อยากทราบเป้าหมายของการฝึกวิชาธรรมกาย และการเอาธรรมกายเป็นที่พึ่งของคนส่วนใหญ่

รู้สึกอยากรู้ว่าจริงๆเป้าคืออะไร และคนส่วนใหญ่เอาเป็นที่พึ่งโดยสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะสังเกตุดูเอาเป็นที่พึ่งเพราะอยากรวย จริงมันไม่ผิด เพราะรวยแล้วไปสร้างบุญต่อ มันจะกลายเป็นการหลงกลแห่งความโลภ หรือไม่ และที่เจอ2รายเป็นผู้ที่ศรัทธาพอควร ทำมาค้าขายก็แพงเท่าตัว เอาเปรียบสังคมมากไปหรือเปล่า ยังไม่เคยเจอบ้านไหนที่ค้าขายถูกกว่าท้องตลาดนะ เพียงแค่สงสัยโดยเทียบเคียงกับการใช้ชีวิตในสังคมให้เข้าใจง่ายๆ

 

เป้าหมาย ก็เพื่อจะได้ไม่ทุกข์ และกลับมาทุกข์กับทุกสิ่งในวัฏฏะสงสารนี้ต่อไป

แต่หลายคน ไม่ว่าสายไหน อาจแยกไม่ชัดว่า

ทำบุญเพื่อละกิเลส กับ ทำบุญเพื่อสร้างกิเลส มันต่างกันอย่างไร

บุญอย่างหยาบ ก็สละสิ่งอันเป็นวัตถุ โดยสละขาดที่ใจสำคัญสุด
แม้ไม่หวังนิพพาน ก็เป็นการสร้างนิสัยในการสละ
ละวาง หยาบๆ ไว้ก่อน

บุญอย่างกลาง ก็สละอารมณ์หยาบๆเช่น โกรธรุนแรง พยาบาท ขี้เกียจซึมเซา มักมากกามคุณ เป็นต้น

บุญละเอียด ก็สละ อุปนิสัย หรือกิเลส และ เหตุแห่งการมาเกิด


แต่ หลายคนก็ยังทำบุญ ด้วยอวิชชา คือความไม่รู้จริงในอริยสัจ4
ทำบุญด้วยการสร้างภพ ชาติ สะสมอัตตา ทิฐิ มานะ มากขึ้น

 

วัดนี้เขาต้องการเงินเป็นเป้าหมายหลักใครเข้าใกล้โดนดูดหมดดูคำสอนของเจ้าอาวาสแล้วผมยังหัวเราะเลยเหมือนความรู้หลอกเด็กอนุบาลคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นสอนให้คนละวางมีชีวิตอย่างพอเพียง ดูตัวอย่างที่ดีคือหลวงพ่อพุทธทาสไม่สร้างอะไรที่มันเกินความจำเป็นเลยไม่มีธุรกิจ ไม่ตื้อคนเพื่อหวังเงิน อย่าหลงงมงายมีพระที่ท่านสอนดีสอนถูกมากกว่านี้จงไปหาท่านเถอะ ไม่เอาเงินญาติโยมไปใช้ส่วนตัวด้วย

 

ผมว่าถ้าคนเข้าใจเป้าหมายของศาสนาพุทธที่แท้จริงได้คนจะไม่ถูกหลอก ผมเข้าใจว่าทุกคนที่เกิดมามีความเป็นพระอรหันต์เท่ากันหมดถ้าทุกคนเอากิเลสออกจากใจให้หมด ส่วนวิธีเอากิเลสออกเรียกว่าวิปัสสนา แต่ถ้าจะทำใจให้นิ่งต้องทำสมถะก่อนอาจใช้คำภวนาจ่างๆ หรืออาจใช้เพ่งกสินก็ได้ อย่าลืมว่าการที่จะวิปัสสนาได้นั้นต้องได้สมถะก่อนเพราะต้องอาศัญจิตที่มีกำลัง แต่ถ้าจิตลึกเกินไปมันจะไม่คิดอะไรนอกจากความสุขเฉยๆ แต่ถ้าจะเอาแค่ความสงบก็ทำแค่สมถะก็ได้ สรุปได้แบบนี้ สมาธิ = สมถะ - วิปัสสนา ถ้าคุณอยากได้คุณต้องทำเอาเองอัดวิชาให้กันไม่ได้ ถ้าทำแล้วจิตมันจะเกิดพลังเราจะรู้เองทำถึงขั้นไหนเราก็จะรู้ถึงขั้นนั้น ผมปฏิบัติในส่วนที่เป็นกายนุปัสนา บางครั้งก็เพ่งกสิน จิตใจสงบดีมาก ทำเองไม่เป็นบ้าหรอกครับถ้าไม่หลงตนเองว่าเป็นผู้วิเศษให้รู้ว่ามันเป็นของมันเอง เพื่อนบ้านผมไปบวชที่ธรรมกายมาคล้ายบ้าแล้วครับไล่เมียหนีไปแล้ว บอกว่าตนเองจะเหาะได้ ถ้าเขาดีจริงทำไมไม่บอกลูกศิษย์บ้างว่า มันเป็นอาการของปิติเท่านั้นเอง และลูกศิษย์วัดนี้ขายของแพงมากไม่ง้อลูกค้า เดี๋ยวนี้ไม่มีคนเข้าร้านเลยครับ

 

ยืนยันอีกเสียง วัดนี้ไม่ไหวเลยครับเหมือนที่ฟอกเงินคนรวยซะมากกว่า

ทำบุญเยอะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูง บอกมาแบบเนี้ย จบเลยครับ อย่าหลงเข้าไปนะครับ

เห็นคนเข้าไปแล้วเหมือนคนบ้าหลายคนละทำบุญจนหมดเนื้อหมดตัวเป็นหนี้แทน

 

น่าจะแยกแยะก่อนนะครับ ว่าวิชชาธรรมกาย หรือ จะคุยเรื่องวัดพระธรรมกาย
วิชชาธรรมกายนั้น เท่าที่ผมทราบมีเป้าหมายคือการเป็นพระอริยเจ้าและพระนิพพาน

ส่วนเรื่องวัดพระธรรมกายก็ต้องแยกแยะอีกว่าจะคุยเรื่องอะไร
และถ้าจะคุยเรื่องผู้ศรัทธาวัดพระธรรมกายแล้วขายของแพง...
ผมว่ามันปนเปยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
เมื่อวันก่อนผมเพิ่งไปซื้อของที่ร้าน ยี่สิบบาท ซึ่งเจ้าของร้านก็ธรรมกายเต็มที่เลย
เท่าที่ผมดูเขาก็ไม่ได้ขายแพง บางอย่างถูกเกินไปด้วยซ้ำ

ผมว่าเรื่องวิชชาธรรมกาย เรื่องวัดพระธรรมกาย เรื่องผู้ศรัทธาวัดธรรมกาย
เรื่องอะไรต่อเรื่องอะไรเอามาปนเปวุ่นวายไปหมด
ถ้าเราเหมาโหลถูกกว่าก็ยิ่งเลอะเทอะยิ่งปรามาสกันไปมาเปล่าๆ

หรืออย่างเรื่องคนเขาไปทำบุญ ก็ต้องรู้ว่าเขาทำบุญเพื่ออะไร
เพื่อวัด เพื่อศาสนา เพื่อบุญ เพื่อสวรรค์
มันก็ดีทั้งนั้น จิตเขาได้แค่ไหนเขาก็ทำแค่นั้น

ผมว่าเราควรจะเปิดกว้างให้กับทุกๆศรัทธา
ไม่ใช่ตีกรอบว่าต้องหวังเพื่อพระนิพพานเท่านั้น
บารมีเขาเพิ่งเตาะแตะๆ จะให้เขาไปหวังนิพพาน ก็เลอะเทอะเกินไป
เขาทำทาน รักษาศีล เราต้องอนุโมทนา
เขาเจริญกรรมฐาน เราก็ควรจะอนุโมทนา

ส่วนเรื่องของพระในวัด... ถ้าอยากวิจารณ์ เราต้องรู้ให้จริง
รู้ให้จริงในระดับที่พูดแล้วต้องมั่นใจว่า ไม่มีมิจฉาวาจา
เพราะพระมีหลายรูปหลายองค์ ต้องว่ากันเป็นรายๆไป

จริงๆแล้วเรื่องของวัดพระธรรมกายเนี่ย... มันง่ายมาก
ถ้าเราได้อภิญญาหรือได้ทิพจักขุญาณ

ปล.ไม่คิดเรื่องนี้ได้สบายที่สุดครับ

 

วิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ
หรือ วิชชาธรรมกาย ของวัดพระธรรมกาย

แยกตรงนี้ให้ออก ก็จบ และได้คำตอบชัดเจนครับ

อย่าเหมาว่า วิชชาธรรมกาย = วัดพระธรรมกาย นะครับ
กรรมจะหนักแบบไม่เป็นเรื่อง

 

วิชชาธรรมกายเป็นวิชาของหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นการฝึกอาโลกสิณโดยการเพ่งแก้ว จะพูดไปก็คล้ายๆมโนมยิทธิเพราะเป็นการฝึกทิพจักขุญานดูนรก สวรรค์ พรหมนิพพาน เหมือนกันแตกต่างเล็กน้อยที่วิชชาธรรมกายเริ่มฝึกนับตั้งแต่หนึ่งเลยคือตั้งแต่เพ่งอาโลกสิณ เพื่อคนที่ไม่มีของเก่าก็จะสามารถไปได้ด้วย ถ้ากำลังใจของเขาถึง แต่มโนมยิทธินั้น จะเน้นคนที่มีของเก่าถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ วิชชาธรรมกานเริ่มฝึกตั้งแต่ขั้นแรก นับหนึ่งใหม่ แต่มโนมยิทธิเริ่มนับจากสิบ ยี่สิบหรือ ห้าสิบเลย ถ้าคนที่ไม่มีของเก่ามาก็ยากหน่อยต้องฝึกกสิณเพิ่ม นี่ประเด็นที่หนึ่ง สอง คือวิชชาธรรมกายกับวัดธรรมกาย นั้นก็มีที่มาเกี่ยวข้องกัน คือ วัดธรรมกายก็มาจากชื่อวิชชาธรรมกาย ส่วนเรื่องทางวัดนั้นจะทำอะไรยังไงได้ญานมั้ยนี่ ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำที่สามารถฝึกได้ก็มีมาก บรรดาทท่านเหล่านั้นก็สมถะทั้งสมาธิและการดำรงชีวิต เป็นธรรมดาของเหรียญย่อมมีสองหน้า ดังนั้นไม่ชอบด้านไหนของเหรียญก็ไม่ต้องมอง ให้มองเฉพาะด้านที่ชอบ ที่พอใจก็พอครับ

 

ผมกลับเห็นต่าง เรื่องวิชชาธรรมกายนะครับ จริงๆมันก็คือการเอานิมิตอะไรก็ได้มาวางไว้ที่กลางกาย พอใจละเอียด อินทรีย์แก่กล้า ธาตุในตัวสะอาดก็สามารถเข้าไปเห็นกายในกายได้
ผมสอนเด็กสองคนให้ นึกถึงดวงดาว ตอนนี้ทั้งคู่ได้กายพรหมแล้ว สามารถใช้งานทั้งกายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ หรือกายพรหม ไปดูไปรู้ไปเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่นให้ดู เลขบัตรเครดิต 13 หลัก ให้ดูว่าที่บ้านขณะนี้มีใครอยู่บ้าง บ้านที่น้องๆไม่เคยเห็นรูปร่างเป็นอย่างไร ก็สามารถดูได้อย่างถูกต้อง เด็กทั้งคู่ไม่ใช่ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายเพราะพ่อแม่ไม่ค่อยโอกับวัดนี้
ผมเคยให้เด็กเช็คเรื่องสตีฟจ๊อบ ว่าเป็นอย่างไร เด็กก็บอกว่าวิมานสตีฟจ๊อบเป็นตึกแนวโมเดิลลักษณะที่เห็นก็เป็นเทพบุตรผิวออกแดงๆ ผมเคยให้เด็กเข้าไปเช็คดูว่าพระในวัดพระธรรมกายโดยเฉพาะทีมที่นั่งกับหลวงพ่อ ก็ปรากฏว่าน้้องเขาบอกว่ามีเป็นสิบๆรูปเลยที่เก่งและพลังมากกว่าน้องเขาอีก และก็เห็นเขาด้วย รวมถึงหลวงพ่อก็เห็นเขาด้วย ผมเคยให้เด็กเช็คกายพระว่าเป็นแบบไหน น้องก็บอกว่าคล้ายคนที่งามมากๆมีชีวิตมีจีวรแนบเนื้อ

สรุปผมว่าพวกเราควรต้องเข้าใจกันและกันมากกว่านี้ คือวัดพระธรรมกายเป็นวัดใหญ่มีสาขามากย่อมต้องใช้เงินมากในการบริหารเลี้ยงดูเพื่อให้กิจกรรมของวัดเดินได้สะดวก

ดังนั้นจึงมีฝ่ายระดมทุนของวัดออกมาระดมทุนให้วัดตามโปรเจ็คต์ต่างๆ บางครั้งอาจจะดูโอเวอร์แต่เขาถูกกำหนดด้วยยอดเพราะไม่งั้นเงินช๊อตชาวพุทธเราก็ควรเห็นใจกันในจุดนี้ด้วย

ส่วนเป้าหมายของวัดนี้ไม่ได้ต้องการเข้าพระนิพพานชาตินี้ คนที่เข้าวัดนี้คือคนที่ปรารถนาจะสร้างบารมีติดตามท่านเจ้าอาวาสและหมู่ขณะไปจนถึงที่สุดแห่งธรรมก็อย่าไปอะไรกับเขาเลย

ส่วนเรื่องความสามารถด้านสมาธิผมไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยกับวัดนี้ครับ

ขอบคุณครับ

 

ครับ ก็อย่างที่ท่านว่าแหละครับ อะไรๆ ก็ดีหมดทุกอย่าง...

เสียอย่างเดียว วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสด ท่านตั้งใจจะเอาไว้ให้คนไปนิพพาน เท่านั้นเองครับ

 

พระบิณฑบาตร
ความจริงท่านคงต้องการอาหารมื้อเดียวพอขบฉันเลี้ยงกายเท่านั้น

คนใส่บาป
ท่านมีมากแล้วพอแล้วเอากิเลสไปล่อท่านอีก

พระบิณฑบาตรแล้วคนเอาโคโยตี้ไปใส่ในบาตร
ท่านคงเอากลับไปวัดพิจารณาธรรมไม่ได้ให้ไวยากรณ์ไปใช้แน่นอน

อย่าทำบาปโดยเอาโคโยตี้ไปใส่บาตรท่านไม่ต้องการแต่ท่านรับ
อย่าบิณฑเอาจนน่าเกลียด เพราะหลังจากฉันมื้อเดียวแล้วท่านอยู่ใต้ต้นไม้

หรือพระบางท่านกำลังสร้างสวรรค์ส่วนตัวอยู่ขอรับ
อย่าเอาโคโยตี้ไปเต้นแล้วกัน

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว