยาน ดังเช่น คงกระพันชาตรี แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนมีความเชื่อลึกๆว่า ยามที่เรามีเหตุจำเป็น หรือมีอะไรติดขัดเป็นอุปสรรคจริงๆ เมื่อเราบอกกล่าวพระหินหยก ท่านจะเมตตาช่วยสงเคราะห์เราผู้ประพฤติดีเป็นที่แน่นอน


อนึ่ง...เวลาที่เราประกอบคุณงามความดี ให้เราตั้งจิตถวายกุศลผลบุญแด่พระหินหยกด้วย เพราะเชื่อว่ามีพญานาคคอยปกปักรักษา ท่านจะได้อนุโมทนาบุญกับเรา


พระหินหยกของหลวงปู่ฟัก ถือเป็นหัวใจของท่านเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นของคู่บารมีของท่านมาช้านาน จนชาติสุดท้ายนี้ท่านก็เลยจัดการแบ่งกระจายไปให้แด่ผู้ที่สมควร และมีวาสนาเกี่ยวข้องกับท่าน จริงๆแล้วถ้าเราคิดตามเหตุผลแล้วละก็ พระหยก(แม่น้ำโขง)ของหลวงปู่ฟัก ก็จัดเป็น ปฐวีธาตุชนิดหนึ่ง เพราะได้ฟังจากท่านผู้รู้ต่างๆแล้ว หยกของท่านมีคุณสมบัติคล้ายปฐวีธาตุทุกประการ เริ่มด้วยใช้ทำน้ำพุทธมนต์ ตลอดจนมีเทพ และพวกนาคดูแลรักษาอยู่ แต่คงจัดเป็นปฐวีธาตุชั้นสูงนั่นเอง หลวงปู่พิศดูท่านก็เคยบอกเอาไว้ว่า พระหยก(หลวงปู่ฟัก) ใช้ป้องกันผี คุณไสยศาสตร์ และเสนียดจัญไรต่างๆได้ดี ถ้าไปต่างถิ่น ที่ไหนที่มีการเล่นผีเลี้ยงผี ให้ใส่พระหยกเอาไว้ จะทำให้ไม่โดนกระทำด้วยอวิชาต่างๆ (ขอขอบคุณข้อมูลจากท่านทุเรียนทอด)



หากข้อความใดขาดตกบกพร่อง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับบรรดาลุกสิษย์ลูกหาหลวงปู่ฟักนะครับ ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่าน จงยึดมั่นในพระศรีพระรัตนตรัย ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์เนืองๆ และอยู่ในศีล 5 รักษาใจให้เป็นปกตินะครับ สาธุ

 

สาธุครับ