ร่วมอนุโมทนาบุญกฐินปิดท้าย สร้างพระอุปคุต,ตู้พระไตรปิฎก และ อื่นๆ

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย thitiwats, 13 กันยายน 2012.

  1. Gangfoo Panda

    Gangfoo Panda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +2,108

    พี่วัฒน์ ค่ะ รายนี้รึป่าว ยอดโอนปริศนา อิอิ........

    อนุโมทนา สาธุ ด้วยนะเจ้านะ...:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2012
  2. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    สวัสดีค่ะคุณวัฒน์
    หวัดดีจ้ะน้องแพน
    เราได้สั่งพิมพ์หนังสือ"มหาสติปัฏฐานสูตร"ได้รับแล้ว
    พรุ่งนี้เราจะจัดส่งให้ทั้ง 2 ท่านเลยนะ พร้อมกับ airplane ด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Gangfoo Panda

    Gangfoo Panda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +2,108

    โอ้โห...เหมือนกับว่าคนมันจะได้เลยนะคะ ตอนที่เขาเปิดให้ร่วมบุญ แพนตั้งใจจะโอนเงินไปร่วม 2 เล่ม แต่จำไม่ได้ว่าติดธุระอะไร ก็ลืมไปเลย ไม่ได้โอนร่วมบุญอีกต่างหาก ในใจนึกเสียดายมาก

    และแล้ว นางฟ้าอย่างพี่ตวงก็มาโปรด แพนเจ้าค่ะ 5555....

    ขอบคุณมากๆ เลยเจ้าค่ะ อนุโมทนา สาธุ ด้วยนะเจ้าคะ จ๊วบๆๆๆๆๆๆๆๆ

    (k)(k)(k)(k)(k)(k)(k)(k)(k)(k)(k)
     
  4. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    วันนี้ช่วงบ่าย3 เพิ่งไปส่งให้นะเพราะฝนตกอ่ะ
    ของคุณวัฒน์ สีม่วงนะ , น้องแพน สีเหลือง นะจ้ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ข้าพเจ้าในนามเจ้าภาพขอกราบโมทนาบุญในกุศลจิตและศรัทธาของคุณชลธิชา ที่ได้ร่วมสร้างองค์พระอุปคุตและได้ร่วมหมุนวงล้อธรรมจักรเพื่อซื้อที่ดินทำสถานปฎิบัติธรรม สืบทอดพระพุทธศาสนา ร่วมกับพระสุปฎิปันโนในครั้งนี้ ขอผลบุญขออนิสงค์นี้ จงสำเร็จแด่คุณชลธิชา บุญ กุศลทั้งหลาย นี้ ขอให้เป็นปัจจัยต่อยอดในเส้นทางมรรค
    ธรรมรักษาคุ้มครอง กาย และ ดวงจิต ให้ปลอดภัย อนุโมทนา สาธุ ๆๆ
    ได้รับปัจจัยแล้วครับคุณชลธิชายินดีที่ได้รู้จักนะครับขอบารมีหลวงปู่อุปคุตคุ้มครองคุณชลธิชานะครับผมได้รับปัจจัยไส่กล่องบุญเรียบร้อยแล้วครับติดตามกระทู้นะครับยังไม่ได้ลงรูปครับ ผมธิติวัฒน์ขอกราบโมทนา
     
  6. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ไม่ใช่พี่ดูแล้วเขาไม่ประสงค์ออกนามเราก็ให้หลวงปู่อุปคุตคุ้มครองเขาเพราะเขาร่วมสร้างองค์หลวงปู่อุปคุตชีวิตเขาจะดีขึ้นมากๆผมขอกราบโมทนาบุญ
    ธิติวัฒน์
    และขอกราบโมทนาบุญ
    อ้างอิง
    เรียน คุณ ธิติวัฒน์ สังวาลย์เดช

    เนื่องด้วยผม บากบั่น แสงประทุม และญาติมิตร ขอร่วมสมทบปัจจัยทอดกฐิน เพื่อซื้อที่ดิน ปลูกป่า สร้างสถานปฏิบัติธรรม ร่วมกับวัดศรีสง่าสามัคคี บ้านหนองศาลา ต.หนองสังข์ อ.แก้งคล้อ จ.ชัยภูมิ ผ่านพระครูวีระปัญญาคม (พระอาจารย์ถวิล) เจ้าอาวาส เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 400 บาท โดยได้โอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลาประมาณ 12.00 น. (ได้แนบสลิปการโอนมาด้วยครับ)

    ผมและญาติมิตรขออนุโมทนากับกุศลเจตนาของคุณธิติวัฒน์เป็นอย่างสูง และขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย และกุศลที่ท่านได้บำเพ็ญไว้ดีแล้วนั้น จงเป็นปัจจัยให้ท่านมีความเจริญงอกงามในชีวิต ทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป ตลอดจนถึงความสมบูรณ์พร้อมในปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้าถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ในเวลาอันสมควรด้วยเทอญ

    ขอแสดงความนับถือ

    บากบั่น แสงประทุม
    อ้างอิง
    นายปรีชา ศุภมิตรพิบูลย์ ที่88/15 ม.2 (หมู่บ้านศรีประวัติฟลอร่าวิลล์ เฟส 2) ตำบลศาลากลาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 ได้โอนเงินมาร่วมทำบุญ
    ในครั้งนี้ จำนวนเงิน 100 บาท ธนาคารกสิกรไทย ชื่อนายธิติวัฒน์ ฯ เมื่อวันที่ 28
    กันยายน 2555 เวลา 14.18 น.
    ขอกราบโมทนาบุญ
    วัฒน์


    <META content=on http-equiv=x-dns-prefetch-control>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2012
  7. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เรียนคุณธิติวัฒน์,
    พี่ชลธิชา ทรัพย์ปริญญาพร สามี และเพื่อน ๆจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะขอเป็นคนนิมนต์หลวงพ่อพระอุปคุตจาก กรุงเทพมหานคร ไป วัดศรีสง่าเอง โดยเพื่อนพี่ชลธิชาจะนำรถปิ๊กอัพมาอันเชิญหลวงพ่อไปวันเสาร์ที่ 24 พฤศษจิกายน 2555 เวลาจะนัดอีกที โดยวันอาทิตย์นี้ 14 ตุลาคม 2555 พี่ชลจะไปกับสามีที่หมู่บ้าน Diamond Ville เพื่อพบพูดคุยกับธิติวัฒน์ด้วยตนเอง ราว ๆ 11 โมงเช้าคะ 081-5523048
     
  8. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    อุปคุตกับพญามาร ๒

    พระอุปคุตกับพญามาร ที่ปรากฏอยู่ในพระปฐมสมโพธิกถา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส อยู่ในปริเฉทที่ ๒๘ ที่มีชื่อว่า
    มารพันธปริวรรตนั้น มีเนื้อหาดังนี้

    ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชนั้น พระองค์มีพระราชประสงค์จะกระทำมหกรรมการฉลองพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสาริริกธาตุ ๘๔,๐๐๐ องค์ซึ่ง ประดิษฐ์อยู่ทั่วสกลชมพูทวีป รวมทั้งพระมหาสถูปองค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นใหม่องค์หนึ่งมีความสูงประมาณครึ่งโยชน์ ประดับประดาด้วยแก้ต่างๆ แสงแห่งแก้ว เหล่านั้นสว่าง รุ่งเรืองประดุจเขาไกรลาสประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ใกล้กับกรุงปาฏลีบุตร พระเจ้าอโศกกมหาราชทรงดำริว่า

    “เรากระทำการฉลองพระสถูปเจดีย์ทั้งหลาย ทั้งจะกระทำการสักการบูชาให้ครบกำหนด ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน จึงจะสมควรกับศรัทธาของเรา ทำอย่างไรจึงจักไม่มีอันตรายในการบำเพ็ญกุศล ครั้งนี้จะมีอุบายวิธีประการใดบ้างที่จะช่วยป้องกันอันตรายได้ ทางที่ดีเราควรจะถามเหตุผลกับพระอริยะสงฆ์”

    พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จไปสู่พระวิหารพร้อมด้วยหมู่อำมาตย์ ทรงนมัสการพระภิกษุสงฆ์ทั้งปวง แล้วประทับ ณ สถานที่อันสมควร จึงตรัสกับพระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระว่า



    “ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พระคุณเจ้าจงช่วยค้นหาภิกษุผู้มีมหิทธานุภาพมาเพื่อป้องกันอันตรายในงานมหกรรมการกระทำสักการบูชาฉลองพระสถูปเจดีย์ของโยมที่จะจัดให้มีขึ้นถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ในครั้งนี้ให้แก่โยมด้วยเถิด”

    พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระได้ฟังพระราชดำรัสแล้ว กล่าวว่า

    “ถวายพระพรบรมมหาบพิตรพระราชสมภาร พระราชปริวิตกของพระมหาบพิตรนี้อาตภาพจะ ขอรับภารธุระแสวงหาและเลือกพระภิกษุที่ทรงอิทธิฤทธิ์มาช่วยการกระทำมหกรรมในครั้งนี้ขอถวายพระพร”

    พระเจ้าอโศกมหาราชทรงโสมนัสต่อถ้อยคำรับรองของพระเถระ แล้วทรงนมัสการลาเสด็จกลับพระราชนิเวศน์ พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดมีพระโมคคัลลีบุตร ติสเถระเป็นต้นร่วมช่วยกันพิจารณาหา เหตุแห่งอันตรายในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ ก็ได้เห็นเหตุแห่งอันตรายนั้นว่า จะมีพญามาร มาทำลายพิธีกรรมในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในครั้งนี้อย่างแน่นอน จึงกล่าวกับพระสงฆ์เถระว่า

    “ข้าแต่พระคุณเจ้า ขอพระคุณเจ้าจงกระทำการป้องกันพญามารที่จักมากระทำอันตรายขัดขวางการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครั้งนี้ของพระบรมกษัตริย์ ”

    พระสงฆ์เถระปฏิเสธขึ้นว่า

    “ดูก่อนท่านทั้งหลาย ด้วยกระผมมีกิจธุระมากมายหลายอย่าง ทั้งร่างการก็ชราทุพพลภาพ ไม่สามารถจักป้องกันอันตรายของพญามารได้”



    เมื่อพระสงฆ์เถระตอบปฏิเสธ พระสงฆ์ทั้งปวงจึงได้กล่าวอาราธนาพระอนุเถระรองๆลงมาเป็นลำดับไป จนกระทั้งถึงภิกษุที่บวชใหม่ ก็หามีผู้ใดผู้หนึ่งรับอาสา จะป้องกันอันตรายจากพญามารในครั้งนี้ไม่

    ครั้นรุ่งขึ้นวันที่ ๒ พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดก็มาประชุมปรึกษากันเพื่อจะคัดเลือกหาผู้มีฤทธิ์เดช สามารถต่อสู่ป้องกันภัยพิบัติกันอีกวาระหนึ่ง ในขณะนั้น มีพญานาคราชตัวหนึ่งขึ้นจากนาคพิภพเพื่อจะนมัสการพระภิกษุสงฆ์ทั้งปวง แต่ในเวลาที่พญานาคราชราชถวายวันทนาการพระภิกษุสงฆ์อยู่ ก็พอดีมีพญาครุฑ ตัวหนึ่งออกจากภูเขาบินมาทางอากาศเหลือบลงมาแลเห็นพญานาคราชตัสนั้นเข้า มีความต้องการจะจับพญานาคราชนั้นกิน จึงบินโฉบลงมา เกิดเสียงลมปีกดังนั้น

    ฝ่ายพญานาคราชได้ยินเสียงนั้น ทำให้รู้ทันที่ด้วยสัญชาติญาณว่าเป็นเสียงลมปีกของพญาครุฑ เกิดสะดุ้งตกใจกลัว จะหนีชำแรกแทรกแผ่นดินลงไปก็ไม่ทัน จึงเลี้ยวหลบเข้าไปในระหว่างของพระสงฆ์เถระ ร้องวิงวอนว่า

    “ขอพระผู้เป็นเจ้าจงช่วยป้องกันชีวิตข้าด้วยเถิด”

    พระสงฆ์เถระกล่าวว่า

    “อาตมาไม่อาจช่วยป้องกันชีวิตของท่านได้หลอก พญานาคราช”

    พญานาคราชได้กล่าวขอร้องวิงวอนพระภิกษุไปทุกๆรูป จนกระทั้งถึงพระนวกภิกษุพระภิกษุทั้งสิ้นต่างกล่าวในทำนองเดียวกันว่า มิอาจแสดงอิทธิฤทธิ์ เพื่อป้องกันภยันตรายจากพญาครุฑ ในขณะนี้ได้ในสถานที่สงฆ์สันนิบาตนั้น ได้มีสามเณรอาคันตุกะรูปหนึ่ง อายุประมาณ ๗ ขวบมานั่งอยู่ที่อาสนะของพระสงฆ์ พระสงฆ์เห็นเหตุร้ายจะเกิดขึ้นเช่นนั้นจึงกล่าวกับสามเณรน้อยรูปนั้นว่า

    “สามเณร เธอจะช่วยป้องกันอันตรายให้พญานาค พ้นจากการเบียดเบียนของพญาครุฑได้หรือไม่เล่า”

    ทีแรกสามเณรกล่าวออกตัวแกมปฏิเสธว่า

    “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ใหญ่ยังมิอาจป้องกันภยันตรายให้แก่พญานาคราชได้ส่วนกระผมเป็นสามเณรเล็กเด็กเพียงนี้เหตุ

    ไฉนจะสามารถป้องกันภยันตรายได้เล่าขอรับ”



    พระภิกษุสงฆ์ทั้งปวง ช่วยกันกล่าวปลอบประโลมขอร้องสามเณรอีกหลายครั้งเพื่อจะให้ช่วยป้องกันชีวิตพญานาคราชสามเณรผู้มีอิทธิฤทธิ์ยิ้มหน่อยหนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า

    “ตกลงขอรับกระผมจะช่วยป้องกันอันตรายให้แก่พญานาคราชนี้และรอจนกว่าครุฑจะโฉบต่ำลงมาประมาณความสูงเท่ากับกายของบุรุษ กระผมจะไล่ให้ครุฑปลิวไปประดุจปุยนุ่นอันต้องลมยุคันตวาด(ลมที่มาทำลายโลกเมื่อสิ้นยุค) แล้วปลิวไปในอากาศฉะนั้น”

    ครั้นพอครุฑบินโฉบต่ำลงมา แต่ยังไม่ถึงกายของพญานาคราชเหลืออยู่สูงอีกสักเท่าความสูงของบุรุษกาย พระภิกษุสงฆ์เห็นสามเณรยังเฉยอยู่จึงเตือน สามเณรว่า

    “สามเณรจงไล่ครุฑโดยเร็ว”

    สามเณรก็เข้าณานสามาบัติโดยฉับพลันทันด่วน อธิษฐานให้บังเกิดลมพายุอันร้ายแรงเหมือนลมคันตวาล พัดครุฑให้ปลิวปลาตนาการ ไป เหมือนปุยนุ่น ถูกลมพายุทรงถวายนมัสการพระภิกษุสงฆ์ เสร็จลุกขึ้นจากที่ประทับแล้วเสด็จกลับพระราชวังครั้นรุ่งขึ้นวันที่ ๒ จึงทรงจินตนาการว่า

    “เราควรจะทดสอบพระมหาเถระดูว่าท่านจะมีฤทธานุภาพจริงหรือไม่อย่างไร"

    ในวันนั้น พระอุปคุปต์เถระก็เข้าไปบิณฑบาตในพระราชนิเวศน์ เพื่อจะยังพระราชหฤทัยพระราชาให้ทรงปีติโสมนัส พอรับบิณฑบาตจากพระราชาแล้ว ก็กลับออกมานอกประตูพระราชวัง

    พระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้ตรัสสั่งนายควาญช้างว่าให้เตรียมปล่อยช้างตกมันอันเป็นช้างต้นที่ได้รับการฝึกหัดดีแล้ว เพื่อจะทดสอบกำลังฤทธานุภาพของ พระอุปคุตเถระดูว่าจะสู่กับช้างของพระองค์ได้หรือไม่ประการใด เพราะถ้าหากต่อสู่กับช้างไม่ได้แล้ว ไฉนจะต่อลู่กับพญามารได้เล่า

    ในขณะที่พระอุปคุตเถระออกมาพ้นประตูพระราชวังพระราชาจึงทรงให้สัญญาณแก่นายควาญช้างให้ปล่อยช้างพระที่นั่งทันที ช้างพระที่นั่งได้แผดเสียง โกญจนาท แล้ววิ่งไล่ติดตามพระอุปคุตเถระไปด้วยอาการอันดุด้น พร้อมที่จะบดขยี้พระมหาเถระให้แหลกลาญ เมื่อช้างนั้นวิ่งมาใกล้พระมหาเถระ เงาของช้างนั้นไปปรากฏอยู่ข้างหน้าพระเถระ ท่านเหลียวกลับมาดู เห็นช้างตกมันวิ่งไล่ติดตามมา ก็นึกรู้ทันว่า

    “ช้างเชือกนี้พระราชาทรงแร้งให้วิ่งไล่เรา เพื่อจะทดสอบดูฤทธิ์ของเรา”

    และหวังจะแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พระราชา จึงอธิฐานจิตว่า

    “ขอให้ช้างนี้จงกลายร่างเป็นช้างศิลาอยู่ที่นี้แล้วพระมหาเถระก็เดินจากสถานที่นั้นไป ฝ่ายช้างพระที่นั่งนั้นพลันอยู่ยืนแข็งเป็นหินอยู่กับที่กับที่เหมือนเอาช้างศิลามาตั้งไว้"

    พระเจ้าอโศกมหาราชหลังจากสั่งให้นายควาญช้างปล่อยช้างออกไล่ตามพระมหาเถระไปแล้ว ก็ทรงเป็นห่วงเกรงว่าช้างจะไปทำร้ายพระมหาเถระ จนถึงมรณภาพ จึงเสร็จตามมา จนกระทั่งถึงที่ใกล้ช้างยืนอยู่นั้น พลันทอดพระเนตรเห็นช้างยืนนิ่งมิได้ไหวติงเลยราวกับช้างศิลา ก็ทรงบังเกิดความพิศวงสงสัย ทรงดำริว่า

    มงคลหัตถีอันบริบูรณ์ด้วยสรรพลักษณะปานนี้ ทำไมมายืนแน่นิ่งร่างกายมิได้เคลื่อนไหวประดุช้างศิลา อนุภาพของพระเถระช่างน่ามหัศจรรย์แท้ ทรงหรรษาโสมนัสและทรงดำริว่า

    "พระมหาเถระรูปนี้คงมีฤทธิ์สามารถป้องก้นอันตรายของพญามารได้เป็นแน่ เราหมดความปริวิตกในเรื่องนี้แล้ว"

    จึงเสร็จตามพระเถระมาโดยด่วน พอมาทันกับพระมหาอุปคุตเถระ ก็ทรงอภิวาทแล้งตรัสขอขอมาโทษต่อพระมหาเถระว่า

    “ข้าแต่ผู้เป็นเจ้าขอพระผู้เป็นเจ้าจงอดโทษแก่โยมด้วยเถิดการที่โยมกระทำในครั้งนี้ มิได้มีความปรารถนาจะบีฑาพระผู้เป็นเจ้าแต่กระทำลงไปเพื่อจะทดลองฤทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าให้เห็นประจักษ์และโยมก็ได้เห็นแล้ว โดยมิติองเชื่อคำบอกเล่าลือของผู้อื่นอีก”

    พระอุปคุตเถระจึงถวายพระพรว่า

    “ถวายพระมหาบพิตรอาตมามิได้ถือโทษอย่างไรเลยขอมหาบพิตรจงมีความสุขสวัสดิ์วัฒนาสถาพรและคชสารพระที่นั่งนั้นจงมีความสุขแล้วกลับไปสู่ที่อยู่ของตนตามปกติเถิด”

    เมื่อพระมหาเถระกล่าวเพียงเท่านี้ ช้างพระที่นั่งก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้แล้วเดินกลับไปสู่โรงช้างอันเป็นที่อยู่ของตน ในการนั้นมหาชน ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ ในครั้นนั้นต่างบังเกิดความประหลาดใจ เพราะว่าอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระอุปคุตเถระนับเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ชาวโลกทั้งปวง

    พอถึงวันอันเป็นกำหนดการว่างานฉลอง พระเจ้าโศกมหาราชเสร็จพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ มหาเสนบดี อำมาตย์ทั้งหลาย เศรษฐี พราหมณ์ และประชาชนทุกหมู่เหล่าล้วนประดับตกแต่งร่างกายด้วยสรรพาภรณ์อันวิจิตรระการตามีมือถือเครื่องปูชนีย์ภัณฑ์ต่างๆ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน ของหอม เป็นต้น และยังมีคณะดุริยางค์ดนตรีนานาชนิดได้มาร่วมประชุมกันปะโคมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ณ ลานพระมหาสถูปเจดีย์ ขบวนเสด็จของพระเจ้าอโศกมหาราช คล้ายกับขบวนเสด็จของพระอินทร์ ที่ห้อมส้อมด้วยเทพบริษัทมาสู่ลานพระจุฬามณีเจดียสถาน ฉะนั้น

    พระเจ้าโศกมหาราชตรัสสั่งให้กระทำสถานที่บริเวณรอบ ๆ มหาเจดีย์นั้นเป็นที่กว้างประมาณครึ่งโยชน์และตาริมฝั่งแม่น้ำคงคาริมฝั่งแม่น้ำคงคาให้ จุดประทีปเป็นอเนกอนันต์นับไม่ถ้วน จนทำให้บริเวณนั้นโชติช่วง มองดูแล้วสว่างเหมือนกลางวัน ฝ่ายพระภิกษุพระยาวสวัสดิ์ดีมารกล่าวชี้แจ้งว่า

    “ข้าแต่เท้าจตุโลกบาลมหาราช มีภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า พระอุปคุตเถระ ท่านเอาสุนัขเน่ามาผูกติดคอของข้าพเจ้าไว้”

    ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๕ พอได้ยินชื่อของพระมหาเถระแล้ว จึงกล่าวว่า

    “ข้าแต่พญามาร พระเถระรูปนั้นท่านมีฤทธานุภาพยิ่งนัก เมื่อท่านเป็นผู้ผูกไว้ พวกข้าพเจ้าหมดความสามารถจะช่วยแก้ได้”

    พญามารครั้นไม่ได้รับความช่วยเหลือจากท้าวจตุมหาราช จึงได้เหาะขึ้นไปสู่สำนักของพระอินทร์ ท้าวสุยามา ท้าวสันดุสิต และท้าวสหัมบดีมหาพรหม กล่าวขอร้องอ้อนวอนให้ช่วยแก้มัดสุนัขเน่าออกจากคอของตน เหมือนดังที่กล่าววิงวอนท้าวจาตุมหาราช มาแล้วนั้นเทวราชทั้งหลายและท้าวสหัมบดีมหาพรหม ก็กล่าวกับพญามารว่า

    “มิอาจที่จะแก้สุนัขเน่าออกได้เพราะพระภิกษุรูปนั้นเป็นพระอรหันต์ผู้ได้ภิญญา ๖ ประการเป็นพุทธสาวกผู้กอปรด้วยหิทธิเดชพวกเรามิอาจแก้พันธนาการของท่านได้ท่านจงกลับไปที่สำนักของพระภิกษุรูปนั้นแล้วกล่าวขอร้องท่านด้วยวาจาอันสุภาพอ่อนหว่านท่านจะช่วยแก้ออกให้เอง ส่วนผิอื่นนั้นเกรงกลัวอานุภาพของท่านไม่มีใครกล้าที่จะแก้ออกให้ได้”

    พญามารฟังคำบอกเล่าของเทวราชทั้งหลายแล้วเกิดรันทดท้อใจ สิ้นความคิดหมดที่พึ่ง ไม่รู้จะไปหาใครให้ช่วยเหลือได้อีก จึงจำเป็นจำใจกลับมาหา พระอุปคุตเถระพร้อมกับมีสุนัขเน่าผูกติดอยู่ที่คอสุดแสนจะอับอาย เข้าไปกราบแทบเท้าของพระมหาเถระ แล้วกล่าวรับสารภาพผิดและกล่าวอ้อนวอนด้วย วาจาอันสุทนรีภาพนานา ประการ พร้อมกับอาราธนาว่า

    “พระผู้เป็นเจ้ากรุณาช่วยปลดเปลื้องสุนัขเน่านี้ให้ด้วยเถิดพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ชนะส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้แพ้จะไม่คิดต่อสูกับพระผู้เป็นเจ้าอีกแล้ว”

    พระมหาเถระพิจารณาเห็นเป็นโอกาสเหมาะ ที่ควรจะมัดพญามารไว้ก่อน จึงแก้รัดประคดจากเอวของท่าน และอธิษฐานจิตให้รัดประคด นั้นยาวพอที่จะมัดพญามารติดกับภูเขา แล้วจัดผูกมัดรวบไว้กับภูเขาอย่างมั่นคงพร้อมกับบอกแก่พญามารว่า

    “ดูก่อนพญามารเอ๋ย ท่านจงอยู่ที่ภูเขานี้ รอจนกว่าพระเจ้าอโศกมหาราชจักทรงกระทำมหามหกรรมสักการบูชาพระมหาเจดีย์และพระอารามจนแล้วเสร็จอาตมาจึงจะมาแก้มัดออกให้”

    พระยาวสวัตดีมารจำต้องถูกผูกมัดติกกับภูเขาเป็นการประจานด้วยโทษฐานเป็นผู้มีใจบาป คอยขัดขวางและทำลายการกระทำความดีของผู้อื่น ฝ่ายพระอุปคุตเถระ เมื่อจัดการกับพญามารให้ยอมจำนนแล้ว ท่านก็ไปพักสำราญอิริยาบถอยู่อย่างผาสุก

    งานมหกรรมการฉลองพระมหาเจดีย์และพระอารามของพระเจ้าอโศกมหาราชเมื่อปราศจากพญามารมาขัดขวาง จึงดำเนินไปอย่างเรียบร้อย จนกระทั่งครบกำหนด ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน และสำเร็จลงโดยเรียบร้อย เป็นที่พอใจของพุทธบริษัทถ้วนหน้า

    เมื่องานฉลองเสร็จสิ้นแล้ว พระอุปคุตเถระจึงไปยังภูเขาที่ผูกมัดพญามารไว้แต่ได้บังกายของท่านอยู่เบื้อหลังเพื่อจะฟังว่า พญามารจะกล่าวว่าอย่างไรบ้าง ส่วนพญามารนั้นได้ละพยศหมดความดุร้ายกลับหวนคิดถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและกล่าวรำพันสรรเสริญขึ้นว่า

    “สมัยเมื่อพระพุทธองค์ประทับเหนือรัตนบัลลังก์ ณ ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ข้าพระบาทมิอาจจะอดกลั้นความโกรธได้ได้ จึงขว้างจักรอันคมกล้าที่สามารถจะตัดวชิรบรรพตให้ขาดไปราวกับตัดหน่อไม้ไผ่ ฉะนั้น พระพุทธองค์ทรงพิจารณาพระบารมี ๓๐ ประการมีทานเป็นต้นและมีอุเบกขาเป็นที่สุดจักรนั้นพลันกลับกลายเป็นดอกไม้กั้นเป็นเพดานอยู่เบื้องบนส่วนพวกพลบริวารได้พากันขว้างอาวุธต่างๆและอาวุธเหล่านั้นก็กลายเป็นพวงบุปผชาติยังพื้นดินในที่สุดข้าพระบาทต้องพ่ายแพ้”

    พญามารระลึกถึงพระพุทธคุณแล้วกล่าวคาถาว่า

    “นโม เต ปุริสาชัญญา” เป็นอาทิ

    ความว่า

    “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระกรุณาธิคุณกระทำประโยชน์แก่สรรพสัตว์และเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งปวงผู้หาที่พึ่งมิได้สิ้นกาลนานโข

    พระพุทธองค์ทรงประเสริฐด้วยคุณ หาผู้เสมอมิได้ จงมาเป็นที่พึ่งของข้าพระบาทในบัดนี้ ในกาลก่อนข้าพระบาทชื่อว่าวัสดี

    กระทำอันตรายแก่พระองค์โดยวิธีการกลากหลาย พระองค์ก็ไม่ได้ทรงถือโทษตอบโต้แก่ข้าพระบาท แม้แต่เพียงน้อยก็ไม่เคยมี

    แต่กาลบัดนี้พระสาวกของพระองค์ ช่างไม่มีเมตตากรุณา ลงโทษหนักแก่ข้าพระบาทให้ได้รับทุกข์แสนสาหัสปานฉะนี้”



    พระยาวสัตดีมารผู้มีทุกข์โทมนัสก็เอาเท้าทั้งสองถีบภูเขานั้นให้เกิดอาการหวั่นไหวต่างๆ ทั้งเบื้องบนทั้งเบื้องล่างราวกับจะทะลายลงมาฉับพลัน แม้ภูเขาสิเนรราชก็น้อมยอดหวั่นไหว ประดุจต้นไม้เมื่อต้องลมพายุพื้นดินก็สะท้านสพะเทือนดังสนั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหวใหญ่และมหาสมุทรสาครก็เกิดเป็น ระลอกกระฉ่อนเหมือนกับเกิดพายุใหญ่ฉะนั้น แล้วพญามารก็กลับมาระลึกถึงพระขันติธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า และเปล่งอุทานว่า

    “ถ้าหากข้าพเจ้ามีกุศลได้สร้างสมไว้แล้วดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบำเพ็ญบุญบารมีไว้เพื่อการตรัสรู้ในอนาคตฉันใดขอข้าพเจ้าจงได้เป็นพระสัมมาสัมพุธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกนี้ฉันนั้นเพื่อจะได้เป็นที่พึ่งแห่งสรรพสัตว์และกระทำประโยชน์โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวงในสากลโลก”

    ในขณะที่พญามารเปล่งวาจาปรารถนาพุทธภูมิคือปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าพระอุปคุตเถระจึงแสดงกายให้ปรากฏแล้วเดินเข้าไปแก้มัดออกให้ทันที และกล่าวกับพญามารว่า

    “ดูก่อนพญามารท่านจงอดโทษแก่อาตมาที่อาตมาได้ล่วงเกินท่านอันว่าประโยชน์ของท่านคือความปรารถนาพุทธภูมินั้นอาตมาก็ให้บังเกิดได้แล้วและอาตมาขอห้ามท่านว่าอย่ากระทำอันตรายในการทรงบำเพ็ญบุญของพระบรมกษัตริย์เลยละบัดนี้ท่านได้ถือปฎิญาณที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลตั้งแต่นี้เป็นต้นไปตัวท่านจักเป็นปูชนียบุคคล คือ พระโพธิ์สัตว์ควรที่ชาวโลกทั้งหลายจะกระทำนมัสการบูชา”

    ฝ่ายพญามารจึงกล่าวตอบว่า

    “พระผู้เป็นเจ้าพุทธสาวกช่างกระไรไม่มีจิตใจกรุณาต่อข้าพเจ้าผู้เป็นมารบ้างเลย”

    พระอุปคุตเถระจึงกล่าวแสดงเหตุผลว่า

    “ดูก่อนพญามาร อาตมากับท่านเป็นคู่ทรมารกัน เพราะเหตุนี้จึงไม่มีกรุณา อาตมาลงโทษแก่ท่านก็เพื่อจะกระทำให้ท่านมีจิตยินดีปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ทั้งตัวท่านก็เที้ยงแท้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูและพระบรมศาสดาก็ได้ตรัสพยากรไว้ว่าอาตมานี้จะได้ทรมารพระยาวัสวดีมารให้ละพยศหมดความอหังการสิ้นความร้ายกาจในอนาคตกาลและพญามารนั้นจะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า ขอท่านจงตั้งใจละจิตบาปเสีย อย่ากระทำกรรมอันหยาบช้าต่อไปอีกเลย”

    พระมหาเถระพอกล่าวเหตุผลต่างๆ ให้พญามารได้ฟังแล้ว ก็มีความประสงค์จะให้พญามารช่วยเนรมิตตนเป็นพระรูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้ ชมเป็น มิ่งขวัญตาจึงกล่าวขอร้องพญามารว่า

    “ดูก่อนพญามารท่านช่วยอนุเคราะแก่อาตมาสักครั้งหนึ่งเนื่องจากพระบรมศาสดาเสด็จอุบัติขึ้นในโลกและได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแล้วอาตมาได้เห็นแต่พระธรรมวินัยของพระองค์ไม่ทันได้เห็นพระสรีรกายของพระองค์ ขอท่านจงเนรมิตการยของท่านเป็นพระสรีรกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอาการทั้งปวงพร้อมทั้งพระอัครสาวกทั้งคู่ให้อาตมาได้เห็นกับตาด้วยเถิด”

    พญามารฟังคำขอร้องของพระมหาเถระแล้ว จึงกล่าวโดยมีข้อแม้ว่า

    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าถ้าหากข้าพเจ้าเนรมิตกายเป็นพระรูปของสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เป็นประจักษ์กับสายตาแล้ว พระผู้เป็นเจ้าอย่าได้ถวายนมัสการข้าพเจ้าเป็นอันขาด”

    พระมหาเถระกล่าวปฎิญาณว่า

    “อาตมาจะไม่ถวายนมัสการ จะเพียงแต่ขอชมเฉยๆเท่านั้น”

    พญามารจึงเข้าไปไพรสณฑ์แห่งหนึ่งเพื่อจะบัลดาลอิทธิฤทธิ์ให้เป็นไปตามที่พระมหาเถระขอร้อง ส่วนพระอุปคุตเถระบอกให้พระภิกษุทั้งหลายมา ประชุมกันเป็นจำนวนมากโดยเร็วพลันอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยอาศัยอำนาจฤทธิ์ของท่าน พระภิกษุรูปใดใคร่จะเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า พระภิกษุรูปนั้นได้ถือธูป เทียน ดอกไม้ ของหอมเป็นต้น มาประชุมแวดล้อมพระอุปคุตเถระ แล้วกล่าวว่า

    “ข้าพเจ้าจะชมพระรูปของพระบรมศาสดาและจะกระทำสักการบูชา”

    ในกาลนั้น พญามารได้เนรมิตกายเป็นพระรูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันประกอบด้วยพระมหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการและพระอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการสว่างรุ่งเรืองด้วยพระพรรณรังสี คือ พระรัศมี ๖ ประการ มีพระอันอัครสาวกอยู่ทั้งทางเบื้องขวาเบื้องซ้ายพร้อมกับแวดล้อมด้วยอสีติมหาสาวก เป็นสังฆบริวาร แสดงให้ปรากฏแก่มหาสันนิบาตบริษัททั้งปวง อนึ่ง เกจิอาจารย์บางท่านกล่าวไว้ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชกับมวลหมู่อำมาตย์ละราชบริพาร ก็มาคอยทรงทัศนาการอยู่ ณ สถานที่นั้นด้วย

    ฝ่ายพระอุปคุตเถระเมื่อได้แลเห็นพระรูปของพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อมด้วยพระมหาสาวกทั้งหลายทั้งปรากฏขึ้นดังนั้น ก็บังเกิดขนลุกชูชัน ด้วยอำนาจของอจลศรัทธาปสาทะ คือ ความเชื่อและความเสื่อมใสอันไม่หวั่นไหวทำให้ลืมคำปฎิญาณที่ให้ไว้แก่พญามาร จึงก้มลงถวายอภิวาทพระรูปของ พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเบญจางคประดิษฐ์อย่างสนิทใจ และมหาชนทั้งหลายมีพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นประธานทรงนมัสการสักการบูชาโดยพร้อมเพรียงกัน

    ขณะพญามารพลันบัลดาลให้พระรูปของพระบรมศาสดา และพระสาวกทั้งหลายหายไปแล้วกลับกลายมาเป็นรูปพญามารปรากฏขึ้นในที่ประชุม มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธาน และได้กล่าวกับพระอุปคุตเถระว่า

    “ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงถวายอภิวาทเล่าข้าพเจ้าได้ตกลงสัญญากับพระผู้มีเป็นเจ้าแล้ว มิใช่หรือว่าไม่ให้กระทำนมัสการ”


    พระอุปคุตเถระกล่าวตอบว่า

    “ดูก่อนพญามาร อาตมาไม่ได้กราบไหว้ท่านหรอกลแต่ว่าอาตมากระทำอภิวาทพระพุทธรูปของพระบรมศาสดาและพระมหาสาวกทั้งหลายต่างหาก”

    จำเดินแต่กาลที่พญามารตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จิตมีความอ่อนน้อมศัทธาในพระพุทธศาสนาไม่มีความหยาบช้าดุร้าย เหมือนแต่ก่อนั้นเลยพระอุปคุตเถระพิจารณาเห็นความเป็นไปในทางตั้งใจดีของพญามารแล้วจึงกล่าวกับพญามารว่า

    “ท่านจงไปโดยความสุขสวัสดีเถิด”

    พญามารน้อมถวายนมัสการพระมหาเถระ แล้วลากลับสู่เทวสถานวิมานของตน

    พระอุปคุต ยังไม่ดับขันปรินิพพาน จากจาลึกพระอโศก และพระปฐมสมโพธิกถา ไม่ได้กล่าวถึง ว่าพระอุปคุตดับขันธนิพพานแล้วหรือยัง ดังนั้นจึงมีผู้คิดว่า ท่านอาจจะมีชีวิตอยู่ด้วยอานุภาพแห่งอิทธิบาทภาวนาของท่านก็ได้ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เคยตรัสกับพระอานนทเถระไว้ว่า



    “ผู้ใดเจริญอิทธิบาท ๔ ให้มาก กระทำให้ญาณ กระทำให้เป็นที่ตั้งไว้เนืองๆ สะสมรอบแล้วและปรารถนาดีแล้ว ผู้นั้นประสงค์จะอยู่ตลอดกัป หรือเกินกว่ากัปก็ได้”



    จึงเป็นเหตุผลชวนให้เชื่อว่าท่านยังอยู่มาจนกระทั้งทุกวันนี้ก็เป็นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2012
  9. arnantachina

    arnantachina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +3,869
    ...แวะมาเยี่ยมเยียน...

    การดำเนินงานเกี่ยวกับการสร้างองค์พระอุปคุต ตู้พระไตรปิฎก ดำเนินงานมาได้75% แล้ว อุปสรรคต่างๆ ที่ธิติวัฒน์กังวลได้คลี่คลายไปในทางที่ดีตามที่เราได้กล่าวไว้ เหตุเพราะความเชื่อมั่นและศรัทธาในพุทธศาสนาที่มีอยู่ของธิติวัฒน์

    ถึงแม้จะเหลืออุปสรรคเพียง 25% ก็อย่าตั้งอยู่บนความประมาท ให้มีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะอุปสรรคแค่ 25% ที่เหลือ ผลของมันมากมายกว่า 75% ที่ผ่านมา ณ เวลานี้ก็มีสิ่งบอกเหตุแล้วมิใช่หรือ เกี่ยวกับการจุดธุป

    สิ่งใดที่เราเคยกล่าวไว้จดจำให้ดี จงระลึกไว้อยู่เสมอ แล้วมรรคผลจะบังเกิดขึ้นกับธิติวัฒน์และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านอย่างแน่นอน

    By arnantachina
     
  10. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ขอกราบโมทนากับอาจารย์นะครับที่แวะมาเยื่ยมกระทู้ของผมและรู้สึกเป็นเกียติครับที่อาจารย์ได้เข้ามาผมก็ขอให้อาจารย์มีความสูขมากๆครับ thitiwats
     
  11. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    -ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    ข้าพเจ้าได้อ่านข้อความของท่านฯก็รู้สึกขนลุกไปทั่วมีอาการปลื้มปิติเป็นอย่างมาก ถ้าหากวันดังกล่าวข้าพเจ้ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงที่ดีขึ้นและไม่ติดธุระเรื่องสำคัญใดๆ ข้าพเจ้าจะขออนุญาตไปร่วมอัญเชิญพระอุปคุต ปางจกบาตร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดศรีสง่าสามัคคี จ.ชัยภูมิ ในวันเวลาดังกล่าว โดยอาจจะเดินทางร่วมไปกับคณะคุณธิติวัฒน์ อาจจะปรึกษากันอีกครั้งในเรื่องกำหนดการและการเดินทางค่ะ



    -ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  12. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    สวัสดีจ้าคุณวัฒน์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  13. Gangfoo Panda

    Gangfoo Panda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +2,108

    แพนต้องขออนุโมทนา สาธุ กับทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ ยินดีช่วนเสมอเจ้าคะ
     
  14. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    -หวัดดีจ้า

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  15. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ผมขอโมทนาบุญกับพี่ตวงขอให้พี่ตวงมีความสูขมากๆ มีความปิติกับพี่ตวงมากที่ที่พี่ใด้ให้ความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา ร่วมร่วมบุญมหากุศล ในงานทอดกฐินสามัคคี สร้าง "พระอุปคุต ปางจกบาตร" ต้านภัยพิบัติ บันดาลโชคลาภ ตู้พระไตรปิฏก และสมทบซื้อที่ดินปลูกป่าทำสถานปฏิบัติธรรม ถวาย พระครูวีระปัญญาคม (พระอาจารย์ถวิล) 5000 บาทแล้ว ผมรู้ว่าพี่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมากพี่จะทำอะไรตกน้ำไม่ใหลตกไฟไม่ใหม้ ผมคงไม่มีอะไรนอกจากน้อมบารมีแห่งพระรัตนตรัยและบารมีหลวงปู่อุปคุตซึ่งเป็นพระปราบมารบัลดาลโชคลาภให้คุ้มครองกายสังขารของพี่ให้มีความสุขบุญใดกุศลใดที่พี่ได้กระทำไว้ดีแล้วผมขอกราบโมทนา อาจารย์ผมเคยกล่าวว่าคนมีบุญจิตใจเป็นกุศลถึงได้ทำบุญงานนี้ได้แค่เห็นก็ศรัทธาแล้วทุกคนที่ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพกฐินหมดทุกคนเพราะงานนี้เริ่มจัดตั้งด้วยความศรัทธา ขอกราบโมทนา วัฒน์
     
  16. porntips

    porntips เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    955
    ค่าพลัง:
    +2,410
    ผมขอร่วมบุญครั้งนี้ด้วยครับ ถ้าโอนเงินแล้วผมจะแจ้งอีกครั้ง โมทนาสาธุครับ
     
  17. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขออนุโมทนาบุญทั้งหมด ทั้งมวลนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    วันนี้นำภาพความปิติและความประทับใจที่มีญาติธรรมมาร่วมกราบสักการะองค์พระอุปคุตเถระค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  19. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    ช่วยพี่ชายหาปัจจัยมาสร้างองค์พระอุปคุตเถระอีกแรงค้า...
    อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะคะ

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  20. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...