ผู้เฒ่าพเนจร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย yo09(), 13 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    ผู้เฒ่า ผู้ร่อนเร่พเนจร เพื่อค้นหาคำตอบให้กับชีวิต เล่าประสบการณ์จริง
    ยามที่มีชีวิตดั่งวนิพก เดินทางร่อนเร่พเนจรไปเรื่อยๆ..ค่ำไหนก็นอนนั่น..

    ..วันหนึ่งเดินไปถึงเขต จ. สุพรรณบุรี ผมเข้าไปในวัดเฉลิมเขต คิดว่าอยู่ใน
    อ. สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี หลวงพ่ออนุญาตให้ผมนอนที่ศาลาด้านใน ขณะ
    ที่ผมคุกเข่ากราบท่าน ผมลุกไม่ขึ้น ถ้าไม่มีอะไรมาเหนี่ยว ท่านเห็นผมไม่ลุก
    ท่านก็คุยกับผมไปเรื่อยๆ พอมืดแล้วผมก็ตะเกียกตะกายไปที่ศาลาให้ได้ พอ
    ไปถึงศาลา ผมก็พยายามดึงประตูเหล็กเลื่อนเปิด ทันทีที่มีเสียงดัง ก็มีเสียง
    เจ้าของศาลาซึ่งมีหลายตัวเห่าเสียงดัง ผมไม่ปรารถนาจะรบกวนหมาเหล่านั้น
    ที่เป็นเจ้าของพื้นที่อยู่ก่อน ผมไม่ควรเบียดเบียนเขา ผมนั่งลงและกล่าวกับเขา
    ด้วยเสียงดังพอประมาณว่า ผมเดินมาไม่ปรารถนาจะเบียดเบียนมนุษย์และ
    สัตว์ใดๆ ขอให้เขาอย่าได้รังเกียจผมเลย ขอให้เรามาเป็นเพื่อนกันเถิด ผมขอ
    นอนตรงนี้ ไม่เข้าไปรบกวนมากกว่านี้ เมื่อพูดได้ประมาณนี้เขาก็หยุดเห่า ผม
    คิดว่าการหยุดเห่าก็เป็นการอนุญาตให้นอนได้ และด้วยความเหนื่อยล้ามาก
    เมื่อผมล้มตัวลงก็หมดสติหลับไปทันที

    รู้สึกตัวอีกคร้ังเป็นเวลาดึกดื่นมากแล้ว ตอนนั้นความจำของผมมันเลือนลาง
    ผมไม่รู้ว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ที่นี่เป็นที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าได้กลิ่นสาบๆ คาวๆ
    แล้วก็มีอะไรมาสะกิดที่สีข้าง ผมจึงเอามือไปจับดู มันเป็นหนังที่ไม่มีขนและ
    สากๆ อีกฝั่งหนึ่งผมก็เอามืออีกข้างไปลูบอีก เพราะฉะนั้นทั้งซ้ายและขวาจึงมี
    หมาที่ไม่มีขนมานอนอยู่กับผม ทันทีที่ผมเอามือไปสัมผัสรู้ว่าเป็นหมา ผมก็มี
    ความจำคืนมา ความรู้สึกดีมันเกิดขึ้น เป็นความรู้สึกดีที่หมามันไม่รังเกียจผม
    แล้ว มันออกมานอนกับผม มันรับผมเป็นเพื่อนแล้ว คำพูดที่ว่าเราอย่าเบียด
    เบียนกัน มาเป็นเพื่อนกันเถิดผมขอนอนตรงนี้ ผมจำได้ว่าหมาไม่รังเกียจผม
    ผมเลยเอามือลูบมันทั้งที่อยู่ข้างซ้ายข้างขวา เพื่อบอกถึงความรู้สึกว่าเราเป็น
    เพื่อนกัน ตอนเอามือลูบ มันก็แสดงอากัปกิริยาตอบผมให้รู้ว่า มันพอใจที่ผม
    ลูบมัน ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ปรากฎขึ้นในใจผมตอนนั้นมันยิ่งใหญ่จริงๆครับ ผมมี
    ความสุข เกิดความปิติ เกิดความรู้สึกดีกับชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าคืนนั้นผมสิ้น
    ใจตายไปเพราะร่างกายมันถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายผมแข็งเย็นหมาเหล่า
    นี้คงไม่มานอนกับศพ แต่เพราะผมยังมีลมหายใจ มีไออุ่น ทำให้ตัวเองมีคุณค่า
    หมาเหล่านี้จึงมาซุกนอนข้างกายผม ความรู้สึกเห็นค่าของชีวิตปรากฎขึ้นในใจ
    ผมอย่างบอกไม่ถูก พรรณนาไม่ได้ ความรูสึกเพียงแค่ว่าเรามีลมหายใจอยู่เท่า
    นั้น มีร่างกายที่อบอุ่น แค่นี้ก็เป็นคุณแก่สัตว์เหล่านี้ ผู้เป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นสิ่ง
    ที่มหัศจรรย์จริงๆ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นสิ่งที่ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่
    สามารถคิดถึงความหมายนี้ได้ ไม่สามารถอ่านตำราเล่มใดเล่มหนึ่งเพื่อให้เกิด
    ความรู้สึกเช่นนี้ได้ คืนนั้นผมนอนหลับกับหมาเหล่านั้นอย่างมีความสุข ไปจน
    ถึงรุ่งเช้า..

    ผมเดินไป จนถึงวันหนึ่งมืดแล้วผมไม่มีที่นอน ผมไปพบขอทานพิการคนหนึ่ง
    เมื่อเขารู้ว่าผมไม่มีท่ีนอน เขาจึงชวนไปนอนกับเขา ที่นอนของเขาอยู่ใต้ถุน
    ศาลาและมีนำ้ครำ แล้วเขามีเตียงขาหักไปวางไว้อีกที่หนึ่ง วันนั้นเขาเก็บขวด
    ไปได้สามใบ เป็นขวดนำ้ดื่ม ไปถึงตรงนั้นเขาก็โวยวาย แต่ไม่ได้โวยวายผม
    เขาบอกว่าถุงปุ๋ยที่เขามีอยู่หนึ่งใบ และเขาเก็บขวดนำ้มาได้ก็จะเอาขวดนำ้ใส่
    ไว้ในถุงปุ๋ย แต่วันนี้ถุงปุ๋ยเขาถูกขโมยไปพร้อมกับขวดในถุง เขาพูดในเชิงบ่น
    ว่าคนขโมยใจดำแท้เลย ทำไมต้องขโมยถุงไปด้วย และขวดนำ้สามใบที่เขา
    เก็บมาในวันนี้ ถ้าไม่มีถุงใส่ คนก็ถือว่าไม่มีเจ้าของ ก็จะมีคนมาหยิบไปอีก
    ผมยืนฟังเขาพูดด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ คือผมไม่เคยคิดว่าขวดนำ้ที่เราดื่ม
    แล้วทิ้ง จะมีความหมายต่อชีวิตอีกชีวิตหนึ่งมากถึงขนาดนี้ มันเป็นสิ่งที่มหัศ-
    จรรย์มาก เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของเขามาก แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น
    ก็คือเมื่อก่อนเราอยู่ในฐานะผู้ให้ทาน เห็นขอทานอยู่ริมถนน เราจะให้หรือไม่
    ให้ เราก็มีความรู้สึกเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันหนึ่งเมื่อผมอยู่ในฐานะ
    ซึ่งขอทานเป็นผู้ให้ผม มันจึงเป็นความรู้สึกที่สำคัญ ยิ่งใหญ่..บอกไม่ถูก...

    ________( ยังมีต่อ )

    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Raron02.jpg
      Raron02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.9 KB
      เปิดดู:
      43
  2. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ครับ
    นิพพานชาตินี้กันเถอะ
    เบื่อแล้ว
    ทั้งร่างกาย ทรัพย์ และทุกสิ่งอย่างมั่นไม่เที่ยง ไม่ใช่เรา เบื่อ เบื่อ เบื่อ
    โมทนาสาธุ
    ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
     
  3. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    รอฟังต่อ ................
     
  4. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    ( มีต่อครับ )

    ..วันหนึ่งผมเดินไป หมดเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ หมดสภาพแล้ว ผมไปนอนอยู่ริมแม่นำ้
    ใกล้ถนน แล้วมีเด็กผู้ชายสามคนมามองดูว่าผมเป็นใคร เป็นคนขี้เมา คนบ้า ตายหรือ
    มีชีวิตประมาณนี้ ผมตั้งใจว่าถ้ามีเยาวชนเข้ามาใกล้ ผมจะทำให้เขาเห็นว่าผมไม่น่า
    กลัว เขาจะได้ไม่ตกใจกลัว ผมจึงพยายามชวนเขาคุย ขณะที่ผมคุยก็มีคุณยายคน
    หนึ่งซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นคุณยายของเด็กสามคนนั้นเดินมา ดูว่าหลานของเขากำลังคุยกับ
    ใคร เด็กสามคนรู้ว่าผมไม่มีสตางค์แล้วเดินมา เขาถามว่า เวลาหิวข้าว ลุงไปกินที่ไหน
    ผมบอกว่า ลุงก็ไม่รู้ว่าจะกินที่ไหน แล้วลุงก็ไม่กินข้าว เด็กถามต่อว่า ลุงไม่หิวหรือ
    ผมบอกว่า หิวสิ เด็กถามว่า แล้วลุงทำยังไงเวลาหิว ผมก็บอกว่า ดีเลย! วันนี้เป็น
    โอกาสของลุงแล้ว ในอดีตลุงมีข้าวกินทันทีเมื่อลุงหิว ลุงก็เลยไม่รู้ว่าเมื่อมันหิวถึงที่สุด
    แล้ว มันจะเป็นยังไง ตอนนี้ลุงได้โอกาสเรียนรู้ว่า ความหิวมันเป็นยังไง แล้วลุงก็จะได้
    เรียนรู้ความหิวนั้น

    ขณะที่คุย คุณยายแทรกขึ้นว่า แล้ววันนี้กินอะไรบ้างหรือยัง ผมหันไปมองท่านและ
    ตอบว่า ยัง ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหนนะ จะหาข้าวมาให้กิน แล้วท่านก็จากไป
    ประมาณสักไม่ถึง สิบนาที ท่านกลับมาพร้อมกับจานข้าว ท่านกล่าวว่า ข้าวเสร็จแล้ว
    แต่แกงยังไม่เสร็จ รอก่อนๆอย่าไปไหน แล้วท่านก็จากไปอีกครั้ง ผมก็คุยกับเด็กต่อ
    เพราะตอนนั้นเด็กกับผมเริ่มสนิทกันแล้ว เขานั่งลงคุยกับผม แล้วสักพักคุณยายกลับ
    มา ตอนนี้ท่านมีข้าวจานเดิมแต่มีแกงราดมาด้วย ท่านบอกว่าแกงปลาดุกร้อนๆ กินข้าว
    ก่อน ผมยกมือไหว้ท่าน ตอนนั้นผมหิวมากๆ ...ผมตักข้าวที่มีนำ้แกงและมีเนื้อปลาดุก
    ติดเข้าไปด้วย ..เคี้ยว..กลืน ผมไม่แน่ใจว่ามันเป็นความหมายอย่างไร อธิบายยากมาก
    แต่ผมจำได้ว่า ผมเคี้ยวไปได้สองคำ ....ผมนำ้ตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะ
    บอกว่า ทำไมผมต้องร้องไห้ นำ้ตาไหลขณะกินข้าว..กินข้าวเสร็จ ผมยกมือไหว้คุณยาย
    และกล่าวคำที่ออกมาจากใจ โดยไม่ได้คิดปรุงแต่งถ้อยคำเลย มันเป็นความรู้สึกล้วนๆ
    ผมกล่าวคำว่า " ขอบพระคุณแม่มากที่ให้ชีวิตผม ผมกินข้าวมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันมื้อ ผม
    ใช้เงินซื้อกินไป วันหนึ่งผ่านไปผมก็ลืมเสียแล้วว่าเมื่อวานกินข้าวมีกับเป็นอะไร แต่ข้าว
    จานนี้ที่แม่ให้ผม ผมจะไม่ลืมข้าวแกงปลาดุกนี้เลยตลอดทั้งชีวิตผม " ผมพูดไปแล้วก็
    ร้องไห้ พูดอะไรต่อจากนั้นไม่ได้ ตอนนั้นมีคนมามุงดูผมเยอะด้วย..

    ผมเอามาเล่าว่านี่คือ สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการมีชีวิตอยู่ ที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
    เลย คุณยายเห็นผู้ชายแก่ๆ คนหนึ่ง ร่างกายน่าทุเรศ เนื้อตัวสกปรก แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่
    คนบ้าเพราะพูดจารู้เรื่อง ผมรู้ว่านี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้รับรู้ว่า เมื่อเรา
    ไม่มีเงิน เรามีชีวิตอยู่และชีวิตของเราเกี่ยวโยงอยู่กับสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องของความเอื้อ
    เฟื้อ การแบ่งปัน การให้ ผมอยากบอกว่า ด้วยชีวิตที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะคุณยาย
    ถ้าผมจะเล่าเรื่องการให้อาหารที่คนอื่นให้ผม มีเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง มันมีพลังที่มหัศ-
    จรรย์..

    ผมเคยไปเจอสองสามีภรรยาที่เขาเป็นคนเก็บขยะอยู่ริมถนน และเขารู้ว่าผมไม่มี
    ข้าวกิน เขาขอให้ผมช่วยเดินไปกับเขา เขาจะซื้อข้าวให้ ผมพยายามจะปฏิเสธเพราะ
    รู้ว่าเขายากจน เขากลัวว่าผมจะไม่เชื่อใจเขา เขาถึงกับหยิบกระเป๋าสตางค์มาแบะให้
    ผมดูว่าเขามีสตางค์ ลุงไปเถอะ เราจะหาข้าวให้ลุงกิน เมื่อเขาสั่งข้าวให้ ช่วงที่ผมกิน
    ข้าว เขาคุยกันไม่น่าเชื่อว่าเขามีภาษาที่ไพเราะ ผู้หญิงพูดกับผู้ชายว่า พ่อ เพราะวันนี้
    เราถือศีลกินเจ เราจึงมีบุญได้พบลุง ได้ให้อาหารลุง ผมกลืนข้าวไม่ลงเลยครับ.....
    มันจุกอยู่ที่คอ..ผมพยายามกลืนข้าว ผมเงยหน้าบอกเขาว่า ผมต่างหากที่วันนี้มีบุญ
    เพราะผมเดินมาอย่างคนเร่ร่อนจรจัดจึงได้พบคุณทั้งสอง ได้กินข้าวของคุณ.. และที่ผม
    สะเทือนใจ เมื่อผมกินข้าวเสร็จ ผมยื่นสมุดเล่มเล็กๆที่อยู่ในกระเป๋าผม ทุกครั้งที่มีใคร
    ให้ข้าวให้นำ้ ผมจะยื่นสมุดปากกา ให้เขาช่วยเขียนชื่อที่อยู่ให้ด้วย เผื่อผมตายลง คน
    อื่นจะได้รู้ว่าก่อนผมตายมีใครช่วยผมบ้าง เขาหยิบปากกาไปเขียนชื่อ ชื่อ สุวิทย์ -
    บุญยิ่ง นามสกุล สีเมฆ ผมบอกว่าจะกรุณาให้ที่อยู่กับผมด้วยได้ไหม เผื่อผมจะได้ติด
    ต่อถ้าหากว่ายังมีชีวิตอยู่ เขารับสมุดคืนไป แล้วเถียงกันว่าจะเขียนที่อยู่อย่างไร
    ผู้หญิงเสนอว่า พ่อของเธอมีที่อยู่ ผู้ชายบอกว่า ถ้าเป็นที่อยู่พ่อ พ่อของเขาก็มีที่อยู่
    เขาเถียงกันว่าจะเขียนที่อยู่ของพ่อผู้หญิงหรือผู้ชาย ผมบอกว่าที่อยู่ใครก็ได้ เขียน
    เถอะ เพราะตอนนั้นผมสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าในสังคมที่ผมอยู่
    มาจนแก่ป่านนี้แล้ว วันหนึ่งผมจะได้พบเพื่อนมนุษย์ผู้อารีย์ แต่เขาไม่มีที่อยู่ในสังคมนี้
    เพราะฉะนั้น ตอนที่เขาเขียนที่อยู่ให้ ผมจึงยกมือไหว้เขา บอกไม่ถูกว่าทำไมผมจึงยก
    มือไหว้เขา มันไม่ใช่เพียงแค่เขาให้อาหาร แต่เขาให้ความหมายอะไรบางสิ่งบางอย่าง
    กับชีวิตผมเป็นล้นพ้น..

    ________________จบ

    ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มาก
    ก็น้อยครับ

    และขอบคุณเรื่องจากหนังสือ ดอกหญ้า อันดับที่ ๑๔๙ และรูปประกอบจาก
    wrote 107 .blogspot.com

    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     
  5. psri

    psri Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +44
    ชอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ดีๆให้ฟังครับ
     
  6. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เอาอีก............ประทับใจหลายอย่าง โดยเฉพาะที่2ผัวเมียพูดว่า พ่ิอ วันนี้เราถือศีลกินเจ เรามีบุญที่ได้ให้อาหารแ่ลุง
     
  7. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กุมภาพันธ์ 2013
  8. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    ใช่แล้วครับ ท่านผู้เฒ่าพเนจรท่านนี้ก็คือ อ. ประมวล เพ็งจันทร์ครับ
    หากท่าน bamrung สนใจอยากทราบเรื่องราวที่น่าประทับใจเพิ่มเติม
    หาอ่านได้จากหนังสือ เดินสู่อิสรภาพ นะครับ

    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     
  9. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ได้ยินมานานแล้ว เคยออกทีวีด้วย แต่ไม่เคยอ่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...