ตามครรลองธุลีดิน(ความตายบนเส้นทางโจรสลัด..ของอดีตนักเลงบ้านนอก)

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 8 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    สวดมนต์ทำวัตรเย็น

    **********************************
    อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ ขอให้มี"พระ"อยู่ในจิตกันทุกๆท่านค่ะ
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ความว่างที่สร้างความสุข

    ท่าน ว.วชิรเมธี


    นักปราชญ์ชาวเอเชียวัยกลางคนหนึ่งเล่าว่า
    มีชายหนุ่มอยู่คนหนึ่ง แกเป็นคนอัตคัตความสุข
    พยายามแสวงหาความสุขจากวิธีการต่างๆ
    แต่แล้วก็ยังรู้สึกว่า ไม่ใช่ความสุขแท้ที่ตัวเองต้องการ


    อยู่มาวันหนึ่ง มีผู้แนะนำว่า
    ถ้าอยากมีความสุขก็ควรจะมีบ้านเป็นของตัวเอง
    เพราะในบ้านของเรานั้น
    เราสามารถเป็นเจ้าของทุกอย่างในบ้าน
    โดยที่ไม่ต้องมีใครมาคอยกวนใจ
    ซ้ำยังมีอิสระที่จะเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    หรือจัดบ้านให้เป็นไปตามความต้องการของตนเองอย่างไรก็ได้


    เขาเชื่อตามที่มีผู้แนะนำ
    จึงตัดสินใจสร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง
    เมื่อแรกสร้างบ้านนั้น บ้านของเขาหลังใหญ่ทีเดียว
    พอมีบ้านแล้ว เขามีความสุขมาก
    เขาเริ่มจัดบ้านตามต้องการ
    และเริ่มหาข้าวของต่างๆ มากมาย
    มากองไว้ในบ้านทีละอย่างสองอย่าง


    จนกระทั่งวันหนึ่ง ห้องว่างๆ ในบ้านของเขาก็หายไป
    ทุกพื้นที่ในบ้านเต็มไปด้วยข้าวของระเกะระกะ
    มองไปทางไหนก็รกหูรกตา


    ทีนี้ชายหนุ่ม เริ่มรู้สึกว่าบ้านของตนเอง
    ช่างเป็นสถานที่ที่ไม่น่าอยู่ อากาศก็อุดอู้
    เขาเริ่มบ่นกับตัวเองว่า คิดผิดถนัดที่สร้างบ้านขึ้นมา
    เพราะนึกว่าบ้านจะให้ความสุขได้นานๆ
    บางวันเขาก็ครุ่นคำนึงว่า
    น่าจะสร้างบ้านให้หลังใหญ่กว่านี้
    จะได้บรรจุอะไรต่อมิอะไรได้เยอะๆ ตามต้องการ


    ขณะที่เขาเริ่มไม่มีความสุข
    เพราะบ้านกลายเป็นโกดังเก็บของนั้นเอง
    ก็มีนักปราชญ์คนหนึ่งผ่านมาแถวนั้น
    เขาบ่นดังๆ จนปราชญ์คนนั้นได้ยิน
    นักปราชญ์หนุ่มจึงแนะนำว่า
    ถ้าเขาอยากให้บ้านเป็นสถานที่แห่งความสุข
    ก็ไม่เห็นจะยากอะไร
    เพียงแต่ขนข้าวของทั้งหมด
    ออกมาวางข้างนอกบ้านเสียก็หมดเรื่อง


    ชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้น รีบทำตามทันที
    เขาเริ่มขนข้าวของซึ่งโดยมากล้วนเป็นสิ่งซึ่งไม่จำเป็น
    หากแต่เขาเก็บเอาไว้
    เพราะความละโมภมากกว่าออกมาทิ้งนอกบ้าน
    ขนอยู่สองวัน จนบ้านว่าง โล่ง
    และดูกว้างขึ้นมาผิดหูผิดตา
    คราวนี้เขามีความสุขมาก
    รำพึงกับตัวเองว่า
    แหม บ้านของฉันช่างกว้างขวาง และน่าอยู่เสียนี่กระไร
    นักปราชญ์ได้ยินแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม
    ก่อนจะเปรยขึ้นมาว่า
    บ้านของเจ้าน่ะ มันกว้างขวาง ว่าง โล่ง
    และน่าอยู่มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
    เจ้าของต่างหากล่ะที่ทำให้มันไม่น่าอยู่
    ด้วยการบรรจุอะไรๆ ที่เกินจำเป็นใส่เข้าไป
    จนบ้านกลายสภาพเป็นกองขยะดีๆ นี่เอง


    ใช่หรือไม่ว่า คนส่วนใหญ่ที่กำลังกวาดตา
    มองหาความสุขและพยายามที่จะเติมสิ่งนั้นสิ่งนี้เข้าไปในชีวิต
    แต่แล้วก็ยังคงรู้สึก “พร่อง”
    หรือหมักหมมไปด้วยความทุกข์อยู่เหมือนเดิม
    ไม่แตกต่างอะไรกับชายเจ้าของบ้านในนิทานปรัชญาเรื่องนี้


    การจัดการชีวิตให้มีความสุขนั้น
    ทางที่ถูก อาจไม่ใช่การใส่อะไรลงไปในชีวิต
    แต่แท้ที่จริงแล้ว คือการถ่ายเท ปล่อยวาง
    หรือระบายบางสิ่งบางอย่างออกจากชีวิตมากกว่า


    ในพุทธศาสนานั้น เราถือกันว่า
    ความสุขอาจเกิดจากความมี (สามิสสุข) ก็ได้
    แต่ที่เหนือกว่านั้น
    ความสุขอาจเกิดจากความเป็นอิสระ
    จากความมีก็ได้ด้วย (นิรามิสสุข)


    บ้านแห่งชีวิตของเรา เมื่อแรกสร้างก็ดูโปร่ง โล่ง
    เป็นระเบียบเรียบร้อย สบายหูสบายตา
    แต่เมื่ออยู่กันไป อะไรๆ ก็ชักจะเพิ่มขึ้น
    และบางทีเพิ่มมากมาย
    จนกลายเป็นปัญหาอันบั่นทอนต่อความสุขในชีวิตคู่


    จะดีกว่าไหม หากมีเวลาว่าง คนรักกัน
    น่าจะลองหาวิธีทำพื้นที่หัวใจให้ว่าง
    ด้วยการถอดถอนบางอย่างทิ้งออกไป


    ขอเพียงเรียนรู้ที่จะลดบางอย่างลงไป
    ความสุขในหัวใจก็คงจะเพิ่มขึ้น

    ความสุข บางครั้งอาจไม่ได้ผูกพันอยู่กับความมี
    แต่บางที... อาจมาจากความว่าง


    ที่มา...สถาบันวิมุตตยาลัย
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    supatorn, บุญทรงพระเครื่อง+
    *************************************
    นั่นแน่ มีแขกผู้สําคัญมาเยี่ยม ที่บ้าน ยินดีต้อนรับค่ะคุณบุญทรง_Friend_;41catt1
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ขอมอบเพลงนี้สําหรับครอบครัว"toplus99" ค่ะ
    บ้านเรา - สุเทพ วงศ์กำแหง (ต้นฉบับ)
    https://www.youtube.com/watch?v=Z4CLjXMadb4
    hp_day;aa2
     
  5. ภิศรณ์

    ภิศรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +1,495
    สวัสดีปีใหม่ไทย
    ขอมีความชุ่มฉ่ำ สดชื่น เย็นใจ แจ่มใส กันถ้วนหน้าค่ะ

    [​IMG]
     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    สวัสดีปีใหม่ไทย

    **********************************
    กําลังจะบ่นเชียวว่าน้องภิศรณ์หายไปหนายย ขี่จักรยานไปเที่ยวหลงทางกลับบ้านไม่ถูกเสียแล้วหรือไปเจอพี่ๆน้องๆสุนทรภู่ติดลมบน คิดถึงนะคะ (f)chearr:z10
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    รู้นะ

    ************************************
    hello10พวกเราก็รู้นะและดูท่าน จขกท ที่ดูเราอยู่ บางทีผ่านมาแล้วก็รีบออกไปเลยยย ตอนนี้น้องแตนก็โดนหนัก มีเรื่องต้องออกตจว อยู่บ่อยๆ ป่านนี้คงจะไม่"พุงกลม"แล้ว และแวะผ่านมาขอบคุณน้องลมค่ะที่ตามดูพี่ต้อยอยู่ ธรรมะจัดสรรให้เรามาพบกันณที่นี้ ขอให้ีความสุขทั้งกายใจทุกๆท่านค่ะ
    ;aa57_heart+love_
     
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    บังเอิญกำลังหาซื้อไม้กัวซาอยู่พอดี (ที่โคราชหาซื้อยากมากเลย)
    ไปเจอบทความมาจากface book : https://www.facebook.com/#!/GuasaHealthplus?fref=ts
    กัวซาหวีเขาควาย
    (ขอบอกก่อนว่า จขกท. ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับเจ้าของร้านแต่ประการใดนะครับ ใครอยากได้ไว้ใช้ก็คุยกันเองเด้อจ้า)

    เลยเอามาแบ่งๆกันอ่าน

    มีคนเขาบอกว่า “หมอที่เก่งที่สุดก็คือตัวเรา
    และเครื่องมือที่แท้จริงในการบำบัดรักษาโรคคือ ร่างกายของเราเอง”
    การกัวซา คือ...คำตอบ

    ภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวจีน ชาวเขา กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษจวบจนปัจจุบัน มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการเอาพิษออกจากร่างกายทางผิวหนัง
    ปัจจุบันนี้ สังคมเจริญก้าวหน้า เศรษฐกิจรุ่งเรือง แต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลง ยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที...่รีบเร่ง ทำให้ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง
    เป็นผลให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้ราบรื่น ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด และโรคร้ายแรงจากความเจริญก้าวหน้า ยิ่งกว่านั้นโรคที่เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปรกติ
    ล้วนเป็นโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น “การถอนพิษแบบกัวซา” จึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และยังสามารถพึ่งตนเองได้อีกด้วย

    การถอนพิษแบบกัวซาคือ การขูดผิวหนังเพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต ส่งเสริมการไหลเวียนของพลังปราณในร่างกาย และเป็นการถอนพิษที่ไม่ถูกจำกัดทั้งเวลา
    และสถานที่ สามารถทำได้ทุกเวลาที่ต้องการ เพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที ขูดจากศีรษะจนถึงเท้า ก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น กระตุ้นระบบเมตาโบลึซึ่ม
    ของร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ สุขภาพที่แข็งแรง

    กัวซา เพื่อการบำบัดแบบศาสตร์จีนโบราณ

    กัวซ่าการนวดบำบัดแบบศาสตร์จีน
    การนวดบำบัดด้วยกัวซ่า คือการบำบัดแบบแผนโบราณของจีน กัวซ่าเป็นที่รู้จักแพร่หลายมานานนับพันปี การนวดบำบัดแบบกัวซ่า
    สามารถทำได้ทุกที ทุกเวลา ตามที่ต้องการและเกิดผลจริง เพียงใช้แผ่นกัวซ่า ขุดจากศีรษะจนถึงเท้า จะช่วยกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น
    เป็นการกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกาย มีผลต่อร่างกายคือ ทำให้สุขภาพแข็งแรง แก้ปัญหาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว ปวดศีรษะได้ดี

    ความนิยมของกัวซา
    ปัจจุบันนี้สังคมเจริญก้าวหน้าเศรษฐกิจรุ่งเรืองแต่สุขภาพของผู้คนกลับถดถอยลงยิ่งเมื่อประสบภาวะความกดดันและการทำงานที่รีบเร่ง
    ทำให้ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลงเป็นผลทำให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถทำงานหมุนเวียนได้ราบรื่น ทำให้เกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด
    และโรคร้ายแรง

    จากความเจริญก้าวหน้า ยิ่งกว่านั้นโรคที่เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปกติล้วนเป็นโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
    ดังนั้นการออกกำลังกายแบบกัวซาจึงได้รับความนิยมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและยังได้ใส่หลักการแพทย์ที่มีเหตุผลลึกซึ้งรวมเข้าไปด้วยมีการ
    ปรับปรุงอุปกรณ์กัวซาให้ดีขึ้นนำวิธีรักษากัวซาแบบโบราณที่เรียบง่ายผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้คนยุคปัจจุบันที่มัวแต่ยุ่งอยู่
    กับงานสามารถสัมผัส “การออกกำลังกายแบบกัวซา” ได้อย่างง่ายดาย

    การออกกำลังกายแบบกัวซา ที่พอเหมาะส่งผลให้ร่างกายและจิตใจ แข็งแรง กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกายและช่วยชะลอความแก่ เป็นต้น
    คนยุคปัจจุบันทั่วไปที่ยุ่งวุ่นวายทั้งวันมักถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่จนไม่สามารถจัดเวลาไปออกกำลังกายได้ การออกกำลังกายแบบกัวซา
    สามารถกระทำได้ทุกเวลาที่ต้องการเพียงแต่เจียดเวลาวันละไม่กี่นาที ขูดจากศรีษะจนถึงเท้าก็สามารถกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนไดดีขึ้น
    กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกายผลลัพธ์ที่ได้คือสุขภาพที่แข็งแรง

    ประโยชน์ของกัวซ่า
    การนวดบำบัดแบบ กัวซ่ามีประโยชน์ คือ
    1. แก้ปัญหาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว
    2. ช่วยในการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย
    3. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
    4. ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น สุขภาพดีขึ้น
    5. เสริมความงาม ชลอความแก่
    6. ช่วยบำบัดอาการของโรคต่าง ๆ
    7. ทำให้ค้นพบสาเหตุของโรคต่าง ๆ
    8. สามารถบอกตำแหน่งของโรคที่เกิดขึ้น
    9. ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต่างๆ
    10. ทำให้สุขภาพดีขึ้น

    จุดเด่นของ กัวซ่า
    1. วิธีนวดบำบัดง่าย เรียนรู้ได้ง่าย
    2. สามารถทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
    3. ไม่มีผลข้างเคียงจากการบำบัด
    4. สามารถบำบัดได้แม้สวมเสื้อผ้าอยู่

    อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการกัวซา
    1. ไม้กัวซา ช้อน ชามขอบเรียบ เหรียญ ช่วยขูดถอนพิษร้อน ช่วยเอาพิษออกได้เร็ว
    2. ขี้ผึ้ง หรือน้ำมันสมุนไพร ถ้าป่วยจากภาวะร้อนเกิน ให้ได้สมุนไพรฤทธิ์เย็น เช่น ขี้ผึ้งย่านาง น้ำมันเขียว ขึ้ผึ้งเสลดพังพอน น้ำมันพืช หรือน้ำ ฯลฯ
    ถ้าป่วยจากภาวะเย็นเกิน ให้ได้สมุนไพรฤทธิ์ร้อน เช่น ขี้ผึ้งไพร น้ำมันงา ฯลฯ
    (ถ้าอากาศหนาว ๆ หรือช่วงอากาศเย็นในเวลากลางคืน ก็อย่าใช้ขี้ผึ้งสมุนไพรฤทธิ์เย็น เพราะจะทำให้หนาวเข้ากระดูกได้)

    เทคนิคการกัวซา
    1. จัดไม้กัวซา ทำมุม 45 องศา
    2. ที่ตำแหน่งของกระดูกข้อต่อ สามารถขูดผ่านได้ โดยขูดไม่ลงน้ำหนักแรง
    3. พยายามขูดให้ได้พื้นที่ยาว (ส่วนหน้าอก ส่วนท้อง ส่วนใบหน้า ส่วนไหล่ จากนอกเข้าใน ส่วนอื่นๆ จากบนลงล่าง)
    4. ระดับของพิษสะสม จากกการศึกษา พบว่าระดับของลมพิษจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
    4.1 พิษสะสมอยู่ในระดับเซลล์เนื้อเยื่อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ขูดผ่านผิวหนังได้เลย บริเวณผิวหนังเรียบ
    เช่น ขูดบริเวณแผ่นหลัง ที่เป็นผิวเรียบ ขูดบริเวณใบหน้า แขน ขา ฯลฯ
    4.2 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงล่องกล้ามเนื้อ วิธีการขูดเอาพิษออก ให้ใช้วิธีแซะ เขี่ย ตามล่องกล้ามเนื้อ ตามล่องกระดูก ล่องซีกโครง
    เช่น ปวดตึงตรงบริเวณสะบักทั้ง 2 ข้าง (ที่อยู่แผ่นหลัง ให้อยู่ในท่าเอามือไขว้หลัง ใต้สะบักจะเห็นเป็นล่อง จะช่วยขูดแซะง่ายขึ้น)
    4.3 พิษสะสมอยู่ลึกไปถึงไขกระดูก เมื่อกระดูกเคลื่อนที่ผิดรูป พิษก็จะเข้าไปฝังอยู่ในไขกระดูก
    เช่น ปวดที่กระดูกก้นกบมาก เราจะต้องกัวซาตรงรูกระดูกก้นกบ เพื่อขับลมพิษออก
    (สาเหตุมาจาก นั่งผิดท่าเป็นเวลานาน และไม่ออกกำลังกาย ยึดกล้ามเนื้อ เ้ส้นเอ็น ทำให้ของเสียไปค้างอยู่เวลานี้มาก และทานอาหารไม่สมดุล)

    วิธีการกัวซา
    1.ไม่ว่าเป็นโรคอะไรก็ตามควรเริ่มขูดที่ชีพจรหลักก่อนจากนั้นจึงขูดจุดที่ป่วย (ชีพจรหลักอยู่ที่แนวกระดูกสันหลังทั้งแกน)
    ควรเริ่มจากด้านซ้ายก่อนเสมอ ขูดจากแผ่นหลังตั้งแต่ต้นคอลงยาวมาจน ถึงเอวให้ลงน้ำหนักเท่าที่จะไม่เจ็บมาก
    ลงน้ำหนักสม่ำเสมอพอสมควรแล้วจึงย้ายมาขูดด้านขวาต่อ
    2. การใช้แรงขูดต้องสม่ำเสมอ บนแนวชีพจรที่ขูดควรขูดจนเห็นรอยจุด(ซา)ปรากฏขึ้นมา จากนั้นจึงขูดตำแหน่งอื่นต่อไป
    (การขูดที่พอดีคือ ขูดให้ผิวมีสีแดงจนกว่าจะไม่แดงไปกว่านั้น)
    3. ปกติหลังจากขูดแล้ว 2-3 วัน ตำแหน่งโรคที่ขูดจะมีอาการเจ็บปวดปรากชกขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติหลังขูดจนซาออกหมดแล้ว ต้องรออีก 5-7 วัน
    จึงจะสามารถขูดซ้ำได้อีก การขูดเพื่อสุขภาพสามารถขูดผ่านเสื้อผ้าได้ทุกวัน
    4. ถ้าตำแหน่งที่ขูดไม่ถูกต้องแม่นยำ หรือ เทคนิคการใช้มือขูดไม่ถูกต้อง ก็ไม่ก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนแต่อย่างใด สามารถขูดได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ
    5. หลังขูดแล้วให้ดื่มน้ำ แก้วใหญ่เพื่อช่วยระบบเมตาบอลิซึ่มของร่างกาย
    6. สถานที่ขูดกัวซาจะต้องไม่เป็นที่มีลมแรง เช่นหน้าพัดลม หรือในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำเนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลของหยินและหยาง
    7. สามารถทำการกัวซาหลังอาบน้ำไม่น้อยกว่า ๑/๒-๑ ชั่วโมง (เพื่อให้รูขุมขนกลับสู่สภาพปกติ)
    8. หลังทำกัวซาควรเกิน 5-8 ชั่วโมงขึ้นไป จึงสามารถอาบน้ำได้ หรือเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหลังกัวซา 30 นาที

    อาการพิษสะสม (ดูที่สีผิว)

    1. สีชมพูหรือสีแดงเรื่อ ๆ แสดงว่า ดี
    2. เป็นปื้น แสดงว่า พิษเริ่มสะสม
    3. เป็นจ้ำเหมือนไข้เลือดออก แสดงว่า พิษสะสมนานแล้ว ในทางแพทย์ทางเลือก เรียกว่า ลมแตก
    4. ถ้าเป็นลักษณะช้ำ แสดงว่า มีพิษสะสมมาก
    ยิ่งถ้าช้ำจนถึงขั้นสีม่วงหรือสีดำ ในทางแพทย์ทางเลือกถือว่า มีพิษมากถึงขั้นมะเร็ง

    ซึ่งการตรวจในทางการแพทย์แผนปัจจุบันอาจพบว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ก็ได้ ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เรียบเรียงพบว่า
    ผู้ป่วยที่แพทย์แผนปัจจุบันวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง มากกว่า ร้อยละ 80 มักขูดซาพบสีม่วงหรือสีดำ
    การกัวซาจึงเป็นทั้งการวินิจฉัยโรคและการรักษาโรค ไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 7 วัีน รอยแดงนั้นมักจะยุบหายไป

    มักจะมีคำถามว่าเมื่อกัวซาแล้วจะกัวซาอีกครั้งเมื่อไหร่ คำตอบก็คือ เมื่อรู้สึกไม่สบายอีกครั้ง ถ้าเป็นผู้ป่วยหนักอาจจะ
    กัวซาทุกวันหรือกัวซาวันละหลายครั้งก็ได้ ถ้าการกัวซานั้นทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตัวขึ้น

    หมายเหตุ ไม่ควรขูดในจุดที่เป็นแผลฝีหนองหรือจุดที่เมื่อถูกขูดแล้วรู้สึกไม่สบายเจ็บปวดแสบร้อน
    ทรมานมากเกินไป แต่สามารถขูดตรงข้ามกับจุดที่ไม่สบายนั้น ๆ ก็สามารถรักษาจุดที่ไม่สบายนั้นได้



    การนวดหน้าด้วยกัวซ่าเพื่อใบหน้าที่สวยใส อ่อนวัย
    การนวดใบหน้าด้วยกัวซ่า ช่วยให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นส่งผลให้เซลล์ผิวเกิดความยืดหยุ่นและผิวเรียบเนียน
    เป็นการกระตุ้นที่เซลล์ผิวหน้าโดยเพิ่มการหมุนเวียนของออกซิเจน และ เพิ่มการดูดซึมสารอาหารต่างๆ สามารถยกกระชับใบหน้า
    ส่วนที่หย่อนคล้อยและมีริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ใบหน้าของคุณสวยใส ดูอ่อนกว่าวัยช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอย
    การนวดใบหน้าด้วยกัวซ่าสามารถทำใด้ทุกที่ ทุกเวลา ตามที่ต้องการและสามารถเห็นผลได้จริงในทันที

    จุดเด่นของการนวดหน้าด้วยกัวซ่า
    1. วิธีนวดหน้าทำได้ง่าย เรียนรู้เองได้ทันที
    2. สามารถทำได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
    3. ไม่มีผลข้างเคียงจากการนวดใบหน้า
    4. สามารถทำให้ใบหน้าคุณสวยใสขึ้นทันทีดูเพิ่มเติม
     
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    แม่ต้อยนี่ก็เนอะ ดึงขึ้นมาให้อายเชียว...

    รู้น๊าคิดอะไรอยู่!...
    ไม่รับปากนะครับว่า เรื่องจะมาเร็วช้าปานใด


    ++++
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,063
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    เปลี่ยนร่าง

    **************************
    ค่อยดูหล่อขึ้นมานิดดดนึง สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านค่ะ ขอให้มีความสุข ปลอดภัย โชคดี แวดล้อมด้วยกัลยาณมิตร และสัตบุรุษทั้งทางโลกและทางธรรม ตราบจนถึงซึ่ง"นิพพาน"จงทุกท่านเทอญ
     
  11. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119
    เปลี่ยนมั่งจิ
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อาถรรพ์ที่มากับพระรูปหล่อองค์เล็กๆ..เศียรขาด

    ย้อนถอยหลังกลับไปในอดีตร่วมเกือบ40ปีก่อน
    “วันนี้เราไปเล่นที่ไหนกันดีล่ะ?”
    เสียงถามจากหัวหน้า”แก๊งส์ ไอติมซ่า” วัย7ขวบ ถามความเห็นลูกน้อง3-4 คน วัยเด็กอายุไล่เลี่ยลดหลั่นกัน
    ทั้งหมดต่างล้วนแต่เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน

    เมื่อวานอยู่ในสวนขโมย มะขามหวานยายผึ้งกินมาแล้ว งั้นวันนี้ไปปีนต้นมะเฟืองกินจิ้มพริกเกลือกินดีกว่า ตามด้วยปีนต้นละมุดใหญ่ วันก่อนเห็นลูกหล่นเต็มพื้นเลย
    “ที่ไหนบอกมา...อย่าช้าให้ไวไอ้ลูกน้อง”
    “ก็สวนบ้านยายชื่นไงล่ะ ลูกพี่”
    เมื่อสายรายงานมาดังนี้ ทั้งหมดต่างเห็นดีเห็นชอบ พร้อมประสานมือกัน ทำท่าคล้ายเหล่าไอ้มดแดง ที่รวมตัวกันต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดมากมาย ที่หมายยึดครองโลก ตอนจะจบภาคในทีวีขาวดำยุคก่อน
    “เฮ้!” เสียงดังฟังไกล จนหมาหลับข้างๆสะดุ้งตกใจตื่นเดินหนีออกไปแบบเคืองๆ
    (ให้มันรู้กันไปว่า นี้คือการส่งสัญญาณแนวผจญภัยอันยิ่งใหญ่เพื่อความสนุก สนานของแก๊งส์ ไอ้ติมซ่า ในวันหยุดเรียนเสาร์ – อาทิตย์)

    บ้านสวนยายชื่น มีบ้านไทยทรงอีสานโบราณหลังใหญ่ แบบสองชั้น มีหลายห้อง ใต้ถุนสูง เสาบ้านทรงกลมใหญ่ขนาด1 คนโอบ ข้างล่างเป็นครอกวัว และเป็นที่เก็บพักเกวียน มีเนื้อที่เป็นสวนรอบบ้านประมาณ2 ไร่เศษ ยายชื่น นับว่าเป็นผู้มีฐานะดีในหมู่บ้านมีเรือกสวน ไร่นาเยอะแยะ คนโบราณยุคก่อนมีลูกมากเพราะไม่มียาคุมกำเนิด สาธารณสุขยังเข้าไม่ถึง

    อีกอย่างคนยุคนั้นที่มีลูกเยอะๆก็เพราะต้องการให้ลูกๆมาช่วยกันถากถางป่าจับจอง
    ขยายที่เพื่อ ทำไร่ ทำนา บ้านไหนขยันมาก ก็ได้ไร่นามาก พูดง่ายๆว่าหากอยากมีที่มีไร่เยอะๆก็ต้องขยันทำงานหนัก เข้าไว้
    พอมีไร่สวนมากๆ ก็ต้องเหนื่อยมากตามไปด้วย เพราะต้องทำงานหนักทำไร่ไถนากันตลอดทั้งปี ตั้งแต่เล็กยันแก่ชราเลยทีเดียว

    ครอบครัวไหนใครขยันน้อยหรือมักน้อยแค่พอทำไหว หรือหากมีจำนวนคนในบ้านน้อย ลูกไม่ดกก็ได้ที่ไร่นาน้อยตามไปด้วย จับจองบุกลุยถากป่าถางดงกันไปตามกำลังที่มีเป็นสำคัญ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2013
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ในครั้งกระนั้นสังคมชนบทบ้านนอกในอำเภอที่ไกลตัวเมืองนับ60กิโลเมตร ระบบไฟฟ้าแสงสว่างมีเฉพาะในตัวตลาดอำเภอสถานที่ราชการเท่านั้น

    เดินทางไปหากันทียามค่ำคืนก็ยังใช้ไฟฉายหรืออาจใช้ไฟคบจากไต้เศษยางนาเท่านั้น เวลา1ทุ่มก็มืดไปหมดทั้งหมู่บ้าน มีเพียงแสงตะเกียงจุดขึ้นมาของบ้านแต่ละหลัง หลังกินข้าวมื้อเย็น ตายาย พ่อแม่ลูกหลานก็มานั่งคุยกันที่เฉลียงหน้าบ้านรับลมเย็นๆ เผลอแปร๊บเดียวก็ค่ำมืดซะแล้ว

    ใครขี้ร้อนหน่อยก็ปูเสื่อนอนเล่นดูดาวกันไปตามเรื่อง...จนกว่าใกล้จะง่วงจึงเข้าห้องนอน จะว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องที่ช่างคลาสิคซะจริงชีวิตบ้านนอกในยุคก่อน

    ในครั้งนั้นผู้เล่าและน้องๆบรรดาลูกๆน้าสาว 4-5คน มักชอบนัดมานอนรวมกันที่บ้านของตา-ยาย เพราะที่นี่มีน้าๆหนุ่มๆสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนอยู่อีก4คน แต่ละวันจึงมีแต่เรื่องสนุกมาเล่าอยู่เสมอตามประสาหนุ่มๆสาว ร่วมวงกินข้าวกินทีเป็น 10 ชีวิต แหมกินอะไรก็อร่อยไปซะจริง..พับผ่า

    เช้ามืดคุณยายก็หิ้วตะกร้าหวายใบใหญ่ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาด กลับมาก็จะมีขนมติดตะกร้ามาให้หลานๆลุ้นตื่นเต้นอยู่เสมอ ...
    ทายกันว่าวันนี้จะเป็นขนมอะไรหนอ? ถึงขั้นเดิมพันใครทายผิด.อดกินกันเลยทีเดียว
    (พอยายรู้ล่ะก็ ต้นเรื่องโดนเอ็ดหูชาว่าอุตริไม่เข้าเรื่อง แบ่งกันกินทุกคนเดี๋ยวนี้...โดนซะ...แฮ่ๆ)

    โดยหลานๆก็ออกจะมาคอยเสนอหน้ากันสลอน ที่บริเวณต้นมะเฟืองบ้านยายชื่นที่มีรั้วติดกัน เพื่อคอยรอรับคุณยายแย่งถือตะกร้าเอาใจน่าดู จริงๆแล้วแต่ละคนกลัวโดนปาดหน้าถูกปล้นขนมไปกินก่อนต่างหากเล่า เลยไม่มีใครยอมใคร

    “ขอบคุณจ๊ะยายจ๋า ยายใจดีจัง คิดถึงยายจังเลย” (ปัจจุบันคุณยายท่านเสียไปนานนับสิบกว่าปีแล้ว)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2013
  14. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119
    โหย ชักน่ากัวแย้วละ น่ากลัวว่าจะไม่เล่าต่องัย 555............
     
  15. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119
    อ้าว ก็เปลี่ยนตามแรงดึงดูดไง

    แหม ลองคิดดู กระทู้เนี่ย แอบมาหลบมุมถึงสุดขอบจักรวาล ก็ยังดึงดูดแฟนคลับมาได้ เรียกว่ามีแรงดึงดูด แต่ตอนดูดมาเนี่ย ไม่ใช่ดูดมาแต่แฟนคลับ ดันดูดเชื้ออมีบ้า (Ameba คือ มีบ้า ไม่ใช่มีดี) อย่างทอแสงมาด้วยแหละ เห็นท่านทับปุดอวตาร ทอแสงก็ต้องอวตารมั่งฮี่ อวตารตามแรงดึงดูดไง

    ว่าแต่ว่า แม่ยก (คือแม่จะมายก ยกไปไหนไม่รุ) เพียบเลยน๊า ทอแสงจะเป็นแม่ยกก็ใช่ที่ ขอเป็นระนาดเอกแล้วกัน เตร้ง เตง เต่ง เต๊ง เต้ง เต่ง เตร้ง เตง เต่ง................
     
  16. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119
    ขอเรียกร้องให้บรรดาแม่ยกทั้งหลาย โชวพาว ไปช่วยกดโหวตคะแนนกระทู้ห้าดาวหน่อยจิ.................. ทอแสงไปกดให้แล้ว...น้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2013
  17. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004

    เอาน่า...ขึ้นเรื่องจั่วสเตตัสแล้วก็เดินต่อจนจบหละ...


    ประสบการณ์ Toplus99 ไม่รู้ว่าจริงหรือหลอก?

    แต่ทุกเรื่องเล่า...มันคือประสบการณ์ที่ตัวเองก็ต้องค้นหา!

    เวลา อายุขัยเราก็ลดหลั่นลงเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะจบการสื่อสาร Internetเมื่อไหร่

    เพราะเรื่มเบื่อหน่ายลงไปเรื่อยๆ ทั้งที่ก็ทำงานเทคโนโลยีสื่อสารมาตลอด

    เห็นความเป็นไปของเทคโนโลยี่มานานนับสิบๆปี
    ...นับแต่การส่งการเคาะระหัสมอส วิทยุ
    จนกลายเป็น Internet F/B,twiter,Instagram ,applicationทั้งหลาย
    Iphone โน่นนี่สารพัด...จนไมมีที่สิ้นสุด

    ยิ่งเข้าใกล้เทคโนโลยี..จิตวิญญานของคนเราก็ยิ่งห่างสัจธรรมไปเรื่อย..

    ยิ่งเห็นมันก็ยิ่งเอือมระอา..

    โลกแห่งจิตวิญญาณมันลึกล้ำเกิน จะเอาเครื่องมือวิทย์ฯมาวัดพิสูน์

    จะมาบอกเล่าไป มันก็เหมือนคนบ้า..

    ++++
    สุดท้าย..คงจะขอแค่เอาตัวเองให้รอดก่อน
    ...เอาดีได้แล้วค่อยว่ากัน สำหรับชาติภพนี้

    ๙๙๙๙๙

    มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม?
     
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อย่าเพิ่งตกใจสำหรับญาติเรา..ไม่จบกันง่ายๆ

    เรื่องเล่ามีเยอะสารพัด...จะไตร่สตาร์ทนับแต่เริ่มปฐมกาลแต่วัยเด็ก
    แห่งความเชื่อวิญญาน ผีๆสางๆกันมาเลย...จนเข้าสู่พุทศาสน์

    (ชั่วโมงนี้ขอแย่งซีนเรื่องของพระอาจารย์อภิญญา ไว้ก่อน..ซีนใครซีนมัน)


    เราไม่มีสินค้าจะขายนะ..อย่ามาจับผิด
     
  19. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119

    ชักจะเริ่มเบื่อทางโลกแล้ววุ้ย ท่าทาง...........สงสัย บวชอีกที ไม่สึกแน่ อิอิ
     
  20. ทอแสง

    ทอแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +119
    เท่าที่อ่านแบบจ้องจับผิด 555 ก็ไม่มีการโฆษณาสินค้านะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...