จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ระวัง...ผิดศีลข้อ 5 น่ะจ๊ะ น่ะจ๊ะ...

    [​IMG]

    คำเตือน สำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจ หรือ กระจ่างในการถือปฏิบัติในศีลข้อ 5

    บางคนเข้าใจว่า การจิบเบียร์ จิบเหล้า จิบไวด์ นิดๆ หน่อยๆ เพื่อให้ทานข้าวได้อร่อยได้เยอะ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชอบจิบไวด์แดงที่คิดว่าเป็นการบำรุงเลือด คือจิบนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่เมา ไม่ขาดสติที่จะไปทำอะไรผิดศีลผิดธรรมกับใครได้นั้น ยังเขลาอยู่มาก (เพราะผู้เขียนก็เคยเขลามาก่อน) เพราะนั้นหารู้ไม่ว่า คุณโดนกิเลสมันหลอกเต็มๆ เข้าแล้ว กิเลสมันล่อให้คุณค่อยๆ ติดมัน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ติดมันเข้าไปแล้ว และไม่ใช่แค่จิบเดียวเหมือนตอนแรกๆ น่ะ แต่มันกลายเป็นหลายจิบไปตั้งกะเมื่อไรก็ไม่รู้...ชิมิ ชิมิ..พี่น้อง..

    ปล.ขอบคุณภาพจาก FB
     
  2. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เข้าใจธรรม เข้าถึงธรรม ย่อมยอมรับกฎธรรมดาได้

    ถ้าผู้ใดเข้าใจธรรม โดยเฉพาะเข้าถึงธรรมกันจริงๆแล้วย่อมยอมรับกฎธรรมดาหรือกฎแห่งกรรม
    แต่ถ้าไม่ยอมรับนั่นแสดงว่า เรา(จิต)เข้าใจธรรมเพียงอย่างเดียว แต่ธรรมในใจยังไม่มี
    เข้าถึงธรรมในที่นี้หมายถึง จิตเข้าถึงสภาวธรรม(จิตในจิต) หรือจิตพบธรรม(ธรรมจึงอยู่ในจิต)
    (ใครงงยกหัวขึ้น..คิคิ)

    สมการนี้น่างงมากกว่า แต่ถ้าคนเข้าใจคำนิยามคณิตศาสตร์ย่อมเข้าใจทันที

    4x4x4=4x3=12=correct
    4x4x4=3x4=12=incorrect


    จะเห็นได้ว่าทั้งสองวิธีนั้นคำตอบออกมาถูกต้องเหมือนกัน แต่วิธีหลังนั้น ผิดแค่นิยามเท่านั้น
    (ไปดูข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ของช่อง 3 มา แต่นานมาแล้ว)

    กรรมใครก็กรรมมัน เพราะที่ผ่านมาคืออดีต เห็นมีแต่เราทำเอง หรือทำร่วมกันมาทั้งนั้น(ทำกรรมร่วมกัน)

    เรื่องการแก้กรรมนั้น ตัวเราต่างหากหล่ะจะต้องเป็นฝ่ายแก้ไขเอง เพราะใครผูกคนนั้นต้องแก้(ตามตำรา)

    การแก้ไขปัญหานั้น เราจะต้องแก้ให้ถูกต้องนั่นก็คือ แก้ที่ต้นเหตุและแก้ด้วยสติปัญญาด้วย
    การแก้กรรมของเราก็เช่นกัน จะต้องแก้ไขที่ต้นเหตุนั่นก้คือ จิตตนเอง
    เพราะฉะนั้น จะทำงานทางโลกหรือทางธรรม อย่าให้จิตเราไปติดขัดเรื่องอะไร เพราะทุกอย่างจะพังหรือหยุดหมดเลย
    อย่าลืม..ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จด้วยอะไร ถ้ามิใช่ใจตนเอง

    ส่วนวิธีการแก้ไข โดยเฉพาะกรรมที่ไม่ดี ที่เราไม่ปรารถนานั้นก็คือ ประการแรกควรทำจิตใจให้สงบก่อนเลย
    เมื่อจิตใจเราสงบนิ่งได้ เราจึงมีสติและปัญญา แล้วค่อยๆรู้วิธีการแก้ไขกรรมของตนไปเอง
    เราจะต้องหยุด คือทำจิตใจนิ่งสงบก่อน เมื่อสติมาปัญญาย่อมเกิด สติมาอย่างเดียวก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอปัญญาก่อน
    เพราะปัญญาแปลว่ารู้(กูรูวิธี) เมื่อปัญญามาเราจึงรู้วิธีแก้ไขปัญหานั่นเอง เห็นไหม..ไม่ยากเลย
    ปัญหาเขามีไว้เพื่อแก้ มิใช่มีไว้เพื่อหนักหัว มิใช่หาแต่เรื่อง(ไม่ดี)เข้าตัว ขยันเหลือเกินเพิ่มกรรม โดยเฉพาะกรรมไม่ดี
    (แกว่งเท้าหาเสี่ยน แกว่งจิตหาแต่กิเลส ไม่เอานะตะเอง เพราะสิ่งที่เรากำลังกระทำในปัจจุบันนั้น ปลายทางเป็นทุกข์ทั้งปวง)

    ธรรมะพยายาม พยายามพูดให้กระชับขึ้น พยายามกินแต่ก๋วยเตี๊ยวแห้ง
    หมายถึงผู้เขียน เหตุที่พร่ำยาวเกรงว่าจะไม่เข้าใจ ตัวรู้ตนเองว่าถ่ายทอดไม่ดีนัก
    เพราะต้องเอาสติถอดรหัสจิต คือจะแปลจากภาษาจิตเป็นภาษาสมมุติ
    ที่พร่ำธรรมะได้ทุกวันนี้ ก็เพราะสติกับจิตเขาคุยกัน(ภาษาปฎิบัติ) คนอื่นไม่เข้าใจก็จะหาว่าเราบ้า
    แต่ถูกใจมากนะที่เข้าใจเราเป็นอย่างนั้น การปฎิบัติธรรมต้องบ้า แต่บ้าดี มิใช่บ้าจริงๆ
    บ้าคนละอย่าง คนที่ไม่ปฎิบัตินั้นอย่าไปว่าเขานะ เขาเป็นคนดีหมด แต่บ้าทางโลกเท่านั้นเอง

    ภูทยานฌาน
    ผู้ปรารถนาอยากเห็นคนพ้นทุกข์ โดยเฉพาะพ้นภัยวัฎฎะตนเอง
    (นามนี้ท่านได้แต่ใดมา..เมื่อก่อนบ้าฌาน อภิญญา แต่ตอนนี้เปี๊ยนไป๋ บ้านิพพานแทน เห่อๆ)
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุกับครูเกษด้วยครับ

    น้องหมา เธออย่าขยันทำผิดศีล ศีลพร่อง ศีลด่างอีกนะ
    เห่อๆ ขำครูเกษ เคยเห็นแต่คนเมา คราวนี้เห็นน้องหมาเมา คิคิ
    น้องหมายังเมาเลย แล้วคนจะเมาขนาดไหนเนี๊ย

    คนเมาเหมือนหมา น้องหมาจะเมาเหมือนคนไหม๊
    (ดูท่าน้องหมานั่งดิ น่าเต๊ะขนาด 555)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2013
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089


    DjPoo จัดไปซะอีกหนึ่งเพลง

    รักที่ไหน ใจใช่ไหม
    รู้สึกที่ไหน ใจใช่ไหม

    รักมากใช่ไหม รู้สึกมากใช่ไหม
    รักมากก็เจ็บมากใช่ไหม รู้สึกมากก็เจ็บมากใช่ไหม


    เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก้ยังเอา ยังยินดีกันอยู่นะ
    คนธรรมดามักหาทางออกกันตรงนี้ยากมาก นอกจากผู้เห็นธรรมจริงๆ
    นี่กำลังแสดงธรรมให้พวกเราดู
    เอาชีวิตจริงของตนเองนี่แหล่ะ เป็นธรรม เป็นความจริง
    ละครชีวิตหรือหนังชีวิตก็แต่งมาจากชีวิตจริงๆของเรานี่แหล่ะ

    ช่วงนี้ขอนำเสนอ ตัวสังขารขันธ์มากสักหน่อย
    เพราะมันสำคัญมากเลยทีเดียว
    เพราะคนธรรมดาไม่รู้ตัวหรอกว่า มันกำลังทำร้าย ทำลาย กัดกร่อนหัวใจทุกวัน
    นึกว่าความรักเป็นของดี ของวิเศษ กำลังมากมาย นี่เขาถึงเรียกว่า ความรักทำให้คนตาบอด

    สรุปแล้ว ความรักเป็นกิเลสชนิดนึง
    รักเปรียบเสมือนน้ำผึ้งเดือน๕ แต่เมื่อไหร่รักกลายเป็นขม มันก็ขมจริงๆตามที่เขาว่า
    รักเป็นกิเลสอย่างนึง เมื่อรักเกิดขึ้นพอได้เสียกันก็กลายเป็นอุปาทานทันที คือของกู
    ใครอย่าแตะ เมียกู/ผัวกู เมื่อรักไม่เป็นดั่งใจก็จะค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นความหึงหวง
    ความหึงหวงก็เป็นความหลงชนิดนึง พอความหึงหวงมาเสร็จสรรพมักมีความโกรธค่อยๆแฝงตัวมา
    แต่ถ้าความโกรธเมีมาก เพิ่มเป็นมทวีคูณ ต่อไปก็อาจจะทำร้ายกาย ทำร้ายใจ
    แต่ถ้ามีความรักมาก ย่อมรู้สึกมาก ย่อมเจ็บปวดมากเป็นธรรมดา
    ท้ายที่สุดอาจจะถึงขั้นรุนแรง นอกทำร้าย ทำลายกายใจกันแล้ว เช่น ทำลายชีวิตคือฆ่าแกงกันได้

    จากความรักธรรมดาๆ อาจจะกลายเป็นความอาฆาต ความพยาบาท สร้างเวรกรรมต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด

    แต่ถ้าตรงกันข้ามคือรักกันมาก ไม่เคยมีปัญหา อยู่กินกันดีไปตลอดชีวิต แต่มีคู่ไม่น้อย
    มักพากันไปสาบงสาบานกับสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย อันนี้ก็กลายจิตติดตามคู่กันอีกต่อไป
    พอเราเกิดมาอีกชาตินึง ก็พบเจอกับคนใหม่ แต่งงานกับคนใหม่ ปรากฎว่าทำไมอยู่กันไม่ยืด
    เพราะว่า จิตเดิมเขามีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว พออยู่กินกับคนใหม่ได้ไม่นานนักชักเริ่มมีปัญหา
    เพราะจิตเก่เขาบอกว่า คนนี้ไม่ใช่เนื่อคู่ตนเอง เริ่มมีอาการต่างๆนานาค่อยๆออกมาให้เห็นทีละนิด
    และท้ายที่สุดก็อยู่ไม่ได้อีก เพราะข้างใน(จิต)มันร้อนรน
    นี่ยังไงเล่า เขาถึงบอกว่าให้พวกเราไปถอนคำสาบานก่อนที่จะมีคู่กัน เพราะจะอยู่กันไม่ยืด

    อะไร ทำไม ทำให้ผมพูดเรื่องขึ้นมาก็มิทราบ อย่านะว่าใครบอก คิดเองมั้ง

    สรุปแล้ว น่าเวทนา น่าสงสารมากกับคนธรรมดา หรือคนไม่ปฎิบัติธรรม
    ไม่มีทางตามทันตัวสังขารขันธ์ของตนได้เลย ไม่มีโอกาสจะเงยหัวขึ้นได้เลย
    ตกเป็นตัวสังขารขันธ์ตนเองมานานนับชาติกันไม่ถ้วนแล้ว

    วันนี้ตั้งใจจะมาบอกกล่าวกัน เตือนกันให้รู้สึกตัวกัน ว่าพิษภัยของขันธ์๕ มันเนียนมากๆ
    คนทั่วๆไปไม่ทางรู้เลย รู้ก็เหมือนไม่รู้ เห็นก็เหมือนไม่เห็น ไม่รู้อะไรไปปิดบังตาหรือใจตนเอง
    เวน-กำ
    หมดเวร หมดกรรม ก็ต่อเมื่อ คนเหนือโลก จิตต้องเอยู่เหนือกฎแห่งกรรม แต่กายหรอจะรอดพ้น ไม่มีทาง
    โน้นแหล่ะ ออกจากขันธ์๕ ของตนเอง ดั่งเช่นพระอรหันต์
    แล้วพวกเราทำกันกันได้ไหมหล่ะ มิใช่เรื่องง่ายๆเลยใช่ไหม
    เพราะทุกวันนี้กิเลส โดยเฉพาะสังขารขันธ์หรือเจตสิกหรือธรรมารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิด
    พวกเรากลายเป็นอาณัติไปหมดแล้ว ถูกเป็นเฉลยข้าทาสไปกันหมดสิ้น
    จะเงยหัวก็เงยไม่ได้ ก้มหน้ารับกันไป ทั้งๆที่เป็นดี มีสติ มีปัญญาดี ก็ทำอะไรมันไม่ได้เลย

    เพราะคนส่วนใหญ่คิดไปว่าตัวสังขารขันธ์นั้น คือตัวเราเสียแล้ว จบกัน
    เห่อ น่าเหนื่อยใจแทน โดยเฉพาะที่ละคราบมนุษย์ตนเองมิได้ คือตัวนี้แหล่ะ
    หรือความนึกคิดของตนเองนี่แหล่ะ ทั้งดีใจเสียใจ ยินดียินร้าย สุขทุกข์
    ตราบใดพวกเรายังเอาความรู้สึกนึกคิดหรือปรุงแต่ง หรืออารมณ์สองมาตรานี้กันอยู่
    ก็ไม่มีทางจะหนีทุกข์ของตนเองไปได้แน่
    ห้ามก็ห้ามไม่ได้ เพราะมันเกิดแลแแะดับไปโดยธรรมชาติของมันเอง
    เราไม่ต้องไปทำอะไรมันเลย ถึงเวลาดับมันก็จะดับไปเอง

    แต่จะให้พ้นทุกข์หรือหลุดพ้นจริงก็ต้องละที่ตัววิญญาณขันธ์(คือจิตตัวดี)ของตนเองเท่านั้น
    พอจะเข้าใจกันบ่

    (เอ้ จะละได้ยังไงหว๋า จิตตนก็ยังหาไม่เจอ เห่อๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2013
  5. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    [​IMG]



    เฮ้อ .. จะรอดบ่วงไปได้ไม๊ละนี่

    กาม....เป็นความฝันเป็นของหลอกลวงเหมือนของที่ยืมเขามา
    กาม....เป็นเหมือนชิ้นเนื้อนำมาชึ่งทุกข์
    กาม....เป็นเหมือนหอกและหลาว..เป็นภัย
    กาม....เป็นเหมือนหัวงูเห่า
    กาม....เป็นของไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน
    กาม....เป็นของหลอกลวง..เหมือนผลไม้ที่มีพิษ
    กาม....เป็นรากเง้าแห่งทุกข์..มีทุกข์เป็นผล
    ที่มา fb และขออนุโมทนาสาธุในธรรมทานของท่านอาจารย์พี่ภูด้วยค่ะ
     
  6. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    [​IMG]

    อนิจจัง....ทุกขัง......อนัตตา
    .......มิมีสิ่งใดคงอยู่..คู่โลก....หลายกัปป์
    ยกเว้น ธรรมะพุทธองค์.......คงคู่โลกเท่านั้น....มิมีจางหายไป
    ชั่วกัปป์......
    .......เราเองก็จักเสื่อมสลายไปเฉกเช่นกัน......สาธุ
    สิ่งที่เราๆท่านๆจะหนีไม่พ้น โดยจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องได้
    แต่จะช้าหรือเร็ว ขอให้ทุกๆท่านจงตั้งอยู่ในความไม่ประมาทด้วยกันทุกๆท่านด้วยเทอญ
    ที่มาfb
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุครับ
    โอ้โห คุณเพ็ญยูเค หมู่นี้จัดหนักจัง
    อย่างนี้แฟนเพลงพี่ภูหายหมดดิ ฮ่าๆ
    ห้องนี้จิตพวกเขายังไม่ถึงนิพพิทาญาณกันนะ ถึงแค่หูยานเฉยๆ
    หรือเบื่อๆอยากๆกันอยู่เลยจ้า

    ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า นิพพิทาญาณ, สังขารุเปกขาญาณ
    http://youtu.be/z-1dWsXl6H4
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2013
  8. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ ครูพี่ภู ถ้าไม่จัดหนัก กิเลสก็ไม่กลัวละชิ
    กิเลสชอบอะไรเบาๆไพเราะเพาะพิ้ง และชอบอะไรหวานๆก็เหมือนมดชอบนํ้าตาลนั้นเองถ้าเอาของที่กิเลสชอบมาลงก็มีจะเสริมตัวกิเลสให้ได้ใจงั้ย ต้องเอาความจริงเข้าว่าใช่ไหม?ถึงจะทันกิเลสในจิตเราๆท่านๆงั้ยค่ะ...สาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  9. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    สวัสดีครับขอเข้าชมรมจับภาพพระด้วยคนครับได้ทั้งพุทธานุสสติและกสินสีเหลือง2in1

    ขอเป็นลูกหาบด้วยคนครับ
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ทำไม? จิตบุญส่วนใหญ่ยังมีความทุกข์ใจอยู่

    ที่นี่ มีคำตอบ

    เชื่อรึยัง ทฤษฎีเต็มเกินร้อย แต่ภาคสนามทำไมตกเรียบ
    พูดไม่ทันขาดคำ

    (อย่าไปนึกว่ากูแน่กันนะ)

    เพราะเหตุใดหรือ?

    คำตอบคือ...
    จิตยังวางขันธ์๕ ยังไม่สนิท จิตยังวางขันธ์๕ ยังไม่สนิท นั่นเอง


    อย่ายอมแพ้กับกายขันธ์๕ของตนเองนะ
    พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ธรรมทุกธรรม มีแค่เกิดกับดับเท่านั้น
    นอกจากนั้น ไม่มี

    ผู้ที่มีสติปัญญาย่อมตามไม่ทันกับสิ่งที่กำลังเกิดและดับเป็นแน่แท้
    อดทนกันนะลูกหลานเอ๊ย จดจำกันให้ดีๆ ในขณะที่กำลังเป็นทุกข์ทั้งกายใจ
    ทุกข์กาย แต่อย่าให้ทุกข์นั้นลามไปถึงจิตใจของตน
    ปล่อยให้กิเลสมันเผาตนเอง แต่อย่าให้ไฟกิเลสตนไปเผาจิตใจตนเอง
    เพราะทุกคนย่อมรู้ดีกันใช่ไหมว่า ขันธ์๕นี้ มิใช่เรา มิใช่ของเรา
    เรียนธรรมะ อย่าเอาแต่ท่องๆกัน ให้สนใจจิตตนเองให้มาก
    จิตที่ยังไปไม่ถึงไหน ยังไปไม่ถึงฝั่งนั้น ให้เปรียบเสมือนจิตเป็นเด็กน้อยเสมอ
    เพราะฉะนั้น สำหรับจิตน้อยนี้ยังต้องพึ่งพาพี่เลี้ยงคือสติกันต่อไป

    ตราบใดถ้าพวกเธอยังละขันธ์๕ยังไม่เ็ด็ดขาด อาการทุกข์ทางใจ มันจะมาเยี่ยมเยือนพวกเธอแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
    แต่ถ้าคิดจะช่วยใครต้องดูกำลังใจของตนก่อน ถามว่ามีเท่าไหร่
    ส่วนกรรมนั้นต้องรับกันไปเอง กรรมใครกรรมมัน จิตใครก็จิตมัน
    ผู้เขียนเป็นได้แค่เตือน บอกทางเดิน แนะทางออกจากทุกข์กับพวกเธอทั้งหลายเท่านั้น
    ส่วนที่เหลือเราต้องเดินเอง ปฎิบัติเอง ดูแลกายใจตนเอง
    แต่จะเข้าใจยากสักนิดนึง สำหรับจิตยังไปไม่ถึงฝั่ง
    บอกกันไปหลายรอบแล้วนะว่า อย่าให้กำลังใจตก อย่างอื่นตกได้หมด
    แต่ถ้าใครจิตตกนั่นแสดงว่า ปล่อยปะละเลยจิตตนเองแล้ว ประมาทแล้ว
    อิทธิบาทไปไหนกันหมด จึงไม่ยอมทบทวนกัน
    ตราบใดยังทำตนเป็นที่พึ่งแห่งมิได้ แล้วเราจะไปช่วยผู้อื่นที่กำลังเป็นทุกข์มากกว่าเราเป็นหลายเท่าตัวได้อย่างไรกัน

    พวกเธอนึกว่าผู้เขียนไม่มีความทุกข์หรืออย่างไร มีแต่ทุกข์ภายนอก ทุกข์กายเท่านั้น
    แต่ทุกข์ทางใจ ไม่มี
    เพราะถ้าจิตปล่อยวาง โดยเฉพาะขันธ์๕ คำว่าทุกข์ใจย่อมไม่มี
    จิตถึงธรรมย่อมยอมรับกฎแห่งกรรมทุกอย่างได้สบาย

    นี่นอนดิ้นไปดิ้นมา จิตมองเห็นทุกข์แต่ผู้อื่น ทุกข์ตนวางได้หมด มีแต่เมตตาทุกข์ผู้อื่น
    จึงต้องลุกขึ้นมาเขียนธรรมะตอนตีสี่ ให้พวกเรา

    นี่ไง จิตบุญจึงต้องจับกลุ่มคุยกันบ้าง แต่อย่าคุยผิดเรื่องกันนะ
    สนทนากันเพื่อนำพากันพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้นๆไป อย่าหยุดเพียงเท่านี้
    คอยให้กำลังใจกัน เพราะจุดประสงค์เพื่อคอยยกระดับจิตกันและกัน
    รายการนี้ มิใช่มานั่งซ้ำเติม สมนำหน้ากัน ช่วยกันประคับประคองกัน
    พยายามจับกลุ่มกันที่นิสัย หรือพอพูดคุยภาษาเดียวกัน
    แต่ถ้าใครยังมีความเห็นต่างก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน
    แต่ถ้าตนเองยังมีอัตตาอยู่นั้นก็ยากเหมือนกัน แต่ถ้ารู้ตัวว่ายังมีอยู่
    ถอดได้ก็ถอดกันซะ อย่าได้ทนแบกกันเลย มันหนัก

    คำถามต่อไปอีกว่า เราวางอัตตากันได้จริงๆหรือ นี่คือ ปัญหา
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ยินดีต้อนรับครับ

    มีอะไรแนะนำได้โปรดชี้แนะด้วย
    จะเข้ามาปฎิบัติธรรมแนวจิตเกาะพระ หรือเข้ามาอ่านธรรมะเฉยๆ ก็ตามแต่ใจของท่านเถิด

    ที่นี่มีแต่ญาติสันติธรรมกันทั้งนั้นเลย สนทนาธรรมหรือแลกเปลี่ยนการปฎิบัติก็ยินดีเสมอ
    โมทนาสาธุกับจิตของท่านด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 ตุลาคม 2013
  12. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    โหยพี่ผมมิบังอาจชี้แนะผมต่างหากต้องมาขอคำชี้แนะ

    เดี่ยวจะต้องตั้งใจอ่านตั้งแต่หน้าแรกอ่านตาแฉะแน่555

    ยังไงผมขอฝากเนื้อฝากตัวทุกท่านด้วยครับผมได้ขอเข้ากลุ่มในเฟสโปรดรับผมด้วยครับ

    ผมยังเลวอยู่มากครับและที่สำคัญยังโง่อยู่ด้วยครับ

    ผมจะมาศึกษาตามแนวทางหลวงพ่อฤาษีครับ

    พูดง่ายๆจะขอมาเรียนวิชากับสหายธรรมที่นี่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  13. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    สวัสดีค่ะ น้อง therd2499 ไหนๆก็มีโอกาสมาเจอมาทักทายกันแล้ว พี่ก็ขอเชิญชวน มาฝึกในแนวจิตเกาะพระด้วยกันนะคะ
    แล้วน้องจะมีที่พึ่งทางจิตที่ถาวร ฝึกไป อ่านไปจะช่วยในเรื่องกำลังใจได้มากเลยค่ะ สนใจติดต่อครูเกษเลยนะคะ
    (ขออณุญาตโยนลูกเลยนะคะครูเกษ) อย่ารีรอเลย เราต้องนับถอยหลังกันแล้วึ่ะตอนนี้
     
  14. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สวัสดี และยินดีต้อนรับเข้าสู่สมาชิกจิตเกาะพระอีกท่านหนึ่งค่ะ ยังไงก็เกาะขอบกระทู้ไปเรื่อยๆ ก่อนก็ได้ค่ะ ดูกำลังใจตนไปก่อนซิ ถ้าพร้อมเรียนเมื่อไร ติดต่อครูเกษเข้ามาได้ทุกเวลาค่ะ

    ปล.แหม๋..คุณพี่ลินดานี้เร็วจริงๆ ไม่ยักกะรู้มาก่อนน่ะเนี่ย ว่าสอยดาวเก่งเหมือนกัน อิๆๆ..
    .:cool:
     
  15. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    ผมฝึกจับภาพพระมา3เดือนแล้วครับ

    ชัดบ้างไม่ชัดบ้างตามอารมณ์จิต

    เพื่อที่ต่อยอดไปฝึกมโนมยิทธิครับ

    แนะนำด้วยครับ

    พี่ก้องบอกผมเคยมีของเก่ามาชอบแนววิชา3และผมอยากฝึกแนวนี้มากครับ
     
  16. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    พี่ลินดาคงไปอ่านกระทู้พี่ก้องมาแล้วผมมาจากกระทู้พี่ก้องครับ

    ผมได้ถามคำถามและได้รับคำตอบที่ดีจากพี่ก้องมากครับ

    ขออนุญาตขอบคุณผ่านกระทู้นี้อีกครั้งครับ
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    มีใครบ้าง

    ที่ยังเอาจิตไปวิ่งไล่ล่าทางโลกเหมือนกับกายหยาบอยู่
    คือไม่พยายามสำรวมจิต (ยกมือขึ้นดิ)

    มันก็ไม่แตกต่างไปกับผู้ที่มิได้ปฎิบัติธรรมเลย
    แต่ถ้าอยากเป็นอริยบุคคลจริงๆ ต้องคอยหมั่นทรงอารมณ์หรือสำรวมจิตเหมือนดั่งพระอริยสงฆ์ท่านสิ
    ก็อย่างว่าแหล่ะ จิตก็เหมือนเด็ก จะสอนให้เด็กเป็นคนดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ผู้เลี้ยงดู

    จิตก็เช่นเดียวกัน อยู่ที่สติตนเองว่าจะให้จิตเราเป็นอะไร
    ปุถุชนหรืออริยะ? ก็อยู่ที่สติปัญญาของตนเองทั้งนั้นเลย

    พอเป็นทุกข์หรือจิตตกทีไร ก็ร้องเจี๊ยกทันทีเลย เพราะว่าอะไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
    ก็เพราะว่า..เราไม่สนใจจิตตนเอง
     
  18. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]

    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    ให้มั่นใจในพุทธคุณ-ธรรมคุณ-สังฆคุณ ปัญหาใดๆ ถ้าหากไม่เกินวิสัยในกฎของกรรม ให้ขอบารมีพุทธคุณ-ธรรมคุณ-สังฆคุณ ย่อมขจัดปัดเป่าแก้ไขได้

    พุทธคุณ คือคุณของผู้รู้ อันหมายถึงพระตถาคตเจ้า เป็นผู้รู้-ผู้ตื่น-ผู้เบิกบาน ดังนั้น บุคคลใดไม่ลืมพุทธคุณ ก็พึงกระทำตามให้ถึงซึ่งพุทธคุณด้วย

    ธรรมคุณ คุณของพระธรรม อันหมายถึงทุกข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค นั่นแหละ บุคคลผู้ปฏิบัติถึงซึ่งพุทธคุณและธรรมคุณ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยกำลังใจเต็ม ก็ได้ชื่อว่าถึงซึ่ง

    สังฆคุณ ใน ๔ ระดับ คือ พระโสดาบัน-พระสกิทาคา-พระอนาคา-พระอรหันต์

    คุณทั้งสามประการของพระรัตนตรัยในบวรพระพุทธศาสนานี้ ผู้ใดถึงแล้ว ผู้นั้นย่อมมีความสุข และจักสุขยิ่งๆ ขึ้นไป
    จนกระทั่งเข้าถึงซึ่งแดนเอกันตบรมสุข คือพระนิพพานเป็นที่ไปนั่นแหละ

    ให้มองดูจิต-ดูกายของตนนั่นแหละเป็นสำคัญ ถ้ามุ่งต้องการปฏิบัติให้พ้นทุกข์ได้จริง อย่าเพ่งโทษในจริยาของผู้อื่น
    ให้เห็นความร้อนในจิตของตนเองให้มาก และเห็นโทษของความร้อนในจิตนั้น ก็จักปฏิบัติฝึกจิตของตนให้พ้นไปจากความร้อนได้ในที่สุด



    ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน


    Cr.. FB Bhuddha Sattha
     
  19. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    กระทู้นี้ดีจริงๆครับ เป็นเหมือนน้ำเย็นๆ ลอยดอกไม้หอมๆ ให้ดื่มพักเหนื่อย(จริงแล้วเป็นมากกว่านั้นอีก)
    กระทู้อื่นๆให้ความรู้ ความคิดเห็น ฯลฯ ตามหัวข้อกระทู้นั้นๆก็ได้ความรู้ดีมากอยู่ครับ ... ก็ผมเข้ามาพักจิตที่กระทู้นี้อยู่บ่อยๆสบายใจดีครับ ...

    ... ^_^ ...
     
  20. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...