คำทำนายภัยพิบัติ อ.ทิพากร รินไธสงค์ จากปัจจุบัน ไปจนหลังสิ้นปี 2561

หรือไม่จริงครับ ที่นิ่ง ๆ ไม่ออกมาโวยวายเพราะอายว่าโดนหลอกหรือเปล่าครับท่านผู้เจริญ หุ หุ

 

เป็นจุดอ่อนด้านการใช้ภาษาของลุงมหา
หรือเป็นการพยายามหาความผิดเพราะ
การตั้งธงว่าเป็นกระทู้หลอกลวงเลยลุยหา
จุดบกพร่องเพื่อเตะตัดขา

ความจริงคนเเก่เพราะอยู่นานไม่ยอมตาย
เเต่ไร้ค่าเพราะไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องความดีนั้น
มีเยอะมาก จะนับเราเป็นหมายเลข1ก็ใด้
เเต่คนหนุ่่มที่โฉ่งฉ่างไม่รู้เรื่องความดี ก็เป็น
ที่พึ่งของครอบครัวเเละสังคมไม่ได้เช่นกัน
ท่านมหาใช้ภาษาไม่ถูกใจคนอ่าน
เเละขันติยังไม่เเข็งพอก็เลยสวนกลับเเรงๆมั๊ง

เเต่ถ้าหากเป็นเจตนาไม่ดี ท่านมหาก็จะหายไปเอง
เราจะเอาท่านเป็นปัจจัยในการก่อบาปก่อกรรมทำไม

 

ผมก็แก่และมองโลกอย่างคนแก่และคนหนุ่มผสมกันเพราะเราอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงมิใช่โลกสมมุติครับ
-ไม่เกี่ยวกับภาษาหรือสำบัดสำนวนอะไร
-ผมไม่ได้เตะตัดขาเพราะผมไม่ได้มาเป็นผุ้เสนอขายอะไรเพื่อแยงผลประโยชน์ทางการค้า
-แล้วเอาอะไรมาวัดว่าพวกผมไม่มีความดี ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของครอบครัว เพราะผมไม่มีบารมีหรือครับ
-ลุงมหาหายไปผมไม่กลัวผมกลัวเปลี่ยนชื่อใหมามาน่ะสิ
ตอนนี้มาดูประเด็นที่ผมสงสัย (ย้ำหลายรอบแล้ว)
-การสร้างพระหลวงพ่อทันใจ พระใหญ่ รัตนบัลลังค์ ทำไมต้องระดมทุนขนาดนี้ครับผมบอกเรื่องตัวเงินบ่อย ๆ ไม่เอะใจหรือสะกิดใจมั่งหรือครับว่าทำไมผมด่าลุงมหาไหมครับ ผมถามไปทั้งนั้น ไม่ได้เอาทฤษฏีครับ เอาปฏิบัติชัด ๆ เงินเป็นพัน ๆ ล้านนะครับ
ทำไมไม่เอาบัญชีการสร้างมาเปิดเผยต่อสาธารณถ้าบริสุทธิ์อย่างที่กล่าวอ้าง
เเต่ถ้าหากเป็นเจตนาไม่ดี ท่านมหาก็จะหายไปเอง
เราเอาท่านเป็นปัจจัยในการก่อบาปก่อกรรมทำไม
ก็นั่นสิครับท่านจะระดมปัจจัยลาภสักการะต่าง ๆ เพื่อการก่อบาปกรรมนี้อย่างเดียวหรือครับ
ประเด็นอยู่แถว ๆ นี้นะครับอย่าหลงประเด็นไปเปิดตำราศาสนามาเล่นนะครับประเด็นคือเงิน

 

หรือจะเรียกร้องท่านมหาออกมาขอโทษ
ต่อสมาชิกที่ได้รับผลกระทบ

ก็ดีนะ มีขอโทษ มียกโทษ สังคมประชาธิปไตย
อยู่เเบบสัตวโลกก็ดำเนินเเบบสัตว์โลก
รู้ตัวว่ายังเป็นสัตว์โลกก็อยู่กันได้
เเล้วก็บำเพ็ญกันต่อไป

 

แสดงว่าไม่เข้าใจที่พวกผมพิมพ์ลงไปให้อ่านจริง ๆ เหนื่อยไหมครับท่านที่ถูไปเรื่อย ๆ อ่านสิ ย้ำอีกก็ได้ ประเด็นเรื่องตัวเงินครับ อ่านช้า ๆ นะ เพราะผมพิมพ์อย่างช้าแล้ว แค่ว่าเงิน หลักฐาน เปิดเผยต่อสาธารณทำไม่ได้เชียวหรือ แค่นี้ มาเกี่ยวอะไรกับการขอโทษครับ งั้นก็แสดงว่าลุงมหาต้มจริง ๆ น่ะสิครับจึงให้มาขอโทษและยอมรับ อย่ามัดตัวเองนะครับ

 

สรุปให้ละกัน

"การสร้างพระนั้นเป็นเรื่องดีแต่จะโยงเข้าประเด็นคำทำนายภัยพิบัติทำไม และมาตั้งกระทู้บอกบุญในห้องนี้ทำไม ในเมื่อห้องบอกบุญก็มีอยู่แล้ว"

ห้องบอกบุญสร้างพระ >>> พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง - PaLungJit.com

 

ผมก็ไม่ทันนึกแฮะ จริง ๆ แหละครับไปที่ห้องนี้ผมไม่ไปแตะแน่ ๆ เพราะมันตรงตามเจตนา แต่ว่าห้องภัยพิบัติมาเรี่ยไรเงิน มาขายของนี่ไม่ผิดวัตถุประสงค์หรือครับ

 

ผมไม่เชื่อว่าใครจะคุ้มครองใครไม่ให้ถูกหลอกได้
เเต่เชื่อเรื่องวิบากของคนก่อกรรมเป็นที่สุด
ทุกวันผมก็รู้ว่าผมโดนหลอกเรื่องราคาพลังงาน
จำเป็นต่างๆเเต่ก็ไม่เรียกร้องให้ใครมาปกป้อง
เพราะรู้ว่าใครก็ช่วยไม่ได้
ใครคิดจะคุ้มครองเพื่อนร่วมโลกได้บ้างก็ทำไป
ผมเคยบริจาคร่วมสร้างพระใหญ่ไป 100บาท
ที่วิหารเซียน เขาชีจรรย์

 

ขอโทษเรื่องปรามาส
ส่วนเรื่องเงินเป็นเเค่การโชว์ตัวเลขรึเปล่า
มหาศาลขนาดนั้น ต้องเป็นปาฏิหารย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรืออำนาจ
จากมือที่มองไม่เห็น เกินพลังคนสามัญจะหลอกจะลวงได้ นั่นเเหละธรรมะ

 

ก็ใช่ไงครับผมถึงอยากให้เอามาเปิดเผยทางสาธารณไงครับ เอามาโชว์สิครับการเรี่ยไรไปเท่าไหร่ สร้างอะไรเท่าไหร่
ชักเลอะเทอะมาปาฏิหารย์อีก
"ภัยพิบัติ คุมอยู่แล้ว"

"ต่อไปก็คือ การเหนี่ยวนำ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เข้ามาในประเทศไทย"
"ท่าน อ.ทิพากร ท่านได้กำหนดเอาไว้แล้วล่วงหน้าว่า
๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"
"ส่วนที่จะใช้ในการก่อสร้าง รัตนบัลลังค์ ก็คือ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"
ทำไมต้องให้มาตอกย้ำจริง ๆ นะ ก็อันนี้มาจากใครล่ะ ปาฏิหารย์หรือเปล่า
ภัยพิบัติคุมได้หรือ อย่าเลอะเทอะเอาความจริง

 

เอาเป็นว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าอะไรบ้างในการสร้างพระใหญ่ ที่ว่า เมื่อก่อนผมเห็นคุณสรพงษ์ ชาตรี เป็นตัวตั้งตัวตีสร้าง หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ ไม่เห็นต้องมากล่าวอ้างเรื่องภัยพิบัติ หรือ อวดตัวว่ามีภูมิธรรมอะไร ก็ใช้เวลาไม่นานเอง ... พระใหญ่องค์นี้ ใช้เวลามากไปหรือเปล่า???

เรื่องของเรื่องคือ เจ้าของกระทู้ เอาเรื่องภัยพิบัติมาโยงในการสร้างพระ ไม่ใช่เพื่อทำนุบำรุงศาสนา มีเรื่องการบริจาค เรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง และพฤตกรรมคือ ดูหมิ่น ดูแคลนคนอื่นเขาตลอดมา ไม่เชื่อลองย้อนไปดูได้ ทั้งที่คนที่ไปดูแคลนเขาไม่เคยมายุ่งอะไรที่นี่เลย ก็ไปดูถูกดูหมิ่นเขา ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ องค์เจ้า อ้างตัวเองและอาจารย์ว่าวิเศษวิโสกว่าคนอื่น คนอื่นไม่มีภูมิธรรม ไม่มีบารมีที่จะมาเทียบเคียงตัวเองได้ สารพัดจะมาอ้าง ฯลฯ เลยเกิดเป็นเรื่องขึ้นมา

การทำให้ตัวเองและพวกพ้องดูดี ด้วยการดูถุก ดูหมิ่น เหนียบย่ำคนอื่น ไม่มีคนดี ๆ ที่ไหนเขาทำกันหรอก เป็นคนดีให้ได้ก่อนเถอะ ก่อนจะไปอ้างว่าเป็นโน่นเป็นนี่ ...

 

หมายถึงว่าการจะหลอกลวงเอาเงินคนที่หลงเชื่อมากขนาด
นั้นมันเป็นไม่ได้หรอกคนไทยจะโง่มากมายให้หลอกได้ขนาดนั้น
หรือ

 

ความเห็นของผมกลาง ๆ เผื่อจะได้เป็นประโยชน์มากขึ้นกับประโยค

"ภัยพิบัติ คุมอยู่แล้ว" --> ไม่มีภัยหนัก ๆ เกิดในประเทศไทย เช่น แผ่นดินไหวแรง ๆ น้ำท่วม หรือสึนามิ

"ต่อไปก็คือ การเหนี่ยวนำ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เข้ามาในประเทศไทย"
"ท่าน อ.ทิพากร ท่านได้กำหนดเอาไว้แล้วล่วงหน้าว่า
๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"
"ส่วนที่จะใช้ในการก่อสร้าง รัตนบัลลังค์ ก็คือ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"

การเหนี่ยวนำ ความมั่งคั่ง --> ยังไม่เกิดแต่กำลังจะทำให้เกิด เมื่อไม่มีภัยพิบัติก็ถึงเวลา
สร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศไทยโดยการเหนี่ยวนำให้เกิด ยกตัวอย่างเช่น จะจับแมลงวัน
ก็ต้องเอาน้ำหวานมาล่อให้แมลงมาเยอะ ๆ แต่ผมไม่รู้วิธีของอ.ทิพากร เงินทั้งหมดเป็นการ
ประมาณที่จะเหนี่ยวนำเข้ามา แต่ไม่ได้มาที่ อ.ทิพากรคนเดียวมาที่ทุก ๆ คน แต่จะมีคนที่
ต้องการทำบุณกับ อ.ทิพากรเท่านั้นที่จะนำมาสร้างพระใหญ่

ง่าย ๆ ผมลงทุนการที่เงิน 500,000,000,000 บาทเข้ามาในตลาดหุ้นนี่ไม่ยากเลยแต่
ขอสัก 200,000,000,000 บาทก็พอ ผมลงทุนผมขอสัก 1000 ล้านก็พอ ส่วนอื่น ๆ
ก็เฉลียไปในกิจการต่าง ๆ ทั้งประเทศไทย

ลองพิสูจน์ดูก็ได้เพราะปีนี้มีคำทำนายเรื่องเศรษฐกิจจะแย่ทั่วโลกเพราะยุโรปและอเมริกา
ทำท่าจะแย่ ถ้าตลาดหุ้นไทยทั้งปี 2556 แตะ 1700 น่าจะพิสูจน์อะไรได้บ้าง

 

พูดแบบความจริงไม่ต้องเฉโก
1.ตัวเลขพันล้านหมื่นล้าน จะเป็นไปได้หรือ?
หากเป็นไปได้จริง ก็ต้องเรียกว่า"ปาฏิหารย์"
(ปาฏิหารย์แปลว่าไร)
เพราะเรามองว่าคนไทยไม่ได้งมงาย ตามความคาดหมายของใคร
พูดแบบนี้เพราะเชื่อแบบนี้
2.หากมีความศรัทธามากมายจนได้ยอดเงินขนาดนั้นจริง
การบริหารจัดการก็เป็นเรื่องขององค์กร
ถ้าถามหาความโปร่งใส ก็ตอบได้ทันทีว่าเรื่องการเงิน
ไม่มีที่ไหนต้องโปร่งใส ทุกหน่วยงานเหมือนกันหมด
(ย้ำ)ว่าทุกหน่วยงานเหมือนกันหมด อะไรที่เหมือนกัน
คงนึกออก แต่ไม่ใช่ความโปร่งใส ซื่อและบริสุทธิ์
และเป็นกันตั้งแต่ไหนถึงไหนคงนึกออก
เรื่องเงินมันเรื่องของโลกมันก็เป็นไปตามกระแสโลก
เรื่องศรัทธาจะบริจากแล้วมากน้อยไม่เสียดายก็มีความสุขใจที่ได้ทำ
คนบริจาคจะรู้เองว่าทำแค่ไหนได้ความสุขใจ

 

" นี่หรือเมืองพุทธ "

http://www.nutpobtum.com/

หนังสือเล่มนี้ จะตีแผ่อย่างหมดเปลือกว่า เมื่ออ้างอิงตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่อยู่ในพระไตรปิฎก ชาวพุทธที่แท้จริง ต้องมีความเชื่ออย่างไร

หนังสือเล่มนี้ จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการเป็นชาวพุทธแท้ เท่านั้น

หนังสือเล่มนี้ จึงไม่เหมาะสำหรับ คนที่คิดว่า ฉันไม่ใช่ชาวพุทธ ฉันไม่ต้องการเป็นชาวพุทธแท้

ไม่เหมาะกับ คนที่ไม่สนใจว่า ความจริงแล้วพระพุทธเจ้าทรงสอนอะไรไว้

ไม่เหมาะสำหรับ ผู้ที่ไม่เชื่อพระพุทธเจ้า (ผู้ที่เชื่อคนอื่นมากกว่าพระพุทธเจ้า ห้ามอ่าน)

และไม่เหมาะสมสำหรับ ผู้ที่อยากเชื่อแบบที่อยากเชื่อ เชื่อครูบาอาจารย์ โดยไม่สนว่าในพระไตรปิฎกสอนอะไร

เพราะความเชื่อหลายๆ อย่าง ที่คุณมี จะขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง กับเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้

หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับ

ผู้ที่ไม่อยากทำบุญแบบผิดๆที่ได้บุญน้อย หรือคิดทำบุญแต่ได้บาป

ผู้ที่ไม่อยากหลงผิด เชื่อสิ่งที่จะนำชีวิตไปสู่ความเสื่อม

ผู้ที่ปรารถนาจะหนีนรก ด้วยการมีพระรัตนตรัยเป็นที่ยึดเหนี่ยวอย่างไม่มีวันสั่นคลอน (มีไตรสรณะ)

ผู้ที่ปรารถนาจะไปให้สูงกว่าสวรรค์ชั้นที่ ๑

และผู้ที่ปรารถนาจะบรรลุโสดาบัน ไปจนถึงบรรลุนิพพาน

รับรองว่า เมื่ออ่านจบคุณจะได้รู้ว่า ความเชื่อหลายๆ อย่าง ที่ชาวพุทธส่วนมากเชื่อ บางอย่างไม่ใช่พุทธศาสนาที่แท้จริง บางอย่างได้บุญน้อย บางอย่างได้บาป

และคงทำให้หลายคนได้เข้าใจว่า การเป็นชาวพุทธแท้ เพื่อหนทางสู่ความเจริญทางด้านวัตถุและจิตใจเป็นอย่างไร

และเมื่อมองสิ่งที่เป็นอยู่ในประเทศไทย คุณจะต้องอุทานว่า "นี่หรือ เมืองพุทธ?!?!"

คำแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อ

- หากไม่คิดจะยึดเอาพระไตรปิฎก ฉบับที่ใช้กันอยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก (เชื่อตนเอง เชื่อครูบาอาจารย์) อย่าซื้อ

- ในตอนที่อ่าน หากมีความสงสัยในเรื่องใด หรือรู้สึกว่า ความเชื่อบางอย่าง ที่เราเชื่อ น่าจะถูกต้อง ก็แนะนำให้ตามไปอ่านพระไตรปิฎก ในส่วนที่อ้างอิงเอาไว้ แล้วพิจารณด้วยตนเองว่า ควรจะเชื่อแบบเดิมต่อไปดีหรือไม่

 

ความจริง กับ ความจริง ต้องพิจารนากันตรงไหน

ขออนุญาตครับ

ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า
"ไปว่าเขา เขาก็ว่าเรา"
นั้นถูกต้องแล้วครับ

แต่ท่านที่เข้าใจว่า ผมไปว่าท่าน แล้วท่านมาว่าผม
ต้องพิจารนาให้รอบคอบว่า เป็นจริงหรือไม่

ผมไปว่าท่าน หรือ ผมไปชี้ ความจริงให้ท่านเห็น

โครงการสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น เป็นโครงการที่ประกาศอย่างชัดเจนว่า

"สร้างเพื่อป้องกัน สร้างเพื่อแก้ไขภัยพิบัติ"
"สร้างเพื่อ นำความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์มาสู่เมืองพุทธ"
"สร้างเพื่อ ให้ชาวพุทธจำนวนมากได้มีโอกาสร่วมทำบุญอย่างทั่วถึง"

แม้ในปัจจุบัน การสร้างเสาฐานรากที่มีผู้มีจิตศรัทธา จองไปหมดแล้ว
แต่ก็ยังมีผู้ติดตามถามหา เพราะมีความเชื่อว่า

"การร่วมสร้าง ตั้งแต่ต้น จะส่งผลบุญบารมี"
"ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่เกิด ตั้งแต่เริ่มต้น"

หลักการสร้างกุศลผลบุญของท่าน อ.ทิพากร ก็คือว่า

เมื่อญาติธรรมชาวพุทธ ได้สร้างบุญบารมีร่วมกับท่าน ร่วมกับพระใหญ่ชัยภูมิแล้ว
เราก็น้อมนำกุศลผลบุญนั้น ไปอุทิศให้แก่

บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย
อารักขเทวดา กุมภเทวดา อากาศเทวดาทั้งหลาย
บรรพชน วีระชน วีระกษัตริย์ไทย นักรบผู้กู้ชาติ รักษาชาติบ้านเมืองทั้งหลาย
เจ้ากรรม นายเวรทั้งหลาย
ดวงวิญญาณเร่ร่อน ไร้ญาติขาดมิตร ทั้งหลาย

เมื่อท่าน อ.ทิพากร ผู้นำพาทำพิธีได้ถูกต้อง
ทำให้การทำบุญสร้างกุศล ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ท่านนำ ท่านพา ขออโหสิกรรม อุทิศกุศลผลบุญให้เจ้ากรรมนายเวร
ท่านนำ ท่านพา อุทิศกุศลผลบุญ ให้เหล่าเจ้ากรรม นายเวร จนเขาเหล่านั้น
สามารถเลื่อนภพ เลื่อนภูมิ ไปสู่ภูมิที่มีความสุข ไปเป็นเทพ ไปเป็นเทวดาไป

เมื่อญาติธรรมมาร่วมทำบุญมาก การอโหสิกรรม ก็มีมากขึ้นๆ
เมื่อการอโหสิกรรมมีมากขึ้นๆ ก็นำไปสู่ การเบียดเบียนจากเจ้ากรรมนายเวรลดลง

เมื่อการเบียดเบียนจากเจ้ากรรมนายเวรลดลง เหตุของภัยพิบัติก็ลดลงด้วย
เมื่อเหตุของภัยพิบัติลดลง ภัยพิบัติก็ลดลงตามไปด้วย
เมื่อภัยพิบัติลดลงไป ความอุดมสมบูรณ์ ก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย

การสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น ผมก็นำเสนอข้อมูลพื้นฐาน
ตามหลักพระพุทธศาสนา ตามที่พบ ตามที่เจอ ตามที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์
ได้บอก ได้เล่าเอาไว้

อย่างเช่นที่ผมได้บอกเล่าเอาไว้บ่อยๆ

คำสอนขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

"พระโพธิ์สัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
"เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต"
"ต้องให้ความเคารพ ท่านด้วย"

คำสอนขององค์หลวงปู่โลกเทพอุดร

"พระโพธิ์สัตว์ ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว"
"มีบุญบารมีในการสงเคราะห์มนุษย์ เทียบเท่าพระพุทธเจ้า"

คำสอนขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโน

"พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า"
"อย่าได้กล่าวว่า ที่มีคนมากราบไหว้ บูชาเรา ก็เพราะเราเป็นพระพุทธเจ้า"
"อย่าได้กล่าวว่า ที่มีคนมาทำบุญทำทานแก่เรา ก็เพราะเราเป็นพระพุทธเจ้า"
"ความจริงคือ ที่มีคนมากราบไหว้ บูชาเรา ก็เพราะเราได้กราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆเอาไว้"
"ความจริงคือ ที่มีคนมาทำบุญทำทานแก่เรา ก็เพราะเราได้ทำบุญทำทานเอาไว้"

องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโน ท่านยังได้เน้นย้ำให้อีกว่า

"การให้ทาน เป็นพื้นเป็นฐาน ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"

องค์ท่านยังได้ทำเป็นตัวอย่าง ให้ครูบาอาจารย์ ให้คนรุ่นหลังได้ดู ได้ชม
โดยองค์ท่าน จะนำสิ่งของไปแจกแก่ โรงพยาบาลที่ห่างไกล ที่ขาดแคลน
โดยองค์ท่านใช้คำศัพท์ว่า "ไปถึงก็เทให้ แล้วไปเลย"

ด้วยอานิสงค์ของการทำบุญทำทาน กับโรงพยาบาลอย่างเสม่ำ่เสมอ
ขององค์ท่านเป็นเวลายาวนาน ทำให้องค์ท่านมีอายุยืนยาวยิ่งนัก

องค์หลวงตามหาบัว ท่านยังได้สั่งได้สอนบ่อยๆว่า

"ช่างไม้เขามีเครื่องมือ หลายๆอย่างหลายประเภท ก็เพราะว่าเขาต้องทำงานหลายๆประเภท"
"การต่อสู้กับกิเลส ก็เช่นเดียวกัน ต้องใช้เครื่องมือให้ถูกต้องเหมาะสม"
"กิเลสอย่างหยาบ ก็ใช้ปัญญา อย่างหยาบ"
"กิเลสอย่างปานกลาง ก็ใช้ปัญญา อย่างปานกลาง"
"กิเลสอย่างหนา ก็ใช้ปัญญา อย่างสูง"
"ก็ต้อง มหาสติ มหาปัญญา โน่นละ จึงจะพอฟัด พอเหวียงกับกิเลสได้"

การบอกเล่า การเขียนบทความของผมนั้น
ผมก็บอกเล่า ผมก็เขียน เพื่อให้ครอบคลุม ในกลุ่มชาวพุทธทั้งหลาย

ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

หรือ แม้แต่ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์

ที่ผมเขียนออกไป ท่านที่เข้ามาอ่าน ท่านก็ต้อง พิจารนา เอาเองว่า
ส่วนใหน ผมเขียน เพื่อเตือนสติ ใคร

ตามภูมิรู้ ตามภูมิธรรม ตามบุญวาสนา บารมีของแต่ละท่าน ของแต่ละกลุ่ม

แต่ถ้าท่าน พิจารนาผิด ไปอ่าน ไปพิจารนา ในส่วนที่เกินเลย
จาก ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ของตน

แล้วท่านจะเข้าใจได้อย่างไร

เหมือนอย่างที่มีเด็กหัดใหม่ สู้อุตสาห์ เอา กุศลกรรมบทสิบ มาตำหนิติเตียนผม ก็เคยมี

ผมอยากเห็น ท่านที่มี ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
หรือแม้แต่ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ เขามาถามข้อข้องใจบ้าง
เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ผมจะตอบว่าอย่างไร

ผมได้เรียนรู้ ตั้งแต่เป็นเด็กประถมแล้วว่า

การจัดการกับ หมาดุประจำหมู่บ้าน ที่เทียวกัดคนจนไปเกือบหมดหมู่บ้านนั้นก็คือ

๑ อย่าไปสนใจมัน
๒ อย่าไปให้ความสำคัญกับมัน
๓ อย่าไปมองมัน
๔ ทำใจให้ สงบ สบาย

ตั้งแต่นั้น ผมก็ผิวปาก ร้องเพลง เดินผ่านบ้านหมาดุ ได้รอดปลอดภัยทุกครั้ง
ส่วนหมาดุตัวนั้น มันก็ขึ้นชื่อลือชา กัดคนไปเรื่อยๆ จนหมดอายุขัยของมันเอง

การที่ผมมาบอกเล่าเรื่องราว ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ก็ดี
การที่ผมมาบอกเล่าเรื่องราว การสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
เพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ ก็ดี
เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ ให้แก่บ้านเมือง ก็ดี

ใครจะเข้าใจ ใครจะไม่เข้าใจ
ใครจะร่วมทำบุญ ใครจะไม่ร่วมทำบุญ
มันก็ขึ้นอยู่กับ ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
มันก็ขึ้นอยู่กับ บุญ วาสนา บารมี ของท่านนั้นๆ

ส่วนใครที่เห็นเขาทำ เห็นเขาสร้างคุณงามความดี
กลับจะไปแนะนำ ให้เขา ลด ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเขาลง
แล้วมา กิน ขี้ Xี้ นอน เหมือนกับตน
แล้วใครเขาจะเชื่อกันละครับ

เขาก็คง ยิ้มขำๆ เหมือนผมนี่ละครับ

เพราะคนที่เขามีบุญบารมี ที่เข้ามาในเว็บนี้
เขาเข้ามาเพื่อหาข้อมูล เพื่อให้ข้อมูล การสร้างบุญ บารมี
เขาเข้ามาเพื่อเพิ่ม เพื่อสร้าง ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ของเขาให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น

ขอโมทนาบุญ
ขออนุโมทนาบุญ
ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่ความหลุดพ้น
ร่วมกับญาติธรรม ผู้มุ่งสู่พุทธภูมิ
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

ก่อนอื่นเลยผมต้องกล่าวขอโทษคุณลุงมหาที่เคยล่วงเกินอะไรไว้
แต่อยากให้คุณลุงมหาเข้าใจว่า เนื่องด้วย ณ เวลานี้ สภาพสังคม
ในปัจุบันซึ่งมีแต่การเอารัดเอาเปรียบ และอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างนัก
เชื่อว่า ณ ตอนนี้ ปถุชนคนเดินดินอย่างเราๆท่านๆก็คงจะได้เห็น
ด้วยปัญญาว่าอะไรควร มิควร ตามมาด้วย ต่างคน ต่างความคิด
ฉนั้นแล้ว ใคร่ขอให้คุณลุงมหาและสมาชิกท่านอื่นๆโปรดใตร่ตรอง
ด้วยปัญญา กลั่นกรองออกมาเป็นคําพูดที่สุภาพ โต้แย้งกันด้วยวาจา
ที่ดี เลิกทิฐิซึ่งกันและกัน เปิดใจรับฟังความเห็นคนอื่นบ้าง(ไม่งอแง)
ความสุขใจที่แท้จริงและความรู้ใหม่ๆที่ได้มาคงอยู่ไม่ไกลนัก
ปล.ขอขอบคุณ คุณลุงมหา กับคําสอนข้างบนครับ

 

ครับ คุณ pipatz ผมเชื่อว่าคนคิดไม่ดี"กรรม"จะกําหนดไปเอง
คุณ pipatz และอีกหลายคนได้แสดงความคิดเห็นที่ดี-ตรง-
เหมือนที่กระผมเคยบอก ต่างคน ต่างคิดเห็น. ทุกคนถูกสอนมา
ให้ไม่คบคนพาล ฉนั้นแล้ว หลายความเห็นที่ดีๆแต่สําบัติ สํานวน
ไม่ไพเราะ ต้องถูกมองข้ามไป เพราะเห็นว่าไม่ดี(ถ่อย)แต่จริงแล้ว
มันกลั่นออกมาจากความหวังดีจริงๆ พูดตรงๆ"เสียดาย"ครับ

 

ขอถามลุงมหาหน่อยครับ

หลังจากที่ท่านอ.ทิพากร บอกว่าจะเริ่มมีการเหนี่ยวนำความมั่งคั่งมาสู่ประเทศไทยนั้น
คำกล่าวต่าง ๆ ในพิธีการเปิดบุญนั้นยังเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ ถ้าไม่เหมือน ขอความ
กรุณาลุงมหาช่วยนำพิธิเปิดบุญล่าสุดมาลงหน่อยได้ไหมครับ

ผมรู้สึกผิดคาดกับอ.ทิพากร มาก เพราะนึกไม่ถึงว่านอกจากท่านจะช่วยระงับภัยพิบัติแล้วยังมีการชักนำความมั่งคั่งมาให้อีกด้วย นึกไม่ถึงจริง ๆ ผมหยุดการลงทุนมาทั้งปี 2555
เห็นคำกล่าวของอ.ทิพากรนี้ เลยกลับมาดูเรื่องการลงทุนใหม่ โอ้โฮ ผิดคาดมากมาย
อะไรมันจะคึกคักขนาดนั้น ขอบคุณลุงมหามากครับ

 

ผมตัดมาให้อ่านบางส่วนนะครับ ดูการอธิบายความนะครับ ว่า เป็นอย่างไร
ผมว่ามันดูเหมือนการขัดขากับสำนักอื่น ๆ หรือเปล่า
แต่จะว่าไปก็ถูกนะครับ พระสงฆ์ไม่มีหน้าที่มาแก้ภัยพิบัติดั่งเช่น อ.พิระมิด