หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ..สมเด็จเกษไชโย พระเครื่องอ่างทอง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ วัดเงินบางพรหม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย benay, 14 กรกฎาคม 2008.

  1. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514

    รับทราบครับ:cool:
     
  2. DeeDan

    DeeDan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +856
    ขอราคาครับ
     
  3. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    พระพิมพ์นั่งบัว หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน พระเครื่องยุคแรกๆของท่านครับสร้างราวปี 2460 กว่าๆ

    สวยจัดครับ



    ปิดให้พี่ j999 ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014
  4. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    นางกวักลงรักน้ำเกลี้ยง

    ประมาณปี 2460

    หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

    สร้างพร้อมพระเนื้อดินนั่งบัว พิมพ์นี้ถือได้ว่าหายากมากครับสำหรับพระเครื่องเนื้อดินของท่านที่เป็นนางกวัก เหตุเพราะทำน้อยและได้รับความนิยมมาก ในหมู่พ่อค้าแม่ค้า สมัยก่อน เมตตามหานิยมสุดๆครับ คงไม่ต้องบรรยายมากครับสำหรับ หลวงพ่อนุ่ม แห่งวัดนางใน พระคณาจารย์ยุคเก่าครูบาอาจารย์สายวิเศษชัยชาญ

    ของเก่าครับหรือเรียกว่านางกวักครูก้ไม่ผิด

    หายาก

    สวยครับ 2,500 บาท พร้อมส่ง

    ปิดให้พี่ j999 ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014
  5. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    พิมพ์เกศอุ

    ประมาณปี 2460

    หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

    สร้างพร้อมพระเนื้อดินนั่งบัว

    หายากมากที่สุดครับ พิมพ์นี้

    สวยครับ 2,500 บาท พร้อมส่ง





    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014
  6. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองตามpmครับ----------------
     
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ขอจองตามpmครับ---------------
     
  8. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    เหรียญรุ่น 2 ลงยา

    หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน


    สภาพสวยครับเดิมๆสร้างประมาณปี 2526


    เหรียญดีที่ราคายังเบามากครับ คนมองข้ามกันเช่ากันไว้บ้าง อิอิ เดี๋ยวต่อไปจะมาถามหากันครับ



    เหรียญรุ่นสองนี้เป็นอีกเหรียญหนึ่งรองจากเหรียญรุ่นแรก ที่หลวงพ่อสร้างเองจริงๆ ครับ นอกนั้นศิษย์ทำถวายแทบทั้งสิ้น ตอนนี้ราคายังไม่แรงมากนักครับ

    หาของยากแล้วครับช่วงนี้แบบลงยา

    950 บาท พร้อมส่ง

    ปิดให้พี่ comboy011<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_8889361", true); </SCRIPT> ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 788.jpg
      788.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.4 KB
      เปิดดู:
      57
    • 789.jpg
      789.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      39
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2014
  9. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    ปีพ.ศ.2553 อายุ 86 ปี พรรษาที่ 62 เจ้าอาวาสวัดรางฉนวน
    ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง


    ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ มีวิชาไสยเวทย์แก่กล้า มีวาจาสิทธิ์ บรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรมปฏิปทาน่าเลื่อมใส ถือมักน้อยสันโดด และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาเอื้ออาทรปฏิบัติต่อพุทธศาสนิกชน ที่มานมัสการอย่างเสมอกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี เป็นพระสุปฏิปัณโนรูปหนึ่งที่กราบได้อย่างสนิทใจ ด้านไสยเวทย์พุทธาคมได้รับการถ่ายทอดและสืบสายจากหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อชั้น เกสโร วัดบางละแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี ล้วนเป็นเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์และมีชื่อเสียงวัตถุมงคลได้รับความนิยมสูง

    ชาติภูมิ หลวงพ่อเกลื่อนมีนามเดิมว่า เกลื่อน ประสารทรัพย์ ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2467 (ปีกุน) เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด 2 คน คือ 1.หลวงพ่อเกลื่อน 2.นางบุญมา ของโยมพ่อกลั่น โยมแม่ง้อ ณ บ้าน รางฉนวน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง การศึกษาจบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดข่อย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อจบแล้วได้มาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม

    อุปสมบท อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดแสวงหา เมื่อปี พ.ศ.2491 โดยมีพระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า คุตธมฺโม ศึกษาพุทธาคม เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
    เมื่อได้เรียนวิชาจาก หลวงพ่อบัว แล้วได้เดินทางไปขอศึกษาไสยเวทย์จาก หลวงพ่อคำ จนฺทโชโต วัดหน่อพุทธางกูร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อคำเป็นอาจารย์เข้มขลังในไสยเวทย์ที่นับว่าเก่งมากองค์หนึ่งของสุพรรณบุรี เหรียญรุ่นแรกของท่านถูกยกย่องว่าเหนียวอยู่ยงคงกระพันที่สุดเหรียญหนึ่ง ยอดเกจิอาจารย์ต้นถึงพุทธกาลจากนั้นประมาณพรรษาที่ 14 ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระลอย ต.ลั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้ขอศึกษาพุทธาคมจากพระครูประภัตรธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) ซึ่งหลวงพ่อแต้มได้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา มีความเชี่ยวชาญด้านยันต์เกาะเพชร เหรียญรุ่น ๑ เป็นเหรียญดังของจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นกัน ประสบการณ์มากมาย ค่านิยมเหรียญละหลายพันบาท เมื่อได้เรียนจากหลวงพ่อแต้ม แล้วก็ได้ไปเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อชื้น วัดบางสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

    ธุดงค์วัตร เมื่อเล่าเรียนไสยเวทย์จากพระคณาจารย์ที่เลื่องเวทย์จบสิ้นแล้ว ก็ได้เดินธุดงค์เพื่อหาความวิเวก ได้เดินธุดงค์ผ่านเพชรบูรณ์ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา ผ่านเขาใหญ่กลับเข้าสู่จังหวัดสระบุรีแล้ว
    กลับสู่วัดรางฉนวน

    ปฏิปทาศีลวัตร ชาวบ้าน พุทธศาสนิกชนใน อ.แสวงหา และ อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี จะกล่าวว่าหลวงพ่อเกลื่อนไม่ใช่ธรรมดา ท่านบรรลุญาณทิพย์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ มีวิชาดงกระพัน เหรียญยิงไม่ออก และกำบังกายได้ (หายตัว) ผู้เขียนได้พบกับนางสมควร แซ่ตั้ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ต.ท่าข้าม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ตอนอายุยังน้อยได้ติดตามคุณพ่อไปนมัสการหลวงพ่อเกลื่อนเสมอมาปีละหลาย ๆ ครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนและคุณพ่อได้นั่งคุยกับหลวงพ่อที่ชานไม้นอกกุฏิ ได้มีผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี วิ่งขึ้นบันไดกุฏิมหาหลวงพ่อ แล้วบอกกับหลวงพ่อเกลื่อนว่า ตนมาเลี้ยงวัวอยู่ข้างวัด ได้ถูกคู่อริไล่ยิง จะมาขอกุฏิหลวงพ่อหลบภัย พอหลวงพ่อได้ยินดังนั้นก็บอกว่าให้นั่งอยู่เฉย ๆ อย่าพูดอะไร แล้วก็เอามือ 2 มือกดลงบนศีรษะ จากนั้นสัก 2 นาทีก็มีคนถือปืนวิ่งขึ้นมาหาหลวงพ่อ แล้วถามว่าหลวงพ่อคนที่วิ่งขึ้นมาบนนี้หลบอยู่ไหน หลวงพ่อตอบว่าหาเอาเอง หาเท่าไรก็มองไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่นั่งนิ่งอยู่กลางแจ้งข้างตัวหลวงพ่อ แล้วคนร้ายก็ถอยกลับไปด้วยความงงงวย เรื่องแบบนี้แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อมีวิชากำบังตัว
    อีกเรื่อง นายวน รัตการ บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ปลายนา อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี รถจักรยานหาย ได้รับคำแนะนำจากคนข้างบ้านชื่อนางกุหลาบ สิริเมือง พากันไปหาหลวงพ่อเกลื่อนดู หลวงพ่อบอกว่ารถอยู่ในสระน้ำข้างทาง เลยบ้านไปทางทิศเหนือประมาณ 7 เส้น มีสระน้ำอยู่ข้างทาง นายวน ได้กลับไปหาพร้อมกับนางกุหลาบ ปรากฏว่ามีสระน้ำจริงและได้ลงไปงมหา ได้พบจักรยานคืนกลับมา นางกุหลาบ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 6 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง พระสงฆ์พระลูกวัดเวลาจะลาสิกขา จะไปให้หลวงพ่อดูวันสึก มีอยู่รูปหนึ่งไม่เชื่อฟัง ไปให้ที่อื่นดูมา หลวงพ่อตรวจแล้วบอกว่าวันนั้นไม่ดี สึกแล้วจะอายุสั้น ก็ไม่เชื่อฟังพอสึกออกไป วันรุ่นขึ้นก็ถูกรถชนตาย

    วัตถุมงคลและประสบการณ์
    เหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ.2505 มีประสบการณ์ ปืนยิงไม่ออก เมื่อปีพ.ศ.2509 โจรเข้าปล้นบ้านนายเลียบ แซ่เล้า อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง คนร้ายได้เข้าจับตัวเอาปืนจี้ตัวนายเลียบ และนายจอด 2 พ่อลูกให้อยู่ในความสงบ แต่นายเลียบได้ตะโกนร้องเรียกชาวบ้านให้ช่วยหลายครั้ง ชาวบ้านรวมตัวส่งเสียงมาช่วยนายเลียบ ทำให้โจรโกรธมาก ได้เหนี่ยวปืนยิงนายเลียบและนายจอดหมายฆ่าให้ตาย ปรากฏว่ากระสุนด้านทั้ง 2 กระบอก นายเลียบและลูกตัดสินใจต่อสู้โจรเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีกระเจิง นายเลียบและนายจอดต่างก็ห้อยเหรียญรุ่นแรกอยู่ในคอคนละเหรียญ นายจอด แซ่เล้า กล่าวว่าเขาและคุณพ่อรอดตายได้ก็เพราะเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเกลื่อนเรื่องนี้ตำบลวังน้ำเย็นรู้กันทั่ว เหรียญรุ่นแรกหายากมากเพราะสร้างจำนวนประมาณ 1,800 เหรียญเท่านั้น พุทธคุณสูงชาวบ้านหวงแหนมาก ตามตลาดพระก็ไม่มีให้เห็น เสียงจากผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งในอำเภอแสวงหาว่าได้มีคนมาขอเช่าไปจากชาวบ้านมีอยู่เหรียญราคาตั้ง 5,000 บาท หายากจริง ๆ ผู้เขียนพยายามติดตามจะหามาถ่ายรูปประกอบเรื่องก็หาไม่ได้

    เรื่องบุญฤทธิ์และพลังแห่งจิตที่ปรากฏ
    เรื่องอบายมุข และเรื่องดื่มสุราของเมาในเขตศาสนาสถานภายในวัดท่านจะห้ามเด็ดขาดในขั้นแรกท่านจะสอนว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังท่านจะไล่ให้ออกไปจากเขตวัด หายปีที่ผ่านมาจังหวัดอ่างทองและอำเภอต่าง ๆ ในยุคนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจได้มาตั้งหน่วยปราบปรามอยู่ในพื้นที่วัดรางฉนวน ได้มีตำรวจปราบปรามท่านหนึ่งชื่อ จ่าทร แสงรุ่ง บ้านอยู่หมู่3 ต.ศรีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้มาสังกัดอยู่ที่สถานีปราบปรามภายในวัด พอตกเย็นก็ดื่มสุราจนเมามาย หลวงพ่อเกลื่อนทราบเข้าก็ไปว่ากล่าวตักเตือน แต่จ่าทร เป็นคนดื้อไม่เคยยอมใคร กลับนำเอาสุรามาเลี้ยงกันภายในวัดหนักยิ่งขึ้น มีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านและลูกเมียชาวบ้าน หลวงพ่อเกลื่อนได้ขับไล่ให้ออกไปจากวัด จ่าทรโกรธมากและกำลังเมาได้แบกปืนเล็กยาววิ่งมายังกุฏิหลวงพ่อจะยิงหลวงพ่อ หลวงพ่อกลัวว่า ถ้าจะยิงอาตมา ให้ยิงต้นสะเดาต้นนี้ก่อนพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ต้นสะเดาข้างกุฏิ จ่าทรหันปืนแล้วยิงไปที่ต้นสะเดาจริง ๆ ปรากฏว่าปากกระบอกปืนแตกเป็น 2 ซีก จ่าทรตกตลึงถึงกับเข่าอ่อน ทิ้งปืน ทรุดตัวลงคุกเข่าแล้วค่อย ๆ คลายเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องนี้ชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดทราบรายละเอียดดี

    น้ำมนตร์ศักดิ์สิทธิ์
    ท่านใดดวงชะตาตกทำมาหากินไม่ราบรื่น เคราะห์ไม่ดี มีศัตรู อาบน้ำมนต์แล้วส่วนมากจะโชคดี ศัตรูจะกลับเป็นมิตร ที่ขัดสนจะกลับมั่งมี ซื้อง่ายขายคล่อง บางรายโชคดีถูกหวยใต้ดินมาก ๆ เมื่อปี 2543 ได้มีเถ้าแก่โรงสีในจังหวัดสุพรรณบุรีท่านหนึ่งได้มาขออาบน้ำมนต์ บนให้หลวงพ่อฟังว่า ภาวะตลาดข้าวไม่ดี ทำโรงสีขาดทุน เป็นหนี้ธนาคาร 10 กว่าล้าน มาให้หลวงพ่อช่วยอาบน้ำมนต์ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไป และว่าถ้าโชคดีหลุดหนี้จะมาทำบุญช่วย หลวงพ่อสร้างศาลา หลวงพ่อได้นั่งหลับตาสักครู่ แล้วก็ทำน้ำมนต์อาบให้ พอหลวงพ่อรดน้ำมนต์เสร็จทานก็กล่าวว่า ต้นเดือนหน้าเอ็งจะมีลาภได้เงินก้อนใหญ่ อยู่ที่กล้าแค่ไหน เถ้าแก่โรงสีผู้นั้นคุยว่า กลับไปนอนคิดพิจารณาว่าภาวะอย่างนี้ข้าวก็ตุนไม่ได้ จะมีลาภจริงก็ต้องเสี่ยงซื้อสลากกินแบ่งและหวยใต้ดิน ด้วยแรงศรัทธาหลวงพ่อเกิดความมั่นใจได้ซื้อสลากทั้ง 2 อย่างได้ถูกเป็นเงินถึง 30 ล้านบาท และได้นำเงินทำบุญถวายหลวงพ่อสร้างศาลาหลังใหญ่จำนวนเงิน 3 ล้านบาท
    หลวงพ่อเกลื่อน วัดรางฉนวนพบง่าย ใจดี เชิญท่านเดินทางไปกราบนมัสการที่วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง โดยมีเส้นทางอยู่ 2 เส้นทางคือ 1.มุ่งหน้าเดินทางไปที่ตลาดอำเภอแสวงหา แล้วสองถามทาง เป็นทางลาดยางตลอด จากอำเภอแสวงหาขับรถวิ่งตรงถึงวัดรางฉนวนระยะทาง 13 ก.ม. เส้นที่ 2 เดินทางมุ่งหน้าถึงตลาดอำเภอศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ขับตรงเลยตลาดตรงไปเส้นจะไปชัยนาท 2 ก.ม. เลี้ยวขาเข้าบ้านควาย ตรงลูกเดียว เข้าไปอีก 12 ก.ม.พอดี จะถึงทางแยกถนนเลียบคลองแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนตรงเข้าไปอีก 7 ก.ม.จะถึงวัดพอดีวัดอยู่ติดกับถนน เข้าพบกราบนมัสการขอพรเป็นสิริมงคล



    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อเกลื่อน วัดรางฉนวน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 771.jpg
      771.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • 772.jpg
      772.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.7 KB
      เปิดดู:
      33
  10. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    ภาพบูชา 4 คูณ 6 นิ้ว

    หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ

    ภาพฟิมพ์ หายากมากครับ



    ท่านเป็นหมอยารักษาชาวบ้านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้เป็นอย่างดี ขนาดคนเป็นอัมพาต ท่านก็รักษาหายด้วยยาและอาคมท่าน คนถูกคุณไสยพอเข้ามาในวงสายสิญท่านถึงกับต้องอาเจียนออกมาทันที และวิชาที่ผู้คนน้อยนักที่จะทราบว่าหลวงพ่อท่าน เป็นองค์เดียวในวิเศษฯที่เรียนสำเร็จ คือวิชานิ้วเพชร ซึ่งหลวงพ่อท่านได้รับถ่ายทอดจากหลวงพ่อภักดิ์ วัดโบสถ์สุดยอดปรมาจารย์แห่งแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ ชาวบ้านวัดน้ำพุ ทราบกันดีว่านิ้วชี้หลวงพ่อนั้นศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเมื่อมีเรื่องเดือดร้อนอะไรไปหาหลวงพ่อท่านจะใช้นิ้วชี้ท่าน วนที่กระดานที่ท่านนั่ง อาการหรือโรคต่างๆเหล่านั้นที่ปากฏอาการหายไปทันที ผมเองเข้าพื้นที่ลงสืบประวัติมาหลายปีตามแต่เวลาจะอำนวย ทำใให้ทราบและรู้ดีว่าชาวบ้านนับถือหลวงพ่อจากรุ่นสู่รุ่น และเอ่ยถึงหลวงพ่อว่าเป็นหมอเทวดา มีอยู่หลายเรื่องราวที่ได้รับถ่ายทอดไว้แต่เวลาไม่อำนวยมากนักผมจึงเขียนลงเพียงคร่าวๆ เกี่ยวกับประวัติหลวงพ่อท่าน และมีหนังสือบางเล่มเคยลงไว้คร่าวๆแต่ไม่ละเอียดนัก นอกจากการรักษาโรคดุจหมอเทวดาที่ผมได้กล่าวไปแล้วหลวงพ่อท่านยังมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง คือมีอยู่ครั้งหนึ่งมีพวกหมอลาว (พวกนี้เท่าที่ผมทราบ จะชอบลองวิชากับพระคณาจารย์เก่งๆ คือเหมือนตระเวนหากินไปด้วยและลองของไปด้วย อย่างหลวงพ่อแพ วัดกลางท่านก็เคยโดนหมอลาวนี่ลองของ หลวงพ่อจัน วัดบางจักก็ถุกพวกนี้ลองของ และอาจารย์อีกหลายท่านในวิเศษยุคเก่าเท่าที่ผมสืบ พวกหมอลาวนี่ลองมาหลายท่าน แต่ทำอะไรไม่ได้แถมโดนเล่นงานกลับซะอ่วม) มาหาหลวงพ่อ พอมาถึงหลวงพ่อท่านทราบล่วงหน้าอยู่แล้ว ท่านเลยขมวดผ้า จีวรผืนใหญ่และโยนให้ไปลองยิง พวกนั้นพอได้ไปก้ไปลอง ข้างกุฏิพระ ยิงกันเสียงดัง เช๊าะแช๊ะ แต่ไม่ออก ลูกศิษย์หลวงพ่อเห็นพวกนี้ถือปืนในวัดเลยเข้าไปสอบถามตักเตือน หลวงพ่อท่าน เห็นท่านเลยพุดขึ้นว่า อย่าไปยุ่งกับมันไอ้พวกหน้าเลือดนี่ อย่าไปยุ่งกับมัน ..ลูกศิษย์หลวงพ่อจึงผละออกมา ต่างคนก็ต่างแยกย้าย แต่พอพวกหมอลาวเดินแยกย้ายออกไปนั้น เดินผ่านต้นมะพร้าวหลังกุฏิ ทันใดนั้นลูกมะพร้าวล่วงลงมะฟาดหัวแตกเลือดอาบหน้าตาแดงไปหมด เป็นดังคำที่หลวงพ่อพุดว่าไอ้พวกหน้าเลือด ทุกประการ.....วิชามหาประสาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลุงแถววัดนั่นหละครับ แกขึ้นไปสุมลอมฟาง หลายๆท่านที่อยู่บ้านนอกควรู้จักดี มีแกนไม้ไผ่ตรงกลาง และสุมสูงขึ้นไปหลายเมตร วันนั้นโชคไม่ดี แกพลัดตกลงมาแขนหัก เลยนึกถึงหลวงพ่อได้ก็มาหา และบอกว่าแขนหักครับหลวงพ่อร้องโอยๆ มาแต่ไกล หลวงพ่อท่านก้เลยถามว่ามึงไปทำอะไรมาถึงได้แขนหัก ลุงแกก้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ตกจากลอมฟาง พอลวงพ่อท่านได้ฟัง ท่านก็บอกให้ลุงแกหยิบกี่ยา มาวางแขน ที่หัก ระหว่างนั้นหลวงพ่อท่านก็ นั่งบริกรรมคาถาไป เอานิ้วชี้ท่านวนที่กระดาน และก้นั่งคุยไปด้วย พอคุยได้สักพัก หลวงพ่อท่านก้พูดขึ้นมาว่า เอาเฮ้ยคุยนานแล้วกูชักอยากดูดยา ยกกี่ยาให้กุที ลุงแกด้วยความลืมตัว ก้เลยเอาสองมือยกกี่ยาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกเอ้าเฮ้ย ไหนมึงบอกแขนหักไง และยกกี่ยาให้กูได้ไง ..ลุงแกลืมตัว และแปลกใจอย่างมาก ว่าแขนที่หักหายเป้นปลิดทิ้ง ก้มลงกราบหลวงพ่อ ด้วยความดีใจ....ปวดท้องแทนเมีย.... เรื่องนี้ หลวงตาที่วัดน้ำพุเป็นคนประสบด้วยตนเอง คือ เมื่อสมัยที่โยมแม่ท่านตั้งท้องน้องชาย โยมพ่อก้มาหาหลวงพ่อเต่า ขอน้ำมนต์ไปให้โยมแม่หลวงตาท่านดื่ม ให้คลอดง่าย เมื่อก่อนจะเดินทางทางเรือ พอมาถึงวัดก้มกราบหลวงพ่อ ท่านก้ทำน้ำมนต์ให้ เพราะเคยบอกหลวงพ่อไว้แล้วว่าจะมาขอน้ำมนต์ หลวงพ่อท่านก้เรียก โยมพ่อของหลวงตามาไกล้ๆ และเอามือจับไปที่น่องของโยมพ่อหลวงตา และท่านก้กล่าวขึ้นว่า เฮ้ย น่องมึงสวยดีนี่หว่า และเอามือตบไปที่น่อง สองสามครั้ง ....หลังจากนั้นก้ลากลับ หลวงตาท่านก้พายเรือกลับเอาน้ำมนต์ไปให้โยมแม่กินเพื่อคลอดน้องชาย ระหว่างทางโยมพ่อหลวงตาเริ่ม ปวดท้อง พอเรือจอดท่าน้ำ หลวงตาได้ขึ้นเอาน้ำมนต์ไปให้โยมแม่ท่านคนเดียวเพราะพ่อปวดท้อง หลวงตาท่านบอกว่า พอโยมแม่ท่านกินน้ำมนตืเข้าไป ระหว่างคลอดไม่มีเสียงร้องสักแอะ แถมยังคุยกับหมอตำแยขำขันยิ้มแย้ม แต่ที่ดิ้นทุรนทุรายคือพ่อหลวงตาที่อยู่ในเรื่อนั่นเอง....... เรื่องราวยังมีอีกมากครับ ไม่ได้มาโม้ให้ฟัง แต่เอาเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นมาเล่าให้ฟัง ...ว่างๆก็ไปกราบรุปปั้น บนบาน ท่านได้ที่วัดน้ำพุ วิเศษชัยชาญ เมืองแห่ง พระคณาจารยืผู้เรืองวิทยาคม ไม่แพ้ใครครับ รับประกัน...... พระครูธรรมพิริยคุณ (เต่า ธมฺมธโร) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 10 ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ ตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2441 ที่บ้านตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นบุตรของ นายเชย มณีโชติ และ นางจันทร์ มณีโชติ ในวัยเด็กได้ศึกษาขั้นต้นจากสำนักเรียนวัดนางชำ จนเมื่ออายุได้ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ปี พ.ศ.2461 อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดนางชำ โดยมีพระครูสุกิจวิชาญ เจ้าคณะอำเภอวิเศษไชยชาญ เจ้าอาวาสวัดข่อย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์จันทร์ วัดบางจักร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิเศษชัยสิทธิ์ วัดอ่างทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วมาจำพรรษาที่วัดนางชำ ทำการสอนภาษาไทยได้ 1 พรรษา ก็ขอพักเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม ศึกษาอยู่ 3 ปี จึงย้ายไปศึกษาต่อยังวัดมหาธาตุฯ กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ.2465 จนถึงปี พ.ศ.2471 ก็ย้ายมายังวัดอ่างทอง และเข้าสอบนักธรรมเอกและบาลีประโยค 3 ได้ในปีนั้น จากนั้นในปี พ.ศ.2474 เมื่อทางวัดน้ำพุว่างตำแหน่งเจ้าอาวาส ชาวบ้านได้พากันนิมนต์ให้ พระครูธรรมพิริยคุณ (เต่า ธมฺมธโร) มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ปี พ.ศ.2480 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรที่พระครูธรรมพิริยคุณ ปีรุ่งขึ้นก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอวิเศษไชยชาญ และมรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2499 เหรียญหลวงพ่อเต่า ท่านจัดสร้างด้วยกัน สามแบบ สามครั้งในปีเดียวกัน เนื่องจากไม่พอต่อความต้องการของประชาชนและลูกศิษยืหลวงพ่อ ซึ่งทั้งหมดสามครั้งหลวงพ่อเสกไว้อย่างทิ้งทวน จำนวน ทั้งหมด 1500 เหรียญซึ่งทำครั้งละ 500 เหรียญ ครั้งแรก ออกให้ทำบุญที่วัดวันอุทิศให้ทำบุญเหรียญละ 20 บาทซึ่งสมัยนั้น แพงงงเอาเรื่อง เอาเป็นว่าให้ทราบคร่าวๆครับ เพราะไม่แยกเรื่องราคา พิมพ์ใหญ่ขอให้แท้ ราคาเท่ากัน พิมพืเล็กซึ่งสร้างครั้งสุดท้าย ราคาห่างกันนิดหน่อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 792.jpg
      792.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • 798.jpg
      798.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.3 KB
      เปิดดู:
      34
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2014
  11. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    ...............ถ้าชอบศึกษา และ ชอบสะสม คลิ๊กที่ร้านครับผม...........องค์ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ท่านเป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าอีกท่านหนึ่ง ที่ผม และคนในตำบลให้ความศรัทธาและเคารพท่านมาก ท่านเป็นพระที่มีวาจาศักสิทธ์ยิ่งนัก ทั้งอาคมท่านเด็ดขาดและประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของคนในท้องที่ และคนวิเศษฯ จนเป็นที่เล่นหากันโดยทั่วไป กล่าวถึงหลวงพ่อแพวัดกลางราชครูธารามตามประวัติที่ผมได้สอบถามมาท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.2436 ไม่ทราบว่าท่านบวชกับใคร รู้แต่ว่าท่านเพื่อนท่านอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อเปลื่อง ไปเรียนวิชาด้านเสือ แต่ไม่ทราบอาจารย์ เหตุที่ไม่ทราบอาจารย์เพราะไม่มีใครกล้าไปซักท่าน เพราะท่านเป็นพระพูดน้อย และมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก ความเคร่งของท่านนั้น ขนาดท่านอยู่บนวัดท่านยังห่มจีวรมิได้ขาด ถึงแม้จะเดินมาคุยกับพระลูกวัดท่านก็จะห่มจีวรโดยตลอดจึงทำให้คนเกรงท่านไปเองหลวงพ่อ ท่านเป็นพระคณาจารย์ที่ติดอันดับความเคร่งครัดองค์ต้นๆของจังหวัดอ่างทองในสมัยนั้นด้วยเหตุนี้เองประวัติท่านจึงไม่ค่อยมีคนทราบมากมายนักแต่คนส่วนใหญ่จะมารู้เรื่องขอวัตถุมงคลของท่านมากกว่าเพราะมีประสบการณ์มากและนิยมในท้องที่ จะหวงกันมากครับ เรื่องประสบการณ์จะเล่าต่อไป หลวงพ่อแพท่านมีชื่อเสียงมากพอสมควรในสมัยนั้น คนสามหน่อนาคู คนทางบ้านไผ่วง และผู้คนต่างๆที่ก็ให้ความเคารพท่านอย่างมาก ท่านสร้างทั้งมงคลสวมคอ ตระกรุดหังวัวตายท้องกลม (ต้องนำวัวที่ตายทั้งแม่ลูกโดยธรรมชาติและผ่าเอาลูกวัวออกและเอาหนังมาทำ) และตระกรุดหนังหน้าผากเสือ (ตอนนั้นหน้าผากหายากท่านจึงอนุโลมให้ใช้หนังเสือทั้งหัวเสือเลยมีน้อยครับหนังเสือจะเป็นดอกสั้นๆประมาณนิ้วครึ่ง) ว่านร้อยแปดปั้นเป็นเม็ดเท่ายาลูกกลอน ผ้าขอดมหาอุตม์ รูปถ่าย ทั้งขนาดห้อยคอและภาพบูชา ทุกอย่างล้วนมีประสบการณ์เด่นชัดมากด้านมหาอุตม์คงกระพัน จากที่กล่าวมาแล้วว่าท่านไปเรียนวิชาเสือโดยท่านไปเรียน สองคนกับหลวงพ่อเปลื่อง เรียนคู่กันไว้แก้ทางกันเวลาคับขัน ท่านทั้งสองนี้ทำวิชานี้ได้ขลังยิ่งนักจนเป็นที่กล่าวขานกันว่า ท่านสำเร็จวิชานี้และสามารถแปลงเป้นเสือได้ โดยให้หลวงพ่อเปลื่องทำน้ำมนต์แก้ แต่ว่าตอนที่ท่านมรณะภาพทางกรรมการวัดนำโดย หลวงพ่อหรุ่ม วัดบางจักร หลวงพ่อเล็กวัดทำนบ และกรรมการวัดหลายท่าน ได้ตรวจสอบกุฏิท่าน พบพระเครื่องมากมายอยู่ในไห และพบว่าในย่ามท่านนั้น มีพระเครื่องของพระคณาจารย์ ที่เป้นสหธรรมมิกกับท่านและอาจเกี่ยวเนื่องกับวิชาท่านด้วยที่พบในย่ามท่านมี เหรียญหลวงพ่อเข็มวัดข่อย ปี 2477 เหรียญหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ปี 2466 เหรียญหลวงพ่อจันทร์ วัดบางจักร ปี 2483 เหรียญหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ท่านกลัดติดย่ามท่านไว้ รวมกับพระเครื่องของท่านเองอีกจำนวนหนึ่ง พระสมเด็จเนื้อว่านร้อยแปดแก่ว่านเรียกว่าว่านลองพิมพ์ หลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธาราม อ.วิเศษชัยชาญ พระเถราจารย์ผู้มีวาจาสิทธิ์ เจ้าของตระกรุดหนังหน้าเสือและ หนังวัวตายท้องกลม หนึ่งเดียวในวิเศษชัยชาญครับ เนื้อเข้มจะแก่ว่าน เนื้อนวลๆจะแก่กล้วยหอม หลวงพ่อท่านมรณะภาพไป 40 กว่าปีแล้ว สมเด็จนี้คนท้องที่หวงกันมากครับ เจอกันมาทุกรูปแบบ แต่เหนียวนั้นเป็นหลักเชื่อขนมกินได้แน่นอน ผมเองได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะวัดหลวงพ่อกับบ้านผมนั้นห่างกันไม่กี่สิบก้าวและทั้งบ้านผมและคนหัวตะพานก้นับถือกับแบบสุดๆ ว่านที่ทำพระนี้หลวงพ่อท่านปลูกเองและเสกน้ำมนต์รดทุกวัน ท่านจะมีวันตัดของท่านและท่านจะเป็นคนกำหนดเอง นอกจากสมเด็จแล้วท่านยังมีเม็ดว่านเสก เนื้อเดียวกับสมเด็จท่านนี่หละครับ คนสมัยนั้นเขาเอาไปให้ไก่กินและออกตีให้คู่ต่อสู้เดือยยาวขนาดใหนไม่ได้กินเลือดแน่นนอน เจอกันมามากแล้ว แต่อีกเรื่องหนึ่งที่น่าแปลก คุณปู่สำรวย กลับทวี ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่ ก็มีนักเกรงเยอะและลูกศิษท่านที่เจ๋งๆก็เยอะ ศิษย์หลวงพ่อแพได้ไปเที่ยวงานรำวงที่บ้านม่วงเตี้ย เลยวัดหลวงพ่อทรงไปหน่อย เกิดมีปากเสียงกันขึ้นในงานแถวนั้น ลุกศิษย์หลวงพ่อชื่อ ตาธรรม เกิดเดินขึ้นไปประกาศไมค์บนคณะรำวง คงจะไปกวนเจ้าถิ่นเขาเข้าฝ่ายเจ้าที่ก้เดินดุ่มๆมาไกล้ๆแบบไม่ทันตั้งตัว ได้ชักมีดหมอด้ามงา.... ออกมาจ้วงแทงประมาณสามครั้ง ตาธรรมตกใจ แต่แปลกที่มีดหมอไม่สามารถแทงทะลุหนังของตาธรรม ได้ทั้งๆที่มีดหมอ..ใครว่าเหนียวๆถ้าได้เจอเข้าไปล่ะก็เลือดสาดทุกรายไป แต่กับศิษหลวงพ่อแพไม่เข้าครับแต่นอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวัน ผมถามปู่สำรวยท่านว่าทำไมไม่เข้าท่านบอกว่า ,อาคมท่านค้ำกันได้, อันนี้ผมเล่าให้ฟังจากคำบอกเล่าของปู่สำรวยที่อยู่ในเหตุการวันนั้น เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2490โปรดใช้วิจารณญาณก็แล้วกันครับ ยังมีลุงอีกท่านหนึ่งชื่อลุงอ๊อด ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง กลิ้งไปกลิ้งมาหน้าวัดแปดแก้ว แต่ผิวหนังไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งโดนขวดแป๊ปซี่ลิตรขวดแก้วตีไม่แตก ...........เล่าแล้วจะยาวเอาคร่าวๆแค่นี้ก่อนครับ คนบ้านผมรักเคารพหลวงพ่อท่านมากๆ ถ้านึกไม่ออกว่ารักเคารพท่านมากขนาดไหน ให้พี่ๆลงนึกถึงครูบาอาจารย์ที่พี่ๆเองเคารพมากที่สุด.....นั่นหละครับความรู้สึกเดียวกัน


    เลี่ยมเก่า สวยมากๆเดิมๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7550.JPG
      IMG_7550.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.6 KB
      เปิดดู:
      38
    • IMG_7551.JPG
      IMG_7551.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.7 KB
      เปิดดู:
      29
    • IMG_2848.JPG
      IMG_2848.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      23
    • 783.jpg
      783.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.3 KB
      เปิดดู:
      53
    • 784.jpg
      784.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.8 KB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2014
  12. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    เบี้ยจั่น มาตรฐาน หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

    หาชมยาก บรมครูเบี้ยเมืองอ่างทองอีกรูปหนึ่งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 780.jpg
      780.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      31
    • 782.jpg
      782.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58 KB
      เปิดดู:
      25
    • 146.jpg
      146.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.8 KB
      เปิดดู:
      49
  13. may06

    may06 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,039
    ค่าพลัง:
    +2,904
    เสี่ยเบน ผมได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  14. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514
    ขอบคุณครับ:cool:
     
  15. Noi_Giant

    Noi_Giant เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +258
    รบกวนสอบถามหน่อยครับว่า พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่านของหลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูสร้างประมาณปีไหนและมูลค่าประมาณเท่าไหร่...ขอบคุณครับ
     
  16. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514

    สร้างขึ้นพร้อมๆกันครับ แต่จำนวนนั้นน้อยมาก ราคาหลักหลายพันครับ
     
  17. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,971
    ค่าพลัง:
    +5,386
    ได้โอนเงิน เมี่อ ๒๕ มีค. เวลาประมาณ๐๘.๓๗ น. เป็นค่าพระ ๒รายการที่อยู่ดูในpmครับ
     
  18. comboy011

    comboy011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    556
    ค่าพลัง:
    +2,094
    เหรียญรุ่น 2 ลงยา

    หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

    ขอจองนะครับ
     
  19. Noi_Giant

    Noi_Giant เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +258
    ขอบคุณมากๆเลยครับที่กรุณาให้ข้อมูล บังเอิญผมค้นเจอพิมพ์นี้อยู่ที่บ้าน และเก็บความสงสัยไว้ 20 กว่าปี :cool:
     
  20. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,221
    ค่าพลัง:
    +15,514


    รายการรวมเพียบครับ ลองเข้าชมดูครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...