ทำอย่างไรไม่ให้ตายหง!

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย อาศรม, 13 กันยายน 2013.

  1. อาศรม

    อาศรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +31
    อยากทราบว่าทำบุญอะไร อย่างไรไม่ให้ตายโหงแน่นอนคะ อีกวิธีที่ได้ยินคุ้นหูจากคนแก่คือคนประเภทที่มีคาถาอาคมของดีอะไรทำนองนี้จะไม่ตายโหงค่ะ ไม่ค่อยแน่ใจ จึงอยากทราบว่าจริงๆแล้วต้องสร้างกุศลแบบใด อย่างใด ขอความเห็นเป็นธรรมทาน จะเป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2013
  2. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    วันนี้จะขอนำเรื่องราวของกรรมประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "อุปฆาตกรรม" คือ กรรมที่มาตัดรอนก่อนวาระครับ
    หรือกล่าวกันโดยง่ายว่า ตายก่อนอายุขัยครับ เช่น ฟ้าผ่าตาย รถชนตาย เป็นต้น เมื่อวาระของกรรมที่เคยกระทำ
    ไว้ในอดีตตามมา เป็นผลจากกรรมในอดีตชาติในข้อ ปาณาติบาต ในศีลข้อแรก คือการฆ่าหรือทำลายชีวิตของ
    มนุษย์หรือ สัตว์อื่นให้ถึงแก่ชีวิต คือ การกระทำใดๆ ก็ตามที่เราได้กระทำไว้ให้เขาได้ตายก่อนเวลาอันควร
    กรรมเหล่านี้จะส่งผลแก่เราแม้จะมีวิญญาณมาจองหรือไม่ก็ตาม แต่ส่วนมากจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมา
    มักจะมีเจ้ากรรมนายเวรติดตามจนถึงวาระที่บาปกรรมเก่าให้ผลนะครับ(บางกรณีบางคนก็ตายตามอายุขัยก็มีนะครับ)

    การให้ผลของกรรมนั้น ในกรณีที่เป็นเศษกรรม คือได้ใช้มาหลายชาติหรือเกือบหมดแล้ว กับอีกกรณีคือ ได้กระทำ
    สิ่งอันเป็นบุญกุศลเนืองๆ มามากแล้ว อุปฆาตกรรมจะมีผลลดลง อย่างเบาคือ การเจ็บป่วยทางร่างกาย อุบัติเหตุ
    เจ็บเนื้อตัว ครับ ถ้าอย่างรุนแรงที่ให้ผลเต็มที่ในวาระที่หมดบุญมาช่วยแก้ไข เราก็จะเรียกว่า ชะตาถึงฆาต
    แล้วนั่นเองครับ

    บุคคลใดหากตายก่อนอายุขัยแบบนี้ ส่วนมากวิญญาณจะกลายเป็นสัมภเวสี หรือวิญญาณเร่ร่อน รอวาระจน
    หมดอายุขัยครับ ที่มักเห็นได้ทั่วไปในโลกมนุษย์ จะมีลักษณะรูปร่างหน้าตายเหมือนคนธรรมดาปกติทั่วไป และหาก
    แต่งตัวแบบไหนก็จะยังแต่งตัวแบบนั้นนะครับ เพราะจิตยังมอุปาทานความยึดถือตัวตนอยู่ ก็จะทรงสภาพเดิมไว้
    นะครับ วิญญาณสัมภเวสีส่วนมากนั้นจะมีจิตเศร้าหมอง มีความทุกข์ใจกังวล เช่น จิตเป็นห่วงกังวล ยอมรับ
    ความจริงไม่ได้ และไม่รู้อนาคตตนเอง เป็นต้น

    อุปฆาตกรรม กรรมที่ทำให้ตายก่อนอายุไข และวิธีป้องกัน | Yenta4 Webboard

    ท่านอายุวัฒนกุมารจะต้องตายเพราะอุปฆาตกรรม พระพุทธเจ้าทรงช่วยไว้จึงไม่ต้องเป็นสัมภเวส
    http://palungjit.org/threads/ท่านอา...ทธเจ้าทรงช่วยไว้จึงไม่ต้องเป็นสัมภเวสี.84006/


    อุปฆาตกรรม..หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ผู้ถาม : “หลวงพ่อคะ อุปฆาตกรรมหมายความว่าอย่างไรคะ...?”
    หลวงพ่อ : “คำว่า อุปฆาตกรรม หมายถึงว่า กรรมที่มาตัดรอนระหว่างชีวิต
    คือ มันยังไม่หมดอายุขัยก็ตายเสียก่อน แทนที่จะมีอายุครบ ๖๐ ปี
    ตามอายุขัย แต่อายุ ๓๐-๔๐ ปีกรรมที่เป็นอกุศลกรรม คือ เราทำบาปไว้
    แต่ชาติก่อน ด้วยจาก ปาณาติบาตมาตัดชีวิตเสียก่อน”
    ผู้ถาม : “มีวิธีที่จะพ้นกรรมประเภทนี้ไหมคะ อย่างเช่นถ้าเราปล่อยปลา
    หรือ สะเดาะเคราะห์ อะไรพวกนี้แหละค่ะ...?”
    หลวงพ่อ : “ปล่อยปลานี่เขาถือว่าตัดอุปฆาตกรรมได้ เราปล่อยสัตว์ให้
    รอดนี่มันจะกันได้ แต่ที่ให้หมอดูไปสะเดาะเคราะห์ หมอบอกว่าต้องเสีย
    เท่านั้นเท่านี้ พอสะเดาะห์เสร็จ หมอหมดเคราะห์ไป ๓-๔ หมื่น
    คนที่สะเดาะเคราะห์เพิ่มเคราะห์ไป ๓-๔ หมื่น เป็นไง...เราเอาแบบของเรา
    นั่นแหละ ได้ผลแน่นอนกว่า”



    ผู้ถาม : “ปล่อยปลาอะไรดีคะ...?”
    หลวงพ่อ : “เขาไม่จำกัดว่าปลาอะไร แต่ว่าปลานั้นมันจะต้องตาย ต้องเป็นปลาที่มีชีวิต”
    ผู้ถาม : “บางคนเขาก็บอกว่า ปลาที่เราปล่อยแล้วจะทานไม่ได้ใช่ไหมคะ...? ”
    หลวงพ่อ : “ถ้าปลานั้นมันจะต้องตาย เราก็เอาไปปล่อยเพื่อเป็นการช่วยชีวิต จะเป็น
    ปลาอะไรก็ตาม สัตว์อะไรก็ตาม เราปล่อยให้มันรอดชีวิตเป็นเมตตาจิตใช่ไหม จะต้อง
    ไปนั่นเลือกทำไม บางคนเลือกปล่อยปลานั่น ปลานี่ บางทีไอ้ปลาไม่ค่อยจะตายก็ปล่อย”
    ผู้ถาม : “แล้วเราจะปล่อยแทนคนอื่นได้ไหม...?”
    หลวงพ่อ : “ได้...แต่ว่าเขาไม่มีผลนะ”
    ผู้ถาม : “ถ้าเราปล่อยแล้ว เราอุทิศส่วนกุศลได้ไหมคะ...?”
    หลวงพ่อ : “ถ้าเขายังไม่ตายไปอุทิศส่วนกุศลเขาจะได้รับยังไงล่ะ เราเอาแบบนี้ซิ เราก็เอา
    ปลาไปให้เขาซิ บอกว่าตั้งใจปล่อยปลานะ ฉันหาปลามาให้ปล่อย ให้ปลามันรอดชีวิต
    เท่านั้นแหล่ะ ถ้าเขาอนุโมทนา คือ ยินดีด้วยความเต็มใจ เป็นอันว่าเราปล่อยสัตว์ด้วยจิต
    เมตตา คิดจะช่วยให้รอดพ้นจากการถูกขังก็ดี เห็นว่ามันจะต้องตายก็ดี อันนี้เป็นของดี
    เป็นการช่วยชีวิตเขา และเราก็รอดพ้นจากอุปฆาตกรรมด้วย”

    ----------------------------
    พิมพ์คัดลอกมาจากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑
    ของพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง หน้า ๙๘-๙๙

    ท่าน ddman เชิญต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  3. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    -ดวงอย่างเดียว แต่การตายโ....ห...ง...ก็ดีนะ แรงดี อยากผีนัต ของพม่า
    -เพื่อนข้าพเจ้าหลายคนที่ตายแบบนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะประมาท และดื่มสุรา
    -ปัจจุบันข้าพเจ้าเองจึงงดเว้นการทำลายชีวิตสัตว์ในแต่ละวัน เผื่อจะมีกุศลเกิดขึ้นบ้าง
    -มีคนเกิดอุบัติเหตุไปฟื้นที่รพ. บอกข้าพเจ้าว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บเลย สติวูบหลับไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    บุญทุกชนิดป้องกันการตายโหงเกิน๑๐๐%ครับ ...

    .... แต่โดยธรรมชาติ ไม่ใช่บุญอย่างเดียวหรอกที่คอยตามส่งผลให้เรา ..แม้บาปกรรมต่างๆก็พากันมาเข้าคิวรอส่งผลให้เช่นกัน...เพราะบาปกรรมเกือบทุกชนิดมีการทำใครๆให้ตายโหงมาเช่นกันนับครั้งไม่ถ้วนนั้นเราทั้งหลายก็ทำมากันแล้ว ในสังสารวัฏที่หาเบื้องต้นไม่พบ..

    ส่วนคาถาอะไรๆที่ว่าขลังค์นัก สามารถป้องกันใครตายโหงได้นั้น คงเป็นได้แต่เรื่องมงคลตื่นข่าวเท่านั้น อย่าได้ใส่ใจแสวงหาจนตกไปจากสรณะคือพระรัตนตรัยเลย ...

    ถ้าว่า บุคคลระดับพระมหาสาวกของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นเอตะทัคคะในด้านมีฤทธิ์อย่างพระมหาโมคคัลลา ผู้มีบุญบริบูรณ์ในทุกด้าน..ยังถูกฆ่าตาย(ตายโหง) แล้ว คนอื่นก็ไม่จำต้องกล่าวถึงว่าจะรอดด้วยวิธีใดๆ เมื่อต้องถึงคราวตายด้วยอำนาจบาปเก่าที่ได้ปัจจัยมาส่งผล..

    หรือชายคนหนึ่ง นั่งฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าทั้งคืน พอรุ่งเช้า ถูกเจ้าหน้าที่มาจับไปตัดคอ..ข้อหาขโมยของชาวบ้านเขา(ที่แท้จับคนผิด) ..ดูเถิด นั่นทำบุญมากตลอดคืน แต่กลับต้องตายโหง อย่างนี้แสดงว่าไม่มีใครหรืออะไรมีอำนาจควบคุมบังคับบัญชาอะไรๆได้จริง.. ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากการประชุมพร้อมของเหตุปัจจัยเท่านั้น ..

    จึงพึงยุติความกังวลลงเสียแล้วมุ่งหน้าเจริญกุศลทั้งหลายด้วยศรัทธามั่นคง ด้วยความมีทิฏฐิที่ถูกตรงว่า อาศัยบุญทั้งหลายมีทาน ศีล ภาวนา ย่อมเป็นเหตุเพื่อผลที่ดีน่าปรารถนาและเพื่อความพ้นทุกข์ได้ ไม่ได้คิดจะทำบุญที่เลือกเอาเพื่อป้องกันตายโหง เพราะการทำบุญเช่นนี้ ไม่มีผลนัก ยิ่งทำยิ่งเบลอเป็นปัจจัยแก่การสั่งสมความไม่รู้มากขึ้น ไม่ดีเลย..

    บุญที่ควรเร่งทำไว้ในเวลานี้คือการขวนขวายศึกษาพระธรรมที่ถูกต้องของพระพุทธเจ้า ย่อมได้ปัจจัยเเห่งปัญญาทราบเหตุผลของสิ่งต่างๆในชีวิตได้ อย่างแจ่มแจ้ง สามารถแก้ทุกข์นานาชนิดที่เกิดได้ด้วยความแยบคาย ไม่ตกไปเป็นเหยื่อของสิ่งงมงายที่ขาดเหตุผลอันเป็นความเสียหายแต่ถ่ายเดียว..นะครับ..


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เพิ่งเห็นเทียบเชิญจากท่าน pongio หลังจาก post ความเห็นขอรับ...คราวหน้าจุดธูปเรียกก็พอครับ..:cool:
     
  6. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    คิดดี..พูดดี..ทำดี..มีศีล 5 ไม่ตายโหงแน่นอน นอกเสียจากวิบากกรรมเก่าตามมาทันค่ะ
     
  7. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ผมว่าพี่เข้าใจผิดแล้วขอรับ พระโมคคัลลานะ ไม่ได้ถูกฆ่าตาย
    ท่านมีกรรมที่ทุบตีพ่อแม่ในอดีต มาชาตินี้โจรมันมาตามฆ่า
    ท่านหนีด้วยฤทธิ์ได้ทุกครั้ง แต่ท่านยอมให้โจรมันทุบเอง เพราะท่านส่องเห็นอดีตตัวเองขอรับเลยปล่อยให้เป็นไปตามกรรมลิขิต แต่หากท่านจะฝืนก็ได้ไม่ได้เกินความสามารถท่านเลย
    พอปล่อยให้โจรมันทุบเสร็จ ท่านไม่ตายนะขอรับ ท่านใช้ฤทธิ์สมานกระดูกเข้าด้วยกัน แล้วเหาะไปลาพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน
    แบบนี้ไปบอกว่าท่านตายโหงได้ไงขอรับ
     
  8. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ถ้าไม่อยากตายโหง อาจารย์ผมบอกมา เจอสัตว์จะถูกฆ่าให้ช่วยไถ่ชีวิต หรือช่วยชีวิต
    อย่าฆ่าสัตว์ ทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ผู้ที่เราเคยไปตัดรอนชีวิตเขาในอดีตที่ไม่รู้ไม่เห็น แล้วก็เจริญสติด้วย ขอรับจะทำให้ไม่ประมาท
     
  9. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ขอบคุณน้องเจที่มาท้วงครับ น้องเจคงไม่เข้าใจว่าท่านพระโมคคัลลาทำอัตตวินิบาตกรรมฆ่าตัวตายเองหลังจากกราบบังคมทูลลาพระผู้มีพระภาคกระมังครับ?...หรือจู่ๆท่านบังเอิญสิ้นชีวิตด้วยเหตุแห่งโรคาพาธปัจจุบันทันด่วนในเวลานั้น?

    น้องเจช่วยอธิบายสาเหตุที่พระโมคคัลลาดับขันธให้พี่ทราบเพื่อเป็นความรู้ที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนจะได้ไม่เข้าใจผิดต่อไปในภายหน้านะครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2013
  10. บันลือธรรม

    บันลือธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    800
    ค่าพลัง:
    +2,370
    บุญใน ทาน ศีล ภาวนา สามารถช่วยได้ครับ แต่ถ้ากรรมหนักมาก ๆ ในอดีตชาติ
    หรือชาติปัจจุบัน ก็อาจช่วยไม่ได้ เพราะ อยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง
    อนัตตา ครับ เราจึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เพราะแก่นของพระพุทธศาสนาคือความไม่ยึดมั่นถือมั่น
    (จากหนังสือแก่นของพระพุทธศาสนา ของท่านพุทธทาส สวนโมกข์ฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2013
  11. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ตายละหว่า จะมาตามกลิ่นหรือคะ เอาธูปยี่ห้อไหนดี
     
  12. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    พี่ ดีดี ขอรับ ลาไปนิพพานนี่ ไม่ใช่การทำอัตตวินิบาตนะขอรับ
    เมื่อร่างสังขารไม่ไหว ท่านก็เข้าฌาณแล้วละสังขารนะขอรับ
    เหมือนพระพุทธเจ้าตอนปรินิพพาน พี่ต้องเข้าใจฌาณก่อนนะขอรับ พี่ถึงจะรู้หลักการละทิ้งขันธ์
    พระอรหันต์นี่ ท่านไม่ได้ตายแบบหลงๆลืมๆนะขอรับ ท่านละสังขารอย่างมีสติได้
    ไม่งั้นพระพุุทธเจ้าจะบอกหรือขอรับว่า พญามัจจุราชมองไม่เห็น
     
  13. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    น้องเจ หากคิดนึกเอาเองแล้วนำมาแพร่ผิดๆเช่นนี้ นับว่าไม่น่าปลอดภัยเลย พี่ใคร่จะแนะนำน้องเจให้อ่านจากที่นี่ เผื่อจะได้ความรู้ที่ถูกตรงบ้าง ..

    http://www.84000.org/tipitaka/atth...00.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=20&p=7

    การนึกสุ่มเดาเอานั้น ในปุถุชนเป็นทางให้ผิดพลาดง่ายดาย หากคิดแล้วนิ่งไว้เฉพาะตนก็ไม่เป็นอะไร แต่หากนำมาแพร่ในที่ธารณะให้ชาวประชารู้ผิดตามนั้น มีโทษมากทีเดียวด้วยว่าเป็นการบิดเบือนข้อธรรมที่ถูกตรงไปเสีย .

    ขอยกข้อความที่เกี่ยวกับการทำกาละของพระโมคคัลลามาแสดงเพื่อความเข้าใจที่ถูกของธารณชนในที่นี้ดังนี้.

    ...ข้อความจากพระไตรปิฎก

    พระเถระถึงมรณะสมควรแก่กรรมของตน
    ภิกษุทั้งหลายสนทนากัน๑- ในโรงธรรมว่า "น่าสังเวชจริง พระมหาโมคคัลลานะ มรณภาพ๒- ไม่สมควรแก่ตน."


    พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้น กราบทูลว่า "ด้วยกถาชื่อนี้ พระเจ้าข้า" ดังนี้แล้วตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะมรณภาพไม่สมควรแก่อัตภาพนี้เท่านั้น แต่เธอถึงมรณภาพสมควรแท้แก่กรรมที่เธอทำไว้ในกาลก่อน"

    ผลของกรรมชั่วตามสนอง
    พระศาสดา ครั้นตรัสบุรพกรรมนี้ของพระมหาโมคคัลลานะนั้นแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย โมคคัลลานะทำกรรมประมาณเท่านี้ไหม้ในนรกหลายแสนปี ด้วยวิบากที่ยังเหลือจึงถูกทุบตีอย่างนั้นนั่นแล ละเอียดหมด ถึงมรณะสิ้น ๑๐๐ อัตภาพ โมคคัลลานะได้มรณะอย่างนี้ ก็พอสมแก่กรรมของตนเองแท้.


    อนึ่งภาษาในพระไตรปิฎกอาจยากเกินกว่าการทำความเข้าใจของน้องเจได้ ข้าพเจ้าใคร่ขอยกตัวอย่างมาเทียบเคียงดังนี้ ..


    น้องเจคงเคยได้ยินข่าวมาบ้างว่า มีวัยรุ่นถูกรุมยำบาทา จนอาการปางตายในที่หนึ่ง เขายังหายใจรวยรินอยู่ มีคนใจดีเห็นเข้าก็รีบพาไปโรงพยาบาล วัยรุ่นเคราะห์ร้ายนั้น อยู่ในโรงพยาบาล๒วันก็สินใจ ดังนี้...น้องเจเข้าใจว่าวัยรุ่นคนนี้ตายโหงหรือตายไม่โหงขอรับ?..

    ท่านพระโมคัลลานะก็เช่นกัน ท่านถูกทำร้ายจนปางตาย แม้ไม่ทำกาละทันที แต่ความบอบช้ำของกายจากการถูกทำร้ายหนักเช่นนั้น ย่อมเป็นเหตุของการทำกาละของท่าน..แต่เพราะความที่ท่านมีฤทธิ์มากกับความมีคุณแห่งการเป็นพระอรหันต์อสีติมหาสาวก...ท่านจึงสามารถประสานกระดูกเพื่อไปทูลลาพระบรมศาสดาตามธรรมเนียมปฏิบัติของพระอสีติมหาสาวกทั้งหลาย..



    หากพระโมคคัลลา ทำกาละด้วยการลาเข้าปรินิพานด้วยความปรกติ ตามทฤษฎีที่น้องเจคิดขึ้นเองแล้วไซร้..น้องเจคิดว่าเหตุไรเหล่าพระภิกษุจึงต่างสนทนากันว่าการทำกาละของพระโมคคัลลานั้น"ไม่สมควรเลย"เล่า?


    ขอให้น้องเจไตร่ตรองพระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้ทรงตรัสได้แต่ความจริงให้ดี และพิจารณาการกล่าวหาว่าข้าพเจ้า"เข้าใจผิด"นั้น สมควรด้วยเหตุผลประการใด?..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2013
  14. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    กระทู้นี้คือ ทำอย่างไรไม่ให้ตายโหง! ไม่ใช่พระโมคคัลลานะ ผมว่าสมควรที่จะยุติแล้วน่ะครับ เนื่องจากความคิดเห็นที่แสดง ออกนอกประเด็นของกระทู้ bye bye
     
  15. ปีติ

    ปีติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    526
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อานุภาพยันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อปาน « ศูนย์พุทธศรัทธา

    ผู้ที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ได้จะมีอานุภาพดังนี้
    ๑.จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
    ๒.จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
    ๓.ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
    ๔.ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
     
  16. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ไม่ปลอดภัยอะไร งง ที่พี่เอามาให้อ่านก็เหมือนกันกับที่ผมพูด ไม่เห็นมีสักประโยคที่บอกว่า พระโมคคัลานะฆ่าตัวตาย และตายโหง บาปกรรมนะขอรับพี่ ที่ไปว่า พระโมคคัลลานะตายโหงอะ
    ผมอุตส่าห์เอาความจริงมาบอกยังจะมาหาว่าผมเผยแพร่ผิด พี่ต่างหากที่บอกว่าพระโมคคัลลานะตายโหงนั่นแหละผิดนะขอรับ
     
  17. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ตรงไหนที่บอกว่า พระโมคคัลลานะ ตายโหงอะขอรับ
    ผิดแล้วยังจะมาตู่คนอื่น ว๊ากๆ ทำไปด้าย
     
  18. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    คาดไว้อยู่แล้ว ...พี่ถึงว่าไงว่าน้องเจคงอ่านหลักฐานจากพระไตรปิฎกไม่เข้าใจ จึงยกตัวอย่างง่ายๆเทียบเคียง..แต่เมื่อน้องเจไม่เข้าใจ .. ใครจะไปว่าอะไรน้องเล่าครับ ...

    . .
    .

    .
     
  19. Jmind

    Jmind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +756
    ใครกันแน่ที่ไม่เข้าใจขอรับ ดูซิตัวเองไม่เข้าใจยังจะโทษว่าคนอื่นไม่เข้าใจ
    มิหนำซ้ำ มาว่ากาผมสุ่มเดาและบิดเบือน ยังจะบอกว่าไม่ว่าอะไร หลักฐานเลยนี่

    ใครกันว้า บอกพระโมคคัลานะตายโหง แถมยังบอกด้วยว่า พระโมคคัลานะกระทำอัตวินิบาต
    บิดเบือน สุ่มเดา แถมยังโยนความผิดให้คนอื่นหน้าตาเฉยเบย
     
  20. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    น้องเจ ลองหาเหตุผลให้ทราบหน่อยว่า...เหตุไรเหล่าพระภิกษุจึงพากันกล่าวว่า...

    ภิกษุทั้งหลายสนทนากัน๑- ในโรงธรรมว่า "น่าสังเวชจริง พระมหาโมคคัลลานะ มรณภาพ๒- ไม่สมควรแก่ตน."

    ในเมื่อตามทฤษฎีการทำกาละของท่านน่าจะเป็นเรื่ิองสมควรแล้ว?.!..
     

แชร์หน้านี้

Loading...