เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย แก้วสว่าง, 15 ธันวาคม 2012.

  1. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    โลกนี้คือ เครื่องลอง ของมารร้าย
    ไว้สอบไล่ ว่าใคร ยังหลงใหล
    ว่าใครบ้า ใครเขลา เฝ้าจมใน
    หล่มโลกใหญ่ ติดตัง ทั้งชั่วดี!
    โลกนี้ ที่แท้คือ โรงละคร
    ไม่ต้องสอน แสดงถูก ทุกวิถี
    ออกโรงกัน จริงจัง ทั้งตาปี
    ตามท่วงที อวิชชา ลากพาไป!


    [​IMG]
     
  2. peach123

    peach123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +3,319

    “กมฺมุนา วตฺตตีโลโก....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
    พระพุทธศาสนสุภาษิตบทนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า เวรกรรมมีจริง
    ทำกรรมอะไรไว้ก็ได้รับผลอย่างนั้น
    กรรมได้ส่งผลเบื้องต้นแก่ผู้ทำแล้วในปัจจุบัน
    พระพุทธเจ้าท่านไม่เสื่อม คนที่ทำกรรมไม่ดีไว้จะเสื่อมเอง
    องค์พระประธาน ผลแห่งการร่วมแรงร่วมใจกัน ทำกรรมดีจนสำเร็จ
    ประดิษฐานไว้ที่วัด ยังคงตั้งเด่นเป็นสง่า ให้คนทั่วไปได้กราบไหว้บูชา
    สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปอีกร้อยปีพันปี
    นึกถึงครั้งใดก็อิ่มเอิบใจ บุญได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันเช่นกัน
     
  3. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3147.JPG
      IMG_3147.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.3 MB
      เปิดดู:
      622
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2014
  4. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    [​IMG]

    พระพุทธห้าเหลี่ยมหรือพระขุนแผนที่ถือกดทำกันในครั้งแรก โดยแม่พิมพ์นั้นจะมีแต่เพียงด้านหน้าด้านเดียวเท่านั้นยังไม่มีแม่พิมพ์ตัวหลัง เนื้อหานั้นยังไม่ใช้กาวมาเป็นตัวประสานและไม่มีแลคเกอร์มาทา จึงทำให้เกิดการแข็งตัวของน้ำข้าวที่เป็นตัวประกอบ ย่อมทำให้เกิดความร่วนของผงที่เป็นฝุ่นแป้งติดมือเป็นธรรมดาด้วยระยะกาลเวลาที่เนิ่นนาน พระยุคนี้ทางวัดกดสร้างมาไม่ได้ออกจำหน่ายบูชา เพราะไม่มีความสวยงาม จึงน้อยคนนักที่จะทราบเรื่องราวอันแท้จริงได้ จะทราบกันในหมู่ลูกศิษย์ยุคแรกกันเท่านั้นซึ่งก็ยังมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน พระชุดนี้นายสายเล่าว่าใส่ผงที่หลวงปู่ท่านมอบไว้ให้มาก และหลวงปู่ท่านเสกในห้องของท่านนานพอควร พระขุนแผนของหลวงปู่ทิมนั้นยังเป็นตำนานที่ต้องเล่าขานกันอีกมากมาย
     
  5. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    เยี่ยมครับ:cool:
     
  6. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
    ช่วงอากาศหนาวมากขึ้นระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ
     
  7. foren

    foren เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +302


    เป็นเรื่องของแต่ละคนครับ กรรมใครกรรมมันครับ
    พวกเรารับบุญมาตั้งแต่ตั้งใจร่วมงานแล้วครับ
    ขอบคุณที่คุณเชนำความจริงมาเปิดเผยครับ
    คุณเชทำถูกต้องแล้วครับ
    ความรู้สึกที่ไม่ดีคงมีบ้าง
    แต่ไม่ใช่ความรู้สึกไม่ดีต่อคุณเชครับ
     
  8. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    เรื่องวัดคลองบง ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง ด้วยบุญบารมีของ
    หลวงพ่อพระประธานที่เราได้สร้างไว้ ท่านก็ได้ขับไล่สิ่ง
    ไม่ดีให้พ้นจากวัดไป เหลือแต่สิ่งที่ดีงามไว้

    พระประธานกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านคลองบง
    ได้รับการอนุโมทนาจากสาธุชนทั้งหลาย รวมทั้งชาวบ้าน
    โดยผมเองได้พอมีโอกาสเข้าไปพูดคุยบ้าง ซึ่งถือได้ว่า
    งานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี.....

    ขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน และสมาชิกทุกคน ที่ร่วมใจ
    ก่อให้เกิดงานนี้ขึ้นมาได้ ยังไงสิ่งที่เราได้กระทำร่วมกัน
    ก็ยังคงไว้ซึ่งการสืบต่อพระศาสนา เป็นศุนย์รวมใจสาธุชน
    ชาวพุทธทั้งบ้านคลองบง และตัวของเราเอง...
     
  9. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
    สุขสันต์วันคริสมาสต์นะครับ
     
  10. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    หลวงปู่มั่น ท่าน สอนว่า ไม่ควร " ยกโทษ ผู้อื่น " หรือ "เพ่งโทษผู้อื่น"
    ถึงแม้นผู้นั้น จะไม่ดีก็ตามที เพราะการเพ่งโทษผู้อื่น จะนำความวิบัติสู่ตนโดยไม่รู้ตัว
    ความเผลอสติ มักพาให้ผู้คนนั้น
    "ยกโทษผู้อื่น และพยายามยกคุณตนเอง" แทนที่จะ
    "ยกคุณผู้อื่น ยกโทษตนพิจารณา"

    ... หลวงปู่ยังกล่าวอีกว่า " อวดเขี้ยวคือหมา อวดงาคือช้าง "


    [​IMG]
     
  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***ยังศรัทธา หลวงปู่ ทิม อยู่ เสมอครับ ทุกๆท่าน รวย รวย รวย***
     
  12. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,519
    ค่าพลัง:
    +9,408
    ขอให้สมพรปากครับท่าน..
     
  13. kengeg

    kengeg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1,735
    ค่าพลัง:
    +7,227
    กราบหลวงปู่ทิม , ลุงสาย แก้วสว่าง

    สวัสดียามเช้าอ.แก้วสว่างและทุกๆท่านครับ
     
  14. ส่างปา

    ส่างปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,531
    ค่าพลัง:
    +11,165
    กราบหลวงปู่และ สวัสดีทุก ๆ ท่านครับ

    ... ถ้าผมเปนชาวบ้านคลองบง คงรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจมากทีเดียว ที่มีพระประธานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประจำหมู่บ้าน และด้วยความศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ เชื่อว่าทุกคนในหมู่บ้านจะเ้ข้าวัดมากขึ้น ...

    อนุโมทนากับทุก ๆ ท่านที่เกี่ยวข้องด้วยครับ
     
  15. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่มีความแน่วแน่และมั่นคงในการศึกษาร่ำเรียนวิชาต่างๆเพื่อให้เกิดผลสมดุลกันไปตามแบบวิสัยที่มีอยู่ และการบำเพ็ญเพียรวิปัสสนากรรมฐานเพื่อให้จิตนั้นมีความหมดสิ้นจากกิเลสทั้งปวงซึ่งอาจจะกล่าวกันง่ายๆว่าการบำเพ็ญตบะที่ต้องการเผาผลาญกิเลสทุกสิ่งอย่างที่เข้ามาครอบงำจิตใจให้หมดกันไปโดยดำรงไว้เพื่อแนวหลักวิถีธรรมที่ถูกต้องโดยละสิ้นจากความโลภ โกรธ หลง ปลงจิตใจทุกสิ่งอย่างตามแบบอย่างสัจธรรมของชีวิตที่ต้องหมุนเวียนกันไป

    สมัยก่อนคงย้อนเวลากันไปนานหลายสิบปี ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ท่านในรุ่นเก่าที่ได้เล่ากันจากรุ่นสู่รุ่น เขาจะเล่ากันว่า เวลาหลวงปู่ท่านนั่งสมาธิครั้งใดท่านจะใช้เวลานั่งนานมาก ท่านเคยนั่งตั้งแต่หัวค่ำยันจบเช้าก็บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ท่านจะนั่งหลังจากเสร็จสิ้นจากภาระกิจของสงฆ์หรืออาจจะเป็นในช่วงที่หลังจากการสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จ ซึ่งถ้าความคิดเห็นเราเป็นไปได้แสดงว่าหลวงปู่ท่านคงเข้าฌานสมาบัติหรือเพื่อเป็นการดำรงจิตในอารมณ์ของฌานตามหลักสมาบัติหรือเพื่อฝึกกำลังฌานของท่านให้มีความชำนาญแก่กล้าอยู่เสมอ

    มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านได้เรียกลูกศิษย์ใกล้ชิดเข้าไปแล้วได้เอ่ยเล่าถึงเรื่องสรรค์และนรกนั้นเป็นเรื่องราวและบทตอนที่มีจริง ท่านกล่าวว่า"กรรมนั้นเป็นของตน กรรมก็เป็นไปในเรื่องของกรรม บุญก็เป็นไปในเรื่องของผลบุญ ตามแนวทางสองแบบอย่างที่มนุษย์เราต้องดำเนินกันไปตามจุดมุ่งหมายของชีวิต จะมาเกี่ยวข้องลบล้างกันไม่ได้เลย ใครทำดีย่อมไปสวรรค์ ใครทำชั่วย่อมลงนรกกันไปตามบทวิถีทางการปฏิบัติของตนเอง" ท่านเอ่ยกล่าวถึงเทวทูตและยมทูตนั้นมีจริงในบทถึงการลงโทษลงทัณฑ์ เมื่อใครได้ประพฤติกรรมทำความชั่วหรือการก่อกรรมทำไม่ดีก็ย่อมที่จะได้เข้าสู่ประตูนรกอเวจีกันต่อไป และอีกบทหนึ่งท่านก็ได้กล่าวถึงเทวดานางฟ้าในสวรรค์ชั้นมาดแมนที่งามหรูยิ่งเมื่อใครได้ยลแล้วจักลืมสิ้นทุกสิ่งอย่างโดยเฉพาะสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ที่เป็นประตูสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดของมนุษย์ทุกคนเมื่อละสิ้นจากโลกนี้ไปแล้วโดยถ้ามนุษย์ทุกคนได้สร้างสะสมบุญหรือการประพฤติปฏิบัติทำแต่ความดีมีศีลธรรมอย่างงดงามและน่ายกย่อง ซึ่งแต่ละอย่างนั้นอยู่ที่บทบาทและบทตอนของเราๆท่านๆที่จะมีจิตในการแยกแยะกับสิ่งทั้งที่เป็นกุศลจิตและอกุศลจิตกันเพียงใดในการกระทำเมื่อครั้งตอนที่ยังเป็นมนุษย์อันแสนประเสริฐได้

    นายสาย แก้วสว่างลูกศิษย์ใกล้ชิดท่านเล่าว่า เมื่อครั้งหนึ่งหลวงปู่ทิมได้เอ่ยกล่าวถึงดินแดนลับแลแห่งตำนานเรื่องราวของป่าหิมพานต์ที่เป็นบทกล่าวอ้างถึงไว้ในวรรณคดี ซึ่งป่าหิมพานต์นี้เป็นสถานที่เปรียบดุจเหมือนอุทยานแห่งชาติของสวรรค์ในชั้นวิมาน โดยเรื่องราวต่างๆนั้นหลวงปู่ท่านกล่าวว่ามีจริงไม่ใช่เป็นเรื่องของนิยายเพ้อฝัน แต่มันเป็นดินแดนแห่งสุขาวดีตามบทวรรณคดีของเทพนิยายที่กล่าวกันมา โดยหลวงปู่ท่านได้เอ่ยกล่าวถึงพืชวิเศษชนิดหนึ่งที่เกิดอยู่ในป่าหิมพานต์ โดยผลนั้นมีลักษณะขั้วลูกอยู่ด้านบนศีรษะ มีรูปร่างเป็นหญิง รูปร่างสะโอดสะอง สมส่วน ผิวพรรณงดงามปานเทพธิดา

    “ ว่ากันว่า จริงๆ แล้ว ผลหนึ่งผล ก็คือรุกขเทพธิดาหนึ่งนาง หรือ เมื่อต้นนารีผลออกดอก เสมือนเกิดวิมานแห่งรุกขเทพธิดาขึ้นที่นั่น เมื่อติดลูก ก็คือเทพธิดาจุติลงมาเกิดที่นั่น ความสวยงามสมบูรณ์แห่งผลนารีผล แต่ละผล จึงสวยงามต่างกัน ขึ้นอยู่กับบุญของเทพธิดาแต่ละนางด้วย เมื่อเหล่าพวกวิทยาธร เดินทางมาพบเข้า หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ตบะแตก ก็จักได้เสพบำเรอกับนารีผล เมื่อตบะแตก ฤทธิ์เสื่อม เหาะไปต่อไม่ได้ เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะได้พบกับพระนางมัทรี…. การจะเดินทางต่อ หรือออกไป จำต้องบำเพ็ญเพียรใหม่ ยกระดับจิตขึ้นแล้ว จึงกลับออกมาได้ ซึ่งมันก็คือด่านป้องกัน ไม่ให้ใครไปล่วงศีลกับพระนางมัทรี และเทพธิดาที่จุติไปเกิดที่นารีผล แต่ละนางก็ไปด้วยกรรมของตน มิได้บังคับไปแต่อย่างใด

    แม้ว่า พระเวสสันดร พระนางมัทรี จะเสด็จออกจากป่าเข้าเมืองไปแล้ว ต้นนารีผล ก็ยังคงมีอยู่ในที่นั้น ตราบเท่าทุกวันนี้ ยังมีดอกหอมกรุ่น มีนารีผลห้อยระย้าอยู่ดังเดิม แม้ลูกที่หมดอายุขัยจะร่วงหล่นเหี่ยวเฉาไป ลูกใหม่ก็ขึ้นมาแทนที่ไม่ได้ขาด โดยว่ากันว่า บางครั้ง ฤๅษีที่บำเพ็ญเพียรจนมีตบะกล้า กิเลสสงบ เพื่อจะทดสอบจิตตน ก็จะเหาะไปที่ต้นนารีผล มองดูนารีผล ว่าตนจะตบะแตกหรือไม่ หรือบางครั้งฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ อาจจะพาลูกศิษย์ไปทดสอบระดับจิต ไปฝึกควบคุมจิต ที่นั่น ก็มีและว่ากันว่า พวกวิทยาธร มักจะเหาะไปเก็บนารีผล อุ้มมาเชยชมแล้ว ฝึกจิตใหม่ ค่อยเหาะกลับออกมา นารีผล เป็นที่ต้องการของสัตว์วิเศษ รวมถึงคนธรรพ์ วิทยาธรทั้งหลายผู้ยังไม่หมดกามราคะ ดังนั้น การที่นารีผลจะเหี่ยวแห้งคาต้นแล้วร่วงหล่นนั้น เป็นไปได้ยาก ก่อนจะโรยรา จะมีเทวดา สัตว์วิเศษ และวิทยาธร เป็นต้นมาเก็บเอาไป “

    หลวงปู่ทิมท่านเอ่ยกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งการจินตนาการในป่าหิมพานต์ แห่งนี้เป็นมิติที่ซับซ้อนซ่อนโลกที่อยู่ในโลกมนุษย์เรานี้เอง แต่ต้องเป็นคนที่มีบุญญาวาสนาหรือมีบารมีเท่านั้นถึงจะพบเห็นและเข้าไปได้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเพ้อฝัน ดังสิ่งที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา แต่ไม่เคยเห็น ไม่เคยจับต้อง นั้นอาจไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่จริง เหมือนกับนรกสวรรค์ที่เป็นคำสอนของศาสนามาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ไม่เคยเห็นและยืนยันกันได้ว่ามีจริง นอกจากต้องละจากทางโลกนี้ไปแล้วหรือการใช้อำนาจจิตจากเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาหรือผู้ที่สำเร็จฌานสมาบัติในการท่องไปในดินแดนแห่งอนาคตกาลเบื้องหน้า ซึ่งมันหลักแนวทางอย่างหนึ่งตามหลักพุทธศาสนาของการสื่อท่องโลกไปในดินแดนแห่งนรกสวรรค์หรือในดินแดนแห่งสุขาวดีที่เป็นบ่อเกิดกับเรื่องราวต่างๆอันเกิดขึ้นมาได้

    มีอยู่บทตอนหนึ่งหลวงปู่ท่านเอ่ยกับนายสายและลูกศิษย์ใกล้ชิดอีกสองสามคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน ว่าใครอยากไปท่องแดนสนธยาแห่งป่าหิมพานต์ดูต้นมักกะรีผลที่กล่าวกันในตำนานกันไหม! ซึ่งลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างก็สนใจกันมากเพราะเป็นเรื่องเร้นลับที่ใครหลายคนอยากจะรู้กันว่ามันมีจริงตามที่กล่าวกันไว้ในวรรณคดีรึไม่ หลวงปู่ท่านก็บอกว่าท่านจะนำพาไปให้ ซึ่งลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างก็หูผึ่งสนใจกันอย่างมากและตอบรับกันทุกคน เมื่อมีเรื่องราวเป็นเช่นนั้นแล้ว หลวงปู่ท่านก็ได้เอ่ยกล่าวกับศิษย์ว่า แต่มันมีข้อแม้อยู่ที่ว่า เราเพียรสร้างสะสมบุญกันมาเพียงพอรึยังที่จะเข้าไปในดินแดนแห่งนี้ ถึงแม้เราจะมีจิตสมาธิที่มั่นดีแล้วก็ตามที “นี่นำพาไปให้ได้” ซึ่งเป็นคำกล่าวของหลวงปู่ท่าน “ แต่ถ้าใครได้เห็นแล้วเกิดลุ่มหลงในจิตหรือตกในภวังค์ เมื่อได้เห็นสิ่งที่ต้องการแล้ว จิตอาจจะหลงทางและหาทางกลับมาไม่ได้นะ ถึงแม้นี่นำพาไปก็ช่วยไม่ได้ เมื่อได้ยินได้ฟังเช่นนี้แล้วมีศิษย์คนใดจะไปกันมั่งล่ะ ” ลูกศิษย์ที่ได้ฟังกันในขณะนั้นต่างก็เงียบกริบกันทุกคน เมื่อหลวงปู่ทิมท่านได้เอ่ยกล่าวสาธยายแบบนี้ แล้วทีนี้ใครล่ะจะกล้าไปกัน ลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ต่างก็อึมอัมๆกันหมด หลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ว่ากระไรท่านก็ได้แต่นั่งยิ้มหัวเราะพร่ำๆตามประสาของท่านไป

    ซึ่งก็แสดงว่าการเดินทางไปในดินแดนสนธยาป่าหิมพานต์แห่งนี้สามารถไปได้ 2 วิธีด้วยกัน คือมีคนนำทางพาไปได้ กับอีกอย่างหนึ่งคือต้องคนที่สำเร็จอภิญญา5 ขึ้นไป ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงตามที่ลูกศิษย์ลูกหาคนใกล้ชิดเขาจะรู้กันดีกับคำเอ่ยกล่าวของหลวงปู่ทิมในช่วงเหตุการณ์หนึ่งที่ท่านดำรงขันธ์อยู่ในขณะนั้น......
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 005.png
      005.png
      ขนาดไฟล์:
      501 KB
      เปิดดู:
      84
  16. naygood

    naygood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +7,245
    สวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ ช่วงนี้ไกล้ปีใหม่แล้วยุ่งๆครับเลยไม่ค่อยได้เข้ามาปีใหม่พี่ๆท่านไดมีโปรแกรมไปเที่ยวไหนกันไหมครับ ส่วนผมนั้นคิดว่าไปริมโขง จังหวัดอุบลครับ
     
  17. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140

    สวัสดีพี่รุ่ง อยากไปบุกประจวบจังเลย จะได้คุยกันตามประสาพี่น้องศิษย์หลวงปู่ทิม
     
  18. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***555งานยุ่งมากใช่ใหมครับ เอาเงินก่อนครับ อย่างอื่นตามมาเองครับ
    พวกเรา ครูบาอาจารย์ เลี้ยงและดูแลตลอดอยู่แล้วไม่มีอดครับ ฟันธง ***
     
  19. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***กราบหลวงปู่ ครับ
    สวัสดีครับ พี่โมท รัก โต้ง เก่ง ส่างปา romegatและทุกๆท่านครับ รวย รวย รวย***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2013
  20. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***มั่นใจ ศรัทธา เชื่อมั่น จะ รุ่งเรือง ร่ำรวย ปลอดภัย และเจริญในธรรมกันทุกๆท่านครับ***
     

แชร์หน้านี้

Loading...