จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ในร่างกายของเรามีอาการทั้งหมด ๓๒ อาการที่มีกิเลสแทรกอยู่ทุกๆอาการของความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะนึก-คิด สิ่งใด กิเลสก็จะนําหน้ามาก่อนเสมอ เราต้องเอาธรรมเข้าขวางกันไว้...ถ้ารําพังเราเชื่อกิเลสก็มีแต่ก่อทุกข์ให้เราทั้งนั้น เพราะทุกอย่างในอาการของเราๆท่านๆก็จะถูกมันจับจองไว้เรียบร้อย เหมือนมันได้ชัยชนะมาตั้งแต่เรายังไม่ลงมือปฏิบัติด้วยซํ้าไป ท่านจึงต้องทําความเพียรอย่างหนักด้วยที่เราจะเอาชนะกิเลสไปได้...ก็ต้องรักษาศีลให้บริสุทธิ์ก่อนขั้นแรก และเราก็ต้องลงมือปฏิบัติ และเชื่อว่าทําตามแล้วเราก็จะพ้นจากทุกข์ไปได้... คือเราเชื่อพระพุทธเจ้านั้นเอง ว่าท่านได้เห็นของดี มีประโยชน์ แล้วท่านก็อยากให้เราเห็นตามท่านบ้าง เราก็ต้องเชื่อแบบคนที่ตาดีจูงคนตาบอดนั้นแหละ คนตาบอดก็จะปลอดภัยไปได้...แต่ถ้าเราเชื่อคนตาบอดจูงคนตาฟ้าฟ่างก็หมดหนทางเป็นแน่... เพราะจะจูงกันไปตกเหวตกบ่อตายนั้นแหละ ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้าก็จะไปได้รอดถึงฝังแน่ เพราะเรามีที่เกาะ ที่พัก เวลาเราเมื่อยก็จะได้ธรรมเป็นที่พักพิงใจเราให้หายจากความทุกข์ไปได้นั้นเอง...จนถึงความหลุดพ้นไปจากทุกข์ทั้งปวง...
    ที่มาจากเทปธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้า
     
  2. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    การเจริญวิปัสนาทุกวินาที คุณพ่อคุณแม่ได้มีหุ้นส่วนด้วย

    ...ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ของเราที่ได้ให้ชีวิตเรามา...

    ...เราจะได้มาเดินมาอยู่ปฏิบัติอย่างนี้หรือ...

    ...เราต้องทำอวัยวะที่เป็นมรดกของพ่อแม่ให้มานี้...

    ...ให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง...และพ่อแม่...

    ...การกราบ การเดิน การนั่งสมาธิ บุญของเรา...พ่อแม่ก็ได้กับเราด้วย...

    ...พระธรรมมังคลาจารย์ วิ. (หลวงปู่ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัด เชียงใหม่

    ...กราบหลวงปู่ทองด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะกราบ กราบๆ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2013
  3. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    พรุ่งนี้วันหยุดแรงงาน นำเพลงเพราะ ๆ มาฝาก สว. ทุก ๆ ท่านค่ะ


    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/Buuvbu9SWxU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/cYi7SqRclkY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/gKDBZmcJtjc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/dU-_0Bg5lo0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ตาในหมายถึง?
    จะมีผู้ใด หรือจะมีสักกี่คนที่รู้ความจริงนี้ว่า..แท้ที่จริงแล้ว กิเลสคือตัวเรา ตัวเราก็คือกิเลส
    หรือทั้งกิเลส ตัณหาและอุปาทานนั้น ต่างล้วนมารวมกันแล้ว เรียกว่า"กองทุกข์"หรือ"ความทุกข์"
    "ความทุกข์"หรือ"ขันธ์ ๕" ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรา เป็นของเรานั้น แต่ความเป็นจริงมัน..ไม่ใช่

    แต่ถ้าพวกเราไม่ยอมลงมือปฎิบัติ ไม่ยอมค้นหาความจริงตามอริยสัจย่อมไม่มีทางรู้ความจริงแน่
    ถ้าเอาแต่อ่านธรรมะอย่างเดียวโดยไม่ลงมือปฎิบัติก็รู้แบบเฉยๆ แต่ปฎิบัติตามไม่ได้ ปล่อยวางไม่ได้
    ไม่สามารถออกจากทุกข์ของตนได้ แต่ถ้าอยากปฎิบัติตามหรือปล่อยวางได้ จะต้องลงมือปฎิบัติเอง

    เราจะมองเห็นขันธ์๕ (รูป๑นาม๔)ของตนเองได้ชัดเจนนั้น จึงมิใช่ ว่า..ใครจะทำได้ง่ายๆนัก
    เพราะการมองเห็นขันธ์๕ สังขารหรือร่างกายตนเองได้ชัดเจนนั้น เราจะต้องมีทั้งสติปัญญาครบถ้วน
    หมายความว่า เราจะต้องฝึกสติเพื่อฝึกจิตของตนเสียก่อน ฝึกสติจนจิตเรานิ่งสงบสงัดให้ได้เสียก่อน
    ในขณะที่จิตนิ่งสงบเป็นสมาธิอยู่นั้น จิตเรามีปัญญา เราจึงจะเริ่มมองเห็นขันธ์๕ ของตนชัดเจน

    ในการปฎิบัติธรรม เราต้องทำให้จิตนิ่งให้ได้เสียก่อน เมื่อจิตนิ่งได้เราก็พบจิตตนเองไปในตัว
    เมื่อพบจิตตนเองแล้ว เราก็เริ่มมองเห็นที่มาหรือที่ไปของขันธ์๕ ตนเอง
    กว่าเราจะมองเห็นรูปธรรม(ร่างกาย) หรือนามธรรม(กิเลส ตัณหาหรืออุปาทาน)ตนเองได้ชัดเจน
    โดยเฉพาะนามธรรม ครั้งแรกเราจะต้องเอานามไปดูนามก่อน นั่นก็คือเอาสติไปตามดูจิตเราก่อน
    เพราะสติจะไปตามดูนามธรรมโดยตรงเลย..ไม่ได้ เพราะสติเรายังฉลาดไม่เท่าจิตของเรา
    แต่จะต้องให้จิตเขาดู เขารู้เอง เพราะผู้ที่ทำหน้าที่ปล่อยวาง ก็คือ จิต
    อย่าลืม! การฝึกสติก็คือการฝึกจิตของเราโดยตรงนี่เอง ฝึกสติมากก็เพื่อจิตจะได้มีปัญญารู้มาก
    การมองเห็นนามธรรมมิใช่เรื่องง่าย มองเห็นไม่เท่าไหร่ แต่ยากตรงที่จะทำอย่างไรให้จิตนิ่งสงบได้

    การปฎิบัติธรรม หมายถึงการปฎิบัติทางจิตนั่นเอง พระพุทธเจ้าท่านจึงให้กรรมฐานกับพวกเรา
    ก็เพื่อเป็นอุบายที่จะทำให้จิตของเรานิ่งสงบสงัดให้ได้กันนี่เอง

    (ขอพูดถึงการดูนามต่อ)
    สรุปแล้ว เราต้องฝึกสติกันให้มากๆ เพราะการฝึกสติ คือฝึกตัวรู้ให้มากก็เพื่อให้จิตเรานิ่งสงบสงัด
    เราจะเห็นนามชัดเจน ก็คือต้องเอานามไปดูนาม แต่ต้องเอานามตัวแรก(สติ)ไปดูนามตัวที่สอง(จิต)
    เมื่อพบเจอจิต(ดวงจิตหรือนามตัวที่สอง)แล้ว เราถึงจะมองเห็นกิเลสตัณหาฯของตนชัดเจนเมื่อนั้น

    ด้วยผลเหตุว่า..ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมองไม่เห็นกิเลสตัณหาฯของตน เพราะธรรมอันละเอียดนี้เอง
    เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อหรือตาเปล่า เพราะฉะนั้นจะต้องมองเห็นด้วยตาใน เท่านั้น
    นั่นก็คือ จิตตนเอง ส่วนใครจะให้จิตอรหันต์ส่องดูก็ย่อมได้ แต่ตัวเราจะมองไม่เห็นในสิ่งที่ท่านเห็น

    อย่าไปอ่านมาก แต่ให้ปฎิบัติมากๆ แต่ถ้าเป็นทางโลกเขาเรียกว่าหนอนหนังสือ หนอนตำรา อันนี้ดีมาก
    แต่การปฎิบัติธรรมอย่าเป็นหนอนปริยัติ หนอนพระไตรปิฎก หนอน๘๔๐๐๐พระธรรมขันธ์กันมากเดี๋ยวโง่
    อ่านมากงงมาก คนส่วนใหญ่ที่ออกจากทุกข์หรือปล่อยวางได้ เพราะลงมือปฎิบัติเอง
    พวกเขาพากันรักษาศีล ทำภาวนากัน หรือพากันปฎิบัติธรรม
    ขอให้ดูตัวอย่างกับผู้ที่เข้าถึงจิตในจิต ธรรมในธรรมได้แล้ว มักไม่มีใครอยากจะส่งจิตออกนอกกันหรอก
    เพราะสิ่งภายนอกนั้น ก็คือสิ่งสมมุติ คือมายา คือของปลอม แต่ของจริงๆนั้นมันอยู่ข้างใน(จิต)
    แต่อย่าส่งจิตเข้าในมากเกินไปนะ สำหรับผู้ที่เข้าถึงจิตตนเองได้แล้ว ให้นำจิตไปพักที่..ฌาน

    คนอ่านงงไหม คนพร่ำยังงงเลย พอแร๊ะ! ขอพักไปกินถั่วแร๊ะก่อน..คริคริ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤษภาคม 2013
  5. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    เราปฏิบัติธรรมตั้งอยู่ในศีล ได้ชื่อว่าพระพุทธเจ้า

    ...ตั้งอยู่ในหัวใจของเราตลอดเลา...

    ...เราอยู่ไกล้ชิดพระพุทธเจ้า...

    ...และเราอยู่แทบพระบาทพระพุทธเจ้า...

    ...นี่เรียกว่า "ขณะหนึ่งที่เป็นสาระในชีวิตของเราอย่างน่าภาคภูมิใจ"...

    (หลวงปู่ทองท่านได้สอนไว้...กราบน้อมรับพระธรรมคำสั่งสอนของท่านเจ้าค่ะ...
     
  6. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ถาม - หลวงตาครับ กระผมขออนุญาตถ่ายรูปครับ...

    ...ตอบ - ถ่ายไปทำไมนี่หลวงตาบัวดูเอา นี่แหละรูปจริงตามสมมุติ ถ่ายไปแล้วเป็นกระดาษ

    ...ไปหาอะไรกับกระดาษซึ่งเป็นของปลอม...ศาสนาเป็นของจริงสอนให้คนจริง นี้มาเห็น

    ตัวจริงแล้วยังมาถ่าย...ไปตะครุบเงากันทำไม อย่าถ่ายนะไม่ดีหรอก เราเคยคิดแล้วไม่ได้ผิด

    เราไม่หึงไม่หวงการถ่ายรูป...แต่เราหึงห่วงด้วยเหตุผลคืออรรถธรรมต่างหาก นี่สำคัญ...

    ...ส่วนมากถ่ายไปแล้วล้างฟิล์มที่ร้านเขานั่นซิไม่ได้คิด...พอไปล้างฟิล์มปั๊บ โอ๋ อาหารว่าง

    เกิดขึ้นแล้ว...นั่นเห็นไหม สังเวช เพราะเราไม่เคยมีเรื่องการเงินการทองที่จะไปเก็บไว้เป็น

    ของเราแม้แต่สตางค์หนึ่งเลย...พอได้มาปั๊บ ปุ๊บ ๆ...

    ...ตรงไหนจำเป็นทั้งนั้นกองทุกข์ก็แก้กันซิ...ตรงนี้ไม่มีทุกข์ไม่ต้องแก้ แก้ทำไมตรงไหนมี

    ทุกข์ก็แก้ตรงนั้น..จำเป็น...ความจำเป็นอยู่ตรงไหนความทุกข์อยู่ตรงนั้น จำเป็นมากกองทุก

    มีมากเอา ๆ ช่วย ๆ จึงไม่เคยมีเงินวัดป่าบ้านตาด พูดตรงๆนะ...คนทั้งหลายเข้าใจว่าวัดป่า

    บ้านตาดจะมั่งมี...แต่ตรงกันข้ามจนที่สุด คือวัดป่าบ้านตาด...แต่ก็ไม่จนนะ หากมีมาอย่างนี้

    ละ คนนั้นให้คนนี้เอาออก...ออกอยู่ตลอด เรื่องเก็บไม่มีวัดนี้นะ เราพูดเต็มปากว่าไม่เคย

    เก็บ ไม่เก็บจริง ๆ มีเท่าไรเอาออกสงเคราะโลกหมด...

    ...อีกประการหนึ่งหลวงตาบัวไม่ใช่คนมีอำนาจวาสนาบุญญาภิสมภารพอจะได้ออก

    หน้าออกตาให้ลูกศิษลูกหาทั้งหลายถ่ายไปประกาศโลกว่า...นี่หลวงตาบัวเก่งนะ ไม่เอา..

    หลวงตาบัวไม่มีวาสนาอย่างนั้น...เพราะฉนั้นจึงไม่ค่อยมีใครถ่าย แต่เราก็ไม่ได้หวง หาก

    แต่หวงคืออรรถธรรมมากกว่าทุกอย่างมันเป็นดังที่เห็นนั่นแหละ...ถ้าควรจะให้เราก็ให้เลย

    ...ไม่ยากเลย ถ้าไม่ควรให้แล้ว...จะว่ายากก็ยากที่สุด ดีไม่ดีดุคนแหลกไปเลย ไม่เพียง

    ยากเฉย ๆ ดุคนแหลกไปอีก...(ปัญหาธรรม ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน)...

    ...นักบุญกู้ชาติแห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี...กราบองค์ท่านด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2013
  7. urairatvi

    urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,401
    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
     
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]
    “บุคคลผู้ใดเห็นธรรม จึงมีการเห็นพระพุทธเจ้า ยิ่งหลังจากตถาคตปรินิพพานไปแล้ว ก็ยิ่งทราบชัดว่าร่างกายนั้นมิใช่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็คือจิตที่เข้าถึงพระธรรม ข้อนี้อุปมาฉันใด ร่างกายของท่านสัมพเกษีก็ฉันนั้น จิตของท่านต่างหากที่เป็นพระอรหันต์ เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าจักมาหลงอยู่ในร่างกายเพื่อประโยชน์อันใด เพราะมีร่างกายจึงมีการพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ใช่หรือไม่? แล้วท่านสัมพเกษี ใช่ร่างกายหรือไม่? แล้วร่างกายนั้นใช่ท่านสัมพเกษีหรือไม่ ท่านสัมพเกษีคือ จิตไม่ใช่ร่างกาย ตถาคตก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าคือจิต ไม่ใช่ร่างกาย เจ้าเองก็เช่นกัน ใช่ร่างกายหรือจิต?

    “จิตนั้นย่อมไม่เกิดไม่ตาย ถ้าหากปฏิบัติพระธรรมโดยตั้งใจให้เข้าถึงโลกุตรวิมุติ จิตเจ้านั้นย่อมสัมผัสได้กับจิตของตถาคต หรือจิตของท่านสัมพเกษี และเมื่อร่างกายที่เจ้าอาศัยอยู่ถึง กาลัง กัตวา (ตาย) จิตของเจ้าที่เต็มไปด้วยพระธรรมวินัยนั้น ก็จักมารวมกันที่พระนิพพาน ดินแดนอมตะแห่งนี้ ได้อยู่ร่วมกันกับพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระอรหันต์ทุก ๆ องค์ รวมทั้งท่านสัมพเกษีด้วย ความพลัดพรากจากกันจักไม่มีอีก ความโศกเศร้าเสียใจจักไม่มีอีก”

    “ที่ตถาคตตรัสมาทั้งหมด ขอให้เจ้าใคร่ครวญด้วยปัญญาเถิด มิใช่ตรัสเพื่อให้เชื่อ แต่ตรัสเพื่อเจ้าจักได้เกิดความเห็นชอบด้วยปัญญา การหลงเกาะติดอยู่กับร่างกาย ไม่ว่าของตนเองก็ดี ของบุคคลอื่นก็ดี ของสัตว์ก็ดี ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งความทุกข์ อันมีชาติปิทุกขา มรณัมปิทุกขัง โสกะ ปริเทวะ ทุกขโทมนัส อุปายาส เป็นต้น อารมณ์เหล่านี้จักทำให้จิตของเจ้าเศร้าหมอง ทำปัญญาให้ถอยหลัง และมีอบายภูมิเป็นที่ไป หรือไม่ก็จักต้องกลับมาวนเวียนเกิดเป็นมนุษย์อีก ๓ ชาติ ๗ ชาติ จักมีประโยชน์อันใด แค่ชาตินี้ชาติเดียวยังรู้ทุกข์ไม่พออีกหรือ”

    “เมื่อรู้ว่าทุกข์ ก็จงวางภาระขันธ์ ๕ หรือร่างกายนี้เสีย หันมาตั้งใจปฏิบัติในพระธรรม เพื่อยังจิตให้เข้าถึงพระนิพพานได้ในชาติปัจจุบัน จดจำไว้เสมอ พระพุทธเจ้าก็คือจิต ท่านสัมพเกษีก็คือจิต เจ้าเองก็คือจิต ยังจะติดร่างกายเพื่อประโยชน์อันใด ให้เร่งรีบทำจิตตามพระธรรมคำสั่งสอนบริสุทธิ์ถึงที่สุดเมื่อไหร่ จิตที่วิมุติของเจ้านั้นจักได้พบพระพุทธเจ้าและท่านสัมพเกษีอย่างถาวรเมื่อนั้น คำว่าพลัดพรากจากกัน จักไม่มีอีก ถ้าหากมัวแต่หลงผิดติดร่างกาย ทำอารมณ์จิตให้เศร้าหมอง อีกนานนักหนากว่าจักได้พบกันอีก ขอให้คิดดูให้ดี ๆ”


    ลูกพระพุทธ บุตรพระธรรม
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เป็นไปไม่ได้
    ต่อไปนี้ อย่าไปคิดโทษใคร โทษตนเองให้มาก พยายามแก้ไขที่ตนเอง
    อย่าไปคิดแก้ไขผู้อื่นหรือสิ่งอื่นเลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้
    ก่อนจะไปแก้ไขตนเอง เราต้องเปลี่ยนแปลงภายในคือจิตตนให้ได้เสียก่อน
    แต่ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ เราก็อย่าไปหวังแก้ไขนิสัยหรือสันดานเก่าของตนเลย
    เพราะ..เป็นไปไม่ได้

    ธรรมในจิตตนย่อมสอนตนเอง ธรรมภายในจิตจะออกมาสอนตัวเราเอง
    เพราะไม่มีธรรมที่ใด จะมาสอนสั่งดีเท่าธรรมภายในคือธรรมะที่ผุดออกมาจากจิตของเราเอง
    แต่มิได้..ไปหวังเพื่อสอนสั่งผู้อื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2013
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]

    ก๋วยเตี๋ยว"จิตบุญ"
    (แหม๊! ถ้าป้ายใหญ่ๆชัดๆกว่านี้ จะให้คะแนนเต็มร้อย)
    ซะเอ๊ย! สมาคมจิตเกาะพระตกงานไปขายก๋วยเตี๋ยวแถววัดฮอลแลนด์กันซะแร๊ะ ฮ่าๆ
    ล้อเล่นๆ
    ขอโมทนาบุญกับพวกเธอ ชาวคณะจิตบุญสายฮอลแลนด์ด้วยนะครับ
    น้องคนทางขวา น้องคนทางซ้าย ยิ้มกว้างๆ ยิ้มสวยๆเหมือนสาวคนกลาง อย่าไปอมยิ้มแบบนั้น
    วันหน้า(๙มิยอ)ให้แก้ตัวใหม่นะ

    พวกเราจำหน้าตาพวกเธอไว้ให้ดีๆนะ เพราะเป็นคนใจบุญสุนทาน
    สังเกตดูให้ดีๆ แต่ละคนอิ่มบุญ หรืออวบบุญไม่รุ๊ คริคริ
    งานนี้จิตบุญสายUK ออกอาการแฮ๊ะ ได้ข่าวว่าจะทอดผ้าป่าหลังกลางปีนี้
    คอยติดตามงานบุญของพวกเขาต่อไป

    เอ๊า..ใครจะไปทานก๋วยเตี๋ยวฝีมือสาวๆฮอลแลนด์รีบลงชื่อไวๆเพราะชามหลายหมื่นบาท(+ตั๋วเครื่องบิน)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2013
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]
    มาดูมืออาชีพเขาทำกันดิ่
    น้องปุ๋มอย่าอู้ๆ น้องรินให้ไวๆ ดูท่าคุณพี่จุ๋มเขา เหมือนจะเซิ้งอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ
    ท่าลวกก๋วยเตียวยังสวยขนาดนี้
    เอ๊าสายUK อย่าให้น้อยหน้า ว่าแล้วเอาตำส้มมาโชว์กันดีฟ่า..แซ๊บหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2013
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]
    เพิ่งเห็นคุณหน่อยHoll
    เธอมีบุญมากกว่าใคร สังเกตดูจากมีแสงออกจากใบหน้า

    เอ๊า รีบๆโมทนาบุญกับพวกเขากันอีกรอบนึง
    (นั่นหนุ่มน้อย สมบัติของใครเอ๋ย)
    ท่าทางคุณพี่จุ๋มบุญหนักกว่าใคร เห่อๆ

    ไม่ดังตอนนี้ จะไปดังตอนไหน เห่อ ขอโปรโมทนิดนึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2013
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    "สมเด็จฯปู่ ฝากไว้"
    ลูกหลานธรรมเอ๋ย "สุดปลายทางของจิต ที่ที่หลุดพ้นนั้น ต้องใช้ความเด็ดขาดเป็นที่สุด ตัดแล้วซึ่งกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ตัดแม้ธรรมที่คุณสูงสุด ประเสริฐสุด แต่ที่ทรมานที่สุด คือตัดเวทนาที่เป็นตัวสัญญาแห่งความผูกพันธ์อันลึกซึ้ง ความรัก ความอ่อนหวาน ความอ่อนโยน ความอาทรซึ่งกันและกัน ความเป็นมนุษย์อยากนักที่จะตัดได้ นี่เป็นจุดอ่อนที่สำคัญที่สุด
    ถ้ายิ่งเป็นความผูกพันภายในที่ตราตรึงฝังลึกมานานแสนนานยิ่งทรนามเป็นที่สุด
    ถ้าหวังนิพพานต้องตัดรากตัดโคน แต่จิตเวียนว่ายมานาน เรื่องราวที่บันทึกในจิตจะถูกฝังแน่นลงไป(จิตในจิต)จะต้องดับทุกจิตที่เป็นจิตเรา จึงจะพ้นทุกข์ เข้าสู้นิพพานตามจริง"

    ลูกหลานธรรมทั้งหลายเอ๋ย "ฟังธรรมแล้ว เห็นธรรมแล้ว แจ้งในธรรมไหม รู้ธรรมไหม ต้องจิต หรือข้องจิต อย่าซุกซ่อนไว้นะลูก ให้ขานออกมานะลูก"

    ลูกหลานธรรม "การฟังธรรม ปฏิบัติธรรม นั้นไม่ต้องสนใจว่าใครเป็นผู้ให้ธรรม ขอเพียงแค่รู้ว่าธรรมนั้นเป็นธรรม ก็เพียงพอ"

    ลูกหลานธรรมทั้งหลาย "พึงจดจำไว้ ผู้ใดใฝ่ในธรรม ผู้ใดเดินเข้าหาธรรม ผู้นั้นบังเกิดธรรมแล้ว ผู้ใดก็ตามเห็นกิเลสที่มีในตน ผู้นั้นจะพบสุข ผู้ใดก็ตามสำนึกผิดในการกระทำ มีหิริบังเกิดแล้ว ผู้นั้นได้ชื่อว่า จะเป็นผู้พ้นทุกข์ได้"

    ลูกหลานธรรมทั้งหลาย "ฟังนะลูก การจะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมนั้น จะต้องรักที่จะเป็นคนดี(บริสุทธิ์)มิใช่เพียงต้องการเป็นคนดี หรือต้องการกระทำความดี(เพราะความรัก กับความต้องการต่างกันโดยสิ้นเชิงนะลูก"

    ลูกหลานธรรม "การปฏิบัติธรรมนั้น ต้องมีเหตุปัจจัยอันบริสุทธิ์เสียก่อน จึงจะเกิดผล นั้นก็คือการปฏิบัติต้องไม่ยึดสภาวะใดๆ คือตัด ความอยากรู้ อยากเห็น ไม่ยินดีในนิมิตร หรือปิติใดๆทั้งสิ้น

    ลูกหลานธรรม "การศึกษาธรรมทุกวันนี้ อาจจะดูกว้างขวางมากมาย มีหลายแนวทาง มีหลายคำสั่งสอน ผู้ปฏิบัติทุกคนย่อมรู้ดีว่า ที่สุดก็เพื่อ "ปล่อยวาง" แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากไหนดี จำไว้นะลูก ให้เริ่มต้น จากการมีศีล และครองศีลให้ได้ มิฉะนั้นแล้วก้าวแรกจะไม่บังเกิดแน่นอน"

    ลูกพระพุทธ บุตรพระธรรม
     
  14. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    อนุโมทนาสาธุ กับ พี่ภูด้วยค่ะที่นำธรรมของสมเด็จฯ ปู่ มาให้ได้ศึกษา
    เป็นเช่นที่กล่าวจริง ๆ งันต้องรีบไปกำจัดจุดอ่อน ตัด ตัด ตัด ดับ ดับ ดับ
    ต้องกลับไปลับมีดให้คม ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ซะแล้วล่ะค่ะ
    ตอนนี้มีดมันทู่ ไม่คมเลย ตัดไม่ขาด 555;9k
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ถามว่าเหนื่อยไหม..
    กับการให้ธรรมาทาน เป็นคนแนะนำจิตเกาะพระหรือพร่ำธรรมะไปวันๆ
    ตอบว่า..ไม่เหนื่อย

    แต่พวกที่กำลังวิ่งตามกิเลสตนหรือโลก..ไม่เห็นเหนื่อยเลย
    ถามว่า..เหนื่อยไหม๊กับการวิ่งตามกิเลสตนเอง ตอบว่า..เหนื่อย
    ถามอีกว่า..แล้วจะไปวิ่งตามมันทำไม ตอบว่า..หาทางออกไม่เจอ
    นั่นก็แสดงว่า ยังออกจากทุกข์ของตนไม่ได้

    การให้ของฉัน มิใช่เพื่อหวังสิ่งตอบแทน มิใช่เพื่อการค้าหรือพาณิชย์
    ความสุขของฉัน ไม่ต้องการคำชมหรือการตอบแทน
    แต่ความสุขของฉันก็คือการให้ ให้ลูกเดียว ให้ทุกคน มิได้แยกคนหรือแยกสี

    สำหรับคนที่กำลังทำความดี จงเชื่อมั่นในความดีของตน อย่าท้อแท้ คอยให้กำลังใจตนเสมอๆ
    คอตกได้ แต่อย่าให้จิตตก เพราะถ้าจิตตก ก็แปลว่าดวงไม่ดี ทำมาหากินไม่ขึ้น
    โดยเฉพาะผู้ปฎิบัติธรรมก็ยิ่งแล้วใหญ่ คือปฎิบัติไม่ได้ผล ไม่เจริญก้าวหน้า
    นึกอะไรไม่ออกก็ให้เริ่มต้นใหม่หรือนับหนึ่งใหม่ นั่นก็คือ เริ่มต้นที่สติเราเอง

    กำลังใจคนเรานั้นสำัคัญมาก จะอยู่บนโลกนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับกำลังใจอย่างเดียวเลย
    คนที่อยู่กับพระ(พระพุทธเจ้าหรือพระอริยสงฆ์)หรืออยู่กับธรรม แปลว่าเราอยู่กับความจริง
    แต่ถ้าคนที่อยู่กับสิ่งสมมุติกันมากหล่ะ ก็แปลว่าอยู่กับของปลอมไปวันๆนึง หาสาระมิได้
    ทำงานยันเกษียณ ประกอบธุรกิจจนร่ำรวย สุดท้ายลมหายใจหมดก็จบตรงแค่ชาตินี้
    อั่ยที่เราหามาทั้งชาติมันใช้ไม่ได้หลังโลกความตายหรือโลกวิญญาณเลยหรือ
    (แล้วจะไปหาทำไมมากมายฟ่ะเนี๊ย)

    เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าทำงานทางโลกจนเพลิน ควรทำงานทางธรรมคู่ขนาดกันไปด้วย

    ถามเองและก็ตอบเอง..พวกคุณว่า ฉันนี่บ้าหรอเปล่า คริคริ
    (ลมมันเย็น)
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    มีคนแถวนี้ ถึงกับร้องจ๊ากกกทีเดียว
    โดนใช่ไหมหล่ะ! ไหนๆโดนตรงไหน บอกที
    คมมีดหรือจะมาสู้คมของปัญญา ไม่มีทาง
    นักภาวนาปฎิบัติกันครบหรือเปล่า...ศีล สมาธิ ปัญญา
    เกรงว่าจะได้แค่ศีลหรือสมาธินิดหน่อย แต่ไปไม่ถึงปัญญา
    เพราะเผลอสติหรือสมาธิจิตไม่ต่อเนื่อง แล้วปัญญามันจะเกิดกันไหม
    เอ๊างั้นก็วิ่งทำบุญภายนอกกันให้พอ บอกว่าให้มาทำจิตเกาะพระกันก็ไม่เอา ทำไม่ได้บ้าง
    แต่ต้องเข้าใจคำว่าบันไดบุญหรือวิธีสร้างบุญตนเองเสียก่อน
    ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะมาปฎิบัติธรรม แต่ถ้ากำลังใจไม่ถึงพร้อมก็ไม่อยากปฎิบัติธรรม
    จิตเกาะพระนี่เขาบวชแต่จิต กายไม่ต้องเพราะเน้นจิต ไม่เน้นกาย
    บวชจิตได้ทุกวันทุกชั่วโมงทุกนาทีหรือในขณะที่เราแค่นึกถึงพระ
    เพียงแค่เนี๊ยคุณก็ได้ทำบุญภายในแล้วโดยไม่ต้องเสียเวลาหรือเสียตังค์สักบาท
    เพราะในขณะที่เรานึกถึงพระกันอยู่นั้น จงอย่าเข้าใจว่าภาพพระต้องสวยใสแต่ประการใด
    นั่นแหล่ะกำลังให้ผู้ปฎิบัติสร้างสติตนเอง นึกถึงพระไปมาเพลินไม่เน้นนาน แต่เน้นบ่อยๆ
    ทำจนจิตเขาจำภาพพระได้แล้ว แสดงว่าจิตเราเริ่มนิ่งเริ่มเป็นสมาธิ เดี๋ยวปัญญาก็จะมาเอง

    นึกแล้วต้องพร่ำยาว(ตำหนิตนเอง) โทษทีคุณติ๊กคนดี คนใจบุญ
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]

    โดยเฉพาะกับลมหายใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2013
  18. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    สอนเรื่อง กรรมบถ ๑๐ ประการ,อานิสงส์กรรมบถ ๑๐,อานิสงส์รวม

    ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก
    ๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ
    ๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น
    (ขอแถมนิดหนึ่ง ไม่ดื่มสุราและเมรัยที่ทำให้มึนเมาไร้สติ)
    ๔. ไม่พูดจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง
    ๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้รับฟัง

    ๖. ไม่พูดส่อเสียดยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผู้อื่นแตกร้าวกัน
    ๗. ไม่พูดจาเพ้อเจ้อเหลวไหล
    ๘. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของเขาไม่ยกให้
    ๙. ไม่คิดประทุษร้ายใคร คือไม่จองล้างจองผลาญเพื่อทำร้ายใคร
    ๑๐. เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยดี


    อานิสงส์กรรมบถ ๑๐

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ ท่านเรียกชื่อเป็นกรรมฐานกองหนึ่งเหมือนกัน คือ ท่านเรียกว่า สีลานุสสติกรรมฐาน หมายความว่าเป็นผู้ทรงสมาธิในศีล

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการได้นั้น มีอานิสงส์ดังนี้

    ๑. อานิสงส์ข้อที่หนึ่ง จะเกิดเป็นคนรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยืนยาว ไม่อายุสั้นพลันตาย
    ๒. อานิสงส์ข้อที่สอง เกิดเป็นคนมีทรัพย์มาก ทรัพย์ไม่ถูกทำลายเพราะโจร , ไฟไหม้, น้ำท่วม , ลมพัด จะมีทรัพย์สมบัติสมบูรณ์บริบูรณ์ขั้นมหาเศรษฐี
    ๓. อานิสงส์ข้อที่สาม เมื่อเกิดเป็นคนจะมีคนที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นคนดี , ไม่ดื้อด้าน อยู่ภายในคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความสุขเพราะบริวาร
    และการไม่ดื่มสุราเมรัยเมื่อเกิด เป็นคนจะไม่มีโรคปวดศีรษะที่ร้ายแรง, ไม่เป็นโรคเส้นประสาท, ไม่เป็นคนบ้าคลั่ง จะเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์, มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    เรื่องของวาจา
    ๔. อานิสงส์ข้อที่สี่, ข้อห้า, ข้อหก และข้อเจ็ด เมื่อเกิดเป็นคน จะเป็นคนปากหอม หรือมีเสียงทิพย์ คนที่ได้ยินเสียงท่านพูด เขาจะไม่อิ่มไม่เบื่อในเสียงของท่าน ถ้าเรียกตามสมัยปัจจุบัน จะเรียกว่าคนมีเสียงเป็นเสน่ห์ก็คงไม่ผิด จะมีความเป็นอยู่ที่เป็นสุข และทรัพย์สินมหาศาลเพราะเสียง

    เรื่องของใจ
    ๕. อานิสงส์ข้อที่แปด ,ข้อเก้า และข้อสิบ เป็นเรื่องของใจ คืออารมณ์คิด ถ้าเว้นจาก
    การคิดลักขโมย เป็นต้น ไม่คิดจองล้างจองผลาญใคร, เชื่อพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตามคำสอน
    ของท่านด้วยความเคารพ, ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะเป็นคนมีอารมณ์สงบ, มีความสุขสบายทางใจ
    ความเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใดๆ ทุกประการจะไม่มีเลย มีแต่ความสุขใจอย่างเดียว


    อานิสงส์รวม
    เมื่อกล่าวถึงอานิสงส์รวมแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานในขั้นนี้ ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นาน ตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น ถ้าสามารถทรงกรรมบถ ๑๐ ประการได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่าเมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มีโอกาส นำไปลงโทษในอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น อีกต่อไป

    ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี , รู้จักใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้
    Cr: วัดวีระโชติธรรมาราม ฉะเชิงเทรา
     
  19. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151

    ตั้งแต่ครั้งอาตมาอยู่ปฏิบัติอยู่ในป่า ก็ปฏิบัติอย่างนี้
    สอนศิษย์ทั้งหลาย ก็สอนอย่างนี้
    เพราะต้องการเห็นความจริง
    ไม่ต้องการเห็นในตำรา ต้องการเห็นในเจ้าของ ว่า
    ตัวเองหลุดพ้นจากสิ่งทิ่คิดนั้นหรือยัง เมื่อหลุดแล้วก็รู้จัก
    เมื่อยังไม่หลุดก็พิจารณาเหตุผลจนรู้เรื่องของมัน
    ถ้ารู้เรื่องของมันก็หลุดเอง
    ถ้ามีอะไรมาอีก ติดอะไรอีก ก็พิจารณาสิ่งนั้นอีก
    ไม่หลุดไม่ไป ย้ำมันอยู่ตรงนี้ มันจะไปไหนเสีย
    อาตมาชอบให้เป็นอย่างนั้นในตัวเอง เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่า
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
    วิญญูชนทั้งหลายรู้เฉพาะตน ก็ต้องหาเอาจากเจ้าของ
    ให้รู้จัก จากตัวเอง นี่แหละ

    พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)

    วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
    จากหนังสือ ๔๘ พระธรรมเทศนา น.๓๙๖
     
  20. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    มีคนแถวนี้ ถึงกับร้องจ๊ากกกทีเดียว
    โดนใช่ไหมหล่ะ! ไหนๆโดนตรงไหน บอกที


    โดนตรงหัวใจค่ะ พี่ภู:'(
    3 เดือนแล้ว กับตัวสัญญาเก่า ๆ แห่งความผูกพันธ์อันลึกซึ้ง ที่หยั่งลึกถูกฝังแนบแน่นจิตในจิต แต่ชาติปางก่อน หลายภพหลายชาติ
    พอถึงกำหนดเวลามันก็มาส่งผลซะงัน พอจิตรู้ว่าชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้ายแล้ว ยิ่งออกตัวแร๊งส์สสสสcatt19
    รบกวนพี่ภู และพี่ ๆ เพื่อน ๆ สมาชิกที่มีประสบการณ์ร่วมเสนอ วิธีตัดราก ถอนโคนหน่อยนะค่ะ

    ทุกข์อื่น ๆ ตัดได้ เหลือแต่ตัวสัญญาเก่า ๆ นี่และค่ะ ตัดยากจริง ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...