จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]

    เอกัคคตารมณ์

    การทีจะทำสมาธิให้ได้ต้องกำจัดปัจจัยอันเป็นตัวขัดขวางการเข้าสู่สมาธิ คือนิวรณ์๕
    นิวรณ์ คือ อกุศลธรรมที่ทำให้จิตเศร้าหมองบั่นทอนปัญญา เป็นเครื่องกีดกั้นขัดขวางการทำงานและความดีงามของจิต
    ตัวทำลายคุณภาพของจิตไม่ให้สามารถเข้าสู่สมาธิ เป็นศัตรูของสมาธิ ต้องกำจัดเสียจึงจะมีสมาธิ หรือใช้สมาธิกำจัดเสีย
    มี5อย่างคือ

    ๑.กามฉันท์ คือโลภะและโมหะ ความอยากและหลงในกามคุณทั้ง 5 รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
    ๒.พยาบาทคือโทสะ ความขัดเคืองแค้นใจ ความโกรธ อาฆาต จองเวร
    ๓.ถีนมิทธะ ความหดหู่ เซื่องซึม ท้อแท้ เหงาหงอย
    ๔.อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่าน กลุ้มใจ วุ่นวายใจ รำคาญใจ
    ๕.วิจิกิจฉา คือความลังเลสงสัย ในธรรม ไม่มีศรัทธา ไม่เชื่อ หรืออวิชชา

    โดยสรุปก็คือ โลภะ โทสะ โมหะ ความหดหู่ของจิต ความฟุ้งซ่านของจิต และความลังเลสงสัยในธรรม

    นิวรณ์ทั้งห้านี้เป็นสิ่งที่ทำให้จิตไม่สามารถดิ่งลงไปสู่สมาธิ
    ทำให้ไม่สามารถใช้งานจิตไปสู่ขั้นวิปัสสนาการ ซึ่งก็คือการใช้งานทางปัญญา
    กำจัดนิวรณ์โดยโยนิโสมนัสสิการ การคิดพิจารณาอย่างแยบคายรอบคอบ
    ในนิวรณ์ทั้ง๕และธรรมต่างๆ ว่ามีเหตุปัจจัยอย่างไร ดำเนินอย่างไร มีผลอย่างไร

    การโยนิโสย่อมกำจัดนิวรณ์และส่งเสริมให้เกิด โพชฌงค์๗ คือ

    ๑.สติ การกุมจิตไว้ให้แนบสนิทกับอารมณ์ที่ตั้งมั่น เช่นลมหายใจในอานาปานสติ
    ๒.ธรรมวิจัย การสอบสวนพิจารณาในอารมณ์คือลมหายใจในขั้นทำสมาธิ และธรรมที่สตินำมาให้จิตพิจารณาในขั้นวิปัสสนา
    ๓.วิริยะ ความเพียร พยายาม มานะบากบั่นในการฝึกฝน
    ๔.ปิติ ความอิ่มเอิบ ซาบซึ้ง ปลาบปลื้ม ดื่มด่าของจิต
    ๕.ปัสสัทธิ ความผ่อนคลาย ความสงบทั้งกายและใจ
    ๖.สมาธิ ความตั้งมั่น ความมีจิตแน่วแน่ต่อสิ่งที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอไม่วอกแวก ไม่สัดส่ายฟุ้งซ่าน
    ๗.อุเบกขา ความวางนิ่งเฉยเป็นกลาง ไม่มีการปรุงแต่งอารมณ์เมื่อนำมาพิจารณาในขั้นวิปัสสนา

    โพชฌงค์๗ นี้เป็นสภาวะที่เหมาะสมของจิตในการที่จะทำสมาธิและวิปัสสนา

    สภาวะของจิตที่เป็นสมาธิจะมีลักษณะ

    ๑.มีความแข็งแรงมีพลังมาก ไหลพุ่งไปในทิศทางที่ควบคุมไว้อย่างแรง มิใช่การแพร่กระจาย
    ๒.ราบเรียบ สงบนิ่ง ไม่มีสิ่งใดมารบกวนให้กระเพื่อมไหว ไม่มีอารมณ์ใดๆเข้ามาแทรกแซง
    ๓.ใสกระจ่าง มองเห็นอะไรคิดพิจารณาอะไรได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง
    ๔.นุ่มนวลอ่อนโยน ไม่วุ่นวาย เร่าร้อน สับสน กระวนกระวาย

    ซึ่งเรียกสภาวะนี้ว่า เอกัคคตา เป็นสภาวะจิตที่ประกอบไปด้วยองค์๘คือ ตั้งมั่น บริสุทธิ์ ผ่องใส ปลอดโปร่ง โล่ง เกลี้ยงเกลา
    ปราศจากสิ่งมัวหมอง นุ่มนวล ควรแก่งาน อยู่ตัวคงที่ไม่วอกแวกหวั่นไหว เป็นสภาวะที่เหมาะแก่การใช้งานด้านปัญญาวิปัสสนา
    เพื่อให้เกิดการรู้แจ้งหรือใช้ในการงานด้านพลังจิตอภิญญาสมบัติต่อไป


    สภาวะของอารมณ์ที่ผู้ปฏิบัติธรรม ต้องการให้เข้าถึง คือ เอกัคคตารมณ์ ...
    เมื่อเข้าถึงอารมณ์นี้แล้ว จะเปรียบเสมือน ฐานที่ตั้งมั่นของการพัฒนาจิตให้เกิดปัญญา
    จิตจะอยู่ใน สภาวะที่สำรวมจิต ตลอดเวลา ตรงจุดนีเอง ที่ท่านภูทยานฌาน แนะนำหลายต่อหลายครั้ง...

    หมั่นฝึกจิต ให้สามารถเข้าถึง เอกัคคตารมณ์ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยอิริยาบถ กายเคลื่อนไหว ลืมตา ทำภารกิจต่างๆ
    จะมีประโยชน์มาก เพราะเปรียบเสมือน เราสามารถปฏิบัติธรรมเข้าสมาธิ ได้ตลอด 24 ชม โดยที่ไม่ต้องไปรอเวลา กายนิ่ง สถานที่เงียบ สงบสงัดแล้วจึงเริ่ม นั่งสมาธิวิปัสสนา อย่างนั้น คงไม่ทันกินแน่ ถ้ามุ่งหวังที่จะ หลุดพ้น เข้านิพพาน ต้องปฏิบัติธรรมแบบลืมตาควบคู่ไปกับภารกิจทางโลก ดีที่สุด

    วันนี้จึงอยากมาขอขยายธรรมตรงนี้เพิ่มเติมให้ละเอียดขึ้น และเป็นการทบทวนธรรมไปด้วยในตัวด้วย
    เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ปฏิบัติท่านอื่นบ้าง ...ถึงแม้ว่า หลายๆท่านคงอาจจะรู้แล้ว ก็ให้ผ่านไปก็แล้วกัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2013
  2. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  3. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    therd2499, Natcha@uk, Golden Sky, อนุรุทธ, yellowest


    คุณyellowest มาฝึกด้วยกันนะครับ อย่ามัวแต่เกาะขอบกระทู้

    กลับบ้านด้วยกันครับ ผมจะได้มีเพื่อนด้วยครับ
     
  4. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สาธุอนุโมทนา กับงานบุญที่วัดสันติวงศาราม ที่พระองค์ท่านได้โปรด

    พระราชทาน องค์กฐินพระราชทาน ซึ่งผู้ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพกฐิน มีความปิติด

    ดีใจที่มี่ส่วนร่วมในงานบุญกฐินพระราชทานครั้งนี้ ซึ่งโอกาสที่จะได้ร่วมงาน

    กฐินพระราชทานแบบนี้ ในชีวิตนี้ของผู้เขียนไม่ทราบว่าจะมีโอกาสอย่างนี้

    หรือเปล่า ความปลื้มปิติในครั้งนี้ผู้เขียนขอจดจำไปจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่

    ...ขอน้อมกราบแทบพระบาทของพระองค์ท่าน และขอพระองค์ท่านและ

    ทุกๆพระองค์ทรงพระเจริญเจ้าค่ะกราบ กราบ กราบแทบพระบาทเจ้าค่ะ...
     
  5. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สาธุอนุโมทนา กับงานบุญที่วัดสันติวงศาราม ที่พระองค์ท่านได้โปรด

    พระราชทาน องค์กฐินพระราชทาน ซึ่งผู้ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพกฐิน มีความปิติด

    ดีใจที่มี่ส่วนร่วมในงานบุญกฐินพระราชทานครั้งนี้ ซึ่งโอกาสที่จะได้ร่วมงาน

    กฐินพระราชทานแบบนี้ ในชีวิตนี้ของผู้เขียนไม่ทราบว่าจะมีโอกาสอย่างนี้

    หรือเปล่า ความปลื้มปิติในครั้งนี้ผู้เขียนขอจดจำไปจนกว่าชีวิตนี้จะหาไม่

    ...ขอน้อมกราบแทบพระบาทของพระองค์ท่าน และขอพระองค์ท่านและ

    ทุกๆพระองค์ทรงพระเจริญเจ้าค่ะกราบ กราบ กราบแทบพระบาทเจ้าค่ะ...
     
  6. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    พึงระวังความคิดที่เกิดจากการปรุงแต่งของใจ (สังขารขันธ์)



    [​IMG]



    [​IMG]
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=67XLnqhNb3w]ท่านจิตโต บ้านสบายใจ - ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ - ปกิณกะธรรม อย่าสนใจในจริยาผู้อื่น สุดท้ายไปนิพพา�[/ame]

    อย่าสนใจในจริยาผู้อื่น
    สุดท้าย...ไปนิพพาน



    http://youtu.be/zV-NVZnzUUs
    ม้วนนี้ ยิ่งชัดใหญ่เลย ตามฟังกันให้ได้นะ
    โดยเฉพาะ ผู้ปฎิบัติธรรม หรือผู้ที่จะเอาดีทางมรรคผล ต้องฟัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 ตุลาคม 2013
  8. mzbot

    mzbot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2012
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +963
    [​IMG]
    ผู้หญิงในภาพ(ล่าง)ทำไม ยืนค้ำ หัวพระอย่างนั้น ดูภาพแล้ว ไม่เข้าท่าเลยครับ ทำไมไม่นั่งคุกเข่าลง ขนาดภาพในหลวง(บน)พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์โดยแท้ แต่ท่านยังนอบน้อมต่อสถาบันศาสนา(ภาพบน) แต่ผู้หญิงในภาพเป็นใครก็ไม่รู้ เห็นภาพแล้วไม่สบายใจเลย


    [​IMG]
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    นึกอยู่แล้วเชียวว่า จะต้องมีคน(ตาดี)เห็น มีคนวิจารณ์ผู้นี้แน่
    ตอนแรก ผมเองก็คิดเช่นเดียวกับคุณ และอาจจะอีกหลายท่านด้วย

    แต่ผมมองเห็นตัวสังขารของตนชัดเจน มันดิ้นพรวดพลาดภายในขันธ์๕ของตนเอง
    ดีนะ ตอนนี้ เราไม่ครบตัวสังขารตนเอง ไม่ครบแล้ว คราบมนุษย์
    ก็เลยมายืนดูมันอยู่ภายนอกกายใจ ก็เลยไม่แสดงออกมาข้างนอกให้ผู้คนพบเห็น

    อย่างไรเสีย ผมต้องกราบขอขมากรรม หรือขอโทษแทนหญิงผู้นั้นด้วยละกัน
    คุณก็อย่าเอาจิตไปติดอยู่ตรงนั้นนานก็แล้วกัน เปลียนจิตมองเห็นแต่บุญกุศลก็แล้วกัน
    ผมเข้าใจคุณ ผมเข้าใจผู้หญิงท่านนั้นด้วย
    โมทนาสาธุครับ
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    เอ๊า นี่เลยครับ
    จัดให้ สำหรับคนชอบภาพ+เสียงประกอบดนตรี
    ในการทำสมาธิจิต ช่วยให้จิตใจสงบสุขได้บ้าง
    หรือยังเข้าไม่ถึงความสงบภายในของตนเอง


    เมื่อก่อน ข้าพเจ้าเองก็ชอบมากเลย ชอบเสียงเบาๆ เย็นๆ
    ยิ่งเป็นทิวทัศน์ ภูเขา น้ำตก น้ำธารไหลเอื่ยๆ ต้นไม้ ดอกไม้ละก้อ ช๊อบชอบ

    แต่ตอนนี้ไม่ต้องการแล้ว ตั้งแต่ตามหาจิตตนพบเจอแล้ว
    ทำสมาธิเองได้ เข้าถึงความสงบสุขภายในจิตตนเองแล้ว

    เพราะฉะนั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไม่มีความจำเป็นต่อตนเอง อีกต่อไปแล้ว
    ในขณะปฎิบัติธรรมเอง อยู่กับกาย อยู่กับจิตของตนไปนั้น
    แทบจะไม่มีเวลาจะมาดูอย่างอื่นเลย เฝ้าดูแต่กายใจของตนเอง
    ดูกายเคลื่อนไหว ในขณะที่กายทำหน้าที่หรือการงานไปกับทางโลก
    และก็ดูจิตของตนเองพร้อมกับดูกายตนไปด้วย แต่ก็ไม่เหมือนดูจิตอย่างเดียว
    แต่เราต้องไม่มีภาระหน้าที่กับทางโลกแล้วนะ ก็ยิ่งชัดเจน สมาธิปักดิ่งลึกลงไปอีก

    การปฎิบัติธรรม คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า การทำให้จิตเป็นสมาธินั้น จะต้องนั่งหลับตาอย่างเดียว
    หรือจะต้องละจากหน้าที่กับทางโลกก่อน อันนี้เป็นการเข้าใจผิดอย่างมหันเลย
    เพราะการปฎิบัติธรรมนั้น ไม่ว่าจะทำกิจการอันใดอยู่ก็ตาม เราก็แค่มีสติระลึกรู้ตัวอยู่เสมอๆ
    พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ปฎิบัติจำเป็นต้องมีสมาธิจิต หรือสำรวมกายใจอยู่ตลอดเวลา (ถ้าเป็นไปได้)
    แต่ถ้าหากผู้ใดทรงเอกัคคตารมณ์ก็จะยิ่งดีใหญ่เลย เพราะสมาธิก็จะกลายเป็นอธิสมาธิ หรือสัมมาสมาธิ
    คือสมาธิจะเข้มข้นเข้าไปอีก สมาธิจจึงเปรียบสมือนบาทฐานของคำว่า ปัญญา
    ปัญญา เสมือนเป็นบาทฐานที่ทำให้จิตคนเราเข้าใจธรรม เข้าถึงธรรมได้ง่ายดายเป็นที่สุด

    สภาวธรรม จึงหมายถึง สภาวะจิตของผู้ปฎิบัติธรรมเอง
    มิใช่ สภาวะอะไร สิ่งใด หรือว่าของใครเลย

    สภาวธรรม หรือสภาวะจิตนั่นก็คือ การเข้าถึงสภาวะแห่งธรรมชาติของจิตตนเอง
    เมื่อไหร่ เราพบความสงบแห่งจิตของตนได้ เราก็จะได้อานิสงส์แรกสุดในการปฎิบัติธรรม
    แต่มิใช่ หมายความว่า เราบรรลุธรรมกันนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด เพราะนี่แค่การเริ่มต้นเท่านั้น
    แต่ถ้าเป็นกรรมฐาน ก็เรียกว่า สมถะกรรมฐาน คือเน้นจิตสงบอย่างเดียวก่อน
    แต่จิตต้องเดินทางต่อไป ยังวิปัสสนาอีก กว่าจะถึงวิปัสสนาหรือวิปัสสนาญาณกัน
    แทบคางเหลือง เพราะมีทางแยกเยอะแยะมากมายยิ่งนัก
    นั่นหมายถึง เราจะต้องหลง ต้องสอบตกกันเป็นว่าเล่น แต่นั่นมิใช่ความถูกหรือผิด แต่อย่างใด
    ตราบใด ถ้าผู้ปฎิบัติธรรม ยังทำอินทรีย์ของตนไม่ครบ หรือไม่สมดุลย์
    ย่อมจะเกิดความผิดพลาดได้โดยง่าย ในขณะที่จิตเดินมรรคา
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    ใจลุ่มๆ กันเข้าไว้ก่อนนะโยม
    มาฟังเสียงสบายๆ นี้กันนะ
    สมาธิจะได้เกิดกับจิตของตน
    กระทู้นี้ ขอเชิญร่วมแสดงออกได้เต็มที่
    เพราะกระทู้นี้ เจาะรูไว้เรียบร้อยแล้วจ้า รับรองไม่มีคำว่า เต็ม
    ปล่อยทิ้งลูกเดียว

    จาก..สมาคมไม่ครบ[คราบ]มนุษย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 ตุลาคม 2013
  12. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  13. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]


    คติธรรม หลวงปู่คำดี ปภาโส ​


    ความจริงจิตใจของเราเองเป็นตัวก่อทุกข์
    สังเกตได้จากพระอรหันตสาวกทั้งหลาย เมื่อท่านมีความรู้ มีปัญญาคุ้มครองรักษาใจท่านดีแล้ว
    ท่านก็ไม่มีทุกข์ เพราะท่านไม่ปรารถนาในสิ่งต่างๆ เมื่อเราประสบกับ
    รูป กลิ่น เสียง หรืออื่นๆ ก็เพราะใจเรามีตัณหา ปรารถนา ทะเยอทะยาน
    ยินดียินร้ายในสิ่งเหล่านั้น ทำให้เราเป็นทุกข์

    ไม่ใช่ว่ารูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ หรือสิ่งอื่นๆ ที่จะได้มาเผาเราให้ร้อนเป็นทุกข์
    ตัวของเราเองที่เป็นไฟมาคอยเผาตัวเอง

    การภาวนา ท่านต้องการให้เราปราบกิเลสของเราเท่านั้น คือเห็นความโลภ
    เห็นความโกรธของตน เห็นความหลงของตน เห็นราคะตัณหาของตน
    เห็นมานะทิฏฐิของตน

    นี่แหละ บรรดาสิ่งสมมติที่เราไปยึดถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้น
    ก็จะได้เพียงชีวิตหนึ่งๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือสมบัติต่างๆ
    เมื่อเราตายไปแล้ว เราจะยึดถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเราอีกไม่ได้
    เราจะเอาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นติดตามไปสวรรค์ นรก หรือที่ไหนๆ ก็ไม่ได้
    ตรงกับคำว่า
    "สมบัติของโลก ก็ต้องอยู่ในโลก"


    Cr.. FB ศิริกุล ชีวะถาวร
     
  14. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]


    พลังพระพุทธคุณ
    คือ ...
    พุทโธอัปปมาโณ​


    พระสูตรก็ดี พระธรรมวินัยก็ดี แม้นกระทั่งคำสอนของพระสงฆ์สาวกก็ดี
    ก็ต่างล้วนมาจากพระธรรม หรือคำสอนของพระพุทธองค์ แทบทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้น ผู้เจริญทั้งหลาย อย่าเอาแต่จดจำ นำธรรมขึ้นสมองกัน
    แต่สาระมันอยู่ที่ สัทธรรมต่างหากเล่า...
    คือนำมาปฎิบัติ ซึ่งความหลุดพ้น หรือปล่อยวางกับกิเลสตัณหาฯของตนเอง
    ทุกข์ของใคร ฉันไม่แคร์ แต่ถ้าหากบังเอิญทุกข์นั้นถึงตามาเยือนเราบ้าง
    เราจะทำยังไง..ก็รับไปเต็มๆเท่านั้นเอง

    ธรรมทั้งหลาย พระสงฆ์สาวก ปฎิบัติตามพระธรรมของพระตถาคต ย่อมพากันหลุดพ้น
    ซึ่งความทุกข์ ซึ่งภัยวัฎฎะของตนเอง

    ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ พระตถาคตตรัสเหมือนกันหมดทุกพระองค์ ให้ดับเหตุแห่งธรรมนั้น เสียได้

    พระตถาคต ทรงแสดงธรรมอย่างงดงาม งามทั้งเบื้องต้น งามท่ามกลาง งามที่สุด...

    ๐ งามเบื้องต้น คืองามด้วยศีล ต่อไปผู้ปฎิบัติจักต้องทำศีลของตนให้เป็น อธิศีล
    คือ เพรียบพร้อมด้วยกรรมบถ๑๐ จึงจะพ้นอบายภูมิ...
    เมื่อตายไปแล้ว จะจุติที่ไหน ถ้าไม่ใช่ เทวภูมิ หรือเทวโลก

    ๐ งามท่ามกลาง คืองามด้วยสมาธิ โดยเฉพาะ อธิจิต...
    คือทำสมาธิให้เข้มข้น จิตจึงจะพ้นธรรมารมณ์ต่างๆ นิวรณ์๕ หรือกิเลสต่างๆ
    เมื่อตายไปแล้ว จะจุติที่ไหน ถ้าไม่ใช่ พรหมภูมิ หรือพรหมโลก

    ๐ งามที่สุด คืองามด้วยปัญญา โดยเฉพาะ อธิปัญญา ...
    คือเจริญปัญญาให้เป็นปัญญาญาณ จึงจะพ้นภัยวัฎฎะของตนเอง
    หรือมีอธิปัญญาตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน
    เมื่อตายไปแล้ว จะจุติที่ไหน ถ้าไม่ใช่ นิพพาน...


    (ธรรมนี้เหมือนจะเคยอ่านจากที่ไหนจำไม่ได้แล้ว)

    สรุป นี่ก็คือ ความหมายของคำว่า พุทโธอัปปมาโณ...
    บอกแล้ว พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ หาที่สุดหรือหาประมาณมิได้
    ให้จิตเราเข้าให้ถึง อะไรก็ได้ทั้งสามอย่างนี้
    ซึ่งก็มีอยู่ทั่วไป อยู่ทุกอณูทุกรูขุมขนทุกลมหายใจ แต่จะหากันเจอหรือไม่



    ภูทยานฌาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2013
  15. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  16. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ความระมัดระวังสำรวมอินทรีย์ นั่นแหละเป็นศีล

    -จิตตั้งอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง-

    ...เรียกว่า สมาธิ ตัวรู้สภาวธรรม...

    ...หรือการกำหนดอารมณ์นั้นเป็นตัววิปัสสนาปัญญา...

    -เป็นปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน-

    ...จึงจะกำจัดตวามยุ่งเหยิง วุ่นวายในหัวใจของเราได้...

    ...พระธรรมคำสอนของหลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่...

    ...กราบนมัสการหลวงปู่เจ้าค่ะ และกราบน้อมรับพระธรรมคำสอนเจ้าค่ะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2013
  17. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    อริยสัจนี่แลเป็นสถานที่อยู่แห่งอมตธรรม เมื่อได้เปิดทุกข์ สมุทัยออกมาให้หมด

    สิ้นลงไปแล้ว ด้วยมรรค คือ เครื่องมืออันทันสมัย ความหิวกระหายโดยประการทั้งปวงก็

    ดับลงไปที่เรียกว่า นิโรธ เราจะได้ดื่มอมตธรรม ที่เรียกว่า อมตจิตก็ได้ อมตธรรมก็ได้

    คงเส้นคงวาเป็นอนันตกาลอนันตจิตหาระหว่างไม่ได้ ไม่มีกาล ไม่มีสถานที่

    เข้าไปเกี่ยวข้องได้เลย ให้ปิดลงที่นี่...

    ...พระธรรมตำสอนขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ๕ กันยายน ๒๕๒๑

    ...น้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเก้ลาเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2013
  18. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]


    ~กายทำงานตามหน้าที่เท่านั้น

    จิตใจไม่ต้องไปมีอารมณ์ด้วย สังขารหยุดปรุงแต่งธรรม

    มองทุกอย่างให้เห็นว่า มันเป็นไปของมันอยู่อย่างนั้นเอง

    ทำใจให้สบาย ร่างกายที่เห็นอยู่ ไม่ช้าก็จักสลายไป

    จักสนใจทำไมกับเรื่องต่างๆ ในโลก โลกนี้ไม่เที่ยง โลกนี้เป็นทุกข์

    โลกนี้เป็นอนัตตา จงวางใจให้ล่วงออกจากโลกนี้เสีย

    อย่าไปขัดข้องขุ่นเคืองกับเรื่องใดๆทั้งหมด วางภาระทุกสิ่งทุกอย่างในโลกลงเสียในจิต

    กายทำงานตามหน้าที่เท่านั้น จิตใจไม่ต้องไปมีอารมณ์ด้วย~



    พระราชพรหมยานมหาเถระ หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑๖ หน้า ๑๑๖
    รวบรวมโดย : พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
     
  19. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุ ลูกขอก้มกราบแทบเท้าหลวงพ่อฯ ด้วยเศียรเกล้า สาธุๆๆ
    ป๊าดดด เธอนี่ ก็ช่างไปค้นหาธรรมะมาจริงๆ เน๊อะ
    อย่างนี้เขาเรียกว่าไร ถ้าไม่ใช่ โดนๆๆ
    คุณแนท คุณเพ็ญยูเค ช่วยไปบอกกับคุณสำรวยให้รับทราบด้วย
    จิตพร้อมกันแล้วนะ งั้นก็เดินหน้าเต็มตัวเลย งานนี้ อย่างอื่นไม่เกี่ยว ใจอย่างเดียว
    ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ
    แต่ถ้าจิตไม่พร้อมซะอย่างเดียว อย่างอื่นก็ไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว จบเฮ่.
     

แชร์หน้านี้

Loading...