ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๑..



    ย้อนไปกว่า ๓ อสงไขยกัป ก่อนสมัยพระพุทธเจ้า พระนามว่า “พระบรมไตรโลกนาถ” พระเกษรีฤาษีทรงจุติเป็นมนุษย์ ในตระกูลพราหมณ์มหาศาล นามว่า “วิสุทธิโชติ” มีทรัพย์จำนวน ๔๖๐ โกฏิ ท่านได้สร้างโรงทาน ๕ แห่งในเมืองรัตนศุทธ์ โดยแยกที่พักสำหรับสมณะ ๑ แห่ง สำหรับคนยากไร้ที่พักพิง ๑ แห่ง ผู้ป่วย ๑ แห่ง สำหรับสตรี และเด็ก ๑ แห่ง และสำหรับคนชรา ๑ แห่ง ได้จัดให้ “จันทรอาสนะ” เป็นผู้ดูแลเรื่องโรงทานทั้งหมด


    จันทรอาสนะนั้น เดิมมีฐานะยากจน เลี้ยงดูพ่อแม่ที่แก่ชรา เป็นผู้ที่มีความกตัญญูรู้คุณ มีความซื่อสัตย์และเคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ วิสุทธิ์พราหมณ์ได้มาพบเข้าตรวจดูลักษณะของจันทรอาสนะว่า เป็นผู้มีบุญบารมี จึงได้พาจันทรอาสนะ พรัอมบิดามารดามาอยู่ด้วย โดยปลูกเรือนให้อยู่ โดยทำหน้าที่ดูแลกิจการงานในบ้าน

    ท่านวิสุทธิโชติพราหมณ์นั้น ไม่ได้แต่งงาน และไม่มีทายาท ท่านจึงมีความเมตตาต่อจันทรอาสนะมาก ต่อมาเมื่อวิสุทธิโชติพราหมณ์สร้างโรงทาน จึงมอบหมายให้เป็นผู้ดูแล

    อยู่มาวันหนึ่งจันทรอาสนะได้พบกับนางจิตรี บุตรสาวของสุวรรณเศรษฐี ผู้มีทรัพย์ ๒๕๐ โกฏิ ด้วยบุพเพสันนิวาส เกิดความเสน่หา จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ปรารถนาที่จะได้นางมาเป็นคู่ครอง

    ต่อมาทราบถึงวิสุทธิโชติพราหมณ์ จึงคิดว่า ตนนั้นไม่ได้แต่งงาน และอีกไม่นานตั้งใจว่าจะออกบวชแสวงหาโมกขธรรม จึงคิดว่า ควรแต่งตั้งให้จันทรอาสนะเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อให้สมควรแก่ฐานะ จึงได้แต่งตั้งให้จันทรอาสนะ เป็นบุตรบุญธรรม และได้ยกขันหมากไปสู่ขอนางจิตรี เพื่อเป็นลูกสะไภ้ของตน

    ฝ่ายสุวรรณเศรษฐีนั้นมิได้ปฏิเสธ ด้วยฐานะของวิสุทธิ์พราหมณ์นั้นมีทรัพย์มากกว่าตน ตัวท่านเองเคยพบจันทรอาสนะ ขณะที่ดูแลคนยากไร้ ทำให้เกิดความประทับใจ จึงให้นางจิตรีแต่งงานกับจันทรอาสนะในกาลต่อมา
     
  2. Clearly

    Clearly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +281
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะพี่น้ำใส ขอบพระคุณและยินดีมากค่ะ ชื่อที่อยู่จัดส่งตามเดิมนะคะ
     
  3. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    ยินดีกับคุณ moom และทุก ๆ ท่านที่จับสลากได้ด้วยค่ะ
    ขอโมทนาสาธุบุญด้วยทุกประการค่ะ
    และขอขอบพระคุณพี่น้ำใสใจดีด้วยเจ้าค่า แม้จะไม่ได้รางวัลอะไรกับเขา
    แต่ก็นะ กลัวพี่น้ำใสลืมหน้า เลยขอเสนอหน้ามายินดีด้วย จั๊กกะหน่อย อิอิ

    ดีจังนะคะคุณ mooom พระพุทธรูปเก่าแก่ด้วย..ท่านน่าจะศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  4. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    จันทรอาสนะและนางจิตรีจะเป็นอย่างไรต่อไปหนอ?
    ว่าแต่สองคนนี้คุ้น ๆ พิกลอีกแล้ว อิอิ...
    รอ ร๊อ รอ อ่านประวัติต่อค่า....


    :z4

    ปล.ถ้ามีทรัพย์แค่ ๑ ใน ๔๖๐โกฏิของท่านพราหมณ์มหาศาล...
    แฮ่ ๆๆๆ หนูจะเอาไปตระเวนทำบุญเสียให้ชุ่มปอด ชุ่มใจ ชุ่มตับไตไส้พุงเลย อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  5. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เรื่องเล่า จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี

    บรรยากาศกระทู้เมืองนี้มันเงียบเหงาวังเวงชอบกล
    เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ขอเล่าเรื่องผีให้ฟังนะคะ...



    คือ .... เรื่องมันมีอยู่ว่า

    ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

    มีคนไข้ตายบนเตียงเดียวกันซ้ำ ๆ แล้วหลายคน
    ที่น่าแปลกคือทุกศพตายเมื่อห้าโมงเช้าวันอาทิตย์
    โดยหมอเล็กหมอใหญ่ไม่อาจให้คำอธิบายได้( ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ )
    บ้างก้อร่ำลือถึงความเฮี้ยนที่หลาย ๆ คนได้ยินมา ,


    บรรดาคุณหมอจึงตัดสินใจลงไปที่ห้องผู้ป่วย
    เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายในวันอาทิตย์หน้า
    กระทั่งถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ทุกคนรอคอย
    2-3นาทีก่อนจะห้าโมงเช้า
    ทั้งหมอและพยาบาลต่างรอคอยอย่างลุ้นระทึก
    แอบมองอยู่ข้างนอกห้องว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
    ต่างคนต่างกำหลวงพ่อประจำตัว ปากก็คอยสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา
    ด้วยความหวาดกลัวและลุ้นว่าจะเห็นวิญญาณเฮี้ยนหรือไม่
    จนเข็มนาฬิกาเดินมาที่ 11 นาฬิกา
    บรรยากาศก้อเย็นเฉียบขึ้นโดยฉับพลัน
    ไร้เสียงรบกวนใด ๆ แม้เสียงลมหายใจก้อแทบจะไม่ได้ยิน


    และแล้วทันใดนั้น ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
    เมื่อพนักงานทำความสะอาดคนใหม่
    ซึ่งทำงาน( เฉพาะวันอาทิตย์วันเดียว) ก้อเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วย
    จากนั้นก้อถอดปลั๊กเครื่องช่วยหายใจออกแล้วเสียบปลั๊กเครื่องดูดฝุ่นแทน


    และทำความสะอาดต่อด้วยความสบายใจ....
     
  6. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    น้องตาลลลลล.....สุดยอด

    (good)ไร้คำบรรยาย หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลย(good)

    ขอบคุณที่ทำให้วันนี้เป็นวันดีๆ ที่ยิ้มได้ทั้งวัน อีกวันหนึ่ง
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๒ ออกบวช

    หลังจากที่จันทรอาสนะแต่งงาน ได้พานางจิตรีมาอยู่ที่เรือนหอที่วิสุทธิโชติพราหมณ์ได้จัดเตรียมไว้ให้ ต่อมานางได้ตั้งครรภ์มีบุตรเป็นฝาแฝดชาย-หญิง นามว่า “สุวรรณอาสนะ และวิสุทธินี” ตั้งชื่อตามนามของบิดา และวิสุทธิโชติ ได้ครองรักกันเรื่อยมาอย่างมีความสุข

    อีกปีต่อมาบิดามารดาของจันทรอาสนะก็ได้เสียชีวิตลงพร้อมกันตามอายุขัย(ท่านว่า เกิดจากการอธิษฐานของทั้งสองท่านว่า ขอให้เสียชีวิตพร้อมกัน) ท่านวิสุทธิโชติพราหมณ์ได้จัดงานอวมงคลอย่างสมฐานะ แต่ท่านเห็นสัจธรรมคิดว่า แม้เรามีทรัพย์มากมาย แต่วันหนึ่งเราก็ต้องตายเช่นเดียวกันกับบิดามารดาจันทรอาสนะนี้ จึงเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก ปรารถนาที่จะออกบวชแสวงหาโมกขธรรม

    หลังจากเสร็จงานต่าง ๆ แล้ว ท่านจึงได้เรียกจันทรอาสนะและภรรยามา ยกสมบัติทั้งหมดมอบให้ทั้งสอง พร้อมกับบอกกล่าวว่า ..

    “พ่อจะออกบวชเพื่อแสวงหาทางดับทุกข์ ขอเจ้าทั้งสองจงรักษาทรัพย์ให้ดี ระวังในการใช้จ่ายทรัพย์ หมั่นให้ทานสม่ำเสมอ พ่อจะเดินทางไปทางทิศตะวันออก ชายแดนระหว่างเมืองของเรานั้น มีป่าอุดมสมบูรณ์พอที่พ่อจะบำเพ็ญพรตได้ ขอเจ้าทั้งสองอย่าได้เป็นห่วง หากมีวาสนาคงได้พบกันอีก”


    นางจิตรีนั้น แม้เป็นสะไภ้ นางมาอยู่ในตระกูลแห่งวิสุทธิพราหมณ์นั้นได้รับความอบอุ่นดุจบิดาแห่งตน นางรักและเคารพวิสุทธิฯพราหมณ์มาก เมื่อท่านบอกว่าจะออกบวช นางจึงรักและอาลัยยิ่งนัก ท่านวิสุทธิพราหมณ์ได้กล่าวว่า..

    “ลูกทั้งสอง การพรากพลัดพรากจากกันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เราไม่จากเป็นก็ต้องจากตาย ดูอย่างบิดามารดาของจันทรอาสนะก็ต้องตาย พ่อ หรือลูกทั้งสองเอง ก็ต้องตายเป็นเรื่องธรรมดา ขอจงระงับความโศกเศร้าเสียนะ อย่าได้อาลัย ตั้งใจดูแลบุตรทั้งสองของเจ้าให้เติบโตเป็นคนดีมีศีลนะ”


    จันทรอาสนะนั้น เมื่อทราบความประสงค์ของบิดาบุตรธรรมแน่นอนแล้ว จึงให้คนรับใช้จัดเตรียมราชรถ โดยจะไปส่งบิดาด้วยตนเอง พร้อมคนรับใช้อีก ๔ คน ฝ่ายวิสุทธิฯพราหมณ์นั้นเดิมทีตั้งใจว่าจะเดินทางไปเอง แต่เมื่อเห็นความตั้งใจของลูกบุญธรรมแล้ว จึงให้ไปส่งถึงชายป่าแห่งนั้น
    เมื่อถึงชายป่านั้น วิสุทธิพราหมณ์จึงกล่าวว่า...

    “จันทรอาสนะเอ๋ย ขอให้เจ้าปกครองบ่าวในเรือนดุจพ่อปกครองลูก อย่าได้ลำเอียง เมื่อบ่าวเดือดร้อน จงช่วยเหลือ ทรัพย์ของพ่อส่วนหนึ่ง พ่อขอให้เจ้านำมาแบ่งแก่บ่าวในเรือนทุกคน เพื่อใหมีความเป็นอยู่ดีขึ้น หากเจ้านึกถึงพ่อให้ตั้งจิตอธิษฐาน พ่อจะมาหาเจ้าให้จำไว้ จิตถึงจิต ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าจิตของมนุษย์”


    จันทรอาสนะนั้น ก็รู้สึกซาบซึ้งใจที่ท่านเมตตาต่อตนเสมอมา แม้จะมีความอาลัยต่อบิดาบุญธรรมเพียงใด ก็ต้องตัดใจ ต่อมาวิสุทธิโชติพราหมณ์ได้ทำพิธีบวชเป็นพระฤาษี นามว่า “พระวิสุทธิฤาษี”

    จากนั้น จันทรอาสนะได้กราบลาวิสุทธิฤาษีกลับเรือนของตน เมื่อมาถึงเรือนแล้ว ได้ประกาศนำทรัพย์ของวิสุทธิโชติพราหมณ์ ๑ ใน ๔ ส่วนแล้วแบ่งจำนวนเท่า ๆ กัน มอบแก่คนรับใช้ ประกาศว่า หากใครประสงค์จะอยู่กับตนก็ให้อยู่ต่อ หากใครจะแยกเรือนออกไปก็สามารถไปได้ ส่วนใหญ่ทุกคนประสงค์จะอยู่ต่อ มีเพียง ๕ คน ซึ่งมาจากต่างเมือง โดยมีนายสรณะ เป็นหัวหน้า ได้กล่าวแก่จันทรอาสนะว่า..

    “ข้าฯแต่นายท่าน ความจริงพวกกระผมไม่อยากจะจากท่านไป แต่ทรัพย์นี้สามารถเลี้ยงตระกูลของพวกกระผมได้ จึงอยากไปดูแลบิดามารดา และตอบแทนบุญคุณของท่าน ทรัพย์นี้พวกผมจะนำไปให้ออกดอกผลงอกเงย เมื่อมีโอกาสตอบแทนบุญคุณของท่าน พวกผมจะตอบแทนขอรับ”

    จันทรอาสนะกล่าวว่า.. “ท่านทั้งหลายอย่าได้กังวลเลย ท่านต้องขอบคุณนายท่านที่เมตตา หากท่านจะตอบแทน ขอให้ตอบแทนนายท่าน เนื่องจากป่าแห่งนั้นอยู่ใกล้เมืองที่ท่านจะไป เราฝากให้ท่านช่วยดูแลเรื่องการขบฉันของพระฤาษีบิดาของเรา ขอให้ท่านทั้งหลายเดินทางโดยสวัสดิภาพเถิด”

    นายสรณะ และคณะได้รับปาก และออกเดินทางยังเมืองโสณหัตถนคร ห่างออกไปทางทิศตะวันออกไป ๓ โยชน์โดยสวัสดิภาพ
     
  8. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๓ ครอบครัวนายสรณะ

    หลังจากนายสรณะ และคณะได้กลับถึงเมืองโสณหัตถนครแล้ว ได้ปลูกเรือนให้บิดามารดาของตน เหตุที่นายสรณะได้ไปเป็นคนรับใช้ของท่านวิสุทธิพราหมณ์ในต่างเมืองนั้น

    ย้อนหลังเมื่อ ๓ ปีผ่านมา บิดามารดาของท่านได้ไปกู้เงินจากเศรษฐีท่านหนึ่งในเมืองนี้ ซึ่งเป็นคนที่มีความตระหนี่ เมื่อไม่มีเงินใช้ก็จะยึดที่ดิน และจะพาน้องสาวของนายสรณะ ขณะนั้น มีอายุเพียง ๑๔ ปี นามว่า “สุนทรีย์” ไปเป็นภรรยา

    เวลานั้นวิสุทธิพราหมณ์ได้มาเห็นเหตุการณ์ จึงได้เข้า จึงได้มอบทรัพย์แก่เศรษฐีผู้นั้นโดยใช้หนี้แทน โดยไม่คิดมูลค่ากับบิดามารดาของนายสรณะเลย ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งใจ ได้ขอมาอยู่ดูแลรับใช้กับวิสุทธิ์พราหมณ์ โดยส่งเงินมาให้ทางบ้านเพื่อใช้จ่ายทุกเดือน ส่วนเพื่อนอีก ๔ คนก็มีเหตุการณ์เช่นเดียวกัน เมื่อจันทรอาสนะมอบทรัพย์ให้ และประกาศความเป็นไท ทั้งหมดจึงได้เดินทางกลับเมืองของตน

    เมื่อกลับเมืองของตนแล้ว มีทรัพย์นับเป็นคหบดี นายสรณะและเพื่อน เมื่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงปรึกษากันคิดว่า จะพากันออกตามหาพระวิสุทธิฤาษี เพื่ออุปัฏฐากต่อไป

    กล่าวถึงเมืองโสณหัตถนครนั้น เป็นช่วงที่ปกครองโดยกษัตริย์องค์ใหม่ พระนามว่า “พระเจ้ามัทธนะ” ชาวเมืองทั้งหลายส่วนใหญ่ยังไม่มีใครเคยเห็นพระพักตร์ของพระราชาองค์ใหม่เลย เนื่องจากพระองค์ถูกส่งให้ไปศึกษาวิชาในต่างเมืองจนกระทั่งกลับมาครองราชย์อีกครั้ง และเวลาว่าราชการ พระองค์จะให้เสนาผู้ใหญ่ออกว่า ราชการแทนทุกครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๔ เรียนวิชา..

    เมื่อนายสรณะและเพื่อนอีก ๔ คน ได้เดินทางมายังป่าแห่งนั้น ซึ่งมีสัตว์ดุร้ายนานาชนิด ด้วยความที่ไม่ชำนาญทาง จึงได้พบกับฝูงช้างป่าโขลงหนึ่ง ต่างคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด สรณะกับสัณฐานได้หนีมายังลำธารแห่งหนึ่ง ได้พบกับชายหนุ่ม ๒ คน นามว่า “มัทธ์” และ"สิงหร" ทั้งสองเป็นสหายกัน

    มัทธ์นั้น มีลักษณะรูปร่างดี ส่วนสิงหร นั่นมีรูปร่างกำยำ แข็งแรง ทั้งสองได้เข้าป่าล่าสัตว์ เห็นสรณะ และสัณฐานหนีตายมาอย่างไม่คิดชีวิต จึงได้สอนวิธีป้องกันตัว และเอาตัวรอดในป่า

    ต่อมาสรณะก็ได้พบเพื่อนอีก ๓ คนที่ต่างหนีตายเช่นกัน จึงได้เดินทาง เมื่อมัทธ์ และสิงหรได้ทราบว่า..ทั้งหมดได้ตามหาอาจารย์จึงได้ร่วมเดินทางกันต่อไป
    กล่าวถึงพระวิสุทธิฤาษี(วิสุทธิโชติพราหมณ์) เมื่อออกบวชได้ตั้งใจปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ได้อธิษฐานขอพบครูบาอาจารย์ เพื่อศึกษาวิชา จนได้พบกับพระสินธุฤาษี หลังนั้นได้เรียนวิชาเล่นแร่แปรธาตุจนสำเร็จวิชาต่าง ๆ ได้ทราบด้วยญาณทัสสนะว่า นายสรณะและพวกเดินทางตามหาตน จึงได้ไปปรากฏแก่นายสรณะ และพวกทันที

    นายสรณะ และพวก เมื่อเห็นพระฤาษีรู้สึกปลื้มปิติได้กล่าวว่า... “ข้าฯแต่นายท่าน กระผม และเพื่อนตั้งใจจะมารับใช้นายท่าน เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณขอรับ”

    พระฤาษีได้ยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร พร้อมกับเดินนำหน้า ชายหนุ่มทั้ง ๗ ต่อไป จนถึงอาศรมที่ท่านและพระอาจารย์พักอยู่ ชายหนุ่มทั้ง ๗ จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์พระฤาษีทั้ง ๒ จากนั้นใช้เวลา ๓ เดือนได้เรียนวิชาจนสำเร็จ พระวิสุทธิฤาษีได้กล่าวแก่มัทธ์ และสิงหรว่า..

    “เจ้าทั้งสองก็ได้สำเร็จวิชาชั้นสูงแล้ว ไม่บอกแก่สหายของเจ้าหรือว่าเจ้าเป็นใคร”

    มัทธ์จึงได้ก้มกราบอาจารย์และกล่าวว่า..

    “ท่านทั้งหลายถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องบอกความจริงแก่ท่าน เราคือ มัทธนะ กษัตริย์แห่งเมืองนี้ ส่วนสิงหรนั้น เป็นองครักษ์ และเป็นเพื่อนของเรา เราต้องขออภัยที่ไม่ได้บอกความจริงแก่ท่านทั้งหลาย ด้วยเหตุเรายังใหม่กับเมืองนี้มาก ทุกคืนเราจะกลับเข้าวังโดยที่พวกท่านไม่รู้ บัดนี้เราได้รู้ว่า เมืองของเรามีคนดีอยู่มาก หากไม่รังเกียจ ขอท่านทั้งหลายเข้ารับราชการทหารกับเราเถิด”

    นายสรณะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทราบว่า แท้จริงชายหนุ่มนั้นเป็นกษัตริย์ ได้ปรึกษากับเพื่อนทั้ง ๔ และได้กล่าวแก่พระเจ้ามัทธนะว่า ..
    “มหาบพิตร เป็นพระกรุณาที่พระองค์ทรงเมตตากระหม่อม และสหาย แต่กระหม่อมนั้นตั้งใจมาอุปัฏฐากพระอาจารย์ เพื่อตอบแทนบุญคุณ ส่วนสหายทั้ง ๔ จะขอเข้ารับราชการกับพระองค์พระเจ้าข้าฯ”

    พระเจ้ามัทธนะกล่าวว่า.. “ ท่านสรณะ เราขออภัยที่ให้คนไปสืบที่บ้านของพวกท่าน เรามืความพึงใจในสุนทรีย์น้องสาวของท่าน นางมีกิริยาวาจาอ่อนหวาน เราได้เข้าไปขอน้ำทาน นางก็ให้การต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี อีกทั้งดูแลบิดามารดาของท่านอย่างดี เราเองยังไม่มีมเหสี ท่านจะว่าอย่างไร ถ้าเราจะขอนางมาเป็นมเหสี”

    นายสรณะนั้นรู้สึกยินดีมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงกล่าวว่า

    “ข้าฯแต่มหาบพิตร กระหม่อมต้องถามความเห็นของน้องสาวก่อนพระเจ้าข้า ฯ หากนางตอบตกลง กระหม่อมจะส่งข่าวไปหาพระองค์เอง”


    เมื่อกล่าวแล้ว ทั้งหมดก็ได้ลาพระอาจารย์ นายสรณะนั้นได้กล่าวว่า

    “ข้าฯแต่พระอาจารย์ กระผมขอไปจัดการเรื่องน้องสาวให้เรียบร้อยก่อนนะขอรับ แล้วกระผมจะกลับมารับใช้พระอาจารย์ทั้งสองขอรับ”


    พระฤาษีทั้งสองก็ได้ยิ้มเล็กน้อยเป็นการรับปาก จากนั้นทั้งหมดก็ได้ออกเดินทางกลับเมืองทันที
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขอเชิญร่วมประมูลแก้วจันทรกาลนพเก้า ( ๙สี) ชุดที่ ๓ ค่ะ

    แก้วจันทรกาล ชุด ๓.jpg

    ขอเชิญร่วมประมูลแก้วจันทรกาล ๙ สี(เล็ก) คือ มีสีขาว สีน้ำเงิน สีแดง สีฟ้า สีเหลืองอ่อน สีชาเข้ม สีชมพู สีม่วงอ่อน และสีเขียว อัญเชิญจากถ้ำในเทือกเขาภูพานค่ะ

    เริ่มประมูลที่ ๔,๑๑๙ บาทค่ะ

    กติกาในการประมูล

    ๑. เริ่มวันที่ ๑๓-๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๓.๔๕ น. ตามฤกษ์พรหมสิทธิ์ ตรงกับขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๔ ปีมะโรง
    ๒. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
    ๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว หลังจากโอนปัจจัยแล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้วภายใน ๕ วันทำการไปรษณีย์

    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัย ๒๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายเข้ากองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ และปัจจัย ๕๐๐ บาท ร่วมบุญลวดลายหน้าบรรณโบสถ์ วัดโพธิญาณรังสี จ.สุรินทร์ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai


    ปล. เนื่องจากดวงแก้วนพเก้านี้มีความเกี่ยวเนื่องกับประวัติดวงแก้วทั้งสองในตอนต่อไปค่ะ จึงขออนุญาตทุกท่าน ประมูลคั่นประวัติฯค่ะ ต้องขออภัยทุกท่านที่กำลังอ่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  11. sun2555

    sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    ขอเปิดประมูลที่ 4200 บาทครับ
     
  12. half wave

    half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    ขอต่อที่ 4500 บาทครับ
     
  13. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    ขอประมูลที่ ๔,๕๙๙ บาท ครับ
     
  14. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    มาลุ้นกันน่ะครับ^^
     
  15. half wave

    half wave เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +4,260
    4600 บาทครับ
     
  16. am12

    am12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +7,701
    ระหว่างรอผลการตัดสินจากพี่น้ำใส ขออนุญาติช่วยพี่น้ำใสสรุปข้อมูลครับ

    เวลา 7.29 pm คุณ SUN2555 ประมูลที่ 4200 บาท
    เวลา 8.54 am คุณ Half Wave ประมูลที่ 4500 บาท
    เวลา 1.40 pm คุณ World 999 ประมูลที่ 4599 บาท
    เวลา 1.46 pm คุณ Half Wave ประมูลที่ 4600 บาท

    หากดูแนวโน้มแล้ว ขออนุโมทนาบุญและแสดงความยินดีล่วงหน้ากับ
    คุณ World 999 ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2013
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ขอแสดงความยินดีกับคุณ world999 ด้วยค่ะ...


    ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมประมูลครั้งนี้ค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณ am12 ที่ช่วยสรุปผลให้ค่ะ

    และขอแสดงความยินดีกับคุณ World999 ที่เป็นผู้ดูแลดวงแก้วนพเก้าชุดที่ ๓/๕๖ ค่ะ เรื่องนี้มีเหตุ จะมีเฉลยในภายหลังค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ World999 และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ต้องขออภัยทุก ๆ ท่านอย่างสูงที่มาปิดประมูลข้ามวัน เนื่องจากเมื่อวานมีแขกมาที่บ้าน โดยไม่คาดฝัน เดิมทีคิดว่าเพื่อนจะมากับครอบครัวแล้วกลับเร็วเหมือนทุกครั้ง ปรากฏว่า เพื่อนมาพร้อมคณะอีกหลายคนโดยไม่บอกล่วงหน้า มาสอบถามหลายเรื่อง กว่าจะกลับก็ค่ำมืด :':)'(

    เมื่อเพื่อนกลับก็เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน หมดแรง จึงไม่สามารถเข้าเว็บได้ค่ะ ต้องขออภัยทุก ๆ ท่านอีกครั้งค่ะ วันนี้อาการฟื้นตัวแล้ว ก็จะลงประวัติตอนต่อไปค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้นี้ด้วยดีตลอดมาค่ะ

    Numsai
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๕ ธิดาพญานาค



    ครั้นพระเจ้ามัทธนะและคณะได้ออกเดินทางกลับยังโสณหัตถนคร ระยะห่างจากป่าแห่งนั้น ประมาณ ๒ โยชน์ ระหว่างทางทั้งหมดได้พบกับพญานาคราชที่กำลังต่อสู้กับพญาครุฑหลายตน โดยมีหญิงสาวผู้หนึ่งร้องด้วยความหวาดกลัว สิงหรเห็นพญานาคอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบจึงได้ร่ายมนต์หมอกสลายร่าง ทำให้เกิดหมอกบังตาได้ช่วยเหลือพญานาคและหญิงสาวได้สำเร็จ

    เมื่อสืบถามได้ความว่า พญานาคและหญิงสาวมีนามว่า “อัฐกริชนาคราช” เป็นพี่ชาย และนางมัณฑนา เป็นน้องสาวต่างมารดา ที่เกิดจากพ่อเป็นพญานาคและมารดาเป็นมนุษย์ ทั้งสองได้ออกเดินทางเพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ในโลกมนุษย์ เพื่อมีวิชาสำหรับป้องกันเมืองจากพญาครุฑทั้งหลาย

    ขณะที่เดินทางอยู่นั้น พญาสีหครุฑา และบริวารได้บินผ่านมาพอดี ได้พบนางมัณฑนาปรารถนาจะได้นางมาเป็นสนม นางไม่ยินดี จึงใช้กำลังบังคับ เกิดการต่อสู้กัน จนกระทั่งพระเจ้ามัทธนะ และคณะได้มาพบนั่นเอง สิงหรนั้นเมื่อเห็นนางมัณฑนาก็เกิดความรักขึ้น จึงกล่าวว่า หากเดินตรงเข้าไปในป่าจะพบพระฤาษี ๒ องค์ให้ไปศึกษาเล่าเรียนกับพระฤาษีทั้งสองนั้นจะได้วิชาที่เหมาะกับตน

    ฝ่ายอัฐกริชนาคราชนั้น ทราบว่ามีพระฤาษีก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง แต่ต้องการที่จะตอบแทนพระเจ้ามัทธนะ และคณะก่อน จึงกล่าวว่า..


    “เราเดินทางมานับร้อยโยชน์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ บัดนี้เราได้พบแล้ว เราจะได้กลับเมือง เพื่อบอกกล่าวแก่เพื่อนพ้องของเรา ท่านทั้งหลาย จงตามเรามาเถิด เราปรารถนาที่จะตอบแทนท่านทั้งหลาย”

    เมื่อกล่าวจบก็เกิดอุโมงค์บริเวณใกล้ลำธารในป่านั้นขึ้น จากนั้นทั้งหมดได้เข้าไปในอุโมงค์ คล้ายเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏนครหนึ่ง งดงามดุจสวรรค์ชั้นฟ้า พระเจ้ามัทธนะ และคณะรู้สึกตื่นเต้นในสิ่งที่เห็นคิดว่า พวกตนฝันไป
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๖ พญาณสุทธนนาคราช..


    เมื่อถึงนครสุตตรนครแล้ว อัฐกริชนาคราชได้พาไปเข้าเฝ้าพญาณสุทธนนาคราช ผู้เป็นบิดา ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พญาณสุทธนนาคราชได้กล่าวขอบคุณ และได้เลี้ยงอาหารทิพย์แก่พระเจ้ามันทธนะ และคณะ สิงหรนั้นมีความรักต่อนางมัณฑนา พญาณสุทธนนาคราชทราบความในใจ จึงกล่าวยกนางมัณฑนาให้อภิเษกสมรสแก่สิงหรทันที

    จากนั้นได้มอบยาอายุวัฒนะให้แก่พระเจ้ามัทธนาและคณะ และให้ราชทูตพามาส่งยังปากทางเข้าเมืองนาคตามเดิม ส่วนสิงหรนั้น พญาณสุทธนนาคราชได้เนรมิตเมืองใหม่ในโลกมนุษย์บริเวณป่าแห่งนั้น โดยนาคานาคีทั้งหลายเป็นบริวาร เมืองนี้จะปรากฏแก่มนุษย์ทั่วไปให้ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเท่านั้น

    สิงหรได้ขอขมาต่อพระเจ้ามัทธนะที่ตนไม่สามารถดำรงตำแหน่งองครักษ์ได้อีก แต่ได้กล่าวว่า หากวันใดพระเจ้ามัทธนะมีภัย พวกตนพร้อมจะช่วยเหลือเสมอ จากนั้นพระเจ้ามันธนะ และคณะได้เดินทางจากไป


    เมื่อพระเจ้ามันธนะจากไปแล้ว สิงหรได้พาเหล่าพญานาคที่มีเชื้อพระวงศ์ จำนวน ๑๑ ตน รวมนางมัณฑนา ออกเดินทางไปพบพระฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ เพื่อร่ำเรียนวิชาต่อไป

    พระวิสุทธิฤาษีได้ทราบด้วยญาณทัสสนะ จึงได้มารอรับสิงหร และเหล่านาคราชทั้งหลายด้วยความเมตตา นางมัณฑนานั้น ขอทำหน้าอุปัฏฐากพระฤาษีทั้งสอง เรียนวิชาบางอย่างเนื่องจากนางเป็นสตรี ในช่วงนั้น พระฤาษีให้ทั้งสองประพฤติพรหมจรรย์ตลอดระยะเวลา ๓ เดือนจึงศึกษาวิชาสำเร็จ


    จากนั้นสิงหร นางมัณฑนา และเหล่านาคราชทั้งหลายได้เดินทางกลับเมือง ทั้งสองได้ตกลงกันว่า ทุกวันพระขึ้น และแรม ๑๔-๑๕ ค่ำจะถืออุโบสถศีลเป็นประจำ ต่อมาทั้งสองได้กำเนิดพระโอรสนามว่า “สิทธินารท” มีพละกำลังมหาศาลดุจบิดาของตน
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...