ปัญหาการมีอยู่จริงของพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาฮินดู

..ทุกดวงจิตเป็นเอกภาพ และ ไม่สามารถแบ่งภาค แบ่งดวงจิตลงมาเกิดได้ หรือที่เรียกว่าอวตาร นั้นมันเป็นเพียงความเชื่อ ไม่ใช่ความจริง จิตหลักหนึ่งดวง แบ่งจิตย่อยลงไปเกิดในครรภ์ เป็นไปไม่ได้เลยยย แต่ถ้าหากเป็นการใช้ฤทธิ์ของจิต ใช้กำลังของสมาธิ กำลังของฌาน ที่เรียกว่าเนรมิตนั้นเป็นไปได้ แต่สิ่งนั้นเกิดจากฤทธิ์หาได้เป็นจิตอีกหนึ่งดวง..

 

..และที่สำคัญจะใช้ฤทธิ์ของจิตให้ไปเกิดในครรภ์ มีธาตุ 4 ดิน น้ำ ไฟ ลม หรือให้ไปเป็นจิตอีกดวง ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ อันนี้เป็นความเห็นที่ผิดอย่างมาก นอกเสียจากว่าเมื่อใดจิตเราสะอาดบริสุทธิ์หมดจดไม่มีกิเลสแม้เพียงดั่งเินิน จิตเข้าไปกันอยู่ในพระนิพพานทุกดวงจิตมีสุขเสมอกัน ไม่ว่าจะเป็นพระศาสดา พระสาวกทั้งหลายย ถึงเรียกว่า"เป็นที่อยู่ของจิตทุกดวงที่มีความสุขที่เป็นบรมสุข มีความเสมอภาคกัน ไม่แตกต่างกัน เหมือนกันทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกอย่าง เปรียบปานว่าจิตทุกดวงเป็นอันเดียวกันกลมกลืนกันแยกกันไม่ออกเลย หรือ เป็นธรรมธาตุอันเดียว" อย่างนี้จึงจะถูกต้อง..

 

..ถ้าพูดไปแล้วจะไม่ถูกต้อง แต่ จะเอาถูกใจ จาาาผูกใจเจ็บอั๊วก้อได้นะ.. 555+

 

หลายคนสร้างกรอบความคิดของตนเองขึ้นมา แล้วก็เดินหลงอยู่ในกรอบความคิดนั้น ทั้งๆที่ตนเองก็ยังไม่ได้พิสูจน์อะไรเลยก็เชื่อซะแล้ว สมมติก็คือสมมติ ฝันก็คือฝัน ถึงจะฝันว่าตื่นแล้วก็ยังคงเป็นความฝันอยู่ดี กรรมใดเป็นไปด้วยความเบียดเบียน ทั้งความคิด คำพูดและการกระทำ ถือเป็นอกุศลอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คิดจะหลุดพ้นจริงๆ หากต้องการทดสอบว่าตนเอง ปฏิบัติได้ถึงขั้นไหน ลองถามตนเองดูซิว่า พร้อมจะตายหรือยัง หรือยังกลัวตายอยู่ไหม ยังอาลัยอาวรอะไรอยู่บ้าง เรียนรู้ศาสนามาทั้งหมดก็เพื่อให้อยู่และตายอย่างมีความสุข ก็แค่นั้นเอง เลิกทะเลาะกันเพราะศาสนาได้แล้ว ดูภาคใต้ซิ อย่าให้ศาสนาพาลงนรกเลย ไม่เชื่อก็อย่าไปดูถูกเขาเพราะเราก็ไม่รู้จริงเหมือนกัน ผมว่าที่มาเถียงกันแทบตายนี่ มีสักกี่คนกันที่เคยสัมผัสเทพหรือเทวดา อย่างมากก็แค่ตาบอดคลำช้างแล้วก็คิดไปเอง

 

ตายแล้ว ว่างเพียง 1 ราตรีกาล
ทำไมกระทู้ มันวิ่งเร็วขนาดนี้
อดใจรอหน่อยแล้วกัน
งานตูยุ่ง

 

เรียบเรียงความคิดใหม่ นิดหนึ่ง
ฌาน เป็นสมถะ เป็นกำลัง ส่วน ญาณ เป็นอาวุธ ประหารกิเลส
ปัญญา ก็คือ สติในแก้ปัญหาหรือขจัดปัญหาไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม
ปัญญาญาณ ก็คือ สติหรือความเฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาหรือขจัดกิเลส
แต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงการบรรลุธรรม

ทั้งฌาน และ ญาณ เป็นของคู่กัน ได้จากการฝึกฝึกเป็นสำคัญ
ประหนึ่งเล่นเกมยิงธนู กิเลส
ผู้ยิง ต้องมีกำลัง (สมถะ) และมีเทคนิคที่ดี (ปัญญา) ที่จะยิงเป้าหมาย
ได้ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และทันท่วงที
หากผู้ยิง ไม่เคยฝึกฝน ก็คงยากที่จะทำลายเป้าหมายได้
แต่หากผู้ยิง มั่นฝึกฝน เป้าหมายก็ย่อมถูกทำลาย โดยเฉพาะกลกามแห่งกิเลส

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้

 

นิมิต ต่างกับ ทิพย์จักขุญาณ
นิมิต เกิดจากการเพ่ง หรือ จินตนาการ
ทิพย์จักขุญาณ เกิดจากการฝึกทางจิตจนเกิดคุณวิเศษ

เรื่องราวเดียวกัน แต่สิ่งที่รับรุ้หรือเห็นแตกต่างกัน ด้วยหลายๆ สาเหตุ
1) จิตที่ได้รับการฝึกฝน
2) จิตที่สะอาด
3) จิตทีีมีพลัง
4) จิตที่ไม่ติดสงสัย

 

เทพปกรณัม ก็คือ เรื่องเล่า เพื่อให้เกิดอถรรรส และเกิดศรัทธาแก่เหล่าสาวก
หากไม่มี เรื่องราวเล่านี้ ที่สร้างขึ้นมา
อักขระ อักษรศาสตร์ ก็จะไม่ได้รับการเผยแพร่ หรือใช้กันเช่นทุกวันนี้
เดิมทีอักษร และ ภาษา เกิดจากกลุ่มฤาษี นักบวช นักพรต ฯลฯ

ส่วนความจริงแท้มี 1 เดียว ก็คือ ความจริง
ไม่มีจริงแท้ ไม่มีจริงสูงสุด จริง ก็คือ จริง
เท็จ ก็คือ เท็จ

T & T = T
T & F = F
F & F = F
ฯลฯ

นี้คือตรรกะ ทางคณิตศาสตร์

คงไม่มีใครนำเรื่องราวที่ติเตียนตนเอง หรือ ฮีโร่ ของตนเองหรอกมีเขียนหรอก
มีแต่จะสรรเสริญ แล้วก็ใส่สีตีไข่ให้เป็นตามที่ตนปรารถนา
เราผู้ศึกษา ก็ต้องใช้ปัญญาพิจารณามากๆ อย่าหลงความว่า ศาสนา
แล้วอย่านำศาสนา มาแบ่งชนชั้นหรือแบ่งแยกความดีงามของมนุษย์

 

คนเราก็แปลกเน้อ อยากรู้เรื่องฮินดู แต่ไม่ไปถามพราหม์ชั้นสูง ไม่ไปถามสันยาสี ไม่ไปถามบลัมจโยตี ดันไปถามร่างทรง ดันเอาในพระไตรปิฏกมาตอบ ดันไปเอาตรรกคณิตศาสตร์มาคิด แปลกดี แปลกๆ เหมือนอยากกินไข่ แต่ดันไปเลี้ยงลูกเจี๊ยบ จะได้กินเมื่อไหร่นิ

 

หันไปดู ท่านๆ อมยิ้ม กันไปตามๆ กัน เถียงกันทำไมเนี่ย 555
ตั้งใจไปนิพพานกันดีกว่านะ แต่ถ้าใครจะตามกันต่อไปเพื่อสร้างบารมี หวังจะเป็นเอตทัคคะ ของเรื่องใดๆ ก็ไม่ว่ากัน ไม่ขัดศรัทธาใคร

"เธอเข้าใจว่าใบไม้ในมือ กับใบไม้ในป่า อย่างไหนมากกว่ากัน ก็เช่นนั้น ธรรมที่เราสั่งสอนเพื่อเป็นไปแห่งความหมดทุกข์นั้น เทียบได้กับใบไม้ในมือเราเท่านั้น"

 

.....ไปถามพรหมณ์ที่โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพฯนั่นเหรอครับ
Good Idea โอ้ ! พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก ผมว่ามันก็เข้าทีนะครับ.

 

แม่น...บ๊อ.

 

ปากดีนัก ตูไม่ได้เป็นร่างทรงเสียหน่อย
ว่าแต่เอ็งเถอะ สัญลักษณ์สตาร์เดวิด ที่ใช้นะ รู้ไหมเป็นอะไร
ตูเนี้ยแหละ ตัวพ่อเลยละ จะบอก โดยเฉพาะมะนาวต่างตุ้ด
อย่างตู ไม่กินไข่ ไม่กินลูกเจี๊ยบ หรอก
อย่างตู ต้องระดับสตาร์เดวิด โค ตะ ระ พ่อ เลยจะบอกให้

 

ใครอวตาร มาอีกวะเนี้ย
หวังว่า ไม่ใช่ พลศักดิ์ ใบไม้กำมือเดียวละ พ่อคู๊ณ
อะไร ๆ ก็ใบไม้ในกำลังมือ
ไม่ต้องกำหรอก แบก็ได้
ทุกวันนี้ กำแต่กิเลส ก็เยอะพอแล้ว
ไม่ต้องไปควานหาหรอก อยู่ข้างนี้แหละ ไม่ต้องไปไกล
สำนวนจำมาอีกแล้ว (ชอบจริงๆ copy & paste)

 

ท่าน ธัมมะสามี ว่างๆ ก็ไปถามสมณพราหมณ์ เสาชิงช้าซิ
เผื่อจะได้หาโง่ซักที แต่คงหาเวลายากหรอก เพราะที่นั้นไม่ค่อยจะว่างกัน
ถ้าพูดภาษาเทพไม่ได้ เขาไม่สนทนาด้วยหรอก จะบอกให้

เห็นไปสิงสถิตย์ ตั้งกระทู้ พระโพธิสัตว์ แว๊บไปแว๊บมา
ในกระทู้นี้มีอะไรดีวะ ไม่เข้าใจ มาอีกแล้ว

อ๋อ พระโพธิสัตว์เว็บบอร์ด
เว็บนี้เป็นกันเยอะ สงสัยเป็นโรคติดต่อ
ว่าแล้ว คราวหน้าจะต้องกระทู้ เรียนเชิญ การเป็นพระโพธิสัตว์เว็บบอร์ด
นำเสนอโดยท่านธัมมะสามี ผู้มีเอกคทัคโพธิญาณ

เบื่อจริงๆ

 

ทะลึ่ง เดี๋ยวจะเจอหลายดอก

 

แม้อุตสาห์มาเจิม
ไม่ตอบเสียหน่อย
ถือว่าไม่ให้เกียรติ

ใครที่สัมผัสเทพเทวัญได้ ยกมือ ขึ้น...????
ขอเสียงหน่อย

ว่าแล้วก็ถามสักนิดหนึ่ง
นำรูปเสด็จพ่อ ยามา (ท้าวยมราช) มาเป็นโลโก้ทำไม ไม่กลัวพ่อหรอ
ท่านพ่อยามา กับ ท่านพ่อเวสฯ เป็นอะไรกันหนอ
เล่าความหน่อยซิ
สื่อไม่ค่อยได้เท่าไร......ถือว่าเป็นธรรมทานเน้อ

 

น่าสงสารเดียรถีย์ผู้นี้มาโผล่ยุคครึ่งหลังกึ่งกลางพุทธศาสนา หากเกิดทันพุทธกาลคงไม่เหงาเพราะมีเพื่อนลงเหวกลุ่มใหญ่ทีเดียว

 

ฤาษีไม่กินอะไรมาทั้งชีวิต - YouTube

เชื่อว่าเทพฮินดูมีจริง อีกอย่างเคยฝันเห็นท่านมาให้โชค

แต่ไม่ค่อยเชื่อ ประวัติเทพทางฮินดู ที่มีมากมาย สร้างความ

สับสน พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ตกลงใครสร้างใคร

 

ปากหมา อีหน้าตุ๊ด
ยโธไปเถอะ ลงก่อนกูเสียอีก อีเวร