ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สัจจะ ****

    สัจจะ...คือ หนทางขจัดกิเลสนิสัย ให้หมดไปได้จริง
    ตั้งใจวันละนิด....คือ การฝึก นั่นเอง
    แต่ผลของการทำได้ในแต่ละวัน....หาค่าประมาณไม่ได้
    ทองคำเท่าภูเขา...ไม่เท่า สัจจะที่ทำได้จริง เพียงหนึ่งข้อ !!!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ผู้ทำลายธรรม ****

    พระเทวทัต และ พระโพธิสัตว์จอมปลอม ???
    คือ ผู้ที่นำเพียงคำสั่งสอนบางส่วน
    ไปแต่งเติม...หาผลประโยชน์เข้าตนเอง ญาติ และพวกพ้อง

    เขานั่งบนความทุกข์ความสุขของประชาชน
    เขาหลอกให้สาวกหลงทาง หลงความสุข ติดใจกับความสุขชั่วคราว
    เขาสร้างภาพให้ดูดี ตบแต่งตนเอง และเรื่องราวให้เข้าตำนาน คำพยากรณ์ คัมภีย์ต่างๆ เพื่อให้เป็นที่น่าศรัทธา
    การกระทำของเขา ส่งผลต่อญาติพี่น้องประชาชนเป็นทุกข์
    สูญเสียเวลาทำมาหากิน สูญเสียความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง
    พาให้ผู้สาวกหลงบุญ เกิดความอยากได้บุญ อยากสะสมบารมี อยากขึ้นสวรรค์
    หลอกให้คนติดอยู่กับวัตถุ ที่กำหนดไว้ว่า ...
    นี่คือความงดงาม นี่คือความดี นี่คือกุศลผลบุญ
    หลอกให้คนหลงกายที่งดงาม
    จิตใจเขา ยังหลงความงดงามของตนเอง
    จิตใจเขา ยังหลงกับวัตถุรอบตัว
    เขาไม่รู้หนทางหลุดพ้น
    เขาจึงไม่ได้สอนให้สาวกตั้งใจขจัดกิเลสนิสัย
    ประชาชนที่หลงทางไปกับเขา จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากการเกิดใหม่ไปได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    อัลกออิดะห์บึ้มป่วนแอลจีเรียดับอนาถกว่าครึ่งร้อย! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">9 กันยายน 2550 17:42 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="200"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="200"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ตำรวจขณะรุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเจนซี – เกิดเหตุระเบิดพลีชีพรถบรรทุกถล่มอาคารยามฝั่งแห่งหนึ่งของแอลจีเรีย เมื่อวันเสาร์ (8) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย ซึ่งนับเป็นเหตุโจมตีครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    เจ้าหน้าที่แอลจีเรีย กล่าวว่า เหตุระเบิดที่ท่าเรือในเมืองเดลลิส ห่างจากกรุงแอลเจียร์ไปทางตะวันออกประมาณ 100 กิโลเมตร เกิดขึ้นในช่วงไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังมือระเบิดพลีชีพได้จุดชนวนระเบิดสังหารตัวเองในเมืองบัตนา ท่ามกลางฝูงชนที่มารอต้อนรับประธานาธิบดี อับเดลอาซิซ บูเตฟลิกา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย

    ทั้งนี้ รัฐบาลแอลจีเรีย มองว่า เหตุระเบิดดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ และเป็นกลุ่มที่ต้องการทำลายความพยายามของรัฐบาลในการยุติเหตุความรุนแรงทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานกว่า 15 ปี

    ซาอิด ฮัมดาอุย ชาวบ้านซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.และพบว่า ท่าเรือของเมืองตกเป็นเป้าโจมตี ก่อนที่จะได้ยินเสียงรถพยาบาลในเวลาต่อมา

    ด้านพยานคนอื่นๆ เล่าว่า แรงระเบิดทำให้อาคารไม้ของเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง และบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงพังเสียหายยับเยิน นอกจากนี้ ยังทำให้กระจกหน้าต่างของบ้านเรือนในละแวกดังกล่าวแตกกระจายไม่มีชิ้นดี

    ขณะที่หลังเกิดเหตุทหารพร้อมปืนไรเฟิลได้วางกำลังปิดล้อมบริเวณจุดเกิดเหตุอย่างทันที

    สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา รายงานว่า องค์การอัลกออิดะห์ในอิสลามิก แมกเกร็บ ซึ่งเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ปฏิบัติการอยู่ในแอฟริกาเหนือ ออกมาอ้างความรับผิดชอบผ่านทางแถลงการณ์ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ว่า เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดทั้ง 2 ครั้งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานีโทรทัศน์อัลจาซีราไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

    ด้านกระทรวงมหาดไทยของแอลจีเรีย กล่าวว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังมือระเบิดพลีชีพ 2 คน ได้จุดชนวนระเบิดสังหารตัวเอง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายอดผู้เสียชีวิต 30 ราย ได้รวมมือระเบิดทั้ง 2 คนไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งนอกจากผู้ที่เสียชีวิตแล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 47 คน

    ฌอง-โมริซ ริแปร์ ทูตฝรั่งเศสประจำสหประชาชาติ ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ออกมาประณามเหตุระเบิดดังกล่าว หลังจากสมาชิกทั้ง 15 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ประณามเหตุระเบิดพลีชีพในเมืองบัตนามาแล้วครั้งหนึ่ง เช่นเดียวกับกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศสที่ได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังรัฐบาลแอลจีเรีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน

    หลายประเทศในแอฟริกาเหนือได้เพิ่มมาตรการประสานงานด้านการรักษาความปลอดภัย เพื่อรับมือกับกลุ่มติดอาวุธที่พยายามนำกฎอิสลามมาใช้ในภูมิภาค ซึ่งรายได้หลักของประเทศขึ้นกับการส่งออกน้ำมันและก๊าซ และการท่องเที่ยว

    ก่อนหน้านี้ ไอมาน อัล-ซาวาห์รี แกนนำหมายเลข 2 ของกลุ่มอัลกออิดะห์ซึ่งเป็นชาวอียิปต์ ได้กล่าวถึงภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ว่า รัฐบาลที่คอร์รัปชันในภูมิภาคสมควรที่จะถูกปลดจากตำแหน่ง

    ความขัดแย้งเริ่มปะทุขึ้นในแอลจีเรีย เมื่อปี 1992 หลังรัฐบาลซึ่งมีทหารหนุนหลังประกาศคว่ำการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าพรรคอิสลามน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ ส่งผลให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในแอลจีเรียมากถึง 2,000 ราย
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    สงครามครูเสดครั้งที่ 3

    สงครามครูเสดครั้งที่ 3 นี้ ประวัติศาสตรืได้บันทึกชีวประวัติของนักรบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งคือ เศาะลาหุดีน ซึ่งฝรั่งเรียกว่า สะละดิน ( saladin ) กับกษัตริย์หลายองค์จากยุโรป แต่ก่อนที่เราจะได้ทราบตอนนี้ ควรทราบที่มาของเศาะลาหุดดีนก่อนว่า ได้มีอำนาจโดยประการใด

    เมื่อสองกษัตริย์และบรรดาอิสตรีแห่งฝรั่งเศสแตกทัพกลับไปแล้ว นูรูดดีนก็มุ่งที่จะตีพวกแฟรงก์ให้พ้นจากเอเชียน้อยเขาได้ยึดป้อมที่สำคัญที่สุดแห่งชายแดนสิเรียชื่อ อัลอาริมา(Al Aareima) และต่อมาอีกสองสามเดือนได้ยังความเสียหายอย่างหนักแก่เมืองชัฆรา (Zaghra) อันเป็นเมืองที่ติดกับอันติออก ในสงครามติดพันริมกำแพงเมืองอันแนบ (Anneb) เจ้าชายเรย์มองแห่งอันติออก (ผู้เป็นลุงของมเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7 ) ถูกฆ่าและทหารของพระองค์ถูกฆ่าเป็นเบือ เรย์มองมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ โบฮิมอง (อรับเรียกว่า บีมินต์) เมียของตนซึ่งเป็นแม่หม้ายได้แต่งงานใหม่ แต่สามีใหม่ก็ได้รับความปราชัยจากนุรีดีนอย่างหนักใน ฮ.ศ. 544 (ค.ศ. 1149-1150 ) นูรุดดีนยึดได้เมืองอะปาเมียส์(อรับเรียกอะฟามีอะฮ) แต่อีกปีต่อมาใน
    ฮ.ศ.546 นูรุดดีนแพ้การบกับโยสเซลินที่ 2 ต่อมานูรุดดีนกลับมาเป็นฝ่ายลุกอีกจับจตัวโยสซลีนได้ พวกมุสลิมมีนถือว่าเป็นชัยชนะอันใหญ่หลวง เพราะอิบนุ อัล-อะษีร(นักประวัติศาสตร์) เขียนว่า “ ในหมู่พวกแฟรงก์นั้น โยสเซลินเป้นปีสาจที่ชั่วร้ายตัวหนึ่ง มีความเกลียดชังมุสลิมมีนยิ่งนัก เมื่อพวกแฟรงก์ยกกองทัพคราวใด ก็มอบอำนาจการนำทัพให้แก่เขา เพราะพวกนั้นชอบความกล้าหาญเหี้ยมโหดที่มีต่ออิสลาม” เมื่อจับโยสเซลินได้นูรุดดีนก็ยกทัพเข้าตีเมืองอื่นๆ พวกครูเสดเสียเมืองที่สำคัญอีกเมืองหนึ่ง ชื่อ ดุลูก (Duluk)

    เนื่องด้วยวีรกรรมเหล่านี้เคาะลีฟะฮที่กรุงบัฆดาดได้ประทานตำแหน่ง อัล-มาลิก –อัล-อาดิลกษัตริย์ผู้ทรงธรรมแก่นุรุดดีน ซึ่งเขาได้ประพฤติตัวตามตำแหน่ง ระหว่างนั้นมีการสงบศึกกับครูเสดระยะหนึ่งได้เกิดแผ่นดินไหวในสิเรีย นูรุดดีนจึงใช้เวลาว่างช่วงนี้ซ่อมแซมสถานที่สำคัญต่างๆ เคาะลีฟะฮแห่งบัฆดาดชื่อ อัล-มุกตะฟี ตายลง ลูกชื่ออะบุล-มุชัฟฟัรน ยูสุฟ ได้เข้ารับตำแหน่งแทน โดยชื่อตามตำแหน่งว่า อัล-มุสตันญิด บิลลาฮฺ เป็นเคาะลีฟะฮฺคนที่ 32 ของวงศ์อับบาสิยะฮฺ

    อีก 2 ปีต่อมา นูรุดดีน ได้ส่งกองทัพไปอียิปต์ ซึ่งก่อให้เหตุการณ์อันสำคัญในประวัติศาสตร์ ทั้งแก่พวกครูเสดและพวกมุสลิมมีน เพราะจากเหตุการณ์ณืนี้ ได้ผลิตยอดทหารขึ้นคนหนึ่งคือ เศาะลาหุดดีน เวลานั้นวงศ์ฟาฎิมิยะฮฺ ง่อนแง่นเต็มที เคาะลีฟะฮฺองค์สุดท้ายชื่อ อัล-อาซิด ลิดดีนนิลลาฮฺ ป่วยกระเสาะกระแสะเสมอ กิจการบ้านเมืองของอุปราขคนหนึ่งชื่อชาวัร อัสสะอุดียฺ(จำชื่อคนนี้ให้ดี) พวกขุนนางฝ่ายหนึ่งคบคิดกันจะกำจัดซาวัร
    ชาวัรจึงหนีไปดมัสคัส ขอความช่วยเหลือจากนูรุดดีน โดยสัญญาว่าถ้าให้ตนยึดอำนาจคืนได้
    ก็จะให้กองทัพอียิปต์ช่วยรบต้านพวกครูเสด หลังจากลังเลใจหลายเวลา นูรุดดีนได้ส่งทหารไปช่วย ภายใต้การนำของ อะสะดุดดีน ชิรกูฮฺ(สิงห์แห่งภูเขา) ผู้ลุงของเศาะลาหุดดีน เมื่อชาวัรได้อำนาจคืนก็แอบไปร่วมมือกับพวกแฟรงก์ขับชิรกูฮฺออกจากอียิปต์ แม้ชิกูฮฺจะมีทหารน้อย ก็ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง แต่ในที่สุดต้องถอยทหารหนี

    ในเดือนเราะมะฏอน (เดือนถือศีลอดของอิสลาม)ฮ.ศ.559 (สิงหาคม ค.ศ. 1164) นูรุดดีนถูกกองทัพของพวกแฟรงก์และกรีกรวมกันโจมตีอย่างหนัก แต่พวกแฟรงก์กลับพ่ายอย่างยับเยิน พวกเจ้านครและอัศวินต่างๆ เช่นโบฮิมมอง แห่งอันติออก เรย์มองแห่งตริโปลีและโยสเซลินที่ 3 พร้อมทั้งนายพลของกรีกและดยุคแห่งคะลามาร์ (Duke of Calamar ) ได้ถูกจับเป็นเชลย ชัยชนะครั้งนี้นำนูรุดดีนยึดเมืองต่างๆได้อีก


    ในปี ค.ศ. 1170 เคาะลีฟะฮฺ อัล-มุสตันญิดตาย ลูกชายชื่อ อบูมุฮัมมัด หะสัน ได้รับตำแหน่งแทน มีนามตามตำแหน่งว่า อัล-มุสตะซิอิ บิ-อัมริลลาฮฺ เป็นคอลิฟะฮฺ องค์ที่ 33 ของอับบาสิยะฮฺ

    อัล-มาริก อัน-นาศิร อัล –สุลฎอน เศาะลาหุดีน ยูสุฟ เกิดที่เมืองตักรีด ที่ฝั่งแม่น้ำไทกรีส เมื่อ ค.ศ.1138 เป็นพวกเคอร์ดิซ เชื้อสายตุรกี บิดาชื่อนัจญ์มุดดีน อัยยูบ ไม่ค่อยมีใครทราบประวัติตอนเยาว์ของเศาะลาหุดดีนมากนัก จนกระทั่งลุง ชิรกูฮฺ-ยกทัพมาตีอียิปต์ครั้งที่ 3

    ใน ฮ.ศ. 565 (ค.ศ.1170) ลูกชายคนที่ 3 ของซังงีชื่อ กุดบุดดีน เมาดูด ตาย ลูกชายชื่อ สัยฟุดดีนฆอซีที่ 2 ได้ขึ้นครองตำแหน่งแทน ตอนนี้การเมืองของโมสุลวุนวาย นูรูดดีนได้ยกทัพไปช่วยหลานชาย ในเดือนมุหัรร็อม ฮ.ศ. 567 เคาะลีฟะฮฺ ขี้โรคของอียิปต์ก็ถึงแก่ความตาย และเศาะลาหุดดีนได้เป็นอุปราชของนุรุดดีนปกครองอียิปต์ทั้งหมด เวลานั้นเขามีอายุได้ 35 ปี ใน ฮ.ศ. 569 ตีเมืองยะมันได้ ต่อมาในเดือนเชาวาล ฮ.ศ.569 (15 พฤษภาคม 1174) นูรุดดีนตาย เศาะลาหุดดีนจึงมีอำนาจเด็ดขาดในอียิปต์ หิญาช และยะมัน แต่ยังขึ้นต่อพวกสํลญูกอยู่ นูรุดดีนนมีลูกชายเพียงคนเดียวชื่อ อิสมาอิล ได้นามตามตำแหน่งว่า อัล-มาลิกุศ-ศอลิหฺ เวลานั้นมีอายุเพียง 11 ปี

    ทันทีที่ข่าวการตายของนูรุดดีน เศาะลาหุดีนได้ส่งบรรณาการไปยัง อัล-มาลิกุศ-ศอลิหฺ ต่อมาขุนนางเห็นว่า อัล-มาลิกุศ-ศอลิหฺ ยังเป็นเด็กนัก พวกตนเคยมีอำนาจในสมัยนูรุดดีน จึงวางท่าโดยใช้เงินหลวง เศาะลาหุดีนได้เขียนหนังสือเตือนพวกนี้ว่า ถ้ายังไม่เลิกประพฤติการณ์เช่นนั้นตนจะมาปกครองดมัสคัดเอง มีขุนนางหนึ่งเป็นชาวตุรกีชื่อ กุมุชดาจิน (Gumushtagin) ได้พามาลิกุศ-สอลิหฺหนีไปอเลปดป ปล่อยให้เมืองเปิดอยู่สะดวกก่ำการโจมตีของพวกแฟรงก์ แน่นอนพวกครูเสดไม่ยอมละโอกาสนี้ ได้ยกทัพล้อมเมือง และยอมถอยทัพกลับเมื่อได้ค่าทำขวัญอย่างจุใจ เศาะลาหุดดีนโกรธมากจึงนำทหารม้า 700 คน เข้ายึดดมัสคัสไว้ เขาไม่เข้าไปพำนักในสถานที่ของนูรุดดีนเพราะถือว่าเป็นของนายเก่า ส่วนตัวเป็นอุปราชเท่านั้นจึงไปพักที่บ้านเดิมของพ่อ-นัจญ์มุดดีน อัยยูบ- แล้วได้เขียนจดหมายถึงมาลิกุส-สอลิห์ว่าตนมาดมัสคัสเพื่อป้องกันเมือง แต่จดหมายตอบซึ่งพวกขุนนางผุ้เป็นศัตรูของเศาะลาหุดดีนร่าง กลับเต็มไปด้วยคำบริภาษว่าเศาะลาหุดดีนเนรคุณต้องการเป็นเจ้าแผ่นดิน เขาจึงเดินทางไปอเลปโปเอง เพื่อพบลูกชายของนาย แต่เด็กน้อยคนนี้กลับแสดงตนไม่เป็นมิตร ต่อเศาะลาหุดดีน เวลานั้นมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น ได้ขี่ม้าชักชวนชาวเมืองว่าเศาะลาหุดดีน พวกชาวเมืองจึงสำคัยผิดจึงถืออาวุธต่อสู้ เศาะลาหุดดีน ถึงจะชี้แจงอย่างไรพวกอเลปโปก็ไม่ฟังเสียง เด็กน้อยได้ขอความช่วยเหลือจากสัยฟุดดีนฆอซีที่ 2 (Saifuddin Ghazi II ) แต่เด็กคนนี้ก็ไม่มีกำลังต่อสุ้กับเศาะลาหุดดีนได้ กระนั้นก็ตามเขาได้เขียนจดหมายยืนยันความจงรักภักดีและยินดีสละชีวิตเพื่อป้องกันบ้านเมืองนูรุดดีนไว้ แต่จดหมายของเขากลับถูกเย้ยหยัน เด็กน้อยได้เรียกครูเสดเข้ามารบกับเศาะลาหุดีน แต่ถูกตีพ่ายไป มาลิกุศ- ศอลิหฺและสัยฟุดดีน ฆอซีที่ 2 ก็ถูกตีพ่ายเสียเมืองต่างๆ สัยฟุดดีนหอซีที่ 2 จึงส่งลูกสาวคนเล็ก-ผู้ยังเป็นเด็กอยู่ – แต่ลำพังไปหาเศาะลาหุดดีนเพื่อทำสัญญาสงบศึก เศาะลาหุดดีนได้เอ็นดูเด็กคนนี้ มอบของกำนัลและทำสัญญากับวงศ์ของนูรุดดีน ดดยสัญญาฉบับบนี้ เศาะลาหุดดีนได้ปกครอง ดมัสคัดโดยเด็ดขาด นับแต่วันนั้นมา ชื่อของมาลิกุศ-ศอลิหฺก็ถูกลบออกจากคุฏบะฮิวันศุกร์ เคาะลีฟะฮทางบัฆดาดจึงได้ตั้งให้เศาะลาหุดดีนเป็นสุลฎอน มาลิกุศ-ศอลิหฺตายเมื่ออายุได้ 19 ปี (ฮ.ส.579 ค.ศ.1181) เวลานั้นเจ้าเมืองต่างๆก็พากันสวามิภักดิ์ต่อเสาะลาหุดดีน โดยเชื่อว่า เมื่อมีภัยก็จะได้รับการช่วยเหลือทันที อิทธิพลของเศาะลาหุดดีนจึงรุ่งโรจน์นับแต่นั้นมา

    กล่าวถึงพวกครูเสดในเยะรุสเล็ม พวกนี้ได้กำลังพลและเสบียงจากยุโรปมากข้น มีพวกอัศวินที่ต้องการชัยชนะ พวกผจญภัยที่ต้องการความร่ำรวย พวกคลั่งศาสนาที่ต้องการรบกับ “พวกนอกศาสนา” พวกอาชญากรที่ต้องการหนีคดีต่างหนีและเดินทางมายังชายฝั่งสิเรีย เวลานี้อะเมอรี่ผู้ครองเยะรุสเล็มได้ถึงแก่ความตาย มีลูกชายคนหนึ่งชื่อบอลด์วินที่ 4 แต่เป็นโรคเรื้อน พี่สาวของบอลด์วิน ชื่อ สิบิลลา (Sybilla) ได้แต่งงานกับมาร์ควิสแห่งมองเฟอร์รัด(Marguis ofMontferrat) แล้วมีลูกคนหนึ่ง ชื่อบอลด์วินเหมือนกัน เมื่องมองเฟอร์รัดตาย สิบิลลาได้แต่งงานใหม่กับ กาย เดอ ลูสิยอง (Guy de Lusignan) บอลด์วินที่ 4 จึงตั้งให้พี่เขยให้เป็นผู้สำเร็จราชการ แต่ต่อมาไม่ช้าได้ถอดถอนเขาออก แล้วตั้งเลมองเคานด์แห่งคริโปเลียเป็นแทน แล้วเขาได้โอนสมบัติให้แก่หลานชาย-บอลด์วินที่ 5 –ซึ่งเวลานั้นอายุได้ราว 5 ปี ต่อมาเด็กคนนี้ตาย สิบิลลาจึงเป็นราชินีของเยะรุสเล็ม เมื่อ ค.ศ.1187 เป็นต้นมา

    ในระหว่างสมัยของบอลด์วินขี้เรื้อน ได้มีการทำสัญญาระหว่างพวกครูเสดกับเศาะลาหุดดีน พวกมุสลิมมีนเคารพต่อสัญญาฉบับนี้ แต่พวกครูเสดถือว่าเป็นการพักผ่อนเพื่อรวมกำลังสู้
    รบ”พวกนอกศาสนา” ในค.ศ.1186 อัศวินคนหนึ่งของครูเสดชื่อ เรโนด์หรือเรยินัลแห่งชาติลอง ได้ปล้นคาราวานมุสลิมพร้อมทั้งฆ่าผู้คนด้วย เศาะลาหุดดีนโกรธมาก จึงยดกกำลังไปแก้แค้น พวกครูเสดรวมกำลังกันต่อสู้อีก แต่ถูกเศาะลาหุดดีนตีแตกยับเยิน พวกครูเสดตายกว่าหมื่นคน พวกอัศวินและพวกเจ้าได้ถูกจับกันมากมายในจำนวนนี้มี กาย เดอ ลุสิกนัน- สามีของสิบิลลา – และเรโนด์แห่งชาติลองรวมอยู่ด้วย เรโนด์ถูกประหารชีวิตเพราะเป็นคนก่อเหตุ หลังจากตีเมืองต่างๆ ที่พวกครูเสดแตกทัพกลับไปครอบครองได้ เศาะลาหุดดีนจึงมุ่งไปยึดเยะรุสเล็ม ขึ่งเวลานั้นมีทหารราว 60,000 คนและมีพลเมืองหนาแน่นเศาะลาหุดดีนได้เขียนถึงพวกนั้นว่า “ ฉันตระหนักดี เช่นพวกท่านเหมือนกันว่า เยะรุสเล็มเป็นเมืองของพระเจ้า ฉันไม่ต้องการให้เลอะเปรอะเปื้อนด้วยเลือด จงละทิ้งที่มั่นของพวกท่านอย่าสู้รบ ฉันจะแบ่งส่วนหนึ่งของสมบัติของฉันแก่ท่าน และให้ที่ดินมากที่สุดที่พวกท่านจะทำการเพาะปลูกได้” แต่พวกครูเสดกับหัวเราะเยาะข้อเสนอเหล่านี้ เศาะลาหุดดีนเคืองมาก จึงสาบานที่จะแก้แค้นแทนพวกมุสลิมมีนที่ถูกสับโดยทหารของกอดเฟรย์แห่งบุยยอง ซึ่งเมื่อตอนแรกที่พวกนี้ยกทัพเข้าตีครูเสด หลังจากล้อมเมืองไว้ระยะหนึ่ง พวกครูเสดอ่อนกำลังลงจึงจดหมายขอความปราณีจากเสาะลาหุดดีน ตอนนี้เศาะลาหะดีนใจอ่อน จึงให้พวกกรีกและพวกสิเรียคริสเตียนอยู่ในอณาจักรของตนได้โดยมีสิทธิทางพลเรือนอย่างเต็มที่ ส่วนพวกทหารต้องออกจากเมืองกลับถิ่นเดิม พร้อมด้วยบุตรและภรรยาภายใน 40 วัน โดยมีทหารของสุลฎอนอารักขาจนถึงเมืองตริโปลี โดยต้องเสียค่าไถ่ตัวผู้ชายคนละ 10 ดีนาร์ ผู้หญิงคนละ 5 ดีนาร์ และเด็กคนละ 1 ดีนาร์สิเรีย ถ้าไม่สามารถจ่ายได้ก้ต้องอยู่เป็นเชลยต่อไป แต่นี้เป็นเพียงกฎในสงครามยึดครองเท่านั้น ความจริงเศาะลาหุดดีนใช้เงินไถ่พวกเหล่านี้กว่าหมื่นคน พี่น้องคนหนึ่งของเขาชื่อสัยฟุดดีน (ฝรั่ง เรียกว่า สะฟะดีน Saphadin) ได้ปล่อยเชลยให้เป็นอิสระกว่า 7,000คน พวกพระในเมืองเยะรุสเล็มได้อพยพ พร้อมด้วยของมีค่าต่าง ๆ โดยไม่ได้ถูกรังแกหรือปล้นเลย พวกคริสเตียนจำนวนไม่น้อยต้องแบกคนแก่เดินทางกลับบ้าน สุลฎอนได้จัดหาลาให้แก่พวกเหล่านี้พร้อมทั้งเงินช่วยอีกด้วย เมื่อนางสิบิลลามาลาเศาะหุสสดีน เขาได้พูดกับนางอย่างนอบน้อม พวกผู้หญิงจำนวนมากได้เดินทางตามนาง สบิลลาออกจากเมืองร้องห่มร้องไห้ พวกนี้มาอุธรณืต่อ เศาะลาหุดดีนว่า “ ขอท่านได้เห้นใจพวกเราเถิดว่า พวกเราบางคนเป็นแม่ บางคนเป็นเมีย บางคนเป็นลูกของเชลยที่ท่านคุมตัวอยู่ เราลาจากเมืองนี้เป็นการถาวร เมื่อเรายังอยู่ พวกผู้ชายเหล่านั้น เคยปกป้องรักษาเรา แต่เมื่อเราจากไปเราต้องขาดความหวังอันนี้ ถ้าท่านกรุณาปล่อยพวกเหล่านั้นแก่เรา พวกเขาจะมีส่วนช่วยพวกเราอย่างมากมาย “ เศาะลาหุดดีนเกิดสงสารขึ้นมา จึงสั่งให้คืนสามี คืนพ่อ คืนลูก คืนพี่ น้องชองผู้หญิงเหล่านั้นตามกรณ๊เขาได้บริจาคเงินจำนวนมากช่วยเด็กกำพร้า ให้พวกอัศวินที่เคยสู้รบกับตน ได้รับการรักษาตามโรงพยาบาล นี่คือ “มนุษยธรรม” ที่เศาะลาหุดดีนได้แสดงต่อพวกครูเสดนับจำนวนแสนเหล่านั้น เป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับที่พวกเขาได้ทำกับมุสลิมมีน แหวะหัวใจเด็ก ฟันขาเหวี่ยงไปในอากาศ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้กล่าวแล้วในสงครามครูเสดครั้งที่ 1 และในเวลานั้นเลือดของผู้ถูกสับเหล่านี้ไหลนองเยะรุสเล็ม

    จะเห็นได้ว่า นับแต่ ค.ศ. 1095 เป็นต้นมา ที่สงครามครูเสดเริ่มขึ้น ดินแดนในเอเชียน้อยไม่ได้รับความสุขเลย พวกครูเสดยกทัพมาตีเมืองต่างๆ เวลามีผู้เข้มแข็งเช่นนูรุดดีนและเศาะลาหุดดีนเกิดขึ้น ก็ต้องทำสงครามตลอดเวลา จนแทบจะกล่าวได้ว่า เศาะลาหุดดีน
    นั่งอยู่บนม้าศึกมากกว่าอยู่ในวัง ขอท่านอย่าลืมว่าสงครามครูเสดยึดเยื้อกว่า 150 ปี ที่กล่าวนี้เป็นเพียงตอนต้นของสงครามครูเสดครั้งที่ 3 เท่านั้น เมื่อพวกฝรั่งรู้ว่าเศาะลาหุดดีนยึดเยะรุสเล็มได้ (2 ตุลาคม ค.ศ.1187) ก็แห่ยกทัพกันมาเป็นจำนวนแสน บางคนตายกลางทางก็มี ถูกพวกเดียวกันหักหลังจับตัวไปเอาค่าไถ่ก็มี เศาะลาหุดดีนและพรรคพวกได้ทำการสู้รบพวกเหล่านี้อย่างดชคโชน ได้แสดงมนุษยธรรมความกล้าหาญ จนได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ทั่วโลก

    กล่าวถึงพวกครูเสดที่รอดตายจากเยะรุสเล็มอีกครั้ง พวกนี้ได้ตอบแทนบุญคุณของเศาะลาหุดดีนด้วยการรวมกำลังเข้าสู้รบกับเศาะลาหุดดีนอีกครั้ง พวกที่เคยให้สํญญาว่าจะไม่สู้รบอีก เพียงขอชีวิตเท่านั้น บัดนนี้กับนำทัพมารบกับมุสลิมมีนอีก ในยามสงครามเราจะพบสัจจะได้ยาก เพราะต่างคนต่างต้องการชัยชนะโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม เพราะฉะนั้น เด็กเล็ก อาคาร พืชในไร่ และบรรดาสิ่งที่ต้องการความปราณีจากศีลธรรมจึงเป็นเป้าแรกแห่งความเหี้ยมโหด และการไร้คุณธรรม เช่นนี้ พฤติการณ์เช่นนี้เป็นไปทุกยุคทุกสมัยแม้ในสมัยนี้ก็ตาม
     
  5. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ผู้ชุมนุมพระพม่าจับเจ้าหน้าที่ขังวัดเป็นตัวประกัน [7 ก.ย. 50 - 04:01]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 6 ก.ย. พระสงฆ์พม่าหลายร้อยรูปร่วมกันจับเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่า 20 คน ขังไว้ภายในวัดอเลเตียก เมืองปากอกกู เมืองที่พระภิกษุจำนวนมากเดินทางไปศึกษาพระธรรม ห่างจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครย่างกุ้งราว 500 กม. เป็นเวลาหลายชั่วโมง และจุดไฟเผารถยนต์ 4 คัน ของพวกเขา เนื่องจากไม่พอใจหลังเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว เดินทางไปที่วัดเมื่อ 5 ก.ย. เพื่อขอโทษพระภิกษุกรณีทหารยิงปืนขึ้นฟ้าเหนือกลุ่มพระสงฆ์อย่างน้อย 300 รูป ที่รวมตัวประท้วงไม่พอใจการขึ้นราคา น้ำมันของรัฐ ซึ่งทหารยังใช้ท่อนไม้ไผ่พยายามสลาย กลุ่มชุมนุมจนทำให้พระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บ 3 รูป อีกทั้งเจ้าหน้าที่พยายามขอเจรจากับเจ้าอาวาสวัดมหาวิธูธรรมา วัดใหญ่ที่สุดในจังหวัด เพื่อให้เจ้าอาวาสเตือนพระสงฆ์ไม่ให้ร่วมขบวนประท้วงอีก
    ล่าสุด หลังถูกคุมขังนานกว่า 5 ชั่วโมง เมื่อช่วงค่ำพระสงฆ์จึงยอมปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ 5 คนแรก และปล่อยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในอีก 45 นาทีต่อมา เนื่องจากเป็นห่วงสุขภาพของท่านเจ้าอาวาส จึงไม่อยากให้เจ้าหน้าที่รบกวน นับเป็นเหตุการเผชิญ หน้าระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ประท้วงที่ตึงเครียดที่สุดนับตั้งแต่มีการประท้วงเมื่อเกือบ 3 สัปดาห์ก่อน
    ชาวบ้านรายหนึ่งเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า พระภิกษุบอกประชาชนไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจับกุมเจ้าหน้าที่และทางวัดจะแก้ไขสถานการณ์ เอง ซึ่งประตูทางเข้าวัดถูกปิดตั้งแต่ช่วงสาย โดยมีประชาชนนับพันคนรวมตัวนอกทางเข้าวัด แต่ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ ขณะที่ร้านค้าทั่วเมืองปิดทำการชั่วคราว
    การประท้วงยืดเยื้อหลังประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าและค่าขนส่งที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประกาศขึ้นราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ 15 ส.ค. ทำให้เกิดการประท้วงใน หลายเมือง จนมีผู้ประท้วงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมแล้วกว่า 100 ราย ทั้งนี้ พระสงฆ์เป็นที่เคารพของประชาชนพม่า ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นอกจากนี้พระสงฆ์พม่ายังมีบทบาททางการเมือง เช่นเมื่อครั้งลุกฮือสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่เมื่อปี 2531.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.khum.net/news-read/526596

    คําทํานายของ โสรัจจะ นวลอยู่

    กันยายน
    แผ่นดินไหวสุดรุนแรง คนเหนือตายเกลื่อน ดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสาน ลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน การจราจรเป็นอัมพาต ปัญหาของประเทศมีมาก ผู้เป็นใหญ่ บุคคลสำคัญจักล้มเจ็บอย่างกะทันหัน จักมีอุบัติเหตุในประเทศ มีเหตุร้ายทางอากาศและค่อนข้างไม่ดีระยะครึ่งแรกของเดือน สภาพของบ้านเมือง มีผู้คนทะเลาะกัน ผู้ใหญ่ข่มเหง คนหยิ่งผยองเหลิงในอำนาจ มีเรื่องทุกข์โศก บ้านเมืองยะเยือก การบริหารประเทศจะต้องอาศัยสามัคคีธรรมเป็นที่ตั้ง มิใช่มุ่งแต่จะโค่นล้มทำลายกัน พม่าคงยังคุกรุ่นอยู่ภายใน ยังจะมีเรื่องโหดเหี้ยม อุบัติเหตุภายใน มีปัญหาการปฏิวัติที่เคยแสดงบทบาทในที่แจ้งอย่างฮึกเหิม ก็ถูกฝ่ายผู้ถืออาวุธปราบปรามอย่างอำมหิตจนต้องหลบไปเคลื่อนไหวกันใต้ดิน คราวนี้กลับรุนแรงยิ่งไปกว่าเดิม ผู้คนจะถูกกำจัด ถูกฝ่ายที่มีอำนาจทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นและสยดสยอง ประเทศอินเดีย โดนดาวบาปเคราะห์ 3 ดวงเล็งอย่างเต็ม ๆ ผู้คนคงจะหนาวแข็งตาย และที่เป็นเหยื่อของความหิวโหยล้มตายไปก็มาก เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล และจะมีอุบัติภัยทางทะเลและทางเครื่องบินมากกว่าในระยะใด มีการตายหมู่เป็นร้อย บ้านเมืองก็ยังประสบภับาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกวินาศสันตะโร ธนาคารจะเข้าสุ่จุดคับขัน ความลำบากยากแค้นจะมีไปทั่ว ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม พระอลัชชีกับมุนษย์ลวงโลกจะกำเริบเสิบสาน ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    น้ำทะลักเขื่อนลำปาวใกล้ระดับวิกฤต
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 กันยายน 2550 17:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ สรุปความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน พบเส้นทางคมนาคมเสียหาย 854 สาย สะพานขาด 15 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 30,000 ไร่ ขณะทางจังหวัดประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยติดกับลุ่มน้ำให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวใกล้ระดับวิกฤตแล้ว

    จากการติดตามผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของพายุฝนที่ตกติดต่อกันปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากด้านอำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดสกลนคร กระแสน้ำป่าจากเทือกเขาภูพานได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะที่ อ.คำม่วง อ.สามชัย อ.สหัสขันธ์

    จากการสำรวจความเสียหายหลังจากที่ทางจังหวัด ได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม 12 อำเภอ จาก 18 อำเภอ พบว่า ความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพาน มีเส้นทางคมนาคม เสียหาย 854 สาย สะพานขาด 15 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายกว่า 30,000 ไร่ ส่วนใหญ่จะอยู่ตอนเหนือของทางจังหวัด

    ด้าน นายกวี กิตติสถาพร ผวจ.กาฬสินธุ์ ประกาศเตือนประชาชนให้ระวังภัยจากน้ำล้นตลิ่งที่เกิดจากน้ำป่า โดยเฉพาะราษฎรในอำเภอยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ อ.ฆ้องชัย ซึ่งอยู่ในเขตลำน้ำปาวและลำน้ำชี เนื่องจากคาดว่าอีกไม่เกิน 7 วัน เขื่อนลำปาวอาจจะมีการะบายน้ำล้นลงทางสปริงเวย์ที่จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำเพิ่มสูง

    สำหรับปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวในขณะนี้ล่าสุดมีปริมาณอยู่ที่ 1,346 ล้าน ลบ.ม.จากปริมาณเก็บกักที่ 1,430 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเหลืออยู่อีกประมาณ 100 ล้าน ลบ.ม.ก็จะเกินปริมาณเก็บกักประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติควรระวังเนื่องจากน้ำในเขื่อนลำปาวเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000106349
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. อินทรพร

    อินทรพร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +12
    พิมพ์สืบทอดเผยแพร่ด้วยความศรัทธา

    [​IMG]
     
  8. peteyorn

    peteyorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +117
    ผมอ่านเรื่องภัยพิบัดในเวบนี้ มา3ปีแล้ว
    คือผมเจอแวบนี้ เข้ามาหลังเหตุการณ์สึนามิ เพราะครอบครัวผมมีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ อ่านแล้วก็น่าสนใจดี
    ตอนแรกก็กลัว เห็นอ่านๆทำนาย เกิด 49 มั่ง เกิดเดือนนู้นเดือนนี้ แล้วเลื่อนไป 50 51 52>>>>>>>>>>>>(เมื่อไหร่)

    จำได้ที่บอกเมืองไทยจะนองเลือดจากการเมืองมั่ง
    ภัยพิบัดธรรมชาติเช่น Catrina ตอนแรกๆก็เชื่อ
    แต่ผมก็ย้อนมาคิดว่าภัยธรรมชาติมันก็มีเป็นประจำอยู่แล้ว ภูเขาไฟ แผ่นดินไหว พายุ ซึนามิ มันก็เกิดมาเป็นล้านๆปีแล้ว แต่อาจจะเกิดบ่อยเพราะ อาจจะเกิดเพราะ Global Warming น่าค่อยเชื่อหน่อย แต่เกิดเพราะเหตุทำนายเริ่มไม่ค่อยศรัทธาแล้ว เพราะเลื่อนบ่อยเหลือเกิน

    ผมว่าโลก มนุษย์จะสูญสิ้นคงมีสักวัน แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก ภัยธรรมชาติมันก็ใช่ว่าจะเกิดแบบล้างเผ่าพันธ์ มันก็ต้องมีที่มาและที่ไป มนุษย์ใช่ว่าจะฆ่ากันเองแบบหมดโลก ล้างโลกเลยซะเมื่อไหร่ สงครามมีมาตั้งแต่ยุคหินแล้วมั้ง ถึงเทคโนโลยีจะทำให้ฆ่าล้างกันได้ แต่ใช่ว่าจะฆ่ากันตายหมดโลก โรคภัยไข้เจ็บแบบใหม่ๆ (ซาร์ หวัดนก) ก็มีวิธีป้องกัน ในยุคกลางไข้หวัดใหญ่เอย อหิวาห์เอยก็เคยระบาดคนตายครึ่งโลก ก็ยังหาทางป้องกันจนได้



    เชื่อในสิ่งที่เห็น เห็นในสิ่งที่เชื่อ
     
  9. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    เรื่องภัยพิบัติ ผมได้ยินพระอาจารย์ท่านนึงพูดเมื่อ ต.ค 2549 ไม่น่าจะเกินสองปีครึ่งจากนั้น ตอนนี้เดือน กย2550 ผ่านมาก็เกือบปีแล้ว ตอนนี้ก็ไม่เกินปีครึ่งคือไม่เกิน เมษา 2552 ครับ
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    รำลึก 17 ปีรถแก๊สระเบิด โศกนาฏกรรมที่ต้องจดจำ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">10 กันยายน 2550 07:02 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="left" height="12" valign="bottom">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#ffffff" valign="top"> <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="160"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="4" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพรำลึกเหตุการณ์รถแก๊สระเบิด </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">สภาพศพผู้เสียชีวิต</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">เด็กมาเก็บของจากซากที่เหลือในกองเพลิง</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">พล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปวณิช</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">พ.ต.อ.ทนัย อภิชาติเสนีย์</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" height="1" valign="middle" width="165">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td background="/images/linedot_vert3.gif" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellspacing="7" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> หลายคน คงลืมเลือนโศกนาฏกรรมบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อปี 2533 ไปแล้ว หลายคนคงไม่ทราบว่า เดือนกันยายน 2550 ปีนี้ เป็นวาระครบรอบ 17 ปีบริบูรณ์ แห่งโศกนาฏกรรมดังกล่าว เราได้ไปพบสารวัตรใหญ่ (สวญ.) และพนักงานสอบสวนคดีอกสั่นขวัญหายที่ว่ามา จึงขอนำเรื่องราวดังกล่าวมาถ่ายทอด ให้รำลึกถึงโศกนาฏกรรมกลางเปลวเพลิง เพื่อให้ได้รู้ ได้ศึกษาไว้เป็นอุทาหรณ์ และขออย่าให้โศกนาฏกรรมดังกล่าว กลับมาเยือนประชาชนพี่น้องชาวไทยอีกเลย

    ในวันนั้น......เป็นช่วงค่ำของวันจันทร์ ที่ 24 กันยาน 2533 บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ถนนใจกลางเมือง ก็ยังคงคราคร่ำไปด้วยรถยนต์เหมือนเช่นทุกวันของกรุงเทพมหานคร หลายชีวิตบนถนนเพิ่งกลับจากทำงานเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หลายชีวิตก็เพิ่งเริ่มต้นกับแสงสียามราตรีบนถนนเส้นนี้แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอีกไม่กี่นาทีต่อมา เพียงเพราะความประมาทของคนเพียงแค่คนเดียว และความมักง่ายของบริษัทหนึ่งจะทำให้เกิดโศกนาฏกรรม ที่ยังคงฝังใจคนไทยทุกคนมาจนถึงวันนี้

    เวลาประมาณ 22.00 น. นายสุทัศน์ ฟักแคเล็ก คนขับรถบรรทุกแก๊สของบริษัทอุตสาหกรรมแก๊ส-สยาม จำกัด ได้พยายามขับลงจากทางด่วนเพชรบุรีตัดใหม่ด้วยความเร็ว เพียงเพื่อที่จะข้ามผ่านให้พ้นไฟแดง แต่รถกลับเกิดอุบัติเหตุจนพลิกคว่ำ ไถลไปกับพื้นถนน ทำให้ถังบรรจุแก๊สขนาด 20,000 ลิตร จำนวน 2 ถัง หลุดออกจากตัวรถและปริแตก แก๊สที่บรรจุอยู่ภายในพวยพุ่งออกมาทั่วทั้งถนน แล้วเมื่อไหลไปเจอกับประกายไฟ ก็เกิดระเบิดขึ้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวหลายครั้ง ลูกไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าจนกลายเป็นสีแดงฉาน ทำให้บริเวณถนนเพชรบุรตัดใหม่และละแวกใกล้เคียงกลายเป็นทะเลเพลิงไปในพริบตา และลุกลามไปอย่างรวดเร็วจนเป็นวงกว้าง พร้อมกับครอกผู้คนที่อยู่ในรถยนต์บนถนนเส้นนั้น ทำให้หลายรายเสียชีวิตในทันที บางคนที่พอจะตั้งหลักได้ก็พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากกองเพลิง แต่ส่วนมากอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส จากเปลวไฟทั้งสิ้น

    พ.ต.อ.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ผกก.ฝอ.สลก.ตร. ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็น รอง สว.สส.สน.พญาไท รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุ เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นเหมือนยังจำได้ขึ้นใจว่า ขณะเกิดเหตุกำลังพักผ่อนอยู่ที่แฟลตใกล้กับ สน.พญาไท น้องชายได้มาเรียกให้ดูข่าวทางโทรทัศน์ซึ่งรายงานเหตุการณ์น่าตกตะลึงที่เกิดขึ้น จึงรีบเดินทางมาที่ สน.พญาไท และพยายามขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุแต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากเพลิงยังคงโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จึงกลับมาประชุมพร้อมกับตำรวจในพื้นที่ ซึ่งตอนนั้นเป็นของกองกำกับการ 3 ประกอบด้วย สน.พญาไท สน.ดินแดง สน.ดุสิต สน.สามเสน และสน.มักกะสัน โดยได้แบ่งงานกันออกไปรวบรวมรายชื่อผู้บาดเจ็บที่ส่งไปรักษายังโรงพยาบาลใกล้เคียง

    “ผมได้รับมอบหมายให้ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตำรวจ ผมไปถึงตอนประมาณตี 3 สถานการณ์ในโรงพยาบาลกำลังชุลมุนวุ่นวายเนื่องจากมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แพทย์และพยาบาลต้องทำงานอย่างหนัก เราทำได้แค่เพียงรวบรวมรายชื่อและสอบปากคำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่มาก และผู้ที่ได้รับการรักษาแล้ว จากนั้นก็ไปที่สถาบันนิติเวชเพื่อไปดูศพ จำได้อย่างติดตาเพราะสภาพศพแต่ละศพถูกไฟเผาจนไหม้ตำเป็นตอตะโก ศพที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ก็จะถูกนำมาวางเรียงรายเต็มไปหมด ภาพที่เห็นแม้ว่าผมจะเป็นตำรวจและเคยเห็นศพมาก่อนก็ยังรู้สึกหดหู่ใจ” พ.ต.อ.ทนัย กล่าว

    ในคืนนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยดับเพลิงต้องทำงานอย่างหนักกว่าเพลิงจะสงบลงก็ใช้เวลาถึง 1 วันเต็มๆ หลังจากเพลิงสงบเมื่อเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ก็ยังคงปรากฏภาพที่น่าโศกสลด เมื่อพบศพที่ถูกเผาทั้งเป็นติดอยู่กับรถโดยไม่ทันตั้งตัว อุบัติเหตุครั้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปทั้งสิ้น 59 ศพ บาดเจ็บอีก 89 ราย อาคารพาณิชย์และบ้านเรือนประชาชนในละแวกนั้นได้รับความเสียหาย ไปเกือบ 40 คูหา รวมไปถึงชุมชนแออัดอีก 100 หลังคาเรือน ส่วนนายสุทัศน์คนขับเสียชีวิตคาที่นั่ง แต่สิ่งที่ตอกย้ำความเจ็บช้ำของผู้ที่สูญเสียคือผลจากการตรวจพิสูจน์ที่พบว่าสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนั้นเกิดจากรถบรรทุกแก๊ส ไม่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

    พ.ต.อ.ทนัย เล่าถึงเหตุการณ์ในเช้าวันถัดมาว่า หลังจากที่ได้รวบรวมรายชื่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแล้วจากโรงพยาบาลต่างๆ ตำรวจในทุก สน.ในพื้นที่ก็ได้นำรายชื่อมาส่งให้ตนพิมพ์ลงคอมพิวเตอร์ซึ่งสมัยนั้นตำรวจเพิ่งเริ่มมีการนำใช้ โปรมแกรมที่มีก็ยังเป็นโปรแกรมแบบเก่าจึงไม่ค่อยมีใครใช้งานเป็น จึงต้องใช้เวลานานจนเกือบรุ่งเช้า จากนั้นได้นำไปติดไว้ที่บอร์ดหน้า สน. แล้วกลับมาพักผ่อนที่ห้อง แต่เพียงไม่นานสารวัตรใหญ่ก็ให้ลูกน้องมาตามให้ไปพิมพ์รายชื่อเพิ่ม เมื่อออกมาดูที่หน้า สน. ก็ตกใจกับภาพที่ปรากฏเพราะว่ามีประชาชนจำนวนมากมาออกันอยู่เต็มหน้า สน. จนมืดฟ้ามัวดิน เพราะประชาชนจากหลายที่ต่างมาดูรายชื่อญาติที่คิดว่าอาจจะอยู่ในที่เกิดเหตุ

    พล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปะวณิช ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร. เป็นอีกผู้หนึ่งซึ่งดำรงตำแหน่งสารวัตรใหญ่ สน.พญาไทในขณะนั้น กล่าวถึงการทำงานของตำรวจหลังเกิดเหตุการณ์รถแก๊สระเบิดว่า เมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามประสานทุกหน่วยงานเพื่อเข้าไปช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเหตุรุนแรงมาก เหมือนพื้นที่ถูกระเบิดลงจึงกลายเป็นพื้นที่ปิด จึงทำให้การทำงานของตำรวจยากลำบาก การทำงานจึงเริ่มหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว โดยได้เน้นที่งานสอบสวน พยายามที่จะย้ำให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุด โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานให้ทำงานอย่างเป็นระบบ เพราะท้ายที่สุดก็ต้องดำเนินคดีกับบริษัทที่รับผิดชอบให้ได้ โดยชี้ให้เห็นว่าเกิดจากความประมาทไม่ใช่อุบัติเหตุ

    ในวันนี้.....แม้ว่าโศกนาฏกรรมรถแก๊สระเบิด บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จะผ่านมาจนครบ 17 ปีแล้ว แต่ความเจ็บปวดในครั้งนั้น ก็ยังฝังใจทุกครั้งเมื่อมีข่าวคราวของรถแก๊สพลิกคว่ำ ซึ่งยังมีให้เห็นอยู่เสมอจนเกิดคำถามขึ้นในใจว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เรียนรู้และแก้ไขอะไรบ้างจากเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น

    “สิ่งที่ตำรวจได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในลักษณะที่เกิดขึ้น เรื่องแรกคือด้านงานสอบสวน การรวบรวมหลักฐาน เพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี ส่วนที่เกิดขึ้นแล้วเราคงจะไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่การทำหน้าที่ของตำรวจอย่างเต็มที่ในครั้งนั้นเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทแก๊สสยาม และกระแสสังคมที่เกิดขึ้น ส่งแรงผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการมาดูแลเข้มงวดยิ่งขึ้นแม้จะดูเหมือนวัวหายล้อมคอกก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนั้นนับเป็นบทเรียนสำคัญของคนไทยที่เราไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น แต่ในอนาคตต่อไปจะทำให้เราได้ตระหนักถึงภัยพิบัติในรูปแบบอื่นที่อาจจะเกิดตามมาซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เชื่อว่าในยามคับขันชาวไทยทุกคนจะออกมาช่วยเหลือกัน” พล.ต.ต.มณเฑียร กล่าว

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะถือว่าเป็นบนเรียนครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทย แต่เมื่อวันเวลาเคลื่อนคล้อยไป มาตรการการป้องกันต่างๆอย่างเข้มงวดก็ถูกลืมเลือนที่จะนำมาปฏิบัติใช้ด้วย หรือจะต้องให้โศกนาฏกรรมแบบนั้น ย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  11. wanpos

    wanpos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +66
    เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
    ผมว่าตอนนี้ภัยพิบัติจากธรรมชาติครั้งใหญ่น่าจะยังไม่เกิด น่าจะเกิดหลังจากเกิดสงครามใหญ่ เพราะตามที่อ่านจากพุทธทำนาย ของท่านหลวงพ่อฯ จะมีสงครามใหญเกิดขึ้นหลังกึ่งพุทธกาล
    แล้วอีกอย่างถ้าหากเิกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติก่อน มนุษย์ก็คงไม่มีแรงที่จะก่อสงครามใหญ่แล้ว ผมจึงคิดว่าน่าจะเกิดสงครามใหญ่ก่อน
    แล้วตอนนี้ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามแล้ว เหลือแต่ว่าใครจะกดปุ่มก่อน
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ถูกต้องแล้วครับ....!!!

    คำทำนายในคัมภีร์ไบเบิล ที่เกี่ยวกับ ไทย

    Thailand - 4 Elul" codes
    http://exodus2006.com/Vrej/Thai.htm

    A sound of terrors is in his ears : in prosperity the destroyer shall come upon him.

    ตีความได้ว่า ผู้เขียน ใช้คำว่า "him" แทนคำว่า "Thailand" หรือหมายถึงประเทศไทยนั่นเอง

    ส่วน terror แปลว่า ความน่าเกรงขาม แต่เติม s ด้วย จึงหมายถึง มีความน่าเกรงขาม (น่ากลัว) หลายอย่าง

    prosperity = ความมั่งคั่ง

    เพราะฉะนั้น ประโยคข้างบน จึงแปลได้ว่า "ประเทศไทยจะได้ยินเสียงแห่งความน่าเกรงขามที่หูของเขา : และเพราะความมั่งคั่งจะทำให้มีพวกทำลาย (destroyer) มายังประเทศไทย"

    ตีความได้ว่า : "ในอนาคตคนในประเทศไทยจะต้องพบกับความสพรึงกลัว หลังจากที่ประเทศไทยพบกับความมั่งคั่ง (ในอนาคตไทยจะเจอทองคำ น้ำมัน เพชรนิลจินดามากมาย เรียกได้ว่ามีทรัพยากรธรรมชาติผุดขึ้นมาให้เห็นมากมาย แล้วต่างชาติก็จะส่งกองทหารเข้ามายึดเอาเป็นของตนเอง"

    คำทำนายนี้บังเอิญสอดคล้องกับคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย!

    ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป

    ผู้แสดงความคิดเห็น ปั้น ( tanakorn_world@yahoo.com ) วันที่ 02-11-2005 10:43:00

    ที่มา
    http://www.buddhapoem.com/index.php?...show&Category= buddhapoemcom&thispage=1&No=106411


    ท่านรซูลของอัลลอฮ ได้กล่าวไว้ว่า

    อบูฮุรอยเราะฮ รายงานว่า **ชั่วโมงสุดท้ายจะยังไม่มาถึง จนกว่า ยูเฟรติส จะเปิดเผยให้เห็น ภูเขาทองคำ ..อันจะทำให้ผู้คนต่อสู้กัน เก้าสิบเก้าในร้อยคนของพวกเขาจะถูกสังหาร แต่ทุกคนในหมู่พวกเขาจะกล่าวว่า..บางทีฉันอาจเป็นคนหนี่งที่หนีรอดไปได้**โดย มุสลิม

    คัดลอกมาจาก http://www.muslimthai.com/board/sho...f21780e19e792d7

    ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ในตำนานพระศรีอาริย์ (โดยรหัสยญาณ)

    เมื่อปรากฏภัย ๑๐ ประการ

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    หนาแน่นขึ้นก็จะปรากฏผู้เฒ่าผมขาวหนวดเครายาวขี่ม้าขาวเหาะลอยมายังท่ามกลางเมืองเชียงใหม่ นั่นคือองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยมาปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกแล้ว อย่าสงสัยเลย

    หลังจากนั้นไม่นานขุมทรัพย์ทั้ง 4 ของพระศรีอาริย์ก็จะปรากฎเกิดขึ้นในสุวรรณภูมิ ระหว่างเชียงราย ฝาง เชียงใหม่ ลำพูน เพราะขุมทรัพย์อันมหาศาล คือแก้วแหวนเงินทองจะระเบิดออกในภาคเหนือของประเทศไทย ดอยเงินดอยคำและเพชรนิลจินดาจะแตกออกทั้งลูกดอย และจะมีหลายลูกด้วยกัน กองทัพจะเข้าแย่งชิงสมบัติเหล่านี้ มืดมัวไปทั้งสี่ทิศ ทหารของชาติต่างๆ จะล้มตายไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงเหลืออยู่เพียงส่วนเดียวเลือดจะไหลนองเป็นห้วยน้อย จนถึงกับพวกหนูต้องว่ายข้ามต่างก็จะยิงกันจนเหลวแหลก เพราะโลภตัณหา จะรบกันถึง 7 ชาติ แต่ขุนศึกสำคัญนั้นมี 3 คน คือ

    1.พญาลายตีนเป็นกงจักร
    2.พญาแขนสั้นราว (คืนแขนสั้นข้างยาวข้าง)
    3.พญาลิ้นกาฬ (ลิ้นดำ)

    ในตำนานพระศรีอาริย์จุติ ซึ่งพระอิศวรผู้เป็นเจ้าไปนิมนต์มาเกิดนั้นกล่าวไว้เป็นปัญหาว่า"ฤทธิ์เดชของพระยาแขนสั้นยาวนั้นมากมายเหลือหลาย เหล็กกลม 7 กำยาว 4 ศอก นั่งหย่องเยาะ เอามือซ้ายขว้างไปไกลได้ถึง 7 - 8 ไร่นา" ผู้เขียนขอวิจารณ์ว่า "เหล็กกว้าง 7 กำยาว 4 ศอกนั้นคงไม่ใช่เหล็กธรรมดา คงเป็นลูกระเบิดขนาดใหญ่นั่นเอง" แก้วแหวนเงินทองนั้นใครๆ ก็อยากได้ด้วยกันทุกคน ถ้ามันมีมากขนาดเท่าภูเขาเลากา และมันเกิดประเทศใด ประเทศนั้นก็ต้องตกเป็นจุดยุทธศาสตร์ขนาดล้างโลก และนั่นก็เป็นวันตัดสินโลก(Doomsday) ได้มาถึงแล้วโดยไม่มีปัญหา

    (แหล่งที่มา หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ สำนักพิมพ์ลานอโศกเพรสกรุ๊ป )

    http://www.pantown.com/board.php?id=14437&area=1&name=board1&topic=44&action=view
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2007
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อธิมุตโต [​IMG]

    น้ำท่วมกรุงเทพ ฯ ในอนาคต คงได้ใช้ประโยชน์จากยานเหาะ จริง ๆ

    [​IMG]

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=90693
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คงได้ใช้ประโยชน์เฉพาะคนมีกะตังค์เท่านั้นครับ เพราะราคาลำละ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 ล้านบาท)

    เปิดตัวยานเหาะ สิ่งประดิษฐ์หนีรถติด

    [​IMG]

    แคลิฟอร์เนีย 31 ส.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ภาพสะพานถล่มที่อินเดีย!! <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">เหตุสะพานถล่มที่อินเดีย...(อีกแล้ว!!)</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">เหตุสะพานถล่มที่อินเดีย...(อีกแล้ว!!)</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">เหตุสะพานถล่มที่อินเดีย...(อีกแล้ว!!)</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">เหตุสะพานถล่มที่อินเดีย...(อีกแล้ว!!)</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">เหตุสะพานถล่มที่อินเดีย...(อีกแล้ว!!)</td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</center></td></tr></tbody></table>
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="45" width="522"><tbody><tr><td height="24" valign="bottom" width="500"> 'สมิทธ' ระบุอันดามันยังมีแนวโน้มเกิดสึนามิอีก <!-- End Show Head --> </td> <td width="10"> </td> </tr> <tr> <td>[​IMG]</td> <td bgcolor="#d7d4d2">[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> </tr> <tr> <td width="10"> </td> <td height="20">โดยทีมข่าว INN News <!-- Show Date --> 10 กันยายน 2550 13:35:41 น. <!-- End Show Date --> </td> <td width="10"> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="522"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="522"> <tbody><tr> <td width="10">
    </td> <td width="502">
    [​IMG]
    </td> <td width="10">
    </td> </tr> </tbody></table> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="300" width="522"> <tbody><tr> <td width="20"> </td> <td bgcolor="#dae4ea" width="462"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="300" width="460"> <tbody><tr> <td bgcolor="#ffffff" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="522"> <tbody><tr> <td width="10">
    </td> <td bgcolor="#d3d4d4" width="500">[​IMG]</td> <td align="left" width="10">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="300" width="522"> <tbody><tr> <td width="10">
    </td> <td bgcolor="#d3d4d4" width="1">[​IMG]</td> <td valign="top" width="140">
    </td> <td bgcolor="#d3d4d4" width="1">[​IMG]</td> <td valign="top" width="2">
    </td> <td valign="top" width="368">
    <!-- Show Detail -->
    ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

    เผยนักวิชาการจากออสเตรเลียออกมาประกาศเตือนมีแนวโน้ม
    จะเกิดมีสึนามิเกิดขึ้นอีกบริเวณหมู่เกาะอันดามัน

    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษในการฝึกอบรมพัฒนาเครือข่ายด้านการข่าวและการแจ้งเตือนภัยระดับชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ จ.ภูเก็ต วันนี้ ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีนักวิชาการจากประเทศออสเตรเลียออกมาประกาศเตือนเรื่องแนวโน้มการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิว่า มีแนวโน้มจะเกิดมีสึนามิเกิดขึ้นบริเวณหมู่เกาะอันดามัน โดยเฉพาะที่อ่าวเบงกอล แม้การเตือนครั้งนี้จะไม่ได้ระบุถึงประเทศไทย แต่เชื่อว่าถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือ ซึ่งระบบเตือนภัยของไทยที่มีอยู่นั้น ขณะนี้มีความพร้อมในการแจ้งเตือน และสามารถแจ้งเตือนภัยได้ล่วงหน้า ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ระบบเตือนภัยมีเพียงพอ

    อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการติดตั้งหอเตือนภัยสึนามิเพิ่มในอีกหลายจุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะถ้ามีระบบเตือนภัย ก็จะสามารถประหยัดงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปได้จำนวนมาก และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยลดวามสูญเสียชีวิตของประชาชนด้วย

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ที่นี่...หมู่บ้านจันทรา
    โดย ไกรสร เล้ารัตนานุรักษ์


    [​IMG]

    มุมเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ ได้รับความนิยมจากนักเดินทางหลากเชื้อชาติ หลากภาษา ที่ต่างพากันมาเยี่ยมเยือนพักผ่อนหย่อนใจกันอย่างไม่ซ้ำหน้า หากใครบางคนได้ถูกเสน่ห์ของ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ตรึงเอาไว้แล้วล่ะก็ อาจกลายเป็นหนึ่งในผู้คนที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง และเปรยคำพูดออกมาว่า ผม หรือดิฉัน จะย้ายมาตั้งรกรากอาศัยอยู่ที่นี่

    "หมู่บ้านญี่ปุ่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.1 KB
      เปิดดู:
      87
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.8 KB
      เปิดดู:
      67
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.8 KB
      เปิดดู:
      897
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.8 KB
      เปิดดู:
      86
    • moonhut.jpg
      moonhut.jpg
      ขนาดไฟล์:
      123.6 KB
      เปิดดู:
      62
    • SUC30014.jpg
      SUC30014.jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.4 KB
      เปิดดู:
      56
    • SUC30015.jpg
      SUC30015.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.9 KB
      เปิดดู:
      59
    • Picture-055.jpg
      Picture-055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.6 KB
      เปิดดู:
      58
    • japan.JPG
      japan.JPG
      ขนาดไฟล์:
      35.3 KB
      เปิดดู:
      1,575
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2007
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เชิญชาวอาทิตย์อุทัย ****

    เมื่อ.... มองกาลไกล
    ประเทศไทย...ปลอดภัยอีกยาวนาน
    ดินแดนไทย...กว้างใหญ่ อุดมสมบูรณ์
    ยังมีที่ว่าง...ให้พัฒนา ได้อีกมากมาย
    คนไทย...จิตใจน่ารัก
    ญี่ปุ่นไทย...เคารพพระมหากษัตริย์ เหมือนกัน
    ขอเชิญ... ลูกพระอาทิตย์ มาอยู่เมืองไทย
    มาร่วมลงทุน... กับคนไทย ในดินแดนสยามสวรรค์
    อนาคต...ยาวไกล ต้องร่วมมือกัน
    ช่วยกันสร้างสรรค์....ให้โลกศิวิไลซ์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    ระทึก! เกิดเหตุปีกขวาเครื่องบินเติร์กพุ่งชนสนามบินอินเดียพังยับ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">10 กันยายน 2550 20:24 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเติร์กเมนิสถาน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี – เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเติร์กเมนิสถาน ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 150 คน ลื่นไถลออกนอกลานจอดเครื่องบิน จนปีกด้านขวาพุ่งชนอาคารผู้โดยสารสนามบินอัมริตสาร์ ทางตอนเหนือของอินเดียขณะกัปตันกำลังนำเครื่องขึ้นสู่ฟ้า แต่โชคยังดีที่ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย

    อรุณ ทัลวาร์ ผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติอัมริตสาร์ กล่าวว่า เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเติร์กเมนิสถานได้เกิดอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกลานจอดเครื่องบิน จนปีกด้านขวาพุ่งชนอาคารผู้โดยสารของสนามบิน ก่อนที่เครื่องบินจะวกกลับมาที่อาคารผู้โดยสารในสภาพที่ปีกขวาของเครื่องพังยับเยิน อย่างไรก็ตามผู้โดยสารทั้ง 150 คนบนเครื่องไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด

    “เครื่องบินลำดังกล่าวจอดอยู่ที่ลานจอดของเครื่องบิน ก่อนที่เครื่องบินจะค่อยๆ เคลื่อนตัวไปบนแท็กซี่เวย์อย่างช้าๆ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการนำเครื่องบินไปซ่อมแซมแล้ว” ผู้อำนวยการสนามบินอัมริตสาร์กล่าว

    ทั้งนี้เมืองอัมริตสาร์ตั้งอยู่ในรัฐปัญจาบของอินเดีย และเป็นเมืองที่อยู่ติดกับชายแดนของปากีสถาน
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ในที่สุดพี่เกษมก็ตามหาหมู่บ้านญี่ปุ่นเจอ

    ไว้มีโอกาสพวกเราไปดูงานกันครับ แต่อยู่ไกลเหมือนกันนะอยู่ที่ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    " เปรียบดังพี่เป็นแค่ขอนไม้ ต่อให้รักเธอมากเพียงไหน ผุพังไปพึ่งพาก็ได้ไม่ไกล..."

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอ่อ คือเห็นว่าเพลงนี้กำลังดัง และเข้ากับเหตุการณ์ช่วงนี้พอดี เลยขอนำภาพ "กบเลือกนาย" มาให้ดูเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ว่าถ้าจะเลือกใครมาปกครองประเทศต้องคิดดูให้ดีๆ ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...