อยากบรรลุธรรมเข้ามา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย newamazing, 13 ธันวาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    จะทิ้งอะไรก่อนดีล่ะ จะทิ้งเพลง
    หรือจะทิ้ง ลมหายใจก่อน

    มันสำคัญ ตรงการอธิบายการเข้า
    มันจะมีมุมอธิบายของการปฏิบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ธันวาคม 2012
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สงสัยเพื่อนๆ เขาอยากให้อธิบายมุมเข้า มุมออก

    เหมือนเราเป็นดีเจ ต้องรู้จักแผ่น ต้องรู้จักเพลง
    จังหวะไหนควรพูดจังหวะไหนควรปล่อย

    เอาการเป็นดีเจ มาอธิบายเหมือนการรู้แต่เพียงลมเข้าลมออก

    ซึ่งมันจะมีการอธิบายในการรู้ลมเข้าลมออก
    ว่าจังหวะนั้นเป็นกาย
    จังหวะนั้นเป็นเวทนา
    จังหวะนั้นเป็นจิต
    จังหวะนั้นเป็นธรรม
    เพียงแต่รู้ลมเข้าออก แต่ อธิบายได้

    ดีเจผู้เชี่ยวชาญ ย่อม อธิบายได้โดยไม่กางตำรา
    แต่ลงได้กับตำรา เผ๋งเลย ไม่ขัดกันเลย
     
  3. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ในพระสูตรอานาปานสติ องค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงอธิบายครบ แต่เจ้าของกระทู้อธิบายไม่ครบ

    การที่เจ้าของกระทู้อ้างว่าบรรลุธรรม แต่กลับอธิบายธรรมไม่ครบสมบูรณ์จึงเกิดข้อถกเถียงขึ้น และที่สำคัญที่สุด คำอธิบายของเจ้าของกระทู้ เสมือนเป็นผู้อยู่นอกพระศาสนาท่านเล่าปังเลยเถียงเอาเป็นเอาตาย

    ท่านเล่าปังนี่เป็นผู้มีเจตนาดีต่อพระพุทธศาสนา จึงขอแนะนำให้ท่านเข้าใจอย่างหนึ่งว่า พระอริยเจ้าที่สมบูรณ์ในธรรมสามารถอธิบายธรรมได้ตรงต่อธรรมขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ท่านที่เข้าถึงธรรมประเภทปฏิสัมภิทัปปัตโต เท่านั้น แม้เป็นพระอรหันต์ก็ตาม ถ้าไม่ใช้ปฏิสัมภิทัปปัตโต ธรรมที่อธิบายนั้น ก็ไม่สมบูรณ์

    ดังนั้นพระอริยเจ้าประเภทอื่นคำสอนธรรมจะไม่สมบูรณ์ และไม่สามารถเทียบธรรมขององค์สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทั้งหมด

    อธิบายแบบนี้ไม่ได้ยกเจ้าของกระทู้ว่าเป็นพระอริยเจ้าแต่อย่างใด แต่เป็นห่วงว่าท่านเล่าปัง วันหนึ่งจะไปปรามาสพระอริยเจ้าโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น หากท่านจะปกป้องพระศาสนา คำพูดท่านต้องสำรวม จะได้ไม่เป็นการปรามาสและไม่เกิดกรรมไม่ดีกับท่าน และทำให้ท่านตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท

    ในอดีตเคยเห็นท่านเล่าปังปรามาส ท่านที่ใช้ชื่อว่า เคขวัญ ท่านนี้มีคุณธรรมเหมือนพระอริยเจ้าเบื้องต้น แม้ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายก็ตาม ตั้งใจจะเตือนท่านหลายครั้งแต่ไม่มีโอกาส วันนี้จึงบอกให้ท่านทราบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ธันวาคม 2012
  4. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เอ.. ว่าแต่ ว่าพี่พระธรรม ! ครับ

    พี่ นิว อเมซิ่ง นี่ ไม่รู้ว่าแก รู้จักพี่ขวัญหรือเปล่าก็ไม่รู้
     
  5. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ท่านเล่าปังนี่รู้จักคุณขวัญแน่ เพราะท่านเล่าปัง ปรามาสคุณขวัญบ่อย
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อ๊ะ ผมหมายถึง พี่ นิวอะเมซิ่ง ตะหาก แกจะรู้จักพี่ขวัญรื๊อ
     
  7. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ครับ อาจจะไม่รู้จักก็ได้
     
  8. bhothisata

    bhothisata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +5,182
    หากใครทำได้ตามโพสที่ 6

    สั้นๆแค่ หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้

    ไปได้แน่นอน

    ปัญหามันมีแค่ ว่า จะทำได้เพียง แค่
    หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้ จริงไหมเท่านั้นเอง



    หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ โดยที่จิตไม่ใคร่ครวญอะไรเลย ผมเชื่อว่ามันไปไม่ได้หรอกคุณ อย่างน้อยมันต้องมีแว่บมาให้คิดแล้วตัด ไอ้ที่ทำไปทำไปแล้วจิตไม่เกี่ยวข้องกับวิปัสสนาญาณนั้น ผมไม่เชื่อว่ามีอยู่ ผมเชื่อตามครูบาอาจารย์พระอริยะครับ ต่อให้รู้ลมเข้าลมออกทั้งวัน แล้วไม่เอาปัญญามาตัดวงจรชีวิตน่ะ ผมเชื่อว่ามันไปไม่ได้ มันต้องมีแว่บที่คิดใคร่ครวญเช่นพระอริยะต่างๆเขาตัดกัน เช่น เห็นน้ำไหลไปสุดทางแล้วเอามาคิดถึงร่างกายที่ต้องตายในที่สุด มันมาจบตรงวิปัสสนาทั้งนั้นแหละครับ ผมไม่เชื่อว่ามีพระอริยะองค์ไหน นั้งนั่งไปแล้วตัดได้เองหรอกครับ ต้องมีตัววิปัสสนามาประกอบ ส่วนใครจะเชื่อเช่นไรนั้นก็เรื่องของท่านนั้นครับ มหาสติปัฏฐานที่ทำๆกันเป็นทางสายเอก ยังต้องใช้ปัญญาเป็นเครื่องตัด เห็นกายในกาย เวทนา จีต ธรรม จนถึงที่สุดแล้วจึงใช้ปัญญาตัด ซึ่งตัวนี้คือตัววิปัสสนาล้วนๆ ถ้าเห็นเฉยๆรู้เฉยมันตัดไม่ได้หรอกครับ ไปหาอ่านดูเถอะครับ พระท่านสอนแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ ใครจะรู้มากกว่าพระอริยะก็ไม่ขัดข้องครับ ผมถูกอบรมและสอนมาแบบนี้ครับ ลองไปหาดูในพระไตรปิฎกนะครับ ว่ามีเรื่องไหนบ้างที่พระอริยะท่านนั่งๆแล้วบรรลุ ผมเห็นแต่มีวิปัสสนาเข้ามาคิดมาตัดในตอนท้ายที่สุดทั้งนั้นครับ ไม่มีตรงไหนที่จะบอกว่าทำสมถะไปๆแล้วบรรลุโดยไม่ใคร่ครวญธรรมครับ ถ้ามีตัวอย่างมาพระอริยะในอดีตมาให้ดูว่าท่านนั่งๆไปแล้วบรรลุ โดยไม่เกี่ยวข้องกับวิปัสสนา ช่วยเอามาโพสต์ให้ดูหน่อยครับ แล้วจะเชื่อครับ มาโพสต์ยืนยันอย่างนี้ไม่เชื่อครับ เพราะโพสต์แบบนี้โพสต์กันได้ทุกท่าน ต้องมีชื่อพระอริยะมาประกอบครับ แต่ตอนนี้ขอเชื่อครูบาอาจารย์ก่อนครับ ให้คนปัญญาน้อยยังไงก็ต้องคิดเป็นว่าเกิดแล้วต้องตาย ตัวนี้คือวิปัสสนาครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้นะครับ ถ้าจะบอกว่าทำสมถะจับอานาปาไปแล้วในที่สุดจิตจะเบื่อหน่ายตัดสังขารุเปกขาญาณในที่สุด อันนี้ค่อยน่าฟังหน่อย แล้วคำท้ายสังขารน่ะ มันมีคำว่าญาณตามหลังเห็นไหมครับ นั้นละวิปัสสนาญาณที่มาตัด จิตเกิดการเบื่อหน่าย ตัวนี้จิตมีปัญญาแล้วเอาวิปัสสนาญามาตัด ไม่ใช่นั่งดูลมเข้าออกมาตัด ตรงนั้นเป็นแค่หนทางหรือพาหนะที่ใช้เดินทาง แต่พอไปถึงแล้วต้องใช้ปัญญาญาณคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ ขออภัยครับหากโพสต์แล้วตรงเกินไปหรือกระทบใจใคร และอย่างที่พระท่านบอกมาว่า คนจะบรรลุธรรมต้องสร้างสมบารมีอย่างน้อยหนึ่งอสงไขยกับอีกเท่าไหร่ไม่ได้จำครับ อยู่จะมานั่งจับลมแล้วบรรลุโดยบารมีธรรมไม่เต็มทีเดียวในชาตินี้นั้น มันทำกันไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ มีปัจจัยอีกหลายปัจจัยครับ ต้องแยกให้ออกนะครับ ผมพูดเรื่องต้องมีวิปัสสนามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่นั่งสมถะอย่างเดียวแล้วจะพบเอง สุดท้ายต้องจบที่วิปัสสนาเป็นตัวตัดครับ คนละประเด็นกัน ไม่เช่นนั้นพระอริยะท่านไม่สอนหรอกว่าทำสมถะอย่างเดียวแล้วโง่บริสุทธิ์ พระท่านสอนผมมานะครับ ผมไม่ได้ว่าใคร เจริญในธรรมครับ
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    สนทนาธรรมอย่าสนใจเลย เอาสิ่งที่ตนเอง ฝึกมาน่ะดีแล้วครับ
    คนฝึกฝนเขาไม่สนใจหรอก มีแต่จะมีมุมนำเสนอ ^^

    อยากฟัง จากพี่ นิวอะเมซิ่ง ว่าแก จะ แนะนำ
    แค่เปิดแผ่น จับแผ่นถูก ออกมาไงมั่ง ไว้เดี๋ยวมาเสนอมุม
    เพียง แค่รู้ลมเข้า-ออกอีกทีครับ ราตรีสวัสครับ
     
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ยกข้อนี้มาแสดง เจ๊งทันทีเลย...
    แสดงเห็นกันชัดๆ เลยว่า ยังมีตัวตนให้ไปสำรวมเพื่อรักษาศีล... ยังมีตัวตนเพื่อต้องยอมสละออกไปเป็นทาน และยังเห็นว่ามีความดีความเลวอยู่
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    แล้วรู้ไหมหละ ว่าปัจจุบันนี้ คนเข้าถึงอานาปานสติในมุมมองไหน เดี๋ยวนี้เขาฝึกไปแล้ว โดนสมถะกินเรียบไปหมด แล้วยังจะบอกให้คนไปทางนั้น โดยไม่อธิบายให้เขาเข้าใจอีกนะ
     
  12. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อานาปานสตินั้นเป็นการปฏิบัติสติปัฏฐาน เพื่อการเจริญสติอยู่แล้ว
    แต่นักปฏิบัติหลายท่านไม่เข้าใจว่าจะทำให้เป็นการเจริญสติได้อย่างไร
     
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เคล็ดลับก็ คือเคล็ดลับ มันอยู่ที่ใครจะเชื่อแล้วทำเพียงเท่านั้น คนที่เชื่อไม่ต้องการเหตุผลใดๆเท่านั้นจะเข้าสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอนอย่างน้อย โสดาบัน นี่เป็นปริศนา แต่ก็เถอะทุกคนมีเวลาของแต่ละคน เวลาก็เป้นตัวกำหนดอะไๆได้ทุกอย่าง
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านพ้นแล้วหรอครับที่จะไม่สำรวมระวัง รักษาศิล ไม่กระทำความดี หนทางของผู้เดินบนมรรคนั้นล้วนต้องมีนิมิตหมาย ของสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นคือการสละให้ทาน คิดกระทำความดี รักษาศิล มีจิตคิดออกจากกาม นั้นคื่อเครื่องหมายของผู้เดินทางถูกสิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นกับใจผู้ปฎิบัตินะมิใช่นิมิตภาพอะไรต่างๆ ผมจะยกตัวอย่างเล็กน้อย ท่านอนาถะ นางวิสาขา ผู้ได้ชื่อว่าเป็นอริยบุคคลทำทานไม่เว้นแต่ละวัน แม้ท่านจะละความเห็นเป้นตัวตนได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2012
  15. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผมอธิบายไว้หมดแล้วให้มีความรู้สึกตัวตลอดมีสติอยู่กับลมหายใจเท่านั้นนั่งถึงที่สุด(นั่งถึงที่สุดธรรมก็จะปรากฎ สังขารขันต์จะทำหน้าที่ในตัวมันเอง) อาตาปี สัมปชาโน สติมา ครบ
     
  16. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    เฮ้ยยส์..ซ่อมไป250ล้าน มันใช้ได้แค่..รอล่วงกับ จอดเฉยๆเดินไม่ได้ ไอ้อิ๊บอ๋าย อิอิ:'(
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ก็นี่แหละนะ แค่พูดคำว่า ไม่มีตัวตน ถึงกับร้อนขึ้นมาได้เลย
    แปลว่า ยังไม่เข้าถึงปัญญาที่เห็นว่าสิ่งต่างๆ ทั้งหลายเป็นสมมติ ไม่มีตัวตน สินะ?

    สภาวะนี้ จริงๆ แล้ว เป็นปัญญาพื้นฐาน ที่จะต้องเห็น ก่อนเป็นพระโสดาบันอีกนะ (ไม่ใช่ผมพูดเองเออเองนะ แต่ไปเทียบตามลำดับ วิปัสสนาญาณ 16 ของครูบาอาจารย์เอาได้)

    ถ้ายังไม่เห็น ไม่เข้าใจสภาวะนี้ จะเป็นพระอริยเจ้าได้ยังไง
    อีกอย่าง การเห็นสภาวะนี้ ไม่ได้แปลว่า มันจะทำให้ไม่ยอมทำ "ความดี" นะ

    แต่มันเป็นการเห็นว่า กิเลสทั้งหลาย ล้วนเป็นภาพลวงตา เหมือนพยับแดด จึงไม่เกิดความปรารถนาที่จะตามใจกิเลส พอไม่ตามใจกิเลส แล้วชีวิตจะเหลืออะไรให้ทำอะไรหละ? ลมหายใจที่มันยังเหลือ ยังว่างอีกทั้งชีวิต จะเอาไปทำอะไร ในเมื่อทำอะไรทุกอย่าง จิตมันก็เห็นค่าเท่ากันหมด
    มันก็เลยเป็นการทำ แบบไม่ต้องทำ เป็นการรักษา แบบไม่ต้องรักษายังไงเล่า
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านผู้มีจิตปรุงแต่งเป็นบุตรของพระอินทร์ ท่านกล่าวเองทั้งนั้นว่าการกระทำทั้งหลายเป้นตัวตน ปรุงเองทุกอย่าง ข้าพเจ้าผู้เห็นนิมิต(เครื่องหมายของผู้เิดินบนทางมรรคจะต้องปรากฎอาการอย่างนี้) ทุกสิ่งจะเป็นตัวตนได้อย่างไรมันเป็นไปไม่ได้เพราะในธรรมะธาตุแท้ไม่มีอะไรเป็นตัวตนได้ มันมีแต่ยึดหรือไม่ยึดเท่านั้นท่านผู้เป็นบุตรของพระอินทร์
     
  19. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    แค่นี้จริงๆ
     
  20. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    นั่น เอาเข้าไป...

    อินทรบุตร นี่ มันก็อาจจะไม่ได้มาจากการปรุงแต่งก็ได้นะ?

    เหมือน ศากยวงศ์ ศากยมุนี พระสมณโคดม นี่ไง เรียกว่าปรุงแต่งไหมหละ?

    แต่ newamazing นี่ ปรุงแต่งแน่นอน เพราะพ่อแม่ไม่ได้ตั้งให้ ปู่ย่าตายาย ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับภาษาปะกิดคำว่า อะเมซิ่ง แล้ว อะเมซิ่ง มันมาจากไหนกันหว่า?
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...