***ใครศรัทธา สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เข้ามาคุยกันครับ***

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย nitisartthai, 1 ธันวาคม 2012.

  1. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ผมว่าพวกโลภมากมักจะมองเห็นพระสมเด็จเก๊บ้าง
    แต่พวกสวดมนต์เจตนาดีจะมองว่าแท้เลยล่ะครับ
    ผมสังเกตุอยู่เหมือนกันพวกเซียนพระก็บอกของตัวเองแท้แต่ของคนอื่นเก๊
    อันนี้แหละคือพวกโลภที่จะขายพระกิน
     
  2. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    มีรุ่นพี่แขวนพระสมเด็จลายสีรุ้งแบบที่มาลงนี่แหละครับเลี่ยมกรอบทองอย่างดี แล้ววันหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ไปชนรถเก๋ง เจ้าตัวสลบเลือดออกปากขาหักบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวหลายเดือนกว่าจะหาย แกคงเข็ดไปอีกนานแขวนพระสมเด็จที่มีที่มาวังเวง เห็นหลายคนแขวนพระสมเด็จเก๊ขึ้นคอ แต่พระเครื่องที่ดีกว่านั้นที่เขามี ไม่เอามาแขวนกัน พวกนี้ดูไม่เป็นแต่ภูมิใจมากที่แขวนพระเก๊ เพราะคิดว่าเป็นพระแท้พิมพ์นิยม ของตนเองดีที่คุ้มครองตัวได้ไม่เอามาบูชากัน แต่ดันเก็บไว้ที่บ้านซะงั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  3. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ อาจจะถึงคราวกรรมรึป่าวครับเพราะลองอ่านหน้าแรกดูสิครับผมลงประสบการณ์พี่คนนึงไว้แม้สมเด็จปูนปลาสเตอร์ยังศักดิ์สิทธิ์ คือมาจากแรงศรัทธา ผมไม่เถียงนะครับว่าพระเครื่องไม่มีพุทธคุณแต่ผมเชื่อว่าพุทธคุณไม่ได้ช่วยเราทุกอย่าง ไม่อย่างงั้นพระพุทธเจ้าคงสอนให้เชื่อของพวกนี้แล้วละครับ แต่พุทธคุณนั้นมันก็มาจากจิตเนี่ยแหละแม้ก้อนหินถ้าคนที่ใส่จิตลงไปเป็นอริยะก็ศักดิ์สิทธิ์ แต่...อย่าลืมนะครับว่าพุทธคุณก็คือพุทธคุณช่วยให้เรารอดปลอดภัยได้เฉพาะกรรมเบาบางหรือเรายังไม่ถึงคราวเจ็บ แต่แรงกรรมที่เราสะสมไว้ใครจะไปรู้ทำอะไรมาบ้าง คนปลุกเสกยังมีดับแล้วอะไรกันละครับที่ยืนยงนะ เคยดูข่าวไม่ไหมครับ ลองหาดูใน google ก็ได้พวกเสี่ยพวกเซียนที่มีพระสมเด็จที่ว่าของแท้พิมพ์นิยมก็ตายกันเกื่อนถมเถไป รึว่าไม่จริงครับผมว่าตายมากว่าพระเก๊อีกมั้งเพราะมูลค่าที่ล่อใจโจร เยอะแยะครับแล้วทำไมไม่อย่างงี้ไม่ขยาดพระที่เค้าว่าแท้กันละ พระเครื่องก็แค่เครื่องเตือนใจนะครับจะช่วยเราได้ก็เมื่อเราเป็นคนดีให้ปฎิบัติธรรม ทำบุญทำทานเสริมตัวเอง ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนนะครับพระพุทธองค์ทรงสอนเอาไว้ ปาฎิหารย์ไม่ใช่ไม่มีแต่ถ้าไม่ถึงคราวก็ไม่แสดงนะครับ ไม่งั้นผมนอนเฉย ๆ ใส่พระเจ้าสัวแล้วรอรวย อะนะชาตินี้คงรวย ผมเคยอ่านป้าย ๆ ป้ายนึงดีมากที่ถนนสายเอเซีย "อุบัติเหตุไม่ได้เกิดจากเคราะห์กรรม แต่เกิดจากการกระทำโดยประมาท" เราไม่ประมาทถ้าคนอื่นประมาทมาชนเราเราก็เจ็บครับ ใส่พระอย่างมีสติ มีศลี มีธรรม นี่แหละครับจุดประสงค์ของกระทู้นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  4. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    เคยได้ยินมาว่าใครถือศีลสวดมนต์ภาวนา สวดคาถาชินบัญชรอยู่เสมอๆ พระสมเด็จก็จะได้มาเองโดยไม่ต้องไปเสียเงินเช่าหา แต่น้อยคนที่จะทำอย่างนั้นผมเห็นแต่ไปเทียวซื้อหาพระสมเด็จเก๊กันซะส่วนมาก ให้มานั่งสวดมนต์ภาวนาไม่มีอยากทำกัน แต่คนที่ได้พระแท้เป็นคนที่ไม่ได้โลภอยากได้เพื่อเอาไปขาย แต่จะเป็นคนมีศีลธรรมเลยได้พระสมเด็จแท้มาบูชา ท่านว่าจริงไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  5. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    พ่อผมครับที่ถือศีลสวดมนต์ภาวนาสวดคาถาชินบัญชรอยู่เสมอก็จริงครับที่พี่บอกว่าได้พระสมเด็จมาเองแต่ผมก็ไม่รู้นะครับว่าพระแท้เป็นอย่างไรเพราะไม่มีใครเกิดทันสมเด็จพุฒาจารย์โตสร้างแน่ๆแต่ผมเคยทดสอบพระสมเด็จผมแล้วผมฝันว่ามีเส้นผมงอกออกมาจากอกขององค์พระทำให้ผมศรัทธามากยิ่งขึ้นและมั่นใจว่าได้พระของท่านเพื่อเป็นมรดกของตระกูล
     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ได้ไปทัวร์บุญในหลายที่ค่ะ....
    และทุกที่ก็จะขอพร ส่วนมากจะเป็นเรื่องสุขภาพ และให้เดินทางปลอดภัยและสิ่งที่ได้ทำเกี่ยวกับงานบุญก็ขอให้สำเร็จลุล่วง....

    แต่ก่อนกลับลงใต้ ได้แวะพักค้างแรมที่วัดตาลเจ็ดยอด ช่วงเช้าก็ได้กราบองค์สมเด็จโตซึ่งอยู่ในศาลาด้านหน้าวัด....และเดินขึ้นไปที่ตรงองค์สมเด็จโตองค์ใหญ่ ซึ่งภายในก็จะมี องค์หลวงปู่โต และสมเด็จหลวงพ่อทวดคู่กัน เมื่อกราบสมเด็จทั้งสองเรียบร้อย
    ก็เดินขึ้นไปยังด้านบนสุด มีองค์สมเด็จโตองค์ใหญ่รูปเหมือนของสมเด็จ พระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดหน้าตักกว้าง 11 เมตร สูง 18 เมตร น้ำหนักโดยรวม 50,000 กรัม หล่อจากโลหะทองเหลืองเป็นชั้นใหญ่ 16 ชั้น
    ได้กราบหลวงปู่โต และพระอาจารย์หลายองค์ รูปเหมือนขนาดบูชาเท่าองค์จริงของครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ พระอาจารย์มั่น หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข หลวงปู่สดและพระพุทธรูปอีกหลายองค์ และที่นี่เป็นที่เดียวที่ได้ขอพรเรื่องโชคลาภกับสมเด็จโตค่ะ
    เมื่อขอพรท่านเสร็จก็เอาศรีษะไปแนบกับนิ้วพระบาทท่าน...
    และช่วงที่เดินลงมาก็ไปลูบตรงปี่เซี่ย ทั้งสอง.....

    เมื่อสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิดว่าเป็นอนิสงส์ที่ได้ทำบุญในหลายที่ และเชื่อว่าที่ได้ขอพรกับองค์สมเด็จโต ที่วัดตาลเจ็ด ซึ่งหลวงปู่โตนั่งเป็นประธานอยู่และองค์หลวงปู่ทวดและพระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทุกท่านที่กราบไหว้วันนั้น ท่านเมตตาให้ได้รับโชคใหญ่...
    รางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 5 หมายเลข 454955 โชคดีรับปีใหม่ค่ะ...

    *และจะได้ไปกราบท่านอีกครั้งหนึ่งค่ะเมื่อลางานได้ ตอนนี้ก็ให้ญาติไปปิดทององค์หลวงหลวงปู่โต หลวงพ่อทวด และพระอาจารย์ซึ่งอยู่ด้านบนนั้น รวมถึงปี่เซี่ยที่วันนั้นได้ไปขอโชคเอาไว้ค่ะ...
    เล่าสู่กันฟัง...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มกราคม 2013
  7. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ผมไม่ได้มานำเสนอสมเด็จวัดพระแก้ว ไม่ได้มีเจตนาให้ยึดถือ เพราะส่วนตัวผมยึดสมเด็จวัดระฆังแต่ลองดูกรณีนี้ดูครับ คนที่เห็นเพียงมูลค่า เพียงคำว่า "จักรพรรดิพระเครื่อง" เพียงใส่แล้วโก้ เพียงใส่เพราะอยากโชว์ อยากให้ดูกรณีนี้ดูนะครับว่าจริง ๆ แล้วพระเค้าใส้กันเพื่ออะไร

    ติดตามข้อความด้านล่างนะครับ
    V
    V
    V
    V
    V
     
  8. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    คมลัมน์:สรณะคนดัง:พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา รอดตายเพราะ...ห่มผ้าพระปฐมเจดีย์



    พระสมเด็จ วัดระฆัง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และ พระสมเด็จบางขุนพรหม หากใครครอบครองเอาไว้ในเชิงพุทธพาณิชย์คงเช่าหากันเป็นล้าน ทางกลับกัน พระสมเด็จ รุ่นเพดานโบสถ์ วัดพระแก้ว ที่วงการพระเครื่องไม่นิยมเช่าหากัน

    จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๑๔ ในฐานะบิดาของนักแสดงสาว "ครีม" เปรมสินี รัตนโสภา ให้ข้อคิดว่า
    พระสมเด็จองค์นี้ได้มาจากนายทหารท่านหนึ่ง ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีมูลค่าอะไร แขวนติดตัวเพราะนับถือให้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยพระสมเด็จองค์นี้ยังมีพระประจำวันอยู่ในองค์อย่างสมบูรณ์

    พล.ต.เอกนันท์ อธิบายว่า เป็นคนแขวนพระเครื่อง แต่ไม่ได้แขวนตามความเชื่อในหลวงพ่อองค์นั้น หรือองค์นี้ต้องดี กลับมองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ ยิ่งพระสมเด็จองค์นี้ที่ชอบเนื่องจากมีพระธาตุประดิษฐานอยู่ในองค์พระด้วย ส่วนด้านหลังขององค์พระสมเด็จ เป็นองค์เสด็จพ่อ ร.๕ ประกอบกับเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย จปร.เพราะถือว่าพระองค์ท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ ทำให้เราทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง และเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ ที่ชีวิตเฉียดตายมาถึง ๓ ครั้งไม่เป็นอะไร
    ครั้งแรก เกิดขึ้นระหว่างขับรถจากลพบุรี เข้ามาประชุมในกรุงเทพฯ พอประชุมเลิกหกโมงเย็น ปกติจะนอนที่บ้านเลย แต่วันนั้นเห็นว่า ยังมีงานด่วนที่ต้องกลับไปทำ ถ้าไม่กลับไปทำเดี๋ยวงานไม่เสร็จ จึงขับไปกับลูกน้อง ใช้ความเร็วประมาณ ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทันใดนั้น รถเกิดชนกันที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เชื่อไหมว่า ทั้งตัวกระเด็นออก แต่เข็มนิรภัยก็ตีกลับมา

    ส่วนรถก็ม้วนตีลังกา จังหวะนั้นมีสติมองเห็นภาพที่รถตัวเองกำลังลอยอยู่บนอากาศจะรู้สึกตัวตลอด มันเป็นภาพที่เหมือนดูหนังแบบสโลว์โมชั่น เมื่อรถหยุดนิ่งตั้งตะแคงรู้สึกทันทีว่าตัวเองติดอยู่กับเบาะ ส่วนลูกน้องเจ็บหนัก พวงมาลัยที่จับบิดเกือบเหมือนเลขแปด อีกใจก็นึกถึงรถว่ารถจะยังไงบ้าง เป็นเรื่องแปลกอย่างมากที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเลย
    ครั้งที่สอง เกิดขึ้นตอนนั่งเฮลิคอปเตอร์ออกตรวจพื้นที่ โดยออกบินจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันตก ช่วงประมาณเจ็ดโมงเช้า หมอกลงจัดทำให้อากาศปิด หากฝืนบินต่อไปคงไม่ได้ต้องหาทางลง แต่นักบินบอกลงไม่ได้ เนื่องจากมองไม่เห็นสนาม ต้องบินลุยหน้าไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็นั่งสวดมนต์คิดว่าไม่นานน่าจะพ้นจากสภาพหมอกที่ทำให้อากาศเกิดวิกฤติ พอนั่งนับว่าเวลาผ่านไป ๔๐ นาที แล้วหมอกก็ยังไม่จางเลย ใจก็เริ่มเสียแล้ว สวดมนต์ก็เริ่มตีกันไปตีกันมา ใจก็นึกถึงลูก ภรรยา บิดามารดา นักบินบอกอีกว่าจะต้องเอาเครื่องลงแล้วเพราะบินต่อไปคงต้องเข้าประเทศพม่า
    เครื่องวัดระดับในเฮลิคอปเตอร์เกิดไฟฟ้าสถิตทำให้ทุกปุ่มที่จะใช้สื่อสารก็เสียทั้งหมด นักบินบอกรู้ทิศทาง แต่จริงๆ ทุกคนใจเสียกันหมดแล้ว นักบินก็ฉลาดเหมือนกันเขาเอาสร้อยที่มีพระมาแขวนไว้หน้าคนขับเพื่อจับระดับความสูง พอเอาเครื่องลงทุกคนก็คิดกันว่ายังไงเครื่องต้องกระแทกกับต้นไม้หรือภูเขา พอลดระดับลงมาเครื่องตุ่มๆ จาก ๒,๐๐๐ ฟิต ๑,๐๐๐ ฟิต จนกลายเป็นศูนย์

    "โชคดีที่เครื่องสามารถเบรกได้ ๑ ครั้ง แล้วก็เหมือนว่ามองเห็นหนองน้ำและรถแม็คโคร ซึ่งเครื่องลงห่างจากพระปฐมเจดีย์ประมาณ ๘ กิโลเอง ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องเฮลิคอปเตอร์ดัง เขาจึงตามมาเพื่อจะมาเก็บศพพวกเรา นั่งทำใจกันเป็นชั่วโมง" พล.ต.เอกนันท์ เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายด้วยน้ำเสียงระทึก พร้อมเล่าต่อว่า
    เหตุการณ์ครั้งที่สาม เกิดขึ้นก่อนคืนวันลอยกระทงปี ๒๕๔๙ ที่รอบๆ ค่ายทหารราบที่ ๑๑ บางเขน จะมีเด็กจุดพลุกันเสียงดังไปหมด ก่อนเข้านอนก็สวดมนต์เป็นประจำ หลังสองยามเข้านอนตามปกติ ประมาณตีสองมีเสียงปั้งดังมาก ภรรยา (วิลาสินี) ก็ปลุกว่ามีเสียงอะไรดัง ดังแบบมีแสงสว่างด้วย เป็นจังหวะที่กำลังง่วงนอนมาก ก็ตอบกลับไปว่าไม่มีอะไรหรอก นอนๆ ภรรยาก็ปลุกอีกมันทำไมถึงมีแสง พอเอามือไปคำๆ ที่หมอน มีความรู้สึกว่ามันเป็นเศษปูนละเอียดกระจายเต็มห้องไปหมด

    เมื่อเริ่มเปิดไฟ ก็เห็นรูตรงฝาผนังบ้านเหมือนใครเอาสว่านมาเจาะเป็นรูใหญ่ แต่สัญชาตญาณเรารู้เลยว่าเป็นกระสุน ๑๑ มม. พอสำรวจก็พบว่าลูกกระสุนที่ยิงเข้ามาทะลุฝาผนังสังเคราะห์เฌอร่า เฉียดศีรษะที่กำลังนอนอยู่บนหมอนไม่สูง หากคืนนั้นนอนหนุนหมอนที่สูงกว่าเดิมอีกนิดเดียวกระสุนลูกนี้คงเข้าศีรษะหลับไปแบบไม่รู้สึกตัวเป็นแน่ รุ่งเช้าให้นายทหารไปตรวจสอบก็พบว่าคืนนั้นนักเลงมีเรื่องกันแล้วยิงปืนบนสะพานข้ามคลอง "เชื่อไหมว่า เหตุการณ์ครั้งที่สามรอดตายมาได้เพราะมีพระรูปหนึ่งแนะนำให้ไปห่มผ้าพระปฐมเจดีย์ ไปห่มได้เพียงวันเดียวเกิดเหตุ จึงมานั่งคิดว่าคงเป็นบุญที่เราทำแน่แล้ว หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมามันสอนเราว่าถ้าคนเราไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย แล้วถ้าคนเราจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย ใครทำกรรมอะไรไว้ไม่ดีย่อมได้รับผลกรรมนั้น" พล.ต.เอกนันท์ กล่าวทิ้งท้าย


    เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ อุทร ศรีพันธ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a.jpg
      a.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.7 KB
      เปิดดู:
      1,317
    • b.jpg
      b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.5 KB
      เปิดดู:
      510
    • c.jpg
      c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.8 KB
      เปิดดู:
      1,695
  9. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ทีลงให้อ่านกันแบบนี้ละเงียบกริบ~~~
    ห้อยพระกันยังไงกันแน่นะ โชว์ งมงาย เพ้อเจ้อ หรือ ฯลฯ
    ผมลงเพราะอยากให้คนที่อยู่ในวังวนงมไม่ขึ้นตื่นกันสักที สมเด็จหากันทั้งชีวิต หาไม่เจอสักทีเพราะติดอยู่ที่ทรงพิมพ์ ที่มา คนสวด ผมไม่เถียงว่าสมเด็จเก๊มีแล้วเยอะมากแต่อยากจะให้คิดกันบ้างว่าพระท่านเขาสร้างพระมาเพื่ออะไร พุทธานุสติไม่ใช่หรอ

    ไม่คิดที่จะพอหรือยึดถือคำสอนของสมเด็จโตบ้างหรือครับ มัวแต่ไปฝันถึงวัตถุกันทำไม สมเด็จแท้ทุกองค์แหละครับถ้ารู้จักคำว่าพอ

    ปล.ผมไม่ใช่สายวัดพระแก้ว วังหลัง พระธาตุพนม กรุท่าพระจันทร์ สากล หรือ เฉพาะกลุ่ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  10. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ไม่ได้เงียบกริบค่ะ รอติดตามอยู่...ค่ะ
     
  11. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ธรรมะของหลวงปู่โต ค่ะ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=UuWhLUm7c9o]ธรรมะคำสอนของ สมเด็จพุฒาจารย์โต - YouTube[/ame]
     
  12. Pathommatash

    Pathommatash เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +729
    แสดงภาพ"พระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง ปี 2485 (ยุคต้น)สำหรับท่านสมาชิก Wenger_June
    ใช้ในกรณีศึกษาร่วมกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273 KB
      เปิดดู:
      439
  13. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ผมคนนึงละที่ห้อยพระเพื่อหวังเพิ่งพุทธคุณ
    ตั้งแต่ผมห้อยหลวงปู่ทวดเนื้อว่านของวัดถ้ำเสือองค์เดียวจนตอนนี้ก็ยังห้อยคออยู่และก็มีเพิ่มมาอีก2องค์คือพระหางหมากหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับเหรียญเสด็จพ่อปิยะมหาราชรุ่นแรกป้อมพระจุลสร้าง อีกเส้นก็มีพระสมเด็จชานหมากหลวงปู่ทิมวัดพระขาวหลวงพ่อไปล่รุ่นสร้างมณฑปท้ายสุดหลวงพ่อโสธร(เส้นนี้พ่อผมจัดหลวงพ่อไปล่กับหลวงพ่อโสธรเพิ่มมาให้)
    ปกติจะห้อยเส้นแรกถ้าออกไปทำธุระก็จะนำเส้นสมเด็จไปด้วย
    ส่วนตัวผมนับถือหลวงปู่ทวดกับเสด็จพ่อปิยหมาราชมากเพราะห้อยแล้วนึกอย่างไรก็จะสำเร็จดังนั้นเวลาผมจะไปไหนมาไหนก็ตามมักจะบอกกล่าวขอให้ปลอดภัยตลอดไปไหนมาไหนอุ่นใจครับคุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
     
  14. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    เอ่อ...ท่านPathommatashครับ กระทู้นี้ไม่ได้เน้นหรือมาหาความรู้ทรงพิมพ์หรือพระเครื่องที่ทันสมเด็จรึไม่นะครับ กระทู้นี้มีเพียงเจตนามาเผยแพร่ประสบการณ์พระเครื่องของสมเด็จโตท่านโดยไม่คำถึงถึงสากลหรือเฉพาะกลุ่มขอแค่เกิดประสบการณ์เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์แก่คนที่ศรัทธาสมเด็จโตนะครับได้เข้ามาอ่านได้มาแบ่งปันประสบการณ์

    การที่ท่านนำภาพมาลงโดยมาบอกเพียงเป็นพระสมเด็จโดยอ้างว่าทันสมเด็จโตปลุกเสกนั้น
    โดยไม่ได้บอกเล่าประสบการณ์ ผมว่าผิดเจตนาของกระทู้นะครับ ถึงแม้กระทู้นี้จะไม่ได้สนใจเรื่องสากลหรือเฉพาะกลุ่ม แต่การที่ท่านมาลงอย่างนี้อาจทำให้ผู้ที่เข้ามาเห็นคิดว่าเราเล่น พระแก้ว หรือเฉพาะกลุ่มได้นะครับ


    แต่หากท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับพระสมเด็จที่ท่านนับถือ มาลงรูปพร้อมประสบการณ์ OK ครับเรายินดีอย่างยิ่งแม้จะวัดพระแก้ว สากล หรือเฉพาะกลุ่ม แค่ท่านเชื่อแล้วศรัทธาในสมเด็จโต
    ขอฝากด้วยนะครับถ้าจะลงรูปเพียงอย่างเดียวแนะนำให้เปิดกระทู้ใหม่ครับ ถ้าจะให้ความรู้เรื่องทรงพิมพ์ อย่างไหนทันสมเด็จอะไรแนะนำให้ลงที่ห้องวิธีดูพระเครื่องครับ กระทู้นี้สำหรับประสบการณ์โดยเฉพาะไม่แบ่งแยกสากลหรือเฉพาะกลุ่ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  15. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437

    ผมคนหนึ่งที่เคารพรัก,ศรัทธาในองค์สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังษี....
    แม้จะมีแต่พระสมเด็จ+เหรียญใหม่ๆของยุคใหม่...แต่ก็หมั่นสวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรมาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา....ด้วยความเชื่อที่ว่า " แม้ไม่มีสมเด็จแท้ๆที่คอ ขอแค่สวดชินบัญชร ก็เหมือนมีสมเด็จอยู่กับตัว "
    หากมีเวลาจะมาเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับบารมีหลวงปู่โตที่เคยช่วยเหลือและคุ้มครองมาแชร์ให้อ่านกันครับ.

    นี่คือพระสมเด็จ100ปีวัดระฆัง พิมพ์คะแนน ที่แขวนติดตัวประจำครับ...
    ขออนุญาติท่านเจ้าของกระทู้ด้วย.
    ...


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  16. จำปาแมน

    จำปาแมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    854
    ค่าพลัง:
    +2,166
    สวยงามมากครับ
    รวมถึงพุทธคุณด้วยครับ สุดยอดมากครับ ดีใจมากครับที่ได้ไปกราบที่วัดระฆังแล้วครับ
     
  17. nitisartthai

    nitisartthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +875
    ไม่ต้องขออนุญาติหรอกครับพี่ ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ แล้วขอบคุณสำหรับเรื่องราวประสบการณ์ครับ บ้านนี้ของพวกเราทุกคนที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ครับ
     
  18. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    ขอบคุณในไมตรีจิตที่มีต่อกันครับคุณnitisartthai..

    คร้ังหนึ่งเมื่อวัยเบญจเพศ...ผมมีอันต้องป่วยเข้าไปรักษาตัวอยู่ที่รพ.ยันฮีเป็นจำนวน 9 วันติดๆ...ณ เวลานั้นยังไม่ได้สนใจเรื่องพระเครื่องแต่อย่างใด...และก็จะรู้จักพระอริยะสงฆ์เพียงไม่กี่องค์...2วันแรกที่เข้ารักษานั้นอาการหนักมาก..ถึงกับต้องให้ยาเข้าเส้นเลือดโดยตรงเพราะยาเม็ดไม่แรงพอ...ช่วง3วันแรกมีไข้เข้ามาผสมทำให้เกิดความทุกข์สาหัสตลอดทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน...เย็นวันที่4 คนที่คอยดูแลไข้ผมได้พอออกไปชมวิวริมระเบียงฝั่งติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา...จู่ๆก็นึกถึงสมเด็จโต พรหมรังษีขึ้นมาว่าเราเคยไปกราบท่านมา2หนก่อนที่จะเข้ารพ.เมื่อ1-2เดือนก่อน..นาทีนั้นผมมองไปทางวัดระฆังยกมือขึ้นพนมพร้อมหลับตาระลึกอฐิธานจิตถึงใบหน้าหลวงปู่โตในวัดระฆังที่เคยได้ไปกราบต่อหน้าท่าน(ดั่งรูปแทนตัว)... ว่า..ขอบารมีและความเมตตาหลวงปู่โตโปรดช่วยให้อาการป่วยของผมหายภายใน9วัน10วันเพื่อจะได้กลับไปทำงานต่อ...เพราะงานที่ทำอยู่นั้นก็เพิ่งทำได้ไม่ถึง3เดือน,เกรงจะเกิดผลเสียตามมา...หากหลวงปู่โตเมตตาช่วยลูกให้พ้นจากความเจ็บป่วยในครั้งนี้ได้ภายในเร็ววัน..ลูกจะพยายามสวดพระคาถาชินบัญชรให้ได้คล่องถวายแด่หลวงปู่และจำขึ้นใจตลอดไป...ทั้งตอนนั้นผมยังสวดชินบัญชรไม่เป็นเลยสักนิด..ได้แต่อ่านตามแบบตะกุกตะกัก...พอตกกลางคืนผมบอกญาติว่าอยากได้หนังสือสวดมนต์ที่มีคาถาชินบัญชรสักเล่ม..เพื่อจะนำมาสวดก่อนนอนทุกคืน..ญาติที่เฝ้าไข้ผมก็หามาให้ผมภายในวันนั้นทันที...และจากนั้นผมก็ได้สวดชินบัญชรก่อนหลับตานอนมาโดยตลอดจนถึงคืนสุดท้ายที่นอนรพ.(โดยไม่มีพระเครื่องในคอเลยสักองค์)...
    แล้ววันเวลาก็ล่วงเลยมาจนวันที่9 ,ในที่สุดคุณหมอก็อนุญาติให้ผมออกจากรพ.ได้..ซึ่งหมอก็แปลกใจว่าอันที่จริงหากเป็นคนไข้อื่นๆที่ผ่านมาต้องใช้เวลารักษามากกว่า10วันขึ้นทั้งนั้น..แต่ผมกลับหายป่วยและแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปรกติ....ซึ้งผมเองก็ดีใจที่หายเสียทีและนับจากนั้นเป็นต้นมาจึงทำให้ผมรู้สึกศรัทธาในสมเด็จพุฒาจารย์โต และพระคาถาชินบัญชรขึ้นมาอย่างจับใจ...ว่าคงเป็นเพราะบารมีท่านที่เมตตาช่วยให้ผมผ่านพ้นในช่วงชีวิตที่ยากลำบากและสาหัสในขณะนั้นมาได้....จากน้ันผมก็เริ่มหมั่นสวดชินบัญชรมาโดยตลอดจนสามารถท่องจำขึ้นใจได้ภายในไม่กี่เดือนและหมั่นเดินทางไปกราบท่านพร้อมสวดชินบัญชรต่อองค์สมเด็จโตที่วัดระฆังทุกๆวันเสาร์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา.....


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2013
  19. Pathommatash

    Pathommatash เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +729
    พระสมเด็จเน้ือผงใบลาน หลังครุฑพ่าห์ องค์น้ีเคยนำขึ้นคอแล้ว สามารถเจรจาขายท่ีดินได้สำเร็จในราคา 5,300,000 บาท โดยได้ส่วนแบ่งมา 1,000,000 บาท ครับท่าน เป็นประสบการณ์ท่ีไม่เคยลืม ทุกวันน้ีหากจำเป็นท่ีจะต้องติดต่อเก่ียวกับ งานราชการ จะอัญเชิญข้ึนคอทุกคร้ัง และจะได้รับความสะดวกเป็นอย่างดี แต่แปลกอยู่อย่างเวลาเห็นเด็กแปลกหน้าตัวเล็กๆ เด็กมักจะกลัว ถึงขนาดร้องไห้ คงจะเป็นเพราะอำนาจ"ครุฑพ่าห์"ด้านหลัง"พระสมเด็จ"ก็เป็นได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      297
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2013
  20. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    จดบันทึกไว้ เมื่อวันที่ 25/10/2511

    ช่วงเช้าออกจากบ้านสายแล้วค่ะ ใช้เส้นทางลัด ไม่ได้ใช้เส้นทางเหมือนทุกวัน....
    พอขับผ่านมาได้สังเกตให้มีรถกะบะ และมีพระสมเด็จโต ในใจอยากปิดทองพระหลวงปู่โตจังเลย ทั้งๆที่ขับรถเลยไปแล้ว.....ขี่รถมอเตอร์ไซด์ คันโปรด เลี้ยวกลับมาทำบุญ...
    และปิดทององค์พระสมเด็จโต .ในกระเป๋าตังค์ไม่มีแบงค์ปลีกเลยมีแบงค์ 20 อยู่หนึ่งใบ
    หยิบแบงค์ 20 บอกหลวงพ่อซึ่งท่านนั่งอยู่ในรถค่ะ ว่า หลวงพ่อลูกอยากปิดทองหลวงพ่อโตค่ะ ขอทำบุญค่ะ หลวงพ่อท่านก็ให้ สายสินท์ และสร้อยข้อมือ และแผ่นทอง 1 แผ่น
    เมื่อนำเงิน ใส่ในตู้ แล้ว ก็อธิษฐานค่ะ บอกหลวงปู่โตว่า ปู่น้ำเยอะมากเลย ค่ะ ญาติพี่น้องและหลายที่กรุงเทพ น้ำท่วมหมดแล้ว ขอบารมีหลวงปู่โตดลบันดาลให้น้ำลดลงด้วยเถอะ..จากนั้นก็ปิดทอง....เชื่อไม่คะ.....แผ่นทองที่ติดหายเข้าไปกับองค์พระ ตอนแรกนึกว่าคงจะตกลงข้างล่างก็ไม่มี ก็เลยบอกหลวงพ่อว่าหลวงพ่อ ช่วยดูให้โยมหน่อยแผ่นทองที่ติดเมื่อสักครู่ตกหล่นไปที่ตักขององค์พระหรือเปล่า เพิ่งติดทอง ถ้าตาไม่ฝาดหายเข้าไปในองค์พระ
    หลวงท่านพ่อท่านก็ดูให้ก็บอกไม่มี แล้วท่านก็เมตตาส่งแผ่นทองมาให้ใหม่ พอติดก็หายเข้าไปอีก ก็บอกหลวงพ่อว่าหายเข้าไปอีกแล้ว หลวงพ่อก็ส่งแผ่นทองใบที่ 3 ให้อีก พอติดก็หายไปอีก

    คราวนี้หลวงพ่อก็เล่าเคยมีคนพม่ามาปิดทององค์สมเด็จโต ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เขาก้มลงกราบองค์พระ และเมื่อตอนไปที่ภูเก็ต ฝรั่งถ่ายภาพองค์พระไม่ติดเหมือนกัน และหลวงพ่อก็ตีเป็นเลขให้ค่ะ อันนี้หลวงพ่อตีให้เองนะคะ ท่านว่าองค์พระ 9 แล้วปิดทองไป 3 แผ่น หาย มือติดคือ 5 (ท่านบอกให้เสี่ยงโชค 935 ค่ะ) อยากให้มั่นใจอีกครั้งก็ขอแผ่นทองหลวงพ่ออีกครั้งเป็นใบที่ 4 ติดอีกครั้ง ติดตรงอกด้านซ้ายขององค์พระและเอามือกดแผ่นทองไว้ เชื่อไหมค่ะ ส่วนที่นิ้วกดแผ่นทองไว้ติดแต่มีส่วนที่ไม่ได้กดไว้หายเข้าไปในองค์พระค่ะ......ก็รู้สึกประหลาดใจมากค่ะ
    พระท่านบอกว่าพระองค์นี้อยู่ในถ้ำ 20 ปี และนำมาจากวัดหลวงพ่อคูณ ฟังจากหลวงพ่อบอกค่ะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 003_2_~1.JPG
      003_2_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      21.9 KB
      เปิดดู:
      159
    • 010_1_~1.JPG
      010_1_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      13.1 KB
      เปิดดู:
      3,184
    • 011_1_~1.JPG
      011_1_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      11.8 KB
      เปิดดู:
      182
    • 012_2_~1.JPG
      012_2_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      12.7 KB
      เปิดดู:
      172
    • 016_1_~1.JPG
      016_1_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      13.6 KB
      เปิดดู:
      125
    • 017_1_~1.JPG
      017_1_~1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      22.1 KB
      เปิดดู:
      167

แชร์หน้านี้

Loading...