คนเสียชีวิตในบ้านคนในบ้านโดนวิญญาณกวนทำไงดี

ข้างบ้านมีคนเสียชีวิต คือนอนตายไปเฉยๆ ญาติก็ไม่มีความรู้ว่าจะต้องทำยังไงดี ตอนปอเต๊กตึ้งมารับศพ เค้าได้จุดธูป1ดอกเพื่อเชิญวิญญาณเพื่อตามศพไป แต่มีเพื่อนคนนึงหวังดีบอกว่าให้ดับธูปแล้วเอาธูปตั้งเอาไว้ที่บ้าน จากนั้นคนในบ้านก็นอนไม่ได้เพราะโดนกวนตลอดเลย ดิฉันเลยแนะนำไปว่าให้เค้าเอาธูปที่ตั้งไว้ที่บ้านไปเก็บไว้ที่วัดงานศพดีกว่า แบบนี้ถูกต้องมั้ยคะ ควรแนะนำญาติผู้ตายยังไงดีคะ

 

จุดธูป 1 ดอก แล้วไปดับธูปทั้งๆที่ธูปยังไม่หมดก้าน แบบนี้วิญญาณก็ไม่ไปไหนสิครับ ก็เหมือนกับการจุดธูปเรืยกสัมภเวสีมากินข้าวอาหารที่ได้วางไว้ ต้องรอให้ธูปดับไปเอง แล้ววิญญาณก็จะไปเอง

 

แล้วจะทำยังไงดีคะ พอดีคนที่เสียเค้ามีลูกเล็กยังพูดไม่ได้เลยค่ะ แต่ตอนกลางเด็กจะร้องงอแงตั้งแต่ตีสามจนเกือบถึงเช้า แม่เด็กบอกว่าเหมือนมีเสียงสิ่งของเคลื่อนไหวเองด้วย

 

อย่าคิดมากคะ ผีเข้าบ้านคุณไม่ได้หรอก เพราะมีเจ้าที่ และเขาไม่มีกรรมสัมพันธ์กะคุณ เขาจะมาทำไม คนเราส่วนชอบคิดไปเอง เห็นแว๊บๆ ตาฝาดบ้าว มีคตายใกล้ๆก็นึกว่าผีหลอก ขนาด ดิฉันอาศัยอยู่ในบ้านคนเดียวตอนนี้ อยูเมืองนอกด้วยบ้านอายุ 200 ปี มีคนตาย สามคน ตายต่อหน้าดิฉันหนึ่งคน, และฆ่าตัวตายอีกหนึ่งคน ดิฉันเป็นคนพบศพ ทยอยกันตายภายในหนึ่งอาทิตย์ อีกคน หลับตาย หมอชันสูติหาสาเหตุไม่ได้.....ดิฉันยังอยู่มา 8 เดือนแล้ว คนเดียวด้วย ยังไม่เห็นอะไรเลย

 

ไม่เคยเจอก็ดีแล้วค่ะดีใจด้วย พี่ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ และไม่ได้กลัวว่าจะเข้าบ้านพี่เพราะพี่ไม่ได้รู้จักกับผู้ตาย แต่ภรรยาเค้ามาปรึกษาเรื่องธูปนำวิญญาณที่เก็บไว้ที่บ้านแล้วเค้าก็เล่าว่าถูกรบกวน ไอ้ครั้นจะบอกอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไปก็กลัวว่าจะบอกเค้าผิด ก็เลยมาขอคำปรึกษาค่ะ ส่วนไอ้เรื่องที่ว่าใครจะเห็นหรือไม่เห็น จะจริงไม่จริงอันนั้นมันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ

 

จุดธูปบอกให้เขาไปที่ชอบ ไม่ต่องเป็นห่วง ทําบุญ แผ่กุศล

 

ทำบุญอุทิศให้เขาไปครับ....คนตายต้องการบุญในการไปเกิดเปลี่ยนภพภูมิครับ....ต้องให้คนเป็นทำให้....การส่งบุญต้องให้คนที่มีกำลังจิตดีๆส่งให้ถึงจะถึง....หรือไม่ก็รองใช้วิชาหลวงพ่อเกษม อาจิณณสีโล ดูครับ....ทำปุ๊บอุทิศปั๊บ....จะได้ผลดีครับ.....

 

คุณ Snow แนะนำญาติเค้าเกือบถูกต้องแล้วครับ..แต่แค่เพียงยังไม่เข้า
หลักการเฉยๆ.ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา
.ส่วนปอเต๊กติ้งก็ทำถูกในส่วนของเค้า..
คาดว่าเพื่อนที่หวังดียังคงเข้าคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง..
.เด่วจะเล่าให้ฟังอย่างนี้นะครับ เพื่อปรับความเข้าใจ
อาจจะยาวหน่อย..แต่ส่วนตัวคิดว่าสำคัญ.ยังไงก็ลองอ่านให้จบก่อนนะครับ

การตายแบบนี้ถือว่าเป็นการตายโดยธรรมชาติ..เนื่องจากมีเหตุให้ร่างกาย
เสื่อมหรือใช้ไม่ได้...ปกติมูลนิธิถ้ามารับศพ.ก็จะทำการจุดธูปหนึ่งดอก
และทำพิธีเชิญวิญญานให้ตามศพไปด้วย..เพราะปกติดวงวิญญานที่ออกจากร่างกายใหม่ๆ..แบบไม่ทันตั้งตัว.หรือไม่รู้หรือไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิต.

ไม่ว่าจะเสียชีวิตแบบข้างบ้านหรือตายโหง และตายไปแล้วเปลี่ยนภพภูมิไปเลย วันที่ ๑ และวันที่ ๒ ก็จะยังห่วงร่างกายตัวเองอยู่.
หรือแวะกลับมาดูศพตัวเองบ้าง..ส่วนในกรณีที่ไปยัง
ภพภูมีดีๆเราไม่ต้องห่วงและ
.ไม่นับรวมแบบที่ไม่ต้องกลับมาเกิด เราพูดและอธิบายแบบ
ทั่วๆไป คือ เสียชีวิตแล้วกลายเป็นผีนะคับ.
เพราะวิธีการจะคลอบคลุมกว่าและ
ไม่มีปัญหาทางสังคม.ไม่ว่าต่อคนที่ต้องไปพบและสำหรับดวงวิญญาน..

ส่วนศพปกติจะมีขั้นตอนการชันสูตรศพ..โดยแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุ
ของการเสียชีวิต.
ไม่ว่าจะเพิ่งเสียชีวิตหรือว่าเสียชีวิตมานานเพื่อให้เป็นหลักฐาน
ในการแจ้งออกใบมรณะบัตรยังที่ว่าการอำเภอ และนำไปใช้ประกอบในการทำธรุกรรมทางด้านเอกสารอื่นๆ

.และการจุดธูปเชิญวิญญานผู้ตายไปด้วย ถ้าคุณสังเกตุหรือถ้ามีโอกาสนะครับ.
จะเห็นว่าทางมูลนิธิจะไม่ให้ธูปดับ.คือจะมี
การต่อไปเรื่อยหรือใช้ธูปใหญ่ก็ได้..
เพื่อให้วิญญานที่เสียชีวิตใช้เป็นเส้นทางที่มีไฟส่องสว่างสำหรับ
ไว้ตามไปดูร่างตัวเองและหาศพตัวเองที่ได้ทำการเคลื่อนย้าย
ไปยังห้องชันสูตรศพ...เพราะกำลังจิตจะยังไม่เพียงพอหลังจากเสีย
ชีวิตช่วง ๑ ถึง ๒ วันแรกเนื่องจากยังไม่คุ้นเคย...

..ที่สำคัญสามารถผ่านด่านเจ้าที่ๆท่านดูแล
โรงพยาบาลได้..แต่ส่วนมากทางโรงพยาบาล.ก็คงจะไม่ให้จุดธูปทิ้ง
ไว้ได้ตลอด..แต่ก็เพียงพอสำหรับดวงวิญญานสำหรับไว้เดินตามดูร่างกาย
ของตัวเองได้อาจ ๑ วันหรือ ๒ วันก็แล้วแต่กรณี..


ที่นี้พอดวงวิญญานยอมรับได้แล้ว เนื่องจากไม่มีควันธูปเป็นเส้นทางเหมือนที่
ได้กล่าวมา ก็จะกลับไปได้แค่หลักๆ ๒ ที่
คือ ณ จุดเกิดเหตุในกรณีที่ตายโหงและที่บ้านเกิดของตัวเองหรือสถานที่ตัวเอง
ผูกพันธ์เท่านั้น สังเกตุได้ว่าเวลามีการเรียกวิญญานมักจะไปเรียกยังสถานที่
เกิดเหตุ ส่วนที่เสียชีวิตแล้วไปเกิดยังภพภูมิสูงๆเราไม่ต้องห่วง.
แต่เพื่อความไม่ประมาท.จึงต้องทำการจุดธูปไว้ก่อน ยกเว้นว่าเราจะสามารถทราบได้ว่าเสียชีวิตแล้วใครมารับ
หรือไปเป็นอะไร.แต่ยังไงก็ควรทำ.ไม่งั้นจะเป็นปัญหาทางสังคมได้.เนื่องจาก
เราไม่สามารถอธิบายให้ทุกคนพร้อมจะยอมรับได้.แต่ถ้าบอกว่า
เป็นพิธีการหรือประเพณีปฏิบัติจะจบปัญหาเรื่องนี้ได้..

และประมาณวันที่ ๒ ถึง ๓ หลังวิญญานยอมรับว่าตัวเองเสียชีวิตแล้วคือยอมรับการเปลี่ยนแปลง
และเริ่มตัดร่างกายตัวเองได้ จากจุดนี้ทำให้เริ่มวางใจได้ ก็เลยเป็นเหตุให้วิญญานพอมีกำลังจิต

และในช่วงระหว่างวันที่ ๓ ถึงวันที่ ๗ .ก็จะพอมีกำลังในการที่จะไปเข้าฝันคน
ที่ตัวเองเป็นห่วงหรือมีสัมพันธ์ ไปเรียกชื่อเล่น ไปแสดงเป็นเสียงของตก
แบบหยุดจังหวะเดียวแล้วเงียบ ไปเป็นกลิ่นที่่มีเอกลักษณ์ หรือถ้าดีมากๆ
ก็จะไปปรากฏ ร่างกายตามที่ตัวเองได้สะสมบุญบารมีไว้
หรือที่เรียกว่ากายทิพย์อย่างเช่น แต่งชุดเหมือนเทวดา เป็นต้น

แต่ถ้าไม่ได้จุดธูปเชิญจากจุดที่เสียชีวิต เพื่อนำไปที่วัด.ยกเว้นกรณีมีเหตุเสียที่ชืวิตที่โรงพยาบาลก็ต้องเชิญ
ที่โรงพยาบาล
หรือธูปดับระหว่างทาง แล้วไม่กลับมาเริ่มใหม่ วิญญานก็จะอยู่ได้สองที่ ตามที่ได้อธิบายไว้แล้ว
สำหรับบางกรณีวิญญาน..บางดวงอาจเป็นที่โรงพยาบาลก็ได้..เช่น วิญญาน
เด็กที่เสียชีวิตในระหว่างครรภ์มารดาไม่ว่าจะเหตุอะไรก็ตาม หรือวิญญานบางดวงที่ไม่มีที่พักอาศัย แล้วโรงบาลเปรียบเสมือนบ้าน
หลังเดียว เป็นต้น

ส่วนกรณีข้างบ้านคุณ ถ้าหากว่าผ่านขั้นตอนการชันสูตรศพแล้ว บอกเค้าให้เชิญพระมาทำพิธีเชิญวิญญานที่บ้านหรือคนที่สามารถทำได้
.โดยต้องจุดธูปไว้อย่าให้ดับระหว่างทาง.
เพราะวิญญานจะตามไปไม่ได้และเหมือนไม่มีใบอนุญาตผ่าน
ให้เข้าวัดคล้ายๆกรณีผ่านเจ้าที่เข้าโรงพยาบาลเพื่อตาม
ไปดูร่างตัวเองห้องชันสูตร .และถ้าธูปดับต้องมาเริ่มต้นจุดธูปเชิญใหม่.
ถ้าจะให้ชัวใช้ธูปขนาดใหญ่

จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องการดับการต่อ.....และพอถึงวัดก็จุดธูปไว้อย่าง
นั้นอย่าให้ดับ..เหมือนเป็นการเปิดทางให้วิญญานไปวัดได้ตลอดเวลา..
ส่วนช่วงระยะเวลาก่อนจะทำการเผา.ก็สุดแล้วแต่ว่าวิญญานจะแวะไปเยี่ยมใครบ้าง.แต่ก็จะสามารถกลับไปกลับมาอยู่ที่วัดได้..
หลักการและเหตุผลคล้ายตอนจุดธูปเชิญวิญญานไปห้องชันสูตรศพ.
หวังว่าจะพอเข้าใจนะครับ..

สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโชคดียิ่งๆขึ้นไปสำหรับการมีเมตตาและน้ำใจ
ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และช่วยเหลือดวงวิญญานครับ ส่วนช่วงนี้
การทำบุญอุทิศส่วนกุศล แนะนำให้ระบุชื่อและนามสกุล และบอกให้ดวง
วิญญานพูดคำว่า โมทนา เพื่อประโยชน์สูงสุดแห่งดวงจิตที่พึ่งจะได้รับก่อนจะเปลี่ยนภพภูมิครับ
ปล..แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
​

 

นั่นละ ทำให้เขายังไม่ไป มีห่วงอยู่ ไม่ได้เป็นเจ้ากรรมนายเวร เรื่องพิธีพี่ไม่รู้มากนัก แต่เวลาบอกกล่าวเขา ให้ย้ำว่า ไปภพภูมิที่สุงขึ้น ไปเวียนว่ายตายเกิดมีสังขารเสียดีกว่าอยู่แบบนี้ ไม่ต้องห่วงลูก จะเลี้ยงให้ดี ฯลฯ
มีเจ้าที่หรือเปล่า ไม่เกี่ยวนะค่ะ

 

โมทนากับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ ดิฉันคิดอยู่ว่าจะแนะนำให้ภรรยาเค้าไปนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้านเค้าค่ะ นี่ก็ผ่านมาสี่วันแล้วลูกของคนทีตายก็ยังตื่นมาร้องไห้งอแงตอนตีสามจนถึงตีสี่น่าเห็นใจภรรยาเค้าเหมือนกันเพราะต้องเลี้ยงลูกเล็กๆคนเดียว