ปิดรับบริจาค ขอเชิญร่วมสร้างพระอุโบสถ ณ วัดห้วยน้ำทรัพย์ (พระธาตุวาโย)

ในที่สุดก็ผ่านเข้า อ.สนามชัยเขต ซิ่งตรงมาเรื่อยๆ จ๊ะเอ๋ เห็นป้ายพระธาตุวาโยอยู่ด้านขวาเล็กๆ (ขอบอกเล็กมา) ขับเลื้อยตามกันมาบนถนนดำ 2 เลน เห็นป้ายขวามือใหญ่โต วัดห้วยน้ำทรัพย์ พระธาตุวาโย เย้ๆๆ ถึงแล้ว เย้ๆๆ
เฮ้ย พี่Ketmit ไม่เลี้ยว พวกเราก็ได้แต่งงๆ แล้วก็ขับตามไปซักพัก ไฟเลี้ยวขวาคันหน้าที่มากับนางฟ้า เปิดแล้ว พวกเราก็หักพวงมาลัยเต็มสตีมพาขบวนตะลอนทั้งหมดเลี้ยวขวาเข้าถนนอีกเส้น พอเข้าไปถึง พี่Kermit ไหงมาถนนแดงอีกหล่ะนี่ ฮึๆๆ ลุยถนนแดงไปซักพักเห็นหลวงพ่อประทานพรท่านยิ้มรับ เย้ๆๆๆ สวัสดีเจ้าค่ะ

ลงจากรถด้วยความสงสัย รีบไปกระแซคนขับที่มีนางฟ้านำทางทันที่ พี่ๆๆไหงมาถนนแดงอีกหล่ะ ท่านผู้นำตอบให้หายสงสัย นางฟ้าเค้าบอกว่าทางมันสั้นกว่า อ๋อ นางฟ้าลงโทษ 5555 ข้อหาที่ตอนออกจากกรุงเทพ นางฟ้าให้ไปทางไหน ไม่เชื่อซะงั้น เลยเอาคืนช๊อตสุดท้าย ฮากันไปเต็มที่ อิออิ

 

แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่คาใจ queenie อยู่ ใครก็ได้ช่วยตอบที คือ
๑. queenie สงสัยว่าตอนที่เมืองล่มสลายนั้น พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์ไปอยู่ที่ไหน แล้วพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในพระเจดีย์องค์ปัจจุบันนี้ใช่องค์เดียวกันหรือเปล่า
๒. ยังไม่หายข้องใจเรื่องสีสันขององค์พระเจดีย์ค่ะ จะเห็นได้ว่าชั้นล่างสุดด้านนอกเป็นทอง การตกแต่งภายในรวมทั้งเสาพระนิพพานก็เป็นทองเช่นกัน ถัดมาชั้นสองด้านนอกเป็นสีน้ำเงิน เสาพระนิพพานที่ชั้นนี้ก็เป็ยสีน้ำเงินด้วย และชั้นสามเสาพระนิพพานก็เป็นสีขาวเช่นเดียวกับสีที่ใช้ด้านนอก คำถามก็คือ ทำไมต้องสามสี แล้วทำไมสีทองจึงอยู่ล่างสุด แล้วสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งใด

ที่ตั้งข้อสงสัย เพราะรู้สึกประทับใจมากจนติดตาติดใจน่ะค่ะ อย่าได้คิดเป็นอื่นน๊าคะ

 

อิจฉาคนที่ได้อยู่ปฏิบัติกันง่ะ อยากอยู่มั่ง

 

เอาล่ะ...ขอแว็บมาดำเนินเรื่องต่อจากเมื่อวานนะคะ...ภาค ๒ ค่ะ

ภารกิจในวันแรกของเรายังดำเนินกันต่อไป หลังจากดื่มด่ำกับความงามของพระเจดีย์กันแล้ว เราก็เริ่มเพลิดเพลินกับความสัปปายะของเขตพระรัตนตรัย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นมหานคร ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมีเมืองน้อยใหญ่เป็นบริวารมาก่อนแห่งนี้

เราจึงเก็บภาพที่ถ่ายโดยรอบจากยอดพระเจดีย์มาฝากกันค่ะ



ภาพถ่ายจากด้านหลังพระเจดีย์ จะเห็นกุฏิหลังเล็กๆ เรียงกันเป็นระเบียบอยู่ภายใต้ร่มไม้ใหญ่เขียวขจีริมอ่างเก็บน้ำ ไม่ไกลจากพระอุโบสถ แสดงถึงการจัดวางผังอย่างมีแบบแผนของสถานที่แห่งนี้



อีกบรรยากาศทางด้านหน้าพระเจดีย์ค่ะ ศาลาที่เห็นเป็นที่ประทับพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และที่เก็บรักษาธาตุขันธ์ของคุณแม่สุจิตรา ซึ่งวันที่เราไปนั้นก็เป็นวันเดียวกับที่ชาวคณะวาโย ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณแม่ เราจึงได้ร่วมถวายสัฆทานพร้อมองค์ผ้าป่าร่วมกับคณะนี้ด้วย รับพร รับพระแล้ว เราก็ไปร่วมสวดมนต์กับคณะศิษย์วาโยกันต่อซึ่งเขาจะมีการสวดกันทุกวันเสาร์ตลอดพรรษาค่ะ มาดูภาพพระที่พวกเราได้รับกันค่ะ

หลวงพ่อใหญ่ประทานพร
​

เจดีย์พระธาตุวาโย
​

คราวนี้ก็มาดูโบสถ์ใกล้ๆ กันอีกทีค่ะ ก่อนที่เราจะเข้าไปชมด้านใน



ทำไมหนอโบสถ์หลังนี้จึงใช้เวลาสร้างนานนัก เป็นคำถามที่หลายคนในคณะกำลังค้นหาคำตอบ จนกระทั่งพวกเราได้ขึ้นไปชั้นบน....



เราก็ค้นพบถึงความวิจิตรการตาในงานก่อสร้างที่ต้องทำการแกะสลักปูนปั้น ที่เห็นคือส่วนบนด้านหนึ่งของประตูโบสถ์นะคะ และที่จะเห็นด้านล่างคือส่วนฐานพระประธานค่ะ



ส่วนภายในโบสถ์ที่ยังโล่งๆ พระประธานที่ยังไม่ได้ปิดทอง และชาวคณะกำลังนมัสการพระ







เดี๋ยวเราไปชมชั้นล่างกันต่อ เป็นไฮไลท์ของวันนี้เลยทีเดียว...แต่ต้องติดตามตอนไปใน วาโย๓ ค่ะ***


​

 

วัดนี้มีพระจำพรรษาเพียง 3 รูป และเณรอีก 3 สถานที่กว้างขวางสิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นส่วนที่ญาติโยมสร้างถวายเป็นพุทธบูชา ยังมีอีกหลายๆส่วน รวมถึงโบสถ์ที่เราเห็น ตอนนี้พระท่านต้องใช้วิหารเป็นที่ทำวัตร และศาสนกิจต่างๆ จากสภาพโบสถ์ที่เห็นทั้งภายนอก และภายใน ได้ก่อสร้างมานานแล้วคาดว่าใช้เวลากว่า 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ยังขาดแคลนแรงบุญหลายๆอย่าง เช่น กระเบื้องหลังคา ช่อฟ้า ใบระกา ทาสี ภาพวาดภายในโบสถ์ กระเบืองปูพื้น บันไดนาค รวมถึงห้องด้านล่าง โบสถ์ที่สภาพเหมาะที่จะเป็นห้องปฏิบัติกรรมฐาน หรือห้องเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์เพื่อ เด็กๆในชุมชนจะได้มีกิจกรรมทำ ดีกว่านั่งฟังเพลงเสียงดังเม้าส์กันทั้งวัน แล้วก็ขับรถซิ่ง ตกปลา (จากที่เห็นๆน่ะ T-T)
เนื่องจากมีพระน้อย ทำให้การดูแลสถานที่ทุกแห่งท่านต้องทำเอง มีอุบาสกอุบาสิกา ร่วมแรงช่วยกันทำบ้างแต่ก็เพียงน้อยนิดประสาชาวบ้าน รวมถึง ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆของทางวัดอย่างที่เห็นวิหารหลังคาแตกน้ำฝนรั่วหลายแห่ง กุฏิเสื่อมโทรม ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลดำเนินงานของวัด และการบำรุงรักษา จึงใคร่ขอความเมตตาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ช่วยกันทำนุบำรุงพุทธสถานของพระบรมศาสดา เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เพื่อพุทธศาสนาเจริญสถาพรยั่งยืนนานต่อไป
ปล.พี่ๆ เพื่อนๆตั้งใจกันว่า ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2550 พวกเราจะรวมกันไปถวายปัจจัย ช่วยกันสร้างโบสถ์ถ้าใครสนใจจะเป็นเจ้าภาพร่วมและหรือเดินทางไปด้วย ติดต่อกันได้นะจ๊ะ
cookkikbkk@hotmail.com

 

โมทนาบุญด้วยคนนึงค่ะ

ดีจังค่ะ ได้มีโอกาสเดินทางไปแสวงบุญกันถึงที่

_/l\_ สาธุ

 

เรามาติดตาม วาโย๓ กันต่อนะคะ

ด้านล่างพระอุโบสถค่ะ จัดเป็นสัดส่วนกว้างขวาง มีการเดินสายไฟแล้ว เหมาะแก่การเจริญพระกรรมฐานยิ่ง แต่ตอนนี้เริ่มทรุดโทรม มีน้ำขัง ก็อย่างที่คุณกิ๊กว่าแหละค่ะ สถานที่กว้างขวางใหญ่โต แต่มีพระเพียง 3 รูป กับเณร 10 รูป



แล้วเราชาวคณะก็ได้เห็นในสิ่งที่เราไม่คาดคิว่าจะได้เห็น ณ ด้านล่างพระอุโบสถแห่งนี้....

องค์แรก (ริมซ้ายสุด) รูปหล่อสมเด็จพระพุฒธาจารย์โต (พรหมรังสี)
​

องค์ที่สอง รูปหล่อหลวงปู่ปาน
​

องค์ที่สาม รูปหล่อหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (คุณตั้มบอกว่า "ยังขาดแว่นนะ!")
​

องค์ที่สาม รูปหล่อครูบาชัยวงษ์ศา
​

เป็นการยืนยันว่าท่านมาโปรดให้ลูกหลานได้ช่วยกันสร้างโบสถ์และร่วมกันพัฒนาเขตพระรัตนตรัยแห่งนี้ให้รุ่งเรืองสืบไป สาธุ สาธุ ส่าธุ...

แล้วยามสาย เมฆลอยล่องเต็มท้องฟ้า เว้นไว้เฉพาะจุดที่เราทำพิธีบวงสรวงกัน (จริงๆ นะ) แสงแดดอันเจิดจ้าก็สาดใส่เราอย่างเต็มพิกัด (จน queenie รู้สึกว่าหูข้างซ้ายไหม้ไปแล้วข้างหนึ่ง!) ถึงกระนั้น เราก็ตั้งจิตมั่นไปตามสุรเสียงที่แสนจะคุ้นเคยของหลวงพ่อขณะทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทวดา ช่วงนั้นใครจะรู้สึกอย่างไรหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ queenie รู้สึกว่าเพลานั้นมิได้มีแต่เฉพาะพวกเราเท่านั้น ขนกายลุกซู่ บอกให้รู้ว่า "มี" มากกว่านั้น มากๆ มากมาย ไม่ได้อยู่ด้านหน้าแต่อยู่ด้านหลังตั้งแต่เจ้าแสนคำฟ้าลงไป เป็นระเบียบเรียบร้อย และรู้สึกอบอุ่นใจ....จนเสร็จพิธี





ระหว่างรอธูปหมด เหล่าพุทธภูมิก็มุ่งมั่นกับการอธษฐานจิตยกพระเสี่ยงทายกัน อันนี้ต้องให้แต่ละท่านมาเม้าท์ต่อกันเองแล้วค่ะ :d

***คราวหน้า เตรียมพบกับเก็บตก ณ วาโย ค่ะ***
​

แต่ตอนนี้ขอแว้บไปต่างประเทศก่อนค่ะ...
(b-glass)

 

แหมสำนักข่าว queenie เดลี่ ชะแว๊บไปเก็บข่าวที่ ตปท. ซะแหล่ว
เอ้ามาเม้าส์ก้นต่อ

พอไปถึงวัด เราก็รีบมุ่งไปที่วิหารพระนอน พอเดินเข้าไปถึงก็มีอุบาสิกาเจ้าหน้าที่ของวัดมาต้อนรับพวกเราอย่างน่ารักที่สุด เข้าไปถึงพระท่านกำลังฉันท์เพลพอดี ลูกช้างน้ำลายไหลไปตามๆกัน
น้องวรรณผู้มีกำลังเหลือ (เล่นซ่อนตาดำมาตลอดทาง) ก็เดินสำรวจ ลาดตระเวนรอลวันอย่างคึกคัก ปล่อยให้พี่ๆๆ ลุงๆ (อิออิม่ายรู้มีกี่ลุง 555) นั่งเย็นผึ่งพุงกันอยู่ในวิหารพระนอน

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด และวันเสียชีวิตของอุบาสิกาคุณแม่สุจิตรา ซึ่งเกินและเสียชีวิตในเดือนเดียวกัน (เป็นไปได้ไง ToT) จึงมีเหล่าลูกหลานคุณแม่ และชาวบ้านละแวกนั้นมาร่วมกันถวายภัตตาหารเพล พวกเราก็ถือเป็นโอกาสดีทำบุญให้ยิ่งขึ้นไป โดยขอเป็ฯเจ้าภาพร่วมซะเลย อิอิอิ

งานวันนั้นนอกจากเลี้ยงภัตตาหารเพลแล้ว ยังมีการถวายผ้าป่าด้วย ชาวตะลอนบุญได้ปรึกษากันแล้วว่า ผ้าป่าก็เป็นสังฆทานประเภทหนึ่ง พวกเราเลยขอรวมทั้ง พระพุทธรูปยืน (ปางอะไรจำม่ายได้ แต่สวยมาก) ผ้าไตรจีวรชุดใหญ่ (พี่Ketmit บอกว่า เนื้อดี สีม่ายตก) เครื่องสังฆทาน เป็นบริวารผ้าป่าไปด้วย เย้ๆๆๆ (ทำบุญที่ไร ใหญ่ๆทุกทีอิออิ)

 

หลังจากทำบุญเสร็จ พวกเราก็เติมแรงกันเต็มที่เป็นลูกศิษย์วัดกันทันที โดยไม่ต้องรอกรอกใบสมัคร เมื่อได้แรงจากอาหารทิพย์แล้ว ก็ได้เวลาพอดี บ่าย พวกเราก็ไปร่วมสวดมนต์ กับกลุ่มลูกหลานคุณแม่สุจิตรา ที่จะมา่ร่วมสวดมนต์ด้วยกันพร้อมฟังพระธรรมเทศนาในวันเสาร์ทุกสัปดาห์ตลอดเข้าพรรษา
แหมถ้าพี่Kookไปด้วย คงจะปลื้ม เพราะพี่แกชอบสวดมนต์ อิออิ

สวดมนต์รับอุโบสถศีลกันถ้วนหน้า ด้วยความใจดีของ ลูกหลานคุณแม่สุจิตรา พวกเราเลยมิได้นอนศาลาวัดแต่อย่างได้ ไปนอนตีพุงอยู่ในห้องปฏิบัติส่วนตัวของท่านๆ ที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนอย่างกับห้องในโรงแรม นาฬิกาปลุก ไฟฉาย แหม แถมความใจดีของ คุณแม่เอียดและทุกท่าน ที่กรุณานำน้ำดื่ม น้ำแข็ง มาให้
พร้อมกับยกพัดลมตัวใหญ่มาให้กิ๊ก เพราะพัดลมเพดานในห้องเสีย

พวกเราก็พากันไปทำวัตรเย็นสวดมนต์นั่งสมาธิ สนทนาธรรม พร้อมกับเสียงกรนของKomodo และน้องแมวเหมียว ที่กรนเป็นจังหวะเดียวกัน
มีคนอยากดูดาว อธิษฐานขอให้ฟ้าเปิด เจอพระจันทร์ดวงโต และม่ายเห็นดาวอดไป อิอิ

กิ๊กหลับไปพร้อมกับเสียงของหลวงปู่ฤษีที่มาเทศนาสอนธรรมและส่งลูกหลานนอนอย่างเป็นสุข และให้จิตอยู่ในธรรมทุกขณะจิต แสนสบายจริงๆ อิออิ
ขอบอกสาวๆ เบรฟฮาร์ดจริงๆ ม่ายปิดประตูนอน ปิดแต่ประตูมุ้งลวด 5555
หนุ่มๆห้องซ้ายขวา ปิดประตูลงกลอนอย่างสนิท

ดึกค่อนคืนนั้นเอง...กิ๊กๆก็ได้ยินเสียงแว่วๆ..เรียกมาตามลม...ด้วยความง่วง ก็ได้แต่..อือๆๆ แล้วก็หลับต่อ ไม่ได้มีเมตตาใครเค้าจะมาหา มาขอบุญเลย มันเอาต่ะนอนจริงๆ T-T

6.00 น. ไก่ขันเสียงดัง ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงธรรมะรับอรุณของหลวงปู่ฤษี แหมมันช่างมีความสุขใจเสียนี่กระไร

 

พวกเรามีนัดตักบาตรตอน 6.30 น. ทุกคนรีบเตรียมตัวตักบาตรช้อนบุญกันอย่างเร่งด่วน ตักบาตรเอาบุญกับพระทั้งวัดที่มีอยู่ 3 รูป และเณรอีก 3 รูป อย่างอิ่มใจ

ไปทำวัตรเช้ากันได้แล้ว วันนี้ เราได้สวดมนต์ อุทิศส่วนกุศลให้กับชาววาโยนคร และแผ่เมตตากันแบบอัปมาโณ รวมถึง เดินจงกรม เจริญสมาธิจิตอย่างเต็มกำลัง และอุทิศส่วนกุศลพร้อมทั้งเมตตาอัปมาโณ กันอีกครั้งอย่างเต็มใจให้

หลังจากทำวัตร พวกเราก็เริ่มการบรวงสรวง ที่อนุเสาวรีย์จ้าวพ่อแสนคำฟ้า แดดร้อนสุดๆ เมื่อชุมนุมเทวดาแล้ว ก็ตามด้วยขอขมากรรมนำโดยพี่ชายใหญ่ของพวกเรา และอุทิศส่วนกุศล
โดยเฉพาะตอนขอขมากรรม ขอบอก กิ๊กๆจะร้องไห้ซะให้ได้ (แดดมันร้อน555)

ระหว่างที่รอให้ธูปเทียนหมด ก็ยกโขยงกันไปนั่งที่วิหารจ้าวพ่อแสนคำฟ้า หลายๆคนพากันอธิษฐานยกพระเสี่ยงทาง น้องKomodo ลองไปหลายครั้งด้วยลำกล้ามที่ใหญ่ที่สุดในทีม ก็ไม่สามารถสู้บารมีพุทธะอัปมาโณได้

เราก็เอาซิ มั่งๆๆ ม่ายยอมน้อยหน้า
^/|\^ สาธุ ถ้าชาตินี้กิ๊กจะถูกรางวัลที่ 1 กับเค้าบ้างก่อนตายขอให้ยกขึ้นเถิด
ผลลัพธ์ = ยก...ม่าย...ขึ้น T0T
^/|\^ สาธุถ้าชาตินี้กิ๊กจะถูกรางวัลที่ 1 กับเค้าบ้างก่อนตายขอให้ยกไม่ขึ้นเถิด ผลลัพธ์ = ยก...ม่าย...ขึ้น T0T

เพื่อนๆช่วยกันสรุปว่า หลวงพ่อไม่ตอบ มาเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าหลวงพ่อไม่ได้ซื้อหวยเลยม่ายรู้ว่าตัวไหนรางวัลที่ 1 เศร้าTxT

 

เราเห็นหน้าหนุ่มๆ ระโหยกันทุกคน เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่Tamsak บอกว่า เค้ามาขอบุญกันทั้งคืน พี่Kermit ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเจอเพือนๆ ญาติๆชาววาโยมาหา แบบเห็นๆแต่ไม่ยอมเล่าให้เราฟัง 5555 (แอบๆดูอยู่ อิอิ)

แล้วพวกเราด็เดินท่อมๆกันไปที่โบสถ์ ตามรูปที่เห็น สร้างมานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ซะที มาช่วยๆกันทำบุญหน่อยเน้อ เพื่อพระพุทธศาสนาเจริญยั่งยืนสืบไป

เดินทางออกจากวัดไปต่อที่ วัดโสธร กราบหลวงพ่อโสธรกันอย่างอิ่มใจ ตอนนี้รู้แล้ว พื้นที่ทำเป็นรูปปลา ก็คือ จำลองเหตุการณ์ที่องค์หลวงพ่อลอยมาตามสายน้ำนั่นเอง

ไปศาลเจ้าจีนกัน อธิษฐานเสี่ยงทาย โอนเหรียญให้เข้าสะดือพระสังกจายท่าน
โหย เข้าด้วยเย้ๆๆๆๆ ^/|\^ หลายคนก็ลองโยนบ้างได้บ้าง ไม่ได้บ้างเป็นที่สนุกสนาน ขึ้นไปชั้น 2 เดินไปที่ระเบียงบรรยากาศดีสุดๆ ที่จอดรถวัดก็เยอะแยะมากมายยิ่งด้านริมน้ำยิ่งเยอะ แต่ไม่ค่อยมีใครเข้ามา ซะงั้น เค้ามีระฆังใบใหญ่ กับกลองใบใหญ่ ให้ตี จะพลาดได้ไง เอ้า กำหนดจิต ลมหายใจเข้า เงื้อ ลมหายใจออก ปุ้งๆๆๆ อิออิ เสียงเลยดังสนั่นทั้งระฆังทั้งกลอง ชาวบ้านเค้ามองแบบว่าไอ้นี่มันเต็มที่เลย 555 เป็นกำลังใจจ้า เป็นกำลังใจให้อิ่มฟูยิ่งขึ้น

ฝนตกจ้า ฝนตำ....แม่ค้าสาวชาวแปดริ้วใจดีขายขนมจากให้เราแบบลดกระหน่ำ เลยซื้อกันมาเต็มสองมือ อิออิ เอาไปฝากคนที่บ้านเค้า เดินทางกลับกอทอมอ เมืองที่คนตกท่อ..อย่างเย็นฉ่ำ

 

แหมๆ หนุกหนานกันใหญ่เลยเน้อ.....

 

หนุกหนานกับการอุทิศบุญจนเป็นแพนด้าไปตามๆกันเลย งานนี้ต้องไปถาม Mr.Tamsak ว่าใช้บทอุทิศบุญไปกี่บท อิออิ

 

next week, I'll show Wat LP Sothon and our lunch also.

 

ฮัลโหลๆ หวัดดียามบ่าย ว่างๆมาป่วนกระทู้นี้มั่งดีกว่า ....อิอิ จุดมุ่งหมายแฝง มาช่วยดันกระทู้จ้ะ

มาทอดกฐินสร้างโบสถ์กันเร้ว...