หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

สีผึึ้งของหลวงปู่ที่คณะศิษย์จัดถวายร่วมบุญกับหลวงปู่เปรี่ยม อยู่ในชุดไหนของหลวงปู่พิศดูที่อธิฐานเสกครับผม

 

อยู่ในชุดสีผึ้งชุดแรก เนื้อสีชมพูครับ..

 

ถึง คุณทุเรียนทอดครับ ในส่วนของผมได้รับเรียบร้อยแล้วครับ

ขอบคุณครับ

 

ประวัติการสร้างงาแกะหลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี
ข้อมูลนี้กระผมได้ไปขออนุญาตผู้สร้างงาแกะหลวงปู่พิศดู และสัมภาษณ์ มาอย่างดีเพื่อเป็นอีกข้อมูลที่จัดเจนเกี่ยวกับงาแกะหลวงปู่พิศดูครับ
ด้วยน้านันลูกศิษย์คนใกล้ชิดหลวงปู่ (คนที่หลวงปู่เรียกว่า ไอ้คนสำคัญ) เมื่อตอนที่หลวงปู่แข็งแรงเป็นคนสร้าง การสร้างงาแกะหลวงปู่นั้น มีคนที่ศรัทราองค์หลวงปู่ซอยตะเคียนทองมีโคนงาร้อยปีประมาณ 1 คืบ อยากเอางานี้แกะเป็นรูปเหมือนหลวงปู่มาไว้บูชา จึงได้นำงานี้มาให้น้านันคนใกล้ชิดหลวงปู่สมัยนั้น แล้วบอกถึงความประสงค์ในการสร้าง จากนั้นน้านันได้นำงานี้ไปขออนุญาตหลวงปู่ และได้นำงาแท่งนี้ไปให้หลวงปู่ดูก่อนแล้วน้านันก็ได้ขอหลวงปู่ว่า “ หลวงปู่ผมขออนุญาตนำงาชิ้นนี้ไปแกะเป็นรูปเหมือนหลวงปู่นะครับ ” หลวงปู่ได้พูดขึ้นว่า “ เออดี เราจะได้มีรูปงาแกะเป็นของเราเอง ”
จากนั้นน้านันก็ได้หาช่างแกะงาที่มีฝีมือเพื่อแกะงาแท่งนี้เป็นรูปเหมือนหลวงปู่ ซึ่งก็ได้ใช้รูปที่หลวงปู่ให้มาหลายๆรูปเอาไปให้ช่างแกะงาดู เพื่อจะได้แกะงารูปเหมือนหลวงปู่ได้เหมือนที่สุด เพราะการแกะงานั้นแกะยากนักเพราะเนื้องานั้นจะมีเสี้ยน และแข็ง งาที่ตัดแล้วส่วนที่หนาๆนั้น จะนำไปแกะเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ ส่วนงาตัดแล้วที่บางๆ จะนำไปแกะเป็นพระสมเด็จและรูปนางกวัก
เมื่อแกะเสร็จแล้วน้านันได้นำงานี้ไปให้หลวงปู่ดู หลวงปู่บอกว่า “ โอ้สวย แกะได้เหมือนเราเลย แกะได้สวย และเหมือนเรา”


และจากนั้นน้านันก็ได้เอาถุงงาแกะนี้นำไปไว้ใต้ที่นอนหลวงปู่ช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนเข้าพรรษาปี พ.ศ. 2547 พอครบ 1 เดือนเต็มน้านันก็ได้ขึ้นไปยังกุฏิหลวงปู่เพื่อที่จะไปเอางาแกะที่หลวงปู่นอนทับไว้ พอน้านันของาคืนหลวงปู่ก็ได้พูดขึ้นว่า “ จะเอาไปแล้วเหรอ เออ งั้นเดียวก่อน ไอ้คนสำคัญนี่ต้องเอาให้ดี ” และหลวงปู่ก็ได้เมตตาอธิฐานจิตเป็นกิจจะลักษณะโดยเอาถุงงาแกะทั้งถุงใส่อุ้งมือพร้อมพนมมือแล้วหลวงปู่ก็บริกรรมคาถา นานเป็นชั่วโมง ๆ ขณะนั้นคนบนกุฏิหลวงมีประมาณ 10 คน ต่างคนก็พนมมือฟังหลวงปู่สวดด้วยความปีติและหลวงปู่ก็ไม่ได้สนใจใครเลยท่านก็สวดของท่านไป เมื่อเสร็จแล้วหลวงปู่ก็ได้ยื่นงาแกะให้กับน้านัน และหลวงปู่ก็บอกว่า “เอ้า ดีแล้ว เอาไป” หลังจากนั้นน้านันได้นำงาแกะส่วนหนึ่งคืนให้หลวงปู่เพื่อแจกลูกศิษย์สมัยนั้น และได้นำไปให้เจ้าของงาจำนวนหนึ่ง งาแกะชุดนี้ส่วนหนึ่งได้นำแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ยุคต้นๆของหลวงปู่และลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ไว้ใช้ งาแกะรูปเหมือนนับเป็นสุดยอดพระเครื่องหลวงปู่อีกรุ่นหนึ่งที่น่าเก็บสะสม
จำนวนการสร้าง
งาแกะรูปเหมือนหลวงปู่ จำนวน 43 องค์
งานแกะรูปพระสมเด็จ จำนวน 16 องค์
งาแกะรูปนางกวัก จำนวน 2 องค์
ส่วนงาแกะพิมพ์พระปิดตามี 3 องค์ เป็นงาแท่งเดียวกัน แต่แกะคนละครั้งโดยหลวงปู่ได้อธิฐานจิตให้ หลังจากที่นำงาแกะชุดแรกกลับมาแล้วเป็นเดือนครับ

*หมายเหตุ
พิมพ์พระสมเด็จทุกองค์จะแกะเป็นเลข 139 ด้านบนทุกองค์ เหตุผลนั้นผมได้สอบถามคนสร้างได้ความว่า เจ้าของงาอยากได้พิมพระสมเด็จที่มีเลข 1 สามตัว 1 องค์ เลข 3 สามตัว 1 องค์ และเลข 9 สามตัว 1 องค์ เอาไว้ใช้เอง ช่างแกะงาเข้าใจผิดนึกว่า ให้แกะเลข 139 ทุกองค์ เลยออกมาเป็นแบบนั้นหล่ะครับ ส่วนเลข 50 ด้านล่างเป็นโค๊ด โดยเริ่ม เลข 1 ตั้งแต่แกะรูปเหมือนต่อไปเรื่อยๆจนถึงพระสมเด็จ
ส่วนพิมพ์นางกวัก เป็นเลข 9 ทั้ง 2 องค์ พิมพ์พระปิดตาไม่มีโค๊ด
ส่วนที่เห็นเป็นกำไลงานั้น อันนั้นเป็นโคนงาแท่งที่ใช้แกะพระชุดงาเกะครับ

 

มีรูปด้านข้างมาให้ชมครับ แต่ผมถ่ายภาพไม่ค่อยเก่งครับ อิอิ

 

สวยครับ อยากมีไว้บูชาสักองค์ เคยเห็น องค์จริง แล้ว ครับ สอบถามเจ้าของพระ เฮียแก บอกแกเป็นคนสร้าง คงเป็น น้านัน ตามข้อมูล ที่ คุณ wutthiphat นำมาลงให้ ตรงกับที่ผมได้คุยมา ครับ จากสร้อย และพระ ผมว่าน่าจะเป็นชุดเดียวที่ผมเห็น จากในคอ เช่นกัน อาจเป็นน้านัน ก็ได้ ตอนนั้นในใจ อยากขอบูชาไว้สักองค์ แต่ก็อดใจไว้ ภายหลัง นึกเสียดาย อยากได้องค์รูปหลวงปู่ งาช้าง ไว้บูชาครับ

 

สวัสดีครับคุณ wutthiphat
สาธุ.. ข้อมูลชัดเจนมากครับ ดีใจจริงๆครับที่มีผู้ร่วมนำข้อมูลวัตถุมงคลของหลวงปู่ และเรื่องราวต่างๆมาเผยแพร่ เพราะข้อมูลบางอย่าง ผมทราบน้อยจริงๆ ก็เพียงได้แต่ลงให้ทราบว่ามีการสร้างวัตถุมงคลแบบนี้ด้วย เพื่อรอข้อมูลที่ชัดเจนกว่า แล้วนำมาเพิ่มเติม หรือแก้ไขเข้าไปให้สมบูรณ์ขึ้นครับ..
ผมขอนำข้อมูลพระงาแกะนี้ ไปใส่ไว้ในทำเนียบที่อยู่ในช่วงหน้าแรกๆ เพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษากันนะครับ.. สาธุ ขอบคุณมากครับ

 

รับทราบครับ ขอบคุณที่แจ้งกลับให้ทราบครับ..

 

พูดถึงเรื่องสีผึ้งในสมัยที่หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญยังแข็งแรงท่านก็จะทำพิธีหุงสีผึ้งค่อนข้างจะบ่อยเนื่องจากหลวงปู่มีวิชาเกี่ยวกับการรักษาคนเจ็บป่วยคนโดนของคุณไสย รักษาคนบ้าผีเข้าสิงท่านจะใช้การรดน้ำมนต์รักษาผู้ป่วยเหล่านั้น รวมทั้งการหุงสีผึ้งที่ทำขึ้นมาเพื่อไว้ให้ลูกศิษย์ไว้ติดตัวค้าขายป้องกันภัยอันตรายและกินเพื่อรักษาโรค ครั้งหนึ่งสมัยที่โรคไข้หวัดซาร์ระบาดหลวงปู่ท่านบอกว่าให้ใช้สีผึ้งเท่าหัวไม้ขีดผสมน้ำกินเพื่อรักษาและป้องกันไข้หวัดซาร์ได้ หลวงปู่ท่านบอกว่าทุกครั้งที่ทำพิธีหุงสีผึ้งท่านจะอัญเชิญครูบาอาจารย์มีแม่ธรณี แม่พระพาย แม่พระคงคามาช่วยในพิธีหุงสีผึ้ง และตัวผมก็เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้สีผึ้งของหลวงปู่รักษาโรค ครั้งหนึ่งเป็นฝีที่แขนกินยายังไรก็ไม่ยุบผ่านไป3วันทรมาณมากจึงได้นำปากกาครูของหลวงปู่หงษ์และสีผึ้งของหลวงปู่มาทารอบฝีขอบารมีหลวงปู่และแม่ธรณีช่วยทำให้ฝียุบลงด้วยเถิดพร้อมกับใช้ปากกาครูวนรอบฝีท่องคาถานะเมติไปเรื่อยๆ แล้วก็เข้านอนพอตื่นเช้าขึ้นมาฝีที่บวมยุบลงทันทีไม่เจ็บอีกแล้วไม่ต้องไปผ่าออก จึงมั่นใจในบารมีของครูบาอารย์

 

สีผึ้งในขวดได้มาตอนปี46พิธีหุงที่ปราสาทมรกตหน้าวัดศรีลำยอง และในโหลแก้วได้มาปี48พิธีลงสาริกาและลงกระหม่อม ส่วนรูปนี้หลวงปู่ทองดำท่านเมตตาจารให้ในห้องกุฎิหลังใหม่

 

ผมเสียใจมากครับที่ไม่ได้ไปกราบท่านก่อนท่าจะละสังขาร

ผมกลับมาจากเมืองนอกพอดีช่วงที่ท่านละสังขาร
ผมเคยไปทำบุญถวายอาหารแห้งกับท่าน 3 ครั้ง
2 ครั้งที่วัดเทพธารทอง และอีกครั้งที่สถานีอนามัยหรือปเปล่าผมไม่แน่ใจ
เพราะว่ามีพยาบาลดูแลท่านอยู่ เนื่องจากท่านอาพาธ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้พบท่าน
ซึ่งทุกครั้งไปกับคุณพ่อ หลังจากคุณพ่อเสียผมก้อไม่เคยได้ไปอีกเลย ท่านเคยมอบพระสมเด็จช้างงาองค์เล็กให้น้าชายผม1องค์และให้คุณแม่ผม1องค์ แต่น้าชายไม่นำมาให้ ท้ายที่สุดน้าชายก้อนำมาคืนพร้อมกับให้แม่ผมเพิ่มอีกคงค์
สรุปมีสององค์แต่เสียดายที่หายไป 1 องค์
หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ไม่หวังลาภสักการะใดๆเลย ผมพิมพ์ไปน้ำตาแทบจะไหลไป นึกเสียใจที่ไม่ได้ไปกราบท่าน

 

ตอนนี้ ผม และลูกศิษย์ของหลวงปู่ ญาติธรรม มีโครงการจะสร้างรูปเหมือนหลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ ที่วัดเทพธารทองครับ เนื่องจากว่าผู้ที่มาวัดเทพธารทอง เพื่อมาทำบุญ หรือมากราบพระธาตุขององค์หลวงปู่ก็ตาม เมื่อได้เดินทางเข้ามาในวัดแห่งนี้แล้ว จุดแรกที่พวกเขามักจะเข้าไปกราบกันก็คือ พระมหาเจดีย์องค์ใหญ่สีเขียวๆ ที่อยู่ทางซ้ายมือ ที่นั่นจะประดิษฐาน พระวิมุตตานัง เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก องค์ใหญ่น้ำหนัก 9.9 ตัน รูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รูปเหมือนท่านพ่อลี ธัมมธโร ขนาดเท่าองค์จริง และพระธาตุขององค์หลวงปู่แสดงไว้ให้ผู้ที่เข้ามาได้เห็น ได้ชื่นชมบารมี... แต่ผมคิดว่ายังขาดอยู่สิ่งหนึ่ง ที่สมควรจะมีด้วยเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ รูปเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง ที่จะได้ประดิษฐานอยู่เคียงคู่กันกับ รูปเหมือนของหลวงปู่มั่น และท่านพ่อลี อันเป็นบูรพาจารย์ของท่าน แต่ตอนนี้ในพระมหาเจดีย์ยังไม่มีรูปเหมือนของท่านครับ จึงมีโครงการจะจัดสร้าง โดยปรึกษาหารือกับแล้วว่าอาจจะหล่อขึ้นมาภายในเดือนมิถุนายน หรือกรกฎาคมนี่แหละครับ ทั้งนี้เพื่อนำมาประดิษฐานไว้เป็นอาจาริยานุสรณ์ ให้ผู้ที่มากราบไหว้ ได้เห็นรูปลักษณ์แทนองค์ท่าน เสมือนท่านนั่งอยู่เบื้องหน้าของเรา ให้เราได้บูชา เพื่อเป็นกำลังใจ เจริญไว้ด้วยศรัทธาของผู้ที่มากราบไหว้..

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยอย่างแรงครับ และขอร่วมบุญด้วยครับ....

 

สาธุ.. อนุโมทนาด้วยครับพี่ชาติ

 

อนุโมทนา สาธุ อนุโมทามิ อีกหนึ่งแรงบุญร่วมด้วยขอรับ

 

โมทนาสาธุครับ

หากให้ญาติธรรมร่วมบุญไปเรื่อยๆจะได้ปัจจัยช้า

หากใช้วิธีประมูลวัตถุมงคลหลวงปู่ระดมทุน จะได้ปัจจัยเร็วขึ้นครับ(ทางลัด)

 

กราบหลวงปู่พิศดูและครูบากฤษดาบรมครูที่เคารพ รอร่วมบุญด้วยครับ เดี๋ยวจะช่วยเตรียมทองแดง ทองเหลืองไว้ช่วยด้วยอีกแรงครับ

 

โมทนาด้วยครับ เปิดให้ทำบุญเมื่อใด แจ้งข่าวด้วยนะครับ

 

ขอโมทนาสาธุกับมหากุศลด้วยน้องเอ็กซ์