ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง"
ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556

ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงยังคงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์นี้ไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ประกาศ ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 22.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

23.00 น. 24-02-2013 จาก TSR พายุโซนร้อน TC. 17S บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไซโคลนมีชื่อว่า RUSTY ความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 45 น๊อต ทิศทางการเคลื่อนที่ยังคงมุ่งหน้าขึ้นฝั่งที่ Port Hedland

 

23.00 น. 24-02-2013 จาก TSR พบพายุโซนร้อน TC. 18S บริเวณใกล้เกาะ COCOS มีความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 35 น๊อต ทิศทางการเคลื่อนที่มุ่งหน้าออสเตรเลีย

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง"
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556

ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงยังคงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า

ประกาศ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง"
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556

ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชน
ในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า

ประกาศ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.


ใต้เจอฝนตกหนักอ่าวไทยคลื่นสูง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรีและตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม ทะเลมีคลื่น 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

ฝนถล่มพัทลุงน้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน



เกิดฝนถล่มพัทลุง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและนาข้าวของราษฎร

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรและนาข้าว สวนยางพารา ของชาวบ้านใน ต.ชะรัด ต.กงหรา ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา ต.ชุมพล ต.อ่างทอง อ.ศรีนครินทร์ ต.นาโหนด ต.ปรางหมู่ ต.เขาเจียก ต.โคกชะงาย อ.เมือง ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน โดยระดับน้ำสูงเฉลี่ย 80 ซ.ม-1 ม. โดยเฉพาะถนนสายรองในหมู่บ้านหลายสาย มีน้ำท่วมสูง รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง

ในขณะที่ชาวบ้าน หมู่ 579 ต.ชะรัด อ.กงหรา ต้องเร่งอพยบสิ่งของขึ้นที่สูงเป็นการด่วน หลังมวลน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดได้ไหลทะลักลงมาอย่างรวดเร็ว และท่วมในหมู่บ้าน

ขณะที่ทางจังหวัดได้ออกแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสียงภัยริมป่าเทือกเขาบรรทัด ใน อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน อ.ศรีนครินทร์ อ.ศรีบรรพต ระวังน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม พร้อมเตือนประชาชนเตรียมอพยพ หากมีน้ำป่าไหลแรงและสีแดงขุ่น โดยเช้าวันนี้วัดปริมาณน้ำฝนได้มากที่สุด 165 มม. ที่ ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต

ที่มาจาก INN

 

ระบบเตือนภัยอุกกาบาตถล่มโลก



เกิดกระแสตื่นตัวไปทั่ว ทั้งสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ (นาซา) มหาวิทยาลัยและองค์กรเอกชนในอเมริกากำลังทำงานเพื่อระบบเตือนภัยอุกกาบาตที่สามารถตรวจจับวัตถุต่าง ๆ จากอวกาศ เหมือนอย่างอุกกาบาตที่ตกในแถบเทือกเขายูราลของรัสเซีย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา จนทำให้มีคนบาดเจ็บกว่า 1,000 ราย และกระจกหน้าต่างแตกกระจาย เพราะคลื่นเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนโซนิค บูม (ความเร็วเหนือเสียง) ของอุกกาบาตที่วิ่งผ่านชั้นบรรยากาศโลก

แต่นาซากล่าวย้ำว่า เหตุการณ์ในเทือกเขายูราลไม่เกิดขึ้นบ่อย พอล โชดาส เจ้าหน้าที่สำนักงานโครงการวัตถุใกล้โลกของนาซาที่ห้องปฏิบัติการทดลองในเมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวคาดหมายว่า เหตุการณ์ที่อุกกาบาตถล่มรัสเซียจะเกิดขึ้นทุก ๆ 100 ปีโดยเฉลี่ยนาซา ประมาณการณ์ว่า ก่อนที่อุกกาบาตจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกที่บริเวณเหนือประเทศรัสเซีย อุกกา บาตลูกนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 17 เมตร และมีน้ำหนัก 10 ตัน สะเก็ดที่แตกกระจายของอุกกาบาตก็มาจากการระเบิดอย่างรุนแรง มีอานุภาพเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นทีขนาด 500,000 ตัน

วันเดียวกันนั้น อุกกาบาตอีกลูกซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 45 เมตร และถูกตั้งชื่อว่า “2012 DA 14” ได้เคลื่อนตัวผ่านโลก แต่ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เพราะอุกกาบาตลูกนี้แค่วิ่งเฉียดโลกเท่านั้น แต่ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า ถ้าอุกกาบาต “2012 DA 14” พุ่งชนโลก มันจะทำลายเมืองใหญ่จนสิ้นซาก ซึ่งน่ากลัวกว่าอุกกาบาตตกในรัสเซียเสียอีก

ลินด์ซีย์ จอห์นสัน ผู้จัดการโครงการวัตถุใกล้โลก (เอ็นอีโอ) ของนาซาบอกว่า เมื่อ 10 ปีก่อน นาซาไม่สามารถตรวจพบ “2012 DA 14” แต่นาซาสร้างกระบวนการเรียนรู้วิธีค้นหาดาวเคราะห์น้อย จอห์นสันกล่าวอีกว่า มีวัตถุต่าง ๆ มากมายที่เคลื่อนตัวอยู่รอบ ๆ ใกล้โลกของเราประมาณครึ่งล้าน และเป็นเรื่องยากในการติดตาม เพราะดาวเคราะห์พวกนี้มีขนาดเล็ก และเพื่อให้สอดคล้องต่อเป้าหมายที่สภาคองเกรสกำหนดไว้ในปี พ.ศ. 2541 นาซาได้ค้นพบและจัดเก็บรายชื่อดาวเคราะห์ประมาณร้อยละ 95 ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 กิโลเมตรหรือเกินกว่านั้น ซึ่งอยู่ในวงโคจรรอบดาวอาทิตย์ของโลกและอาจเป็นตัวการสร้างความหายนะครั้งใหญ่

โครงการวัตถุใกล้โลกที่ปัจจุบันนาซายังคงติดตามและค้นหาอุกกาบาตกับดาวหางที่เฉียดโลก ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่ส่งเข้าสู่วงโคจรและที่อยู่บนพื้นโลก ทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์สามารถประเมินได้ว่า วัตถุนอกโลกที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เป็นภัยอันตรายต่อโลกของเราหรือไม่ ด้วยระบบนี้กล้องโทรทรรศน์ที่ชื่อว่า อาเรซิโบ เรดิโอ เทเลสโคป ในเปอร์โตริโก ซึ่งมีเสาอากาศขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 305 เมตร สามารถเฝ้าดูความเคลื่อนไหวบนท้องฟ้าได้ถึง 1 ใน 3 และตรวจหาอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่

หอดูดาวที่สร้างขึ้นหลายแห่งทั่วโลกทั้งหมด จะส่งข้อมูลไปยังไมเนอร์ แพลเน็ต เซ็นเตอร์ ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากนาซา และดำเนินการโดยหอสังเกตการณ์ดาราฟิสิกส์สมิธโซเนียน เพื่อสหภาพดาราศาสตร์ระหว่างประเทศในกรุงปารีสของฝรั่งเศส แต่ในช่วงเวลาที่งบประมาณตึงตัวเช่นนี้ ทำให้นาซากำลังพยายามพัฒนาระบบติดตามวัตถุขนาดเล็กในอวกาศ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 150 ล้านบาท อยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาวายมีชื่อเรียกว่า แอทลาส (Asteroid Terrestrial-Impact Alert System )

คณะนักวิจัยบอกว่า แอทลาส ซึ่งเฝ้าสังเกตท้องฟ้าทุกคืน จะสามารถตรวจหาวัตถุนอกโลกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 45 เมตร
ได้ล่วงหน้าเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนที่อุกกาบาตจะพุ่งชนโลก ส่วนอุกกาบาตที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 150 เมตร ระบบตรวจจับ ซึ่งจะใช้การได้ในปลายปี พ.ศ. 2558 จะบอกล่วงหน้า 3 สัปดาห์

จอห์น ทอนรี ผู้เชี่ยวชาญของแอทลาสกล่าวว่า เป้าหมาย คือ การค้นหาวัตถุนอกโลก และเตือนภัยล่วงหน้าในเวลาที่เพียงพอจะช่วยปกป้องชีวิตผู้คนบนโลก อีกทั้งยังให้เวลาในการอพยพประชาชน การหามาตรการปกป้องอาคารบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนเฝ้าระวังคลื่นยักษ์สึนามิจากการที่อุกกาบาตตกในมหาสมุทร ระบบดังกล่าวมีความไวอย่างมาก ยกตัวอย่าง เช่น สามารถตรวจหาไม้ขีดไฟที่ลุกโชนในนครนิวยอร์ก และสามารถมองเห็นได้
จากระบบตรวจหาแม้อยู่ไกลถึงนครซานฟรานซิสโกของรัฐแคลิฟอร์เนีย

แต่ความพยายามของนาซานั้น อดีตมนุษย์อวกาศสหรัฐหลายคนเชื่อว่ายังไม่เพียงพอ ทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์กำลังดำเนินการสร้างกล้องโทรทรรศน์เอกชนครั้งแรก เพื่อค้นหาและติดตามอุกกาบาต เพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ องค์กรนี้มีชื่อว่า บี 612 กำลังพยายามระดมเงินทุน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 13,500 ล้านบาท เพื่อสร้างและติดตั้งกล้องโทรทรรศน์อวกาศในวงโคจรรอบดาวอาทิตย์ ด้วยระยะห่างจากโลก 273 ล้านกิโลเมตร เพื่อตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ หลังจากที่โลกมีระบบเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ คราวนี้ก็ถึงเวลาของระบบเตือนภัยอุกกาบาตกันแล้ว.

ที่มาจากเดลินิวส์

 

ปากีสถานเผชิญไฟดับทั่วประเทศกว่า 2 ชั่วโมง


เกิดไฟฟ้าดับทั่วประเทศปากีสถานเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ภายหลังโรงไฟฟ้าหลักประสบปัญหาทางเทคนิคจนไม่สามารถจ่ายกระแสไฟไปยังสถานีย่อยทั่วประเทศได้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า เกิดไฟฟ้าดับทั่วประเทศปากีสถานเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง หลังจากระบบล่มที่โรงไฟฟ้าแห่งใหญ่ เป็นเหตุให้สถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าต่างๆ ต้องหยุดทำงานทั่วประเทศ ขณะที่ การตัดไฟในปากีสถานถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคที่น้อยเกินไป แต่การเกิดไฟดับทั่วทั้งประเทศไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย


นายไร ซิคันดาร์ เจ้าหน้าที่บอกว่า เหตุไฟดับทั่วประเทศเมื่อคืนวานนี้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าในจังหวัดบาลูชิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าได้วันละ 1,200 เมกะวัตต์ ประสบปัญหาทางเทคนิค จนไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ส่งผลให้สถานีจ่ายไฟฟ้าทั่วประเทศต้องหยุดชะงักไปด้วย อย่างไรก็ตาม สถานีจ่ายไฟฟ้าทั้งหมด 24 แห่งในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงปากีสถาน ได้กลับมาทำงานตามปกติ เช่นเดียวกับจังหวัดอีก 4 แห่งก็เริ่มมีไฟฟ้าใช้ในบางพื้นที่แล้ว ทางการปากีสถานจะดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจนไฟฟ้าดับทั่วประเทศ

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ฝนกระหน่ำโจมตีฟิจิเส้นทางเดินรถเสียหาย


พายุฝนกระหน่ำโจมตีฟิจิ เกิดความเสียหายบางเส้นทางเดินรถหลายเส้นทาง จนไม่สามารถเข้าถึงบางพื้นที่ในประเทศ

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ในวันนี้ (25 ก.พ.) เกิดพายุฝนตกกระหน่ำโจมตีท้องถนนในประเทศฟิจิ (Fiji) ส่งผลกระทบรุนแรงให้กับผู้ใช้รถบนท้องถนน เนื่องจากความแรงของพายุและฝนตกหนัก ทำให้ถนนบางเส้นทางได้รับความเสียหาย ทั้งยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับทุกทางแยกของเส้นทางอีกด้วย นอกจากนี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารงานของเส้นทางจราจรของฟิจิ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ ประเทศฟิจิ กำลังถูกโจมตีไปด้วยสภาพอากาศที่ย่ำแย่อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางภาคตะวันตกของประเทศ ที่แม่น้ำบางสายเริ่มล้นเอ่อรบกวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง

อย่างไรก็ตาม รายงานเบื้องต้นนั้น ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่อย่างใด

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง"
ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556

ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์นี้ไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า

ประกาศ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.

 

กรมอุตุเตือนพื้นที่ฝนตกเกินกำหนด (มากกว่า 90 มม. ใน 24 ชม.) เตือนประชาชนระวังน้ำป่าไหลหลาก
จ. นครศรีธรรมราช 4 ตำบล
1. ต.บ้านใหม่ 135.5 มม.
2. ต.ไชยบุรี 94.5 ,,
3. ต.ร่อนพิบูล 105 ,,
4. ต.เชียรเขา 94 ,,
จ. พัทลุง 16 ตำบล
1. ต.ตำนาน 127 มม.
2. ต.ปันแต 117 ,,
3. ต.บ้านสวน 157.5 ,,
4. ต.ฝาละมี 106 ,,
5. ต.หารเทา 108.8 ,,
6. ต.เขาชัยสน 177.5 ,,
7. ต.จองถนน 217.5 ,,
8. ต.เขาหัวช้าง 91 ,,
9. ต.ควนเสาธง 118.5 ,,
10. ต.ป่าบอน 101 ,,
11. ต.หนองธง 120.5 ,,
12. ต.เขาปู่ 90.5 ,,
13. ต.ตะแพน 115.5 ,,
14. ต.ท่ามะเดือ 134 ,,
15. ต.บ้านนา 114 ,,
16. ต.ชุมพล 102 ,,
จ.สงขลา 1 ตำบล
1. ต.ชุมพล 102 มม.

 

13.00 น. 25-02-2013 จาก TSR พายุไซโคลน RUSTY ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุไซโคลนระดับ 1 แล้วความเร็วลมศูนย์กลางที่ 65 น๊อต ทิศทางการเคลื่อนที่ยังคงมุ่งหน้าเข้าหา Port Hedland

 

แผ่นดินไหวเขย่าตึกในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น


เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริคเตอร์ ทำให้ตึกรามบ้านช่องในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นสั่นไหว แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ และคลื่นสึนามิ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า เกิดแผ่นดินไหววัดได้ 5.7 ริคเตอร์ในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อาคารต่างๆ ในกรุงโตเกียวสั่นไหวเป็นเวลาราว 30 วินาที แต่ไม่มีรายงานคลื่นสึนามิ ขณะที่ สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคแจ้งว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทางเหนือของกรุงโตเกียว

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.23 น. ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น หรือตรงกับ 14.23 น. ตามเวลาในไทย โดยศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนอยู่ห่างจากเมืองมาเอะบาชิไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 57 กิโลเมตร อีกทั้งห่างจากกรุงโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 143 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 9 กิโลเมตร ด้าน นายทากายูกิ ฟูกูดะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายดับเพลิงของเมืองนิกโกในจังหวัดโตชิงิ ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว บอกว่า แผ่นดินไหวราว 10 วินาที แต่ไม่มีข้าวของเสียหาย ถึงกระนั้นมีรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับกำแพงเมืองพังถล่มลงมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ข่าวนี้ไม่มีการยืนยัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนมีนาคมปี 2554 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงขนาด 9.0 ริคเตอร์ในใต้ทะเลของญี่ปุ่น ทำให้มีคลื่นยักษ์สึนามิถาโถมเข้าใส่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ กวาดทำลายชุมชนต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในแถบชายฝั่งจนราบเรียบ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 19,000 ศพ

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

น้ำท่วมใหญ่ภาคตอ.ออสเตรเลีย-ดับแล้ว2ราย


ภาคตะวันออกของออสเตรเลีย เผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตั้งแต่นครซิดนีย์ ไปจนถึงรัฐควีนสแลนด์ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดอยู่ใน รัฐนิวเซาท์เวลส์ แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เมื่อระดับน้ำท่วมค่อยๆ ลดลง โดยหน่วยฉุกเฉินประเมินว่า มีประชาชนติดอยู่กลางน้ำท่วมประมาณ 20,000 คน ซึ่งทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

ทางด้าน จูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีหญิงของออสเตรเลีย ได้เตือนประชาชน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย โดย มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน

ทั้งนี้ อุทกภัยในพื้นที่ทางภาคตะวันออก มีสาเหตุมาจากพายุ ซึ่งบางพื้นที่แจ้งว่า มีพายุทอร์นาโดขนาดเล็กเกิดขึ้น สร้างความเสียหายอย่างหนัก ทั้ง หลังคาบ้าน, ต้นไม้ และเสาไฟฟ้า ถูกพายุพัดหักโค่น บ้านเรือนหลายหลังถูกพายุพัดพังราบ

ที่มาจาก INN

 

ประกาศตามหาคนหาย
จขกท sunny ไปไหน ไฟฉายทุกคนคงไม่ติดใจ อยากได้แล้วกลับมารายงานตัวด้วย
ไม่ก็ เวปมาสเตอร์ ตั้งชื่อหัวข้อใหม่ปักหมุด ให้ท่าน engineer 03 คอยแจ้งข่าวสมาชิกแทน

 

26-02-2013

ใต้ตอนล่าง ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง



กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้นและมีหมอกในตอนเช้า

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

—ISN 07

 

น้ำท่วมพัทลุงบางจุดสูง1ม.-อุตุเตือนล่างนครศรีฯฝนหนัก



สถานการณ์น้ำท่วม จ.พัทลุง ยังไม่วิกฤติ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ ขณะที่ น้ำป่าเริ่มเข้าบางพื้นที่เเล้ว ส่วน อ.ควนขนุน อ.นาโหนด และเขตชานเมือง น้ำสูงเกือบ 1 เมตร ด้าน กรมอุตุฯ เผย ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนาแน่น

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สื่อสารกู้ภัย จ.พัทลุง รายงานสถานการณ์น้ำที่ไหลทะลักว่า ล่าสุด
ฝนซาเม็ดแล้ว ซึ่งสถานการณ์โดยรวมยังไม่ถึงขั้นวิกฤต โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานระดมกำลังเข้าพื้นที่ ส่วนพื้นที่ ที่น่าเป็นห่วงจะเป็นพื้นที่ หมู่ 5 ,7, 9 อ.กงหรา น้ำป่ากำลังเข้าพื้นที่ ขณะที่หมู่ 4, 6, 8 อ.ควนขนุน อ.นาโหนด และเขตชานเมือง น้ำอยู่ที่ระดับเกือบ 1 เมตร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กอายุ 3 ขวบ เสียชีวิตขณะเล่นน้ำหน้าบ้าน บนถนน 41 เพชรเกษม อ.เมืองพัทลุง นอกจากนี้ใน อ.ศรีบรรพต น้ำป่าเริ่มไหลเข้าพื้นที่เช่นกัน โดยทางแยกเข้าสู่ อ.ศรีบรรพตพ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จุดนี้มีด่านตำรวจคอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำเส้นทาง ส่วน อ.เขาชัยสน น้ำอยู่ที่ระดับ 60-70 เซนติเมตร

ที่มาจาก INN

 

ปภ.ประสานผู้ว่ารับมือน้ำท่วม10จ.ใต้

อธิบดีกรมป้องกันฯ เผยประสานผู้ว่าฯ 10 จ.ภาคใต้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ ทั้งเรื่องฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม พร้อมทั้งมีคำสั่งห้ามเข้าเขตอุทยานฯ และน้ำตก รวมไปถึงการเฝ้าระวังคลื่นลมในทะเล ล่าสุดได้แจ้งเตือนไปรวม 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา กระบี่ ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

ส่วนสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.พัทลุง คาดว่าจะคลี่คลายภายใน 1-2 วันนี้ หลังมีฝนตกหนักวัดได้ 208 มิลลิเมตร แต่ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้ว

อธิบดี ปภ.กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้นได้ประสานจังหวัดแจ้งไปยังองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นบูรณาการกำลังเฝ้าระวังจุดเสี่ยง 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเหตุเฉพาะหน้า และภายหลังน้ำลดแล้วจะเข้าไปสำรวจความเสียหายอีกครั้ง โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุสาธารณภัยได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784

อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งเตือนภาวะน้ำล้นตลิ่งเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มต่ำของ อ.เมือง และ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้เช่นกัน

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

ไต้ฝุ่น-ไซโคลน-ประกันภัย



ช่วงนี้สังเกตไหมครับว่า ภูมิอากาศของเราแปรปรวนแปลกๆ เมื่อเดือนที่แล้ว มีหลายวันที่แต่ละวันมีฤดูหนาว, ฤดูฝน, ฤดูร้อน ปนเปกันไปหมด?หลายคนคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

ผมเพิ่งกลับจากการประชุมของสหประชาชาติ ที่เรียกว่า "คณะกรรมการไต้ฝุ่นของเอเชีย" ที่มีนักวิทยาศาสตร์, วิศวกร, นักพยากรณ์ จาก 16 ประเทศ, กรมอุตุนิยมวิทยา, กรมชลประทาน, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของไทยเราก็ไปด้วย มีเรื่องที่น่าติดตามเพราะจะมีผลต่อคนไทยยิ่งหลายเรื่อง

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะเอามาปันความรู้กัน ก็คือว่า ผู้เชี่ยวชาญจากทุกประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า แนวโน้มของไต้ฝุ่น หรือไซโคลน ซึ่งแต่ก่อนแต่ไรก็จะวิ่งขึ้นฝั่งตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม...แต่หลังๆ เริ่มเห็นอาการแปลกๆ ไต้ฝุ่นหรือไซโคลนจะวิ่งเลาะเลียบชายฝั่ง ไม่ยอมขึ้นบกตรงๆ ก็เลยทำให้พลังและความเร็วใกล้จุดศูนย์กลางยังคงมีอานุภาพที่รุนแรงและก็จะไปสร้างความเสียหายตามชายฝั่งยาวตลอดแนวมากขึ้นๆ ดังเช่นไซโคลนแซนดี้ และไต้ฝุ่นบางลูกในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งก็เท่ากับว่า บ้านเรือน ทรัพย์สิน ชีวิตผู้คนที่ทำมาหากินตามชายฝั่งที่หนาแน่นนั้นจะได้รับผลกระทบเพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยสูงตลอดแนว

ในไทยเรานั้น มีด้ามขวานทองอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านมหาสมุทรอินเดีย พม่าเคยเจอพิษของไซโคลนนาร์กิสมาแล้ว จนตายเกือบสองแสนคน (ซึ่งความจริงวิ่งเฉี่ยวไทยไปนิดเดียวเท่านั้น) ส่วนด้านแปซิฟิกเราจะได้เห็นประเภทพายุเกย์, ลินดา เลาะเลียบชายฝั่งอ่าวไทย ทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ที่ยาวขึ้น

คนที่ทำมาหากินทั้งแหล่งประมง, แหล่งท่องเที่ยว และมีเมืองใหญ่อยู่หนาแน่นทั้งสองฝั่งของมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็น จ.ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ระนอง, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต และสตูล คงต้องมีการระวังและป้องกัน โดยเตรียมความพร้อมรับมือให้มากกว่าเดิมแล้วล่ะครับ

อีกเรื่องที่อยากจะเล่าคือ เรื่องที่บริษัทประกันสาธารณภัยของไทย ไม่กล้ารับประกันด้วยเบี้ยประกันต่ำกับโรงงาน, กับบ้านเรือน ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม เพราะบริษัทประกันเหล่านั้นไม่มีข้อมูลเรื่องการประเมินความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ เพราะหากสามารถประเมินเป็นรายพื้นที่ย่อยได้และแยกแยะความเสี่ยงในระดับต่างๆ ได้ชัดเจน ก็อาจจะกล้ารับประกันในเบี้ยต่ำ ซึ่งระหว่างกำลังงงไปงงมา เมื่อปีที่แล้วก็มีบริษัทประกันช่วงจากสหรัฐอเมริกาลงทุนจ้างนักภัยพิบัติประเมินความเสี่ยง ได้ข้อมูลที่สามารถเห็นความเสี่ยงหนักเบาของแต่ละพื้นที่ได้ชัดเจน (บริษัทประกันไทยไม่มี) จึงสามารถแบ่งส่วนของการตลาดในพื้นที่เคยน้ำท่วมไปได้มากมาย นับเป็นโอกาสที่เสียไปของบริษัทไทยเราอย่างน่าเสียดาย

นี่แหละครับ การเอาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีมาประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หรือเอามาใช้ในทางธุรกิจการค้าก็ตาม นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

คอลัมน์ ทอล์คออฟเดอะทาวน์ โดย ดร.พิจิตต รัตตกุล

 

พ่อเมืองยะลาสั่งเฝ้าระวังรับมือน้ำท่วม


ผู้ว่าฯยะลา สั่งเฝ้าระวัง เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมทุกพื้นที่ หลังฝนกระหน่ำตกในพื้นที่จังหวัดยะลา อย่างต่อเนื่อง

จากกรณีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยตอนล่าง ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 25 ก.พ. 2556 ระบุว่า ลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ที่บริเวณจ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์

ในส่วนของพื้นที่ จ.ยะลา มีฝนตกลงมาติดต่อกันเข้าสู่วันที่ 2 แล้ว และเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 26ก.พ. เกิดฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่อง ยังไม่ที่ท่าว่าจะหยุดตกแต่อย่างใด ทำให้ มวลน้ำจำนวนมาก ไหลมาจากพื้นที่อำเภอรอบนอกลงสู่คลองหลัก ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อระบายน้ำสู่แม่น้ำปัตตานี เกิดเอ่อล้นท่วมขังในหลายพื้นที่ได้

นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.ยะลา ได้สั่งการไปยัง นายเวโรจน์ สายทองแท้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลา ประสานไปยังศูนย์เฝ้าระวังและป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมประจำอำเภอทุกอำเภอ เพื่อเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ล้นสองฝั่งแม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในพื้นที่ที่เป็นที่สูง พื้นที่ภูเขา ใน อ.เบตง ธารโต และบันนังสตา ให้เฝ้าระวังและเตือนภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม

ระทึกน้ำป่าเทือกเขาเเก้วไหลท่วมรัตภูมิ จ.สงขลา



น้ำป่าจากเทือกเขาแก้วไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนบ้านเรือนประชาชนและถนนในหลายหมู่บ้านของ อ.รัตภูมิ ขณะที่เส้นทางสายเอเชียน้ำได้เอ่อล้นท่วมผิวจราจร

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. มีรายงานว่า ในพื้นที่ จ.สงขลา เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมากว่า 3 วัน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาแก้ว เขตรอยต่อ จ.สงขลา กับ จ.สตูล เอ่อล้นคลองภูมี และไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ หมู่ 3 และ หมู่ 4 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยเฉพาะเส้นทางเข้าหมู่บ้านนาปาบ ถูกน้ำท่วมถนนระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร เป็นระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร การสัญจรเข้าออกทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้น้ำป่ายังได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน และมีแนวโน้มระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้เส้นทางสายเอเชียบริเวณ 4 แยกคูหา อ.รัตภูมิ มุ่งหน้าไป จ.พัทลุง น้ำจากคลองภูมีได้เอ่อล้นท่วมผิวจราจร 1 ช่องทางการจราจร เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ ต้องนำแผงไฟสัญญาและกรวยจราจรมาวางกั้น เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร รวมทั้งบริเวณ 4 แยกคูหา ร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนบางส่วนถูกน้ำท่วมขังเช่นกัน


ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้เร่งสำรวจพื้นที่น้ำท่วม เนื่องจากสถานการณ์ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงเขา 8 อำเภอ ทั้ง รัตภูมิ หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา เทพา นาทวี สะบ้าย้อย และ จะนะ เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก.

ที่มาจาก เดลินิวส์