คุณไสย หรือเป็นเพราะกรรม แล้วจะทำใจอยู่กับมันยังไงค่ะ

แยกไม่ออกระหว่าโดยไสยเวท หรือไม่โดนหนอ?
ยังต้องไปหาหรือไม่ไปหานาจา
ยังสัยมะ
หนอ?

 

นาจาบอกว่า
ให้บูชาพระพุทธรูป
ทีท่านประทับดอกบัว

จะให้บอกมากพูดมากหรือพูดน้อย
แยกออกมะ

ให้บูชาพระพุทธรูปที่ท่านนั่งบนดอกบัว
เอาแบบ แยกออกหนะ
ว่าพระพุทธรูป และดอกบัว

ไสยเวทที่โดน เป็นชนิดแยกไม่ออก

 

ไปดู หาโหลดรูปก็ได้
พระพุทธรูปเลือกเฉพาะที่ท่านประทับดอกบัว
ประนมมือขึ้นมาก

บอกกับพระว่า
ดิฉันหรือกระผมแยกออก
ว่านี่คือพระพุทธรูป
แยกออกว่านี้คือดอกบัว

จะพกพระพุทธรูปนั่งบัวก็ได้
เวลาโดนของ
ให้นึงถึงภาพพระที่ห้อยคอมา
ดูดิ๊ว่าแยกออกมะว่านี่พระพุทธรูป
ว่านี่ดอกบัว

นาจาจะช่วย
แยกออกเหมือนไหร่ชวยเมื่อนั้นช่วยหมดไม่มีเว้น

แม้แต่เลือดออกเก้าทวาร
ที่ท่านแยกไม่ออก
ก็จะแยกให้

นาจาว่า

 

ถ้าแยกออกแล้วว่าโดนของหรือกรรม
แต่ชอบนาจามาก

ให้เซิร์ชหารูปนาจาในเน็ทก็ได้

แล้วภาวนาว่า
ห่วงหนอ?
ห่วงหนอ?
ห่วงหนอ?

ลองดู

 

ถ้าชอบผมไม่ชอบนาจา
ก็ พีเอ็มได้

ภาวนา
หึงหนอ?
หวงหนอ?

อันนี้แยกไม่ออกแน่

 

http://www1.g-pra.com/auctionc/view.php?aid=3709052

เนียะขนาดนี้
ผมแยกไม่ออก ว่านี่คือพระพุทธรูป
และพระพุทธรูปนั่งบัว

ผมแยกไม่ออก ว่าผมโดนไสยเวท หรือกรรมดล

ไม่แปลก

 

คุณบุญยง โคกกระทา เชิญรับยาที่ช่อง 4

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=9gdg6ixABuY]การออกกำลังกายเป้นยาที่ดีที่สุด - YouTube[/ame]

 

สาธุคะ .....


..... คำกล่าวนี้ช่างนุ่มนวลไพเราะ ลึกซึ้งได้ใจความ เป็นขั้นตอน ดีมากคะ ... กาลีนะ ขอคาราวะ .. จากใจเจ้าคะ ... หากใครอ่านแล้วเข้าใจลึกซึ้งถึงแก่นนั้นคือทางรอดที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ... แต่อาจจะช้าไม่ทันใจคนทั่วไป .. แต่ใครทำได้ก็ถือว่าเก่งแล้วคะ ... อยากให้ทุกคนทำได้ตามนี้ ..

..... นั้น คือ แนวทางแห่งพลังของพุทธ ... คนที่ปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิ และ ปัญญา ควบคู่กันจะไปได้ไว ที่เรียกกันว่า เจริญสติแลสมาธิ ไม่รู้เรียกถูกไหม๊นะคะ .... แต่นั้นคือหนทางของผู้ที่เคยถุกคุณไสยย์กระทำย่ำยี ... " ต้องทำ " เพื่อตนเองจะได้ไม่ต้องมาตกเป็นเหยื่อของพวกนี้อีกคะ ...

 

.... ส่วนเจ้าของกระทู้ ... กาลีนะ ก็ตอบไม่ได้หรอกนะคะว่าคุณโดนจริง หรือ เปล่า ... แต่หากโดนจริง .. คนที่ทำเขาก็ไม่ได้หวังเห็นคุณตาย แค่ต้องการเห็นคุณทรมานมากกว่าคะ .. ถ้าเชื่อในเรื่องของเวรกรรมมันก็อยู่ที่ว่า .. คุณรู้แล้วหรือว่าที่ต้องทรมานแบบนี้เพราะอะไร .. กรรมต้องแสดงสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้คุณทราบว่านี้ คือ ผลของกรรมเก่า ... ถ้ามีตัวเจ้ากรรมนายเวรเขาก็น่าจะแสดงตัวออกมาแล้ว และ มันมีช่วงเวลาของการรับกรรมอยู่คะ ...

.... การแก้ไขนั้นมันต้องแยก และ แตก ประเด็นออกไปหาเหตุเสียก่อน ... ในเมื่อคุณมีครูบาอาจารย์ทำไมไม่ลองให้ท่านช่วยละคะ .. แล้วตนเองก็ฝึกควบคุมจิตตนเองให้ดีเสริมเข้าไป ... หากจิตเราไม่เหลือช่องว่างให้เขาเข้ามากระทำได้ ....

.... การจุดธูปมันก็ช่วยได้แค่ครั้งคราวละคะ ไม่ใช่ทุกครั้ง .. แต่ถ้าเรารู้เหตุของปัญหา ... ทางแก้ก็จะง่ายขึ้นคะ .. ขอให้คุณผ่านมันไปได้โดยเร็วนะคะ

 

ตอนนี้เจ้าของกระทู้ว่าไงคะ

 

ขอขอบคุณญาติธรรมทั้งหลายที่เข้ามาช่วย ทั้งสอนสมาธิ และเป็นกำลังในการแนะนำต่างๆก่อนที่จะโพสต์กระทู้นีว่าดิฉันอายมาก เพราะต้องทำตัวไม่ดี คุณถึงต้องเจออวิชชาเล่นงาน หรือไม่ก็บุญไม่มีจึงเจอวิบากกรรม
แต่ก็ได้ขอว่า ว่าขอให้ได้เจอเพื่อนกัลยานิมิตร ช่วยทางจิตใจ หรือแนะนำทางออกเป็นแสงสว่างที

ทางคุณธรรมภูมิพูดถูก ดิฉันไม่สามารถให้อภัยได้เพราะการเจ็บช้ำทางร่างกาย และค่อยมาจิตใจมันตอกย้ำและบางครั้งก็แค้นขึ้นมาเช่นกัน ความเมตตากรุณา พยายามทำเช่นกัน ดิฉันเป็นคนเอาแต่ใจ พระอาจารย์ท่าน บอกว่าดิฉันเป็นคนดี ก็ดีใจหาย เวลาร้าย ร้ายเอาเรื่อง และท่านก็ยังบอกว่าเราต้องอโหสิกรรมเค้าก่อน ค่อยขอเค้ายกโทษให้คืน ทำให้เค้าบ่อย ๆ เสมือนเมื่อก่อนเราทำยืมเค้า 500 เค้าเรียกคืน 1000 ก็ต้องทำให้คืน
ที่นี้พระอาจารย์ท่านบอกว่าเราไม่ปล่อย คนทำก็ท่องเที่ยวแสนสบายต่อไหน ๆ แต่เราทุกข์ใจ ทุกข์กาย และไม่หนักแน่น เอาดีทางไหนไม่ได้สักอย่าง เพราะยังไม่อุเบกขา ถาท่านครูบาต่อว่าทำไง ท่านก็บอกว่า กำหนดไปสิ กำหนดสติไป ก็จะบอกตัวได้ ว่าใคร ทำไม และแก้ยังไง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ท่านชอบบอกว่า อ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น เห็นตัวตาย แต่การจะเก่งเช่นนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย เพราะไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครทำได้ แต่จะว่าโคตรยากส์คงจะใช่กว่าเพราะบารมี และคนที่ประสบผลนั้นมีเท่าไรกัน
ทางKalina คุณก็พูดถูก เค้าไม่ให้ตายหรอก แค่ทรมาณ เป็นอย่างนี้ตตัวตายลอดไป ดิฉันเคยหลุดพ้น และจะมากลับมาเป็นอีก มันขึ้นๆ ลงๆ อย่างนี้ จนตอนนี้คิดว่าจะเอาคืนบ้าง จะบวชโกนหัวไปเลยบ้าง และหลายครั้งที่อยากจะตายเลยดีกว่า เพราะเหมือนแผลเรื้อรัง หายแล้วมาเป็น จนข้องใจว่า วิบากรรมซ้ำ ๆ หรือคนจงใจทำ
ที่นี้ว่าด้วยอารมณ์เป็นคนเอาแต่ใจ แต่ก็เมตตาไม่กล้าแม่จะทำให้ใครเสียใจ แต่จุบันนี้ขณะเดียวกันดิฉันโกรธง่ายมาก ๆ ไม่เคยเป็นมาก่อน ฉุนเฉียวมาก ทำวจีกรรมใช้วาจาเผ็ดแทน และก็มาทุกข์ใจเรื่อยไป ไม่มีสติพอมี่จะยั้บยั้ง แม้แต่พ่อแม่ที่เป็นห่วงมาก ก็ยิ่งทำให้เครียด เพราะหนูก็อยากปกติ ไม่อยากทำให้เค้าห่วง การเป็นห่วงใย ทำให้กลายเป็นคนโกรธท่าน รำคาญมากมาย ไม่อยากให้เห็นว่าอ่อนแอ และหลายที ที่ต้องร้องไห้กับแม่ว่า ไม่ได้ตั้งใจ เป็นคนแบบนี้ ไม่ได้ตั้องใจทำให้เสียใจ แต่ก็ยังทำ ,,,,,,,,,,,,,,,,,,โกรธง่ายมาก ไม่รู้บางทีแค่เห็นเห็นหน้าแม่กับพ่อก็โกรธขึ้นมาเลย ...........ไม่อยากเป็นแบบอย่างนี้อีก คือจากใจสงสารแม่กับพ่อและตัวเอง

 

บุญยง โคกกระทา
ทางคุณนี้ดิฉันต้องจ่ายค่าครูยังไงค่ะ คุณนี้เป็นคนมีปัญญา บางอย่างก็เขียนให้คิด บางอย่างอ่านก็งง แต่ก็เพลินดี แต่ก็ยังไม่เข้าใจ และไม่ได้ลองสวดตามที่คุณแนะนำ กลัวเลือดออกทวารทั้ง 9 ไม่เข้าใจค่ะ

ที่นี้ว่าด้วยพระพุทธรูป กับดอกบัว
คือรูปท่านพระพุทธองค์นั่งประดับด้วยดอกบัวใช่ไหมค่ะ
เหมือนพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมใช่ไหมค่ะ
และแยกยังไง ก็คิดว่า คือรูปพระพุทะองค์คือแสงสว่างทางจิตใจ และดอกบัวคือปัญญาให้น้อมนำ นั้นรึเปล่า ก็คิดได้เท่านี้

และถามว่าช่วยได้ไหม ท่านนาจาก็ไม่เคยคิดไม่ชอบท่าน และทางคุณบุญยงไม่ได้มีความรู้สึกโกรธ หรือรำคาญ แล้วแต่วาสนา และเมตตาของท่านเทอญ เพราะก็ขอ เคยอธิฐาน จนตอนนี้ก็รู้สึกว่าหนี้บารมีที่หยิบยืมมาจากหลายที่ที่เคยขอให้ช่วย ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งบำเพ็ญประพฤติธรรม และเป็นคนดี จะเพียงพอชดใช้ไหม

 

และทุกท่านที่เข้ามาโพสต์หรือก็ต้องเคยเกี่ยวเนื่อง หรือดลใจมา จึงได้เห็นข้อความนี้ ที่นี้ก็ขอบพระคุณ แค่ดิฉันได้รับรู้ว่ามีคนอ่าน ก็ผ่อนคลายขึ้น เพราะถึงแม้การเข้าถึงพระอาจารย์สายกรรมฐาน ท่านมองว่าเป็นวิบากกรรม โปรดสอนให้นั่งทำ จนบางครั้งก็แอบคิดว่า การเกิดเวทนาบ่อย ๆ นี้คือเราชดใช้เค้าเหรอ
ส่วนพระอาจารย์ที่เก่งทางด้านศาสตร์มืด หรือทางไสยขาว เจอท่านหนึ่งโดย บังเอิญ ก่อนจะไปเข้ากรรมฐาน
ท่านบอกว่าโยมวันพรุ่งนี้ มาบิณฑบาตกับอาตมาอีกน่ะ โยมปกติผิวขาว แต่นี้โยมคล้ำ หน้าโทรมดำ เค้ากินโยมไปครึ่งตัวแล้ว............แต่ดิฉันก็บอกท่านว่าวันนี้ถ้าไม่ไปเข้ากรรมฐาน รู้ตัวว่าต้องตายแน่ๆ ไม่ก็บ้า ๆ สติจะหลุดแล้วรู้แล้วว่าพยุงสังขารไม่ไหว ขอลาท่านไป 7วัน และจากนั้นก็อธิฐานตลอดทางขอให้ตัวดิฉันไปถึงวัด ได้ด้วยเทอญ..........หลังจากครบ 7 วันกลับมาเริ่มมีสติมากขึ้น กว่าเดิมที่เคยมีนิดส์นึง เพราะจากแบบเบลอ ๆมึน ๆ บ่อย จาการที่ปวดหัว หรือก็ใจสั่นแบบมีคนมากระโดดที่หน้าอกอย่างนั้นเลยค่ะ
ก็ติดต่อ โทรหาเด็กวัดของท่าน ......ท่านบอกว่าท่านเป็นพระธุดงค์ ไม่มีวัด นัดมาเจอบ้านญาติธรรม ดิฉันนรกจะกินกบาลอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ บ้านนั้นคือบ้านเก็บของเก่า ดิฉันไปคนเดียว และท่านก็สูบบุหรี สายตาจ้องมอง ดิฉันนึกรู้ว่าสายตาของท่านประกายวาว และเจ้าชู้แบบชายมองหญิง ไม่รู้ว่าสติบอกดิฉันถูกรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดิฉันบอกตัวเองว่า นี้ไม่ใข่พระแล้ว ท่านก็บอกว่าจะอาบน้ามนต์ให้ แต่ต้องทำพิธี และเขียนวันเดือนปีเกิดมา และมีพี่ผู้หญิงคนนึง โผล่มา บอกว่าจะกลับแล้วพี่เค้าพึ่งอาบน้ำมนต์เสร็จ เลยบอกว่าถ้าพี่กลับหนูขอกลับด้วย ไม่ขอดูดวง เพราะหนูรู้ว่าชะตาหนูเป็นไง และที่นี้ต่อมาคือ หนูไม่อาบน้ำมนต์เพราะอาบจากวัดมาแล้ว และมาตามสัญญาแค่นั้นว่าจะขอพระเครื่อง ท่านก็หลับตาหันไปอีกทางพึมพำไรก็ไม่รู้ แต่ดิฉันก็คิดในใจตลอดว่าขอปิดดวง และอย่าตาม ท่านก็ลืมตา มองมาและถอนหายใจ ว่าไปทำไรมาเล่าให้ฟังก่อน .....จึงเรียนท่านว่า ไปท่านสอนอย่างนี้ว่า ถ้าโยมยังคุยกับต้นไม้ เชือผี กราบวัวควาย โยมจะห่างจากพระพุทธสาสนา ห่างจากพระ ห่างจากพระรัตนตรัย แต่ถ้าโยมทำในสิ่งดี พระย่อมรักษา บุญย่อมคุ้มครอง......ท่านก็หลับตา ท่านบอกว่าโยมมีอุเบกขา ไม่ได้ทำเพื่อใส่เค้าคืน ไม่งั้นจิตโยมแตกแน่ๆ ตายเลย และท่านก็บอกว่า ยังไม่หมดน่ะ แค่ดีขึ้นนิดหน่อย ส่วนพระเครื่องท่านก็ว่าไม่มีแล้ว มีแต่ไม้ค้ำชะตา แล้วแต่บูชา จึงตกลงบูชาจ่ายเล็กน้อย และกราบลาท่านเลยค่ะ แต่คุยจากสอบถามพี่ผุ้หญิงท่านนั้น พี่เค้าบอกว่าแม่นจริง ของจริง ..............แต่สำหรับตอนนี้ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่ามีบุญ หรือกรรมที่กลับมาไม่ให้ท่านช่วย และส่วนไม้ค้ำ ก็ยกให้พี่วินมอเตอร์ไซด์ไปให้เลย พอเขียนมาอย่างนี้หากเป็นการปรามาสพระสงฆ์ ก็กราบขอขมาอโหสิกรรม แต่ตัวความคิดมันบอกว่า ถ้าเข้าไปยุ่ง ครั้งนี้คงตกที่นั่งลำบาก แบบเห็นตัวตนแล้วอีกคน ...........แปลก......แต่ก็เป็นข้อคิด รู้เลยค่ะ สติสำคัญจริงๆ

 

สรุปว่าพระอาจารย์
1.ท่านให้กำหนดสติตลอดเวลา
2. ท่านให้เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย
3. สติจะบอกตัวเอง รู้เอง และจะแก้ได้เองค่ะ ท่านบอกมาอย่างนี้
แต่ท่านก็ฝากอยู่ว่า อย่ากลัวและต้องเชื่อมั่นมาก ๆ ให้ได้ก่อนค่ะ
ท่านว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม และให้ท่องบทพาหุงบ่อย ๆ ท่านบอกว่าเป็นบทพระพุทธเจ้าชนะมาร แต่ตอนนี้ก็ยังจับมาท่องอ่าน และจำไม่ได้ค่ะ
เวลานิ่งก็รู้สึกว่าอือของจริงน่ะ แต่เวลาหลุดหรือมาแบบรับไม่ไหวก็กลัว ได้เพียงแค่ว่าเอ่อพร้อมตายแล้ว ไม่มีร่างกายของเรา ไม่ใข่เรา คุมไม่ได้ ตายก็ตาย สิ่งที่ปรากฎขึ้นแก่ร่างกายรู้ว่าไม่เที่ยง มาไม่แน่นอน ไม่สม่ำเสมอ ทำดีมาพอเกาะบุญได้ล่ะ แต่แอบมีแต่พ่อแม่ที่คิดแล้วเสียใจ ยิ่งคิดรักห่วง ยิ่งทำผิดไม่เข้าใจ? คิดวนอยู่อย่างนั้น นี้คือไม่มีสติใช่ไหม? แต่บางครั้งก็นึกสติได้ที่คุณท่านหนึ่งแนะให้ดูลมหายใจ ก็ช่วยได้เยอะในทางใจ คือหายวุ่นวายใจ และทนสักพักก็ดับไป
และก็รู้ว่าห้ามป่วย ห้ามร่างกายเจ็บไม่ได้
แต่ทำไมจิตใจไม่หลุดออกจากการยึดมั่น ไม่เข้าใจเลยค่ะ

 

.. สาธุคะ ... ขอให้คุณพระคุ้มครองคุณนะคะ ..

... ความจริงการฝึกสมาธินั้นมีหลายรูปแบบนะคะ ไม่จำเป็นต้องนั้งสมาธอย่างเดียว .. คุณสามารถทำสมาธิได้ตลอดเวลาคะ .. แต่คุณต้องรู้จักตนเองให้ดีเสียก่อนคะ .. ทั้งสิ่งที่ดี และ ไม่ดี .. ลองพิจารณาถึงสัจจะธรรมของทุกสิ่งรอบตัวเมื่อได้คำตอบที่คิดว่าดีแล้วถุกต้องใกล้เคียงที่สุดแล้วนำมาปลงอนิจจังกับสิ่งนั้นสิคะ ... มันจะช่วยได้เยอะคะ อันนี้คือวิธีที่ กาลีนะ ใช้นะคะ ... หากแม้เวลาคุณท่องบทสวดมนต์แม้เพียงเล็กน้อยก็พยายามศึกษาว่าบทสวดแต่ละคำหมายความว่าอย่างไรเข้าใจมันให้ลึกซึ้ง แม้แต่เวลาที่เราโกรธลองถามตัวเองว่าโกรธทำไม ... ทำแบบนี้เป็นประจำคุณจะเย็นลง และ มีสติมากขึ้น .. เมื่อารมณ์คุณเข้าสู่ความรู้สึกว่านิ่ง สงบ เย็น สบาย เบา ว่างเปล่า.. รักษามันให้อยู่ในสภาวะนั้นให้ได้นานที่สุดนั้นคือ คุณประสบความสำเร็จมากแล้วคะ .. แต่ถ้าคนที่มีครอบครัวแล้วอาจเกิดปัญหานะคะ เพราะคุณจะไม่รู้สึกถึงอารมณ์ความต้องการเรื่องแบบนั้นเลย เมื่อนานเข้ามันจะเกิดความเบื่อหน่ายอยากหลุดพ้น ... ชีวิตคู่อาจมีปัญหาได้คะ ... และ หมั่นแผ่เมตตาให้คนที่มีเวรมีกรรมสัมพันธ์กัน ตนเอง พระรัตนะไตร และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บ่อย ๆ คุณจะหลุดพ้นจากความทรมานนั้นได้คะ ... ลองทำแบบที่ กาลีนะ ทำก้ได้นะคะ เพราะตัวเองที่รับรู้ได้ก็คือมันดีขึ้นมากคะโดยเฉพาะด้านอารมณ์

... หากคุณมีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา อะไรก็ทำร้ายคุณได้ยากคะ แม้เกิดขึ้นเมื่อคุณมีสติโดยเฉพาะตามที่แนะนำคุณจะได้ " ปัญญาเป็นของแถม " มาด้วยคะ

 

... อ้อลืมไปอีกเรื่องหนึ่งคะ .. คุณอาจจะต้องพยายามตัดตัวเองออกจากความวุ่นวายต่าง ๆ สักพักนะคะ จะช่วยให้คุณทำได้ดียิ่งขึ้น .. เพราะจิตเราจะได้ไม่ไปพะว้าพะวงกับเรื่องเยอะแยะมากมาย พยายามตัดออกไปคะ เอาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเราก่อนเรียงลำดับความสำคัญคะ... และหากคุณไปถึงภาวะที่ กาลีนะ บอกแล้วอยากจะลดลงอาจต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ แต่ละคนไม่เท่ากันคะ คุณพระคุ้มครองนะคะ

 

คุณคะเรามีพระของหลวงปู่ดู่ที่หลวงตาม้าแจกหลายองค์ค่ะ ต้องการมั๊ยคะจะแบ่งให้ แจ้งชื่อสกุลที่อินบ๊อกซ์นะคะจะส่งให้ฟรีค่ะ เพราะเราก็รับเมตตาจากหลวงตามาฟรีเหมือนกันค่ะ ณค

 

ขอบพระคุณน่ะค่ะ จะแจ้งให้ในอินบ๊อกซ์น่ะค่ะ
จิตเมตตา ปราถนาให้ สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

 

ส่งที่อยู่ทางเมลก็ได้นะคะ เผื่อไม่ได้เข้าเว็บค่ะ girlbearly@yahoo.com สู้ ๆนะคะ เอาใจช่วยค่ะ อ