วัตถุประสงค์ของการลอยกระทง สำหรับวันนี้เรามาคุยกันเรื่องวันลอยกระทง ตามประเพณีนิยมที่มีมาแต่สมัยสุโขทัย การลอยกระทงนี้ เป็นการบูชารอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ที่ทรงแสดงรอยพระบาทให้ปรากฏ คือทรงอธิษฐานไว้ที่ แม่น้ำอโนมานที ตามพระบาลีกล่าวไว้อย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แม่น้ำ ถ้าในแม่น้ำพญานาคมายากแต่ความจริงมันเป็น ปากน้ำอโนมานที เป็นจุดหนึ่งของทะเล หรืออยู่ในห้วงของทะเล ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตามอัธยาศัยของพญานาคและสัตว์น้ำทั้งหลาย แต่การลอยกระทงนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าเราจะปรารภแต่รอยพระพุทธบาทอย่างเดียว ก็เห็นว่าไม่สมเหตุผล ความจริงแล้วขอให้บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย นั่นก็คือ บูชาพระพุทธเจ้า บูชาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินวร แล้วก็บูชาพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อย่างนี้เราจะมีบุญใหญ่ ได้รัตนะ ถึง ๓ ประการหรือว่าอนุสสติทั้ง ๓ ประการ การลอยกระทงนี้ตามโบราณเค้าถือว่า เป็นการขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัยเด็กๆ ท่านผู้ใหญ่เคยบอกว่า เราเคยถ่ายอุจจาระก็ดี ปัสสาวะก็ดี ลงในแม่น้ำ ถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อรอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ความจริงเรื่องนี้เห็นว่าจะไม่สมเหตุสมผล เพราะว่าองค์สมเด็จพระทศพลไม่ได้ทรงคิดอย่างนั้น แต่ว่าโบราณท่านตั้งใจทำก็เป็นความดี เพราะการขอขมากับองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ใจเราใสบริสุทธิ์ หมดจากการปรามาสในองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ แสดงความเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ความเป็นมาของรอยพระพุทธบาท ต่อไปก็จะขอพูดถึงเรื่องรอยพระพุทธบาทที่ได้กล่าวไว้สักเล็กน้อย ที่ท่านกล่าวไว้ให้อาตมากล่าว สำหรับรอยพระพุทธบาทนี่ ตามที่บอกว่าอยู่ที่แม่น้ำอโนมานทีนี่น่ะ ความจริงอยู่ใกล้ลังกา ไม่ใช่ใกล้อินเดีย มันอยู่ในเขตของลังกา แต่ว่าจริงๆ แล้ว แม่น้ำอโนมานที เดี๋ยวนี้เราคงหากันไม่ได้และก็จุดที่มีรอยพระพุทธบาทนั้น ก็ปรากฎอยู่ในทะเล นอกจากจะมีที่แม่น้ำอโนมานทีแล้วตามที่ปรากฏ องค์สมเด็จพระบรมสุคตก็ทรงแสดงไว้บนบก ในเขตของลังกาทวีปหรือประเทษลังกาก็มี ต่อมาพรรษาที่ ๗ องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสด็จมาโปรดฉัพพรรณฤาษี ปรันตปะเศรษฐี ที่เมืองปรันตปะนคร เมืองปรันตปะนครในสมัยนั้นอยู่ชายทะเล เมื่อเวลาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเทศน์โปรด ท่านปรันตปะเศรษฐีก็บรรลุอรหัตผลพร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารจะเสด็จกลับ ท่านปรันตปะเศรษฐีหรือพระอรหันต์องค์นั้น ก็ขอให้แสดงนิมิตเครื่องหมายไว้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาก็ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ รอยพระพุทธบาทในเมืองไทย รอยพระบาทที่เมืองไทย เป็นอันว่าตอนสมัยกรุงศรีอยุธยา เวลานั้นพระในประเทศเรายังมีพระอรหันต์อยู่มาก ถ้าถามว่ายังมีพระอรหันต์ ทำไมประเทศไทยจึงแตกสลาย นั่นเป็นเรื่องของคนไม่ใช่เรื่องของพระ เป็นกฎของกรรม ที่มีพระสงฆ์คณะหนึ่งไปประเทศลังกา พระลังกาก็ถามว่า “ท่านมาธุระอะไร” บรรดาพระสงฆ์เหล่านั้นก็กราบ เรียนว่า “ต้องการจะมาบูชารอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ” บังเอิญพระองค์ที่ไปถามนั่นเป็นพระอรหันต์ท่านก็บอกว่า “จะต้องมาที่นี่ทำไม ประเทศไทยมันก็มีอยู่ องค์สมเด็จพระบรมครูเคยแสดงรอยพระพุทธบาทให้ปรันตปะเศรษฐีที่เมืองปรันตปะนคร ให้ฉัพพรรณฤาษีนมัสการ” พระพวกนั้นจึงถามว่า “เมืองปรันตปะนครมันอยู่ที่ไหน” บรรดาพระอรหันต์พวกนั้นก็บอกว่า “เมืองปรันตปะนคร เวลานี้ประเทษไทยเรียกกันว่า เมืองสระบุรี” เป็นอันว่าพระพวกนั้นกลับมาก็กราบทูลพระเจ้าทรงธรรมทราบ จึงได้แสวงหารอยพระบาท เป็นอันว่าเจอพอดี นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย การไหว้รอยพระบาทขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ต้องไปต่างประเทศก็ได้ เพราะเมืองเราก็มี แต่ว่าการไหว้รอยพระพุทธบาทก็ดี ไหว้พระพุทธรูปก็ดี น้อมใจไหว้องค์สมเด็จพระชินศรีก็ดี ถ้าเราทำไปด้วยเจตนา ตั้งใจก็เป็นกุศล บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ก็ย่อมมีผลเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน แม้แต่ทำได้วันละไม่มาก องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า “การนึกถึงความดีของพระองค์วันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่ง ท่านถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่ว่างจากฌาน” ฉะนั้นในการลอยกระทงนี้ ก็ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกท่าน จงอย่าตั้งใจบูชาแต่รอยพระพุทธบาทในแม่น้ำอโนมานทีหรือว่าปากน้ำอโนมานที ให้ตั้งใจนมัสการองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ตั้งใจไหว้พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย ตั้งใจนมัสการพระอริยสงฆ์ทั้งหลายด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่านกล่าวว่าเป็นการขอขมา เราก็ขอขมาโทษเสีย เป็นการป้องกันตัว ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราทราบไม่ได้ว่า จิตที่เราคิดก็ดี การกระทำก็ดี วาจาก็ดี ที่กล่าวไปแล้ว มีการปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ ก่อนที่เราจะลอยกระทง ก่อนที่เราจะลอยกระทงก็จงตั้งใจบูชาพระรัตนตรัยก่อน และหลังจากนั้น ก็ขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดา ที่เราได้เคยปรามาสในพระรัตนตรัย ถ้าเราไม่เคยปรามาส โทษอันใดของเราก็ไม่มี ทำจิตของเราให้ผ่องใส และที่เคยปรามาสแล้ว ถ้าองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงสงเคราะห์ยกโทษให้เราก็หมดไป กำลังใจของเราก็พึงมีแต่กุศล เอาล่ะบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนโดยถ้วนหน้า ถ้าจะถามว่าลอยกระทงมีอานิสงส์อย่างไร ก็ขอกล่าวว่า อานิสงส์การลอยกระทง ถ้ากำลังใจของท่าน ทำด้วยกำลังใจเป็นกุศล ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนยังอ่อนที่จะต้องเร่ร่อนไปในวัฏสงสาร อย่างน้อยที่สุดทุกท่านก็เกิดเป็นเทวดา เพราะอำนาจของพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทมีความมั่นคง จิตตั้งตรงเป็นฌาน ท่านก็เกิดเป็นพรหม ถ้าบุคคลใดไม่นิยมในร่างกายของตน เห็นว่าองค์สมเด็จพระทศพลทรงเป็นอัจฉริยมนุษย์ มีความดีประเสริฐสุดยิ่งกว่ามนุษย์ เทวดา และพรหม ขันธ์ ๕ ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังพัง เราก็คิดว่า เวลานี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่สนใจในขันธ์ ๕ ฉันใด เราก็ไม่สนใจในขันธ์ ๕ ฉันนั้น เวลานี้องค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน เราก็ขอไปที่นั่น และก็จะปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์ ►Oº°`´°ºO◄₪₪►Oº°`´°ºO◄₪₪ อ้างอิง จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๓๘๐ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ ขอขอบพระคุณข้อมูลดีดี จากเฟสบุ้ค พระเครื่อง พระราชพรหมยานค่ะ[/COLOR][/SIZE][/B][/COLOR]
สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่ เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา
หลวงพ่อเทศน์เรื่อง..ลอยกระทง -------------------------------------------------------------------------------- วัตถุประสงค์ของการลอยกระทง สำหรับวันนี้เรามาคุยกันเรื่องวันลอยกระทง ตามประเพณีนิยมที่มีมาแต่สมัยสุโขทัย การลอยกระทงนี้ เป็นการบูชารอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ที่ทรงแสดงรอยพระบาทให้ปรากฏ คือทรงอธิษฐานไว้ที่ แม่น้ำอโนมานที ตามพระบาลีกล่าวไว้อย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่แม่น้ำ ถ้าในแม่น้ำพญานาคมายากแต่ความจริงมันเป็น ปากน้ำอโนมานที เป็นจุดหนึ่งของทะเล หรืออยู่ในห้วงของทะเล ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตามอัธยาศัยของพญานาคและสัตว์น้ำทั้งหลาย แต่การลอยกระทงนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าเราจะปรารภแต่รอยพระพุทธบาทอย่างเดียว ก็เห็นว่าไม่สมเหตุผล ความจริงแล้วขอให้บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย นั่นก็คือ บูชาพระพุทธเจ้า บูชาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินวร แล้วก็บูชาพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อย่างนี้เราจะมีบุญใหญ่ ได้รัตนะ ถึง ๓ ประการหรือว่าอนุสสติทั้ง ๓ ประการ การลอยกระทงนี้ตามโบราณเค้าถือว่า เป็นการขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัยเด็กๆ ท่านผู้ใหญ่เคยบอกว่า เราเคยถ่ายอุจจาระก็ดี ปัสสาวะก็ดี ลงในแม่น้ำ ถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อรอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ความจริงเรื่องนี้เห็นว่าจะไม่สมเหตุสมผล เพราะว่าองค์สมเด็จพระทศพลไม่ได้ทรงคิดอย่างนั้น แต่ว่าโบราณท่านตั้งใจทำก็เป็นความดี เพราะการขอขมากับองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ใจเราใสบริสุทธิ์ หมดจากการปรามาสในองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ แสดงความเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ความเป็นมาของรอยพระพุทธบาท ต่อไปก็จะขอพูดถึงเรื่องรอยพระพุทธบาทที่ได้กล่าวไว้สักเล็กน้อย ที่ท่านกล่าวไว้ให้อาตมากล่าว สำหรับรอยพระพุทธบาทนี่ ตามที่บอกว่าอยู่ที่แม่น้ำอโนมานทีนี่น่ะ ความจริงอยู่ใกล้ลังกา ไม่ใช่ใกล้อินเดีย มันอยู่ในเขตของลังกา แต่ว่าจริงๆ แล้ว แม่น้ำอโนมานที เดี๋ยวนี้เราคงหากันไม่ได้และก็จุดที่มีรอยพระพุทธบาทนั้น ก็ปรากฎอยู่ในทะเล นอกจากจะมีที่แม่น้ำอโนมานทีแล้วตามที่ปรากฏ องค์สมเด็จพระบรมสุคตก็ทรงแสดงไว้บนบก ในเขตของลังกาทวีปหรือประเทษลังกาก็มี ต่อมาพรรษาที่ ๗ องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสด็จมาโปรดฉัพพรรณฤาษี ปรันตปะเศรษฐี ที่เมืองปรันตปะนคร เมืองปรันตปะนครในสมัยนั้นอยู่ชายทะเล เมื่อเวลาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเทศน์โปรด ท่านปรันตปะเศรษฐีก็บรรลุอรหัตผลพร้อมไปด้วยปฏิสัมภิทาญาณ เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารจะเสด็จกลับ ท่านปรันตปะเศรษฐีหรือพระอรหันต์องค์นั้น ก็ขอให้แสดงนิมิตเครื่องหมายไว้ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาก็ทรงแสดงรอยพระบาทไว้ รอยพระพุทธบาทในเมืองไทย รอยพระบาทที่เมืองไทย เป็นอันว่าตอนสมัยกรุงศรีอยุธยา เวลานั้นพระในประเทศเรายังมีพระอรหันต์อยู่มาก ถ้าถามว่ายังมีพระอรหันต์ ทำไมประเทศไทยจึงแตกสลาย นั่นเป็นเรื่องของคนไม่ใช่เรื่องของพระ เป็นกฎของกรรม ที่มีพระสงฆ์คณะหนึ่งไปประเทศลังกา พระลังกาก็ถามว่า “ท่านมาธุระอะไร” บรรดาพระสงฆ์เหล่านั้นก็กราบ เรียนว่า “ต้องการจะมาบูชารอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ” บังเอิญพระองค์ที่ไปถามนั่นเป็นพระอรหันต์ท่านก็บอกว่า “จะต้องมาที่นี่ทำไม ประเทศไทยมันก็มีอยู่ องค์สมเด็จพระบรมครูเคยแสดงรอยพระพุทธบาทให้ปรันตปะเศรษฐีที่เมืองปรันตปะนคร ให้ฉัพพรรณฤาษีนมัสการ” พระพวกนั้นจึงถามว่า “เมืองปรันตปะนครมันอยู่ที่ไหน” บรรดาพระอรหันต์พวกนั้นก็บอกว่า “เมืองปรันตปะนคร เวลานี้ประเทษไทยเรียกกันว่า เมืองสระบุรี” เป็นอันว่าพระพวกนั้นกลับมาก็กราบทูลพระเจ้าทรงธรรมทราบ จึงได้แสวงหารอยพระบาท เป็นอันว่าเจอพอดี นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย การไหว้รอยพระบาทขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ต้องไปต่างประเทศก็ได้ เพราะเมืองเราก็มี แต่ว่าการไหว้รอยพระพุทธบาทก็ดี ไหว้พระพุทธรูปก็ดี น้อมใจไหว้องค์สมเด็จพระชินศรีก็ดี ถ้าเราทำไปด้วยเจตนา ตั้งใจก็เป็นกุศล บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ก็ย่อมมีผลเป็น พุทธานุสสติกรรมฐาน แม้แต่ทำได้วันละไม่มาก องค์สมเด็จพระพิชิตมารตรัสว่า “การนึกถึงความดีของพระองค์วันหนึ่งชั่วขณะจิตหนึ่ง ท่านถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ไม่ว่างจากฌาน” ฉะนั้นในการลอยกระทงนี้ ก็ขอบรรดาสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกท่าน จงอย่าตั้งใจบูชาแต่รอยพระพุทธบาทในแม่น้ำอโนมานทีหรือว่าปากน้ำอโนมานที ให้ตั้งใจนมัสการองค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ตั้งใจไหว้พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย ตั้งใจนมัสการพระอริยสงฆ์ทั้งหลายด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่านกล่าวว่าเป็นการขอขมา เราก็ขอขมาโทษเสีย เป็นการป้องกันตัว ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราทราบไม่ได้ว่า จิตที่เราคิดก็ดี การกระทำก็ดี วาจาก็ดี ที่กล่าวไปแล้ว มีการปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ ก่อนที่เราจะลอยกระทง ก่อนที่เราจะลอยกระทงก็จงตั้งใจบูชาพระรัตนตรัยก่อน และหลังจากนั้น ก็ขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดา ที่เราได้เคยปรามาสในพระรัตนตรัย ถ้าเราไม่เคยปรามาส โทษอันใดของเราก็ไม่มี ทำจิตของเราให้ผ่องใส และที่เคยปรามาสแล้ว ถ้าองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาทรงสงเคราะห์ยกโทษให้เราก็หมดไป กำลังใจของเราก็พึงมีแต่กุศล เอาล่ะบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนโดยถ้วนหน้า ถ้าจะถามว่าลอยกระทงมีอานิสงส์อย่างไร ก็ขอกล่าวว่า สาธุ สาธุ สาธุ ขอโมทนาในหมหากุศล ที่คุณ กายคตา ได้ให้ความเมตตานำความรู้ เรื่องลอยกระทง โพสมาครับ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง
ถือว่าโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ที่สำคัญที่ได้เกิดมาในแผ่นดินไทย มีพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาเอกของโลก แผ่นดินที่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันมีค่ามหาศาลที่สุดในโลก และมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงธรรมอย่างยิ่งของโลก และน้ำใจของคนไทยที่โด่งดังด้วยความงดงามไปทั่วโลก ประเทศไทยคือทรัพยากรของโลก สมัยก่อนคนทั่วโลกอยากไปอยู่ประเทศอเมริกา(ผมอยู่แล้ว 30ปีพอดี) แต่ต่อนี้ไปคนทั่วโลกอยากมาอยู่เมืองไทย(ขุดทอง) ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั่นเป็นสิทธิ์ของคุณๆ ***แต่อย่าลืมมนุษย์ทรงศีล 5 ให้ครบและบริสุทธิ์ บวกศีลสังวร** แถมเพื่อกรรมบท 10 จึงจะได้ชื่อว่า ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ **ถ้าใครทำไม่ได้ คุณจะขาดทุนและเสียทีไปแล้ว ใครก็ช่วยไม่ได้** คำว่าสำนึกผิดได้ ก็คือมันสายไปเสียแล้ว คุณจะรอให้ถึงวาระนั้นมาถึงหรือ
ขออนุโมทนากับคุณสีหราช1 ที่กรุณามาโพสเป็นธรรมทาน ช่วยกรุณาทบทวนอ่านซ้ำก่อนโพสก็จะดีเพราะมีคำผิดมากที่พิมพ์ตกก็มี ที่ป้ายสีแดงไว้ กรุณาแก้ไขด้วย และกรุณาเข้าไปอ่านตามลิงค์ที่แนบด้วยครับ http://palungjit.org/threads/เรียน-สมาชิกเว็บพลังจิต-ที่เข้ามาโพสต์ข้อความทุกท่าน.213319/
ขอขอบคุณ คุณชนะ ที่ได้ทักท้วงข้อความที่ผมได้โพสมา ขออภัยที่ผมคิดว่า ผมลบข้อความนั้นได้สำเร็จ มันเป็นความผิดของผมที่ขาดความรู้ ขอท่านทั้งหลายจงให้อภัยผมนะครับ ผมไม่ได้มีเจตตนาร้ายใดๆต่อเวพพลังจิตดอทคอมเลย และขอความกรุณาคุณ ชนะ ช่วยลบข้อความที่โพสมาให้ผมด้วย ขอขอบคุณครับ.
ลดขนาดตัวอักษรลงอีกหน่อยจะดีมากๆ นะครับผมว่า ตัวโตเกินไปก็อ่านยาก ผมอยากอ่านนะแต่อ่านแล้วปวดหัว อ่านยากมาก ถ้าไม่เยอะก็พออ่านได้ แต่ถ้าเยอะขนาดนี้ก็ไม่ไหว อ่านแล้วเวียนหัว ไม่ได้ต่อว่านะครับ แต่ผมอยากอ่านแต่อ่านไปซักพักมันเวียนหัวแล้ว เลยไม่ได้อ่านต่อ
สาธุ ผมขออนุญาตไม่ลบออกแต่จะแก้ไขให้นะครับ เพราะธรรมะที่คุณสีหราช1 เขียนมีประโยชน์ที่เตือนสติ ให้ไม่ประมาทในชีวิต ขออนุโมทนาครับ
ของผมนี้ นอกเหนือจากบูชารอยพระพุทธบาทแล้ว เป็นการขมาต่อพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ แล้ว ให้ขอขมาต่อพระแม่คงคาและพระแม่ธรณีด้วยครับ พร้อมทั้งให้ลอยนำเอาทุกโศกโรคภัยออกไปด้วย ขอให้เรามีชีวิตที่ดีเจริญรุ่งเรื่อง ในสมัยศรีเทพและสมัยละโว้ ทราวดี ลพบุรี วันลอยกระทงนี้ เขาให้จัดเป็นวันสิ้นปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครับ จึงเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ชีวิตใหม่ที่ดีครับ สาธุ
เมื่อวานผมโชคดีที่ได้ฟังหลวงพ่อของเราที่ท่านได้เทศเอาไว้ ดีมากๆครับ ผมขอนำเอามาฝาก สำหรับท่านที่ไม่ได้ฟังนะครับ ****************************************************** คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยานที่วิหาร ๑๐๐ เมตร - Buddhism Audio