ผมใส่พระแล้วทำไม่ดี ช่วยแนะนำทีครับ

อ่านแล้วขำดีครับ

 

คนที่รู้ตัวว่าทำผิดแล้วกลับตัวกลับใจ สังคมยังให้อภัยเสมอครับ
แต่คนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แถมยังไปว่าคนอื่น นี่แย่มากๆ สังคมรังเกียจครับ

คำศัพท์ที่คุณเจ้าของกระทู้ใช้ ผมว่าเป็นคำศัพท์เฉพาะที่รู้กันภายใน ถ้าคนที่บริสุทธิ์ ใสซื่อจริงๆ ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันแปลว่าอะไร นอกจากทำตัวแอ๊บแบ๊ว แต่ภายในหมกมุ่น อัดแน่น ไปด้วย ไฟกิเลส ตัณหา ราคะ อันร้อนแรง แถมจินตนาการสูงอีกด้วย พูดนิดเดียวแต่เอาไปจินตนาการได้เป็นคลิปเลย แถมไม่เซ็นเซอร์ซะด้วย อิอิอิ

อ่อ เกีอบลืมตอบท่านเจ้าของกระทู้

คำถาม
1. พระเสื่อมหรือไม่ (ผมแช่น้ำส้มปล่อยและอฐิษฐานขอขมาแล้ว)
ตอบ ไม่เสื่อม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อัปมาโณ เป็นพลังไร้ประมาณ

2. จะมีบาปกรรมอะไรติดตัวบ้าง
ตอบ ไม่บาป เพราะไม่มีเจตนาลบหลู่ ดังที่ว่า เจตนาเป็นตัวกรรม
หลวงพ่อปานท่านสอนว่า แม้เวลาอึ เวลาฉี่ ก็ต้องนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาไว้เพราะ เราไม่รู้ว่าเราจะตายเมื่อไร ในกรณีของคุณ ถือว่าเป็นอนุสติ ระลึกถึงพระ ดังนั้นจึงไม่บาป ครับ

3. ผมจะต้องขอขมาหรือปฏิบัติอะไรเพิ่มเติมหรือไม่
ตอบ ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ขอขมาพระรัตนตรัย ครับ

 

แต่ก็นับถือคุณDuchessFidgette อยู่อย่างหนึ่ง คือตรงไปตรงมาตามประสาคนไกล

ไม่ต่างจากเจ้าของกระทู้ ที่บอกตรงๆในสิ่งที่กระทำ แล้วเปิดโอกาสให้ด่าได้เต็มที่ ตามเนื้อหากระทู้หน้าแรก

DuchessFidgette นี่ก็ไม่ยั้งเลยเหมือนกัน เต็มสตรีม

เย็นนนนน...ใจเย็นๆ

 

ดิฉันไปทำผิดอะไรไม่ทราบคะ

 

ออรัล oral แปลว่าปาก เป็นภาษาอังกฤษ เช่นสอบพูด
เช่นสำพาทย์ ภาษาอังกฤษก็คือ oral test ใครรู้ภาษาอังกฤษ
โดยเฉพาะรู้มาก

กว่าหนึ่งภาษา ก็แปลออกว่ามันหมายความว่าอะไร การที่จขกท
นำมาพูดในเวปธรรมะ ถือสมควรหรือไม่?

แต่ ส่วนตัว เราบำเพ็ญ พระอริยะ และตัดสังโยชน์ เบื้องต่ำได้หลาย
ข้อแล้ว อาจจะมีข้อที่ไม่ถูกต้องเช่น สีลพตปรามาส
ที่ทำให้เรายังรู้สึกรังเกียจการกระทำของมนุษย์แบบโลกๆ และรับไม่ได้
เราถูกเลี้ยงดูมาจากผู้ปกครองที่ต่างจากพวกคุณเป็นอย่างยิ่ง
ทำให้เรารับเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ เราอาจจะมองโลกต่างจากพวกคุณ
เราคิดอยู่เหมือนกันว่ายากจะไปบวชที่หมู่บ้าน พลัมม์ ประเทศฝรั่เศส

 

เอ...แบบนี้เค้าเรียกว่า กินข้าวโอ๊ตร้อนท้องรึป่าวเนี่ย อิอิ

แหม่ ๆ ตัดสังโยชน์ได้หลายข้อแล้ว แบบนี้ ผมชักอยากจะขอรูปคุณดัซเชสซักใบ จะเอามาแปะที่หลังซะหน่อย นั่งนานๆแล้วมันปวดเมื่อย เผื่อจะหายปวด แบบหมอปลาไง อิอิอิ

อ่อ อยู่ต่างประเทศเหรอเนี่ย นึกว่าอยู่แถวสลัมคลองเตย เห็นปากจัดแบบเนี้ย 555

 

ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเรามีเวรมีกรรมต่อกันมาแต่ชาติไหน
แต่รู้เพียงว่าในบอร์ดนี้เราทั้งสองคนก็ต่างทะเลาะและมีเรื่องกัน
มาโดยตลอด...... แต่ ข้าพเจ้าจะยอมเป็นฝ่ายขอโทษ
หากว่าข้าพเจ้าไปกล่าวปรามาสอันใดต่อ คุณ นรกภูมิ
สายบารมี วิริยธิกะล่อนเป็นพิเศษ ข้าพเจ้าขอกราบขอโทษ นับต่อแต่นี้
อย่าได้ต้องมาเจรจากันอีกเลย อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
ขออโหสิกรรม

 

อ่านดีๆ ซ้ำลงไปหลายๆรอบ แปลเจตนาผิดไปหรือไม่ ?

อย่าเป็นเหมือนอย่างที่DuchessFidgette เข้าใจ คนอื่นผิดไป

ผมว่าคุณ GhostHead,
มีลักษณะอย่างภาพไอคอนEmotion มากกว่านะ ที่แสดงต่อคุณ



แต่คุณกลับมีความรู้สึกประมาณว่า ไม่ไหวแล้วโว้ยยย....แทงหมอน..!!



ลองปรับความเข้าใจให้ดีๆ จะได้ไม่แปลเจตนาผิดไป

พิมพ์อักษรขอโทษอโหสิ แต่ใจแทงหมอน หรือไม่ แล้วจะสิ้นกรรมกันได้อย่างไร

 

คุณดัซเชส ถ้าคุณอยากรู้ว่าเรามีกรรมอะไร และเกี่ยวข้องกันยังไงก็ไปฝึกมโนมยิทธิแล้วย้อนอดีตไปดูเองเถอะ

มีคนมาลาผมหลายคนแล้ว แต่ผมรับเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นเพราะเธอมีคติที่แน่นอนแล้ว ส่วนคุณดัซเชสผมยังไม่รับ ถ้าผมรับคุณจะเคว้งคว้างไร้ที่ยึดเกาะ คติของคุณยังไม่พ้นอบายภูมิ ผมคงต้องหอบหิ้วคุณดัซเชสไปกะผมจนกว่าผมจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณโน่นล่ะ

ถ้าคุณดัซเชสอยากหนีผมไม่อยากเจอผมอีก มีที่เดียวเท่านั้นที่ตอนนี้ผมตามไปไม่ได้ก็คือที่เมืองพระนิพพาน

ถ้าคุณดัซเชสไปนิพพานได้ในชาตินี้ผมก็คงต้อง สาธุ ขอโมทนาด้วย ครับ

 

คุณเอาอะไรมาวัดว่าดิฉันจะไม่พ้นอบายภูมิ
คุณคิดว่าดิฉันจะตกนรก อย่างนั้นหรือ..... ดิฉันถือศีล เจ็ด ข้อ คะ
ข้อ แปดที่ไม่ถือ คือ นอนหมอนสูง เพราะ อยู่ยุโรป
นอนที่พื้นไม่ได้เพราะอากาศหนาวมาก

ทั้งนี้ทั้งนั้น จะเห็นแก่ที่คุณเป็นเพื่อนของคุณกระต่าย thank-epi เพราะ
คุณกระต่ายก็เป็นเพื่อนของดิฉันเหมือนกัน และคุณกระต่ายได้ขอไว้
ว่าไม่อยากมีปากเสียงกับเพื่อนเรื่องการเมือง


เท่านี้ละที่จะพูด

 

ที่เห็นด้วยเห็นด้วยกับข้อความนี้ "ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งหนาวยิ่งสั่น ยิ่งหนาวสั่นยิ่งหาความอบอุ่น ยิ่งอยากอบอุ่นยิ่งห่าง ยิ่งห่างยิ่งประมาท ยิ่งประมาทยิ่งหลง ยิ่งหลงยิ่งยึด ยิ่งยึดยิ่งติด ยิ่งติดยิ่งยาก ยิ่งยากท้อ ยิ่งท้อยิ่งต้องพยายาม ยิ่งพยายามยิ่งยืด ยิ่งยืดยิ่งสูง " อ่านแล้วได้ธรรมะค่ะ ลองตรองดูด้วยใจเป็นกลาง ไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนพฤติกรรมใครนะคะ ธรรมะก็ส่วนธรรมะค่ะ อย่าเป็นทุกข์ร้อนกับเรื่องของคนอื่นเลยค่ะ มีเมตตาแนะนำได้ก็แนะนำไป สนใจตัวเราให้มากดีกว่า เรื่องของตัวเราก็มากมายพอแล้ว

 

จิง ๆ แล้วก็ไม่เป็นอันควร นะครับ แต่ก็คงต้องอาราธนา ขอขมา ท่าน ครับ
เวลาผมไม่ใส่พระ ก็รู้สึกขาดหายอะไรไปบางอย่าง

 

ก็พอๆ กับคนที่กินมังสวิรัติ .. แล้วไปกล่าวโทษคนกินเนื้อนั้นแหละ
ประมาณเดียวกัน

ความคิดแบบนี้เป็นการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง .. ไม่ใช่ธรรม
หากเป็นธรรมต้องพิจารณาข้อเท็จจริงถูกผิดของสิ่งนั้นๆ
โดย ไม่ได้ใช้ตัวเองเป็นที่ตั้งไปเทียบ
และการพิจารณาถูกผิดยังต้องชี้ความเสียหายและผลลัพธ์ผลกรรม
ของความเสียหายนั้นได้ด้วย

ความดีมีระดับตั้งแต่ เบื้องต้น เบื้องกลาง เบื้องสูง
จะมาว่าความดีเบื้องต้น ไม่ดี แบบนี้ใช่ไม่ได้
ยังไม่ถูกและไม่เป็นธรรม

แม้ตอนนี้คนต่างๆ จะมีระดับความดีจะไม่เท่ากัน
แต่เนื่องจาก คนเราระลึกอดีตชาติแต่หนหลังไม่ได้
ที่แน่ๆ ก็คือ ทุกคนต้องก้าวจากจุดเริ่มต้นมาก่อนทั้งนั้น
ก่อนที่จะไปขั้นที่สูงได้

 

ศีลข้อ 4 มุสาวาท ไม่พูดปด ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อ
..............แต่คุณด่าผมซะเต็มที่เลยนะครับ :d

 

เรื่องของเรื่อง ก็คือคุณDuchessFidgette คนไกล ไม่พอใจม๊อบเป่านกหวีดในไทย นั่นล่ะ

ทีนี้พอมาเจอ เจ้าของกระทู้โพสแนว 18+ ดังกล่าว

Heat Stroke ก็เลยขึ้น ทั้งๆ ที่อากาศก็เย็น เอ้...หรือว่าไม่ใช่น๊าา

ล้อเล่นนะ

 

กามราคะ ถ้าผู้ที่ละได้จริง ตัวปฏิฆะจะต้องหมดไปด้วย

แต่ลักษณะที่ยังเป็นไฟสุมขอน พอเจอลมพัดกระทบหรือมีผัสสะเข้าหน่อย

ไฟสุมขอนอยู่น่ะ มันจะลุกโชติช่วง เป็นกองเพลิงเลย

นั่นแสดงว่าละ กามราคะยังไม่ได้จริง เพราะยังละปฏิฆะไม่ได้

กามราคะ กับ ปฏิฆะ เนี่ยะเป็นสภาวะกิเลสที่คู่กัน หากสติสัมปชัญญะเท่าทัน เห็นความเกิดขึ้นในสภาวะนั้นๆ

มีหรือ ความไม่พอใจ ในผัสสะจะเกิดขึ้นโดยสืบเนื่อง

ซึ่งก็เห็นได้ว่า สีลพตปรามาส ดัสเชสยังไม่รู้จักเลย

ซึ่งก็เป็นเพียงแค่ วิขัมภนวิมุติ ข่มกิเลสไว้ด้วยกำลังของสมาธิ

หรือที่เรียกว่าสภาวะ หินทับหญ้า ไฟสุมขอนก็ใช่ แต่พอมีเชื้อเข้ามา ก็โผล่ขึ้นมาอีก

เมื่อยังไม่รู้จัก สีลพตปรามาส นั่นแสดงว่า สักกายะ ในกองขันธ์ ยังไม่ประจักษ์แจ้งโดยไตรลักษณ์

จะมากล่าวว่า เป็นผู้ "ตัดสังโยชน์ เบื้องต่ำได้หลายข้อแล้ว" ได้อย่างไรกัน

ต้องฝึกสติ ให้รู้ทันในอายตนะผัสสะ ในทุกขณะ
คือ ต้อง รู้สึกเห็นความพอใจ ไม่พอใจ ที่มันเกิดขึ้น อยู่เนืองๆ ให้ได้เสียก่อน

แล้วจะเข้าถึงการดับ ในขณะนั้นๆ นั่นแหละเบื้องต้นหนทาง การละสักกายะทิฏฐิ

 

จริงๆ ผมเคยผ่านมาแล้ว ความคิดค่อนไปทางสุดโต่ง และถือดี
แต่ไม่ใช่เรื่องมังสวิรัติ แต่เป็นเรื่องความเชื่อส่วนตัว ก็คล้าย ดัชเชส ..
ผมเป็นเมื่อสมัยมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย

จนกระทั้งถึงวันที่ต้องเริ่มพึ่งตนเอง ต้องออกไปหางาน จริงๆ ก็ดูไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
เราก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง จนกระทั้ง อยากจะก้าวหน้า มีหน้าที่การงานขึ้น
มันก็ต้องไปคุยกับคนให้รู้เรื่อง ทำให้คนเชื่อ มีคนรัก เข้ากับคนได้ สอนคนได้

คราวนี้หละ โคตรเลย .. ไอ้นิสัยไม่ดีที่ทำมาเป็นสิบปี ซวยเลย ไม่ได้เปลี่ยนได้วันสองวันนะ
อันดับแรกเลย ที่เคยเชื่อว่าแบบนี้ๆ ดี มันไม่ใช่ มันผิดหมด.. ตะลึงตัวเองมาก
ที่ผ่านมาได้ทุกวันนี้ก็โชคดีมาก ได้บารมีครูบาอาจารย์คุ้มหัวอยู่ ก็ค่อยๆ ลดมานะ
ละนิสัยไม่ได้ไปทีละข้อ .. เอวังประมาณนี้หละครับ

 

ท่านจขกท....คราวหน้าหลีกเลี่ยงการใส่ข้อความทำนองนี้อีกนะครับ....

บางที กระทู้จะไม่ร้อนแรงเช่นนี้....:z6