วิรุฬ เตชะไพบูลย์ ย้ำธนาคารพุทธต้องเดินต่อแม้ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย mahamettayai, 4 พฤศจิกายน 2012.

  1. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    วิรุฬ เตชะไพบูลย์ ย้ำธนาคารพุทธต้องเดินต่อแม้ตนไม่ได้เป็นรัฐมนตรี

    เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2555 เวลา 21.15 น. นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจในประเด็นการผลักดันธนาคารพระพุทธศาสนา หลังจากที่ตนเองได้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ในรายการธรรมะออนไลน์ ทางสถานีวิทยุศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย โดยมีพระครูวินัยธรธีรวิทย์ ฉนฺทวิชฺโช ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์ฑิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมด้วย พล.อ.ดร.ธงชัย เกื้อสกุล นายกสมาคมผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ประธานคณะเตรียมงานพุทธชยันตีฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ร่วมรายการด้วย

    ในการให้สัมภาษณ์นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ได้ยืนยันว่าแม้ตนจะพ้นจากตำแหน่งก็จะยังติดตามเรื่องนี้ต่อไป พร้อมได้ฝากเรื่องนี้ไว้กับผู้ที่เกี่ยวข้องก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันติดตามเรื่องนี้และแสดงออกให้รัฐบาลเห็นให้ชัดเจนอีกทางนึงด้วย

    "เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญเพราะน่าจะเกิดในรัฐบาลชุดเรา ผมจะตามเรื่องนี้ถึงแม้จะไม่ได้โดยตรงก็ตามผมคงไม่ละความอุตสาหะในการที่จะพยายามเกิดขึ้นให้ได้ แต่ว่าอาจจะต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเช่นกระทรวงการคลังที่มี ท่านกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์เอนดอนันต์มากต่อพระพุทธศาสนา ดังนั้นเรื่องที่ดีมากอย่างนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันต้องเอาไปศึกษาและคิดว่าต้องทำต่อไป" นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ กล่าว

    ที่มา : ฝ่ายข่าวศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
    วันที่ 3 พ.ย. 2555

    ที่มา : http://newweb.bpct.org/content/view/541/110/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. tuanong

    tuanong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +559
    "ธนาคารพุทธ"
    เหมือนเปิดให้คนพุทธใช้บริการ แล้วกรุงไทย ไทยพาณิชย์ ฯลฯ มีไว้ทำไม
    คล้ายๆกับเหมือน ธนาคารพุทธมีให้วัดใช้บริการประมาณนี้รึป่าว คล้ายๆสนับสนุนให้วัดสะสมทรัพย์รึเปล่า ถ้าจะเป็นการจัดระเบียบทรัพย์สินและจะเก็บภาษีของวัด เพื่อป้องกันการทุจริตพุทธพาณิชย์ ก็เหมือนจะเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุปลายทางรึป่าว เหมือนยุงกัดก็ตบ ตบจนมือขาดยุงก็จะไม่มากัดเราอีกอย่างนั้นเหรอ เหตุไม่ได้มาจากเพราะคนเสื่อมจากธรรมหรอกเหรอ ถ้าธรรมเสื่อมไปก็ยาก บ้างอ้างว่าจำนวนชาวพุทธลดลง จำนวนพระลดลง ลดลงแล้วจะเป็นอะไรไปจำนวนมากมันจะดีกว่าจำนวนน้อยเหรอ จะให้ทุกวัดมีตู้บริจาคมีคนเข้าไปไหว้พระมากๆแล้วจะดีเหรอถึงจะต้องมีบัญชีวัด

    ถ้าหากระบบการเงินเป็นแบบเคลื่อนย้ายง่ายๆแบบจะเป็นนี้ คงเข้าทางวัดภาวนาหาเงินแล้ว นี้แหละท่านว่าคนโง่โกงก็ยังดีกว่าคนเก่งโกง ติดดีออกยากกว่าติดชั่ว

    ได้ข่าวว่าวัดพระพุทธชินราชก็ถูกเป็นสาขาของการภาวนาหาเงินไปแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2012
  3. BJTing

    BJTing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +262
    ...เป็นระบบที่จะยึดเงินพระ...
     
  4. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ถ้าอย่างนั้นก็ให้มีแต่ธนาคารอิสลามอย่างเดียวแล้วกัน
    ไม่สนับสนุนยังเอาเท้าราน้ำ
     
  5. tuanong

    tuanong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +559
    ไม่ใช่ไม่สนับสนุนนะครับ แต่ยังสงสัยอยู่การให้โอกาสมีบัญชีธนาคารแล้วเหมือนเปิดช่องว่างให้มีการสะสมทรัพย์ง่ายๆ เพราะมีวัดที่ภาวนาหาเงินอยู่มากถ้าให้มีการสะสมทรัพย์จะมีการช่วยกันสะสมทรัพย์ในเครือวัดที่ภาวนาหาเงินอยู่หรือป่าว พอวัดนี้มีทรัพย์ที่อยู่สุขสบายก็ไปธรรมดาที่วัดใกล้ๆกันอย่างสบายอย่างนั้นบ้างก็จะเป็นเหมือนติดเชื้อสะสมทรัพย์ไปเรื่อยๆได้ ส่วนธ.อิสลาม เขาไม่อยากร่วมวงกับคนต่างศาสนาเพราะหลักศาสนาของห้ามๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไม่ให้มีการหาเงินได้เงิน ด้วยดอกเบี้ย เพราะการฝากเงินทั้งหลายจะมีดอกเบี้ยให้เจ้าของเงินฝากด้วย นี้แหละที่มุสลิมเขาไม่อยากร่วมวงกับคนอื่น ไม่ใช่มันไม่ดี แต่ศาสดาของเขาสั่งๆๆๆๆไว้ว่าไม่ให้มีดอกเบี้ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2012
  6. mr.rojana

    mr.rojana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +64
    แต่ผมก็เห็นคนอิสลามฝากเงินกับธนาคารพานิชย์เพื่อเอาดอกเบี้ยกันอยู่มากมาย
    อิสลามแท้ๆไม่มีอยู่จริงในโลกหรอกครับ มีแต่ศาสนาหลอกลวงให้คนศรัทธามากกว่า
    ส่วนธนาคารพุทธผมหนุนเต็มที่ เพราะปัจจุบันวัดส่วนใหญ่ก็ฝากเงินในธนาคารพานิชย์
    และมีบัญชีเปิดไว้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็ได้ดอกเบี้ยอันนี้คิดว่าดีไหมเอ่ยที่ได้ดอกเบี้ยมา
    แต่หากเป็นธนาคารพุทธ แม้ไม่ได้ดอกเบี้ยเลยก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่วัดเอาเงินมาฝากไว้
    เพื่อดูแลแทนให้ ดีกว่าเก็บไว้ที่วัดแล้วโดนพวกโจรขโมยมาปล้นเอาไป ใครจะรับผิดชอบ
    ขอฝากพวกที่ค้านๆในนี้หน่อย มือไม่พายก็นั่งเฉยๆเถอะ ขอร้อง:boo:
     
  7. tuanong

    tuanong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +559
    เข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ผมหมายถึงทำไมโจรจึงปล้นวัดล่ะ เพราะวัดมีทรัพย์ให้เขาเห็นเขาจึงอยากได้โจรจึงปล้น พอวัดมีเงินต้องช่วยกันจัดระเบียบเงินวัดหน่ะดี ผมก็ไม่อยากเห็นโจรปล้นวัด แต่การทำอย่างนี้มันแก้ที่ปลายเหตุ ต้นเหตุเพราะวัดมีทรัพย์ให้เขาลัก เขาจึงลักเอา
    มีทรัพย์เพราะสะสมทรัพย์โลภในทรัพย์ ควรจะแก้ที่ตัวไม่ให้สะสมทรัพย์จะดีกว่าหรือไม่

    ถ้าให้มีบัญชีก็เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แล้วต้นของเหตุมันจะดับได้อย่างไร อริยสัจ 4
    สอนให้ดับทุกข์ที่ปลายเหตุหรือ ต้องดับที่เหตุของมันเองสิ เมื่อต้นมันตายใบมันก็ตายด้วย
    ถ้าพระไม่มีการสะสมสมบัติ มีแต่ตัวกับผ้าขาดๆ โจรที่ไหนมันจะไปลักเอา ปล้นเอา เอาได้แค่ผ้าเก่าๆขาดๆ โจรมันจะเอาไปทำอะไร


    ผมมองมันเป็นการสนับสนุนให้วัดตามกระแสสังคม ซิ้งวัดต้องทวนกระแสโลกเป็นปกติ บางวัดมีเงินเยอะๆๆ ก็ไม่ง้อญาติโยมสุงสิงกันเองในวัดนั้นแหละ แล้วถ้าญาติโยมต้องการธรรมะ แล้วจะไปเอาจากพระำด้ที่ไหนเพราะ เราไม่ได้มีบุญคุณกับพระ เป็นอย่างเพราะเมื่อตนสำเร็จในธรรมมะที่ควรก็จะได้ไม่ลืมคนทุกข์คนยากที่อยู่ข้างหลัง


    ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าสมบัติภิกษุมีอัฐบริขารกับผ้าเพียงสามผืนเพราะจะได้ไม่มีสมบัติ ไปไหนมาไหนก็ง่าย ปฏิบัติง่าย
    ถ้ามีสมบัติต้องระวังตัวมิต้องทำอะไรกัน
    แล้วเงินที่วัดได้มาเอาไปทำอะไร สร้างศาลาการเปรียญ โบสถ์ เหรอ พอแล้วมั้งดูวัดบางวัดต้นไม้ก็ไม่มีที่ให้ฝนตกลงดินก็ไม่มี วุ่นวาย ภิกษุมีธงชัยพระอรหันต์คุมตัวอยู่กับวุ่นวายแต่กับการศึกษาต่างๆ ศาลาการเปรียญที่สร้างกันมาเนี้ยมีรูปใดที่ชาวบ้านเขายอมรับบ้าง คุณก็รู้ไทยมีเปรียญ 9 ประโยคเต็มเมืองแต่ว่าบ้านเมืองเสื่อมลงทุกที่ เพราะภิกษุมุ่งแต่เรียนเอาธรรมมาะสอนชาวบ้านก็ไม่เป็นซํ้าร้ายไม่ต้องพึ่งปัจจัยจากญาติโยมอีก บุญคุณของญาติโยมก็ไม่มีต่อกันเรื่องจะสอนธรรมมะพระจะสอนไปทำไม เพราะชาวบ้านมิได้มีส่วนได้เสียกับตน

    บิณฑบาตร คือ การขอทานเพื่อมีปัจจัยเลี้ยงตัวไปวันๆเท่านั้น ทั้งยังเป็นโอกาสให้ภิกษุสอนธรรมชาวบ้าน ผูกพันธ์กับชาวบ้าน พระอรหันต์สำเร็จธรรมก็ยังสอนชาวบ้านอยู่เลย แล้วท่านเป็นใคร บางวัดไม่บิณฑบาตรเลย บินแต่ล่ะทีเดินจํ้าๆๆๆ คุณก็รู้ก็เห็นนี้ครับ ถ้าบอกว่ามีศาลาแล้วรองรับญาติมากกว่าเดิมคนไปวัดมากกว่าเดิม แล้วคุณที่ไปวัดนอกจากถวายภัตตาหาร สังฆทาน เคยได้ฟังธรรมมะสอนตัวเองไหม แล้วมันเอาไปสอนลูกหลานได้ไหม ไม่มี คุณก็รู้ก็เห็น

    ไม่ใช่ว่าวัดเยอะแล้วดี วัดร้างก็ให้มันร้างไปสิ มันเสื่อมแล้วจะขวางมันทำไม มันเสื่อมก็ฟื้นฟูได้ทีหลัง ไม่ใช่วัดจะร้างก็ไม่ยอมให้มันร้างเลย

    ทุกวันนี้คุณเคยได้ฟังธรรมะจากใครบ้างไหมนอกจากช่วงเทศกาล ไม่มี!

    พระคามวาสียังเคยประกาศจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วประเทศเลยว่า ศีล 227 ไม่มีคนไหนในโลกทำได้แล้ว นั้นแหละมันมาจากการติดสุข มีเงินทองอาวาส กุฏิทั้งหลาย สะดวกสบาย จนทำอะไรไม่เป็น ใครๆก็อยากได้บุญทั้งนั้นแหละครับ แล้วจะดูสักนิดก็จะดีด้วยว่าทำไปแล้วพระจะติดสุขไหม(ถ้าจะอ้างว่าทำบุญต้องไม่คิดเล็กคิดน้อย ข้อนี้ไม่จริง ทำแล้วพระติดสุขเราจะได้บาปมากกว่า)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  8. แอบยิ้ม

    แอบยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +455
    ความคิดของคุณ tuanong ฟังดูเข้าที และเหตุผลตามที่กล่าวมานั้น ก็ยากที่จะด่วนปฏิเสธ
    แต่ดูจะมองโลกในแง่ลบมากเกินไปหรือเปล่าครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...