หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ขอเศษส่วนบุญที่ได้ทำได้มีวาสนาได้มาบูชาซัก 1-2 องค์บางนะ

 

ตั้งใจว่าจะไปอยู่เหมือนกันครับ เดือนที่แล้วก็พลาดไป 1 รอบแล้ว ถ้าได้ไปอย่างไงก็ต้องพาพี่เทพไปแน่นอนครับผม ตอนนี้ไปไหนมาไหน พาพี่เทพ ติดตัวเกือบตลอดเลยครับผม

 

ถ้าไปเจอกันน๊ะครับ โทรนัดได้ 0851441135

 

น่าจะได้ไปครับ คงไปถึงประมาณ บ่าย 4 กว่าๆ ไปถึงแล้วจะโทรหานะครับ

 

วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมครับ วัดหนองบ้านเก่า จ.กาญจนบุรี

 

ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไปหรือติดอะไรก็คิดว่าจะไปเหมือนกันครับ ^_^

 

เป็นไปได้ไปถึงเร็วหน่อยก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องไปออกันเวลาขึ้นลิฟท์ครับ.. เพราใกล้ๆเวลาคนจะเยอะครับ

 

บรรยากาศน่าสนุกนะครับ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ งานใหญ่ก็สำเร็จได้ง่ายขึ้นครับ ขออนุโมทนา สาธุ..ด้วยนะครับ

 

ปฐมเหตุที่สร้างแหวนนาคบาศก์นั้น ก็เนื่องมาจากว่า คณะศิษย์องค์หลวงปู่และศิษย์ท่านพระอาจารย์หนึ่งคิดกันว่าจะสร้างวัตถุมงคลประเภทแหวนขึ้นมาสักอย่าง เพื่อใช้แทนแหวนปลอกมีดมหามงคลขององค์หลวงปู่ที่สร้างออกมาน้อยเหลือเกิน ส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดที่ได้รับแจกไปไม่กี่คนเท่านั้น เพราะสร้างเพียงไซด์ละ 38 วง
จึงคิดกันได้ว่า เมื่อสมัยก่อนหลวงปู่ท่านก็เคยมีแหวนพญานาคเกี้ยว ไว้แจกลูกศิษย์ของท่าน และแหวนชุดนั้นสร้างประสบการณ์มากมาย ปัจจุบันหาดูยังยากเลย และไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำมาถวาย แต่ว่าหลวงปู่ท่านชอบแหวนพญานาคชุดนั้นมากเลยครับ จึงได้ตกลงกันว่าจะสร้างเป็นแหวนพญานาคที่มีทรงคล้ายกับแหวนปลอกมีด แต่ออกแบบเป็นรูปงู 2 ตัวกินหางกัน หรือที่เรียกว่า " บ่วงนาคบาศก์ "
บ่วงนาคบาศก์...จัดเป็นสุดยอดเครื่องราง แห่งโชคลาภ และป้องกันภัย คือ มีกินไม่มีหมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก จึงเรียกว่า กินไม่หมด ตามตำนานโบราณ นาคบาศก์ คือ ศรของอินทรชิต ที่ยิงไปเป็นงูรัดศัตรู ซึ่งภายหลัง พญานาคราชได้มีครอบครองไว้ และมีตำนานตอนหนึ่งกล่าวว่า พรานบุญเคยไปขอยืม บ่วงบาศก์นี้ จากพญานาคราช และเนื่องจากพรานบุญเคยช่วยเหลือ พญานาคราชไว้ พญานาคราชได้ให้สัญญาว่า ขออะไรก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำบ่วงนาคบาศก์นั้นไปคืน พญานาคราช

บ่วงนาคบาศก์ยังเป็นบ่วงเชือกที่แข็งแรงที่สุด แม้พญาครุฑเจ้าแห่งนก ก็ยังกลัว บ่วงนาคบาศก์นี้เช่นกัน
ตามตำราครูบาอาจารย์ ท่านว่า.. สามารถชนะทุกอย่าง หรือ ชนะหมด ใช้ทำน้ำมนต์ เสริมดวง ป้องกันและใช้ปราบภูติผี ปีศาจ และคุณไสยได้ เป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีกินไม่มีอด มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม และเด่นด้านการเสี่ยงโชค ไว้จับเงินจับทอง ...ฯลฯ
บ่วงนาคบาศก์ ถ้าเป็นแถวล้านนา ภาคเหนือตอนบน ถือว่าเป็นที่สุดแห่งโชคลาภ กินเท่าไหร่ก็ไม่จักหมดไม่จักสิ้น ถ้าบูชาด้วยความเคารพจักชุ่มเย็นเปรียบเหมือนมีนาคมาอยู่ด้วย ถือว่าเป็นของดีที่หายาก และสร้างได้ยากยิ่งนัก

และอีกหลายเหตุผลที่ตัดสินใจสร้างแหวนนาคบาศก์ ก็เนื่องมาจาก..
- หลวงปู่พิศดูท่านเกิดวันเสาร์ พระประจำวันของท่านจะเป็นปางนาคปรก
- หลวงปู่พิศดูท่านมีพญานาคเป็นบริวาร และท่านเคยบอกว่า " ใต้พื้นที่ตั้งวัดเทพธารทองลงไป เป็นเมืองนาคราช..." เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกว่ามักจะมีผู้คนที่มาหาหลวงปู่ท่านที่วัดและมักจะพบงูลักษณะแปลกๆในวัดบ่อยครั้ง
- ท่านพระอาจารย์หนึ่งผู้ริเริ่ม ท่านก็เกิดปีมะโรง(งูใหญ่) หลวงปู่เคยเรียกท่านพระอาจารย์หนึ่งว่า " งูศาสตราคม " ก็เนื่องมาจากท่านพระอาจารย์ท่านเกิดปีงูใหญ่ และมีความรู้ในเรื่องวิชาอาคมนั่นเอง
- ในปีที่จัดสร้างแหวนนี้ ก็ยังเป็นปีงู(มะเส็ง)อยู่
- และที่สำคัญ พระอริยะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ที่จะทำการอธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์นวหรคุณให้เป็นปฐมฤกษ์นั้น ท่านก็เกิดปีมะโรงเช่นกัน นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร และท่านยังเคยกล่าวประโยคนี้ให้ลูกศิษย์ของท่านฟังอีกว่า.. " เคยเห็นพญานาคเผือกไหม.. เรานี่แหละ พญานาคเผือก " เพราะฉะนั้นท่านจึงเป็นครูบาอาจารย์ที่ได้รับการอาราธนาให้อธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์เป็นปฐมฤกษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่ท่านสูงส่งไม่มีประมาณจริงๆครับ

นอกจากรูปลักษณะของแหวนที่เป็นรูปงูกินหางกันแล้ว ที่ใต้ท้องแหวนยังได้อัญเชิญอักขระพิเศษ นวหรคุณ9 อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ มาประดิษฐานไว้เพื่อความเป็นศิริมงคลอันสูงสุด มีพุทธคุณครอบจักรวาล ให้สมกับเป็น ชุด นวโลกุตรธรรม อย่างแท้จริง ซึ่งความหมายของอักขระทั้ง 9 ตัวนี้ ได้ถอดจากหัวใจของห้องพุทธคุณ(อิติปิโส...) ซึ่งแต่ละตัว มีความหมายดังต่อไปนี้..

1. อะ (อรหัง) = เป็นพระอรหันต์ ผู้ห่างไกลจากกิเลส

2. สัง (สัมมา สัมพุทโธ) = ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

3. วิ (วิชชา จรณะสัมปันโน) = ทรงสมบูรณ์ด้วยวิชชาสมบัติ และจริยาสมบัติ

4. สุ (สุคโต) = เสด็จไปดีแล้ว

5. โล (โลกวิทู) = ทรงรู้เท่าทันโลกทั้ง 3

6. ปุ (ปุริสทัมมสารถิ) = ทรงฝึกบุรุษที่ควรฝึกได้ ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

7. สะ (สัตถา เทวมนุสสานัง) = ทรงเป็นครูสอนทั้งเทวดาและมนุษย์

8. พุ (พุทโธ) = ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

9. ภะ (ภควา) = พระผู้ทรงแจกพระอมตะธรรม มรดก

 

สวัสดีคุณเอ็กซ์ขอบอกว่าข้อมูลเรื่องแหวนนี้เยี่ยมมากๆเลยท่าน ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มมาอีก ขอบคุณมากครับ

 

ขนาดของเเหวนประมาณเท่าไหร่ครับ???

 

และอีกหลายเหตุผลที่ตัดสินใจสร้างแหวนนาคบาศก์ ก็เนื่องมาจาก..
- หลวงปู่พิศดูท่านเกิดวันเสาร์ พระประจำวันของท่านจะเป็นปางนาคปรก
- หลวงปู่พิศดูท่านมีพญานาคเป็นบริวาร และท่านเคยบอกว่า " ใต้พื้นที่ตั้งวัดเทพธารทองลงไป เป็นเมืองนาคราช..." เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกว่ามักจะมีผู้คนที่มาหาหลวงปู่ท่านที่วัดและมักจะพบงูลักษณะแปลกๆในวัดบ่อยครั้ง
- ท่านพระอาจารย์หนึ่งผู้ริเริ่ม ท่านก็เกิดปีมะโรง(งูใหญ่) หลวงปู่เคยเรียกท่านพระอาจารย์หนึ่งว่า " งูศาสตราคม " ก็เนื่องมาจากท่านพระอาจารย์ท่านเกิดปีงูใหญ่ และมีความรู้ในเรื่องวิชาอาคมนั่นเอง
- ในปีที่จัดสร้างแหวนนี้ ก็ยังเป็นปีงู(มะเส็ง)อยู่
- และที่สำคัญ พระอริยะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ที่จะทำการอธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์นวหรคุณให้เป็นปฐมฤกษ์นั้น ท่านก็เกิดปีมะโรงเช่นกัน นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่อน ญาณธโร และท่านยังเคยกล่าวประโยคนี้ให้ลูกศิษย์ของท่านฟังอีกว่า.. " เคยเห็นพญานาคเผือกไหม.. เรานี่แหละ พญานาคเผือก " เพราะฉะนั้นท่านจึงเป็นครูบาอาจารย์ที่ได้รับการอาราธนาให้อธิษฐานจิต แหวนนาคบาศก์เป็นปฐมฤกษ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความเมตตาขององค์หลวงปู่ท่านสูงส่งไม่มีประมาณจริงๆครับ
สงสัยต้องโดนสัก 2-3 วง แน่ๆ เพราะผม วันอังคาร มะโรงซะด้วยซิ

 

เก็บตก ชนวนที่นำมาหลอมหล่อพระในครั้งนี้ครับ..

ชิ้นส่วนพระพุทธรูปทองคำ สมัยสุโขทัย




เงินพดด้วง ตีตราหอยสังข์ สมัยอยุธยา




พระเนื้อชินต่างๆ ตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงปัจจุบัน

แร่จ้าวน้ำเงิน เมฆพัตร แร่บางไผ่​

เหล็กละลายตัว เหล็กน้ำพี้​

 

วงใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซ็นต์นิดๆครับ

 

อ้าว.. งั้นก็เหมือนกับหลวงปู่ท่อนเลยครับ ท่านก็เกิดวันอังคาร ปีมะโรงครับ

 

ที่ต้องชี้แจงรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับวัตถุมงคลที่ทางสำนักสงฆ์เขาน้ำซับได้จัดสร้างนี้ ก็อยากจะให้ทราบความเคลื่อนไหว กิจกรรม รายละเอียดต่างๆ และความตั้งใจในงานที่ทำโดยทั่วกันครับ เพราะทุกอย่างย่อมมีเหตุผลและความหมายในการจัดสร้างทั้งสิ้น เท่ากับว่าเป็นการเผยแผ่เกียรติคุณของหลวงปู่ท่านในทางอ้อมด้วย ไม่มีเจตนาให้ทุกท่านติดในวัตถุใดๆ แต่ขอบอกว่าของทุกอย่างที่จัดสร้างมา เต็มที่กันสุดๆเลยครับ..
จึงอยากจะแจกแจงวัตถุมงคลแต่ละรุ่นให้เสร็จเป็นเรื่องๆไปครับ เมื่อเสร็จแล้วก็จะเขียนเรื่องของหลวงปู่ท่านต่อ ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใน อดใจรอกันสักนิดนะครับ สาธุ..

 

ขอบคุณครับกำลังคิดจะถามพอดีเลย

 

วงเล็กประมาณเท่าไหร่คะ ^^

 

วงเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.8 ซ.ม. ครับ

 

ตอนนี้แหวนนาคบาศก์นวหรคุณ หลวงปู่ท่อนท่านเมตตาอธิษฐานเป็นปฐมฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปก็จะนำวัตถุมงคลต่างๆ (ยกเว้นรูปหล่อหลวงปู่พิศดูขนาดห้อยคอ) เดินสายให้ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณเมตตาอธิษฐานจิต และเข้าพิธีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ ก็สามารถจ่ายของให้กับผู้ร่วมบุญได้ครับ โดยวัตถุมงคลชุด โลกุตรธรรม นี้อาจเป็นชุดสำคัญที่สุดชุดหนึ่งที่สร้างหลังจากหลวงปู่ละสังขารลง และเมื่องานเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทางวัดก็อาจจะพักเรื่องการจัดสร้างวัตถุมงคลหนักๆสักระยะหนึ่ง แต่หากว่าจัดสร้างก็อาจเป็นในรูปแบบของการสร้างเพื่อบรรจุกรุเจดีย์พระธาตุ หรือเพื่อแจกเผยแผ่เป็นทานบารมีต่อไป...
เท่าที่ทราบล่วงหน้าของที่อาจจะสร้างแจกนั้น ก็อาจจะมีพระผงรูปองค์หลวงปู่ ลูกกระดอนมหาสะท้อน2 ซึ่งบังเอิญได้ไม้กระท้อนฟ้าผ่ายืนต้นตายพรายมา เพื่อไม่ให้เสียประโยชน์ ก็อาจจะนำมาทำของดีแจกกันมันส์ๆต่อไปครับ.. ว่าจะพยายามอยู่ว่างๆ เฉยๆ บ้าง แต่ก็ต้องมีงานให้ทำกันเลื่อยๆ(เรื่อยๆ)เลย แต่ไม่เป็นไรครับ ถึงจะเหนื่อยกันขนาดไหน พวกเราก็ยิ้มรับไปอย่างเจ๊สี(ทนได้)ครับ..