ช่วงนี้งานยุ่งๆ ค่ะเข้ามาได้แป๊บเดียว ขอบคุณคุณมากิ และท่าน ddman มากค่ะ นี่คือน้ำทิพย์ที่คอยหล่อเลี้ยงจิตใจสุจริงๆค่ะ ทุกข์ใจคราใดได้เข้ามาอ่านที่ท่าน ddman คอยพร่ำสอน ให้สติ ให้ข้อคิดกับสมาชิกทุกคน ก็ชื่นใจแล้วค่ะ ขออนุโมทนาสาธุกับบุญที่ท่านได้ทำให้กับเพื่อนมนุษย์นะคะ คุณมากิก็เช่นกันค่ะ แค่กำลังใจที่ให้มาก็เป็นบุญกุศลอันใหญ่หลวงแล้วล่ะคะ ขอให้ท่านทั้งสองได้พบกับความดี มีความสุข พ้นทุกข์ นะคะ
สวัสดีค่ะ สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหมเอ่ย ขอบคุณนะคะที่อวยพรให้มากิ มากิเองก็ไม่แน่นะ วันหน้าอาจจะมีเรื่องมาขอกำลังใจจากคุณSusika เช่นกันน๊า หวังว่าคงไม่ลืมกันนะคะ
อ๋อ แน่นอนค่ะ สุไม่มีวันลืมคนที่ดีกับสุแน่นอน เพราะสุรู้ซึ้งจริงๆกับคำว่าเพื่อน ช่วงนี้ก็ทำใจให้เข้มแข็ง และต่อสู้เข้าไว้ค่ะ สู้กับตัวเองที่ไม่ยอมละวางเนี่ยแหละค่ะปัญหาใหญ่ อยากลืมแต่ใจก็คอยแต่จะย้ำคิด ย้ำทำอยู่นั่นแหละ บางทีก็มึนๆว่า ตอนนี้เรากำลังทุกข์ด้วยเรื่องอะไร ก็พยายามตั้งสติอยู่ค่ะ ก็จริงอย่างที่คุณมากิบอก คนออฟฟิศนี่ได้ใจจริงๆ พูดกับเราก็ดี พอลับหลังก็เออออไปกับฝ่ายโน้น ดูท่าฝ่ายโน้นคงจะตั้งหลักได้แล้ว เริ่มมีการแก้ตัว ใส่ร้ายเราแล้ว สุก็พยายามวางเฉย พอใจเดือดปุดๆ ก็จะบอกตัวเองว่า กำลังโกรธอยู่นะพอได้แล้ว แล้วก็รีบเข้าเวปพลังจิต อ่านนั่นนี่ ก็คลายไปได้ระยะหนึ่งค่ะ ขอให้คุณมากิอย่ามีความทุกข์เลยนะคะ สุไม่อยากเป็นที่ปรึกษา (ล้อเล่นค่ะ)
อย่าว่าแต่เราเลยที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ... ขนาดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรายังทรงถูกนางจิญจมานวิกา และเหล่าเดียรถีย์ ใส่ร้ายเลย..แต่ไม่นานความจริงก็ปรากฏ .. ..คนชั่ว ยิ่งทำชั่วเพิ่มเติมให้ตนเอง ใครกันที่จะไปรับผล โดยเฉพาะผู้ที่บอดเขลา ไม่เคยเห็นแสงแห่งพระธรรม..เขาย่อมทำบาปกรรมโดยไม่ยั้ง ผลอันสาหัสย่อมหวังได้...เหมือนคนที่หยิบก้อนถ่านแดง โดยเต็มที่ไม่ยั้ง มือย่อมถูกถ่านเพลิงแผดเผาเอาฉะนั้น.. คุณสุพึงสู้ด้วยธรรมคือขันติ เขาเหล่านั้นต่างคบคุ้นกันตามกำลังกิเลสที่ชัดจูงไปเพราะมีธาตุเสมอกัน ใครจะรู้ว่า ต่างฝ่ายต่างหลอกกัน ใส่หน้ากากเข้าหากันเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง ที่คนชั่วจะจริงใจไม่เบียดเบียนกันนั้นอย่าหมาย.. เพราะคนไร้ศีลขาดธรรม ไม่ว่าจะไปที่ใด ก็เบียดเบียนใครๆได้โดยง่าย..แม้เห็นเขาเข้าพวกกันก็อย่าได้หวั่นไหว ให้นึกสงสารว่า อาจจะมีใครอื่นถูก2 จอมหักหลังหลอกลวงเอาได้ ขอเขาจงปลอดภัยเถิด อย่าโดนหลอกอย่างเราเลย...ดังนี้ ใจเป็นไปกับกรุณา..เป็นบุญแล้วครับ.. คุณสุ เมื่อยังขันติให้แข็งแรงขึ้น ย่อมเป็นการสร้างขันติบารมีให้ตนยิ่งๆขึ้นไป ถึงจะทุกข์เพราะอำนาจวิบากเก่า แต่สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่ตั้งอยู่ตลอดไปแน่...คุณสุพึงทำไว้ในใจว่า...This too, shall pass! และสิ่งนี้ จะผ่านไป ...เหมือนหลายเรื่องเลาร้ายที่ผ่านมา.. เป็นกำลังใจให้ครับ
อืม ปัญหาในออฟฟิส มีทุกที่จริงๆ ด้วย คุณ สุ คะ เราต้องหัดทำใจ ข้าน้อย เอง ทั้งชีวิตถูกนินทามาไม่น้อย การถูกนินทา นั้น ธรรมดามากๆ ในโลกมนุษย์ (คนไทยมีมารยาท จะว่าต่อหน้าคงกลัวเราเสียใจ เลยไปว่าลับหลังแทน) ข้าน้อยนั้นประกาศอนุญาติเลย ว่า นินทา ข้าน้อยได้เลยตามสบาย แต่ถ้าเข้าหูเมื่อไร ขอด่านิดหน่อยนะ ๕๕๕๕ เคยได้ยิน เค้านินทากะหู เลยเข้าผสมโรงด้วยเลย จนพวกขี้นินทาเซ็งไปเอง หลังๆ พวกเปลี่ยนนิสัย มาว่าต่อหน้าแทน ทำให้รำคาญหนักไปอีก ต้องขอร้องให้มัน กลับไปนินทาเหมือนเดิมได้ไหม หนวกหูง่ะ คือทั้งนี้อยู่ที่วิธีมองโลกของเราเองนะคะ หรือการที่คนเป็นร้อยทำผิดเหมือนกัน แต่เจ้านายเลือกด่าเราผู้เดียว เดี่ยวโดด นั้น หมายถึง เจ้านายรัก และไว้วางใจเรา มากกว่าคนอื่น ไอ้คนที่เค้าเฉยชา ด้วย แสดงว่าไม่อยู่ในสายตานายหรอกค่ะ (เชื่อข้าน้อย ข้าถูกด่าทุกวัน บางวันก็วันละหลายรอบ เจ้านายบอกเลยว่าก็พวกข้ารักเอ็งไง เลยชวนกันรุมด่าเนี่ย) ส่วนที่เรากลายเป็นโดดเดี่ยว นั่นดีมากคือ ไม่สิ้นเปลืองค่ะพี่ขา อ่านจากที่คุณพี่เขียนมา คุณพี่ต้องชอบเลี้ยงเพื่อนให้เพื่อน เยอะแยะ พอพวกเหลือบยุงริ้นไร พวกนี้มาไต่ตอม อาจทำให้เหงาใจเล็กน้อย แต่ สะดวกสบายกว่าแยะค่ะ คุณพี่สุลองไปสังเกต ตัวเองใหม่นะคะ ว่าที่จริงแล้วเนี่ย ชีวิตเรามันดีขึ้นชัดๆเลย
ขอบคุณมากค่ะท่าน ddman คำว่าใส่หน้ากากเข้าหากัน เป็นคำพูดที่ตรงที่สุดค่ะ สุก็พยายามใช้ขันติให้มากแล้วก็ท่อง มันเป็นเช่นนั้นเอง อยู่เสมอค่ะ คุณน้องราคุคะอ่านไปขำไป ราคุคงจะขี้เล่นแน่เลย ถูกแล้วค่ะพี่คบกับเขาก็รักเขาเหมือนน้อง ขาดเขินอะไรก็ช่วยเหลือโดยไม่คิดระแวงสงสัย พอมาเจอแบบนี้พี่ก็ตั้งตัว ตั้งสติไม่ทัน แต่ก็อย่างราคุว่าแหละ ตอนนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาเปิดกระเป๋าเรา มีเท่าไหร่ก็กินเท่านั้น แต่ดูเขาจะลำบากอยู่นะ เพราะที่ผ่านมาเขาจะต้องมาหยิบยืมเงินพี่ทุกเดือนเลยทั้งสองคน บางทีเห็นหงอยๆกัน ก็อดสงสารไม่ได้ แต่ก็ต้องใจแข็งไว้ ไม่อยากให้ตัวเองเป็นบาปอีก คือให้แล้วก็มาเสียใจภายหลัง เพราะการกระทำของเขาสองคน ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ บุญกุศลใดที่สุได้กระทำดีแล้ว ขอให้ถึงทุกท่านให้มีแต่ความสุข พ้นทุกข์ทุกประการด้วยเทอญ
ทีนี้ พี่สุ ก็รู้ตัวละ ว่าใครน่าสงสารกว่ากัน เค้าล่วงเกิน ผู้มีพระคุณ นั้น ยังไงก็ต้องทุกข์ร้อน มากกว่า คุณพี่สุ อย่างเทียบกันไม่ได้ค่ะ ที่เค้าหมางเมินไป ส่วนหนึ่งก็อายแก่ใจเข้าหน้าเราไม่ติดนั่นเอง เป็นเค้าที่ตัดรอนวาสนาตนเอง เราปลงอุเบกขา ไปก็พ้นแล้ว ค่ะ
ขอบใจจ้าน้องราคุ ราคุเข้าใจชิวิตดีกว่าพี่เน๊าะ รู้จักคิดหลายแง่มุมอย่างนี้เรื่องกวนใจคงจะไม่ค่อยมีใช่มั๊ยจ๊ะ ยังไงก็เข้ามาให้แง่คิดกับพี่สุบ้างน๊า
เพราะเรื่องกวนใจ ทุกข์ใจ ของข้าน้อย มีเยอะมากนั่นเอง ทั้งจากผู้อื่นเขาภายนอก และจากตัวของตัวเองก่อเหตุเอง(ส่วนใหญ่ทำตัวเอง เข้าใจผิดเอง ๕๕๕๕) มันก็กวนใจเราให้ขุ่นข้นหมองมัว มองอะไรไม่ค่อยเห็น ข้าน้อยเลยต้องพยายาม ให้ใจเราเป็นน้ำใส ให้ตกตะกอนนอนก้นให้ไวๆ เราก็จะแก้ไขปัญหาได้ดี ขึ้น แยบคายขึ้น จึงต้องหัดคิดให้หลายๆ มุมค่ะ พี่หายโกรธ และให้อภัยคนง่าย นั้นเป็นการดี แต่จะไว้ใจใกล้ชิด ก็คงต้องคิดพิจารณา อีกที น่ะค่ะ
คนเรามันทำคุณได้โทษโปรดสัตรได้บาปมีเยอะครับขนาดผมโดนเพื่อนมันให้ไปช่วยพูดงานสัมมนา ตอนนั้นกลับกลายว่าผมพูดเยอะกว่าคนในสมาชิกกลุ่มด้วนซ้ำอย่างอื่นก้อช่วยมาเยอะแต่มันแสดงพฤติกรรมได้สุนัขมากครับ ตอนผมเจอวิกฤติกับเพื่อนในกลุ่มตั้งสเตตัสด่าผมมันก็มาซ้ำเติม มีการมาเนบว่าสันดานคนเราก็แบบนี้ ใจผมอยากสวนเหมือนกันว่าสันดานคุณมันก็แค่ทำตัวสตอรหลอกใช้เพื่อน
แล้วมันก็จะผ่านพ้นไปค่ะคุณ peaceful69 เช่นเดียวกับสุตอนนี้ ทำใจได้บ้างแล้ว อีกอย่างมีคนที่เขาเข้าใจเราเยอะค่ะ ใครดี ใครไม่ดีคนอื่นเขาก็มองเห็นเหมือนกัน เพียงแต่ก่อนหน้านั้นเราเสียใจมากจนไม่มีสติปัญญาที่จะคิดอะไรออก ขอให้คุณpeaceful69 อดทนและมีสตินะคะ และขอให้ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆสำหรับจิตใจไวไวนะคะ
- อย่าเอาความสุขสำเร็จของตนเองไปผูกไว้กับคนอื่น พระพุทธเจ้าสอนให้เจริญอย่างนี้ - เพราะเมื่อคุณเอาความสุขสำเร็จไปผูกขึ้นไว้กับคนอื่น ใจของคุณก็จะตั้งความหวังปารถนาให้บุคคลผู้นั้นกระทำทาง กาย วาจา ใจ ต่อคุณอย่างที่คุณหวังปารถนาไว้ทันที แต่เมื่อเขาไม่ทำดั่งที่คุณหวังปารถนาไว้ คุณก็เป็นทุกข์ ทุกข์เพราะสำคัญมั่นหมายไว้ในใจว่าชอบให้เขาคิดดี พูดดี ทำดี ซื่อสัตย์กับคุณ ไม่ชอบที่เขาทำหน้าไหว้หลังหลอกกับคุณ แต่เราก็ไม่สามารถไปบังคับให้ใครเป็นไปดั่งใจเราได้ใช่ไหมครับ นี่แหละเหตุแห่งทุกข์ของคุณ - ให้คุณพึงเจริญในใจอยู่เนืองๆว่า ไปติดข้องใจไรๆจากการกระทำใดๆของเขาก็ไม่มีประโยชน์ใดๆนอกจากทุกข์ เราควรละความติดข้องใจในการคิด พูด ทำใดๆของเขานั้นไปเสีย เพราะมันก่อให้เกิดทุกข์ - เจริญในใจอยู่เนืองๆว่า เราจะละความสำคัญในตัวเขาทิ้งไปเสีย จะไม่ให้ความสำคัญใดๆกับเขาอีก - ลองนึกดูนะครับว่า..บุคคลใดๆที่คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขา ไม่ว่าเขาจะคิด พูด ทำอะไร คุณก็ไม่ใส่ใจจนเอามาเป็นที่ตั้งแห่งจิตใช่ไหมครับ ความรัก โลภ โกรธ หลงในบุคคนั้นๆจึงน้อยหรือไม่มีเลย นั่นเพราะคุณก็ไม่ได้เอาความสุขสำเร็จใดๆไปผูกไว้กับคนๆนั้น และ เขาไม่ได้สำคัญอะไรกับคุณใช่ไหมครับ - เวลาที่คุณขุ่นมัวใจจากการกระทำใดๆของเขา คุณเป็นทุกข์หรือเขาเป็นทุกข์ครับ ย่อมเป็นคุณใช่ไหม เพราะคุณเอาจิตไปผูกความสุขสำเร็จไว้ที่เขา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็สำไคัญไปหมดสำหรับคุณใช่ไหมครับสุดม้ายมีแต่คุณที่ทุกข์ใจเท่านั้น แต่เขาไม่ได้รู้สึกใดๆเลยยังอยู่สุขสบายอีกต่างหากใช่ไหมครับ นี่สอนให้รู้ว่าเวลาที่คุณผู้ใจไว้กับเขามีแต่คุณที่ทุกข์ ส่วนเขาก็มีชีวิตปกติของเขาไปไม่ได้มาทุกข์กับคุณเลย ดังนั้นวิธีที่จะช่วยคุณได้คือ เจริญเมตตาให้เข้าถึงเมตตาเจโตวิมุตติ ลองเจริญในใจเบื้องต้นดังนี้นะครับ เพื่อยังใจให้เข้าถึงในเมตตาเจโตวิมุตติดังนี้นะครับ 3.2 กรณีที่ประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักที่พอใจยินดี เช่น มีคนไม่ชอบใจเรา ไม่พอใจยินดีเรา หรือ เกลียดเรา แล้วคอยที่จะกลั่นแกล้ง บีบคั้น ด่าทอ ล่วงเกิน ใส่ร้าย-ทำร้าย ทำให้เราเกิดความคับแค้นใจ เสียใจ ทุกข์ ทรมานไปทั้งกายและใจ ทำให้เราต้องโศรกเศร้า เสียใจ ร่ำไร รำพัน หรือ เมื่อเราอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข ไม่มีความยินดีเลย 3.2.1 เวลาที่เราจะแผ่เมตตาจิตให้แก่บุคคลที่ทำให้เราประสบพบเจอกับสภาพความรู้สึกเช่นนี้ ให้เราเจริญพิจารณามองว่า เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลผู้น่าสงสาร เป็นบุคคลไม่มีปกติสุข มีความขุ่นมัวใจ ขัดข้องติดเคืองในใจอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถคงอยู่แบบปกติสุขได้ จึงต้องคอย คิด-พูด-ทำ ที่เป็นความฟุ้งซ่าน พร่ำเพ้อ เพ้อเจ้อ ใส่ร้าย ทำร้าย เบียดเบียนผู้อื่นอยู่เสมอๆ เพื่อให้ตนเองได้พ้นจากความทุกข์ที่ อัดอั้น ฝืดเคือง ขัดข้อง ขุ่นมัว คับแค้น ที่มีมากจนฝังลึกอยู่ในใจเขานั้น 3.2.2 ลองนึกย้อนกลับดูว่าเวลาที่เรานั้นเกลียดใคร ไม่พอใจใคร แล้วใจเรามีความผูกจองเวรจองกรรม อาฆาต พยาบาท เบียดเบียนเขา ต้องการจะกลั่นแกล้ง บีบคั้น อยากทำร้ายเขา เพราะเราไม่ชอบใจ ไม่พอใจยินดีในตัวเขา สภาพจิตใจเราในขณะนั้นจะขุ่นเคืองใจ ขัดข้องใจ หมองมัวใจ มุ่งทะยานคอยคิดหาหนทางกลั่นแกล้ง บีบคั้น ทำร้ายเขาเสมอ มีความเดือดร้อนใจกลัวเขาได้ดีมีสุข ไม่มีความเย็นใจ มีความขุ่นเคืองหมองมัวใจอยู่ตลอดเวลา ไม่มีความปกติสุขของจิตแบบคนทั่วไปที่อยู่โดยไม่คิดผูกจองเวร หรือ กระทำเพื่อเบียดเบียน อาฆาต พยาบาท ทำร้ายใคร 3.2.3 ให้ตั้งจิตด้วยใจปารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้มีชีวิตเป็นปกติสุข มีจิตใจสงบ-ผ่องใส 3.2.4 ตั้งจิตเจริญอยู๋ในความเอื้อเฟื้อ อนุเคราะห์ อุปการระ แบ่งปัน มอบให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นมีจิตที่สุขสว่าง สดใส ได้หลุดพ้นจากความอัดอั้น-คับแค้น-ขัดเคือง-ขุ่นข้อง-มัวหมองทั้งกายและใจ ให้ความมีใจผูกจองเวร อาฆาต พยาบาท เบียดเบียดทำร้ายใครๆทั้งหลายเหล่านี้ของเขาได้สูญสลายหายไปจากจิตใจของเขา เพื่อเขาทั้งหลายเหล่านั้นได้หลุดพ้นจากทุกข์ที่เป็นอยู่ มีจิตใจที่แจ่มใสเป็นที่รักใคร่แก่ผู้อื่น ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับหวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่คุณนะครับ วิธีการเจริญเมตตาจิตในการสวดมนต์แผ่เมตตาให้แก่บุคคลทั้งหลาย นี่คือเมตตาเจโตวิมุตติที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนครับ ประเสริฐที่สุดบนโลกนี้แล้วครับ http://84000.org/tipitaka/pitaka_it...%C1%B5%B5%D2%E0%A8%E2%B5%C7%D4%C1%D8%B5%B5%D4