บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงคนเชียงใหม่, 21 ตุลาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    ดูเฮติสิครับ หลายปีแล้วยังไม่ฟื้นเลย
    แต่ผมว่า ถ้ามีอุบัติภัยร้ายแรงเกิดที่เมืองใหญ่ของเรา เมืองไทยคงมีคนดีๆ ที่จะมาเป็นผู้นำใหม่แทนนักการเมืองน้ำเน่ารุ่นปัจจุบันได้ น่าจะดีกว่าเฮติ

    ส่วนบทเรียนเก่าที่คนไทยเรากระอักเพราะฤทธิเศรษฐกิจก็มีอยู่แล้ว สมัยวิกฤติการต้มยำกุ้ง อดีตนายกฯ ชวน เล่นไปเล่นตามกติกาฝรั่งมากเกินไป ผู้นำใหม่ที่จะขึ้นมาแทนในอนาคตต้องใช้วิธีแบบ "มหาธีร์"ของมาเลย์ครับ ระงับการนำเงินออกนอกประเทศชั่วคราว ไม่ได้ชักดาบ แต่ว่ารอให้ฝุ่นตลบนั้นหายไปก่อน แล้วว่ากันทีหลัง

     
  2. Pa-Ing

    Pa-Ing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +199
    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ดีที่สุดคะ ..ไม่หวังพึ่งรัฐบาลไหน
    พยายามเกาะกลุ่มกัลยาณมิตร คนดีมีศีลธรรมไว้
    หากชีวิตมีอันเป็นไป เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
    ก็ดับสูญไปท่ามกลางความดีงาม
     
  3. Rasbora

    Rasbora เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +779
    เท่าที่ทราบและเคยไปนอนในอาคารหลังนั้นแล้วได้คุยกับวิศวกรฯที่เกี่ยวข้องระหว่างการออกแบบและก่อสร้าง บอกใบ้ให้ว่าเป็นอาคารสูงที่น่าจะบางที่สุดในประเทศไทย(ประมาณ15x60 เมตร) สูง60ชั้น อาคารหลังนี้มีการเสริมเหล็กป้องกันแผ่นดินไหวตั้งแต่ฐานรากขึ้นมา มีการทดสอบอุโมงค์ลม(wind tunnel Test)แล้วเจาะช่องให้ลมผ่านในส่วนที่แรงลมปะทะมากที่สุด มีถังถ่วงสมดุลย์ของการบิดตัวและลดแรงแรงสั่นสะเทือน(liquid damper)อยู่ที่ชั้นบนสุดทั้งสองด้านของอาคาร คอนกรีตที่ใช้กำลังอัด 420ksc ฟังแล้วสะใจจริงๆ
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    บ้านต้านภัยพิบัติที่กำลังสร้างอยู่นี่

    ก็สเปคคอนกรีตอย่างที่ว่านี้แหละ ครับ
    แต่เสริมด้วยสาร Stop Crack ของ Sika เพื่อเพิ่มการรับกับแรงเฉือนด้านข้าง shear strength ซึ่งเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีแผ่นดินไหว

    แถมยังใช้เหล็กข้ออ้อยขนาด DB20 เป็นกระดูกกลางของคานทุกเส้นทั้งชั้นบนและชั้นล่าง อันเป็นมาตราฐานเดียวกับที่สร้างอาคารสูง 5 ชั้นขึ้นไป แต่นำมาสร้างบ้าน 2 ชั้น ครับ

    พูดง่ายๆคือ +safety factor= X2 ไปเลย (ไม่ใช่ X1.5 ตามที่ใช้คำนวณทั่วไป)

    ขนาดไปแพลนคอนกรีตบอกว่าจะเอา strength 400 ksc
    เจ๊เจ้าของแพลนยังถามว่า "บ้านเฮียจะทำสะพานลอยเข้าสถานีรถไฟฟ้าเลยหรอ"....อิอิอิอิอิ :cool:

    แหม....ยังอุตส่าห์แซวกันได้อีก....นิ
    (smile)
     
  5. undersea12000

    undersea12000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +1,494
    ตึกสูงๆในเมืองไทยจะปลอดภัยไหม

    ------
    เขียนแล้วมันยาว จึงจะขอแบ่งเป็น 3 ตอนนะครับ

    ตอนที่ 1

    1. ขอร่วมวงแจมด้วยคนนะครับ กับความเห็นในโพสท์ที่ #1394

    ผมขอว่าอย่างขวานผ่าซากว่า อาจล้มครับ :)

    เวลาวิศวกรออกแบบ เขาจะต้องตั้งโจทย์ก่อนว่าจะออกแบบให้รับแรงอะไรเท่าไร
    และวิศวกรจะใช้ค่าจากสถิติที่ผ่านมา
    อาทิ เรื่องลม ก็อาจใช้ลมที่แรงที่สุดของ 50 ปีหรือ 100 ปีเป็นต้น
    แผ่นดินไหวก็อาจเลือก 7.2 ริกเตอร์ เป็นความรุนแรงในการออกแบบ
    แล้วก็ไปเอา seismic profile แผ่นดินไหวอันหนึ่งที่มีความแรงขนาดนี้มา
    นี่เอาเฉพาะ 2 criteria เท่านั้นก่อน เพื่อให้การถกกันอยู่ในขอบเขตจำกัด

    จากนั้นเขาก็อาจทำ model ด้วย finite element เพื่อจำลองอาคารทั้งอาคาร
    ด้วย elements ต่างๆ แลัวป้อน คุณสมบัติวัสดุ -ค่า Elasticity เอย ค่า strength ต่างๆเอย

    แล้วก็มาใส่แรง อย่างแรงลมก็ใส่ให้ลมพัดมากระหน่ำในทิศทางที่อาคารน่าจะค่อนข้างอ่อนแอ
    เพราะความแข็งแรงในแต่ละทิศทางของอาคารไม่เท่ากัน

    ด้านแผ่นดินไหวก็อาจวิเคราะห์ทาง dynamics. หากจะให้ขลังก็ใช้
    พิจารณา nonlinear analysis ด้วย
    ได้ค่า stress จาก loading อะไรที่รวมกันได้ก็เอามารวมกัน
    แล้วเทียบกับ strength ของวัตถุ แล้วดูว่ามีอันไหนเกินไปไหม
    ถ้าให้ factor of safety ที่ 2.0 ก็ให้แน่ใจว่า ค่า stress ที่ได้
    เมื่อหารเข้าไปใน strength, ไม่ว่าจะใช้ ultimate หรือ yield
    ก็ขอให้ได้ 2.0 เป็นอย่างต่ำ

    เพื่อให้อาคารมีประสิทธิภาพ ก็อาจทำอาคารจำลองแล้วใส่
    ใน wind tunnel เมื่อเห็นว่า ตรงไหนรับแรงลมมาก
    ก็คว้านเอาตรงนั้นออกไปบ้าง ก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการ
    ออกแบบ ก็ต้องชมความรอบคอบและความพยายาม
     
  6. undersea12000

    undersea12000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +1,494
    ตึกสูงๆในเมืองไทยจะปลอดภัยไหม

    ------
    ตอนที่ 2

    ปัญหา

    ที่นี้ ปัญหาคือ เวลาธรรมชาติท่านจะกระหน่ำอาคาร
    ท่านไม่ได้ขอดูการคำนวณก่อน แล้วมาเป่าลมหรือเขย่าสั่น
    ให้อยู่ภายในค่าที่วิศวกรใช้

    หากท่านติดตามภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
    คือช่วงที่เราๆท่านๆจะยังมีชีวิตอยู่ได้ดูนี่แหละ
    และติดตามจากแหล่งต่างๆ ท่านอาจได้ข้อมูลว่า
    ความรุนแรงลมก็ดี แผ่นดินไหวก็ดี จะรุนแรงเกินกว่าโจทย์
    ที่วิศวกรตั้งไว้มาก

    จะเปรียบว่าอะไรดีล่ะ
    เอางี้ก็แล้วกัน ขอเรียกว่า โลกเราเท่าที่ฝ่ายวิชาการรู้จักมา
    ก็อยู่อย่างสงบ ทางวิชาการก็พัฒนาไปเรื่อยๆ
    บางอย่างก็รู้มาหลายร้อยปี บางอย่างก็แค่หลายสิบปี
    ในช่วงเวลาดังกล่าวลมก็ดี แผ่นดินไหวก็ดี ก็มีชนิดให้
    เก็บข้อมูลได้ ไม่มากนัก พอรู้ วิศวกรก็เอามาเพิ่มเป็นความรู้ใหม่

    แต่ในขณะเดียวกัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความรุนแรงของ
    ภัยธรรมชาติได้เพิ่มความรุนแรงขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ และเรายัง
    ไม่ได้เห็น"ที่สุด" ของความรุนแรง
    แล้วเราก็มาออกแบบและสร้างอาคารนี้ พอสร้างเสร็จ วิศวกรก็ยิ้มภูมิใจ
    ว่าได้ทำอย่างแข็งแรง ด้วยเทคโนโลยี่ที่ดีที่สุดที่เรามี
    หากแรงที่มาปะทะอาคารเป็นไปตามที่ออกแบบไว้
    ก็มีความเชื่อมั่นว่าอาคารจะ"เอาอยู่"
     
  7. undersea12000

    undersea12000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +1,494
    ตึกสูงๆในเมืองไทยจะปลอดภัยไหม

    -------
    ตอนที่ 3

    เมื่อเจอกับ"ของจริง" ที่หนักกว่า
    แต่เมื่อเวลามาถึง เมื่อโลกโดนกระหน่ำด้วยลมที่แรงกว่าที่ออกแบบ
    ไว้มาก เมื่อแผ่นดินไหวเกิดแรงกว่าที่ออกแบบไว้มาก
    หากลมและแผ่นดินไหวมาที่แรงกว่ามาก มากระหน่ำอาคารนี้
    และให้วิศวกรคนเดิมไปยืนดูอาคารนั้น ก็อาจเหงื่อตก อ้าปากหวอ
    (แต่จะให้เครดิตวิศวกรอย่างหนึ่งว่า ปกติจะเป็นผู้ที่คุมอารมณ์ได้เรียบ
    จึงคงจะไม่ตื่นเต้นจนเสียผู้เสียคน)
    เมื่อเห็นอาคารถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตา

    โดยสรุป ผมก็ขอพูดว่า มันจะพังเพราะแรงจริงมันแรงกว่า
    แรงที่ใช้ออกแบบมากกว่ามากนั่นเอง

    ยกตัวอย่างจากแผ่นดินไหวเรื่องเดียว
    หากออกแบบไว้ที่ 7.2 ริคเตอร์ ค่าของริคเตอร์นั้นพล็อตกันบน
    log scale แต่ละจุดทศนิยมมีค่ามากขึ้นเป็น 1 เท่า
    เช่น 7.2 เป็น 7.3 ก็ 1 เท่าตัว, 7.2 ไป 7.4 ก็ 2 เท่าตัว
    และจาก 7.2 ไป 8.2 ก็ 10 เท่าตัว
    เอาเป็นว่า ถ้าเจอแค่ 7.5 ริคเตอร์ก็สั่นอย่างแรงแล้วครับ ทั้งอาคารและทั้งคนออกแบบ
    และถ้ามากกว่านั้น พอควรก็ยิ่งกว่าสั่นละครับ

    เพื่อให้ง่าย เราประเมินกันต่อโดยใช้ค่าจากริคเตอร์มาคุยกัน
    (เพราะหากพิจารณาจากพลังงาน มันจะไม่ใช่ตัวเลขชุดเดียวกันนี้
    แต่ที่สุดก็ได้ผลอย่างเดียวกัน คือพังได้อยู่ดี)

    ถ้าแผ่นดินไหวเป็น 12-15 ริคเตอร์ อยู่ไหวไหม. วิศวกรที่ออกแบบจะเป็นคนแรกที่จะสรุปว่า
    ไม่ไหว พังแน่นอน.
    หากจะถามว่า เอาตัวเลข 12-15 ริคเตอร์ มาจากไหน ขอให้พิสูจน์
    ประเด็นก็จะไปอยู่ที่ท่านอื่นๆ ที่มีอยู่ในเว็บพลังจิตนี้ที่มีอภิญญาและเห็นทางทิพย์ได้
    เรื่องก็จะสูงเกินภูมิปัญญาของวิศวกร เพราะเป็นศาสตร์คนละแขนงกัน
    ท่านที่สนใจก็อาจศึกษา หาความรู้จากทางอื่นๆ และดูว่าท่านจะมีความเห็นอย่างไร
    จะแรงแค่ไหน

    ที่เข้ามาขอร่วมแจมด้วย แค่จะขอให้ความเห็นว่า ความรู้ของมนุษย์เรายังน้อยนัก
    สิ่งที่เราเชื่อมั่น อาจไม่มีให้มั่นเท่าไร

    ผมเลือกที่จะเชื่อตามความเห็นของคุณพราน 4141 ว่า เมืองไทยจะได้เห็นตึกล้มบ้าง
    พังบ้าง อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเองเป็นคนหนึ่งละว่า หากเกิดเหตุเภทภัยใหญ่ๆจริงๆ
    ผมจะไม่ยอมอยู่ในตึกสูงๆพวกนั้น และไม่อยากให้ท่านผู้อ่านที่ได้อ่านโพสท์นี้ เกิดความ
    มั่นใจว่าปลอดภัย แล้วผิดหวังเมื่อภัยมา ต้องล้มตายบาดเจ็บ

    แต่สำหรับอาคารสองชั้นของคุณ Nirvana นั้นอยู่นอกประเด็น ขอไม่ออกความเห็น
    และอย่างน้อยท่านก็เลือกสร้างให้แข็งแรงกว่าที่จำเป็น

    หวังว่าคุณ ตาพอน และวิศวกรในตัวอย่างนี้ จะไม่เคืองนะครับ
    ไม่ได้จะค้านคุณ ตาพอนหรอก แต่ถือเป็นโอกาสออกความเห็นในที่นี้พอดี :)
    วิศวกรนี้ผมก็ไม่รู้จัก แต่ยกมาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านในเว็บพลังจิตได้เห็น
    มุมมองทางเลือก

    แต่ใครจะเชื่ออย่างไร แล้วปลอดภัยหรือไม่ก็แล้วแต่บุญกรรมเป็นผู้จัดสรรครับ
     
  8. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    จริงๆการคำนวณทางวิศวกรรมก็คงต้องทำอย่างที่กล่าวไว้นั่นแหละ ครับ

    แต่ถ้าเรามาสร้างตึก/บ้าน ที่พื้นดินมี Foundation ที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ไม่ต้องกังวลให้มาก Factor ปวดตับเปล่าๆ

    ถ้าการคำนวณ/การสร้างดี แต่ไปสร้างในที่ดินเป็นเฉาก๊วยยังงัยก็ยาก นะครับ

    เหมือนโบราณกล่าวว่า "ไม้ใหญ่หลักแต่ปักบนขี้เลน" อย่างงัยอย่างงั้นเลย


    ไม่ว่าจะทฤษฎีหรือการคำนวณแบบลูกทุ่ง ไว้เจอสถานการณ์จริงแล้วให้อยู่รอดก่อนนั่นแหละ ครับ......ของจริง....อิอิอิอิอิ :cool:
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    แต่สำหรับอาคารสองชั้นของคุณ Nirvana นั้นอยู่นอกประเด็น ขอไม่ออกความเห็น
    และอย่างน้อยท่านก็เลือกสร้างให้แข็งแรงกว่าที่จำเป็น


    ***********************************************

    ก็ขอขอบคุณที่คอมเม้นท์มานะ ครับ

    จริงๆแล้ว Nirvana ไมได้เป็นวิศวกรแต่ประการใด
    อาศัยมีเพื่อนฝูงยอดวิชาทางนี้อยู่บ้างแนะนำกันมา

    แต่สิ่งหนึ่งที่ครุ่นคิดเสมอเมื่อได้ไปเยี่ยมชมโบราณสถานหลายแห่ง หลายยุคหลายสมัย
    ที่ผ่านร้อน/หนาวมานานนับร้อยนับพันปี นั่นก็คือ โครงสร้างที่วางไว้อย่างแข็งแรงตั้งแต่การเริ่มสร้าง นับเป็นภูมิปัญญาของผู้คนในสมัยนั่นที่น่าสรรเสริญยิ่ง

    ถ้าเรามองดูจะเห็นได้ว่าเกือบทั้งหมดมีเพียงชุดหลังคาเท่านั้นที่เสียหายจากกาลเวลา (ถ้าไม่นับผลจากสงคราม) แต่ตัวโครงสร้างยังอยู่ครบจนปัจจุบัน

    โครงสร้างอิฐประสานมีมาในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปี 2525 ถึงปัจจุบัน แต่ได้รับการพิสูจน์กับพายุเกย์ขึ้นที่ชุมพรในปี 2532 ด้วยความเร็วลมถึง 185 กิโลเมตร/ช.ม. ว่าอาคารบ้านอิฐประสานชั้นเดียว ไม่มีเสาค้ำยัน ขนาด 40 ตรม. มีความเสียหายแค่หลังคาเปิดไปเท่านั้น ประตู/หน้าต่างอยู่ครบ ในขณะที่บ้านโครงสร้างอื่นพังในระดับ "ยับย่อย" กันไปทั่วบริเวณนั้น (ลองไปดูในวิกิพีเดีย)

    มาปี 2555 เราสร้างบ้านที่มี 2 ชั้น แต่เลือกวัสดุและเทคโนโลยีที่ดีกว่าเมื่อสมัยนั้นมากมาย แถมยังตั้งอยู่บนแผ่นดินที่แข็งแรงมากกว่ากัน Nirvana จึงมั่นใจในการตัดสินใจ ครับ

    อันภัยพิบัติของโลกนั้นคาดการณ์อะไรยากนัก ยังงัยก็เตรียมรับมือให้เต็มที่ตามกำลังสติปัญญาไว้ดีกว่า จะได้ไม่เสียใจภายหลังงัยครับ
     
  10. Rasbora

    Rasbora เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +779
    ตาพอนไม่เคืองหรอกครับ และขอชมเชยและยกย่องกระทู้นี้ให้เป็นกระทู้ที่ดีเยี่ยมของบอร์ดเลยล่ะ เป็นกระทู้ที่มีทั้งจิตศาสตร์และสาระความรู้ทางด้านวิทย์ฯ/วิศวกรรมที่เป็นประโยชน์กับทุกท่านที่สนใจ
    ตาพอนและทีมทำงานเคยเตรียมการบางอย่างตั้งแต่ปี2535ที่ ดร.สมิทธฯออกมาเตือนเรื่องสึนามิจะเข้าภูเก็ตครั้งแรก ตอนนั้นตาพอนทำมาหากินอยู่ที่นั่น เราเอาแผนที่มากางดูกัยเลยว่าถ้าคลื่นเข้ามาจากทะเลจะเข้าถึงไหน ทิศทางมาอย่างไรจะโดนอะไรบ้าง มีการเตรียมวางผังอาคารหลบแนวคลื่นโดยใช้ธรรมชาติดั้งเดิมของพื้นที่และศาสตร์ทางด้านวิศวกรรมเข้ามาช่วยในออกแบบสร้างอาคาร ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นตามแผนซึ่งคนทั่วไปจะไม่รู้สึกเลยว่าเป็นการวางผังหลบและป้องกันแนวคลื่น จนกระทั่งปี2547 สึนามิเข้ามาจริงๆ บริเวณที่เตรียมการเอาไว้เสียหายน้อยมากๆเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆที่อยู่ติดชายทะเลฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต ถึงวันนี้ทีมทำงานต่างคนต่างไปตามกรรมตามวาระกลับบ้านเกิดกลับบ้านเก่ากันไปตามอัทธยาศัย มีบางคนก็ยังเวียนว่ายอยู่ในวงการฯ อาคารสูงที่ตาพอนพูดถึงก็อยู่ในองค์กรเดียวกันแต่คนละทีมกะตาพอน
    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ต้องการที่จะสื่อว่าการเตรียมการตามความรู้บวกกับประสพการณ์เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันก็พอจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเสียเลยไอ้ที่ว่าเบาก็จะกลายเป็นหนักโดยใช่เหตุครับ
     
  11. hmkma

    hmkma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +172
    up up .............................
     
  12. ภูขัด

    ภูขัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +253
    หลายวันก่อนมีกิ้งกือขึ้นมานอนบนหมอนด้วยหนึ่งตัว ไม่ทราบมาได้อย่างไร
    แมงมุมตัวใหญ่อีกหนึ่งตัวบุกเข้ามาในห้องชั้นสอง
    เมื่อวานและวันนี้ฝูงมดดำอพยพกันมโหฬาร
    เอาชอล์คไปขีดกันมดแล้วก็ยังแห่กันมาแน่น
    หวังจะขึ้นไปบนตึกชั้นสองให้ได้...อืมม เพื่อน ๆ เป็นไงกันบ้าง
     
  13. hmkma

    hmkma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +172
    up up..... keep on waiting for update from คุณ พราน4141!
     
  14. ภูขัด

    ภูขัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +253
    สงสัยคุณหมอพราน4141 เข้าฐานไปแล้วมั่งครับ

    สวัสดีครับ วันนี้อากาศวิปริตแปรปรวน และมีฝนตก ๆ หยุด ๆ เป็นวันที่สามแล้ว
    ว่าจะเติมน้ำมันรถให้เต็มถัง และเตรียมถังเปล่ามาอีกหนึ่งลูก
    แต่มาถึงปั๊มลืมเอาตังค์มาเสียนี้ ...แก่แล้ว

    ขอบคุณ คุณundersea12000 ที่แนะนำ้เรื่องแบตฯ และโซล่าเซลครับ
    ตอนนี้่ ผมกำลังพลาดท่า เพราะเอาแบตฯ ไปทิ้งไว้ที่พิโลก
    กะว่าจะเอาไปเปลี่ยนเป็นหม้อ Deep Cycle แต่ร้านปิดเลยทิ้งไว้
    ก็มีแต่แบตฯ รถยนต์ และแบตฯเล็ก ๆ น้อย ๆ

    อาหารก็ทะยอยเอาออกมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทานไป เพราะใกล้จะหมดอายุ
    บางอย่างรีบรัอนสต๊อกไปหน่อยก็ไม่ค่อยมีคุณค่า เลยเอาออกมากินแล้วหาแทนใหม่
    แต่ก็่ยังไม่ทันทดแทนได้เรียบร้อย แล้วกะว่าจะสต๊อกเพิ่มอีกซัก 5 เท่า
    เผื่อ ๆ พวกเราเข้าฐานกันไม่ได้แล้วพลัดหลงไปหาผม 555
    ยินดีนะครับ เข้าพิโลกแล้ว ว เรียกได้เลย ...ภูขัด 145.7125 MHz ครับ
    ได้ยินแน่นอน แต่อาจตอบกลับแล้วไม่ได้ยิน เพราะผมใช้ 5 วัตต์
    แต่ถ้าเข้า นครไทย ชัวร์ครับ
     
  15. ภูขัด

    ภูขัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +253
    31/1/56 15:25 น. ที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
    ฝนตกชนิดได้น้ำได้เนื้อกันเลย
    ตั้งแต่เวลา 14.15 ตอนนี้เวลา 15.28 น. ยังไม่หยุดครับ
     
  16. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ต้องขออภัยครับช่วงนี้มีนักบินจบใหม่มาตรวจขอ ใบอนุญาติทำการบินกันมากๆมีทั้งหนุ่มๆสาวๆอายุน้อยๆกันทั้งนั้นครับ บางคนไปเสียเงินเรียนเองประมาณ2ล้านเศษ เฉพาะค่าเรียนนะครับแล้วกินอยู่อีกเท่าไร
    ผมขอบอกเลยว่าไม่เกิน2ปีจากนี้เราจะมีนักบินเต็มครบทุกสายการบิน แล้วไง ก็ที่จบใหม่ก็ตกงานซิครับ
    ไหนจะมีที่ลาออกจากทอ. ทร. ทบ. ตร. อีกเป็นสิบๆคนในแต่ละเหล่า ช่วงนี้แอร์เอเซียและสายการบินเกือบทุกสายจะนำฝูงใหม่เข้ามาเป็นร้อยลำจึงต้องการนักบินมากๆครับ แล้วก็มีโรงเรียนสอนบินเกิดใหม่มากในขณะนี้ทั้งที่นครพนมและที่ดอนเมืองผลิตกันแทบไม่ทัน แล้วงัยครับ ก็เป็นปกติที่ความต้องการมากผลิตปริมาณมากคุณภาพก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดาครับ บางคนสอบจิตเวชการบิน3ครั้งยังๆไม่ผ่านเลยครับแล้วก็ไปติวมาจนผ่านในที่สุด
    มันน่ากลัวแบบแฝงลึกนะครับ การตัดสินใจอยู่ในมือคนแค่2คนที่จะต้องกำหนดชะตาชีวิตคนเป็นร้อยคน
    เมื่อก่อนการจะเป็นนักบินนั้นแสนจะยากเย็นต้องสอบชิงทุนสายการบินให้ได้ก่อนแล้วตรวจร่างกายก็แสนเขี้ยวทดสอบจิตก็ยากมากเราจึงได้คนที่สมบูรณ์แบบมาทำงาน แต่ในปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเพราะมันมีเรื่องของสิทธิมนุษย์ชนสูงมากทางICAOจึงลดหรือผ่อนปรนระเบียบลง แล้วยังมีพวกรับติวทางลัดเพื่อสอบจิตและมีการพลิกแพลงร่างกายเกิดขึ้นมากๆเช่นการทำLASIKแก้ไขสายตา การแอบเปลี่ยนปัสสาวะเวลามาตรวจ การแอบกินยาต่างๆที่กลบเกลื่อนโรคประจำตัวที่เป็นเพื่อให้แพทย์ตรวจไม่พบตอนคัดเลือก การท่องตัวเลขที่ใช้ตรวจตาบอดสี ผมแทบจะเจอเกือบทุกวันเลยครับเพราะเรามีทางแก้สำหรับคนกลุ่มนี้ จับได้ก็คุยกันไม่เครียดแนะนำเขาดีๆว่าคุณจะต้องไปรับผิดชอบคนมากมายคุณคงจะเข้าใจเอาใจเขามาใส่ใจเราผลคือไม่มีเรื่องร้องเรียนศาลปกครองเกิดขึ้นครับ ที่บ่นๆให้ฟังนอกเรื่องคือตอนนี้ยังจะมีคนอยากเป็นนักบินกันอีกหรือครับ คือช่วง2-3ปีมานี้อากาศข้างบนมันแปรปรวนมากๆผิดจากเดิมมากๆกระแสjet stream ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันหวาดเสียวไม่ใช่เล่นนะครับนี่ยังไม่รวมเหล่าบรรดาแอร์ฮอสเตสอีกเป็นกระบุงนะครับพวกเขาเสี่ยงมากๆในขณะนี้ครับ
    คืออยากจะเตือนพ่อแม่พี่น้องว่าถ้าท่านจะส่งลูกหลานของท่านไปเป็นนักบินหรือแอร์จงตระหนักถึงสิ่งที่ผมเตือนนี้ให้หนักครับมันเริ่มเสี่ยงตั้งแต่เริ่มเรียนบินชั่วโมงแรกแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  17. rubian

    rubian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +483
    ว้าวๆ ที่แท้คุณพรานคือ หมอจิตเวชศาสตร์

    ว่า แต่เป็นนักบินก็น่าสนุกดีนะครับ มันเท่ห์ดีออก โหแล้วนักบินเขามีโกงการสอบกันด้วยเหรอครับ
     
  18. hmkma

    hmkma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +172
    up up...............
     
  19. ภูขัด

    ภูขัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +253
    หายหน้าหายตากันไปหมดเลย
    แต่ก็ไม่อยากให้กระุทู้นี้ต้องปิดไป ขอคุยโน้นนี้ไปพลางๆละกันครับ

    เรื่องอาคารที่จะเป็นที่ป้องกันภัยได้ดี ส่วนตัวผมชอบปิรามิด
    แต่ที่มีอยู่ก็บ้านธรรมดาสองชั้น ที่ชั้นล่างเผื่อหนีน้ำ
    ชั้นสองก็พอรับมือลูกเห็บได้ แต่ถ้าจะให้สร้างเพิ่มอีก แหม...งบแย่ครับ
    ผมไปมองเห็นเขาเล็ก ๆ ไว้สองสามลูก เป็นรูปปิรามิดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
    อยากปรึกษาท่านที่มีความรู้เรื่องการขุดเจาะแบบง่าย ๆ ไม่เอิกเริก
    เอาแค่พออยู่พออาศัย แบบ ๆ อุโมงค์สะพานลอดถนนนะครับ
    ใช้เวลาทำประมาณซักเดือนหนึ่งเสร็จ หรือท่านมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างครับ
     
  20. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    ท่านพราน 4141 หายไปใหนเนี่ยแอบอ่านติดตามมานานแระได้ความรู้จากท่านเยอะเลย

    แพทย์ทหารเขียนบทความให้ความรู้เนี่ยไม่ค่อยพบบ่อยนักนะครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...