ประสบการณ์เมื่อเรามีคนทักว่าเรามีองค์ (แนวให้ความรู้)

ไม่ใช่จ๊ะ องค์หลักคุณไม่มีสิทธิ์เลือก เค้ากำหนดมาตั้งแต่ตอนคุณจะลงมา
เกิด
องค์นี้จะเป็นคนรองรับคุณ จะอยู่รักษาจนกว่าจะเสียชีวิต อาจจะใหญ่หรือแค่นางไม้
บอกพอคร่าวๆนะ เดี๋ยวฟ้าจะผ่า เราเกือบโดนมาหลายทีละ

 

....... งั้นก็คนที่เป็นรูปโปร์ไฟตอนนี้ละคะ .. เทพหญิงในชุดส่าหรีสีแดงตั้งแต่ชาติแรกจนตอนนี้ก็คนนี้ ... ส่วนในรูปด้านในที่เป็นภาพวาดแค่ช่วงหัวนั้น คือ กาลีนะ เลือกเอง และ ท่านก็เลือก กาลีนะ เช่นกันในชาตินี้ .. แต่ก็คนเดียวกันต่างกันแค่หน้าที่ที่ต้องทำ .. แต่สำหรับชีวิตนี้ในตัว กาลีนะ มันมีอะไรซับซ้อนมากกว่านั้นอีก ซับซ้อนจนบอกใครไม่ได้ รับรู้ได้แค่ตนเอง และ เลิกค้นหา เพราะไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นที่ใคร ๆ เขาอยากเป็น .. ร่างทรง ... คนอื่นอาจไม่มีสิทธิ์เลือก .. แต่ กาลีนะ เลือกได้ และ เลือกจะเป็นตัวเองมากกว่าคะ .. ยังไงร่างทรงก็สู้พวกหมอผีไม่ได้อยู่ดี ...

 

... อันนี้เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะคุณโคนบัว ...

... การที่ใครสักคนจะไปเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของผู้อื่นนั้น .. มันถือว่าผิดกฏแห่งชะตากรรมอย่างร้ายแรงพอสมควร .. แม้แต่เทพผู้สูงส่งแค่ไหนก็ตาม มันมีช่วงเวลา และ วาระกรรมของมันอยู่คะ .. ทุกอย่างมันเกิดขึ้นดับไปเป็นวัฏจักรมันมีกลไกควบคุมอยู่ ... หากเราเข้าไปทำลายกลไกนั้น ๆ ให้พังลง หรือ เปลี่ยนไปมันก็จะเกิดผลสะท้อนที่ไม่อาจคาดเดาได้มากกมายเกิดขึ้น .. แต่สุดท้ายมันจะวกกลับเข้าเป็นแบบเดิมที่ควรจะเป็นเสียส่วนมาก ... คล้ายวิชาคณิตศาสตร์นั้นแหละคะพูดอธิบายลำบาก ...

.... เอาเป็นว่ามันเป็นหน้าที่ของผู้ที่อยากรู้ อยากศึกษา ต้องค้นหาเอง เรียนรู้เอง เพราะไม่มีอะไรสอนเราได้ดีเท่ากับประสบการณ์ของเราเองคะ ... และ เบื้องบนท่านก็คงไม่อยากเสี่ยงกับผลร้ายต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อท่านเหล่านั้นโดยไม่จำเป็นคะ ... ท่านจะต้องพิจารณาเหตุผลหลายอย่างประกอบกัน เช่น กรรมที่ทำให้เราต้องตายอย่างทรมาน .. เบื้องบนท่านอาจต้องให้เรารับครึ่งหนึ่งแล้วท่านช่วยผ่อนให้เบาลงมันต้องดูปัจจัยรอบด้านประกอบด้วย ... โดยเฉพาะตัวคนที่ต้องช่วย ...

.... ของฟรีไม่มีในโลก ... ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ .. เพียงแต่สิ่งที่แลกอาจไม่จำเป็นต้องเป็นแค่วัตถุเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อาจเป็นสิ่งที่วัดค่าไม่ด้เลยก้ได้คะ

 

เอาจากไหนมาพูด ร่างทรงจะมีราวๆ 3 สาย

1. สายปฏิบัติ พาคนปฏิบัติธรรม มีเวลาว่างรวมกลุ่มไปนั่งสมาธิ
2. สายเมตตา เน้นการช่วยเหลือผู้อื่น อุทิศตนเพื่อสังคม ชอบรักษาโรค
3. สายปราบมาร สายนี้เน้นการขับไล่มาร ปีศาจ ภูตผี ปะฉะดะ

ถ้าไม่ใช่สายที่ 3 หรือไม่ใช่องค์ทางปราบ ไม่สามารถขับไล่ได้
แต่ถ้าเป็นเทพทางสายปราบ พวกเล่นของจะไม่กล้าแม้แต่มองหน้าเลย
ทั้งนี้ขึ้นกับทางร่างเองด้วย ปฏิบัติได้ถึงขั้นไหน บารมีร่างพอหรือไม่

 

.... ก็นั้นแหละคะ ... สายที่ 3 นี้แหละคะต้องทำสองอย่าง ... ทั้งร่างทรง และ หมอผี ... ต้องมีความรู้ทั้งสองอย่าง .. จะเป็นเพียงแค่ร่างทรงอย่างเดียวไม่ได้ ... หากไม่เข้าถ้ำเสือมีหรือจะได้ลูกเสือมา ... เพราะสายที่ 3 จะเรียกว่าเป็นครูของพวกหมอผีก็ไม่น่าจะผิด .. ศิษย์ คิดล้างครู โทษมีอยู่ไม่กี่สถาน ... แต่ส่วนมากท่านจะทำเฉพาะกรณีจำเป้นเท่านั้น ... ถ้าไม่จำเป็นจะเป็นส่วนของร่างที่ต้องจัดการมากกว่า .. ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงท่านถึงจะมาช่วยส่วนที่เกินความสามารถ ... ซึ่งมีน้อยคะสายนี้

...... ส่วนที่พี่บอกว่าพวกเล่นของ หรือ มีพวกไม่ดีแอบแฝง จะไม่กล้ามองหน้า หรือ สบตา ..... อันนี้จริงคะ .. ฟันธง

.... ส่วนเอามาจากใคร ... พระอาจารย์ ที่ท่านเมตตา กาลีนะ นี้แหละคะที่ท่านสอน และ บอกมา ... ความจริงมันมียาวกว่านี้มาก ... แต่ต้องสงวนไว้เพราะมันไม่เหมาะจะเอามาบอกกล่าวในที่นี้ ... เพราะคำเหล่านี้ คือ ทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่มี ... ซึ่งตอนนี้มันคงเลือกไม่ได้แล้ว ... คติของท่านคือ .. "พระอาจารย์ธนบดี .. เดินหน้าแล้วไม่มีถอยหลัง " ... กาลีนะ ก็อยากทำได้แบบท่านคะ ... เมื่อถึงวาระ และ โอกาส แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ ...

 

... แต่ท่านชอบเรียก กาลีนะ ว่า ... ทายาท อสูรย์ .....

.... ตอนนี้ขอเผยตัวแค่ดวงตาคู่นีัแล้วกันนะคะ ... ถ้ามาเต็มหน้ามันไม่สวย ... เผื่อมีใครอยากรู้จัก กาลีนะ มากขึ้น ... ลงเต็มบางทีก้กลัวจะโดนหมั่นไส้เจอ .... กาลันะจะแย่เอาง่าย ๆ ...

 

4. พวกเด็ก ๆ ที่ชักตาตั้งกันเป็นกลุ่มๆนั้น จะแยกได้ยังไงว่า อุปทานหมู่ หรือ ว่าโดนผีเจ้าที่เล่นงานกันจริง ๆ


...... สำหรับกรณีนี้ ไม่แน่ใจที่ออกข่าวว่าเด็กในโรงเรียนโดนผีเข้าเยอะ ๆ หรือ เปล่านะคะ ... ถ้าเป็นเคสเดียวกัน กาลีนะเชื่อคะ ...

.... แต่ อุปทานหมู่ กับ ผีเล่นงาน จะแยกยังไง ... สำหรับ กาลีนะ คงตอบแบบฟันธงไม่ได้คะถ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ หรือ ได้ไปในสถานที่นั้น ๆ เพราะไม่มี ญาณ ที่สามารถตรวจสอบได้คะ คงวินิจฉัยไปตามข้อมูลได้เท่านั้นคะ ...

 

2. เวลาโดนทำคุณไสยจะรู้ได้ไงว่า เราโดนคุณไสย ไม่ใช่ป่วยจากโรค

... เราต้องสังเกตตนเองคะว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้น

1. เมื่อเรากินยาสามัญรักษาอาการเบื้อต้นแล้วมันดีขึ้นบ้างไหม๊

2. มีอะไรแปลก ๆ ที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นไหม๊ .. เช่น อาการขนลุกแบบไม่มีสาเหตุ พะอืดพะอมแบบไม่มีสาเหตุ ฝันแปลก ๆ ฯ

3. รักษาทางแพทย์ยังไงก็ไม่หาย หรือ ตรวจไม่พบอาการ ( ต้องตรวจหลายที่ก่อนเผื่อความชัดเจน )

4. สังเกตว่าช่วงนี้ได้กินอะไร หรือ รับของ ที่ทำให้รู้สึกแปลก ๆ บ้างไหม๊ .. ขนลุก เสียวสันหลัง .. พอกิน หรือ รับมา ก็ฝันแปลก ๆ ที่เกี่ยวกับ ผี หรือ มีอาการเบลอ ๆ เกิดขึ้นบ่อย ๆ .. วิงเวียนไม่มีสาเหตุ

.... อันนี้คราว ๆ นะคะ .. เด้วมาลงเพิ่มให้คะ

 

2. เวลาโดนทำคุณไสยจะรู้ได้ไงว่า เราโดนคุณไสย ไม่ใช่ป่วยจากโรค

3. เวลาโดนลมเพลมพัด จะรู้ได้ยังไง แล้ววันไหนที่นิยมปล่อยของกัน ชาวบ้านๆจะป้องกันตัวกันได้อย่างไร

คำตอบเพิ่มเติมจากอันเดิมคะ ..

อาการของผู้ที่ถูกคุณไสย สังเกตไม่ยาก มักมีอาการดังนี้ในเบื้องต้น คือ

1. มีอาการวิงเวียน ใจสั่น คล้ายอาการของคนที่จะเป็นลม

2. มีอาการ ร้อนตามตัวเป็นช่วง ๆ ไม่ใช่ทั้งตัว โดยเฉพาะช่วงหลัง คอ และ ศรีษะ

3. คิดอะไรไม่ค่อยออก คล้ายคนเป็นโรคหลงลืม

4. มึนในหัว หรือเจ็บเป็นช่วง ๆ

5. ใต้ตามีสีคล้ำ ทั้งที่นอนเต็มอิ่ม

6. มีอาการจุก เสียด แน่น บริเวณทรวงอก และ อีกหลากหลายอาการฯลฯ

.... ส่วนวันที่นิยมปล่อยของคือก่อนวันพระประมาณ 2-3 วันคะ รวมวันโกนด้วยคะ

.... ส่วนการป้องกันตัวมันก็พอมีคะ ... เหมือนที่มีคนชอบพูดว่า ...

*** อย่าลองของ อย่าร้องทัก เดี๋ยวของจะเข้าตัว ****

.... อย่าสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น .. อย่าเอาตนเองไปอยู่ในที่สุ่มเสี่ยง และ อย่าอยากรู้อยากเห็นไม่เข้าเรื่อง ... พยายามไหว้พระสวดมนต์ ทำบุญทำทานสร้างบารมีมาก ๆ เข้าไว้ .. มีโอกาสก้ไปหาน้ำมนต์มาอาบ มากิน เสียบ้างเพื่อความเป็นศิริมงคล ... ที่สำคัญทำตัวเป็นคนดีคะ ... คนดีผีคุม ... เอ๊ยยยย คนดีผีคุ้ม .. อิอิ

.... เหนือสิ่งอื่นใด .. ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง และ เมตตาให้มาก ๆ อย่าอาฆาตรพยาบาทใคร .. อโหสิกรรมกันได้ก็ทำไเถิดคะ จะได้ไม่ต้องมีหนี้ต่อกันให้รำคาญ

 

เราว่าถ้าไม่ตรวจดูก็ไม่รู้หรอกว่าโดน

มันก็เหมือนไม่สบาย แต่มันไม่หาย

 

.... มันก็เฉพาะบางคนแหละคะพี่ ... ถ้าคนที่พอมีความรู้หน่อย หรือ มีสัมผัสพิเศษ ถ้ารู้จักสังเกตตนเองก็จะพอเดาทางได้คะ .

... กาลีนะ ไม่ค่อยไปตรวจคะ .. เพราะเดี๋ยวมันก็หายเองคะ .. ถ้าเบา ๆ มันก็จะแค่ " เรอ " ออกมาก็หายแล้ว ... หนักสุดก็ถ่ายแบบเหมือนท้องร่วงรุนแรงออกมาแบบเดินไม่ได้ ... ตอนไปขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตตาขับออกให้ .. เมื่อต้นปีนี้เอง .. แต่มันก็มีมาเรื่อย ๆ คะ ... และ เคยมีคนในเว็ปทดสอบ กาลีนะ มาบ้างแล้วด้วย ..

... ถ้าพวกใช้ภพภูมิมาทำร้ายเรา .. ส่วนมากก็จะเป็นการ ปะ ทะ ในฝันมากกว่าคะ .. อันนี้จะรู้ตัวคนทำเลยคะถ้าเขาแบบว่าเล่นเราแรง ๆ ก็มีเสมอกัน ชนะ เลิกรากันไปเอง .. แล้วแต่กรณีคะ ... แต่แพ้ราบคาบไม่ค่อยเป็นคะ เพราะจะมีคนมาช่วยเป็นพระบ้าง เทพบ้าง ผีบ้าง ฯ บางทีก็เป็นสัตว์ เช่น จรเข้ เสือ งู ประมาณนี้คะ ...

 

ใช่ ส่วนมากจะมาอำกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ ครูท่านจะมาช่วย
เคยฝันแบบว่าติดในบ้านเป็นเขาวงกต ออกมาไม่ได้ทำไงก็ไม่ตื่น
ครูท่านขว้างมีดอีโต้ทะลุกำแพงเข้ามา เลยเอาผ่าฝาบ้านออกมาได้

 

.... ขวางอีโต้เลยเหรอคะ ... แสดงว่าครูพี่นี้ท่านออกแนวดุดันนะคะ .. แนวนักสู้ลูกผู้ชายเลยคะ ... ถึงไหนถึงกัน ... แบบนี้ กาลีนะ ชอบคะ

.. แต่ส่วนตัวยังไม่เคยถูกขังแล้วออกไม่ได้คะ ( นิมิตรนะคะ ).. เพราะถ้ารู้สึกว่าถูกขังหาทางออกไม่ได้ ... จะออกแนวระเบิดออกมาเลยคะ ... กาลีนะ จะสู้แบบตามสัญชาติตญาณมากกว่าคะมันจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ .. มันจะรู้ได้เลยว่าเขามาดี มาร้าย มาหลอก เหมือนมีป้ายแขวนไว้ให้เห็นเลยคะ ... แต่พักหลัง ๆ รู้สึกจะเจอแต่ที่เก่ง ๆ ขึ้นทุกวัน .. แต่เราจะออกแนวถอยไม่อยากสู้มากกว่าตอนนี้ สู้เฉพาะที่จำเป็น ... พี่เขา กับ พระอาจารย์ท่านมักสอนให้มีเมตตาให้มาก ๆ พยายามอยู่คะตอนนี้ กลัวจะก้าวเท้าเข้าไปในวังวนแนวนี้ ... เพราะถ้าหลงก้าวเข้าไปแล้วจะออกไม่ได้คะ ... พระอาจารย์ท่านเตือนไว้แล้ว ... แต่สามารถศึกษาหาความรู้ใส่ตัวได้ และ ทำความดีเสริมบารมีให้ตนเองไปเรื่อย ๆ .. ประมาณนี้คะ

 

.... วันนี้ขอนำเสนอผลงานที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งเขียนไว้เป็นหนังสืออ่านเล่น ( สำหรับ กาลีนะ ) แล้วชอบมาก ๆ ให้ความรู้ได้ีมีเหตุผล และทำให้ได้ข้อคิดอะไรหลาย อย่างมาแนะนำคะ

..... ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี ชื่อ ตอบโจทย์เรื่องผี ชี้ทางวิญญาณ

... เป็นหนังสือเพื่อความเข้าใจในเรื่องโลกวิญญาณ .... ความรู้ที่นำมาใช้ในการเขียน ได้มาจากประสบการณ์ในการเรียนปริญญาเอกทางพุทธศาสนา และ การไปกราบครูบาอาจารย์ต่าง ๆ มาตลอดกว่า ๒o ปีที่ผ่านมา โดยแหล่งความรู้ใหญ่ที่สุดของก็คือ "หลวงตาม้า" นั่นเอง ที่ท่านได้เมตตาให้ความกระจ่างในทุก ๆ คำถามเกี่ยวกับเรื่อง "ผีและโลกวิญญาณ" อย่างถูกต้องตามแนวทางที่หลวงปู่ดู่ได้ถ่ายทอดเอาไว้ให้

**** การอธิบายในเล่มส่วนใหญ่ จึงเป็นการอธิบายตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ และ หลวงตาม้า ผู้เข้าใจในเรื่อง "โลกวิญญาณ" อย่างแจ่มแจ้ง ผนวกรวมกับความรู้ที่ได้รวบรวมกลั่นกรองมาจากท่านพระราชพรหมญาณ " หลวงพ่อฤาษีลิงดำ " ผู้มีทิพยจักขุญาณอันแจ่มแจ้ง และ อธิบายเรื่องของภพภูมิต่างๆไว้ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง

ในเล่มได้รวบรวมคำถามต่าง ๆ ที่น่าสนใจไว้ถึง ๕๕ ข้อดังนี้

๑. ผีคืออะไร
๒. ผีมีจริงหรือไม่
๓. “วิญญาณ , สัมภเวสี , โอปปาติกะ , ภูต , ผี , ปีศาจ” เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
๔. ทำไมผีไม่ไปผุดไปเกิด
๕. พอตายแล้ว ดวงวิญญาณออกจากร่างไปยังไง
๖. ดวงวิญญาณออกจากร่างเมื่อตายแล้ว ออกไปไหน ทำยังไงให้ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีๆ
๗. ผีมีอายุเท่าไหร่
๘. ผีมีเด็ก มีผู้ใหญ่ มีแก่เฒ่าลงตามอายุหรือไม่
๙. ผีมีเพศ ผู้ชาย ผู้หญิง เพศที่สาม หรือไม่
๑๐. ผีสัตว์ต่างๆ ผีสุนัข ผีแมว ผีนก มีไหม
๑๑. ผีมีกลิ่นประจำตัวของตัวเองหรือไม่
๑๒. ผีทำไมต้องน่ากลัว
๑๓. ผีกินอะไรเป็นอาหาร
๑๔. ทำบุญใส่บาตรไปให้ ผีจะได้รับหรือไม่
๑๕. ผีอาศัยอยู่ที่ไหนกันบ้าง
๑๖. ทำไมผีชอบมาตอนกลางคืน
๑๗. ผีมีแบ่งชนชาติ ไทย จีน ฝรั่ง แขก ไหม
๑๘. ผีใช้ภาษาอะไรในการพูดคุย
๑๙. ผีตัวตายตัวแทนคืออะไร มีจริงหรือไม่
๒๐. พระยายมเป็นใคร ตายไปกลายเป็นผี ต้องไปเจอพระยายมทุกคนหรือไม่
๒๑. ผีนรกคืออะไร ขึ้นจากนรกมาหลอกหลอนคนได้หรือไม่
๒๒. วันปล่อยผีมีจริงไหม
๒๓. เปรตคืออะไร ต้องปากเท่ารูเข็ม ตัวสูงเท่าต้นตาลเสมอไปหรือไม่ ทำบุญไปให้จะได้รับไหม
๒๔. อสุรกายคืออะไร ต่างกับเปรตหรือไม่ อย่างไร
๒๕. ยักษ์คืออะไร ต้องตัวใหญ่โต มีเขี้ยวยาว กินคนเป็นอาหาร อย่างที่เคยดูในหนังไหม
๒๖. พระยามารคือใคร เป็นจ้าวแห่งความชั่วร้ายที่คอยหลอกลวงให้คนทำชั่วจริงหรือไม่
๒๗. ผีปอบคืออะไร สามารถกินเครื่องในเราได้จริงหรือ
๒๘. ผีฟ้าคืออะไร เป็นปอบชนิดหนึ่งอย่างที่คนชอบเรียก “ปอบผีฟ้า” หรือไม่
๒๙. ผีกระสือมีจริงหรือไม่ สามารถถอดหัวกับไส้ไปไหนมาไหนเหมือนในหนังจริงหรือ
๓๐. ผีแม่ม่ายมีจริงหรือไม่ ถ้าผู้ชายทาเล็บ ใส่ผ้าถุง เอาปลัดขิกมาไว้หน้าบ้าน จะกันผีแม่ม่ายได้จริงหรือ
๓๑. ผีนางไม้คืออะไร ทำไมเคยได้ยินแต่ นางตะเคียน นางตานี ไปอยู่ต้นไม้ประเภทอื่นไม่ได้หรือ
๓๒. ผีบ้านผีเรือน เจ้าที่เจ้าทางคืออะไร จำเป็นต้องตั้งศาลให้หรือไม่
๓๓. ผีกุมารทองคืออะไร ทำไมต้องเป็นเด็ก ทำไมต้องเลี้ยงด้วยน้ำแดง
๓๔. ผีเด็กที่โดนทำแท้ง จะเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นและเฮี้ยนกว่าผีเด็กทั่วไปจริงหรือ
๓๕. ผีตายทั้งกลมเช่น แม่นาคพระโขนง ทำไมเฮี้ยนนัก แล้วทำไมต้องสะกดด้วยการเจาะกะโหลก
๓๖. จริงหรือที่ผีตายโหงมักจะดุร้าย และยากจะไปผุดไปเกิดได้
๓๗. ผีเจ้ากรรมนายเวรคืออะไร จะตามทวงแค้นเราตลอดเวลาจริงหรือไม่
๓๘. ผีดิบที่เป็นซากศพเดินได้เหมือน ผีซอมบี้ในหนังฝรั่ง ผีกระโดดในหนังจีน มีจริงหรือไม่
๓๙. ผีอำคืออะไร ถ้าโดนผีอำจะแก้ไขอย่างไร
๔๐. ผีถ้วยแก้วคืออะไร ทำไมต้องใช้แก้ว ถ้าเผลอทำแก้วหงาย ผีจะเข้าเราไหม
๔๑. ผีให้หวยได้จริงหรือไม่ แม่นยำแค่ไหน
๔๒. ทำไมถึงเจอผี ทำยังไงให้เจอผี
๔๓. ทำยังไงถ้าไม่อยากเจอผี
๔๔. ผีเข้าสิง ผีเข้าทรง ได้อย่างไร จะรู้ได้ยังไงว่าผีเข้าจริง
๔๕. ถ้าโดนผีบังคับให้รับขันธ์ รับเป็นร่างเข้าทรง แต่ไม่อยากเป็น จะทำยังไงดี
๔๖. สวดมนต์แบบไหนถึงจะป้องกันผีหรือไล่ผีได้
๔๗. พระเครื่องสามารถป้องกันผีหรือไล่ผีได้จริงหรือไม่
๔๘. หมอผีสามารถจับผีลงหม้อ หรือใช้วิชาอาคมสลายวิญญาณผีให้แตกดับไปผุดไปเกิดไม่ได้ ได้จริงหรือไม่
๔๙. คนเลี้ยงผีเขาเลิ้ยงดูกันยังไง ปล่อยผีกันแบบไหน
๕๐. ทำไมต้องจุดธูปไหว้ผี ต้องจุดกี่ดอก กราบกี่ครั้งจึงจะถูกต้อง
๕๑. การทำพิธีศพให้กับคนตาย ควรทำแบบไหนจึงจะเป็นประโยชน์กับผีมากที่สุด
๕๒. การทำบุญอุทิศกุศลให้ผี ควรทำอย่างไรผีจึงจะได้รับบุญกุศลนั้น
๕๓. ทำไมดวงวิญญาณของผู้ตาย บางคนก็มาหา บางคนก็ไม่มา ทำยังไงให้ผีมาหา
๕๔. เตรียมตัวเป็นผีแบบง่ายๆ แต่มั่นใจว่าตายแล้วจะได้ไปสู่สุคติต้องทำยังไงบ้าง
๕๕. พระคาถามหาจักรพรรดิ สุดยอดพระคาถาที่ใช้จัดการกับผีได้ทุกเรื่อง

 

... มีอีกเล่มก่อนหน้านี้ด้วยนะคะ ชื่อ "ตอบโจทย์พระเครื่อง รู้เรื่องของขลัง" แต่ กาลีนะ ยังอ่านไม่จบสักที .. เพราะอ่านเร็วไม่ได้ต้องค่อย ๆ อ่านไปเรื่อย ๆ เพราะต้องปรับความคิดที่เคยเข้าใจ หรือ ที่ถูกสอนมาให้มันถูกต้องตรองกัน หรือ หาตรงกลางที่มันควรจะเป็นในแต่ละเรื่อง .. มันยากคะ .. เรื่องผี ๆ ยังเข้าใจง่ายกว่าอีก ... แต่เพราะความชอบส่วนตัวแหละคะ .. ความรู้มันก็ดีคะ " รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม " จริงไหม๊คะ

ปล. อีกอย่างพอดีช่วงนี้สนใจเรื่อง " ฮวงจุ้ย " มาสองสามเดือนแล้วด้วยคะ เลยเทใจไปค้นคว้าด้านนั้นก่อน ...

 

แนะนำให้เน้นการปฏิบัติสมาธิ กรรมฐานมากกว่านะ อย่าเน้นกระพี้มากเกินไป

 

... สาธุคะ

.... อันนี้คงแล้วแต่จริตของแต่ละบุคคลแล้วละคะ ... ของ กาลีนะ จะเป็นอีกแบบคะที่ไม่ใช่การนั้งสมาธิ ... เพราะมันรุ่งกว่าคะเวลาปฏิบัติจริงแต่ผลอาจไม่เท่าการนั้งสมาธิแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีคะ

 

ถ้าเป็นทางสมาธิก็นับว่าดี กรรมฐานมีหลายแบบเลือกตามเราสะดวก

นี่ก็สอบตกกรรมฐาน ไม่งั้นคงไปไกลแล้ว

 

... แบบพี่ยังสอบตก ... กาลีนะ ยังไม่กล้ายื่นใบสมัครเลยคะ .. เพราะคิดว่าตัวเองคุณสมบัติยังไม่พร้อม .. แต่พระอาจารย์ท่านก็วางแนวทางไว้ให้แล้วคะว่าต้องเดินยังไงต่อไป .. และ มีท่านพี่หลายท่านเมตตาสั่งสอนคะ ... สักวันคงทำได้ ... ช้าแต่ชัวร์ดีกว่านะคะ .

 

..... เรียน ... ทุกท่านที่ผ่านมาอ่านกระทู้ของ กาลีนะ ..

.... การที่เห็น กาลีนะ ไปโพสข้อความแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ในทุกกระทู้ หรือ แม้แต่ที่ลงในกระทู้ของ กาลีนะ เองนั้น ... กาลีนะ พูดในสิ่งที่เป็นประสบการณ์ ความคิด ความรู้ที่ทั้งได้เรียนรู้ ได้ฟังมา .. มีผู้สอน ฟูมฟักลักจำมา ฯลฯ .. ทุกอย่างตามจริงทั้งสิ้น ... ไม่ใช่การทำเพื่อ อวดอ้างตนเองว่าเก่งมาจากไหน ... ไม่ได้บอกว่า เป็นร่างทรงที่เก่งอะไร ไม่ใช่ผู้มีฌาณสูงส่งด้วย .. และ ไม่ใช่ หมอผี ผู้เรืองวิชามาจากไหน ... ไม่สามารถรักษาโรค หรือ แก้กรรมให้ผู้ใดได้ทั้งสิ้น ... ขอให้เข้าใจด้วยนะคะ ....

.... แต่สิ่งที่ทำได้ คือ ให้คำแนะนำ .. ชี้แนะ .. ตอบปัญหาเท่าที่ทำได้เท่านั้น ... การที่มีการอ้างถึง " สัมผัสถึงองค์เทพ พระ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ " ไม่ว่าทุกคนจะเข้าใจอย่างไร ... แต่ท่านเหล่านั้น คือ ผู้ที่ กาลีนะ " ศรัทธา และ ให้ความเคารพท่านทั้งหลายเหล่านั้น " และ อยากให้ทุกคนรู้ว่า ถ้าเรามี " ศรัทธาจริง " ท่านก็เมตตาทุกคนเหมือนกันนั้นแหละคะ ... คงพอรู้จัก " เทวานุสติ " นะคะ ....

.... กาลีนะ ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ และ อยากช่วยเหลือศาสนาในสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ สามารถแยกให้ได้ระหว่าง " ศรัทธา กับ งมงาย " ... จึงได้มาทำการตั้งกระทู้ต่าง ๆ ขึ้นเพื่อให้ความรู้ที่มี ประสบการณ์ที่มี เป็นกรณีศึกษาแก่ผู้อื่น ..


......... หากท่านผู้ใดที่เข้ามาอ่านแล้วไม่ชอบใจ ... ไม่พอใจ .. ขอความกรุณาไม่ต้องเข้ามาก็ได้นะคะ ... เพราะเรื่องบางเรื่องอาจจะพาท่านลงไปทัวร์นรก อย่างไม่รู้ตัว ..