ตีสิบ 3 ก.ย. 56 ดอกบัวคู่ และ เณรคำ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย hmu111, 4 กันยายน 2013.

  1. hmu111

    hmu111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +391
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=lmgazpmNBho]ตีสิบ 3 ก.ย. 56 2/5 ดอกบัวคู่ และ เณรคำ[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=3Abl1mXY80s"]ตีสิบ 3 ก.ย. 56 3/5 ดอกบัวคู่ และ เณรคำ[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=WUXNGKyh7IY"]ตีสิบ 3 ก.ย. 56 4/5 ดอกบัวคู่ และ เณรคำ[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  2. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขออนุโมทนากับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคุณแม่สุนันทา ที่มีความศรัทธาและต้องการได้ทำบุญกับพระอริยสงฆ์ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้้องการจรรโลงพระศาสนา

    แต่ใครก็ตามที่หากินกับความศรัทธาของผู้อื่น ก็เตรียมรับกรรมที่ท่านได้กระทำไว้กับผู้บริสุทธิ์ คุณแม่สุนันทาได้บอกกับผู้ที่มีความศรัทธาว่า.....

    "มีศรัทธา ก็ควรมีปัญญา ใครที่เค้าเตือนก็ควรคิดตาม ควรฟังคำคนอื่นบ้าง ดูว่าคนนั้นปฎิบัติตามพระวินัยหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นเราก็เสียทรัพย์ฟรี"

    ที่คุณแม่สุนันทา สงสัยกับความพระพฤติของคนนี้คือ...

    -ไม่ทำวัตรเช้า เย็น
    -ยืมเงิน แล้วไม่คืน ต้องทวง
    -พูดโกหก
    -บังคับคนทำบุญ
    ฯลฯ

    และที่ข้าพเจ้าและน้องอีกคนเคยเจอคนห่มเหลืองบางคนคือ(ไม่ใช่เณรคำแต่พฤติกรรมเหมือนมาก) มีพฤติกรรมดังนี้...

    -ไม่ทำวัตร บอกเหนื่อย ไม่บิณฑบาตร ให้แม่ส่งข้าวให้กิน
    -ยืมเงิน แล้วไม่คืน ต้องทวง
    -พูดโกหก บอกกินมังสวิรัต แต่พอกินจริงกินผัดกระเพราหมู ..เวรกรรมแท้ๆ
    -บังคับคนทำบุญ
    -บอกว่าไม่มีพระองค์ไหนถือศีลได้ครบ 227 ข้อ (เพราะคนห่มเหลืองคนนี้ ศีล 5 ยังถือไม่ได้เลย ก็เลยคิดว่าคนอื่นจะ...เหมือนตัวเอง)
    ฯลฯ


    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  3. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    สาธุ สาธุ สาธุ เป็นแบบนี้จริงๆ "ศรัทธาจริต" ขาดสติสะตัง เชื่อตามๆเค้าเล่าๆมา ตอนเป็นเด็กๆก็แบบนี้เหมือนกันชอบโหมๆๆๆตามเค้า ใครว่าดีก็ตามๆๆกันไป ศรัทธาจริต ตัวเราเองก็เป็น แต่ยังโชคดีที่พบเจอ"ของดี" มากกว่า "ของเลว"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2013
  4. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    จริงของคุณ ถือว่ายังโชคดี พบของดี มากกว่า ของเลว
     
  5. hmu111

    hmu111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +391
  6. เนตรบพิตร

    เนตรบพิตร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอยกย่องและอนุโมทนาบุญกับคุณแม่สุนันทา ที่ทำบุญกับพระพุทธศาสนาด้วยจิตศรัทธา
    ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะเชื่อมั่นในพระศาสนา ยิ่งเมื่อมีผู้อ้างตนว่าเป็นอรหันต์ ชนทั่วไปผู้แสวงหาความพ้นทุกข์ยิ่งรู้สึกศรัทธาและต้องการจะสร้างกุศลกับพระอรหันต์ แม้การทำบุญในครั้งนี้จะได้ทำไปโดยความเชื่อที่ขาดการพิจารณา ก็ไม่ถือเป็นเรื่องหน้าอาย เพราะได้กระทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ผิดกับผู้ที่อาศัยพระศาสนาเป็นเส้นทางในการหากินบนความเชื่อของผู้อื่น การประพฤติตนเช่นนี้เป็นสิ่งที่ควรละอาย เพราะนอกจากจะเสื่อมเสียแก่ตนแล้ว ยังเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูลอีกด้วย อยู่ในผ้าเหลืองเสียเปล่าไม่เกรงกลัวบาปกรรมเอาเสียเลย
     
  7. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    คนพวกนี้ไม่กลัวบาปกรรม เร่งหากินกับผู้มีศรัทธาเพื่อที่จะสร้างอาณาจักรของตน ได้เงินมาจากความศรัทธาของผู้บริสุทธิ์

    คุณแม่สุนันทาท่านให้ข้อคิดทีดีมาก "มีศรัทธา ก็ต้องมีปัญญาด้วย"

    เราควรฟังเรื่องราว หรือข่าวจากคนอื่นแล้วนำมาพิจารณาบ้างในกรณีที่มีคนกล่าวถึง คนห่มผ้าเหลืองที่หลอกลวงหากินอย่างนี้ เพราะ ไม่มีใครกล้าว่าพระที่ท่านปฎิบัติดีหรอก ทุกคนเกรงกลัวนรกด้วยกันทั้งนั้น แต่หากพูดถึงก็แสดงว่า เรื่องมันต้องมีมูล....นี่พูดถึงประสบการณ์ที่ข้าพเจ้าได้พบเจอ..คนเลวมาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2013
  8. nacholnipa

    nacholnipa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +97
    เคยประสบพบเจอเหมือนกันค่ะ ทำนองเณรคำเลย

    เคยเจอประเภทเณรคำเลย... แทนตัวเองว่าหลวงปู่ ยกตนข่มท่าน อวดอ้างคุณวิเศษว่าตัวเองเป็นญาณหลวงปู่เทพโลกอุดร / กล่าวหาว่าร้าย หลวงปู่ขุ้ย หลวงปู่ดู่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และพระองค์อื่นๆอีก..
    ได้แต่คิดว่าคงเป็นคราวเคราะห์ที่ไปเจอของเลว.. ตอนนั้นเราไม่ได้แตกต่างกับคุณแม่สุนันทาเลย
    มีศรัทธาที่ไร้ปัญญา แต่เะราะพฤติกรรมส่อเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราตาสว่าง
    (ห่มผ้าเหลืองแต่กิเลสเต็มสมอง)
    เคยบอกเคยเตือนญาติธรรมบางคนไปแล้ว บางคนก็ว่าเราไปอิจฉา ว่าเราไปใส่ร้าย
    เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอเองก็จะไม่ทราบค่ะ
    จึงปล่อย ... ปล่อยให่เป็นเรื่องของกรรม กรรมใครกรรมมัน
    สักวันเมื่อเขาได้ไปอยู่รับใช้ ใกล้ชิด กับพระเก๊เหล่านี้ เขาจะทราบในสิ่งที่เราเตือนเอง
     
  9. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์

    เตือนใจพระทุศีล

    ปัญหา กุลบุตรที่บวชในพระพุทธศาสนาแล้ว ประพฤติล่วงละเมิดพุทธบัญญัติมีธรรมอันลามก หลอกลวงชาวบ้าน จะมีโทษอย่างไร?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอทั้งหลาย การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรก น่ารังเกียจ ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้าเป็นดังหยากเยื่อ บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาลหรือคฤหบดีมหาศาลจะดีอย่างไร การที่บุรุษมีกำลังเอาขอเหล็กแดงไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงเกี่ยวปากอ้าไว้ แล้วกรอกก้อนเหล็กแดง ไฟกำลังลุกโชติช่วงเข้าในปาก ก้อนเหล็กแดงนั้นจะพึงไหม้ริมฝีปาก ไหม้ปาก ไหม้ลิ้น ไหม้คอ ไหม้อก ไหม้เรื่อยไปถึงไส้ใหญ่ไส้น้อย แล้วออกทางทวารเบื้องต่ำ นี้ดีกว่าข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้นั้นพึงถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย มีข้อนั้นเห็นเหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไปไม่พึงเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก เพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย
    “ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก..... เป็นดังหยากเยื่อ บริโภคบิณฑบาตที่เขาถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์ มหาศาล... ย่อมเป็นไปเพื่อความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน แก่บุคคลผู้ทุศีลนั้น และบุคคลผู้ทุศีลนั้น เมื่อตายไปย่อมเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก....ฯ”

    อัคคิขันธูปมสูตร ส. อํ. (๖๙)
    ตบ. ๒๓ : ๑๓๔ ตท. ๒๓ : ๑๑๘
    ตอ. G.S. IV : ๘๗-๘๘
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    นี่คำสอนหรืออะไรกัน แต่ที่รู้ๆไม่ใช่คนสอนแน่ๆ

    คนห่มผ้าเหลืองบางคน สอนเด็กหนุ่มว่า "หากต้องการมีอะไรกับผู้หญิง ให้ไปสึกใต้ต้นไม้ เมื่อเสร็จกิน ก็ให้ปลงอาบัติ ห่มเหลืองต่อไปได้"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. กัณฑกะ

    กัณฑกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +1,427
    [​IMG]
     
  12. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เป็นลูกค้าคนหนึ่งของดอกบัวคู่ครับ
     
  13. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อย่าคิดว่าศีล 227 นั้น ไม่มีใครประพฤติตามได้

    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
    กวดขันเรื่องศีล 227ข้อของพระภิกษุว่า.



    อย่าได้มองเห็นไปว่า ศีลทั้ง 227 ข้อนั้น ในโลกนี้จะไม่มีผู้ที่ประพฤติตามได้ ผู้ที่กล่าวเช่นนั้น คือ ผู้ที่มีจิตไม่เอื้อเฟื้อต่อธรรมวินัย เป็นการตีความเข้าข้างตัวเอง ที่ตกอยู่ภายใต้จิตใจทีฝ่ายต่ำที่ครอบงำ จึงตีความเอาว่า ไม่มีภิกษุรูปใดจะทำตามพุทธบัญญัตินั้นได้ เห็นไปว่า การปฏิบัติตามศีล 227 ข้อทั้งหมดนั้นตึงเกินไป ถึงกับสมณะบาวรูปบางสำนัก สอนกันว่า ศีลทั้งหมดรักษาไว้แต่ปาราชิก 4 ข้อก็พอ!!!

    โถ!!!....น่าสงสาร ก็เลยไม่ต้องเป็นพระกันเลย!!!

    หลวงปู่ฯย้ำว่า การเป็นพระ ไม่เว้นในศีลข้อใดข้อหนึ่ง แม้แต่มุสาวาท นี้ ยังเป็นศีลของคฤหัสถ์ด้วย เป็นแค่เบญจศีล ที่ทำให้มีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ถือเพียงแต่ศีล 5ของคฤหัสถ์เท่านั้นก็ยังไม่ได้ จะเป็นศีล10ของสามเณรก็ยังไม่ได้เสียแล้ว!!!

    ถ้าภิกษุกล่าวมุสาวาท โกหกตอแหล แค่เป็นมนุษย์สมบูรณ์ยังเป็นไม่ได้ ประสาอะไรที่จะเป็นพระ!!!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. ด้วงน้อย

    ด้วงน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +70
    ผมว่า พวกหาเงินกะ ท่านที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดูง่ายนะครับ พวกหาเงินก็จะวุ่นว่ายอยู่กะ เงินๆ ทองๆ นะแหระ เนาะ
     
  15. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ใช่ คนห่มเหลืองพวกนี้จะเน้นเรื่องเงินเป็นหลัก

    คนมีจิตศรัทธาบางท่าน ท่านต้องการทำบุญแค่หลักพัน แต่พวก...ก็คะยั้นคะยอให้ทำเป็นหลักหมื่น หลักแสน....

    เคยบอกแม้กระทั่งให้น้องคนหนึ่ง ขายพระห้อยคอ เอามาทำบุญกับมัน เดชะบุญที่น้องคนนั้นนึกสะกิดใจขึ้นมาได้ จึงรอดตัวไป

    ข้าพเจ้าเป็นคนมีศรัทธาต่องานบุญทุกงาน แต่ก็จะพิจารณาด้วยว่าของจริงหรือ ของหลอก
     
  16. นาย หวังดี

    นาย หวังดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,272
    ให้กำลังใจครับ รักษากำลังใจในการทำบุญไว้นะครับ
     
  17. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อานิสงส์การบวชในพุทธศาสนา...โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    บุคคลผู้ใดมีวาสนาบารมีคือมีศรัทธาแก่กล้า ตั้งใจอุปสมบทในพุทธศาสนาเป็นพระสงฆ์ แต่ว่าเมื่อบวชแล้วก็ต้องปฏิบัติชอบ ประกอบไปด้วยคุณธรรม คือมีพระธรรมวินัยเป็นสำคัญ อันนี้องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า
    ท่านที่ บวชเป็นพระด้วยตนเองจะมีอานิสงส์พิเศษที่องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ตรัสไว้
    แต่ทว่า ภิกษุสามเณรท่านใดผิดบทบัญญัติในพระพุทธศาสนาก็พึงทราบว่า เมื่อเวลาตายก็มีอเวจีเป็นที่ไปเหมือนกัน อานิสงส์ที่พึงได้ใหญ่เพียงใด โทษก็มีใหญ่เพียงนั้น


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ธรรมปฏิบัติเล่ม 1หน้า 29-35
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    มหิทธิกาเปรต

    เปรตตระกูลนี้ เป็นเปรตที่มีฤทธิ์และรูปงามดุจเทวดา แต่ว่าอดอยากหิวโหยอาหารอยู่ตลอดเวลา เหมือนเปรตชนิดอื่นๆ จะเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ เมื่อพบคูถมูตร และของสกปรกก็จะดูดกินเป็นอาหาร

    กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งเป็นมนุษย์ บวชเป็นพระภิกษุสามเณร พยายามรักษาศีลของตนให้บริสุทธิ์ จึงมีรูปงามผุดผ่องราวเทวดา แต่ไม่ได้บำเพ็ญธรรม มีใจเกียจคร้านต่อการบำเพ็ญสมณธรรมตามวิสัยของบรรพชิต จิตใจจึงมากไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ มีความเข้าใจผิดว่า "เราบวชแล้ว รักษาแต่ศีลอย่างเดียวก็พอ ไม่เห็นต้องทำบุญให้ทานเหมือนฆราวาสเลย" ครั้นเมื่อละโลกจึงมาเกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เปรตตระกูลสุดท้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. thexjeab

    thexjeab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +685
    ทำดีได้ดีทำชั่วยอมได้ชั่วเป็นสิ่งที่แน่นอน
     
  20. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ฉบับที่ ๓

    การโกงสมบัติผู้อื่นตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไปคือประมาณไม่ถึง 300 บาทในปัจจุบัน ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิกฐานผิดพระธรรมวินัยพ้นจากความเป็นพระทันที ในกรณีนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้เห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก ไม่ว่าจะมีการจับสึกหรือไม่ก็ตาม

    ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรก็เพื่อเตือนให้รู้ทั่วกันว่า ผู้ต้องอาบัติปาราชิกนั้นไม่ใช่พระในพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้นำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง เป็นพระปลอม

    ต่อจากนั้นย่อมเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้รักษากฎหมาย หรือของผู้มีหน้าที่ในการพุทธศาสนา จะต้องรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้มีพระปลอมมาทำลาย ทำให้เสื่อมเสีย เช่นที่ผู้รักษากฎหมายเคยทำมาแล้ว เคยบังคับให้เป็นผู้ปลอมเป็นพระ ถอดผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากตัว การปฏิบัติต่อพระปลอมต้องไม่มีแตกต่างกัน ต้องไม่มียกเว้นว่า คนนั้นปลอมได้คนนี้ปลอมไม่ได้ เป็นพระปลอมมีอยู่ในพุทธศาสนาไม่ได้ทั้งนั้น

    ประกาศนั้นเป็นคำบอกเล่าเป็นคำเตือนให้รู้ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับมหาเถรฯไม่บังคับให้เชื่อ ไม่บังคับใครให้ทำอะไร แสดงความถูกผิดให้ปรากฏอยู่เท่านั้น ในฐานะที่เป็นประมุขแห่งสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงต้องทำหน้าที่ส่วนตนให้เรียบร้อยถูกต้อง บอกความจริงด้วยความหวังดีมิได้บังคับ จงเข้าใจทั่วกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...