เรื่องจริงอิง Fiction "ภัยพิบัติ 5 มิติ"

ขอบคุณ คุณน้า lungdam ด้วยนะครับ
ที่ช่วยนำเสนอข้อมูลด้านดีๆ ของท่านเสาร์กับราหู...
ให้น้าๆ ได้คลายกังวลกันบ้าง

........................................

แต่ถ้ามองในมุมของดวงเมือง
ถ้าน้าเสาร์เสริดสุด...คงไม่น่าจะสุดๆ...
มันน่าจะ...ทรุดสุด...มากกว่านะ

โดยเฉพาะช่วง "เสาร์เสริดแล้วสวนทางเถื่อน"
คือเจอเพื่อนราหูคู่ซี้ ที่เดินย้อนจักรมา

...คอยดูลีลา เพื่อนรักเค้าทักกันนะครับ...

ประทับใจแฟนคลับแน่นอน...

เจี๋ยวจุดๆ...

 

คุณน้ามณีจำปาผู้น่ารัก...

ดีใจที่หาทางกลับถูก
คิดถึงเช่นกันครับ...

 

รายงานตัวค่ะ กว่าจะคลำทางมาได้

 

วันพุธ

วันพุธ ต้องว่ากันเรื่องของดาวพุธซักหน่อย
ดูท่าจะอาการหนักสุด...

ดาวพุธเป็นเจ้าบ้านของสองราศี คือ เมถุนกับกันย์
มีสัญญลักษณ์เป็นรูปมนุษย์ทั้งคู่

ชั่วโมงนี้ต้องว่ากันที่ราศีเมถุนเป็นหลัก
เพราะดาวพุธอยู่ตรงนี้...อยู่ในบ้านตัวเอง
เป็นเกษตร...

นี่ขนาดเป็นเจ้าบ้านนะ...เอาตัวแทบไม่รอด
แล้วลูกบ้าน อาทิตย์ อังคาร พฤหัส จะไปเหลืออะไร

เพราะที่เห็นโดนๆ กันถ้วนหน้าน่ะ
พอเข้าไปดูบาดแผลแล้วหนักกว่าที่คิดซะอีก
ไม่น่าใช่แค่ธนูแล้ว...

ดูท่าน่าจะโดนปืนซุ่มยิงซะละมากกว่า
ที่สำคัญคือโดนเข้าไปแล้ว...ยังไม่รู้เลยว่าใครยิง
เลยโต้กลับลำบาก

จะไปโต้ยังไงไหวล่ะท่าน
เกตุท่านเป็นวิญญาณธาตุ

ถ้าจะเปรียบไปก็คงจะเป็นวิญญาณของ
น้า "วาลซิลลี่ ไซเซฟ" สุดยอดสไนปเปอร์ของรัสเซีย
ในยุคสงครมโลกเป็นแน่แท้

เพราะแกแม่นเป็นเลิศ
ขนาดเยอรมันส่งมือหนึ่ง ระดับผู้พันโคนิคมา กะจะมาล้างอาย
ก็ตายไปเยอะนี่...

ไซเซฟ ก็ยังส่องผู้พันร่วงผลอยด้วย
"โมซิน นากังค์" อาวุธปืนคู่กายจากเทวโลก
โศกหนักเข้าไปอีก...

ดูๆ ไปคล้ายๆ อาการ ของดาวในสังกัดราศีเมถุนขณะนี้
ที่โดนส่องร่วงกันไปทีละรายการ แถมจะบานปลายอีกต่างหาก
พอจะโต้กลับก็คลำเป้าไม่เจอ...ก็เค้าผีนี่น้า

พฤหัสเป็นประ พระที่ไม่เป็นพระ
ท่านเล่นสละแต่ธรรมะ แต่ไม่ยอมละกิเลส
จะโดนเกตุ...เฉด...เอานะท่าน...

อา...ดูท่า...ศึกนี้จะกลายเป็น "สึก" ใหญ่กว่าที่คาด

ฝ่ายอังคารยอดนักรบ นั่งหลบแดดอยู่ดีๆ
มีคนเรียกไปนั่งเจ๊ทกะเค้าด้วย
พุธเสียนิดเดียว...ไม่รู้เกตุแอบมาบันทึกเทปตอนไหน

ลากยาวไปสามสี่กองทัพยันทัพพี่หม่องเข้าไปด้วย
มองไปมองมา...ถึงม่องได้เลยนะ...เรื่องนี้

อาทิตย์ก็ไม่น้อยหน้า ลูกน้องแก่แล้วก็ยังอยากเป็นเด็ก
ร้องเรียกหิวๆ อยากจะกินไอติม...กินไม่พอขอออกสื่อด้วย
ไอติมว่าเย็นๆ ยังทำให้ร้อนปาก ร้อนไส้ได้เหมือนกัน

โอย...สามดาวสี่ดาว
โดนกระสุนปริศนา ไม่ทราบที่มา ว่าเป็น ผีพี่ไซเซฟ แม่นค่ตๆ
แปะโป้ง แปะโป้ง ร่วงกันสนิท หลับยาวกันเลยรอบนี้

อีกซักพักอาทิตย์ทนไม่ไหว
เดินออกไปราศีกรกฎดีกว่า
คิดว่าจะดี

ที่ไหนได้...อาทิตย์ธาตุไฟตกน้ำจ๋อมเลย
ไปทำน้ำบ้านจันทร์ ชาวพลเมืองเค้าร้อนขึ้นมาอีก
คงได้มีการทำให้พลเมืองจันทร์เค้าเดือดแน่งานนี้

ดูท่าอะไรต่ออะไรมันเข้าทางมืดไปทุกขณะแล้ว

มืดแค่ไหนไม่รู้...
รู้แต่ว่าขนาดตอนนี้ยังมืดไม่มาก

"น้าๆ อีกหลายคนยังหาไฟฉายส่องทางกลับบ้านยังไม่เจอเลย"

สงสัยมัวกดพลังจิต ดอท คอม...ดอท คอม...กันจนคอมพังไปแล้ว

มานต้อง...ดอท...โอ...อา...จี...จ้า น้าจ๋า
ถึงจะกลับบ้านได้

แล้วอย่าเผลอไปนั่งเจ๊ทกลับบ้านล่ะน้า

ได้เจอกะ "น้าไซเซฟ" แน่...

 

ความสำเร็จของคนที่มีดาวอังคารให้คุณ

1 ดาวอังคารสถิตภพปัตนิ ถ้ามีความสัมพันธ์ดีกับศุภเคราะห์ในระยะ ๖๐ ํ , ๑๒๐ ํ กับดาว ๖ ,๕ ,๑ ,๒ ในชะตา จะได้คู่ครองที่มีเกียรติ เป็นผู้กว้างขวางในสังคม ยิ่งถ้าดาว ๓ ได้ตำแหน่งมหาอุจ,เกษตร ด้วยแล้วจะดีมาก โดยเฉพาะดวงชะตาหญิง ดาว ๓ เป็นดาวที่หมายถึงสามี จะได้สามีเป็นนักธุรกิจใหญ่โต หรือมิฉะนั้นก็จะเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศสูงถ้าดาว

2 ดาว ๓ กุมลัคน์ในราศีมังกร เป็นมหาอุจ
จะเป็นคนมั่งคั่งร่ำรวย พอใจที่จะท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ
ดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนราศีเมษ ธาตุไฟ
..................................
คนที่เกิดในราศีนี้ทุกคนจะได้รับแรงกระตุ้น หรือการดลบันดาลจากดาว ๓ ชัดเจนมาก ทำให้เป็นคนประเภทสู้ไม่ถอย มีแต่ความทะเยอทะยาน มุ่งไปข้างหน้า เป็นนักต่อสู้ทุกรูปแบบ ในด้านดี คือ เป็นคนมีความทะเยอทะยานสูง ชีวิตเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ชอบการต่อสู้ทุกรูปแบบ

3 ดาว ๓ ครอบคลุมวิชาชีพที่เกี่ยวกับการอุตสาหกรรมทุกประเภท ทั้งหนักและเบา เป็นศัลยแพทย์ที่เกี่ยวกับการผ่าตัด ทันตแพทย์ เป็นเครื่องหมายของวิศวกรรมและสารเคมี
งานใดๆที่เกี่ยวข้องกับเหล็กและไฟ หรืออาวุธทุกชนิด งานที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันเพื่อเอาชนะทุกรูปแบบ เป็นงานที่ดาว ๓ สามารถทำได้และมีอิทธิพลทั้งสิ้น ถ้าดาว ๓ มีโยคเกณฑ์ดี
จะมีคุณสมบัติเป็นคนเฉลียวฉลาด หรือความรอบรู้และสติปัญญาอย่างคาดไม่ถึง เป็นแต่ว่า...คุณสมบัติเหล่านั้น จะเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง หาทางเอาชนะและเอารัดเอาเปรียบคนอื่นทั้งสิ้น ความมั่งคั่งร่ำรวยใดๆ ที่ได้มาจากการต่อสู้และการลงแรงทั้งกายและใจ ดาว ๓ สามารถทำได้

4 มีเรื่องที่แปลกเป็นอย่างยิ่งที่ว่า....ถ้าดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนภพกฎุมพะ และไปกุมลัคนาแล้ว
จะทำให้เจ้าชะตาเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่งอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว เจ้าเรือนกฎุมพะจะกุมลัคน์ได้มีอยู่ ๒ ราศีเท่านั้น คือ ราศีมีน,ตุลย์ (ดาว ๓ ราศีมีนตำแหน่งเทวีโชค ดาว ๓ ราศีตุลย์เป็น ประ) ท่านบอกว่า..ภพกฎุมพะเป็นภพแห่งการเงิน เมื่อภพการเงินเข้าไปทำหน้าที่กุมลัคน์ก็จะทำให้ร่ำรวย แต่เป็นการร่ำรวยที่ได้มาจากการต่อสู้และทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายตามลักษณะของดาว ๓ เข้าใจว่าจะไม่จริง ถ้ากุมลัคน์ในราศีมีน และมีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ อาจเป็นไปได้

5 ดาว ๓ สถิตในเรือนของตนเอง
คือ ราศี เมษ,พิจิก หรือสถิตในเรือนมหาอุจ คือราศี มังกร เจ้าชะตาจะได้รับการศึกษาอย่างดี และเป็นคนที่มีสายตาดี


6 แต่ถ้าดาว ๓สถิตภพสหัสชะและ ได้รับความสัมพันธ์ที่ดีจากดาวเคราะห์
จะทำให้สิ่งที่ว่า...ผ่านอุปสรรคและประสบความราบรื่นไปหมด และได้รับผลดีเป็นอย่างมาก ถ้ามีดาว ๕ ส่งกระแสเชิงมุมที่ดี
เช่น เป็น ๓๐ ํ, ๖๐ ํ , ๑๒๐ ํ ต่อดาว ๓ จะเป็นคนมีแผนการณ์ที่ดี มีการริเริ่มที่ดี มีอารมณ์และจิตใจกว้างขวาง ชอบทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน หรือชอบเสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ถ้าดาว ๓ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับศุภเคราะห์
เจ้าชะตาจะมีทางได้เงินและทำมาหากินได้ดี

7ภพที่ ๓ นอกจากความหมายเกี่ยวกับญาติพี่น้องแล้ว ยังมีความหมายอื่นๆอีก
เช่น การติดต่อ การสื่อสาร การทำสัญญา ความทรงจำ ความสามารถ ความเฉลียวฉลาดรอบด้าน ความเป็นคนมั่นคง ระบบประสาทและอื่นๆ
ดาว ๓ ในภพนี้ ถ้าหากไม่สถิตในตำแหน่งที่เสีย หรือไม่ถูกรบกวนจากบาปเคราะห์ จะทำให้ดาว ๓ ทำหน้าที่ตามความหมายที่นำมากล่าวในลักษณะที่เป็นคุณแก่เจ้าชะตาเป็นอย่างมาก พลังงานของดาว ๓ ที่ไม่ถูกรบกวนจากบาปเคราะห์ จะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ สามารถควบคุมได้ มีสติสัมปชัญญะรู้ถูกรู้ผิด ต้องถือว่าดาว ๓ ดวงจะให้ผลในทางดีเป็นอย่างมาก
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของดาว ๓ จะเต็มไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจ การตกลงใจ การเดินทาง หรือการขับขี่รถ จะเป็นไปด้วยความกระฉับกระเฉงและฉับไวทั้งนั้น และถ้าให้คุณจะให้คุณสูง

8 ถ้าหากดาว ๓ ในภพที่ ๔ อยู่ในราศีมังกร ตำราว่า...จะเป็นคนมีความเจริญรุ่งเรืองในอาชีพทางด้านการก่อสร้าง และอาชีพทหาร
ถ้าดาว ๓ ในภพที่ ๔ เป็นราศีเมษ
ชีวิตจะมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย แล้วต่อไปภายหลังจึงจะตั้งตัวได้มั่นคง

9 แต่ถ้าดาว ๓ อยู่ในเรือนของตัวเอง คือ ราศีเมษ,พิจิก หรืออยู่ในเรือนที่เป็นมหาอุจ คือ ราศีมังกร และมีดาวศุภเคราะห์กุมอยู่ เจ้าชะตาจะมีรถยนต์เป็นของตนเอง มีที่ดินเป็นของตนเอง แม่จะมีอายุยืน

ดาว ๓ ในภพที่ ๔ แม้จะมีบาปเคราะห์อย่างดาว ๘ กุมอยู่ในดวงเดิม
....................... ก็ไม่ถึงกับทำให้เสียหายอะไร สามารถมีบ้านช่องมีวิชาความรู้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ก็มี ที่เป็นเช่นนั้นก็คือว่า...ในดวงชะตาของทุกคน เราจะพิจารณาแต่ดาวดวงใดดวงหนึ่ง หรือภพใดภพหนึ่งไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาดาวทุกดวงและภพทุกภพประกอบกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตำแหน่งของดาว ๓ ในภพที่ ๔ ถ้าหากไม่เป็นตำแหน่งที่เสื่อม นวางค์,ตรียางค์,ฤกษ์ที่ดาว ๓ สถิตอยู่ ไม่เป็นนวางค์,ตรียางค์,ฤกษ์ที่ต้องห้าม ดาว ๓ จะให้คุณสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ " เฉพาะในความเป็นนักต่อสู้ชีวิต ความขยันหมั่นเพียร การมีสติปัญญา และความอดทน หาดาวดวงอื่นเทียบได้ยาก " การต่อสู้อย่างไม่ยอมท้อถอยตามคุณสมบัติของดาว ๓ นี่เอง ทำให้เจ้าชะตามีบ้าน มีที่ดิน มีรถยนต์ มีข้าวของเครื่องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ดาว ๓ ในภพที่ ๔ ที่ได้ตำแหน่งดี หรือเสียบ้างเล็กน้อย อาจจะล้มแล้วล้มอีก แต่จะไม่มีวันท้อถอย วันหนึ่งก็จะประสบชัยชนะ สิ่งที่ดาว ๓ บันดาลให้ เจ้าชะตาที่มีดาว ๓ ในภพที่ ๔ ที่อยู่ในตำแหน่งที่ดี ดาว ๓ จะไม่ยอมให้อะไรได้ง่ายๆ แต่จะต้องผ่านการพิสูจน์ทดลองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกาลเวลา ประสบการณ์ ความผิดหวัง รวมถึงปัญหาและอุปสรรคทุกอย่างนาๆนับประการ

ขอให้มีความสุขและมีกำลังใจในการต่อสู้อุปสรรคทุกอย่างเหมือนดาวอังคาร

 

ดาวอาทิตย์ราชาแห่งจักรวาล

ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีเมษ
..........................................
มีชื่อเสียงและมีความรู้ดี ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร มั่งมีทรัพย์สิน ใจคอโอบอ้อมอารี เลื่อมในศรัทธาในศาสนา

 

ดาวอาทิตย์ราชาแห่งจักรวาล

ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีมิถุน
มีความสามารถในการทำงาน ได้รับการสนับสนุนจากพี่น้อง เข้าใจในการใช้คำพูด ได้คู่ครองและคนร่วมมือประกอบอาชีพดี

ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีกรกฎ
เจ้าชะตาจะมั่งมีทรัพย์สินเงินทอง มีความสามารถหาทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ต่างๆ เป็นผู้มีอิทธิพล กิจการงานและการเงินจะประสบความสำเร็จมากน้อยขึ้นอยู่กับตนเอง

ดาว ๑ กุมลัคน์ในราศีสิงห์
เจ้าชะตาจะเป็นคนมีเกียรติ มีชื่อเสียง มีความปรารถนาเพื่อความก้าวหน้า เป็นคนมีความเชื่อมั่นและเชื่อในความคิดอ่านของตนเอง มีความสุขทางกายและทางด้านจิตใจดี แม้มีอุปสรรคในเรื่องคู่ครองตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแด่ก็ จะประสบความสำเร็จในภายหลัง


ภพที่ ๑ หมายถึง ลัคนาเกิด คือ รูปร่างหน้าตา ท่าทางสุขภาพ ความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียงและการต่อสู้ชีวิต ความเป็นอยู่ที่สมบูรณ์ทุกอย่าง

ดาว ๑ สถิตในภพนี้
เจ้าชะตาจะมีสุขภาพสมบูรณ์ เป็นคนเฉลียวฉลาดและมีความประพฤติดี มักจะเป็นคนพูดน้อย ชอบท่องเที่ยวไปไกลจากถิ่นที่เกิด จะมีชีวิตที่มีความสุข
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีเมษ
ซึ่งเป็นเรือนมหาอุจ จะประสบความสำเร็จในด้านเกียรติยศชื่อเสียง ถ้าได้โยคเกณฑ์ดีกับศุภเคราะห์ จะเป็นคนมีการศึกษาสูง
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีตุลย์
.....................
เป็น นิจ แต่ถ้ามีโยคเกณฑ์ดีจากศุภเคราะห์ โดยเฉพาะดาว ๕ หรือดาว ๖ และสถิตในฤกษ์ นวางค์ ตรียางค์ที่ดี คำนายดังกล่าวจะเปลี่ยนไป ตรงกันข้าม จะทำให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จสูงในการต่อสู้ชีวิต ไม่ว่า..ทางด้านโชคลาภ หรือการศึกษา

ถ้าดาว ๑ สถิตราศีสิงห์
หรือนวางค์ราศีสิงห์ จะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของที่ดิน
ถ้าดาว ๑ สถิตราศีกรกฎ
จะเป็นคนรอบรู้

ถ้าดาว ๑ สถิตในราศีสิงห์
เป็นเกษตร จะเป็นคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์

เรื่องดาว ๑ สถิตราศีตุลย์
เป็น นิจ ในตำราต่างๆส่วนมากจะบอกว่า...เป็นดาว ๑ ที่หมดคุณค่า แต่อย่าได้เชื่อถือเป็นอันขาด ขอให้ไปให้ความสำคัญในเรื่องฤกษ์ นวางค์ และตรียางค์ ดูว่า..ให้คุณดีหรือเปล่า เพราะว่า..ในบริเวณ ๓๐ ํ ของราศีตุลย์ มีตรียางคและนวางค์ที่ดีของดาว ๑ อยู่หลายจุด ถ้าดาว ๑ สถิตในนวางค์และตรียางค์ที่ดีเหล่านี้ ดาว ๑ จะให้คุณสูงมาก คนที่มีดาว ๑ ในราศีตุลย์ที่มีเงินเป็นพันล้านบาทก็มี ในขณะเดียวกันเป็นคนที่มีการศึกษาสูงเป็นจำนวนมาก บ้างก็เป็นแพทย์ บ้างก็เป็นนักภาษาศาสตร์ บ้างก็มีประกาศนียบัตรและปริญญาบัตรคนละหลายๆใบ จบด็อกเตอร์เยอะแยะ ถ้าอ่านแต่ดวงราศีจักร จะไม่สามารถทราบได้เลยว่า...เจ้าของดวงบางคนจบแพทย์ศาสตร์จากต่างประเทศ ทั้งๆที่ดาว ๑ เป็นนิจ
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ต้องคำนึงให้มากด้วยว่า...นวางค์ที่ดาว ๑ เข้าไปสถิตอยู่ เจ้านวางค์ได้ตำแหน่งอะไรในดวงชะตา สถิตในราศีที่ดีหรือเปล่า เป็นศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ เป็นดาวที่ให้คุณกับดาว ๑ หรือเปล่า น่าจะมีอิทธิพลกับดาว ๑ ที่สถิตภายใต้ราศีตุลย์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนิจ ไม่ใช่ดูแต่พิกัดของดาว ๑ แต่เพียงส่วนเดียว ว่าพิกัดอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งหรือเปล่า พิกัดของดาว ๑ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการพยากรณ์บุคคลที่มีดาว ๑ ราศีตุลย์ แต่ก็ต้องคำนึงถึง ฤกษ์ ดาวเจ้านวางค์และเจ้าตรียางค์ในดวงชะตาด้วย (เจ้านวางค์น่าจะมีความสำคัญกว่าเจ้าตรียางค์ เพราะว่า..ดูได้ละเอียดกว่า เนื่องจากมีระยะพิกัดน้อยกว่า)
ดาว ๑ มีพิกัด ๒๐ ํ- ๒๓ ํ๓๐' จะอยู่ในนวางค์ดาว ๓ เจ้าเรือนราศีเมษ ดาว ๑ ราศีนี้ได้ตำแหน่งมหาอุจ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนมีความรู้ มีการศึกษา มีรูปร่างเป็นที่ต้องตาคน และที่สำคัญคือเรียนหนังสือเก่ง เพียงแต่ว่า...คนที่มีดาว ๑ ในตำแหน่งเหล่านี้จะมีความลำบากพอสมควร ในตอนแรกๆของชีวิต คือ ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่ม แต่หลังจากนั้น คนที่มีดาว ๑ ในตำแหน่งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งทุกอย่าง ถ้าหากดาวอื่นๆในดวงชะตาไม่เลวร้ายจนเกินไป
ดาว ๑ ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่ดี ไม่ว่าอยู่ภพไหนก็ตาม จะให้คุณสูงทั้งนั้น โดยเฉพาะในด้านความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่ การศึกษา ความมีโชคดี และถ้าดาว ๑ สถิตในราศีธาตุไฟ คือ เมษ สิงห์ ธนู ไม่เป็นเจ้าเรือนทุสถานะภพ ไม่สถิตในเรือนทุสถานะภพ ถึงจะเป็นคนยากจนขนาดไหนก็ไม่ต้องเป็นห่วง สามารถเอาดีได้ ถึงจะมีอุปสรรคมากมายอย่างไรก็สามารถผ่านพ้นอุปสรรคและความทุกข์ยากต่างๆได้

ขอใหดาวอาทิตย์ให้คุณกับทุกท่านที่ประกอบแต่กรรมดี โดยเฉพาะในด้านความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่ การศึกษา ความมีโชคดีจงบังเกิดแด่ทุกท่านด้วยเทอญ

 

49270 : จากคุณ เดาล้วนๆ [14.207.110.45] 25 Jun 2013 - 10:08 [10 คำตอบ]

หรือที่..องค์ปฐมบรมกษัตริย์ทรงพระปริวิตกในดวงเมือง..กำลังจะเป็นจริง
--------------------------------------------------------------------------------

Tue 25, Jun 2013 09:57:34 : IP 14.207.110.45

จากหนังสือ โหราศาสตร์ในวรรณคดี ของ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
ได้อ้างถึงพระราชปริวิตกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
องค์ปฐมบรมกษัตริย์ รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เอาไว้

โดยอ้างอิงถึงเกณฑ์การพิจารณาในเรื่องดาวและราศีที่เป็น
กุศลธาตุไฟฟ้าลบ และ อกุศลธาตุไฟฟ้าบวก
ว่า ลัคนาเมือง (กรุงรัตนโกสินทร์) ราศีเมษ ธาตุไฟ

ซึ่งเป็นอกุศลธาตุไฟฟ้าบวก
กับ ดาวเสาร์ ซึ่งเดิมเป็นเจ้าเรือนราศีกุมภ์ ธาตุลม
นับเป็นอกุศลธาตุไฟฟ้าบวกเช่นเดียวกัน

ย่อมไม่สามารถกลมกลืนกับอกุศลธาตุเดียวกันได้
และเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน

และที่จำเป็นต้องพิจารณาให้มากอีกอย่างคือ
พระเสาร์นั้น เป็นประธานของดาวบาปเคราะห์ทั้งปวง

พื้นดวงเดิมเสาร์ก็อยู่ร่วมกับพฤหัสที่ราศีธนู ธาตุไฟ
พฤหัสได้ตำแหน่งเป็นเกษตร
ในขณะที่เสาร์ก็เด่นเพราะอยู่ในเรือนธาตุ

อิทธิพลจึงก้ำกึ่งสมพละกำลังกันมาก
ทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้อิทธิพล
ทั้งพระทั้งโจรมาตั้งแต่ตั้งกรุงรัตนโกสินทร์

อันเป็นที่มาของ คำพยากรณ์ ๑๐ ยุค
ที่ดาวพฤหัสกับเสาร์จะโคจรมาอยู่ในราศีเดียวกัน ๒๐ ปีต่อรอบ

และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ยังได้สรุปเอาไว้
ถึงโหราทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
(หน้าที่ ๓๔ หนังสือโหราศาสตร์ในวรรณคดี โดย อ.เทพย์ สาริบุตร)

ตอนหนึ่งว่า…….

“ฉะนั้น จึงเป็นเหตุผลที่สรุปได้ว่า
เสาร์นั้นจัดว่าเป็นดาวกาลกรรณีชาติโดยแท้จริง สำหรับเมษราศี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ ดวงเมือง ที่มีลัคนาสถิตในราศีเมษ…..”

เมื่อมาพิจารณาเปรียบเทียบกับดวงชะตาประเทศในแบบสิบลัคนา
ดังรูปดวงประกอบที่ยกมาข้างบน

นับตั้งแต่วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๖
ดวงชะตาประเทศไทย ได้ย่างเข้า ๒๓๒ ปี ทักษาตกภูมิพฤหัส

ดาวเสาร์ (๗) เป็นกาลกิณีจรเล็งลัคนา
ต้องเกณฑ์ฆาตนระโสโรแก่ดาวอังคาร (๓)
ตนุลัคน์ของดวงเมืองซึ่งอยู่ที่ราศีเมถุน (ในดวงสิบลัคน์)

แต่ยังนับเป็นโชคดี ที่ยังมีช่วงระยะที่
ดาวเสาร์เดินถอยหลัง (พักร์) ทำให้ไม่สามารถออกฤทธิ์ ออกเดช ได้เต็มที่
ไปจนกระทั่งถึง วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ จึงจะเริ่มเดินหน้า

ดาวเสาร์ (๗) ในความหมายทางโหราศาสตร์
หมายถึงชนชั้นผู้ใช้แรงงาน คนรากหญ้า กรรมกร ชาวนา ตำรวจ……
กลุ่มคนเหล่านี้เมื่อมีการเคลื่อนไหวในทางการเมือง
จึงนับเป็นที่น่าวิตกแก่ชนชั้นปกครองอย่างแท้จริง

เพราะเป็นพละกำลังที่สามารถจะทำลายล้าง
หรือ หักโค่นเอากับ ดาวพฤหัส (๕) ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มคนอนุรักษ์นิยม
ชนชั้นปกครองเก่าที่คุมอำนาจรัฐที่แท้จริงมาอย่างยาวนาน

นอกจากนั้นยังมีดาวราหู (๘)
ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์พี่เบิ้ม มิตรรัก สหายนักเลง ของดาวเสาร์
จรอยู่ในราศีตุลย์ช่วยกันขย่มดวงเมืองประเทศไทยอีกแรงหนึ่ง

ในขณะที่ดาวพฤหัส (๕) ดาวประธานศุภเคราะห์ใหญ่
ถึงแม้จะโยคหน้าลัคน์ จรอยู่ในราศีเมถุน เป็นประ
เป็นตำแหน่งดาวที่ไม่มีกำลัง อ่อนแรง
มีหรือจะสู้แรงจากดาวบาปเคราะห์ใหญ่ทั้งสอง (เสาร์ – ราหู) ได้

................................................................................
................................................................................
................................................................................

ดังนั้นไม่ว่าจะน้อมเอาข้อที่เป็นพระปริวิตก
ขององค์ปฐมบรมกษัตริย์ผู้ทรงวางพระฤกษ์ดวงเมืองด้วยพระองค์เอง

ที่เห็นดาวเสาร์เป็นกาลกรรณีชาติ แก่ดวงชะตาประเทศ

ที่บังเอิญสอดคล้องกันกับการพิจารณา
จากวิชาโหราศาสตร์ในระบบสิบลัคนา
ที่เสาร์เป็นเกณฑ์ฆาตนระโสโร
แก่ตนุลัคน์อังคาร ก็ดี…….

หลังวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป
เมื่อดาวเสาร์เดินหน้าตามจักรเต็มตัว
และยังได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์มีกำลังสูงสุด

"จึงให้โทษสูงสุดเมื่อเป็นกาลกิณีจร" เล็งลัคน์ดวงชะตาเมืองที่ราศีเมษ
และตรีโกณร่วมธาตุเป็นฆาตกับอังคารตนุลัคน์ที่ราศีเมถุน
รอเพียงวันที่องศาสัมผัส และตัวจุดชนวน (ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายไหน)

เนื่องจากดาวเสาร์เป็นดาวใหญ่ มีวงโคจร แต่ละราศีถึง ๒ ปีครึ่ง
องศาที่เดินจึงค่อนข้างขยับไปอย่างช้าๆ …….
กรกฏา – สิงหา และ ต่อเนื่อง

ขอให้ท่านทั้งหลายจงโชคดี !

ข้อมูลจาก payakorn.com

..................................................................................

เป็นความเห็นจากผู้รู้อีกท่านหนึ่ง..."พึงพิจารณาประกอบสติ อย่าเพิ่งรีบสรุปอะไร"
รับฟังเอาไว้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงนี้ดูนะครับ

o v l o v
...

 

เดือนนี้หรือเดือนหน้า อาจมีปฏิวัติ เดือนสองเดือนนี้ล่ะครับ เอ้อ ไอ้เราก็ได้แต่เฝ้ามองตาปริบๆ

ไหนจะปลายปีถึงต้นปีหน้าอีกน้ำอาจจะมาเยี่ยม

บางอย่างมันก็เกินที่จะห้ามจะรั้งไม่ให้เกิด
สิ่งใดเกิด สักวันก็ต้องมีดับ เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอนไม่อาจฝืนได้ ทุกชนชั้น สูงต่ำดำขาว สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ตึกรามบ้านช่องสักวันก็ต้องพัง เหล็กว่าแข็งยังโดนสนิมกัด

เรื่องบางอย่างได้เกิดขึ้นแล้วแต่ยังจำเป็นต้องปิดข่าวไว้ เพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง รอเพียงวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อบอกประชาชน เวลาเท่านั้นอีกไม่นาน สิงหาคม อาจจะรู้

 

วันพฤหัส...ดาวพฤหัสย้ายราศี

วันนี้วันพฤหัส มาว่ากันเร่ืองดาวพฤหัสย้ายราศี 2556 ตกลัคนาราศีมิถุน ราศีตุลย์ และราศีธนู อาจารย์อารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์-โหรฯ ชี้ส่งผลดี เพราะดาวพฤหัสเป็นดาวมงคล

ในช่วงนี้มีหลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง "ดาวพฤหัสย้ายราศี 2556 เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 พฤษภาคม โดยโหราศาสตร์จากหลายสำนัก ก็ออกมากล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ดาวพฤหัสย้ายราศีในครั้งนี้ จะส่งผลต่อชะตาชีวิตของชาวราศีมิถุน ราศีธนู และราศีตุลย์ครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งอาจจะเป็นในทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก

ทางรายการปากโป้ง (30 พฤษภาคม) จึงได้เชิญ "อาจารย์อารี สวัสดี" นายกสมาคมดาราศาสตร์ และประธานมูลนิธิโหรแห่งประเทศไทย มาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดาวพฤหัสย้าย ว่าจะส่งผลร้ายจริงหรือไม่

โดยอาจารย์อารี เปิดเผยว่า การย้ายลัคนาของดาวพฤหัสที่ทุกคนกำลังตื่นตระหนกนั้น เป็นเพียงการย้ายตำแหน่งมาทำมุมกับดาวพุธ และดาวศุกร์ ซึ่งการทำมุมของดาวทั้งสามดวง ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับดวงชะตามนุษย์ทุกราศี

ส่วนความเชื่อที่อ้างว่า จะทำให้ชาวราศีมิถุนกับราศีตุลย์นั้น ดวงชะตาตกต่ำ ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะดาวพฤหัสเป็นดาวดี เป็นดาวมงคล เมื่อไปตกตำแหน่งไหนก็จะช่วยสนับสนุนให้ทุกอย่างดีขึ้น

นอกจากนี้ อาจารย์อารี ยังได้เปรียบเทียบตำแหน่งของดวงดาวกับการผสมพยัญชนะไทยด้วย โดยยกตัวอย่าง ว่า พยัญชนะ ร.เรือ อยู่เฉย ๆ ไม่มีความหมาย แต่ถ้ามารวมกับ ว.แหวน และ ย.ยักษ์ ก็จะเป็นคำว่ารวยทันที ก็เหมือนกับดวงดาวหากตกมุมอยู่ในตำแหน่งดี ก็จะเกิดเป็นความหมายที่ดี

ท้ายนี้ นายกสมาคมดาราศาสตร์ ยังกล่าวฝากอีกว่า ไม่อยากให้เข้าใจว่าเรื่องของดวงดาวจะมีแค่เรื่องเลวร้าย ถ้าศึกษาอย่างละเอียด ก็จะทราบว่า มีเรื่องของความโชคดี ไม่ใช่มีแต่เรื่องบั่นทอนดวงชะตาเสมอไป

สำหรับเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนเรานั้น ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนตำแหน่งของดวงดาวอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา เพราะหากเราทำดีก็จะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน

ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดกับทุกท่านตลอดไป

 

วันครู "ครูแรง"

เหตุการณ์เฉพาะหน้าบางอย่าง
โหรไทยมีวิชาเอาไว้รับมือกับเรื่องซึ่งหน้า
ได้อย่างทันท่วงทีเหมือนกัน

เพื่อที่จะได้รู้จุดประสงค์ของผู้ที่มาขอคำแนะนำ
ว่ามาด้วยเหตุไร สิ่งใดนาวานบอก

นานๆ ทีลองใช้ดูก็ดีเหมือนกันนะ
คล้ายๆ เป็นรหัสของ น้าบอนด์ อย่างที่เคยเล่า
ถ้ามีเลขซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้งค่อนข้างแม่นยำเหมือนกัน

ผู้รู้บอกว่า...
คนไม่รู้ก็นึกว่าอาจารย์มี "ผีบอก"
แต่อาจารย์ให้เกียรติครูบาอาจารย์ก็เรียกว่า "ครูแรง"

น้าๆ ที่เปลี่ยนถ่านไฟฉายกันไปหลายก้อนแล้ว
ยังหาทางกลับ บก. ไม่เจอ...

คงต้องลองเปลี่ยนไป "เสี่ยงเซียมซี" ดูแล้วล่ะ
เปลี่ยนจากตัวเลขเป็นตัวหนังสือน่ะ
น่าจะบอกใบ้ได้เร็วกว่าเยอะ

ลองๆ ดูนะน้า
ต่อให้น้าอยู่ใน หลุมดำ ด้วย

ออกมาได้เหมือนกัน
แค่จำแลงกายนิดหน่อย...

 

เหล่าน้าขาสั้นจะเดินทางไปทำบุญทำกุศลอีกแล้ว
คราวนี้จะไปร่วมเทปูนองค์สมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก๒๑ศอกที่เมืองกาญจน์
คงไม่ได้เข้าเว็ปไปอีกหลายวันแต่กลับมาหวังว่าเว็ปยังอยู่ดีมีสุขนะ
แล้วก็เพื่อนๆด้วยขอให้ทุกท่านอยู่ดีมีสุขโดยถ้วนหน้ากัน

 

วันศุกร์..."วันแห่งความรัก"

ดุาวศุกร์ ดาวคู่สร้างแต่ปางก่อน

ดาวศุกร์ปรากฏให้เห็นด้วยตาเปล่า ถ้าเห็นในตอนหัวค่ำเราเรียกว่า "ดาวประจำเมือง" ถ้ามองเห็นในตอนรุ่งเช้าเราเรียกว่า "ดาวประกายพรึก" มันเป็นดาวที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้า


"เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด บุพเพสันนิวาสที่ประสาทความรักภิรมย์"

เสียงเพลงเกี่ยวกับความรักใคร่ช่างมีความอ่อนหวาน ไพเราะ ลึกซึ้งกินใจสำหรับคนที่ยังมีหัวใจรัก ทำให้อดไม่ได้ที่จะนำเสนอบทความ เกี่ยวกับเรื่อง คู่ครอง ความรัก การแต่งงาน ในวันศุกร์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ วันศุกร์"วันแห่งความรัก" (happy friday's Day)
ซึ่งเรื่องของหัวใจ ความรัก และคู่ครอง นั้น จัดได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตทางโลกทีเดียว คนใดได้คู่ดี เป็นคู่บุญบารมี กันมาแต่ชาติปางก่อน
การที่คนเราจะมีวาสนาได้มาอยู่ร่วมเรียงเคียงหมอน เป็น "เนื้อคู่" "หนังคู่" "กระดูกคู่" ได้นั้นขึ้นอยู่กับกรรมที่บุคคลทั้งสองสร้างสมร่วมกันมา อาจจะมากกว่าหนึ่งภพหนึ่งชาติ บางคู่อาจสร้างสมร่วมกันมาหลายภพหลายชาติทีเดียว อย่างเช่นคู่ของ เจ้าชายสิทธัตะ กับพระนางพิมพา ยโสธรา เป็นต้น ทั้งสองร่วมสร้างสมบุญบารมีร่วมกันมา ตราบจนกระทั่งฝ่ายชายสำเร็จมรรค ผล นิพพาน ตรัสรู้ธรรมเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ที่ ๔ ในภัทรกัปป์นี้ ฝ่ายหญิงเอง พอเจ้าชายหนีไปบวช ก็ไม่ได้คิดจะมีใหม่ หรือหาความสุขสำราญอย่างเคย รู้ว่าเจ้าชายลำบากอย่างไร ก็ทำตนให้ลำบากอย่างนั้น ตราบจนกระทั่งได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์ และต่อมามีโอกาสได้บวชเป็นพระภิกษุณี ได้สำเร็จมรรคผลนิพพาน หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในชาติภพเดียวกัน อย่างนี้เขาเรียกว่า "คู่บุญบารมี" อย่างแท้จริง
มีหลายคู่ทีเดียวที่รักกันปานจะกลืน บางคู่รักกันชอบกันมาตั้งแต่เด็กๆ หรือรักกันมากกว่า ๑๐ ปี แต่ก็ไม่มีวาสนาจะได้อยู่เป็นคู่ครอง ร่วมกัน อาจจะเป็นเพราะว่า ในชาติที่แล้ว เขาสร้างบุญร่วมกันมาน้อยมาก อย่างที่เพลงของชาย เมืองสิงห์ ร้องว่า "ชาติก่อนเราเพียงคู่เคียง เก็บดอกไม้ร่วมต้น แต่ว่าเราสองคน ไม่สนใจ ใสบาตรร่วมขัน " ! การที่มีจิตใจตรงกัน เก็บดอกไม้ต้นเดียวกันไปถวายพระ อานิสงส์ (ผลที่จะได้รับ) อันนี้ ส่งผลให้เพียงรักใคร่ชอบพอกันเท่านั้น ไม่มากพอที่จะเป็นคู่ครองกันได้ ถ้าจะให้มากพอที่จะเป็นคู่อยู่กินกัน อย่างน้อยจะต้อง "ตักบาตร (ใส่บาตร) ร่วมขัน" อย่างน้อย ๑ ครั้ง
และเมื่อเป็นคู่ครองกันแล้ว บางคู่อยู่กันไม่นาน ไม่ทันหม้อข้าวจะดำ ก็เลิกราหย่าร้างกันแล้ว (บางคู่ก็ตายจากกัน) อันนี้อาจเป็นไปได้ว่า ตักบาตรร่วมกันมาน้อย หรือมิเช่นนั้น อาจจะไม่ได้สร้างอานิสงส์บุญบารมีอื่น อีก เช่น สร้างโบสถ สร้างวิหาร สร้างศาลาการเปรียญ หรือสาธาณประโยชน์แก่สังคมร่วมกันมา ดังนั้นทำให้ความรักและการครองคู่ จึงไม่ยั่งยืนมั่นคง พลัดพรากหรือตายจากไปในเวลาอันสั้น บางคู่ไม่ทันจะมีบุตรสืบสกุลด้วยซ้ำไป

มีมากมายหลายคู่ทีเดียว ที่เป็นเพียงแค่ "เนื้อคู่" แต่ไม่ได้เป็น "คู่ครอง" อันนี้หลายท่านอาจจะสงสัยล่ะซี เอ๊ะ มันยังไงกัน มีข้อแตกต่างด้วยหรือสำหรับคำสองคำนี้ แตกต่างกันมากทีเดียว คำว่า "เนื้อคู่ " นั้น หมายถึง คนสองคนไม่ว่าจะรักใคร่ชอบพอกันหรือเปล่า หากมีโอกาส มีเพศสัมพันธ์ ร่วมกัน อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เราจะจัดให้เป็นเนื้อคู่กันทันที ความหมายมันก็บอกอยู่แล้ว ว่า เอาเนื้อมาคู่กัน มาเบียดกัน คนที่ไปเที่ยวผู้หญิง และมีเพศสัมพันธ์ จัดให้เขาเจอเนื้อคู่ได้ในกรณีนี้ และผู้หญิงหากินที่รับแขกเป็นร้อยๆ พันๆ คู่ ก็จัดได้ว่ามีเนื้อคู่ เป็นร้อย ๆ พัน ๆ เช่นกัน เรื่องการสมสู่กันจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของสัตว์โลกทั้งหลาย มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งไม่มีใครอยากจะรับกรรมอันนี้หรอก แต่มันหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น

อย่างชาติที่แล้ว คุณเกิดเป็นชายชาตรี เที่ยวสมสู่กับหญิงไม่เลือกหน้า ไม่ว่าลูกเขาเมียใคร หญิงดี หญิงเลว คุณก็ไม่ละเว้น กรรมอันนี้ นอกจากคุณจะต้องไปเกิด เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต อสุรกาย เดรัจจฉาน หากคุณมีบุญมากพอที่จะกลับมาเกิดเป็นคนได้อีก เศษกรรมของคุณ ก็จะตามคุณมาให้เกิดเป็นผู้หญิงสาธารณ์ หรือ เป็นหญิงที่ถูกผู้ชายลวงไปข่มขืน หรือเป็นหญิงที่อาภัพคู่ หาคู่เป็นตัวเป็นตนไม่ได้ ฯลฯ เชื่อหรือไม่ ลองพิจารณาดู

สำหรับคำว่า "คู่ครอง" นั้น ก็คือเนื้อคู่ที่สร้างบุญร่วมกันมามากพอ คือมีวาสนาอยู่ร่วมกัน จัดเป็นคู่ครองทั้งนั้น ซึ่งคู่ครองอันนี้ บางรายก็อาจจะมีคู่ครองมากกว่า ๑ คน และบางรายก็จะหาคู่ครองเป็นตัวเป็นตนไม่ได้เลย กล่าวคือ เป็นแค่ Boy Friend& Girl Friend เท่านั้น ไม่ได้ครองรัก ครองเรือน ครองทุกข์ ครองสุข ครองทรัพย์สิน ฯลฯ ร่วมกัน

การดูดวงในทางโหราศาสตร์นั้น เขาจะยึดเอาตำแหน่งดาวในจักรราศี หรือแผ่นดวงเป็นสำคัญดาวที่นำมาใช้ในการดูเรื่องนี้นั้น มีด้วยกัน ๓ ดวง



1. คือ ดาวศุกร์ (๖) ซึ่งเป็นดาวแห่งความรัก กามารมณ์ หากดวงใดไม่ว่าหญิงหรือชาย มีศุกร์ เป็นเกษตรในราศีตุลย์ หรือเป็นมหาอุจจ์ในราศีมีน จะมีโอกาสสมหวังในเรื่องคู่ ไม่ขาดแคลนความรัก ความรักไม่ค่อยมีปัญหาและอุปสรรค ในการครองเรือน มีโอกาสได้คู่ดี มีฐานะ ศักดิ์ตระกูล แต่ในทางตรงกันข้าม หากมีศุกร์ เป็นประ ในราศีเมษ หรือเป็นนิจ ในราศีกันย์ มักจะได้คู่ที่ไม่ดี ต่ำศักดิ์ ความรักไม่สมหวัง ไม่ราบรื่น มักมีปัญหาอุปสรรคทำให้อยู่ร่วมกันอย่างไร้ความสุข พาลให้เลิกราหย่าร้างกันได้ นอกจากดาวศุกร์แล้ว ในดวงหญิง ต้องพิจารณา ดาวอาทิตย์ (๑) หมายถึง สามี และ ในดวงชายต้องพิจารณา ดาวจันทร์(๒) หมายถึง ภรรยา ประกอบด้วย

หากหญิงใดมีอาทิตย์เป็นเกษตรในราศีสิงห์ หรือเป็นมหาอุจจ์ในราศีเมษ หญิงนั้นมักจะได้คู่ดี มียศศักดิ์อัครฐาน อยู่กินกับสามีแล้วชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แต่หากดวงใด มีอาทิตย์เป็นประในราศีกุมภ์ หรือ เป็นนิจในราศีตุล หญิงนั้นมักจะได้คู่ที่ต่ำศักดิ์ มักนำความทุกข์ร้อนมาให้ มักจะได้คู่ที่เป็นหม้ายผ่านการมีเรือนมาแล้ว

เช่นเดียวกับชายใด หากมีดาวจันทร์ เป็นเกษตรในราศีกรกฎ หรือเป็นมหาอุจจ์ในราศีพฤษภ ชายนั้น มักจะได้หญิงที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ มาเป็นภรรยา ในทางตรงข้าม หากมีดาวจันทร์เป็นประในราศีมังกร หรือเป็นนิจในราศีพิจิก ชายนั้นมักจะได้คู่ที่ไม่สวยสด งดงาม มักจะได้คู่ที่ต่ำศักดิ์ เป็นหม้ายผ่านการมีเรือนมาแล้ว


หากในดวงใดมีดาวทั้งสามที่ให้คุณหรือให้โทษก็ตาม ในภพปัตนิ เช่น ลัคนาราศีกันย์ มีศุกร์เป็น อุจจ์ในภพปัตนิ คือราศีมีนที่อยู่ตรงข้ามกัน ดาวศุกร์ดวงนี้ จะให้คุณอีกหนึ่งเท่าตัว และชัดเจน มากกว่าศุกร์เป็นอุจจ์ในเรือนอื่น หรือภพอื่น ๆ และเช่นเดียวกันกับ คนที่มีลัคนาในราศีสิงห์ หากมีดาวศุกร์เป็นอุจจ์ในราศีมีน ในกรณีนี้ ดาวศุกร์จะส่งผลเสียในดวงชะตา แม้จะได้คู่ดี ก็มีโอกาสเลิกราหย่าร้าง หรือตายจาก เพราะศุกร์ในราศีมีนนั้นเป็นจุดมรณะของราศีสิงห์ เป็นอันว่า หากดวงใดดาวทั้งสามคืออาทิตย์ จันทร์ และศุกร์ อยู่ในจุดที่ดี คือเป็น เกษตร และมหาอุจจ์ และ จะให้คุณอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ไปอยู่ในภพอริ มรณะ หรือวินาศนะ ก็จะให้โทษตามความหมายของเรือน

"สุขสันต์วันแห่งความรัก" ทุกท่าน สวัสดี

 

วันศุกร์ดาวคู่สร้างแต่ปางก่อนเป็น "เนื้อคู่" แต่ไม่ได้เป็น "คู่ครอง" เอ๊ะ มันยังไงกัน?

มีมากมายหลายคู่ทีเดียว ที่เป็นเพียงแค่ "เนื้อคู่" แต่ไม่ได้เป็น "คู่ครอง" อันนี้หลายท่านอาจจะสงสัยล่ะซี เอ๊ะ มันยังไงกัน มีข้อแตกต่างด้วยหรือสำหรับคำสองคำนี้ แตกต่างกันมากทีเดียว คำว่า "เนื้อคู่ " นั้น หมายถึง คนสองคนไม่ว่าจะรักใคร่ชอบพอกันหรือเปล่า หากมีโอกาส มีเพศสัมพันธ์ ร่วมกัน อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เราจะจัดให้เป็นเนื้อคู่กันทันที ความหมายมันก็บอกอยู่แล้ว ว่า เอาเนื้อมาคู่กัน มาเบียดกัน คนที่ไปเที่ยวผู้หญิง และมีเพศสัมพันธ์ จัดให้เขาเจอเนื้อคู่ได้ในกรณีนี้ และผู้หญิงหากินที่รับแขกเป็นร้อยๆ พันๆ คู่ ก็จัดได้ว่ามีเนื้อคู่ เป็นร้อย ๆ พัน ๆ เช่นกัน เรื่องการสมสู่กันจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของสัตว์โลกทั้งหลาย มันเป็นกรรมอย่างหนึ่งไม่มีใครอยากจะรับกรรมอันนี้หรอก แต่มันหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น

อย่างชาติที่แล้ว คุณเกิดเป็นชายชาตรี เที่ยวสมสู่กับหญิงไม่เลือกหน้า ไม่ว่าลูกเขาเมียใคร หญิงดี หญิงเลว คุณก็ไม่ละเว้น กรรมอันนี้ นอกจากคุณจะต้องไปเกิด เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต อสุรกาย เดรัจจฉาน หากคุณมีบุญมากพอที่จะกลับมาเกิดเป็นคนได้อีก เศษกรรมของคุณ ก็จะตามคุณมาให้เกิดเป็นผู้หญิงสาธารณ์ หรือ เป็นหญิงที่ถูกผู้ชายลวงไปข่มขืน หรือเป็นหญิงที่อาภัพคู่ หาคู่เป็นตัวเป็นตนไม่ได้ ฯลฯ เชื่อหรือไม่ ลองพิจารณาดู

สำหรับคำว่า "คู่ครอง" นั้น ก็คือเนื้อคู่ที่สร้างบุญร่วมกันมามากพอ คือมีวาสนาอยู่ร่วมกัน จัดเป็นคู่ครองทั้งนั้น ซึ่งคู่ครองอันนี้ บางรายก็อาจจะมีคู่ครองมากกว่า ๑ คน และบางรายก็จะหาคู่ครองเป็นตัวเป็นตนไม่ได้เลย กล่าวคือ เป็นแค่ Boy Friend& Girl Friend เท่านั้น ไม่ได้ครองรัก ครองเรือน ครองทุกข์ ครองสุข ครองทรัพย์สิน ฯลฯ ร่วมกัน

 

ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีต่างๆ

ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีเมษ
จะให้ผลดีทางด้านการเงินและครอบครัว มีปฎิภาณไหวพริบในการปฎิบีติงาน จะได้ประกอบอาชีพที่สำคัญอย่างหนึ่ง แต่มักจะแสวงหาความเพลิดเพลินจากเพศตรงข้าม
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีพฤษภ
จะมีร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง ประกอบอาชีพด้วยความมานะอดทน มีทิษฐิมานะแรงกล้า มีความคิดสุขุม เร้นลับ เป็นผู้ที่มีความคิดแนวแน่ บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สิน
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมิถุน
จะมีความสามารถในการติดต่อ มีปฎิภาณไหวพริบ เฉลียวฉลาดในการทำงาน จะทำงานด้วยปฎิภาณมากกว่าจะอาศัยวิชาความรู้ มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกรกฎ
มีนิสัยสงบเงียบ มีสติปัญญาดี ใฝ่สันติ ได้รับความนับถือบางอย่างจากคนทั่วไป เจ้านายรักใคร่ การแต่งงานมักจะล่าช้า นอกจากฝ่ายตรงข้ามจะรุกเข้ามาจึงจะเร็วขึ้น
ดาว ๖กุมลัคน์
ราศีสิงห์
จะเป็นคนทำนองที่ชอบทำอะไรแบบต้นคดปลายตรง กระทำการใดๆด้วยความจริงใจ ไม่ชอบการใช้ไหวพริบเล่ห์เหลี่ยม กล้าได้กล้าเสีย เป็นคนขยันขันแข็ง ต้องการทำทุกอย่างด้วยความโก้เก๋ และต้องเด่นกว่าคนอื่นๆ
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกันย์
ชีวิตมักจะพบอุปสรรคอย่างมากมาย จะพบกับความวิบัติในเบื้องต้น แล้วจึงจะพบความเจริญในบั้นปลาย เป็นคนรักสวยรักงาม ร่างกายจิตใจมักจะอ่อนแอ แต่งงานกับคู่ครองที่ไม่ใช่คนบริสุทธ์
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีตุลย์
เป็นผู้มีจิตใจสูง มีวิธีการลึกซึ้ง ทำงานทั้งหลายด้วยความเฉลียวฉลาด มีน้ำอดน้ำทน ทองเห็นการณ์ไกล ชอบความยุติธรรม จะปกครองบ้านเมืองให้ทุกคนได้รับความสุขเท่าเทียมกัน
ดาว ๖กุมลัคน์ราศีพิจิก
จะเป็นคนมีอารมณ์ใคร่ผิดปกติธรรมดา จะให้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว การงานจะทำให้ต้องย้ายที่อยู่เสมอ เฉลียวฉลาดและรอบคอบในการทำมาหากิน
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีธนู
จะเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ในกิจการงานทุกอย่าง หวังเพื่อเพิ่มพูนรายได้เท่านั้น มีการหาเงินด้วยวิธีอันชาญฉลาด ชอบคลุกคลีในเรื่องกามารมณ์
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมังกร
จะเป็นคนมีรูปร่างเป็นเสน่ห์ ดำเนินชีวิตไปได้ดีทุกทาง ได้รับความนับถือจากบุคคลทั่วไป พอใจเรื่องความสวยงามและงานศิลปะ แต่จะมีจิตใจขุ่นมัวอยู่เสมอ
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีกุมภ์
จะเห็นบุคคลที่มีแต่ความผาสุข มักจะมีโชคอยู่เสมอ จิตใจมีศีลธรรม จะได้รับผลดีจากการประกอบการงาน แต่จะมีศัตรูคอยรบกวนกลั่นแกล้ง
ดาว ๖ กุมลัคน์ราศีมีน
เป็นผู้มีความสุภาพอ่อนน้อม บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง ปราศจากความกังวลวุ่นวายในชีวิต การแต่งงานมักจะมีมากกว่า ๑ ครั้งในชีวิต

 

วัน "สุก"

บอกแล้วเรื่อง "ครูแรง"
แล้วออกมาจาก "หลุมดำ" ได้น่ะ

มีจริงๆ นะน้าๆ

.......

อะไรที่เกินๆ น่ะ

ถ้า...ไม่...เกรียน
ก็...ไหม้...เกรียม


Friday สำหรับบางคน
ก็อาจเป็น Fry...day สำหรับบางคน




อาเมนก่อน...แล้วก็...เอวัง

ทุกอย่างพังด้วยประการะฉะนี้แล


.....





น้าๆ รุ่นเก่า เดาไม่ออก
มีงอลล์นะ...

 

คุณเธอมาอีกแล้วครับ...

เจ้าเก่า
เจ้าประจำ

ออกจากหลุมดำ

จรมา...

หน้าตาใหม่
ชื่อใหม่

ที่ไม่สว่างละ
ขอสลัวๆ

มาแบบนี้
ทรงนี้
ทุกที

เริ่มเยอะ
เริ่มแปลกๆ
เหมือนทุกที

สุดท้าย
"สติแตก"

เหมือนทู๊กๆ ที...


"ไม่มีไร แค่บ่นในใจ...ดังๆ"

 

​

แสดงว่า เรื่องเล่า ของ คุณ OVLOV เร้าใจ เลยดึงดูดให้เขาขึ้นจากหลุมมาใหม่ จากสว่างสุกใส มาดใหม่มาทึมๆ แต่ คุณ OVLOV ก็ยังอุตส่าห์จำได้ (ถ้าคุณ OVLOV ไม่บ่นในใจดังๆ ก็จำไม่ได้เหมือนกันนะคะ พอได้ยินเสียงบ่น ก็เลยอ๋อ คนนี้มาอีกแย้ว) หวังว่า ครั้งนี้เขามาแล้ว สติไม่แตกเหมือนครั้งก่อนนะคะ ขอให้คุณ OVLOV โชคดีค่ะ สู้ๆ

 

เสาร์แรง

ภาพนี้ถ้ามองในมุมของศิลปะ
องค์ประกอบทางศิลปก็สวยงาม ลงตัวดีนะครับ

แต่ถ้ามองโดยเปรียบเทียบกับดาวและสถานการณ์ จะเห็นได้ว่า
เสาร์มีกำลังแรง แซงอังคาร...อังคารน่าจะลำบากอยู่เหมือนกัน

เสาร์เป็นตัวแทนของ ผู้ใช้แรงงาน กรรมกร ถ้าในเครื่องแบบก็ ตำรวจ

ดูดีๆ ก็บ่งบอกเรื่องราวในอนาคตอันใกล้ได้
อังคารก็ไม่ได้ล้มนะครับ จากภาพนี้ ยังแข็งขืนยันกายได้อยู่
แต่ถูกกลุ้มรุมจากทุกทิศทาง ขยับไม่ออก

อย่าไปมีอารมย์ร่วมรุนแรงใดๆ

ดูให้เข้าใจ...
ไม่ใช่ปวดใจ...

...

 

ทุกสิ่งมองได้สองด้านเสมอ

เราแสดงความสุภาพต่อผู้อื่น มิใช่เพราะมารยาทสังคม
หากแต่เพราะเรามีคุณค่าพอที่จะทำสิ่งดีๆ ในชีวิต

ทุกสิ่งมองได้สองด้านเสมอ

Cr : อารีย์ ยิ่งโยชน์