ใครที่เคยท่องคาถาสะเดาะกุญแจออกแล้วรบกวนขอวิธีตั่งจิตหน่อยครับ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย phoohats, 20 พฤศจิกายน 2012.

  1. phoohats

    phoohats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +540
    ใครที่เคยท่องคาถาสะเดาะกุญแจออกแล้วรบกวนขอวิธีตั่งจิตหน่อยครับ ผมเป่ายังไงก็ไม่ออก:cool:
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สงสัย ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไรหรือครับ
     
  3. phoohats

    phoohats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +540
    เอามาเป่าฝึกดูเฉยๆครับ ไม่มีอะไร แค่อยากเป่าให้มันออก
     
  4. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,187
    ลองทำการเข้าใจดูนะ ถ้าฝึกทำอะไรแล้วมีอารมณ์เพลินกันมันนั่นแหละจะสำเร็จ
    ให้ฝึกวางอารมณ์นั้นไห้เป็นก่อนตลอดถึงการเข้าใจในการวางอารมณ์นั้นกับอะไรก็ได้
    เมื่อสมาธิดีก็หายห่วง พลังจิตกับความศักดิ์สิทธิ์ของคาถานั้นถ้าเป็นหนึ่งจะไม่มีสอง
     
  5. na_krub

    na_krub "นโม ธรรมะสุขัง อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +2,916
    ถ้ามันง่ายขนาดนั้น คงไม่ต้องใช้แม่กุญแจและลูกกุญแจกันแล้ว ถ้าจิตสามารถนิ่งได้ขนาดนั้น แนะนำให้นั่งวิปัสสนากรรมฐานดีกว่าครับ

    อนุโมทนาบุญแด่ผู้ที่ใฝ่ในธรรมมะทุกๆท่านนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. เก่นไคด์

    เก่นไคด์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +35
    ต้องลองทำเองให้ได้ครับ บอกไปก็ตั้งไม่ถูกเพราาะจิต มันไม่ใช้สิ่งของ ^^
     
  7. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เคยลองทำแต่ไม่ออกค่ะ....
    แต่ครูบาอาจารย์ท่านอธิบายว่า ให้ตั้งอารมณ์ใจสบาย ๆ
    และคิดว่า...ลูกกุญแจนั้นเปิดอยู่...อย่าไปคิดว่ามันปิดค่ะ ลองดูนะคะ

    ดูเหมือนง่ายแต่ทำยากมากค่ะ ต้องหาช่วงจังหวะอารมณ์ของใจที่พอเหมาะพอดีจริง ๆ
    เอาใจช่วยนะคะ
     
  8. เทพคาถา

    เทพคาถา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +374
    พูดง่ายแต่ทำยาก ใจได้แต่พลังไม่มี ก็ทำได้อย่างมากแค่คิดไปเอง ซึ่งส่วนมากก็แค่ทำใจเท่านั้น แต่หัวใจหลักที่แท้จริงคือ น้ำมันที่จะไปขับเครื่องพลังเวทย์ของคุณ จึงจะสำเร็จได้
     
  9. Jindamunee

    Jindamunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,187
    ไม่ได้หมายความว่ามันง่ายครับแต่จดจ่อไม่รู้จบจนกว่าจะเป็น พูดถึงคนเพียรๆไปเรื่อยๆถ้าเลิกก็ตามใจแต่ไม่ได้มาชวนให้เลิก ผมรู้ว่าไม่ง่ายถ้าเลิกก็เลิกเองไง ไม่ได้มาบอกว่าฝันไปเถอะ ที่บอกอย่างนี้เพราะผมทำได้ครั้งนึงและไม่เคยใช้อีก ได้แต่มามัวสนใจสิ่งอื่นๆในชีวิต ใครครับจะมาเพียรอยู่กับธุระส่วนตัวขนาดนี้ ถ้าสำเร็จเดี๋ยวก็มีคนบั่นทอนทำลายอีก
    ให้ฝึกๆแล้วเมื่อไหร่เลิกก็แล้วแต่คุณอยากทำได้ก็ทำไป แต่เก็บไว้คนเดียวเถิดก็แค่นั้น แค่ทำอารมณ์ให้เพลิดเพลินนับครั้งไม่ถ้วนก็ยากแล้วมั้ง
     
  10. pipat

    pipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +126
    ลองอ่านประวัติ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ดูนะ จะมีคำตอบให้
     
  11. pipat

    pipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    359
    ค่าพลัง:
    +126
    สมัยที่หลวงพ่อปานอยู่กับหลวงพ่อสุ่น เมื่อเข้าไปเป็นนาค หลวงพ่อปานชอบฤทธิ์ พูดอย่างนี้แล้วก็อยากจะนึกถึงหมอนิดนะ หมอนิดแกก็เป็นคนชอบฤทธิ์อย่างหลวงพ่อปานเหมือนกัน จะไปโทษหมอนิดแกก็ไม่ได้ ก็ต้องโทษฉันด้วย ฉันก็อีลุ่ยฉุยแฉกชอบเล่นทางนี้เหมือนกัน นี่เป็นคนประเภทเดียวกัน สมัยนั้นหลวงพ่อปานอย่าเผลอ คาถาอาคมไม่ได้ทีเดียว ถ้าเขียนไว้ว่ามีคุณสมบัติแบบไหน ฉันขโมยเอามาทำจนสำเร็จหมด แต่ก็ไม่เอาอยู่คาถาเดียว คือ คาถาทำผู้หญิงให้รัก อันนี้เห็นเข้าฉีกทิ้งเลย ฉีกเลย เพราะมันไม่จำเป็น ไม่มีความจำเป็น ถ้าเราเลวอย่างเดียวก็ไม่มีใครรัก ถ้าเราทำดีทำให้ถูกใจเขาเขาก็รัก นี่มันเป็นเรื่องธรรมดา จะต้องไปนั่งว่าคาถาให้มันเปลืองเวลาทำไม ไม่จำเป็น คาถาประเภทนี้เห็นของใครไม่ได้ พระอะไรถ้าไปเขียนคาถาเสน่ห์เล่ห์ลมอะไรไว้ที่ไหน ถ้าไปเจอะเข้าเป็นฉีกทิ้งเลย ไม่เกรงใจใคร เมื่อฉีกทิ้งไม่ฉีกเปล่า ด่าเจ้าของด้วยหาว่าเลวเกินไป นี่เป็นอย่างนี้แหล่ะ ฉันนี่น่ะความระยำมันไม่น้อย ตานี้มาว่ากันถึงหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานท่านชอบฤทธิ์ หลวงพ่อสุ่นท่านก็รู้ใจเข้าไปทีแรกท่านก็ให้คาถาสะเดาะกุญแจ ท่านก็กล่าวถึงคุณสมบัติของขุนแผน ว่าขุนแผนน่ะเก่ง จะเข้าไปหาใครที่ไหนก็ตาม จะมีกลอนอยู่หรือมีกุญแจอยู่ ขุนแผนเข้าได้ คือว่า ไม่ต้องใช้สว่านเจาะ ใช้คาถาสะเดาะกุญแจ คาถาบทนี้เขาว่าไม่ยากหรอก ว่า นะ มะ พะ ธะ ๔ คำเท่านั้น แต่ก็ถอยหลังนะ ถอยหลังว่ายังไงฉันไม่รู้หรอก ถึงฉันรู้ก็ไม่บอก ถึงใครจำได้อยากจะเป็นขุนแผนบ้างก็เชิญซิ เอาไปว่าเอาไปทำกัน ไม่หวงไม่ห้าม ของดีไม่หวงไม่ห้าม แต่ว่าเวลาจะขโมยของเขาบางทีมันจะเป่าไม่ออกก็ได้นะ หลวงพ่อปานท่านสามารถทำได้ในระยะ ๑ เดือน แล้วก็ทำได้ดี ต่อมาวันหนึ่งหลวงพ่อสุ่นเรียกเข้าไปหาถามว่า ปานเอ๊ย เอ็งท่องขานนาค คือ ว่าคำบรรพชาได้หรือยัง หลวงพ่อปานบอกว่าได้แล้วขอรับ แล้วก็หนังสือสวดมนต์ล่ะลูกเอ๊ย ท่องได้หรือยัง หลวงพ่อปานก็บอกว่าได้ กี่บท ๆ ก็ว่าไป หลวงพ่อสุ่นก็กล่าวคำชมเชย บอก เออ ปานเอ๊ย เอ็งเข้ามาอยู่วัดได้เดือนเดียว เจ็ดตำนานจวนจะจบอยู่แล้วนะ ขานนาคก็ได้ เออ คาถาเป่ากุญแจที่พ่อให้นี่น่ะเอ็งทำได้หรือยัง หลวงพ่อปานก็บอกว่า ทำได้แล้วขอรับ ท่านก็หยิบกุญแจจีนเข้ามา แล้วก็กระทุ้งเสียจนแน่น บอก ลองเป่ากุญแจดอกนี้ซิออกไหม หลวงพ่อปานพอเอื้อมมือเข้าไปจับกุญแจ พอถูกกุญแจลั่นผัวะเลย นี่ท่านเก่งขนาดนี้นะ นี่เป็นวิธีฝึกสมาธิของพระแบบเก่า ในเมื่อหลวงพ่อปานชอบฤทธิ์ ท่านก็เลยไม่บอกว่าเป็นกรรมฐาน ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของฤทธิ์ เป็นเรื่องของการสะเดาะกุญแจ หลวงพ่อปานทำได้ หลวงพ่อสุ่นหัวเราะชอบใจบอกว่า ปานเอ๊ย ถ้าเอ็งทำได้อย่างนี้นาลูกนา ต่อไปอะไรเล่าที่เอ็งต้องการพ่อให้หมดไม่เหลือ ไม่ว่าอะไรทั้งหมด แต่ว่าเอ็งจงจำไว้ให้ดีนะลูกนะ การบวชเป็นพระต้องจำไว้คำหนึ่ง คำขอบรรพชาว่า นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา เราขอรับผ้ากาสาวพัสตร์จากพระอุปัชฌาย์เพื่อจะทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน การบวชพระน่ะมีความหมายอย่างเดียวนะลูกนะ มีความหมายเพียงทำให้แจ้งพระนิพพาน ถ้าหากว่าจะบวชเพื่อเป็นประเพณีแล้วก็อย่าบวชเลย ตกนรก เพราะพระนี่ตกนรกง่ายกว่าฆราวาส แล้วฆราวาสเขาตกก็เรียกว่ามีโทษไม่หนักเท่าพระ พระมีบุญมาก ฆราวาสทำบุญร้อยครั้ง พระทำบุญครั้งเดียวมีอานิสงส์มากกว่า ตานี้หากชาวบ้านทำบาป ๑๐๐ ครั้ง พระทำบาปครั้งเดียวก็บาปมากกว่าเหมือนกัน ทีนี้เวลาลงนรกชาวบ้านเขาก็ลงเบากว่า พระลงหนักกว่า พระทุกองค์ที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนานะ ปานต้องจำไว้ เอ็งจะต้องบวชต่อไปตลอดชีวิตนะลูกปานนะ ไม่มีโอกาสได้สึก เอ็งนี่ะชาตินี้เป็นชาติที่สุด ตอนนี้หลวงพ่อปานท่านบอก ท่านไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชาตินี้เป็นชาติที่สุดหมายความว่ายังไง ท่านเล่าให้ฟังนะ ท่านเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นท่านไม่รู้ หลวงพ่อสุ่นท่านก็พูดย้ำลงไปว่า การบำเพ็ญบารมีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ต่อไปก็มีการเกิดจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    ประวัติคราวๆ วิชาที่หลวงปานเรียนวิชาแรกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...