^__^เหรียญหล่อประภามลฑล หนึ่งในวิชาที่หลวงปู่ศุขถ่ายทอดให้หลวงปุ่สุภา

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย ก๋ง สุญญตา, 29 เมษายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6236 (525x700).jpg

    4แหวนฉลุล้อมเพชร รัสเซี่ยน หัวบนเป็นเหล็กไหลทโทน ครับ สวยหายาก ทุนมายังไม่ได้ แต่เราดั๊มราคาไว้ ให้มิตรรักแฟนเพลงครับ เฉลี่ยๆ กันไปพออยู่ได้ครับ .....................999 เท่านั้น มีน้อย ครับ...............
     
  2. ณัฐณรงค์

    ณัฐณรงค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +280
    จอง 3 สร้อยคอนี่ครับ
     
  3. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6234 (525x700).jpg

    5เอาใจคนไม่ชอบความเป็นป๋าล้อมเพชร สวยดิบๆ แบบขลังๆ สไตย์ แหวนรุ่น ดูแล้วเข้มขลังมีพลังมากมาย มหาศาลมากๆ ครับ ...........เห็นแล้วว้าวคำเดียว 999 เท่ากัน ..................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  4. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6209 (525x700).jpg

    6เขี้ยวหมูตันงา ตัวนี้ ไม่ธรรมดา เพราะเขี้ยวขาวมันแบบงาช้างไม่ใช่แบบเขี้ยวล่องลอยการต่อสู้ และการใช้งานจน มุม ลบเลือน ตัวนี้เจ้าของบอกว่า ฆ่าไม่ตาย แต่ จมน้ำตายเองครับ ดีกรี ความขลัง และ หนังดียิงไม่เข้าเจ้าของรักมาก แต่ ว่ากว่าจะได้มาไม่ง่าย เสียพรานดีๆ ไปหลายคนครับ ........พร้อมจับขอบเงินสวยๆ ครับ 7500 ตัดใจขายครับ อันนี้ ตำนานมัน สุดยอดครับ วันหลังค่อยเล่าครับและ เทียบกับ เขี้วหมูด้วยกัน พันอันแล้ว อันนี้สวยที่สุดครับ หลวงพ่อที่ลงให้ ทางสายเหนือดังๆ ถึงกลับพูดว่า ............ มันขลังก่อนที่จะเสกแล้วครับ ...............ชิ้นนี้ผู้จัด ว่าจะจับขอบทองขึ้นคอบ่อตง ........จองแย้ว ............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  5. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6226 (525x700).jpg

    7กัลปังหาดำ อินโดฯ 1200 ครับสวยเหมาะกะสุภาพสตรีมากๆ กิ๊บเก๋สะเลบี้ครับ ................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  6. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6227 (525x700).jpg

    8กัลปังหาทอง หายากฝุดๆ 1500 ครับผม ทังแก้กัน และดูดทรัพย์ดีนักแล คุณไก่เรือยอท จองแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  7. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6206 (525x700).jpg

    SAM_6207 (525x700).jpg

    9งาขนาย แกะเป็นพระพิคเนศ สวยหรู อลังการงานสรัางครับองค์นี้แกะยากมากๆ ครับ ทำเก่านานแล้วครับ งาขนาย เป็นงาช้างตัวเมีย มีคุณวิเศษ ในตัวอยู่แล้วรวมกับ เทพแห่งความสำเร็จ คิดเองว่าจะแฮง ขนาดไหน ครับ 12000 จัดไปสำหรับ ผู้ต้องการความสำเร็จแห่งชีวิต .....................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  8. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6205 (525x700).jpg


    10เล็กๆไม่ใหญ่ ใครนะ อิๆๆๆๆๆ ชอบ องค์นี้ได้ใหญ่ กว่าเหรียญสิบครับ หายากทั้งงาคู่ด้านข้าง และงา ขนายแกะตัวพระ แต่ราคาถูกว่าองค์เล็กซะงั้น เจ้าของบอกว่า พี่ครับ องค์เล็กแกะยากว่าครับ ซะงั้น 9000 จัดเบาๆ ให้แฟนพันธ์แท้ พิคเนศเท่านั้นได้ไปครอบครอง มีชิ้นเดียวนะครับ ......... คนทำ เค้าตาไม่ดีแย้ว เค้าบอกมา และงา นับวันหายาก และ กลายเป็นของต้องห้าม ต้องมีใบ ซื้อขายงาชิ้นใหญ่ ครับ ............ สวย หรูอลังการ คุณค่า แก่คนมีระดับเช่นคุณ.....................
     
  9. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6217 (700x525).jpg

    SAM_6213 (525x700).jpg

    ภาพนี้ จริง ๆ ตอ้งว่ากันเรือนหมื่นครับ เพราะเป็นภาพ หลวงปู่มั่น ที่ทันหลวงปู่มั่นครับ หายากระบายสีเลี่ยมทองเดิมๆ ดูห่วง แทบขาดแล้ว เจ้าของ ขอร้องไว้ว่าอย่าขายแพงให้ คนสายกรรมฐาน เป็นเจ้าของ เค้าฝากมา แค่ 6000 ไม่สอยไป จะหาของทันท่านไม่มีครับ เพราะ ของทุกอย่างแทบไม่ทัน หลวงปู่มั่นแต่ชิ้นนี้ นั่งยันนอนยัน ว่า ทันท่านปลุกเสก แน่นอน และ เล่นพระเพิ่งเจอ ครับ ......
     
  10. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6218 (525x700).jpg

    SAM_6219 (525x700).jpg

    มหาพรหมธาดา ตอ้งวัดดอน แน่นอน องค์นี้ หลวงพ่อกิ๋น เสก รอยจารเพียบ เราก็สายนี้ด้วยสิ ไม่อยากจะขายแต่ ไม่ชอบโชว์ครับ 3900 ห้อยแล้ว จะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิต บอกได้แค่นี้ครับ กลับ พระผู้มีธรรม สี่ประการและ ลิขิตชะตามนุษย์ ให้เป็นไปตามกรรม และ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ผู้บูชาย่อมเจริญรุ่งเรือง มี ลิขิต ช่ีวิต ที่สวยหรู ครับ .......................
     
  11. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6220 (525x700).jpg

    SAM_6221 (525x700).jpg

    ลอคเกต คอน้ำเต้าหลวงพ่อทบ ใช่ว่าจะเจอกันง่ายๆ ๆครับ เคยแอบถามๆ เวปหนึ่งเปิดไว้ ถึง 30000 ครับ บอกตามตรง แต่ นะ เรา แบ่งๆกันไป 12000 ทีเด็ดจริงๆ อันนี้หายาก ฝุดๆๆ ครับ รับรอง สายเพชรบูรณ์ ต้อง มาสอยแน่นอนครับ .........................
     
  12. POTE_ALWAYS

    POTE_ALWAYS Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +79
    พระเจ้าองค์ตื้อ หนองคาย

    วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ตามหลักศิลาจารึกว่าสร้างเมื่อ 2105 พร้อมกับพระเจ้าองค์ตื้อ พระไชยเชษฐาผู้ครองนครเวียงจันทน์เป็นผู้ส­ร้าง นามเดิม วัดโกสีย์ แต่ชาวบ้านเรียกวัดองค์ตื้อ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2105 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 7 เมตร ยาว 13 เมตร

    หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อเป็นพระพุทธรูปที่เ­ก่าแก่สร้างขึ้นด้วยเนื้อทองสัมฤทธิ์ ฝีมือศิลปกรรมล้านนาผสมล้านช้าง ขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร 29 เซนติเมตร สูง 4 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิปาฎิ­หาริย์ และเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชน โดยทั่วไปในประเทศและต่างประเทศ

    เมื่อถึงประเพณีสมโภชพระเจ้าองค์ตื้อของทุ­กๆปี ในวันขึ้น 11 ค่ำไปจนถึงแรม 1 ค่ำเดือน 4 โดยจะมีการเวียนเทียนรอบวิหารหลวงพ่อพระเจ­้าองค์ตื้อ ชาวบ้านนิยมเรียกว่าบุญเดือน 4 หรือบุญเผวส และมีอีกงานวันสงกรานต์จะมีผู้คนจากทั่วสา­ระทิศหลั่งไหลมาในงานอย่างมากมายขนาดเนื้อ­ที่วัด 11 ไร่กว่ายังเต็มไปด้วยผู้คน เวลาเดินต้องไหลเหมือนกระแสน้ำไม่ใช่บริเว­ณวัดเท่านั้นหน้าวัดหรือถนนทางเข้าจากถนนใ­หญ่ก็ เต็มไปด้วยผู้คนยิ่งในคืนวันขึ้น 15 ค่ำและในตอนเช้าวันแรม 1 ค่ำ จะมีการจุดบั้งไฟบูชาพระเจ้าองค์ตื้อ

    เพื่อที่ให้ได้ทองและโลหะตามจำนวนหนักหนึ่­งตื้อตามมาตราโบราณภาคอีสานถือว่า 10 ชั่งเป็นหมื่น, 10 หมื่นเป็นแสน, 10 แสนเป็นล้าน 10 ล้านเป็นโกฎิ, 10 โกฎิเป็นหนึ่งกือ, 10 กือเป็นหนึ่งตื้อ
     
  13. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_6223 (525x700).jpg

    SAM_6225 (525x700).jpg

    ชิ้นนี้ บอกเลยว่า เป็นอะไรที่แปลกเพราะตอนไปไหว้พระ เมืองเพชร ฟังเทศ วันต้นสน แล้ว อธิฐานว่า อยากได้รุ่นแรก ของท่าน หายากมากๆ ครับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อมเสก 2479 หายากมากๆ ครับ อยู่ดีๆ เจอเฉย ขอห้อยตามแรงอธิฐาน แล้วกัน นะครับเพื่อนๆ จะได้ สัมริดผล กะเค้าบ้าง อยากได้ที่ดิน สวยๆ มาทำที่ปฏิบัติธรรมแล้วหลวงพ่อ ................. ช่วย ที ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  14. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ตามนี้เลย ท่านนิทัศ อยู่อีสานครับแต่ ที่แปลกคือผมไม่รู้ว่าใครสร้างแต่ ในคำอธิบายอบกว่า ศิลป ล้านนา ซึ่งเห็นในภาพ ทางเหนือ เลยบอกไปอย่างนั้นครับ ขนลุกครับ เชิญไปหาท่าน นมัสการได้เลย ...............
     
  15. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอบคุณ คุณ Pote_Always ที่ช่วยหาข้อมูล และขอบคุณอาจารย์ก๋ง ที่ช่วย confirm ครับ หนองคาย ใกล้กว่าเชียงราย ผมต้องหาโอกาสไปให้ได้แน่ๆครับ

    ตอนผม searh อากู๋ดู เจออยู่ทางอีสาน และเหนือ เลยไม่แน่ใจว่าเป็นองค์ไหนครับ เพราะมีชื่อซ้ำกันและคล้ายกัน อยู่หลายองค์เลยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2013
  16. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    แต่ภาพ ที่กูเห็น เป็นแบบทางล้านนานะ แต่ชื่อเดียวกัน หรืออาจเป็นตำนาน ที่ ดี เลยมีการทำ สองสามที่ก็เป็นได้ เอาเป็นว่า ใกล้ที่ไหน ไปโล๊ด เลย ไอ้นายยยยยยยยยยยยยย
     
  17. Srisumlit

    Srisumlit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +450
    ผมได้รับพระิอินทร์สี่หูห้าตาแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
     
  18. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พลิกฟื้นพระเจ้าล้านตื้อ ประวัติศาสตร์ลำน้ำโขงของเมืองเชียงแสน ลำน้ำโขงเป็นสายน้ำใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนสองฝากฝั่ง สายน้ำไหลเชี่ยว ดุดัน จากจีน มุ่งผ่าน พม่า ไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ประวัติศาสตร์ ของชาติต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขง จึงหนีไม่พ้นสายน้ำแห่งนี้

    น้ำโขงไหลผ่านทวีปนี้ราวกับมีชีวิต 10 ปี ไหลไปทางหนึ่ง 100 ปี ไหลไปอีกทางหนึ่ง เปลี่ยนทางไปอีกทางหนึ่ง มีตำนานเล่าว่าถึงเกาะเก่าแก่กลางลำแม่น้ำโขง “เกาะดอนแท่น” เดิมทีเป็นผืนดินในไทยโดยเป็นทีอาศัยของผู้คนเชียงแสนในยุคก่อน เกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดกว่า 10 วัด ตามที่ระบุไว้ในพงศาวดาร เมืองงินยางเชียงแสนภาคที่ 61 ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของ วัดพระเจ้าทองทิพย์ อันเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระพทุธรูปสำริดขนาดใหย่ ซึ่งชาวบ้านกล่าวขานนามว่า “พระเจ้าล้านตื้อ คำว่า ตื้อ คือมาตราวัดของชาวล้านนา หมายถึงโกฏิ ดังนั้นคำว่า " ล้านตื้อ" ก็หมายถึงองค์พระนี้มีขนาดและน้ำหนักมาก สันนิฐานว่าองค์พระคงจมลงไปพร้อมกับเการะดอนแท่น ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณน้ำโขงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน

    ประจักษ์พยานที่เป็นรูปธีทชัดเจนคือ พระรัศมีพระเจ้าล้านตื้อ ซึ่งมีขนาดกว้าง 55 CM สูง 70 CM คาดกันว่าพระรัษมีถูกงมชึ้นมาก่อนปี พ.ศ. 2446 และมีการประมาณว่าพระเจ้าล้านตื้อหากมีอยู่จริง หน้าคักคงกว้างประมาณราว 8.5 m สูง 10 m

    อย่างไรก็ตามคำเล่าขานจึงไม่ใช่เรื่องที่ฝังนิ่งอยู่ในตำนานแต่เป็นเรื่องจริงต้องรอคอยว่าวันหนึ่งองค์พระเจ้าล้านตื้อจะกลับมาสู่เมือง วิธีการกลับคืนมาสู่เมืองจะเป็นอย่างไร คงต้องรอติดตามอย่างใจจดใจ่อ ส่วนจะกลับมาในรุ่นเรา รุ่นลูก หรือรุ่นหลาน หรือกว่านั้น ก็ต้องรอคอยด้วยในอันศรัทธาเหมือนกัน



    ตามรอยพระเจ้าล้านตื้อ
    จากคำบอกเล่าของชาวเชียงแสน ที่บรรทุกไว้ในหนังสือตามรอยพระเจ้าล้านทองทิพ (พระเจ้าล้านตื้อ) ประวัติศาสตร์ลำน้ำโขงเมืองเชียงแสน (หาซื้อได้ ที่พิพิธภันฑ์สถานแห่งชาติ เชียงแสน กล่าวว่าคืนพบพระพุทธรูปกลางลำน้ำโขงครั้งแรกเมือราวปี พ.ศ. 2479 พรานหาปลา ผู้หนึ่งทอดแหหาปลาอยู่กลางน้ำโขงบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงแสนได้เห็นพระพุทธรุปขนาดใหญ่โพล่ขึ้นมากลางน้ำจำได้ว่ามีพระรัศมีบนพระเกศาและเห็นส่วนพระเศียรเพียงแค่พระหนุ แต่อย่างไรก็ตาม การพบเห็นของพรานปลาผู้นั้นขัดกับหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ที่ว่าการค้นพบพระรัศมีนั้นพบก่อน ปี พ.ศ.2446 เมื่อครั้งแรกได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดคว้าง (หลังตลาดเชียงแสน) ต่อมาย้ายไปรักษาที่วัดปงสนุก และวัดมุงเมืองตามลำดับ เมื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ เสร็จจึงนำออกแสดงจนมาถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2488 มีพรานปลาอีกคนหนึ่งพบเสาวิหารขนาดใหญ่จำนวน 2-3 ต้นล้มทับกันจมอยู่ในน้ำโขง ลึกลาว 4 เมตร ที่บริเวณสามแยกหน้าสถานีตำรวจ


    ครั้นถึงปี พ.ศ. 2492 – 2493 เพียสมบูรณ ์(ชาวลาวอพยพมาตั้งถิ่นฐานในอำเภอเชียงแสน) ฝันว่าพระพุทธรูปล้มคว่ำพระเศียรลง หันไปทางทิศใต้ ดังนั้นราวเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ของปีเดียวกันนั้นจึงมีการลงคลำหาพระพุทธรูปกันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากตั้งศาลเพียงตาขึ้นในบริเวณเกาะดอนแท่นและทำพิธีบวงสรวงพระพุทธรูป เตรียมเรือเหล็กขนาดใหญ่ 2 ลำ พร้อมช้าง 3 -4 เชือก นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธี เนื่องจากกระแสน้ำแรงและเย็นมากจึงไม่อาจพบพระรูปแต่อย่างใด

    ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคม พ.ศ. 2509 อิตาเลียน – ไทย จำกัด ได้สัมปทานการสร้างสนามบินในหลวงพระบาง มาพักอยู่ที่เชียงแสน(สมัยนั้นการเดินทางไปหลวงพระบางต้องใช้วิธีการเดินเรือจากเชียงแสนไปถึงจะสะดวกที่สุด) นายชูสง่า ไชยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขณะนั้นจึงได้ให้ทางบริษัทฯ ดังกล่าว ส่งนักประดาน้ำและอุปกรณ์ต่างๆดำเพื่อค้นหาและกู้เอาพระพุทธรูปขึ้นมา ซึ่งเป็นจุดที่เกาะกลางน้ำตรงหน้าสถานีตำรวจฯบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำวน เชี่ยวมาก นักประดาน้ำทนความเย็นไม่ไหว การค้นหาในตอนนั้นจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ได้เพียงพระพุทธรูปองค์เล็ก และโบราณวัตถุอื่นๆอีกเพียงเล็กน้อยจึงหยุดค้นหา

    การค้นหาพระพุทธรูปที่จมอยู่ในลำน้ำโขง ตั้งแต่การพบครั้งแรกจนกระทั้งถึงทุกวันนี้กว่า 70 ปีแล้วเรื่องราวยังเป็นที่สนใจและถูกเล่าขานผ่านลูกหลานชาวเชียงแสน เมื่อสืบทอดผ่านกันมาจึงกลายเป็นตำนานและนิทานพื้นบ้าน

    พระพุทธรูปนวล้านตื้อ (จำลอง)
    หากท่านที่ไปเที่ยวเชียงแสนผ่านไปทางป้ายสามเหลี่ยมทองคำ เลยไปทางร้านค้าของที่ระลึกต่างๆ ท่านจะได้พบเห็นองค์พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่ น้ำหนักกว่า69 ตัน เฉพาะองค์พระตักกว้าง 9.99 เมตร สูง 15.99 เมตร ประทับอยู่บนเรือนแก้วกุศลธรรมขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีตุง(ธง) เฉลิมพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมราชินีนาถฯ อยู่เบื้องข้าง พระพุทธรูปองค์นี้คือ พระพุทธนวล้านตื้อ


    พระพุทธนวล้านตื้น องค์นี้เป็นพระเชียงแสนสี่แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน สมัยรัชกาลที่ 3 โน้น...
    และสร้างขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดทองด้วยบุศราคัม น้ำหนักถึง 69 ตัน หน้าตักกว้าง 9.99 ม.สูง 15.99 ม. ประทับนั่งบน "เรือแก้วกุศลธรรม" ขนาดใหญ่ อย่างที่เห็นในรูปที่ 1 นั่นแหละครับ
    ..พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างตุงหลวงเฉลิมพระเกียรติ สูง 17.99 ม. ศูนย์ OTOP ล้านนา ซุ้มประตูโขงและพระมหาโพธิสัตว ์(เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว สูง 9.99 ม.) ทั้งหมดนี้ได้ใช้งบประมาณถึง 69 ล้านบาท


    หรือว่าจะเป็นองค์จำลอง นี้ทางเหนือครับ ที่เชียงราย ซึ่งองค์จริงยังไม่สามารถนำขึ้นมาได้ เลยมีการสร้างองค์จำลองขึ้นแทน

    [​IMG]
     
  19. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    [​IMG]

    องค์นี้อยู่ อุบลราชธานีครับ

    พระพุทธประธานในพระอุโบสถวัดใต้ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นเนื้อทองเก้าสัมฤทธิ์ปางวิชัย หน้าตักกว้าง 51 นิ้ว สูง 85 นิ้ว (รวมฐาน) ได้รับการยกย่องมาว่า เป็นพระพุทธรูป ที่งดงามในประเทศไทยและภาคอีสานเป็นพระประธานองค์ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ตามประวัติในประเทศไทย มีอยู่ 5 องค์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ครองนครเวียงจันทร์ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เดิมประดิษฐานอยู่บนแท่นพระอุโบสถหลังเก่า ฐานรองรับสูง 70 เซนติเมตร สร้างแบบง่ายๆ ภายหลังอุโบสถหลังเก่าทรุดโทรม พระเจ้าองค์ตื้อจึงอยู่กลางแจ้ง ตากแดด ตากฝน เป็นเวลานานทำให้องค์พระพุทธรูปองค์ตื้อมีรอยแตก เป็นสะเก็ดออกมา ผู้เฒ่าผู้แก่ สมัยปู่ย่าตาทวดได้บอกเล่าสืบต่อกันมาว่า... พระพุทธรูปองค์ตื้อนี้ได้ถูกหุ้มห่อทาปอมพอกเอาไว้พอกด้วยเปลือกไม้ ยางบด ผสมผงอิฐเจ และทองคำ เงิน นาก สัมฤทธิ์ เงิน รางกาชาดซะพอก ให้น้ำเกลี้ยง น้ำชาดผสมทาปอมพอก แล้วลงรักปิดทองที่เข้าเมืองอุบลราชธานี และเถราจารย์ในสมัยนั้น เพราะเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถนำติดตัวไปได้ ซึ่งองค์พระพุทธรูปเป็นทองแท้สัมฤทธิ์กลัวว่าจะถูกข้าศึกศัตรูขนเอาไป จึงได้ทาปอมพอกปิดเอาไว้ และปล่อยทิ้งเป็นวัดร้างนานถึง 200 ปี

    ครั้นต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2507-2508 ครั้งนั้นพระภิกษุสวัสดิ์ ทสฺสนีโย ปัจจุบัน เป็นราชาคณะชั้นราช ที่พระราชธรรมโกศล เป็นเจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ รูปที่ 13 ปัจจุบันและเป็นเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธ) ได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น นำพระภิกษุ-สามเณร ทายก-ทายิกา และชาวบ้านชุมชนใกล้กวัด ก่อสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2519 เมื่อสร้างฐานแท่นพระพุทธรูปพระประธานเสร็จจึงได้ยกพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อขึ้นประดิษฐานที่แท่นจนถึงปัจจุบันนี้ รวมอายุองค์พระประมาณ 225 ปี

    หมายเหตุ ความหมายคำว่า “ตื้อ” เป็นจำนวนนับของชาวล้านนา หรือภาคอีสาน เช่น หลักหน่วย-สิบ-ร้อย-พัน-หมื่น-แสน-ล้าน-โกฏิ-ตื้อ-อสงไขย นับไปไม่ได้ชาวพุทธได้นำทองคำ เงิน นาก สัมฤทธิ์ จำนวนมากหล่อเป็นพระพุทธรูปที่งดงาม จนหาค่าประมาณมิได้ องค์พระหนักเก้าแสนบาทบนจึงได้ชื่อว่า “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” หรือ (พระเจ้าแสนตื้อ)
     
  20. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโต บ้านปากแซง



    พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระโต บ้านปากแซง หมู่ที่ 3 ตำบลพะลาน อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยอิฐผสมปูนขาว ขนาดหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 4.36 เมตร มีอายุเก่าแก่ และเป็นที่เคารพนับถือ ของประชาชนไทยและลาว เนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้เก่าแก่มากและไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ผู้บันทึกได้เรียบเรียงตามคำบอกเล่าของคนแก่ ซึ่งได้เล่าสืบทอดกันมาดังข้อความต่อไปนี้

    มีกษัตริย์สมัยขอมพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้เสด็จล่องเรือลงมาตามลำแม่น้ำโขงในฤดูฝน พอถึงบ้านปากแซงก็ค่ำลง จึงได้หยุดประทับแรม 1 คืน วันรุ่งขึ้น พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปยังหมู่บ้าน และได้พบกับเจ้ากวนของหมู่บ้านในสมัยนั้น พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้ตรัสถามถึงประวัติของหมู่บ้าน เจ้ากวนได้เล่าให้ฟังว่า บ้านนี้มีหาดสวยงามกว้างใหญ่ ในฤดูแล้ง หาดทรายจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ และหาดทรายแห่งนี้มีสิ่งอัศจรรย์อยู่คือ ถ้าปีใดหาดทรายโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำระหว่างหมู่บ้าน ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อพระองค์ได้ทราบก็เกิดศรัทธาในใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องย้อนกลับมาสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นเมือง

    ในราว พ.ศ. 1154 พระองค์ ก็ได้เสด็จมา พร้อมด้วยข้าทาสบริวารเป็นจำนวนมาก เมื่อเสด็จมาถึง พระองค์จึงได้มอบให้เจ้าแสง (คงจะเป็นนายชั้นผู้ใหญ่) เป็นคนควบคุมการก่อสร้างพร้อมกันนี้ก็ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่ง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 1180 และขนานนามว่า พระอินทร์ใส่โฉม (ต่อมาเรียก พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) เมื่อเจ้าแสงก็ถึงกรรมลง ชาวเมืองได้สร้างหอหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และขนานนามว่า หอแสง ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ขาดคนบูรณะ และกลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ควาญช้างในหมู่บ้านนี้ ได้ไปพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว และได้บอกบุญชาวบ้านร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระโต”

    [​IMG]

    หรือจะเป็นองค์นี้ครับ เห็นมีคำว่า ปากแซง
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...