เคยได้ยินการปรารถนาพุทธภูมิแบบนี้ไหม

คุณ pcoครับ ผมพอจะเข้าใจแล้ว ว่า วิริยาธิกะแบบพิเศษ คือความต้องการให้มีความสมบูรณ์บริบูรณ์เพียบพร้อม ไปด้วยความงามของร่างกายของคนในยุคนั้น พร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าวปลาอาหารน้ำท่าอุดมดี ทุกคนมีความเป็นอยู่สบาย ไม่มีโจรขโมย เพียบพร้อมไปด้วยต้นกัลปพฤกษ์ในที่ทุกสถาน ให้คนทุกคนมีโรคน้อย อาพาธน้อย ให้ทุกคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดหลักแหลม จิตใจสงบสามารถเข้าถึงธรรมาภิสมัยได้โดยง่ายเช่นนี้เป็นต้นใช่หรือเปล่าครับ
ผมเองก็ปรารถนาพระวิริยาธิกะพุทธภูมิเหมือนกัน ย้อนไปเมื่อตอนเด็กประมาณอยู่ ป.๔ผมได้อ่านหนังสือพุทธประวัติฉบับของธนาคารกรุงเทพ มีอยู่สามเล่ม อ่านถึงตอนพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ แล้วมีความรู้สึกว่าอยากมีฤทธิ์อยากเก่งเหมือนพระพุทธเจ้าบ้าง แล้วพอจบป.๖ วันที่๓ เม.ย. ๒๕๓๖ ผมได้บวชเป็นสามเณรบวชเรียนอยู่ปีนึง ตอนเรียนหนังสืออยู่ได้อ่านหนังสือพระวิสุทธิมรรค ของท่านมหาวงศ์ ชาญบาลีรู้สึกว่าการเรียนหนังสือมันเนิ่นช้า เดือนพฤษภาคมปี๓๗ ท่านหลวงปู่ที่บวชให้ผมท่านเลยเอามาฝากไว้ กับท่านหลวงพ่อสายวัดหนองป่าพง ผมก็อยู่กับท่าน ๘ ปีจนเดี๋ยวนี้สึกหาลาเพศมาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไปหาท่านอยู่เสมอ ท่านบอกว่าผมกับท่านเคยเกิดเป็นพ่อลูกกันมานับชาติไม่ถ้วน ตอนบวชอยู่ท่านก็ให้ผมกล่าวคำปรารถนาพุทธภูมิ ที่หน้ากุฏิท่านพร้อมพระอีกสององค์ โดยกล่าวปรารถนาว่าขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในกัปป์เดียวกัน องค์ที่เป็นพี่ใหญ่ขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าต้นกัปป์ องค์กลางขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้ากลางกัป ผมน้องเล็กขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์ท้ายกัปป์และเก็บบรรดาบริวารของพี่ทั้งสองให้ไปพระนิพพานให้หมด ออกพรรษาหลวงพ่อท่านบอกอีกว่า ปรารถนาหน้าพระประธานยังเอาแน่ไม่ได้ ให้ทำบุญกฐินแล้วปรารถนาพุทธภูมิอีกครั้ง พอถวายกฐินเสร็จผมก็อธิษฐานว่า

... ด้วยผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุพระอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสเป็นพระพุทธมหามุนีธัมมะสามีวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต
เพื่อจะปลดเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากสังสารทุกข์
ขึ้นสู่แดนเอกันตบรมสุข คือ พระนิพพาน …
ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังเป็นผู้มีบารมียังอ่อน ยังจักต้องเร่ร่อนไปในชาติภพใดๆ
ขอความอดอยากยากจน ความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจ
คำว่าไม่มี และคำว่าความปรารถนาไม่สมหวัง
ความท้อแท้เหนื่อยหน่ายคลายความเพียรในการสร้างบารมี ๓๐ทัศ
ความท้อแท้เหนื่อยหน่ายคลายความเพียรในการสร้างพระโพธิญาณและการลาพุทธภูมิ
จงอย่าพึงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเลย นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป
จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเถิด สาธุ...​

จนทุกวันนี้ ผมเอากระปุกออมสินมาวางหัวที่นอนสามใบ ตื่นเช้ามาเอาเงินมาจบแล้วว่าคาถาพระปัจเจกโปรดสัตว์ แล้วหยอดกระปุกนึง สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ร่วมทำบุญทุกอย่างกระปุกนึง ร่วมทำบุญทอดกฐินในพระพุทธศาสนาอีกกระปุกนึง แล้วอุทิศส่วนกุศล ตอนเย็นก่อนนอนก็หยอดอีก แล้วอุทิศส่วนกุศล ถ้าเต็มกระปุกก็เอาไปหยอดตู้ที่ซอยสายลม ตั้งแต่ปี ๔๓ ผมจะต่ออายุหนังสือธัมมวิโมกข์ให้หลวงพ่อท่าน ถ้าหลวงพ่อท่านอยากจะได้หนังสือของหลวงพ่อพระราชพรหมยานไปให้พระใหม่ได้ศึกษาหรืออยากได้sheetธัมมะแจกเป็นธรรมทานท่านก็จะให้ผมหาให้ทำให้ เหมือนท่านจะช่วยหาบริวารให้อะไรประมาณนี้
ส่วนตัวผม ผมก็อยากให้พ่อแม่ ลูกเมีย ลูกหลาน บริวารทั้งหลายสบาย ผมคิดแต่ว่าในสมัยที่ได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้มีอะไรทุกอย่างเหมือนในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย ทุกประการ ไม่รู้ว่าการคิดทำแบบนี้เขาเรียกว่า วิริยาธิกะแบบพิเศษ ถ้าอย่างนั้นผมขอโทษด้วยครับ หากว่าคุณPCO มีอะไรจะแนะนำหรือว่าจริยาของผมบางข้อยังบกพร่อง ยังอ่อนด้อยอยู่ ก็ช่วยบอกช่วยสอนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ.

 

เอาข้อมูลมาฝากเพิ่มเติม ข้อมูลนี้เป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าการจะบำเพ็ญให้ได้ความพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ต้องอาศัยเวลาในการบำเพ็ญบารมีที่เพิ่มเติมเข้ามาครับ จึงจะส่งผลให้สำเร็จตามที่ปรารถนา ลองดูตัวอย่างเวลาที่ใช้ในการบำเพ็ญบารมีของสาวกภูมิซึ่งยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ (๑) พระอัครสาวก (๒) พระมหาสาวก (๓) พระปกติสาวก ก็ยังใช้เวลาแตกต่างกันไป

หรือแม้แต่พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ยังแบ่งได้อีกสามประเภทใหญ่ๆก็ใช้เวลาต่างกันไปด้วยเช่นกัน

ความพิเศษในแต่ละด้านไม่ได้มาง่ายๆ ต้องอาศัยเวลาในการบำเพ็ญบารมีเพิ่มขึ้นเพื่อแลกมาเสมอ เพียงแต่จะใช้เวลาบำเพ็ญเพิ่มมากน้อยเท่าไรนั้นก็สุดแต่ว่าปรารถนาพิเศษแค่ไหน อย่างไร

http://palungjit.org/threads/ปราถนาพระอัครสาวก.243459/

 

พระอัครสาวก พระมหาสาวก พระปกติสาวก ท่านว่าส่วนมากบำเพ็ญบารมีติดตามกันมาพร้อมกับพระโพธิสัตว์องค์นั้นๆ ไม่ใช่เหรอครับ

 

ผมเองก็ไม่ทราบครับ เพราะมีหลายกรณีที่เป็นไปได้ เช่น สาวกบางท่านอาจจะปรารถนาติดตามกันมา บางท่านอาจสนใจแค่จะนิพพานสมัยไหนก็ได้ไม่เกี่ยง หรือบางท่านลาพุทธภูมิแล้วมีบริวารตามมามาก บริวารก็อาจมาเป็นสาวกภูมิของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ได้ครับ

 

พระคาถาเงินล้านของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ตั้ง นะโม ๓ จบ
สัมปะจิตฉามิ (คาถาสนองกลับ)
นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา



(บูชา 3,7,9 จบ ตัวพระคาถาต้องว่าทั้งหมด​

โมทนาสาธุอย่างยิ่งกับคุณ aries ที่พยายามหาข้อมูลความเป็นพิเศษในขอบเขตของพระพุทธศาสนามาเผยแผ่ให้กับบุคคลที่สนใจได้รับรู้กัน

 

ด้วยความยินดีครับท่าน PCO_ ผมเอาบทสวดมนต์นมัสการพระพุทธเจ้าทั้ง28พระองค์และในอนาคต 10 พระองค์ ที่คุณ mahamettayai นำมาโพสต์ไว้มาฝากทุกท่านด้วยครับ

http://palungjit.org/threads/บทสวดม...งค์-และ-พระพุทธเจ้าในอนาคต-10-พระองค์.378319/

 

อ้างอิง
ธัมมะสามี
คุณ pcoครับ ผมพอจะเข้าใจแล้ว ว่า วิริยาธิกะแบบพิเศษ คือความต้องการให้มีความสมบูรณ์บริบูรณ์เพียบพร้อม ไปด้วยความงามของร่างกายของคนในยุคนั้น พร้อมด้วยทรัพย์สินเงินทอง ข้าวปลาอาหารน้ำท่าอุดมดี ทุกคนมีความเป็นอยู่สบาย ไม่มีโจรขโมย เพียบพร้อมไปด้วยต้นกัลปพฤกษ์ในที่ทุกสถาน ให้คนทุกคนมีโรคน้อย อาพาธน้อย ให้ทุกคนมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดหลักแหลม จิตใจสงบสามารถเข้าถึงธรรมาภิสมัยได้โดยง่ายเช่นนี้เป็นต้นใช่หรือเปล่าครับ
ผมเองก็ปรารถนาพระวิริยาธิกะพุทธภูมิเหมือนกัน ย้อนไปเมื่อตอนเด็กประมาณอยู่ ป.๔ผมได้อ่านหนังสือพุทธประวัติฉบับของธนาคารกรุงเทพ มีอยู่สามเล่ม อ่านถึงตอนพระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ แล้วมีความรู้สึกว่าอยากมีฤทธิ์อยากเก่งเหมือนพระพุทธเจ้าบ้าง แล้วพอจบป.๖ วันที่๓ เม.ย. ๒๕๓๖ ผมได้บวชเป็นสามเณรบวชเรียนอยู่ปีนึง ตอนเรียนหนังสืออยู่ได้อ่านหนังสือพระวิสุทธิมรรค ของท่านมหาวงศ์ ชาญบาลีรู้สึกว่าการเรียนหนังสือมันเนิ่นช้า เดือนพฤษภาคมปี๓๗ ท่านหลวงปู่ที่บวชให้ผมท่านเลยเอามาฝากไว้ กับท่านหลวงพ่อสายวัดหนองป่าพง ผมก็อยู่กับท่าน ๘ ปีจนเดี๋ยวนี้สึกหาลาเพศมาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไปหาท่านอยู่เสมอ ท่านบอกว่าผมกับท่านเคยเกิดเป็นพ่อลูกกันมานับชาติไม่ถ้วน ตอนบวชอยู่ท่านก็ให้ผมกล่าวคำปรารถนาพุทธภูมิ ที่หน้ากุฏิท่านพร้อมพระอีกสององค์ โดยกล่าวปรารถนาว่าขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าในกัปป์เดียวกัน องค์ที่เป็นพี่ใหญ่ขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าต้นกัปป์ องค์กลางขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้ากลางกัป ผมน้องเล็กขอให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์ท้ายกัปป์และเก็บบรรดาบริวารของพี่ทั้งสองให้ไปพระนิพพานให้หมด ออกพรรษาหลวงพ่อท่านบอกอีกว่า ปรารถนาหน้าพระประธานยังเอาแน่ไม่ได้ ให้ทำบุญกฐินแล้วปรารถนาพุทธภูมิอีกครั้ง พอถวายกฐินเสร็จผมก็อธิษฐานว่า...

ด้วยผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้บรรลุพระอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ
ตรัสเป็นพระพุทธมหามุนีธัมมะสามีวิริยาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต
เพื่อจะปลดเปลื้องสัตว์ทั้งหลายจากสังสารทุกข์
ขึ้นสู่แดนเอกันตบรมสุข คือ พระนิพพาน …
ตราบใดที่ข้าพเจ้ายังเป็นผู้มีบารมียังอ่อน ยังจักต้องเร่ร่อนไปในชาติภพใดๆ
ขอความอดอยากยากจน ความทุกข์ยากลำบากเข็ญใจ
คำว่าไม่มี และคำว่าความปรารถนาไม่สมหวัง
ความท้อแท้เหนื่อยหน่ายคลายความเพียรในการสร้างบารมี ๓๐ทัศ
ความท้อแท้เหนื่อยหน่ายคลายความเพียรในการสร้างพระโพธิญาณและการลาพุทธภูมิ
จงอย่าพึงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเลย นับตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไป
จนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเถิด สาธุ...​

จนทุกวันนี้ ผมเอากระปุกออมสินมาวางหัวที่นอนสามใบ ตื่นเช้ามาเอาเงินมาจบแล้วว่าคาถาพระปัจเจกโปรดสัตว์ แล้วหยอดกระปุกนึง สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ร่วมทำบุญทุกอย่างกระปุกนึง ร่วมทำบุญทอดกฐินในพระพุทธศาสนาอีกกระปุกนึง แล้วอุทิศส่วนกุศล ตอนเย็นก่อนนอนก็หยอดอีก แล้วอุทิศส่วนกุศล ถ้าเต็มกระปุกก็เอาไปหยอดตู้ที่ซอยสายลม ตั้งแต่ปี ๔๓ ผมจะต่ออายุหนังสือธัมมวิโมกข์ให้หลวงพ่อท่าน ถ้าหลวงพ่อท่านอยากจะได้หนังสือของหลวงพ่อพระราชพรหมยานไปให้พระใหม่ได้ศึกษาหรืออยากได้sheetธัมมะแจกเป็นธรรมทานท่านก็จะให้ผมหาให้ทำให้ เหมือนท่านจะช่วยหาบริวารให้อะไรประมาณนี้
ส่วนตัวผม ผมก็อยากให้พ่อแม่ ลูกเมีย ลูกหลาน บริวารทั้งหลายสบาย ผมคิดแต่ว่าในสมัยที่ได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอให้มีอะไรทุกอย่างเหมือนในศาสนาของพระศรีอาริยเมตไตรย ทุกประการ ไม่รู้ว่าการคิดทำแบบนี้เขาเรียกว่า วิริยาธิกะแบบพิเศษ ถ้าอย่างนั้นผมขอโทษด้วยครับ หากว่าคุณPCO มีอะไรจะแนะนำหรือว่าจริยาของผมบางข้อยังบกพร่อง ยังอ่อนด้อยอยู่ ก็ช่วยบอกช่วยสอนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ.

โมทนาสาธุอย่างยิ่งนะครับกับความปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะ รวมทั้งกุศลผลบุญต่างๆที่บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้น จนถึงบัดนี้ และความปรารถนาดีอันประเสริฐที่คุณธัมมะสามี มีต่อญาติมิตรหมู่คณะ

เรื่องการขอโทษนั้นไม่เป็นไรผมไม่ถือโทษ ถือว่าเป็นการเข้าใจพลาดกัน จึงไม่มีอะไรที่เป็นเวรเป็นภัยกัน เรื่องการแนะนำนั้น ผมถือว่าถ้าบุคคลใด พบเห็นคำสอนของพระเดชพระคุณบูรพาจารย์หลวงปู่ปานวัดบางนมโค พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง บูรพาจารย์พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระเดชพระคุณหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย และมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาน้อมนำคำสั่ง และคำสอนไปประพฤติปฏิบัติโดยความเคารพ ก็เป็นอันว่าหมดห่วง เหมือนคนที่เป็นลูกเมื่อพบพ่อแล้วก็เป็นอันว่าไม่ต้องมีใครเป็นพี่เลี้ยง เพราะว่าโดยธรรมชาติแล้วไม่มีใครจะเลี้ยงดูเราได้ดีเกินกว่าพ่อของเรา

 

ขอให้บารมีพระคุ้มครองให้ทุกท่านสำเร็จตามที่ปรารถนานะครับ สาธุ สาธุ

 

อย่างที่บอกไม่เคยได้ยิน

แล้วก็ อยากจะบอกว่า ผู้ศึกษาสายมโนมยิทธิ

ขึ้นไปเฝ้าพระ ... ก็รู้คำตอบแล้วละครับ

 

ท่าน .............อาจจะได้ยินได้ฟังมา .............

แต่อย่าไปสรุป ............


หลาย คน .........


ชอบพูดถึง ความเหนือกว่า...........

การเปรียบเทียบ...........

ว่าพระพุทธเจ้า องค์นี้ บำเพ็ญมานานกว่า ..........



ดีกว่า เหนือกว่า ...........

บารมีมากกว่า.............

บริวารมากว่า............


มิควรเป็นอย่างยิ่ง



ขอทำความเข้าใจคนในเวป...............
ว่า ...............

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ ความสามารถ นั้นมิได้ว่า........

องค์ใดเหนือกว่าองค์ใด........



ส่วนเรืองบริวาร นั้น มากน้อย...........

เป็นเรื่องของ สัตว์โลกในขณะนั้น จะมีบุญพอที่จะได้เกิดในสมัยนั้นหรือไม่....


สำหรับพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์แล้ว
ไม่มีผู้ใดเสมอ นอกจากพระพุทธเจ้าด้วยกันเองเท่านั้น

 

ไปอ่านเว็บหนึ่งมีความรู้พิเศษที่น่าสนใจดี เกี่ยวกับการบำเพ็ญแบบเร่งรัดบารมีให้สำเร็จเร็วขึ้นกว่าปกติครับ ลองศึกษาดูได้จาก
https://sites.google.com/site/sphrathewtheph/Home-13

 

พบข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธเจ้ามี 3 ประเภท 9 ระดับปกติ และ 3 ระดับพิเศษ
จากหนังสือที่ทางวัดพิมพ์
หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม หมู่๙บ้านห้วยทราย
ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยเอามาฝากครับ
พระพุทธเจ้ามี 3 ประเภท 9 ระดับปกติ และ 3 ระดับพิเศษ | Please19's Blog

 

อ้างอิง
ariesไปอ่านเว็บหนึ่งมีความรู้พิเศษที่น่าสนใจดี เกี่ยวกับการบำเพ็ญแบบเร่งรัดบารมีให้สำเร็จเร็วขึ้นกว่าปกติครับ ลองศึกษาดูได้จาก
https://sites.google.com/site/sphrathewtheph/Home-13

โมทนาสาธุกับคุณ aries อีกครั้งที่พยายามหาข้อมูลความเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องราวความปรารถนาพระโพธิญาณมาเพิ่มเติม
ความเป็นพิเศษของท่านอื่นท่านคิดอย่างไร ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไรนั้นผมไม่รู้
แต่นิสัยและสันดานของผมตอนนี้มันเป็นอย่างนี้ ความเป็นพิเศษนี่มันชอบของมันซะอย่างมันก็หมดเรื่องกัน ก็ระวังคนที่เคยหมั่นใส้ผมแล้วก็เยาะเย้ยถากถางต่างๆนาๆ แล้วเวลาที่ผมโชว์ของง่ายๆพื้นๆนี่แหละที่ผมทำให้มันกลายเป็นของดีชนิดพิเศษขึ้นมาก็อย่าว่ากัน แล้วก็อย่ามากระแดะอยากได้ดีพิเศษอย่างผมนะ มันจะอายเขา เดี๋ยวมาต่อ

 

ขอให้สำเร็จนะครับ พี่ PCO ^^

 

อ้างอิง
ธรรมวิวัฒน์ ขอให้สำเร็จนะครับ พี่ PCO ^^
ขอบคุณมากครับ ก็รู้มาว่าคุณธรรมวิวัฒน์นั้นก็ปรารถนาในพระโพธิญาณเป็นอีกท่านหนึ่งที่แอบๆสั่งสมคุณธรรมความดีทุกรูปแบบ กราบอนุโมทนาสาธุยินดีด้วยอย่างยิ่งในทุกความดีนั้น ก็ขอให้จงสำเร็จผลในทุกประการ มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมา จนถึงพระองค์ปัจจุบัน ตลอดจนพระองค์ที่จะอุบัติขึ้นในอนาคตกาลอันเอนกอนันต์นั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงเป็นที่สุดนี้ขอจงเป็นพระประทีปส่องสว่างนำทางตลอดไปจนถึงกาลอวสาน

 

ขออนุโมทนาสาธุการเช่นกันครับ สาธุ สาธุ

 

ขอขอบพระคุณท่านพี่ PCO_ และคุณ aries ที่เสาะหาความรู้และข้อปฏิบัติดีๆในด้านการบำเพ็ญพระโพธิญาณมาให้ศึกษา ผมจะเอาไปปฏิบัติดูครับ ขอกราบอนุโมทนาบุญในธรรมทานครั้งนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

การทำบุญอะไรก็แล้วแต่ถ้าน้อมบุญนั้นถวายเป็นพุทธบูชา จะได้บุญเพิ่มทับทวีขึ้นไปมากมายเลยครับ ผมเคยทราบเรื่องนี้มาจาก อ.suwi จึงทำให้เข้าใจได้ว่าการถวายชีวิตเป็นพุทธบูชานั้น ย่อมได้รับผลบุญกลับมามากมายมหาศาลจนร่นระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีได้มาก

แม้ว่าเราจะยังไม่มีกำลังใจแ่ก่กล้าถึงขั้นนั้น เพียงแค่ตั้งใจอธิษฐานนึกน้อมนำบุญที่เราทำดีแล้วถวายเป็นพุทธบูชาเป็นประจำก็ยังผลให้เกิดบุญมากมายกว่าปกติครับ ถ้าได้มโนมยิทธิ ก็เข้าไปถวายต่อพระพุทธองค์โดยตรงเลยครับ ทุกท่านลองทำดูนะครับจะมีประโยชน์มาก หรือจะน้อมบุญบูชาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ บูชาพระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็ได้ครับ

 

ผมพบข้อมูลที่พอเป็นตัวอย่างของการบำเพ็ญบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์มีตาวิเศษหรือตาทิพย์มาตั้งแต่เป็นพระราชกุมาร เนื่องด้วยอานุภาพแห่งบุญ ที่พระองค์ได้เคยถวายดวงแก้วมณีแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ และตั้งความปรารถนาพระโพธิญาณไว้ในกาลก่อน ส่งผลให้ในทุกภพชาติของพระองค์มีทิพยเนตรดุจเดียวกับเทวดา จนกระทั่งพระองค์ได้ทรงสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อ ๙๑ กัปป์ที่ผ่านมา

โดยมีรายละเอียดดังที่คุณ Numsai ได้โพสเอาไว้ ในความคิดเห็นที่ 19 ลองศึกษาดูนะครับ

http://palungjit.org/threads/แก้วบรมจักรพรรดิ-ตอนที่-๑๗-พระพุทธลักษณะของพระพุทธเจ้า-หน้า-๑๓.256284/

และผมคัดข้อความอ้างอิงบางส่วนมาจากอีกแห่งหนึ่งถึงความพิเศษนี้คือ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทิพยจักษุอันเกิดแต่กรรมวิบาก อันเป็นเหตุให้เห็นได้ไกลโดยรอบโยชน์หนึ่งทั้งกลางวันและกลางคืน ได้ปรากฏแก่พระวิปัสสีราชกุมารผู้ประสูติแล้วแล ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พระวิปัสสีราชกุมารผู้ประสูติมาแล ไม่กะพริบพระเนตรเพ่งแลดู ภิกษุทั้งหลาย พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ไม่กะพริบเนตรเพ่งแลดูแม้ฉันใด พระวิปัสสีราชกุมาร ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ไม่กะพริบพระเนตรเพ่งแลดู ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมญาว่า วิปัสสี ดังนี้แล ได้บังเกิดขึ้นแล้วแก่
พระวิปัสสีราชกุมารผู้ประสูติมาแล ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พระเจ้าพันธุมาประทับนั่งในศาลสำหรับพิพากษาคดี ให้พระวิปัสสีราชกุมารนั่งบนพระเพลาไต่สวนคดีอยู่ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า พระวิปัสสีราชกุมารประทับนั่งบนพระเพลาของพระชนก ณ ศาลสำหรับพิพากษาคดีนั้น ทรงสอดส่องพิจารณาคดีแล้ว ทรงทราบได้ด้วยพระญาณ พระราชกุมารสอดส่องพิจารณาคดีแล้ว ย่อมทรงทราบได้ด้วยพระญาณ ภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น สมญาว่า วิปัสสี ดังนี้แล ได้บังเกิดขึ้นแล้วแก่พระวิปัสสีราชกุมารนั้น

พระวิปัสสีโพธิสัตว์ พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ทริกการเพิ่มบุญแบบต่างๆโดย อ.suwi
ทริกข้อที่ ๑ การบูชาพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า
ทริกข้อที่ ๒ การอนุโมทนาสาธุ ในความดี ความสำเร็จแห่งบุญของผู้อื่น
ทริกข้อที่ ๓ การทับทวีบุญที่ทำแล้วให้มากเป็นทวีคูณ

รายละเอียดให้ตามมาอ่านจากกระทู้ที่ลงให้นะครับ สิ่งนี้จะช่วยให้นักสร้า้งบารมีทั้งหลายสามารถเพิ่มบุญให้มากขึ้นเป็นพิเศษมากมายเลยทีเดียวครับ ลองศึกษากันดูครับ

http://palungjit.org/threads/ปรึกษา...ใช้พลัง-ปราณยาม-ในการรักษาโรค.110817/page-133