ธรรมข้อใด ที่ใช้ข่มอารมณ์ เวลาถูกเจ้านายติเตียน ในเรื่องที่เราไม่ผิด?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ...คนสู้กรรม..., 30 พฤศจิกายน 2012.

  1. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ผมทำงานที่นี่มาประมาณ 6 - 7 เดือน (ตำแหน่งเจ้าหน้าที่การบัญชี) ทุกครั้ง ทุกวันที่ทำงาน ก็ทำเต็มที่ ไม่เคยปล่อยงานค้างจนต้องทำ OT ถึงงานจะไม่ได้ออกมาเลิศเลอ แต่ก็ถือว่าทำงานตรงเวลา และถูกต้อง ทว่าบางทีกลับถูกเจ้านายเรียกพบ แล้วว่ากล่าวติเตียนเรื่องงาน ทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นคนทำสิ่งนั้น เช่น... คิดบัญชีผิด พิมพ์หนังสือตกหล่น ฯลฯ ถ้าผมโต้แย้ง เขาก็มักจะพูดว่า "คุณเถียงผมเหรอ???" ทั้งๆที่ผมไม่ได้เถียง แค่อธิบาย ว่าเนี่ยไม่ใช่งานในส่วนของผม เขาก็มักจะพูดว่า ทำงานด้วยกัน ทำงานเหมือนกัน ก็ต้องช่วยกันดูแล จะมาปล่อยให้งานมันออกมาชุ่ยอย่างนี้ได้ไง เอ๋า............???????? ก็เลยได้แต่ยืนฟังแกบ่น จนบางทีเกิดท้อ บางทีกลายเป็นโกรธเพื่อนร่วมงานไปซะอีก แล้วที่รับไม่ได้เลยก็คือ เขาชอบหาว่าผมเอาเวลางานไปเล่น Facebook ทั้งๆที่ผมเล่นแค่ช่วงพักเที่ยง พอเข้าเวลางานก็เลิกเล่น คงเพราะเขาเห็นว่าคนอื่นเล่น และผมอยู่ไกลสายตาเขา เขาคงคิดว่าผมต้องแอบเล่น ทั้งๆที่ความจริงผมไม่ได้เล่นอะไรเลยในเวลางาน ตอนนี้เครียดมาก ไม่รู้จะระงับอารมณ์ได้มากแค่ไหน มันร้อนไปหมด ผมกลายเป็นคนทำงานชุ่ย ทั้งๆที่งานในส่วนของผม ผมทำดีมาตลอด ผมควรทำยังไงดีครับ
     
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เคยประจำเลยละ
    สติ หรือ จิต จับลมหายใจเราไว้ให้มั่น ไม่ไหลตามใจใคร เพราะคนบางคนต่อให้ ทำได้ทุกอย่าง อย่างที่เขาต้องการ ก็ยังไม่พออยู่ดี เขาจะคิด เขาจะพูด ปล่อยเขา รักษาใจเราไว้ อย่าวิ่งไปตามเขา ปล่อย วาง
    อยากพูดพูดไป เรารู้ตัวเราพอ
    อันนินทา กาเล เหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำ เหมือนเอามีด มาขีดขิน องค์พระปฎิมา ยังราคิน คนเดินดิน หรือ จะสิ้นคนนินทา
    มาเอาใจช่วยคร๊าบ
    บางที คนไปวัด จึงสงบ ลองเอาโบส เอาวิหาร ไว้ใน ที่ทำงาน เท่จะแย่ เลยพี่
    เอาภาวนาไว้ในลมหายใจ โฮ้ ยิ่งเท่ห์ คร๊าบพี่
    ปล บางทีเราไม่จำเป็น ต้องเป็นพระเอกให้ใคร เราเป็นพระเอกให้ตัวเรา ยิ่งเท่ห์ เพราะไม่มีใครเหมือน 555+
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2012
  3. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ถ้าท่านทำถูกต้องตามความถูกต้องแล้ว ท่านอย่าทุกข์ร้อนใจเลย ขอให้ท่านค่อยๆชี้แจ้งในทีละส่วนอย่างสุขุมเยือกเย็นกับเจ้านายของท่าน

    ผมอยากให้ท่านปล่อยวาง ความรู้สึกในจิตใจของท่าน อย่าปรุงแต่งจิตใจเลย ให้ใจของท่านนิ่งมากที่สุด หลังจากนั้นท่านจะพบความสุขในจิตใจของท่านเอง เป็นความสุขที่บริบูรณ์
     
  4. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    โดนกันหมดเลยครับ แล้วแต่ละคนก็ได้งานมาคนละชิ้นอยู่แล้ว แต่แกไม่เคยถามก่อนว่า "ใครทำ" ? ส่วนมากที่โดนก็จะเป็นงาน 2 ต่ออ่ะครับ ผมทำส่วนหนึ่ง แล้วก็ส่งไปให้อีกคนทำส่วนนึง ประมาณนี้อ่ะครับ พอแกเห็นว่าใครเป็นคนทำคนแรก แกก็เอาขึ้นมาเลย มึนประสาทไปหมดแล้วครับ
     
  5. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ผมพยายามชี้แจงแล้วครับ พูดแบบใจเย็น สุภาพ ตามประสาลูกน้องคุยกับเจ้านาย แต่เขามักอารมณ์ร้อนใส่ตลอด แล้วชอบขุดเรื่องเก่าๆมาด่า บางทีเรื่องไม่เป็นเืรื่อง แกก็ยังบ่นข้ามวันได้เลยครับ
     
  6. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ถ้าท่านปล่อยวางได้ เสมือนว่าท่านได้รวมธรรมะทุกอย่างมาไว้ในความว่างได้คือ เช่น ปล่อยวางก็ไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง สิ่งเหล่านี้ถูกรับมาทาง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพื่อมาปรุงแต่งจิตใจ ทำให้ทุกข์ ทำให้สุข ไม่มีอะไรที่ถาวรเลย

    แต่เมื่อปล่อยวางแล้วก็จะเป็น ความสุขใจที่บริบูรณ์
     
  7. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    เคยพยายามไม่สนใจแล้วครับ คือพยายามไม่คิดอะไร ปล่อยให้ผ่านไป แต่พอโดนบ่อยๆเข้า ก็ชักจะเริ่มเพลียครับ เหมือนความอดทนมันพร้อมจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลาแล้วครับตอนนี้
     
  8. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ท่านกำลังเพลินในขันธ์ 5 อยู่ ขอให้ท่านก้าวผ่านไปให้ได้

    ถ้าผ่านไปได้แล้ว ท่านจะไม่ชอบความคิดของท่านในตอนนี้

    ทำดี บุญรักษาครับ สวัสดี
     
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เจริญสติไปเรื่อยๆ โกรธ ก็รู้ว่าโกรธ

    เจอบ่อยๆ เดี๋ยวจิตมันจะหาทางออกจากความโกรธได้เอง

    แต่ถ้าไม่กำหนดรู้ ไม่รู้การทำงานของขันธ์ 5 มันก็จะวนเวียนอยู่ในวังวนแห่งความไม่รู้นี่เรื่อยไปนั่นแหละ
     
  10. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    เคยอยากเปลี่ยนงานอยู่เหมือนกันครับ เพราะทำที่นี่ก็เหมือนอยู่ได้แค่นี้ แล้วทำๆไปก็อึดอัดกับหัวหน้างาน ส่วนเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยมีปัญหาอะไร จะมีแต่พวกคนเก่าคนแก่ที่ชอบเชิดใส่รุ่นน้อง แค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละครับ ที่ผ่านๆมาก็ทนมาตลอด จนบางทีถึงกับต้องถามตัวเองว่า ทนไปเพื่ออะไร? เงินเก็บก็มี ทำไมไม่ออกมาเปิดกิจการซะเองเลย แต่มันก็ยังทำไม่ได้หรอกครับ เพราะอะไรๆยังไม่เข้าที่เลย
     
  11. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    เจ้านายของผมคือแม่..
    ขอเล่าให้ฟังขำๆนะครับ
    แม่ผมกำลังบ่นเรื่องหนึ่งที่ผมทำไปแล้วอยู่
    พอบ่นเสร็จ
    ท่านก็บ่นของท่านต่อไปว่า
    "แต่ก็นะ ถ้าไม่ทำ ก็จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ (สิ่งที่ไม่ดี) อีกเหมือนกัน"
    บ่นเสร็จก็เงียบ

    สรุปก็คือ ทำก็โดนบ่น ไม่ทำก็โดนบ่น
    ผมจึงใช้วิธีไตร่ตรองใคร่ครวญเอาเองว่า งานนี้ควรทำอย่างไรให้ดีที่สุด
    เพราะถึงแม้จะดีที่สุดก็โดนบ่นเหมือนเดิม
    แต่ไม่เป็นไร งานออกมาดีเป็นพอ

    แม้แต่ท่านแม่เอง ท่านทำเอง ท่านก็บ่นของท่านเอง
    คนขี้บ่นมันอดไม่ได้หรอกครับ

    พระท่านจึงว่า นัตถิ โลเก อนินทิโต
    คนไม่โดนบ่น โดนด่า โดนนินทา ไม่มีในโลก
    พระพุทธเจ้าท่านก็โดน ท่านดีขนาดนั้นท่านก็ยังโดนด่า
    มาด่าต่อหน้าก็มี จ้างให้คนอื่นมาด่าก็มี

    มีเรื่องเล่าขำๆ
    มีนักติท่านหนึ่ง เป็นที่เรื่องลือมากว่าท่านเจออะไรก็ต้องติ
    มาวันหนึ่ง ชาวบ้านได้พบพระพุทธรูปทองคำสวยงามที่ริมน้ำ
    เอาขึ้นมาทำความสะอาด แล้วต่างก็ระพึงกันว่า สวยงามหาที่ติเตียนไม่ได้
    จึงได้เกิดความคิดว่า เอานักติมาดูดีกว่า
    ทีนี้มันจะหาอะไรติไม่ได้แน่ๆ

    พอนักติมา ก็วนเวียนรอบพระพุทธรูปหลายรอบ
    แล้วก็ยิ้ม บอกว่าพระพุทธรูปสวยงามมาก หาที่ติไม่ได้เลย
    เสียอย่างเดียว พูดไม่ได้..!!!!

    โลกธรรม ๘ คือสิ่งธรรมดาโลก ยังไงก็ต้องเจอ
    คือ ได้ลาภ เสื่อมลาภ
    ได้ยศ เสื่อมยศ
    มีสรรเสริญ มีนินทา(ด่าว่าติเตียน)
    มีสุข มีทุกข์
    ผู้ที่สบายคือผู้ที่เข้าใจยอมรับธรรมดาโลก

    ปล. ผมถือคติว่า อย่าเถียงแม่ตอนท่านโกรธ
    เวลาท่านอารมณ์ดีเราค่อยเข้าไปอธิบายจะดีกว่าเยอะ
     
  12. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    นี่ต่างกันตรงที่ นายผมเค้าไม่ค่อยอารมณ์ดี เวลาเข้ามาทำงานน่ะสิครับ เลยไม่รู้ว่าจะไปเสียบอธิบายตอนไหนดี แกเครียดตลอด สงสัยกันว่าอาจมีปัญหาทางบ้าน แล้วมาลงกับลูกน้อง
     
  13. tuanong

    tuanong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +559
    เนกขัมะ
    ไหมครับ จากพระเตมีย์ใบ้ครับ

    นอกจากท่านจะทนต่อคำด่า คำอ้อนวอนยังทนยากกว่าคำด่า พระเตมีย์ก็ถือเนกขัมะเลยครับ
     
  14. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถ้าธรรมก็ โลกธรรม8 ลาภ ยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุข > ธรรมดาของโลก ยังไงก็ต้องเจอ

    ขอแนะนำเพิ่มเติม
    ถ้าจะแนะนำให้ดูดี จขกท ก็น่าจะทำใจ ทำเฉยๆ ครับไม่ต้องใส่ใจสนใจไป ใครว่ามาบ่นมาก็ อืมๆๆ ครับๆๆ พูดแบบรัวๆให้ดูแบบขอไปทีก็ได้
    ถ้าเราคิดว่าเราทำตามหน้าที่ ทำตามงานของเราดีแล้ว ก็ไม่ต้องแคร์ครับ(หรือหวังลึกๆในใจว่าต้องการคำชม) แต่ถ้าจุดไหนที่อยู่ในความรับผิดชอบเราและมีความบกพร่องจริงๆก็ต้องยอมรับและแก้ไข

    ส่วนคำแนะนำนี้อยากลองให้ จขกท ลองทำ 555+
    แต่ถ้าทนไม่ไหวก็เถียงไปเลยก็ได้ครับ(ฮา) เพื่อสิ่งถูกต้อง แบบอธิบายตามความเป็นจริงที่ถูกต้อง เถียงอธิบายทำให้เป็นประจำทุกครั้งที่เจ้านายต่อว่าในสิ่งที่ไม่เป็นจริง ถ้าเจ้านายย้อนมาว่าเถียงผมหรอ ก็ตอบไปเลยว่าเปล่าครับ? แล้วก็ถามไปว่า ขอผมอธิบายก่อนได้มั้ยครับ จะฟังผมอธิบายก่อนได้มั้ย
    ปล.ในระหว่างนั้นก็อาจจะคิดหางานใหม่ที่อื่นไปหรือสมัครไปที่อื่น

    แล้วอย่างพักเที่ยง เจ้านายคุณทำไรหรอครับ ไม่ย้อนคืนกลับไปเลยละว่า ผมเล่น facebook แค่ตอนพักเที่ยง ทีเจ้านายตอนเที่ยงยังทำนั้นทำนี่เลย อะไรก็ว่าไป

    หรือไม่งั้นก็เล่นไปเลยก็ได้ครับจะได้สมใจหัวหน้า เพราะถ้าคนอื่นเขาเล่นๆกันก็แสดงว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ควรทำงานที่มีอยู่ที่รับหมอบหมายให้เสร็จหมดก่อน


    เพราะเจ้านายโง่ๆต่อโลก โง่ต่องานมันอยู่เยอะแยะถมไปครับ อาศัยแค่อยู่มาก่อนบางทีก็ทำให้หลงไปว่าตัวเองนั้นถูกต้องเสมอ ความคิดเห็นตัวเองถูกต้องแน่นอน รู้สึกถึงความมีอำนาจ มันก็เป็นธรรมดาของมนุษย์เกือบทุกคนแหละครับ
    ถึงแม้ว่าเจ้านายเขาอาจจะมีหน้าที่หรือความรับผิดชอบเยอะกว่าเรา มีหน้าที่ภาระอะไรต่างๆมากกว่าเรา ไม่ต้องคิดไปเห็นใจหรือคิดแทนเขาครับ คิดซะว่ามันก็เรื่องของเขาครับเป็นหน้าที่ภาระความรับผิดชอบของเขา

    และการที่มีความรับผิดชอบเยอะ ดังนั้นพองานผิดพลาดมา เขาก็ต้องรีบปรับปรุงแก้ไข แต่อาจจะไม่ทันคิดให้ละเอียด หรือมีเรื่องอื่นให้คิดเยอะ จึงเป็นเหมือนการโยนความผิดให้คนที่ไม่ผิด เหมือนเป็นการระบาย สุ่มด่ามั่ว เดามั่ว แทนที่จะไปแก้ไขถึงสาเหตุต้นตอที่แท้จริง ก็เป็นการให้เห็นว่าเขาบกพร้องในหน้าที่ความเป็นเจ้านาย
     
  15. แอบยิ้ม

    แอบยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +455
    เรื่องนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้สมมติขึ้นมานะ
    ผมก็จะคิดและทำดังนี้ครับ...
    ขั้นแรก พิจารณาดูตัวเองโดยละอียดอย่างสุดซึ้ง...ว่าเราทำหน้าที่การงานได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ดีจริง ๆ หรือเปล่า โดยต้องไม่เข้าข้างตนเอง
    ถ้าจะให้ดี ต้องให้คนอื่นผู้มีความรู้ ช่วยตรวจสอบให้เรา
    โดยเราต้องมีใจยินดียอมรับคำชี้แนะนั้น...โดยต้องไม่โกรธ
    ถ้ายังไม่ดี ก็ให้แก้ไข ถ้าดีอยู่แล้ว ก็ทำดีต่อไป
    พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนว่า...เธอจงมองบุคคลผู้ที่มาตักเตือนเรา เหมือนดังเขามาชี้ขุมทรัพย์ให้แก่เรา (เราจะโกรธผู้ที่มาให้คุณประโยชนฺ์แก่เราได้อย่างไร)
    ต่อมา ถือว่าเป็นกรรมเก่าที่เราเคยทำมาเอง...ถ้าหมดแรงกรรมเหตุการณ์นี้ก็จะคลี่คลายไปเองตามธรรมชาิติ
    แต่ ถ้าเป็นกรรมร่วม ที่เป็นเวรผูกพันกันมาทั้ง 2 ฝ่าย ก็ต้องทำการขอขมาโทษ (ถ้าทำได้) และพยายามทำบุญกุศลให้มาก ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา แล้วอธิษฐานแผ่ส่วนบุญไปให้แก่เจ้านายให้มาก ๆ
    ขั้นปฏิบัติทางจิต...พยายามแผ่เมตตาจิตให้ท่านเป็นประจำ ทุกครั้งที่เห็นหน้า ทุกครั้งที่นึกถึง
    การแผ่เมตตา ต้องทำอย่างจริงจัง คิดดี หวังดี ปรารถนาดี ต่อท่านโดยส่วนเดียว (ห้ามคิดร้ายเป็นอันขาด)
    ครั้งแรก เราแผ่เมตตาจิตไปให้ท่าน แต่ท่านไม่ยอมรับ
    เราก็แผ่เมตตาจิตกลับไปให้ท่านอีก คราวนี้อานุภาพแห่งเมตตาจิตของเรา จะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
    ถ้ายังไม่ได้ผล เราก็แผ่กลับไปอีกเรื่อย ๆ โดยไม่ย่อท้อ อานุภาพพลังแห่งเมตตาจิตจะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณไปเรื่อย ๆ ท่านจะทนใจแข็งอยู่ไม่ได้หรอกครับ ต้องอ่อนลง และกลับมามีเมตตาจิตต่อเราเช่นกันอย่างแน่นอน
    ข้อนี้ครูบาอาจารย์สอนมา และผมก็ปฏิบัติได้ผลดีมาแล้ว
    ต่อมาใช้หลักธรรมขั้นสูง...
    คือสมถภาวนา และวิปัสสนภาวนา
    สมถะก็ทำใจให้สงบเยือกเย็น โดยกำหนดอารมณ์ของสมถะ ดังที่หลายท่านแนะนำ
    ผู้มีจิตเมตตา และตั้งมั่นเป็นสมาธิ จะเป็นคนโกรธใครได้ยาก
    เจริญวิปัสสนาภาวนา หมายรู้ดูให้เข้าอย่างแจ่มแจ้งว่า
    สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ ล้วนเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มิใช่เป็นตัวตนที่แท้จริงตามที่เราหลงยึดมั่นถือมั่นแต่อย่างใด
    ยกตัวอย่างเรื่อง "เสียง" แท้จริงก็ไม่ได้มีตัวตน เป็นเพียงคลื่นเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ๆ
    ถ้าหากหลงยึดมั่นถือมั่นในเสียงนั้น คิดว่าเป็น "คำ่ด่าเรา" เ้พราะแปลภาษานั้นออก
    แม้เสียงนั้นจะดับไปแล้ว แต่เรายังเก็บเสียงนั้นไว้ในใจ แล้วก็เป็นทุกข์เป็นร้อนใจ ทำให้จิตใจเศร้าหมองอยู่เรื่อยไป...จนกว่าจะลืม หรือทำใจได้
    นี่เป็นเพราะอำนาจแห่งความโง่เขลาเบาปัญญาของเราเอง
    ผู้ที่เจริญวิปัสสนาภาวนา จนมีสติปัญญาที่เข้มแ็ข็งมีพลังแล้ว
    จะเป็นคนที่ความทุกข์เกิดขึ้นได้ยาก เพราะรู้เท่าทันโลกและชีวิตตามความเป็นจริง จนหายโง่หายหลงแล้วนั่นเอง
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...