ผลกรรมจากการผิดศีลข้อ3 นอกใจสามี

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

ที่นำเรื่องราวมาบอกเล่าให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่น

 

ตอนนี้เรากำลังตกอยู่ในภาวะนี้ แค่คิดก็ผิดศิลแล้วใช่ไหมคะ กลัวจริงๆๆกลัวใจตัวเองเหลือเกิน เรื่องมีอยู่ว่า เราได้รู้จักน้องคนหนึ่งทางเฟรช เขาทำงานศิลปะสายจิวเวลลี่ งานมือ และมันตรงกับสายงานที่เราทำงานตัวนี้ขายอยู่ เราอยากเรียนมาก แต่ก็ได้แต่คิด ไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัว รู้จักกันผ่านๆๆ จนวันหนึ่งเราจำเป็นต้องกลับเมืองไทยด่วน ช่วงที่เรากลับเราเห็นข้อความมีการสอนให้ที่บ้านฟรีโดยจ่ายแค่ค่าข้าวค่าน้ำค่ารถและค่าแรงนิดหน่อย เราสนใจก็เลยฝากข้อความไปว่าเราสนใจอยากเรียน และแล้วน้องคนนั้นก็ติดต่อกลับมานัดแนะเวลาเรียนกันที่บ้านเรา เขามาสอนเราสองวันหนึ่งคืน แต่บังเอิญงานสอนไม่เสร็จเรามีเหตุด่วนต้องกลับต่างจังหวัดด่วน ก็เลยเลื่อนนัดกันอีกที ท่ามกลางการสอนสอนอยู่ในสายตาญาิตๆๆ เราแต่งงานแล้วมีลูกสองคน ไม่มีอะไรผิดปกติ ความรู้สึกเหมือนเดิม หลังจากกลับมาจากต่างจังหวัด ได้นัดแนะมาสอนงานให้เสร็จก่อนที่เราจะกลับ ตปท ทีแรกก็กะสอนจบงานจะนอนแค่หนึ่งคืน จากหนึ่งคืน น้องเขาก็บอกว่าขออยู่อีกหนึ่งคืนจะสอนให้เสร็จจะได้เป็นหลายๆๆแบบ อยากหนึ่งคืนก็กลายเป็นอาทิตย์ ตลอดเวลาที่เรียนน้องเขาก็จะเล่าเรื่องแฟน เรื่องแม่ให้ฟังบ่อยๆๆ น้องเขามีแฟนแล้วแฟนเขาก็นอนรอ นั่งรออยู่ที่ห้อง ใจหนึ่งเราก็อยากได้งาน ใจหนึ่งเราก็อยากให้กลับ เพราะเราเริ่มกลัวความรู้สึก กลัวผิดศิล ตลอดเวลาที่น้องเขาอยู่ด้วย จิตใจว้าวุ่น สวดมนต์ไม่ได้เต็มที่เลย ทั่งที่ตั้งใจจะรักษาศิลให้บริสุทธิ์ ความรู้สึกเริ่มมาทีละน้อย แต่ทุกอย่างก็สอนตามปกติ ท่ามกลางญาิต และลูกๆๆอยู่ด้วย สุดท้ายน้องเขาก็สอนงานให้เราเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็น งานสร้อย ต่างหู แหวน ข้อแขน ตามที่เราต้องการ แต่อีกสิ่งที่เราได้ ก็คือ ความรู้สึกแปลกๆๆตามมาด้วย รู้สึกนึกถึงอยู่ตลอด คิดตลอด ทั้งๆๆที่รู้ว่ามันผิด แค่คิดก็ผิดแล้ว น้องเขาอยู่จนไปส่งเราที่แอร์พอร์ต เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก แค่ความรู้สึกหลงๆๆๆ หรือมารจะมาทำให้เราทำความดีไม่ได้ ความคิดต่างๆๆก็เข้ามา ผิดศิลไหม ผิด ไม่ผิด อยู่นั่นแหละ จนเราออนเฟรส น้องคนนี้ก็ออน ชนกับเรา เขาบอกว่านั่งรอเวลาว่าเราตื่นนอนกี่โมง เวลามันต่างกัน สิบห้า ชั่วโมง เขาบอกว่าคิดถึงเรามาก กะเวลาเราตื่นแล้วจะได้โทรคุยกับเรา ตลอดเวลาที่มีงานสอนกัน เราไม่เคยพูดอะไรผิดปกติ แต่มันสัมผัสได้ความรู้สึกมันเปลี่ยน
ปัญหาก็คือ
น้องเขามีแฟนแล้ว ส่วนเราก็มีแฟนแล้วแถมมีเรือพ่วงอีก
เรากลัวผิดศิลมาก พยายามจะห้ามใจ บางวันทำอะไรไม่ได้เลย จนต้องนั่งสวดมนต์มองหน้าพระ แล้วขอให้ท่านให้คำตอบ และทางออกที่ดีให้กับข้าพเจ้าด้วยเถิด ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลย มันจะจบอย่างไร

 

ปัญหามันอยู่ที่ เขามีแฟนแล้ว กับเรามีแฟนแล้ว

ถ้าเขาไม่มีแฟน เราไม่มีแฟน ก็หมดปัญหาใช่มั้ยครับ ? ง่ายดี หรือยังไง

ต่างคนต่างมีแฟนแล้ว ก็จบสิครับ ตัดปัญหา หรือจะรอใ้ห้มี โอกาส แบบ จขกท. ก็ตามใจครับ แล้วเรือพ่วงคืออะไรครับ พิมพ์มาให้ชัดเจนไปเลยครับ เรือพ่วงนี่มันถ่วงหรือมันหนักยังไง จะตัดเรือพ่วงทิ้งเลยดีมั้ยครับเบาดี อ่าน เรื่องราวของ จขกท. มาบ้างมั้ยครับ ถ้าไม่ได้อ่านกลับไปอ่านอีกรอบ

 

ความรู้สึก...บวกอารมคิดปรุงแต่งเก็บไปฝันและจินตนาการระหว่างเพศชายกับหญิงขาดความยับยั้งชั่งใจประมาทซึ่งมีกันทั้งสองฝ่าย สุดท้ายก็ลงเอยแล้วทำเป็นมาเสียใจภายหลังว่าเราผิดไปแล้วทั้งคู่ แล้วยังซ้ำเรื่องเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงได้เลิกคู่เดิม มาอยู่ด้วยกันเป็นคู่ใหม่แล้วก็เกิดเรื่องแบบเดิมอีกกับคนต่อไป...เป็นเรื่องราวที่มีอยู่จริงในสังคมปัจจุบันซึ่งนับวันจะมีมากซะด้วย ใครจะไปรู้ มารู้ตัวอีกทีก็สายแล้ว ทำอย่างไรวันนี้จึงจะหนีอบายภูมิได้ วิธีแก้ให้รีบแก้ไขค้นหาสาเหตุมาจากอะไร ภายในจิตใจที่ว้าวุ่น หรือภายนอกที่มากกระทบทางสายตา มันเย้ายวนสุดจะห้ามใจได้ ผู้ที่ฝึกจิตดีแล้วต้องตามให้ทันพิจารณา เรื่องรัก ความใคร่ ความฟุ้งซ่านราคะตัวสำคัญที่ร้อนรุ่มอยู่ในตัวให้มาก เราหลงคนน้ันด้วยสาเหตุอันใด เรื่องใด ผลตามมาเสียมากน้อยอย่างไร หรือหลงเพราะความสวยความงาม หากเถือเนื้อลอกหนังออกจะเหลืออะไรหรือเห็นกระดูกเอาไหม เพราะส่วนมากมาจากเรื่องนี้ หรือไม่ก็เป็นบ้าเพราะเขายกยอเกินเหตุหลงว่าเกิดมาไม่เคยได้ยินจากใครเขาว่าเราสวยอยากได้ยินได้ฟังอีก เคลิบเคล้มหลงไหลอยากได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่แหละน๊า..คนเราหากเอาเหตุผลพิจารณาตั้งหลัก หมั่นฝึกฝนสมาธิให้กล้าแกร่งแล้วมาหักล้างตามทางปฏิบัติมีทำนองคลองธรรม ก็จะได้ละได้ไม่ยากเย็นเพียงแต่ไม่ค่อยพิจารณาเพราะมันอยู่ใกล้ตัว ถ้าทำได้ขนาดนี้ก็ไม่แน่นักว่าจะรอดจากไปรับกรรมที่หนักหลือประมาณ สุดๆ ในยมโลก หากทำไม่ได้ก็อย่าเผลอไปทบทวนเรื่องนี้ก่อนจิตออกจากกายก็แล้วกัน โลกยุคนี้ถึงได้วุ่นวายตามคำทำนายของพระพุทธองค์

 

ขอบคุณนะคะ สำหรับความคิดเห็น เข้าใจคะ เพราะสังคมมันเป็นอย่างนั้นจริงๆๆ

ถ้ามันเป็นความรุ้สึกชั่ววูบก็คงดีคะ และข้าพเจ้าก็อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะไม่มีใครมานั่งรอคนที่มีครอบครัวถึงสองสามปีหรอกคะ
แต่ถ้ามันเป็นวิบากกรรม เหมือนกับที่ผู้รู้บอกไว้ มันก็จะยาวไปถึงสองถึงสามปี หรือมากกว่านั้น ข้าพเจ้าเข้าใจคะ ใครทำอะไรไว้ ก็ต้องได้รับอย่างนั้น นั่นคือกฎแห่งกรรมคะ ข้าพเจ้าพยายามที่จะหยุดกรรม โดยหาวิธีแก้ ทั้งๆๆที่รู้มันแก้ไม่ได้ ถ้าจะให้จบมันก็จบได้ แต่อยากจบดีๆๆคะ เพราะมันมีเรื่องธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ข้าพเจ้าไม่ได้เชื่อเรื่องภพชาติ แต่โชคชะตาวางแผนให้หมดแล้วโดยข้าพเจ้าไม่รู้ตัว ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่วิ่งเอาเบอร์ไปให้ผู้ชาย ชาติที่แล้วคงทำผิดศิลข้อสามมามาก มันก็เลยมีบททดสอบแบบนี้มาเรื่อยๆๆทั้งๆๆที่ไม่ได้ต้องการ หรือตั้งใจเลย ตั้งแต่แต่งงานก็สัญญากับตัวเองจะไม่แต่งงานอีก ตลอดเวลาแปดปีที่แต่งงาน แม้จะทุกข์มากกว่าสุขก็เต็มใจที่รับมัน เงินมีเยอะแยะ แต่ไม่เคยมีความสุขเลย ทั้งๆๆที่ไม่เคยเที่ยว ไม่ดื่ม ทำกับข้าวดูลูกดูแลบ้านตั้งใจว่าจะใช้หนี้กรรมให้หมด หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะปลดปล่อยเรา แล้วจะอยู่คนเดียวเมื่อลูกโต จะทำงานศิลปะออกขายทั่วโลก แค่นั้นเอง ผู้รู้บอกว่าเขาไม่ปล่อยเราแน่ ทั้งสามีเราและน้องเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา ใช้ให้หมดอย่าหนี เพราะหนีก็จะต้องเจออีก สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด สวดมนต์บทเมตตาใหญ่ ให้เขาทั้งสอง นั่งกรรมฐาน ขออโหสิกรรม ข้าพเจ้าก็คงจะทำได้แค่นี้มั้ง เหมือนจะง่ายนะที่ต้องต่อสู้กับโชคชะตา ต้องรวบรวมกำลังใจ กำลังกาย สติ ทุกอย่างๆๆให้ผ่านไปได้ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในสถาณการณ์แบบนี้อาจไม่เข้าใจ ศิลข้อสามเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถึงมีคนสามารถตายเพราะศิลข้อนี้ ขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็น แค่จะบอกว่าจะทำให้ดีที่สุด และจะหยุดมันให้ได้คะ

 

บุญมีแต่กรรมบัง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ตอนนี้ท่านก็เท่ากับใช้กรรมไปแล้ว....ที่เหลือก็ระวังจิตใจให้ดีๆ

เฮ้อ...ยังเหลือเราที่ยังต้องใช้กรรมกับการที่เคยผิดศีลข้อสามไว้แต่เก่าก่อนแน่ๆเลย ทำให้ตอนนี้ต้องอดทนสุดๆ ชีวิตคู่ทำให้เห็นทุกข์แล้วก็เห็นธรรม ถ้าเลือกได้อยากจะไปบวชถือศีลตลอดชีวิตเหมือนคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

 

ไม่เห็นด้วย รู้ทั้งรู้ยังทำ ทุกข์สุขอยู่ทีใจ จิตเป็นใหญ่ใจเป็นประทาน บาปบุญใครทำใครทำใครได้

 

เหมือนคุณแอบหวังว่าเขาจะรอน่ะค่ะ อยากรอเลยค่ะ สิ่งที่เราเลือกครั้งแรกย่อมดีที่สุด แต่ถึงสิ่งที่เราเลือกครั้งแรกจะไม่ดี แต่เขาคือคนที่คุณเลือกแล้วน่ะค่ะ ให้มองว่า เขาคือคนที่เคียงข้างคุณตลอดมา และจะอยู่เคียงข้างกันตลอด ไปจนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายไป แบบนี้คุณจะได้รู้สึกหวงแหนในความสัมพันธ์ รักษาความสัมพันธ์นั้นให้ดีที่สุดค่ะ อย่าไปคิดว่าเป็นกรรมเก่าฝ่ายเดียวน่ะค่ะ ให้คิดถึงการกระทำของคุณด้วยว่าที่ผ่านมาวางตัวถูกมั้ย กรรม ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก แต่ถ้าคุณมีสติพอ คุณก็จะควบคุมการกระทำของตัวเองได้น่ะค่ะ ทำอะไรฝืนความรู้สึกอาจจะทรมาณใจตอนแรกๆ แต่ไม่มีทางเสียใจทีหลังค่ะถ้าเราคิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งถูกต้อง

 

ท่านเจ้าของกระทู้เจ็บปวดเช่นไร แฟนเก่าที่คุณทิ้งเขามาก็คงจะไม่ต่างจากความรู้สึกของคุณในตอนนี้หรอกนะครับ ไม่ได้มาซ้ำเติมนะครับ ผมเองก็ได้เมียนิสัยเจ้าชู้ รู้สึกหลายๆครั้งว่าเขาอยากได้คนที่ดีกว่าตัวเรา คงจะอยากได้คนรวยๆมาส่งเสียเขา แต่ก็ยังรักเขามาก สุดท้ายก็ต้องทำใจว่า เราทำดีที่สุดแล้ว แล้วถ้าเขาจะทิ้งเราจริงๆคงเป็นเพราะเราต้องใช้หนี้กรรมเขา เราก็ทำดีกะเขาเหมือนเดิมแล้วก็ส่งเสียลูกไปตามหน้าที่ก็พอ

 

ความเห็นส่วนตัว..........นั่นเป็นเพราะว่าคนเรามักไม่เชื่อว่านรก-สวรรค์มีจริง เป็นเรื่องโกหก หลอกลวง เรื่องแต่งขึ้นมา จึงมักทำตามใจตนเองแม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็ตาม.......ถ้าคนเราเชื่อในเรื่องนรก-สวรรค์ ผมคิดว่าคงไม่มีคนชั่วในโลกนี้แน่นอน ผมยืนยัน นั่งยัน และนอนยันเลยว่า.....นรก-สวรรค์มีจริง.....ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น.

 

สู้ต่อไปครับ เป็นกำลังใจให้ครับ