จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

โมทนาสาธุกับธรรมทานของคุณมาลินี UKด้วยครับ

เมื่อก่อนท่านนี้ก็อยู่ดีๆอยู่แล้วนะ แต่ตอนนี้ ท่านอยู่สุขสงบสบายไม่ได้แล้ว
เพราะอะไร ก็ให้ไปถามท่านดูกันเอง
ซึ่งก็มีอยู่หลายท่านเหมือนกัน อยู่เฉยไม่ได้แล้ว จะต้องออกมาทำหน้าที่ของตน
รวมทั้งตัวกระผมเองด้วย การกระทำหน้าที่กันตรงนี้ได้ต้อมมีกำลังใจมากกว่าคนปกติธรรมดา
อย่าไปสนใจผู้อื่น ขอให้ดู ให้ถามเจตนาของตนเอง ว่าทำแบบนี้เจตนาดีหรือไม่
แต่ถ้าใจเราทำไปเพราะความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็ทำต่อไปเห่อ แต่บางทีอาจมีตัวทดสอบบ้างก็ไม่เป็นไร
ก็แค่สิ่งกระทบ ก้แค่เกิดดับเท่านั้นเอง อย่างอื่นไม่มี คอยสังเกตด้วยสติปัญญาตนเอง
ทุกวันนี้ เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว ผมว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าจิตของตนเองแล้ว
โดยเฉพาะธรรมในจิต ธรรมที่ปฎิบัติตามพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของพระองค์
ขอให้พวกเราเดินตามพระองค์ พระสาวกทุกๆท่านด้วยเถิด
เพราะท่านทำเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเราดูไปหมดแล้ว
ผมเองก็จางหายหรือคลายความสงสัยในธรรมไปหมดแล้ว
โดยเฉพาะ คำว่า พระรัตนตรัย

พอเราทำเพื่อตนเองได้แล้ว คือจิตรอด หรือจิตพร้อมเจอทุกสภาพ ทุกปัญหา
ต่อไปถึงจะมีกำลังใจกระทำเพื่อคนอื่นได้
โมทนาสาธุธรรมาทานของคุณพี่มาลินีอีกครั้งนึง..สาธุ

 

ทำอะไรก็ได้
แต่อย่าให้จิตเคลื่อนออกจากสมาธิ

ตราบใด จิตยังไม่เข้าวิมุติ
สติจะไม่เที่ยง ตัวจิตเองก็ไม่เที่ยง เช่นเดียวกัน
เผลอสติเมื่อไหร่ จิตก็จะคล้อยตามโลกทันที

ใครถนัดทำสมาธิจิตแบบไหน ก็ให้ปักไว้แน่นๆ

จิตเด็ก คือจิตที่มิได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีนั้น จิตก็เสมือนน้ำหรือของเหลว
ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำตลอดเวลา คือจิตจะไหลไปตามกระแสกิเลสแห่งตนและอื่นๆ

ผู้ไม่ประมาท ต้องขยันทบทวนในสิ่งที่ตนปฎิบัติได้มาแล้ว เช่น อาการที่จิตยกใหม่ๆ เป็นต้น
ผู้ที่ขยันจริงๆ คือเฝ้าปักหลัก อยู่ยามดูจิตตนเอง ไม่มีพลาดสักรายเดียว
สำหรับผู้ปฎิบัติมักไม่เอาจริง คือมัวไปสนใจจริยาผู้อื่น ธรรมในจิตก้ไม่เกิดสักที
พอครูบาอาจารย์พูดเรื่องจริงมาทีนึง เราก็แค่พูดว่า ใช่ครับๆ ใช่ค่ะๆ อยู่แบบนี้
เห็นคนส่วนใหญ่ไปรู้เห็นมาจากปัญญาผู้อื่นทั้งนั้น
ไม่สงสัยตนเองกันบ้างหรือว่า..ทำไม ธรรมะจึงไม่ไหลหรือไม่ผุดภายในจิตของเราบ้าง
เมื่อธรรมะไม่ผุดขึ้นมาในจิตตนเอง ก็เพราะว่ามัวไปหาปัญญาหรือธรรมะจากที่อื่น
ปฎิบัติให้ถูก ปฎิบัติให้จริงจังกันสิ เราจึงจะได้ธรรมประจำจิตตน
จิตของเราอยู่ที่เรา ทำไมไปสนใจอย่างอื่น ที่มิใช่เรื่องจิตตนเอง
สิ่งที่อยู่นอกจิตของคนเรานั้นก็คือ สิ่งสมมุติแทบทั้งสิ้น หาความจริงมิได้
พระพุทธเจ้าหรือพระสงฆ์สาวกก็พร่ำสอนพวกเรามาโดยตลอดว่า ธรรมหรือความจริงนั้น
ก็อยู่ภายใน คือจิตตนเอง

สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน ตามที่หลวงพ่อจรัญฯกล่าวมาก็ถูกต้องที่สุดเลย
เพราะความแรงผิดกัน กำลังใจก็ย่อมผิดกันเป็นธรรมดา
เปรียบเสมือนรถยนต์ยี่ห้อเดียว ต่างกันตรงเครื่องยนต์ รุ่น๑๕๐๐ ซีซี หรือ ๓๐๐๐ ซีซี เป็นต้น

ถามว่ากำลังใจของตนทำไมมันน้อยกว่าคนอื่นเขาหล่ะ
ก็ให้ตอบตนเองกันให้ได้ ว่าเป็นเพราะอะไร

วันๆนึงเรายังหลงไปวิ่งตามสิ่งสมมุติหรือทางโลกเหมือนเดิมหรือเปล่า

สำหรับคนจิตตกก็อย่าหลงไปโทษคนอื่น สิ่งอื่น หรือกายมันป่วย
สำหรับคนที่อ้างว่า จิตตกเพราะคนอื่น สิ่งอื่นหรือว่า กายป่วยละก้อ
นั่นแสดงว่า เรายังไม่สามารถแยกกาย แยกจิตได้เด็ดขาด
ขอให้ดูตัวอย่างพระอริยสงฆ์ บางท่านอายุขัยก็มากกว่าเราเป็นไหนๆ
ทำไมท่านยังเหมือนไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนอะไร เพราะว่าท่านแยกกาย แยกจิตออกจากกันเด็ดขาด นั่นเอง
เช่น เรื่องเวทนาเป็นเรื่องของกายหยาบ มิใช่เรื่องของจิต

แต่ถ้าผู้ใดแยกได้แล้วก็รอดตัวไป เบาใจไป ความกลัวหรือความตายย่อมไม่มีความหมายแล้ว
อยู่กับกายหยาบ กายสกกปรก กายเต็มไปด้วยกองกิเลสหรือกองทุกข์ไป โดยไม่เอาจิตไปยึดเกาะกับมันเท่านั้นเอง
ทุกข์แต่กาย แต่อย่าให้ใจของเรามันทุกข์ก็แล้วกัน

ขอโมทนาบุญกับจิตทุกดวง ที่(พยายาม)ปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น

 

สำหรับผู้ที่กำลังหลงไปตำหนิ นินทา ด่าหรือว่าร้ายผู้อื่นอยู่นั้น

ปล่อยเขาไปเถิด...อย่าไปสนใจ

เพราะผู้คนเหล่านั้น กำลังเผาผลาญตนทางอ้อม
กำลังใช้พลังงาน(บวก)สิ้นเปลือง โดยไร้ประโยชน์
หารู้ไม่ กำลังเปิดประตูใจรับเอาพลังงานลบเข้าไป
ซึ่งไม่เป็นผลดีกับตนเองเลย

แสดงว่า ยังเข้าไม่ถึงจิตตนเอง ยังไม่เข้าใจธรรม
ก็เลยหลงไปกับสิ่งภายนอกจิตตนเอง
แต่ถ้าเข้าถึงกระแสจิตตนย่อมเข้าใจกระแสธรรม ย่อมดูตนเป็นหลัก

โดยเฉพาะเข้าถึงธรรม จิตย่อมอยู่กับธรรม ธรรมย่อมอยู่ภายในจิตตนตลอดเวลา
ย่อมมองเห็นตามความเป็นจริงนั้นๆ หรือแทงตลอดสาย

การปฎิบัติธรรม เน้นอยู่กับปัจจุบัน
อยู่แบบไหน?ปัจจุบัน มิใช่อยู่ไปเรื่อยๆ ไร้ทิศทาง ไร้จุดหมาย
คือทำจิตเป็นสมาธิ+อยู่แต่ปัจจุบัน คือทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ คิดอะไรก็ได้
ให้อยู่แต่ฝ่ายบุญ ฝ่ายกุศลเท่านั้นเป็นพอ

ถ้าเรามีสติ มีปัญญา โดยเฉพาะมีธรรม ย่อมนำพากายไปในทางที่ดี ที่เรียกว่าบุญกุศล
จิตที่ไร้สติปัญญา ก็ไม่ต่างกับตัวหนอน ตัวด้วง เห็นมีแต่จะตกเป็นเหยื่อของฝูงนก ฝูงปลา จะเป็นอื่นใด มิได้
แต่ถ้าคนเรายังไร้สติปัญญาหามีธรรมไม่ กายหยาบหรือกิเลสหรือทุกข์ ก็จะดึงเราให้ตกต่ำหรือเป็นทุกข์อยู่ร่ำไป

 

ของเก่าหมายถึงวิชาสามครับพื้นฐานจับภาพพระเหมือนกันทำไม่ได้ให้มันตายไป

ว่าแต่ครูเกษคือใครครับ

 

ปัดโธ๊ะ...นึกว่าใครที่ไหน..เป็นพี่ภูนี้เอง...ที่เรียกออกมาจากถ้ำ (อิๆๆ)...ขอบอกว่ากลับมาเจอสิ่งกระทบที่นี้ มันส์ยิ่งกว่าตอนที่อยู่เมืองนอกซะอีก...เป็นบททดสอบคนละแบบกันเล๊ย...

แหม๋..นักกีฬาถ้าไม่ลงสนามแข่งจริง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าที่ซ้อมๆ มามันเป็นยังไง จริงป่ะ...ก็อย่างที่พี่ภูกล่าวไปแล้วนั่นแหล่ะว่า ถ้าจิตยังเดินทางไปไม่ถึง "วิมุตติ" ยังไงๆ สติก็ไม่เที่ยง จิตก็ไม่เที่ยง เช่นกัน...บอกเลยว่าเผลอสติไม่ได้เลยจริงๆ ประมาทไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว...แต่กระนั่นก็เถอะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี มันเป็นบทเรียนราคาแพงทั้งนั้นเลย ถ้าไม่เคยตกฌาณซะบ้าง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า(มันเจ็บขนาดไหน เอวเคล็ดไปเป็นเดือนเลยแร๊ะ..555..ไม่ช๊ายยย) แล้วจะรู้ถึงความแตกต่างของอารมณ์จิตที่อยู่ในฌาณอ่อนๆ ในขณะลืมตาตลอดเวลาในชีวิตประจำวันเรานี้ได้อย่างไรเล่า...

โฮ๋ย..พอตกปุ๊ปนี้น่ะ มันรู้เลยทันทีทันใด ไม่ต้องไปวิ่งหาบันไดที่ไหนเลย แต่มันรีบกระโดดขึ้นฌาณมาเลยทันที..555..ก็กรูรู..แล้วนิ..ไอ้เจ้ากิเลสเอ๋ย..ว่าพวกเจ้าร้ายขนาดไหน..เราไม่มีวันไปวิ่งตามพวกเจ้าอีกแล้ว..แต่ว่า..ก็ยังประมาทไม่ได้อีกเด็ดขาดไปจนกว่าจะถึงวันนั้นจริงๆ..สติห้ามห่างจิตเป็นอันขาดจำเอาไว้..

บททดสอบที่นี้ช่างมีสีสันยิ่งนัก...กระทบ กระแทก กระทั้น...แต่กลับไม่กระเทือน...แต่มันกลับสะท้อนไปหาคุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ที่มีอยู่ในจิตเราแล้ว...น้ำตาแห่งความปีติ ซาบซึ้ง หลั่งไหลออกมาๆๆ เหมือนเขื่อนไม่มีทำนบกั้นน้ำยังไงยังงั้น มันยิ่งทำให้รู้สึกรักเคารพศรัทธาเทิดทูนบูชาในคุณงามความดี ความอดทน ความเสียสละของพระพุทธเจ้าอย่างหาที่สุดมิได้ยิ่งนัก..ถ้าหากลูกไม่มีพระธรรมของท่านพ่อไว้ในจิต..ฉไนเลยจิตลูกจะมีเกราะแก้วครอบไว้เผื่อป้องกันกิเลสร้ายต่างๆ เหล่านั้นได้...ไม่อย่างนั้น..จิตลูกก็คงจมอยู่ในวงเวียนแห่งกองทุกข์ กองกิเลสอย่างหนาตราช้างเยี่ยงนี้ตลอดไปไม่รู้อีกกี่อสงไขยกัปกัลป์...สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีอีกครั้งค่ะ ครูเกษ คือ คนที่อาสามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงจิตคุณให้เดินมรรคในวิชา "จิตเกาะพระ" ค่ะ ถ้าพร้อมเรียนแล้ว ก็ขอให้แนะนำตัวเองไปทางอีเมล์เลยค่ะ ที่ jaideejang_55@hotmail.com เราจะเรียนสอนกันทางเมล์น่ะค่ะ

@คุณ iamprateep มาเรียนพร้อมกันเลยมั้ยค่ะ เพราะวิชา "จิตเกาะพระ" สามารถนำพาให้คุณไปพบกับ สติชอบ ปัญญาชอบได้ค่ะ ถ้าสนใจก็ส่งเมล์แนะนำตัวเองไปได้ที่อีเมล์ที่แจ้งไว้ด้านบนน่ะค่ะ

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเถิด...สาธุ

ครูเกษ Dhammanee(ธรรมมณี) จบ.52

 

พี่คือครูเกษใช่ไหมครับ

รับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วยเถิดเดี๋ยวส่งเมลล์ไปแนะนำตัวครับ

 

โมทนาสาธุกับครูเกษด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับครูเกษ เพราะเธอเป็นครูสอนจิตเกาพระด้วยแล้ว
มันจะต้องมีทั้งสติพร้อมด้วยปัญญาแข็งแกร่งหรือแข็งกล้า เป็นพิเศษ มิใช่แข็งกร้าว
จิตธรรมดาสอนจิตเกาะพระไม่ได้หรอก
เพราะเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ พระกำลังส่งมาเรื่อยๆตามสถานการณ์

อีกไม่นาน คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นทุกข์มาก เพราะกิเลสของคนๆนั้น กำลังบีบครั้นให้เป็นไปตามตัณหาและอุปาทานของตนเอง

ปรกติคนเรานั้น ยิ่งผู้ที่จิตไม่พร้อม หรือมิได้ฝึกจิตมาดี เสมือนไม้ปักขี้เลน ยังไงก็อย่างนั้นเลย
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ใช้สติเป็นปกติ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สนใจจิตตนเอง ปล่อยปะละเลยจิตตน
ถามว่า ใครเป็นทุกข์ ถ้ามิใช่ตัวของเราเอง

ตรงนี้นี่แหล่ะ จิตจึงต้องพร้อม คือพยายามพัฒนาจิตตนเองอยู่เสมอ
เพราะข้อสอบของนักภาวนานั้น จะยากขึ้นไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะคนที่นำพาหรือขนคนออกจากทุกข์นั้นได้ ตัวของเราเอง ทุกข์ก็ต้องไม่มีเลย
แต่ถ้าไม่ให้มีทุกข์เลยนั้น ผมก็เคยแนะไปให้พวกครูจิตเกาะพระทั้งหลายไปหมดแล้ว
มีทางเดียวเท่านั้น ได้แก่ ละขันธ์๕ตนให้เด็ดขาด โดยเฉพาะรูปนาม

อย่าไปเกรงกลัวหรือกลัวตาย เพราะความตายก็มีด้วยกันทุกคนอยู่แล้ว อย่ากังวล
แต่ก่อนตายนี่สิ เอาให้ดี เตรียมจิตให้พร้อม ภัยมนุษย์นั้นมาทั้งภายนอก ภายในเลย
อยู่หลายคนระวังคำพูด อยู่คนเดียวระวังความคิด
คนที่มีธรรมภายในจริงๆ อย่าเอาหางความดีของตนเข้าข่ม เข้าฟาดใครเด็ดขาด
คนดีย่อมไร้หาง ไร้อัตตา ไร้ตัวตน มีตนก็เหมือนไม่มี มีแต่ให้ใช้ประโยชน์ดังพระพุทธเจ้า
ดังพระสงฆ์สาวกเจ้าเหล่านั้นเถิด

อย่าลืมดูผลของการลงภาคสนามจริงของตน วางกำลังใจให้ถูก
แต่ถ้าวางถูก กำลังใจมีผลมาก จะสอบผ่านหรือไม่ ก็อยู่ที่กำลังใจตน เท่านั้น

***ส่วนนักเรียนก็พยายามตั้งใจเรียน ตั้งใจจบ อย่าเหลวไหล เห็นใจครูท่านบ้าง
เพราะมิได้มีเธอคนเดียว ขอฝากคำแนะนำเพียงเท่านี้..

ขอโมทนาบุญสำหรับผู้ให้และผู้รับอีกครั้ง...สาธุ

 

" รักในธรรม มุ่งมั่นหลุดพ้นวัฏสงสาร"

อมตะธรรมของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)

"กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง"

-จงจำไว้ลูกเอ๋ย.....กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าจะดีหรือชั่วย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น

ไม่มีพรหมเทพองค์ใดช่วยเจ้าลบล้างกรรมนั้นได้...เจ้าต้องช่วยเหลือตนเอง ด้วยการสวด

มนต์ภาวนาแผ่เมตตา ผลแห่งบุญอันเป็กรรมปัจจุบันนี้ จะช่วยเจ้าเอง.....

...อานิสงค์ของการสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตา จะทำให้ลูกรู้แจ้งในคำสั่งสอนของ

พระพุทธองค์ กายจะมีการสงบช่วยระงับความทุกข์ร้อน...จิตจะเบิกบาย อิ่มเอิบใจมี

ความสุข ยามนอนหลับเจ้าก็จะไม่ฝันร้าย เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุตย์ทั้งหลาย

...ยามที่ตื่นก็เป็นสุข มีหน้าตาผ่องใส มีสง่าราศี...อันตรายจากภัยพิบัติใดๆย่อมทำ

อันตรายไม่ได้ด้วยเทพพรหมมารักษาเมื่อตายย่อมไม่หลงลืมขาดสติสัมปชัญญะ แท้ดวง

ตายังไม่เห็นธรรมแต่ต้องตายจากโลกนี้เสียก่อน ก็จได้ไปเกิดถึงชั้นพรหมเลยนะลูกเอ๋ย.

...น้อมกราบรับพระธรรมคำสอนของสมเด็จพุฒาจารย์โตเจ้าค่ะกราบ กราบ กราบ.

 

จะไปถือโทษโกรธเคืองกันอยู่ทำไม ไม่เราตายก่อนเขา หรือเขาตายก่อนเรา ไม่จากเป็นก็จากตาย ความทุกข์ของเราก็มีอยู่แล้ว จะไปรับธรรมรมณ์ของคนอื่นเข้ามาเพิ่มทำไม หมั่นเจริญพรหมวิหาร4ให้แจ้ง แล้วจะเข้าใจในคำสอนของพระตถาคต ว่าถูกต้องเป็นจริงเช่นนั้นแล เพื่อจะกลับเข้ามาหาตัวตนที่แท้จริงให้เจอ หาสิ่งที่มันแอบแฝงอยู่ข้างในลึกๆให้เจอ และก็หาทางดับทุกข์ของตัวเองจะดีกว่าไหม คนอื่นเขาว่าเราดี ถ้าเราเป็นคนเลว เราก็ไม่ได้ดีไปตามเขาพูด คนอื่นเขาว่าเราเลว ถ้าเราเป็นคนดี เราก็ไม่ได้เลวไปตาม ปากคนอื่นเขาพูด อะไรๆมันก็ไม่เที่ยงแม้แต่ความคิดของตนเอง เลิกคบมันสะเถอะกับ ธรรมารมณ์(เจตสิตนะ)มันพาเราท่านหลงงมงายมาหลายภพหลายชาติแร๊ะ ชาตินี้ถ้ารู้ทันกันแล้ว ก็อย่าปล่อยให้เข้ามาทำร้ายเรา และก็ออกไปทำลายผู้อื่นอีกเลย จงคิดไว้เสมอว่า เขาพูดเพราะเขาไม่รู้ ถ้าเขารู้เขาคงไม่พูด การให้อภัยทาน เป็นทานที่ยิ่งใหญ่นะค่ะ และเป็นการเชื่อมสายใยไมตรีที่ดีกับทุกคนในโลกนี้ และโลกนี้ก็จะมีแต่พลังบวกตลอดๆไปหลายยุคหลายสมัยไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ สาธุๆๆๆ

 

รักในธรรม มุ่งมั่นหลุดพ้นวัฏสงสาร

...ตายแล้วไม่สูญ...

(พระธรรมเทศนา โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

-ตายแล้วสูญ เป็นกลมายาของกิเลส โยตรงที่หลอกสัตว์โลกให้ทำชั่ว

.อยากทำอะไรก็ทำ พอตายแล้วไม่สูญละซิ ที่นี้ก็เสวยกรรมอยู่อย่างนั้น หมดกรรม

...นี้แล้วก็มีกรรมนั้นต่ออีก ภพนั้นสืบภพนี้ไปเรื่อยๆ กรรมหนัก กรรมเบา อยู่อย่างนั้นละ

.....พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ก็มากวาดเอา จิตวิญญาณเหล่านี้ให้พ้นไปจากการเวียนว่าย

ตายเกิด...ให้สร้างความดีซิ ถ้าอยากพ้นทุกข์ไปตามพระพุทธเจ้า...

...น้อมกราบหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ด้วยเศียรเก้ลาเจ้าค่ะกราบ กราบ ๆ...

 

สองหน้าของสัจจธรรม - YouTube​

จะทำอย่างไรให้ถูกใจไปซะหมดทุกคนนั้น ไม่มีหรอก

การปฎิบัติธรรมต้องไม่มีธง ไม่มีลม คือต้องไม่มีความรู้สึกใดๆเลย
มีเหมือนกัน..แต่ให้มันมีอยู่ข้างใน อย่าให้มันแสดงออกมาข้างนอก

ฟังให้จบกันนะครับ
(หลวงพ่อชาฯสอนธรรมลูกหลาน)

ลูกขอน้อมจิตก้มกราบแทบเท้าหลวงพ่อชาฯ ด้วยเศียรเกล้า..สาธุๆๆ​

 

โอ๊ะโอ..ขอโทษค่ะ..ชื่อเมล์ผิดไปนิดค่ะ..แก้ไขเป็น..jaideejang_55@hotmail.com ค่ะcatt24catt24

 

ครับเดี๋ยวส่งไปไหม่ครับ

 

ส่งรายงานตัวไปแว้วครับ

 

ภาพพระที่ผมรักจิตผมชอบเป็นพิเศษครับ

 

ถ้าเลือกแล้ว ก็ใช้ภาพนี้เลยค่ะ ไม่ต้องเปลี่ยนแล้วน่ะ (เพราะต่อไปเดี๋ยวจิตเค้าจะเลือกภาพพระของเค้าเองอีกที) แล้วให้ทำตามทีครูเกษแนะนำไปทางเมล์ได้เลยค่ะ งานนี้ต้องคนเพียรเท่านั้นค่ะ...คนเก่งไม่เกี่ยว..น่ะจะบอกหั่ย...

โมทนาสาธุ

 

https://www.youtube.com/watch?v=wj9JmaYp-8U&feature=player_detailpage

พุทธวจนสนทนาธรรม โดยพระอาจารย์คึกฤิทธ์ โสตฺถิผโล.วัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี
ลูกขอน้อมกราบพระอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 

จัดหนักจัดเต็มทำไม่ได้ให้มันตายไปเลยร่างกายเน่าๆสกปรก

เคยจับภาพหลวงพ่อโสธรครับแต่ว่าภาพพ่อชินราชแทรกเข้ามาตลอดแสดงว่าจิตผมได้เลือกแล้ว

ครับ

เดี๋ยวจะส่งผลการฝึกแบบย่อ3เดือนที่แล้วหรือจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้

เอายังไงดีครับครูเกษ

 

ถ้าสะดวก..ขอให้เริ่มเล่ามาตั้งแต่ต้นเลยค่ะ จะดีที่สุด เป็นผลดีแก่เราทั้งสองฝ่ายค่ะ..