ยักษ์นอกศาสนาจะรบกัน สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง อิหร่าน vs อิสราเอล

กองโจรตาลีบันเป็นพวกใคร ? จะเกี่ยวข้องกับสงครามตามกระทู้หรือไม่ ?

เมื่อตอนดึกวันศุกร์ที่ 14 ก.ย. กองโจรตาลีบันแต่งชุดทหารสหรัฐบุกโจมตีค่าย Camp Bastion ในอัฟกานิสถาน ทำลายเครื่องบินแฮริเออร์ 6 ลำ อีก 2 ลำเสียหายหนัก มูลค่าหลายร้อยล้านเหยรียญสหรัฐ

Taliban fighters wore US Army uniforms in attack on Prince Harry's base

The Taliban fighters who launched an assault on the British base where Prince Harry is serving were wearing American Army uniforms in a well-planned and rehearsed assault, the Nato coalition has disclosed.
The night time raid at Camp Bastion caused damage estimated to run to hundreds of millions of dollars, destroyed six American Harrier jets and badly damaged another two.

Details of the assault emerged as six Nato troops, including two British soldiers, were killed in two separate attacks by their Afghan allies in the latest “green on blue” attacks to strike the coalition.

A statement from the insurgents said the attack late on Friday evening on the sprawling Helmand base was in retaliation for an American-made film which insults the prophet Mohammed. Bastion had been chosen because of Prince Harry’s presence, they added.
“The insurgents, organized into three teams, penetrated at one point of the perimeter fence. The insurgents appeared to be well equipped, trained and rehearsed,” it said.

Dressed in United States army uniforms and some in suicide vests, they attacked aircraft on the airfield with automatic rifles and rocket-propelled grenade launchers.

Six US AV-8B Harrier jets were destroyed, each one estimated to cost at least £20 million ($30 million), and two were significantly damaged. Three refuelling stations were also destroyed and six soft-skin aircraft hangars were damaged, the coalition said.

British troops from 5 RAF Force Protection Wing (51 Squadron RAF), the RAF Regiment, were first on the scene and fighting alongside US marines, repelled the insurgents in a gun battle lasting more than five hours.

Two US Marines died in the attack and several British airmen were wounded, but none of the injuries were classed as serious. In all, eight servicemen and a civilian contractor were injured.

A total of 14 attackers were killed and one was captured wounded.

Hours after the attack, two soldiers from 3rd Battalion The Yorkshire Regiment, were killed at a checkpoint in the south of Nahr-e Saraj district by a member of the Afghan Local Police. The attacker is understood to have been returning from a joint operation when he turned his gun on them before he was himself shot dead. Three others were wounded.

Four more troops died in a separate attack “suspected to involve members of the Afghan police” elsewhere in southern Afghanistan, though the coalition did not immediately reveal their nationality.

Attacks by Afghan policemen or soldiers have killed at least 51 Nato troops this year, accounting for nearly one-in-six of all coalition deaths. Instances of Afghan soldiers or policemen firing on comrades within their own ranks are also widespread.

Coalition commanders have struggled to understand the motivation for the attacks because few of the assassins are captured alive. Weak vetting of new recruits has been blamed, but few of the attacks are thought to be due to direct infiltration by the Taliban.

An analysis of 34 such attacks in 2012 found only one was caused by direct infiltration, two were due to personal grievances flaring up into violence and two were due to an Afghan being coerced into attacking, perhaps because of threats against his family. The motivation in 24 remained a mystery, though commanders believe they are often caused by arguments rooted in cultural clashes.

The Afghan forces have announced they will re-vet tens of thousands of troops to look for hints of extremism or links to the insurgency. Hundreds have already been kicked out. Counter intelligence officers have also been embedded in Afghan units to look out for potential assassins.

Nato troops have been told to be on alert and armed sentries, known as guardian angels, are deployed to watch for attacks whenever they interact with Afghan forces.

American special forces troops announced they would halt training recruits to the Afghan Local Police programme, where men are paid and trained to protect their own villages, until members had been re-vetted.
Taliban fighters wore US Army uniforms in attack on Prince Harry's base - Telegraph

 

มาพิจารณาข่าวของสำนักข่าว telegraph.co.uk กันบ้าง ดูข่าวจะจริงจังมากขึ้นกว่าตอบโต้ไปมาเป็นสิบปีแล้ว
ข่าวนี้มีประโยคที่น่าสนใจอยู่ดังนี้

"The main naval exercise comes as President Barack Obama is scheduled to meet Benjamin Netanyahu, the Israeli prime minister, today to discuss the Iranian crisis."

"One defence source told The Sunday Telegraph last night: “If it came to war, there would be carnage. The Iranian casualties would be huge but they would be able to inflict severe blows against the US and British."

“The Iranian Republican Guard are well versed in asymmetrical warfare and would use swarm attacks to sink or seriously damage ships. This is a conflict nobody wants, but the rhetoric from Israel is unrelenting.”



เปิดข่าวดูได้ที่

Armada of British naval power massing in the Gulf as Israel prepares an Iran strike - Telegraph

เมื่อตอนเช้าผมดูภาพยนต์จาก WETV Cable TV เรื่อง Battle Ship เห็น ภาพของ ป.โอบามา เป็นภาพข่าวในภาพยนต์ด้วย นึกถึงข่าวนี้เลย

ไม่อยากให้รบกันเลย แค่น้ำท่วมก็แย่แล้ว

 

ดูวงรอบของเศรษฐกิจให้ดี หลายเดือนที่ผ่านมาพวกเฮดจ์ฟันปั่นหุ้นจนสูงเว่อร์ไปทั่วโลกทั้งที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป มีที่ไหนเศรษฐกิจแย่ แต่หุ้นยิ่งขึ้น ยิ่งตัวเลข ศก.ไม่ดี หุ้นยิ่งขึ้นแรง ประเทศจะล้มละลายแต่หุ้นกลับทำ new high บางประเทศขึ้นไปกว่า 50% ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน มันสวนทางกับหลักเศรษฐศาสตร์อย่างผิดปรกติ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็โยกมาปั่นทองคำจนทะลุ 1700 USD ไปแล้ว เมื่อหมดรอบของทอง เป้าหมายต่อไปก็มาปั่นราคาน้ำมันแน่นอน แต่จะทำอย่างไรให้น้ำมันทะลุไปสู่เป้าหมาย 150 USD วิธีที่ดีที่สุดคือคือสร้างความตึงเครียดให้รุนแรง นับวันสงครามก็ยิ่งใกล้เข้าไปทุกที

 

ยังไงซะปีนี้อาจได้เห็นแน่ 20ปีแล้ว

 

ค่าเงินบาทแข็ง หุ้นขึ้น เมื่อวันที่ 14 ก.ย.เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 %หลังการประชุมเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) พร้อมขยายระยะเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษออกไปอีกจนถึงกลางปี 2558 รวมถึงยังได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
แต่นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจเป็นห่วงภาะวะฟองสบู่ ผู้คนจะเก็งกำไรและจับจ่ายในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ศึกษาเรื่องนี้ภาษาไทยลองเริ่มต้นที่
บาทเปิดแข็งโป๊ก30.80/85รับเฟดออกQE3 - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์
ดาวโจนส์บวกกว่า200จุด หลังเฟดประกาศใช้มาตรการQE3 น้ำมันดิบทะลุ98เหรียญ : มติชนออนไลน์
Stock Markets - Manager Online - หุ้นพุ่ง 18 จุดรับ QE3 ตลท.ชี้ระยะสั้นเงินไหลเข้า แต่ระยะยาวหวั่นฟองสบู่

ค้นหาข้อความน่าอ่านน่้่าศึกษาจาก Google พิมพ์ Fed+qe3+good+Bad+economic

คลิปข่าว RT ลองฟังดูครับ
Federal Reserve Announces QE3 - How Will Printing Fiat Money Improve The Economy?
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=zWRDJ2gJseY]Federal Reserve Announces QE3 - How Will Printing Fiat Money Improve The Economy? - YouTube[/ame]

 

สมัยก่อนทำสงครามเพื่อเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความเชื่อ ชาติหรือศาสนา แต่สมัยนี้ทำสงครามเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ จะดูว่าความขัดแย้งจะลุกลามไหม ให้ดูกระแสเงินของพวกเฮดจ์ฟัน มันบอกล่วงหน้าได้ดีกว่าทุกแหล่ง

 

แพ้ใจตัวเอง

อธิษฐาน

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/tEe___LSLhA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

จะฆ่าจะแกงกันได้ลงคอหรือ

<iframe width="360" height="215" src="http://www.youtube.com/embed/3SXzoS8FKSw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="360" height="215" src="http://www.youtube.com/embed/rJDYF0mkOrA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="360" height="215" src="http://www.youtube.com/embed/epsMVnVP2Jw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

​

 

อย่ามาอ้างว่าตนรักพระเยซู รักพระพุทธเจ้าเลย

สภาวะจิตใจก็ไม่ต่างอะไรกันกับ อิสลามผู้ก่อการร้าย ที่อ้างตนว่ารักพระอัลเลาะห์หรอกน่า

คนแพ้ใจตนเอง ก็แพ้อยู่ร่ำไป แล้วก็อ้างโน้นอ้างนี่ ไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น

ชีวิตนี้ก็มีแต่ข้ออ้าง เพราะค้นหาใจตัวเองไม่เจอ นั่นคือสิ่งที่สวยงาม นั่นคือสิ่งที่น่าเกลียดชัง เป็นมายาคติ ทั้งนั้น

 

อยากเป็นทหาร ลองไปกระโดดกบรอบสนาม สัก 3 รอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ

ก็ไม่แน่ว่าจะมีข้ออ้าง ว่าสภาพร่างกายไม่ไหว เป็นกบอยู่หน้าวัดดีกว่า แลบลิ้นกินแมลงวันสบายกว่า

แม้ร่างกายไม่สู้ แต่จิตใจเข้มแข็ง แต่กลับเอาอารมณ์เป็นตัวตั้ง ก็แพ้อยู่ร่ำไป

จุดจบของฮิตเลอร์ คืออะไร

ฆ่าตัวตาย กลัวการลั่นไกแล้วไม่ตาย จึงต้องกินยาพิษก่อน

 

ว้า...อ้างว่าตนรักพระพุทธเจ้า แต่กลับไม่รู้คำสอนของพุทธศาสนาในเรื่องกฏแห่งกรรม

แต่ยังดีที่ระลึกถึงพระเจ้า ที่ไม่ให้ฆ่าตนเอง

แต่ร้ายไปกว่านั้น คือการดูถูกตนเอง ว่าเป็นเศษซากเหี้ยอยู่บนโลก

นั่นเปรียบเหมือนคนตายไปแล้วนั่นเอง ด้วยการป่าวร้องระบายความเครียดแค้น อยากเป็นอย่างนี้งั้นสิ

อย่างนี้ก็สู้ ฮีโร่ตัวจริง พัทยา สองเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ ก็ไม่ได้

แล้วอยากจะเป็นทหาร คงเป็นได้เพียงปุ๋ย นั่นเพราะไม่รู้จักคุณค่าของตนเอง

ก็เลยต้องดูถูกเคียดแค้นมนุษย์เพื่อนร่วมโลก อยู่ร่ำไป

 

คนยิว ก็ใช่ว่าจะดีหมดทุกคน คนมุสลิมก็ใช่ว่าจะร้ายหมดทุกคน

คุณลองแยกแยะในสิ่งเหล่านี้สิ ชีวิตใคร ใครก็รัก แต่เพราะความมีอคติ นั่นแหละจึงเห็นโลกนี้เลวร้ายไปหมด

ก็ไม่แน่ว่าท่าน อาจเห็นเราผิดไปก็ได้ หากใช้อคติเป็นทุนเดิม เพราะนั่นไม่ใช่เราเลย

พอมีอะไรเข้ามากระทบ สัญญาเดิมๆมันจะทำงาน ที่ผิดเพี้ยนไปทันที

ลองตั้งระบบ Prayer นี้ใหม่ ท่านจะมองอะไรที่ถูกไปกว่าเดิม เพราะนั่นไม่ใช่เรา หรือเขาเลย

 

เห็นท่านเอ่ยปาก ว่ารักพระพุทธเจ้า

ดังนั้น ไม่มีใครช่วยตนเองได้ นอกจากตนเอง

ที่จะเฟ้นแยกแยะพิจารณา และเห็นโลกตามจริง

คำสอนทางพุทธศาสนา สอนไว้ว่า

"ชนะคนอื่นตั้งร้อยตั้งพัน จะมีประโยชน์อะไร

ผู้ใดชนะตนเองได้ ผู้นั้นชื่อว่าชนะสงครามอันยิ่งใหญ่

เธอจงเป็นยอดนักรบในสงครามนี้เถิด อย่าเป็นผู้แพ้เลย"

นั่นก็คือ ให้มารบกับจิตใจตนเอง ที่กำลังเป็นเชื้อไฟอันรุ่มร้อน หากชนะได้ ไฟนั้นก็ดับลง จิตใจจะเย็นสบาย

หากแพ้อยู่ร่ำไป จะหาความสุขได้จากที่ไหนเล่า ไฟเกิดจากไหนก็ต้องพยายามดับลงที่นั่น

ลองนำไปพิจารณา โชคดี

 

คนขาดสติ ก็มักจะหาวิธีฆ่าผู้อื่น

แต่หากคนมีสติ เค้าจะน้อมระลึกเข้ามาภายในจิตใจ ที่กำลังรุ่มร้อน

สิ่งที่ควรพยายามกำจัด นั่นคือ ความเครียดแค้น หรือความโกรธ นั่นเอง

จะแนะนำวิธีให้เอาไหม ว่าควรดับไฟยังไง ที่ไม่ต้องใช้ถังดับเพลิง

 

ว้า ไหนๆก่อนจะถึงจุดจบ เชื่อได้ว่า หากถึงจุดจบก่อนวัยอันควร พระเจ้าจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน

เพราะอะไร เพราะว่า คุณเอ่ยปากว่า "ผมไม่อยากให้สติที่อยู่กับตนหายไป"

ก็ในเมื่ออยากให้สติกลับมา เราจะแนะนำสิ่งนี้ ให้ไปอ่านเชื่อได้ว่า
พระเจ้าของคุณจะต้องยอมรับและพอใจกับการกลับมาของสติของคุณ อย่างแน่นอน
และชีวิตนี้จะมีคุณค่าขึ้นเป็นก่ายกอง

ลองเอานี้ไปอ่าน แต่ต้องอ่านให้จบนะ สัก 2 รอบ ความเป็นยิว ความเป็นมุสลิม จะหายไปจากใจคุณเลย

นั่นเพราะสติกลับมา และคุณจะซึ้งมากไปกว่าเดิม กับการที่ได้เอ่ยปาก ว่ารักพระพุทธเจ้า

ลองสิ
http://www.84000.org/tipitaka/book/bookpn08.php

 

การไม่ไปท่องเที่ยวยังสถานที่อโคจร ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเราเป็นผู้ชนะขาด ที่ถูกสมรภูมิ

เพราะสมรภูมิที่เร่าร้อน มันอยู่จิตใจเราต่างหาก จะข้ามลวดหนามได้มันต้องรู้จักฝืนต่อไป

แต่นั่นก็ถือว่าเราฝืนสู้และชนะได้มาครึ่งทางแล้ว

สู้ๆนะ

 

วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดแบบคนโง่ เค้าคิดกัน

หากคิดและกระทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการสูญเปล่า

พี่และคนบนโลกนี้ จะไม่ได้อะไรจากความคิดของคนโง่ๆ แบบนี้เลย นั่นเพราะขยัน แต่โง่ ไง

 

จะเห็นว่าข้อความนี้ เป็นการสำคัญตน ทั้งที่วิธีคิด และสิ่งที่จะกระทำนั้น ไม่มีคุณค่าอะไรเลย

จะกล่าวว่าเกิดจากความเป็นเมตตาคือความรัก ก็ไม่ใช่

หากเพราะจะเมตตาต่อผู้อื่น แต่ตัวของตัวเองยังทำตัวได้ไม่ดี นั่นคือไม่มีเมตตาต่อตนเอง

ความปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นอยู่บนโลกนี้ต่อไป มันจึงเป็นการสูญเปล่าไง

นั่นแหละเค้าเรียกว่า โง่แต่ขยัน